Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
BAIT NAVA เหยื่อของนาวา

BAIT NAVA เหยื่อของนาวา

piano_sp

5.0
ความคิดเห็น
201
ชม
5
บท

ชีวิตของนักศึกษาปีสี่ที่ทั้งเรียนทั้งทำงานหาเช้ากินค่ำอย่างฉัน "สายลม" ก็วุ่นวายมากพอแล้ว แต่ชีวิตของฉันต้องวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อฉันเจอกับไอ้โหดหน้านิ่งนั่น "นาวา" ผู้ชายที่มาพร้อมกับรอยสักเต็มตัว เขาเป็นผู้ชายประเภทที่ควรจะหลีกเลี่ยงให้ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ทำไมเหมือนยิ่งฉันหนีเขา ผลักไสเขา เขายิ่งเข้ามามีบทบาทในชีวิตฉันมากขึ้นกว่าเดิม ฉันควรจะทำยังไงกับผู้ชายคนนี้ดี ใครก็ได้เอาไอ้เถื่อนนี่ไปจากชีวิตฉันที "ฉันเป็นคนทานง่าย เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย ไม่เรื่องมากหรอก เอาแต่ใจนิดหน่อย ไม่ชอบให้ใครขัด" "...." "และตอนนี้ฉันก็โสดด้วย ส่วนเรื่องซิงเสียไปตั้งแต่มอสามแล้ว อยากรู้อะไรอีกไหมฉันยินดีบอกนะ" WHAT!!!

บทที่ 1 นาวาล่าลม : 00

2 เดือนที่แล้ว

กริ๊ง กริ๊ง

เสียงประตูของร้านสะดวกซื้อถูกเปิดออกมาโดยชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าดุดันแต่หล่อเหลาปานเทพบุตร พร้อมกับร่างกายกำยำของเขาเต็มไปด้วยรอยสักมากมายจนแทบไม่เหลือพื้นที่สำหรับผิวให้เห็น แต่มันก็ไม่ทำให้ความฮอตในตัวเขาลดลงไปแม้แต่น้อย แต่มันกลับทำให้เขาดูหล่อเข้มไปอีกแบบ

ซ่าๆ ๆ

บรรยากาศตอนนี้ไม่ได้ดีเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำที่ก่อตัวขึ้นมาจนทำให้เกิดหยดน้ำที่ไหลลงมาจากฟากฟ้าจนพื้นที่บริเวณนี้ขาวโพลนไปหมดแทบมองไม่เห็นรูปร่างของสิ่งปลูกสร้างเลย

ฟูวว

ชายหนุ่มรูปงามพ่นควันบุหรี่สีเทาหม่นออกมาจากปากด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบพร้อมกับมองดูสายฝนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า

พรึบ!

แต่ในตอนนั้นเองจู่ๆ ก็มีหญิงสาวร่างเล็กคนหนึ่งวิ่งเข้ามายืนขนานข้างกับชายหนุ่มรูปงามนั่นเพื่อหาที่หลบกำบังฝนในตอนนี้ เนื่องจากเวลานี้ฝนกำลังตกหนักจนไม่สามารถที่จะเดินต่อไปได้

“อ่า ทำไมมาตกตอนนี้นะ”

ริมฝีปากเล็กๆ ของเธอบ่นพึมพำออกมาพร้อมกับใช้มือของเธอขยี้ผมที่เปียกชื้นของเธอเพื่อสลัดเอาหยดน้ำที่เกาะอยู่บนผมของเธอออกด้วยท่าทางสบายๆ ร่างเล็กในชุดนักศึกษาสีขาวตัวบางเมื่อถูกกับน้ำฝนมันเลยทำให้เสื้อที่เธอใส่อยู่นั้นมันแนบเนื้อจนทำให้เห็นอะไรๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในเสื้อของเธอ

ชายหนุ่มรูปงามที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอใช้หางตามองไปที่เธอด้วยสายตาว่างเปล่าที่ไม่สามารถแสดงอารมณ์อื่นออกมาให้เห็นเลย และไม่มีใครรู้ว่าเขาคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ในหัวกันแน่

จึกๆ

ชายหนุ่มใช้นิ้วของตัวเองจิ้มไปที่แขนของหญิงสาวเบาๆ แต่มันทำให้คนที่ถูกจิ้มอยู่นั้นสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ พร้อมกับมองมาที่เขาด้วยสายตาตื่นกลัว

“มะ มีอะไรคะ”

หญิงสาวเอ่ยถามเสียงสั่น แต่ที่เสียงเธอสั่นไม่ใช่เพราะเธอรู้สึกหนาวหลังจากที่เธอตากฝนมา แต่สั่นเพราะรู้สึกกลัวคนตรงหน้าต่างหาก เพราะคนที่สะกิดเธอเมื่อกี้ตามตัวของเขามีแต่รอยสักเต็มไปหมดและอีกอย่างใบหน้าของเขายังดูโหดมากจนทำให้เธอไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาตรงๆ เลยทำให้ไม่รู้ว่าใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้รูปงามแค่ไหน

“เสื้อเธอ”

ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ก็ทำให้หญิงสาวที่กำลังฟังเขาพูดอยู่ขมวดคิ้วออกมาด้วยความมึนงงเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังสื่อเลยสักนิด

“คะ”

“มันเปียก”

“...”

“เห็นเสื้อใน”

“O_O”

หญิงสาวตาโตขึ้นมาด้วยความตกใจก่อนที่จะก้มมองสภาพของตัวเองตามที่ชายหนุ่มบอก ก่อนที่จะยกมือของตัวเองขึ้นมาปิดหน้าอกไว้ด้วยความรวดเร็ว แล้วเธอก็ก้มหน้างุดด้วยความอายที่ดันมาเกิดเรื่องน่าอายแบบนี้ต่อหน้าคนที่ไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ และอีกอย่างผู้ชายคนนี้ยังดูน่ากลัวมากอีกด้วย

ครืด ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์สั่งจากกระเป๋าใบเล็กของหญิงสาวดังขึ้นเลยทำให้เธอเปลี่ยนความสนใจมาที่กระเป๋าของเธอแทน เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดูก็ปรากฏเบอร์โทรที่เธอคุ้นเคยเป็นคนโทรเข้ามา แล้วหลังจากนั้นหญิงสาวก็กดรับสายทันที

“ค่ะเจ๊”

หญิงสาวกรอกเสียงหวานของเธอไปตามสายหลังจากที่เธอกดรับโทรศัพท์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

(ลมอยู่ไหน)

เสียงของหญิงวัยกลางคนที่ดังออกมาจากปลายสายเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูร้อนรนจนทำให้หญิงสาวที่ฟังอยู่รู้สึกแปลกไปด้วย

“ลมติดฝนอยู่ค่ะ”

หญิงสาวบอกพร้อมกับมองดูหยาดฝนที่ตกลงมาจากฟากฟ้าด้วยใบหน้าที่แสดงความเบื่อหน่ายออกมาอย่าเห็นได้ชัด เพราะสภาพอากาศย่ำแย่มันเลยทำให้เธอเดินทางไปทำงานลำบากขึ้นกว่าเดิม

(ลมรีบมาที่ร้านได้ไหม พอดีสามีเจ๊รถชน ไม่มีใครเฝ้าร้านเลย)

ปลายสายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นกังวลอย่างมาก เลยทำให้หญิงสาวร่างเล็กพลอยเป็นกังวลไปด้วย

“ได้ค่ะ เดี๋ยวลมจะรีบไป”

(ขอบใจมากนะลม)

“ไม่เป็นไรค่ะ”

แล้วหญิงสาวก็กดวางสายไปก่อนที่จะเก็บโทรศัพท์ของเธอไว้ในกระเป๋าอย่างมิดชิด ก่อนที่เธอจะตัดสินใจวิ่งออกไปกลางสายฝนที่กำลังกระหน่ำตกอยู่อย่างไม่กลัวเปียก เพราะเธอมีเรื่องสำคัญที่ต้องรีบไปทำ เลยทำให้หญิงสาวตัดสินใจวิ่งออกไปทั้งอย่างนั้น

ชายหนุ่มรูปงามที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมมองตามแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาวคนนั้นด้วยสายตาเรียบเฉย จนร่างของเธอค่อยๆ หายไปจากสายตาของเขา แต่ชายหนุ่มก็ยังคงมองไปทางนั้นอยู่ดี

“ลม สินะ”

ชายหนุ่มพึมพำออกมาก่อนที่จะเหยียดยิ้มที่มุมปากด้วยความพึงพอใจ ก่อนที่จะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอีกครั้ง

ปัจจุบัน

“ไอ้นาวา มึงนี่เอาแต่จ้องแต่โทรศัพท์แม่งทั้งวัน กูอยากรู้จริงๆ ว่ามีอะไรน่าสนใจกว่าพวกกูอยู่ในนั้นกันแน่”

ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อทะเล้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมกับชะโงกหน้าของตัวเองไปมองดูโทรศัพท์ของชายหนุ่มรูปงามอีกคนที่กำลังจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ในมือของเขาอย่างไม่วางตา

“เสือก”

ชายหนุ่มรูปงามเจ้าของใบหน้าดุดันเอ่ยขึ้นเสียงเรียบอย่างไม่ค่อยสนใจอะไรพร้อมกับเก็บโทรศัพท์ของตัวเองลงไปในกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางหวงแหนจากสายตาของชายหนุ่มอีกคนที่กำลังชะโงกหน้ามามองของของเขาอยู่

“ชิ ทำเป็นหวง นี่เพื่อนนะ”

ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อทะเล้นเอยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมกับยื่นริมฝีปากล่างของเขาออกมาด้วยท่าทางเง้างอด

“อืม เพื่อน แล้วไง”

ชายหนุ่มเอ่ยกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนไม่สนใจท่าทีของชายหนุ่มอีกคนเลยว่าเขากำลังน้อยใจอะไรเขาอยู่

“มึงนี่เย็นชากับกูตลอด บอกเลยว่าเทวางอน”

ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อทะเล้นเอ่ยขึ้นพร้อมกับสะบัดหน้าไปอีกทาง

“...”

“มึงก็อย่าไปกวนมันมาก เดี๋ยวมันก็เล่นมึงเข้าสักวันหรอก”

ชายหนุ่มอีกคนผู้เป็นเจ้าของใบหน้าราวเทพพระบุตรแต่สายตาของเขากลับเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางเอือมระอากับท่าทีจองชายหนุ่มอีกคน

“อืม กูก็ว่างั้น”

ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อน่ารักเอ่ยเสริม

“พวกมึงรุมกู ชิ กูงอนพวกมึงแล้ว”

ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อทะเล้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเง้างอดอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีใครสนใจเขาเลยว่าจะแสดงท่าทีอะไรออกมา เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองพวกเขาจริงๆ และท่าทีแบบนี้มันเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มหล้อทะเล้นมักจะทำให้เห็นแทบทุกวันจนเป็นนิสัยไปแล้ว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ piano_sp

ข้อมูลเพิ่มเติม
RULE SET : กฎของรามสูร

RULE SET : กฎของรามสูร

วัยรุ่น

4.2

ฉันไม่คิดว่าการที่ฉันตัดสินใจมาทำงานที่นี่มันจะทำให้ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ "รามสูร" หรือว่า "พี่ราม" เขาคือคนที่เข้ามาทำให้ชีวิตฉันต้องเปลี่ยนไป ผู้ชายเอือยเฉื่อยที่มาพร้อมกับใบหน้าไร้อารมณ์ที่มาพร้อมกับข้อเสนอให้ฉัน "แอรีส" ไปเป็นหมอนข้างให้เขา เพราะความอวดดีทำให้ฉันต้องยอมรับต่อชะตากรรมนั้น แต่ใครจะไปรู้ละว่าการเป็นหมอนข้างของผู้ชายที่ชื่อว่ารามสูรคนนั้นมันจะเปลืองตัวมากขนาดนี้ รู้ตัวอีกทีฉันก็ตกเป็นของเขาโดยไม่มีเงื่อนไขซะแล้ว “พะ พี่ราม” “ใช่ นั่นคือชื่อของผัวเธอ จำไว้ว่าต่อจากนี้ไปเธอคือเมียฉัน และอย่าได้ริไปให้ไอ้เหี้ยนั่นกอดหรือจูบเธออีก ไม่งั้นเอาให้ตายแน่”

BAIT NAVA เหยื่อของนาวา(จบ)

BAIT NAVA เหยื่อของนาวา(จบ)

โรแมนติก

5.0

ชีวิตของนักศึกษาปีสี่ที่ทั้งเรียนทั้งทำงานหาเช้ากินค่ำอย่างฉัน "สายลม" ก็วุ่นวายมากพอแล้ว แต่ชีวิตของฉันต้องวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อฉันเจอกับไอ้โหดหน้านิ่งนั่น "นาวา" ผู้ชายที่มาพร้อมกับรอยสักเต็มตัว เขาเป็นผู้ชายประเภทที่ควรจะหลีกเลี่ยงให้ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ทำไมเหมือนยิ่งฉันหนีเขา ผลักไสเขา เขายิ่งเข้ามามีบทบาทในชีวิตฉันมากขึ้นกว่าเดิม ฉันควรจะทำยังไงกับผู้ชายคนนี้ดี ใครก็ได้เอาไอ้เถื่อนนี่ไปจากชีวิตฉันที "ฉันเป็นคนทานง่าย เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย ไม่เรื่องมากหรอก เอาแต่ใจนิดหน่อย ไม่ชอบให้ใครขัด" "...." "และตอนนี้ฉันก็โสดด้วย ส่วนเรื่องซิงเสียไปตั้งแต่มอสามแล้ว อยากรู้อะไรอีกไหมฉันยินดีบอกนะ" WHAT!!!

Say U love me โซ่รักนารา

Say U love me โซ่รักนารา

วัยรุ่น

5.0

ฉันเชื่อว่าคนเราต้องเคยเจอเรื่องที่บังเอิญไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แต่มันเป็นเพราะความบังเอิญหรือโชคชะตากันแน่ที่ทำให้ฉันได้มาเจอกับเขา "โซ่" เขาคือผู้ชายที่มีดีทั้งหน้าตา ฐานะ และความสามารถ และเขาก็เป็นนักดนตรีหนุ่มชื่อดังที่สาวๆเกือบครึ่งประเทศล้วนเทใจให้กับเขา แต่แจ็คพอตมันดันมาแตกที่ฉัน เมื่อฉันดันบังเอิญตื่นขึ้นมาบนเตียงของเขา พร้อมกับประโยคแรกที่เขาเอ่ยพูดกับฉันมาว่า.. "ตื่นแล้วเหรอ" เอ๊ะ ฉันมานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเนี่ยยยยยย!!!!! . . "ในเมื่อเธอก็ได้ลายเซ็นต์ของฉันไปแล้ว เธอช่วยลืมเรื่องวันนี้ไปให้หมดหน่อยได้ไหม"

หนังสือที่คุณอาจชอบ

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

กุหลาบในเปลวไฟ

กุหลาบในเปลวไฟ

Wes Longworth
3.5

หลังจากแต่งงานมาสามปี ฮั่วเป่ยอวี๋ไม่เพียงแต่เย็นชากับเสิ่นเจียงหนานเท่านั้น แต่ยังคบชู้ ทำให้เสิ่นเจียงหนานผิดหวังมาก เขาก็แค่ชายเจ้าชู้นี่เอง หลังจากหย่ากันอย่างเด็ดขาด เธอก็มุ่งหน้าไปทำงาน ในฐานะนักออกแบบชั้นนำ แพทย์ผู้อัศจรรย์ และแฮ็กเกอร์เก่งๆ เธอเชี่ยวชาญหลายๆ ด้านและกลายเป็นเจ้าหญิงที่ทุกคนชื่นชมและเป็นที่ต้องการ ในที่สุด ฮั่วเป่ยอวี๋ก็ตระหนักถึงสิ่งที่เขาสูญเสียไปและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะใจเธอ แต่เขากลับเห็นเธอจัดงานแต่งงานแห่งศตวรรษร่วมกับชายอีกคน เมื่องานแต่งงานของคนสองคนถูกถ่ายทอดสดบนป้ายโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก-- เผ๋ยเหยียนหลี่สวมแหวนให้เธอ และประกาศให้โลกได้รับรู้อย่างท่วมท้น "เสิ่นเจียงหนานเป็นภรรยาของผมและเธอเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับผม ใครกล้ามาแตะต้อง ต้องเจดีแน่!"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ