5.0
ความคิดเห็น
2.5K
ชม
15
บท

#Yaoi ชีวิตเขาตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับไอ้นักโทษแหกคุกในวันนั้นเมื่อห้าปีก่อน ก็เหมือนกับยืนอยู่บนเส้นทางสายกลาง ระหว่างความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกับความต้องการของหัวใจ จะรักก็ไม่ได้...จะเกลียดก็ไม่ลง ใช่...มังกรไม่ใช่คนดี เขาเป็นคนเลว เป็นนักโทษ เป็นฆาตกร ซึ่งแน่นอนคนดีๆ กับโจรย่อมอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อยู่แล้ว ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาต้องกักเก็บความรักที่เขามีต่อมังกรเอาไว้ภายใน โดยที่เขาไม่สามารถจะแสดงอะไรออกมาให้มังกรเห็นได้เลย รักของเขากับมังกรมันไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่ว่าจะทำหรือใช้วิธีไหนก็ตาม !

บทที่ 1 นักโทษแหกคุก

“รายงานข่าวด่วนจากเรือนจำพิเศษกลาง มีนักโทษวัยฉกรรจ์หลบหนีออกจากทัณฑสถานโดยใช้วิธีอย่างอุกอาจ ฆ่าเจ้าหน้าที่ตายไปสิบศพ ก่อนจะปีนรั้วกำแพงออกมาทางด้านหลังเรือนจำ ทราบชื่อภายหลังว่า นายมังกร หงส์สารามัญ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งออกตามล่า ลั่นขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ”

พิฟ พัชระ...ดูข่าวแหกคุกผ่านทางจอทีวีอย่างไม่ค่อยจะสนใจ ดูใบหน้าของนายมังกรอะไรนั่นผ่านๆ ก่อนจะก้มลงไปอ่านหนังสือเรียนต่ออย่างตั้งใจเพราะอีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะถึงเทศกาลสอบมหาโหดแล้ว ทว่าจู่ๆ ประตูบ้านไม้หลังเล็กที่เขาอาศัยอยู่แถวๆ ชานเมืองนั้นก็มีเสียงเคาะเรียกดังขึ้น พิฟละสายตาจากหนังสือแล้วเดินเมียงๆ ไปที่ประตูแล้วเปิดออก คิดว่าคงเป็นเพื่อนบ้านเลยเปิดให้โดยไม่ตรึกตรอง

แต่ทันทีที่เปิดใบหน้าคมคายไว้หนวดเคราของชายคนหนึ่งก็ปรากฏต่อสายตาของพิฟ ชายหนุ่มผู้มาเยือนจ้องเขม็งพลางเอ่ย

“ขอข้าวกูแดกหน่อย !” เสียงห้าวติดกระชากพูดขึ้นแล้วถือวิสาสะแทรกตัวเข้ามาในบ้านโดยไม่ได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของบ้าน ฝ่ายเด็กหนุ่มวัยยี่สิบปีที่กำลังยืนอึ้งอยู่นั้นกลับยืนแข็งทื่อเป็นหิน “ไม่ได้ยินรึไง ขอข้าวกูแดกหน่อย !”

มังกร...ตะคอกพลางล้วงมือเข้าไปหยิบอาวุธมาข่มขู่ผู้เคราะห์ร้าย

“ถ้ามึงยังยืนเป็นหินแบบนี้ กูจะยิงให้ไส้แตกเลยนะ กูจะนับหนึ่งถึงสาม !!”

“หนึ่ง”

“…”

“สอง”

“ชะ...ช่วยด้วย ช่วยด้วยครับ !!” พิฟพุ่งไปที่ประตูหมายจะออกไปขอความช่วยเหลือแต่ก็ช้าเกินกว่าชายหนุ่มร่างสูงโปร่งนั่นที่พุ่งเข้ามาจับตัวไว้แน่นแล้วเอาปืนจ่อไว้ที่ขมับของอีกฝ่ายจนพิฟกลัวจนตัวสั่น “ยะ...อย่ายิงผมนะ ผะ...ผมกลัวแล้ว !!”

“ถ้ายังไม่อยากตาย ก็ไปหาข้าวมาให้กูแดกเร็วๆ อย่าตุกติกนะมึง ไม่งั้นกูยิงไส้แตก !” มังกรตวาดลั่น

พิฟผงกหัวอย่างลนลานรีบเข้าไปในครัวจัดการตามที่ไอ้นักโทษนั่นสั่งอย่างรวดเร็วก่อนจะนำจานข้าวที่มีแกงเขียวหวานราดข้าวมาให้มังกรด้วยมืออันสั่นเทา

“นั่งลงแล้วอยู่เฉยๆ อย่าขยับไปไหน” เขาสั่งเสียงห้วน พิฟทำตามอย่างว่าง่ายขณะที่เขาเองก็นั่งลงกับพื้นแล้วรีบกินข้าว ระหว่างที่กินข้าวไปสายตาก็จ้องไปที่พิฟซึ่งก้มหน้างุดเมื่อเขาหันไปมอง

ชายหนุ่มพินิจคนตัวสั่นตรงหน้ากับกองหนังสือมโหฬารบนโต๊ะเขียนหนังสือเตี้ยๆ มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นนักศึกษาอยู่แถมเป็นเด็กเรียนซะด้วย ไม่น่าจะมีพิษภัยอะไร

เวลาผ่านไปไม่นานจานข้าวก็ว่างเปล่าแล้วเสียงห้าวห้วนก็เอ่ยขึ้นจนพิฟอดสะดุ้งไม่ได้

“กูขอยืมโทรศัพท์หน่อย”

พิฟพยักหน้าเป็นการตอบแล้วยื่นมือถือเครื่องจิ๋วให้ชายหนุ่มโดยไม่กล้ามองหน้า มังกรรับมาแล้วกดหมายเลขปลายทาง

“พ่อ...ผมนะมังกร ผมปลอดภัยแล้ว แต่คงต้องอยู่ที่นี่สักพัก กลัวไอ้พวกตำรวจมันจะตามไปที่บ้าน เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะติดต่อไปหา อะไรนะ อ๋อ ผมอยู่แถวๆ…”

พิฟแอบฟังไอ้นักโทษนั่งคุยกับคนในสายแล้วก็ต้องแอบร้องไห้อยู่ในใจ อยู่ที่นี่สักพัก ? หมายความว่าไอ้ฆาตกรนี่มันจะอยู่ในบ้านเขางั้นเหรอ ?

“ขอบใจ” มังกรส่งโทรศัพท์คืน “เลิกตัวสั่นได้แล้วมึงน่ะ เห็นแล้วรำคาญว่ะ เดี๋ยวก็ยิงไส้แตกหรอกไอ้ห่านี่ กูไม่ฆ่ามึงหรอก เออ กูขอพักอยู่บ้านมึงก่อนนะ ถ้ามึงไปแจ้งตำรวจบอกได้คำเดียว...ศพมึงไม่สวยแน่ไอ้หน้าอ่อน !”

“มะ...ไม่ได้ คะ...คุณจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ !” พิฟรวบรวมความกล้าบอกคนถือวิสาสะ

“มึงว่าอะไรนะ จะไม่ให้กูพักอยู่ที่นี่ ?” มังกรเลิกคิ้ว จ้องเด็กหนุ่มหน้าหวานนั่นอย่างเอาเรื่อง

“ชะ...ใช่”

“จะไม่ให้กูอยู่ใช่มั้ย ?” ชายหนุ่มถามอีกครั้งพร้อมลูบปืนไปมาเหมือนบอกให้รู้ว่า ‘ถ้าไม่ให้ละก็กูยิงแน่’ แล้วใครมั่งล่ะที่จะกล้าปฏิเสธถ้าเห็นมันทำแบบนั้น

“กะ...ก็ได้ครับ” พิฟยอมจำนนโดยดุษณี

“ดี แล้วกูจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้ที่มึงช่วยชีวิ...” มังกรชะงักคำพูดไปเมื่อได้เห็นพิฟร้องไห้ออกมา ความรู้สึกประหลาดเอ่อล้นในหัวใจ

พิฟเดินตัวสั่นไปด้านในแล้วก็ไม่ออกมาให้เขาได้เห็นใบหน้าหวานจับใจนั้นอีกเลยในคืนนั้น...

พิฟเยี่ยมหน้าออกมาหน่อยหนึ่งในเช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อดูว่านักโทษแหกคุกคนนั้นตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ แล้วเขาก็เห็นว่ามังกรนอนอ้าซ่าอยู่ตรงที่เดิมที่เขานั่งเมื่อคืน ไม่ได้ขยับไปไหน

เด็กหนุ่มหน้าหวานเดินย่องไปที่ประตูเพื่อจะออกไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัย แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“จะไปไหน ?”

“ปะ...ไปเรียน” พิฟอกสั่นขวัญแขวนกับน้ำเสียงอันน่าเกรงขาม

“อย่าตุกติก ห้ามบอกใครทั้งนั้นเรื่องที่กูอยู่ที่นี่” มังกรพูดโดยไม่ลืมตา

“ครับ” พิฟขานรับ กำลังจะเดินออกไป แต่ชายหนุ่มก็พูดขึ้นต่อ

“ทีหลังอย่าร้องไห้ให้กูเห็นอีก ผู้ชายอกสามศอกเขาไม่ร้องไห้ให้เห็นกันหรอก ยกเว้นเสียแต่มึงจะเป็นแต๋ว !”

“…”

พิฟมาเรียนหนังสือด้วยอาการจิตไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ใครจะไปคิด...ว่าไอ้นักโทษแหกคุกนั่นจะมาขออาศัยอยู่ในบ้านเขาซึ่งๆ หน้า บ้านคนอื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะแล้วทำไมมันจะต้องโผล่มาที่บ้านเขาด้วย

มิหนำซ้ำยังออกปากว่าจะฆ่าจะแกงกันอยู่ตลอดเวลา แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาสติเสียได้ยังไงกันเล่า จะไปปรึกษาใครก็ไม่ได้ พ่อกับแม่ก็อยู่ต่างจังหวัด โอ๊ย ให้ตายสิ ไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้วะเนี่ย !

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ แพลงก์ตอน

ข้อมูลเพิ่มเติม
ดวงใจในไอรัก (Yaoi)

ดวงใจในไอรัก (Yaoi)

โรแมนติก

5.0

ดวงใจในไอรัก...เป็นเรื่องราวของ ‘บรูซ’ และ ‘คิมซอนมิน’ สองศิลปินชื่อดังจากทางฝั่งฮอลลีวู้ดและเกาหลีใต้ พวกเขาเจอกันเพราะงานภาพยนตร์ที่มีโอกาสได้เล่นร่วมกัน วินาทีแรกที่สองหนุ่มสบตาทั้งคู่ก็รู้เลยว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ พวกเขาตกหลุมรักกัน ซึ่งมันเป็นความรักต้องห้ามที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกันได้ ทั้งสองจะทำอย่างไรในเมื่อหัวใจได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ซ้ำยังปัญหาร้อยแปดประการที่โถมใส่พวกเขาจนยากที่จะหาทางออก มาร่วมกันค้นหาบทสรุปของบรูซและคิมซอนมินกันนะครับ “ผะ...ผมทำให้ชีวิตคุณ ขะ...เขวหรือเปล่า” “ทะ...ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ?” ซอนมินตกใจ หันขวับมาจ้อง “อะ...อนาคตคุณกำลังจะไปได้สวย ตะ...แต่พอเราเจอกันทุกอย่างก็วูบดับลง” “บะ...บรูซ !!!” “...” “คะ...คุณอย่าพูดอย่างนี้อีกนะ ผมไม่เคยมีความคิดอะไรแบบนี้เลย !” “ฮะ...ฮึก...” บรูซสะอึกสะอื้น “คุณเองก็ยังยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อผมเหมือนกัน มะ...ไม่ใช่เหรอ ?” “ชะ...ใช่ครับ ตะ...แต่มันต่างกัน ผะ...ผมอยู่ในวงการนี้มาตั้งแต่สามขวบ ผิดกับคุณ...ที่เพิ่งจะสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมาได้ไม่กี่ปี คะ...คุณไม่เสียดายหรือไง !” ซอนมินจอดรถตรงข้างทาง ตะโกนก้องด้วยความเจ็บช้ำ “ทะ...ทำไมคุณถึงดูถูกความรู้สึกผมขนาดนี้ !!!” “ฮือออออ...” ที่สุดแล้วนักแสดงหนุ่มก็ร้องไห้โฮ ละล่ำละลักอย่างหมดอาย “ผะ...ผมกลัว กะ...กลัวจะเสียคุณไปไง !”

หัวใจร้ายวิ่งราวรัก

หัวใจร้ายวิ่งราวรัก

โรแมนติก

5.0

เป็นเรื่องราวดราม่าในครัวเรือน เน้นความรักความสัมพันธ์ในครอบครัว ระหว่างพี่น้องทั้ง 5 คน แต่ยังมีกลิ่นอายความรักของหนุ่มสาวที่เป็นพระเอกนางเอกของเรื่องไว้ด้วย ตามสไตล์หนังฝรั่ง --- ฟาร่า เตฮะราน นักร้องสาวสวยชื่อดัง เชื้อสายเบรย์เมนพลอสที่ไปโด่งดังในฮอลลีวู้ด กลับมาบ้านเกิดปีนี้มี ‘บางอย่าง’ กำลังจะเปลี่ยนไป ครั้งหนึ่งเธอเคยทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงกับอดีตคนรักเก่าเพื่อแลกกับการเดินตามความฝัน... วันนี้...เธอจึงกลับมาแก้ไขเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเอง ไม่ว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นเช่นไร...เธอจะยอมรับมันให้ได้ ดีกว่ามานั่งเสียใจที่ไม่คิดทำอะไรเลย “ยะ...อย่าหลบหน้ากันอีกเลยนะคะ ---” “…” “ฉะ...ฉันกลับมาเพื่อขอโทษคุณ และฉันมา...เพื่อขอโอกาส จะ...จากคุณอีกครั้ง” เธอกลืนลมหายใจสะท้าน รอคอยคำตอบจากเขาแม้เพียงสักนิด “...” ทว่าเขาก็ยังเงียบสนิท ไม่ปริปากใดๆ “คะ...คุณจะให้อภัยฉันได้ไหม ?” “ฮึ ! ไม่มีประโยชน์หรอก คุณกลับไปเสียเถอะ” เสียงทุ้มเย็นชากล่าวขึ้นในท้ายที่สุด “กลับไป...แล้วต่างคนต่างอยู่เหมือนที่เคยทำมาตลอด” “ฉะ...ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น กะ...กว่าฉันจะตามหาคุณเจอต้องใช้เวลาเกือบสองปี !” ดัรวีชทำสีหน้าเจ็บปวด “คะ...คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร นะ...ในเมื่อตัวคุณเองไม่ใช่เหรอ ทะ...ที่ทิ้งผมไว้ข้างหลัง ยะ...อย่างไม่ไยดี ละ...แล้วตอนนี้คุณจะมาเอาอะไรอีกไม่ทราบ ฮะ คุณนักร้องฮอลลีวู้ด ?!!!” ฉันเหมือนโดนมีดกรีดแล่ไปในเนื้อหัวใจ ปวดร้าวทุรนทุราย “ฉะ...ฉันขอโทษ ฉะ...ฉันผิดไปแล้ว ฉะ...ฉัน ฉันรู้สึกผิดและละอายแก่ใจจริงๆ กะ...กับทุกสิ่งที่ทำกับคุณเอาไว้ คะ...คุณ จะยกโทษให้ฉันได้ไหม” เธอร้องไห้ระงม ระบายสิ่งที่อัดอั้นในอกออกมา “เฮอะ ! ช่างน่าขันสิ้นดี คุณทำกับผมเอาไว้เจ็บแสบมาก...คุณฟาร่า แล้วอยู่ๆ คุณคิดเหรอว่ากับการที่คุณแค่มาขอโทษผมง่ายๆ แบบนี้มันจะทำให้ผมยกโทษให้คุณได้ ตลกนัก...ฮะๆ” เขาหัวเราะหยัน “ความรู้สึกคนนะครับไม่ใช่แผ่นกระดาษที่หน้าขาดแล้วคุณจะใช้สกอตเทปแปะติดคืนกลับไปใหม่ได้ !!!” “…” “มันสายไปแล้วละครับ ทุกอย่าง...มันสูญสิ้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เช่นเดียวกับที่ไอ้เด็กผู้ชายใสซื่อคนนั้นที่คิดว่าความรักสวยงามก็ได้ตายจากโลกนี้ไปแล้วเช่นกัน !” “…” “อย่ามายุ่งกับผมอีก เราต่างคนต่างใช้ชีวิต ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ แล้วก็จำเอาไว้ด้วยว่า...ผมเกลียดคุณ --- คุณฟาร่า เตฮะราน !!!” เรื่องราวของพวกเขาสองคนจะเป็นยังไงต่อไป จะดำเนินไปในทิศทางไหน อุปสรรคและปัญหาที่มาในรูปแบบต่างๆ กันก็ถาโถมโจมตีมาทดสอบไม่จบสิ้น ฟาร่าจะหาทางออกได้ไหม แล้วจะเอาชนะใจ ‘ดัรวีช’ ได้หรือเปล่า ต้องติดตามได้ในเล่มครับ ###

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ไม่กี่สัปดาห์ก่อนงานแต่งงาน คู่หมั้นของฉัน ลืมฉันไปคนเดียว

ไม่กี่สัปดาห์ก่อนงานแต่งงาน คู่หมั้นของฉัน ลืมฉันไปคนเดียว

Gavin
5.0

งานแต่งงานของฉันกับอีธาน รัตนภาคิน เหลืออีกแค่ไม่กี่สัปดาห์ เจ็ดปีที่ผ่านมา ฉันมั่นใจเหลือเกินว่าอนาคตของเราจะสมบูรณ์แบบ แต่แล้ว อีธานก็อ้างว่าตัวเอง “ความจำเสื่อมเฉพาะส่วน” จากอุบัติเหตุที่ศีรษะ เขาจำทุกคนได้หมดยกเว้นฉัน ฉันพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาจำได้ จนกระทั่งได้ยินวิดีโอคอลของเขา “โคตรอัจฉริยะเลยว่ะ” เขาโอ้อวดกับเพื่อน อาการความจำเสื่อมของเขาเป็นแค่เรื่องโกหก เป็น “ใบเบิกทาง” ให้เขาได้ไปไล่ตามโคลอี้ วรินทร์ทิพย์ เน็ตไอดอลชื่อดังก่อนแต่งงาน หัวใจฉันแหลกสลาย แต่ก็แสร้งทำเป็นเชื่อต่อไป ฉันต้องทนเห็นเขาจีบโคลอี้อย่างเปิดเผย ทนดูรูปเซลฟี่เย้ยหยันของพวกเขาสองคน เขาหัวเราะเยาะความทุกข์ของฉัน และเลือกที่จะไปดูแลโคลอี้ที่แกล้งเจ็บป่วย หลังจากอุบัติเหตุที่เขาเป็นคนก่อ เขาทิ้งฉันที่บาดเจ็บไว้ข้างหลัง แล้วเลือกส่งโคลอี้ไปโรงพยาบาลก่อน เขายังพยายามจะตัดฉันออกจากความช่วยเหลือทางการเงินอีกด้วย ทำไมคู่หมั้นของฉันถึงกลายเป็นปีศาจที่เลือดเย็นและเจ้าเล่ห์ได้ขนาดนี้ การหักหลังของเขาทำลายความทรงจำดีๆ ทุกอย่างจนหมดสิ้น ฉันรู้สึกเหมือนคนโง่ที่ไปเชื่อใจคนโหดร้ายไร้หัวใจแบบนั้น ความหน้าด้านของเขาทำให้ฉันโลกหมุน แต่ฉันจะไม่ยอมเป็นเหยื่อของเขา แทนที่จะแตกสลาย แผนการอันเยียบเย็นก็ก่อตัวขึ้นในใจ ฉันจะทิ้งตัวตนเดิม แล้วกลายเป็นโอลีเวีย จันทรวงศ์ ฉันจะหายตัวไป ทิ้งเขา ทิ้งอดีต และทิ้งแหวนหมั้นของเขาไว้ข้างหลังตลอดกาล เพื่อทวงอิสรภาพของฉันกลับคืนมา

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.8

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง
5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ