Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
BAIT NAVA เหยื่อของนาวา

BAIT NAVA เหยื่อของนาวา

piano_sp

5.0
ความคิดเห็น
201
ชม
5
บท

ชีวิตของนักศึกษาปีสี่ที่ทั้งเรียนทั้งทำงานหาเช้ากินค่ำอย่างฉัน "สายลม" ก็วุ่นวายมากพอแล้ว แต่ชีวิตของฉันต้องวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อฉันเจอกับไอ้โหดหน้านิ่งนั่น "นาวา" ผู้ชายที่มาพร้อมกับรอยสักเต็มตัว เขาเป็นผู้ชายประเภทที่ควรจะหลีกเลี่ยงให้ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ทำไมเหมือนยิ่งฉันหนีเขา ผลักไสเขา เขายิ่งเข้ามามีบทบาทในชีวิตฉันมากขึ้นกว่าเดิม ฉันควรจะทำยังไงกับผู้ชายคนนี้ดี ใครก็ได้เอาไอ้เถื่อนนี่ไปจากชีวิตฉันที "ฉันเป็นคนทานง่าย เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย ไม่เรื่องมากหรอก เอาแต่ใจนิดหน่อย ไม่ชอบให้ใครขัด" "...." "และตอนนี้ฉันก็โสดด้วย ส่วนเรื่องซิงเสียไปตั้งแต่มอสามแล้ว อยากรู้อะไรอีกไหมฉันยินดีบอกนะ" WHAT!!!

บทที่ 1 นาวาล่าลม : 00

2 เดือนที่แล้ว

กริ๊ง กริ๊ง

เสียงประตูของร้านสะดวกซื้อถูกเปิดออกมาโดยชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าดุดันแต่หล่อเหลาปานเทพบุตร พร้อมกับร่างกายกำยำของเขาเต็มไปด้วยรอยสักมากมายจนแทบไม่เหลือพื้นที่สำหรับผิวให้เห็น แต่มันก็ไม่ทำให้ความฮอตในตัวเขาลดลงไปแม้แต่น้อย แต่มันกลับทำให้เขาดูหล่อเข้มไปอีกแบบ

ซ่าๆ ๆ

บรรยากาศตอนนี้ไม่ได้ดีเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำที่ก่อตัวขึ้นมาจนทำให้เกิดหยดน้ำที่ไหลลงมาจากฟากฟ้าจนพื้นที่บริเวณนี้ขาวโพลนไปหมดแทบมองไม่เห็นรูปร่างของสิ่งปลูกสร้างเลย

ฟูวว

ชายหนุ่มรูปงามพ่นควันบุหรี่สีเทาหม่นออกมาจากปากด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบพร้อมกับมองดูสายฝนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า

พรึบ!

แต่ในตอนนั้นเองจู่ๆ ก็มีหญิงสาวร่างเล็กคนหนึ่งวิ่งเข้ามายืนขนานข้างกับชายหนุ่มรูปงามนั่นเพื่อหาที่หลบกำบังฝนในตอนนี้ เนื่องจากเวลานี้ฝนกำลังตกหนักจนไม่สามารถที่จะเดินต่อไปได้

“อ่า ทำไมมาตกตอนนี้นะ”

ริมฝีปากเล็กๆ ของเธอบ่นพึมพำออกมาพร้อมกับใช้มือของเธอขยี้ผมที่เปียกชื้นของเธอเพื่อสลัดเอาหยดน้ำที่เกาะอยู่บนผมของเธอออกด้วยท่าทางสบายๆ ร่างเล็กในชุดนักศึกษาสีขาวตัวบางเมื่อถูกกับน้ำฝนมันเลยทำให้เสื้อที่เธอใส่อยู่นั้นมันแนบเนื้อจนทำให้เห็นอะไรๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในเสื้อของเธอ

ชายหนุ่มรูปงามที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอใช้หางตามองไปที่เธอด้วยสายตาว่างเปล่าที่ไม่สามารถแสดงอารมณ์อื่นออกมาให้เห็นเลย และไม่มีใครรู้ว่าเขาคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ในหัวกันแน่

จึกๆ

ชายหนุ่มใช้นิ้วของตัวเองจิ้มไปที่แขนของหญิงสาวเบาๆ แต่มันทำให้คนที่ถูกจิ้มอยู่นั้นสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ พร้อมกับมองมาที่เขาด้วยสายตาตื่นกลัว

“มะ มีอะไรคะ”

หญิงสาวเอ่ยถามเสียงสั่น แต่ที่เสียงเธอสั่นไม่ใช่เพราะเธอรู้สึกหนาวหลังจากที่เธอตากฝนมา แต่สั่นเพราะรู้สึกกลัวคนตรงหน้าต่างหาก เพราะคนที่สะกิดเธอเมื่อกี้ตามตัวของเขามีแต่รอยสักเต็มไปหมดและอีกอย่างใบหน้าของเขายังดูโหดมากจนทำให้เธอไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาตรงๆ เลยทำให้ไม่รู้ว่าใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้รูปงามแค่ไหน

“เสื้อเธอ”

ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ก็ทำให้หญิงสาวที่กำลังฟังเขาพูดอยู่ขมวดคิ้วออกมาด้วยความมึนงงเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังสื่อเลยสักนิด

“คะ”

“มันเปียก”

“...”

“เห็นเสื้อใน”

“O_O”

หญิงสาวตาโตขึ้นมาด้วยความตกใจก่อนที่จะก้มมองสภาพของตัวเองตามที่ชายหนุ่มบอก ก่อนที่จะยกมือของตัวเองขึ้นมาปิดหน้าอกไว้ด้วยความรวดเร็ว แล้วเธอก็ก้มหน้างุดด้วยความอายที่ดันมาเกิดเรื่องน่าอายแบบนี้ต่อหน้าคนที่ไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ และอีกอย่างผู้ชายคนนี้ยังดูน่ากลัวมากอีกด้วย

ครืด ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์สั่งจากกระเป๋าใบเล็กของหญิงสาวดังขึ้นเลยทำให้เธอเปลี่ยนความสนใจมาที่กระเป๋าของเธอแทน เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดูก็ปรากฏเบอร์โทรที่เธอคุ้นเคยเป็นคนโทรเข้ามา แล้วหลังจากนั้นหญิงสาวก็กดรับสายทันที

“ค่ะเจ๊”

หญิงสาวกรอกเสียงหวานของเธอไปตามสายหลังจากที่เธอกดรับโทรศัพท์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

(ลมอยู่ไหน)

เสียงของหญิงวัยกลางคนที่ดังออกมาจากปลายสายเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูร้อนรนจนทำให้หญิงสาวที่ฟังอยู่รู้สึกแปลกไปด้วย

“ลมติดฝนอยู่ค่ะ”

หญิงสาวบอกพร้อมกับมองดูหยาดฝนที่ตกลงมาจากฟากฟ้าด้วยใบหน้าที่แสดงความเบื่อหน่ายออกมาอย่าเห็นได้ชัด เพราะสภาพอากาศย่ำแย่มันเลยทำให้เธอเดินทางไปทำงานลำบากขึ้นกว่าเดิม

(ลมรีบมาที่ร้านได้ไหม พอดีสามีเจ๊รถชน ไม่มีใครเฝ้าร้านเลย)

ปลายสายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นกังวลอย่างมาก เลยทำให้หญิงสาวร่างเล็กพลอยเป็นกังวลไปด้วย

“ได้ค่ะ เดี๋ยวลมจะรีบไป”

(ขอบใจมากนะลม)

“ไม่เป็นไรค่ะ”

แล้วหญิงสาวก็กดวางสายไปก่อนที่จะเก็บโทรศัพท์ของเธอไว้ในกระเป๋าอย่างมิดชิด ก่อนที่เธอจะตัดสินใจวิ่งออกไปกลางสายฝนที่กำลังกระหน่ำตกอยู่อย่างไม่กลัวเปียก เพราะเธอมีเรื่องสำคัญที่ต้องรีบไปทำ เลยทำให้หญิงสาวตัดสินใจวิ่งออกไปทั้งอย่างนั้น

ชายหนุ่มรูปงามที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมมองตามแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาวคนนั้นด้วยสายตาเรียบเฉย จนร่างของเธอค่อยๆ หายไปจากสายตาของเขา แต่ชายหนุ่มก็ยังคงมองไปทางนั้นอยู่ดี

“ลม สินะ”

ชายหนุ่มพึมพำออกมาก่อนที่จะเหยียดยิ้มที่มุมปากด้วยความพึงพอใจ ก่อนที่จะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอีกครั้ง

ปัจจุบัน

“ไอ้นาวา มึงนี่เอาแต่จ้องแต่โทรศัพท์แม่งทั้งวัน กูอยากรู้จริงๆ ว่ามีอะไรน่าสนใจกว่าพวกกูอยู่ในนั้นกันแน่”

ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อทะเล้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมกับชะโงกหน้าของตัวเองไปมองดูโทรศัพท์ของชายหนุ่มรูปงามอีกคนที่กำลังจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ในมือของเขาอย่างไม่วางตา

“เสือก”

ชายหนุ่มรูปงามเจ้าของใบหน้าดุดันเอ่ยขึ้นเสียงเรียบอย่างไม่ค่อยสนใจอะไรพร้อมกับเก็บโทรศัพท์ของตัวเองลงไปในกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางหวงแหนจากสายตาของชายหนุ่มอีกคนที่กำลังชะโงกหน้ามามองของของเขาอยู่

“ชิ ทำเป็นหวง นี่เพื่อนนะ”

ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อทะเล้นเอยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมกับยื่นริมฝีปากล่างของเขาออกมาด้วยท่าทางเง้างอด

“อืม เพื่อน แล้วไง”

ชายหนุ่มเอ่ยกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนไม่สนใจท่าทีของชายหนุ่มอีกคนเลยว่าเขากำลังน้อยใจอะไรเขาอยู่

“มึงนี่เย็นชากับกูตลอด บอกเลยว่าเทวางอน”

ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อทะเล้นเอ่ยขึ้นพร้อมกับสะบัดหน้าไปอีกทาง

“...”

“มึงก็อย่าไปกวนมันมาก เดี๋ยวมันก็เล่นมึงเข้าสักวันหรอก”

ชายหนุ่มอีกคนผู้เป็นเจ้าของใบหน้าราวเทพพระบุตรแต่สายตาของเขากลับเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางเอือมระอากับท่าทีจองชายหนุ่มอีกคน

“อืม กูก็ว่างั้น”

ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อน่ารักเอ่ยเสริม

“พวกมึงรุมกู ชิ กูงอนพวกมึงแล้ว”

ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อทะเล้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเง้างอดอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีใครสนใจเขาเลยว่าจะแสดงท่าทีอะไรออกมา เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองพวกเขาจริงๆ และท่าทีแบบนี้มันเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มหล้อทะเล้นมักจะทำให้เห็นแทบทุกวันจนเป็นนิสัยไปแล้ว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ piano_sp

ข้อมูลเพิ่มเติม
RULE SET : กฎของรามสูร

RULE SET : กฎของรามสูร

วัยรุ่น

4.2

ฉันไม่คิดว่าการที่ฉันตัดสินใจมาทำงานที่นี่มันจะทำให้ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ "รามสูร" หรือว่า "พี่ราม" เขาคือคนที่เข้ามาทำให้ชีวิตฉันต้องเปลี่ยนไป ผู้ชายเอือยเฉื่อยที่มาพร้อมกับใบหน้าไร้อารมณ์ที่มาพร้อมกับข้อเสนอให้ฉัน "แอรีส" ไปเป็นหมอนข้างให้เขา เพราะความอวดดีทำให้ฉันต้องยอมรับต่อชะตากรรมนั้น แต่ใครจะไปรู้ละว่าการเป็นหมอนข้างของผู้ชายที่ชื่อว่ารามสูรคนนั้นมันจะเปลืองตัวมากขนาดนี้ รู้ตัวอีกทีฉันก็ตกเป็นของเขาโดยไม่มีเงื่อนไขซะแล้ว “พะ พี่ราม” “ใช่ นั่นคือชื่อของผัวเธอ จำไว้ว่าต่อจากนี้ไปเธอคือเมียฉัน และอย่าได้ริไปให้ไอ้เหี้ยนั่นกอดหรือจูบเธออีก ไม่งั้นเอาให้ตายแน่”

BAIT NAVA เหยื่อของนาวา(จบ)

BAIT NAVA เหยื่อของนาวา(จบ)

โรแมนติก

5.0

ชีวิตของนักศึกษาปีสี่ที่ทั้งเรียนทั้งทำงานหาเช้ากินค่ำอย่างฉัน "สายลม" ก็วุ่นวายมากพอแล้ว แต่ชีวิตของฉันต้องวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อฉันเจอกับไอ้โหดหน้านิ่งนั่น "นาวา" ผู้ชายที่มาพร้อมกับรอยสักเต็มตัว เขาเป็นผู้ชายประเภทที่ควรจะหลีกเลี่ยงให้ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ทำไมเหมือนยิ่งฉันหนีเขา ผลักไสเขา เขายิ่งเข้ามามีบทบาทในชีวิตฉันมากขึ้นกว่าเดิม ฉันควรจะทำยังไงกับผู้ชายคนนี้ดี ใครก็ได้เอาไอ้เถื่อนนี่ไปจากชีวิตฉันที "ฉันเป็นคนทานง่าย เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย ไม่เรื่องมากหรอก เอาแต่ใจนิดหน่อย ไม่ชอบให้ใครขัด" "...." "และตอนนี้ฉันก็โสดด้วย ส่วนเรื่องซิงเสียไปตั้งแต่มอสามแล้ว อยากรู้อะไรอีกไหมฉันยินดีบอกนะ" WHAT!!!

Say U love me โซ่รักนารา

Say U love me โซ่รักนารา

วัยรุ่น

5.0

ฉันเชื่อว่าคนเราต้องเคยเจอเรื่องที่บังเอิญไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แต่มันเป็นเพราะความบังเอิญหรือโชคชะตากันแน่ที่ทำให้ฉันได้มาเจอกับเขา "โซ่" เขาคือผู้ชายที่มีดีทั้งหน้าตา ฐานะ และความสามารถ และเขาก็เป็นนักดนตรีหนุ่มชื่อดังที่สาวๆเกือบครึ่งประเทศล้วนเทใจให้กับเขา แต่แจ็คพอตมันดันมาแตกที่ฉัน เมื่อฉันดันบังเอิญตื่นขึ้นมาบนเตียงของเขา พร้อมกับประโยคแรกที่เขาเอ่ยพูดกับฉันมาว่า.. "ตื่นแล้วเหรอ" เอ๊ะ ฉันมานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเนี่ยยยยยย!!!!! . . "ในเมื่อเธอก็ได้ลายเซ็นต์ของฉันไปแล้ว เธอช่วยลืมเรื่องวันนี้ไปให้หมดหน่อยได้ไหม"

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

โรแมนติก

4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า “ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?” เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า “ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว...” ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา “เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?”

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ประวัติศาสตร์

4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

โรแมนติก

5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

เมียลับบำเรอแค้น

เมียลับบำเรอแค้น

มหาเศรษฐี

4.9

ตอนเธออยู่ทำร้ายจิตใจต่างๆ นานา ตอนเธอจากไป...เขาเหมือนคนกำลังจะตาย เขาเห็นเธอเป็นเพียงดอกไม้ริมทางที่จะเด็ดมาดอมดมเมื่อไหร่ก็ได้ และเหยียบย่ำน้ำใจเธออย่างแสนสาหัส ทำให้เธอเจ็บปวดกับคำว่า “เมียลับ” แต่ความทุกข์ทรมานที่ได้รับแลกกับความสุขของมารดา...พวงชมพูยอม ……………… “ได้ข่าวมาว่า ตอนที่ฉันไม่อยู่ เธอไปแรดกับผู้ชายคนอื่นใช่ไหม” คนถูกถามตัวสั่น ไม่กล้าสบตาร้อนแรงของปราณปวิชที่แทบจะประหารเธอทางสายตา “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง ตอบมา” พวงชมพูสะดุ้งสุดตัว ตัวเนื้อสั่นไปหมด ปากแข็งขึ้นมาราวกับถูกหินถ่วง “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง ฮะ” คราวนี้เสียงเขาตะเบ็งจนเธอสะดุ้ง ใบหน้าอาบไปด้วยความตกใจและหวาดกลัวเมื่อเห็นสีหน้าเขาตอนนี้ “ชม...ชมไปบ้านพี่ทัชมาค่ะ แต่เราไม่ได้มีอะไรกันอย่างที่คุณปราบเข้า...ว้าย!” มือใหญ่จับท่อนแขนเล็กไว้แน่น ก่อนเหวี่ยงร่างงามไปบนที่นอน “ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหมว่า ตราบใดที่เธอเป็นนางบำเรอของฉัน เธออย่าริอ่านไปร่านกับผู้ชายคนอื่น ในเมื่อไม่ฟัง เธอก็ต้องได้รับบทเรียน” ม่านตาพวงชมพูขยายกว้าง เมื่อเขาหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง “ไม่ค่ะ ไม่เอา ไม่เอาแบบนี้” พวงชมพูพูดเสียงสั่น กระเถิบตัวหนีเสือร้ายขี้โมโหที่พร้อมขย้ำตนให้ตายคาเตียง ทั้งที่รู้ว่า ไม่อาจหนีรอดจากเงื้อมมือเขาได้ “อยากเจ็บตัวเอง ช่วยไม่ได้” เขาคำรามเสียงเข้ม แววตาจ้องมองพวงชมพูประหนึ่งสัตว์ร้ายจ้องมองเหยื่อ ก้าวสามขุมไปหากวางน้อยที่กำลังหาทางเอาตัวรอด

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ