เก็บดวงใจ...ไว้ให้เธอ. เพราะบุญคุณจะมีอานุภาพอยู่เหนือคำว่า รัก... แม้จะเจ็บปวดเพียงใด แต่หัวใจก็ไม่อาจฝืนให้ รัก...ได้ เพียงเพราะรัก ที่ถูกกีดกันด้วยฐานันดรที่ต่างกัน ทำให้เอกลัวที่จะพบกับรักครั้ง --------------------------------------- ปลาย อภิรัชโยธิน ชายผู้บีบบังคับให้เธอต้องรักอย่างไร้ทางเลือกและไม่รู้เนื้อรู้ตัว ------------- เทียมหทัย 'ขิม' หญิงสาวผู้ได้รับบาดเจ็บจากรักแรกและรักสุดท้าย อย่างไร้ทางเลือก -------------- ธรรทร ชายหนุ่มผู้จำต้องเลือกระหว่างความรักกับความกตัญญู และไม่มีหนทางหลีกเลี่ยงได้ ------------------------------------- “เอ่อ! มันเป็นของฉัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะมีอะไรกับคุณพ่อนี่” เธอเถียงเขา “งั้นเหรอ! เธอนี่มันหน้าด้านที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลย ฉันจะต้องหากล้องที่เธอกับพ่อฉันมีอะไรกันมาเปิดให้เธอดูเลยหรือยังไงเธอถึงจะยอมรับ ว่าเธอมันเลวทรามแค่ไหน ไร้ซึ่งยางอาย กินบนเรือน อึรดบนหลังคา นี่ถ้าแม่ฉันมาเห็น ท่านคงจะช๊อกตายไปเลยมั้ง เธอถึงจะสะใจ” เขาพูดเสียงเดือดดาลด้วยความโมโห และฤทธิ์ เหล้าที่ดื่มไป “คุณกำลังเข้าใจผิด ฉันไม่เคยทำอย่างที่คุณคิด” “ฉันต้องเชื่อคนไร้ยางอายอย่างเธอด้วยเหรอเทียมหทัย ฉันชักอยากจะรู้ซะแล้วสิว่า ลีลาบนเตียงของเธอ มันเด็ดขนาดไหน ไม่ว่าพ่อฉัน หรือไอ้ธรรทรนั่นมันถึงได้หลงเธอหัวปรักหัวปรำยอมทุ่มเงินซื้อเพลงที่เธอร้องตั้งเพลงละล้าน แล้วยังไม่รวมกับเพื่อนรักฉันด้วย นี่ถ้ามันรู้ว่าผู้หญิงที่มันรักนัก รักหนามีอดีตที่โสมมมันจะทำยังไง หรือว่ามันรู้แล้ว และก็ติดใจจนปล่อยเธอไปไม่ได้ งั้นฉันขอมีส่วนร่วมด้วยคนนะ เธอจะได้เอาไว้เลือกเยอะขึ้นไง” เขาพูดพลางเดินมาที่เธอ และกระชากชุดราตรีที่เกาะไว้เพียงช่วงเนินอกจนขาดวิ่น พร้อมทั้งเหวี่ยงร่างบางๆ จนถลาไปที่เตียงนอนหนานุ่ม “นี่คุณจะทำอะไรฉัน คุณจะบ้าเหรอ” เธอตะโกนใส่เขาพร้อมทั้งรีบพยุงตัวเองให้ขึ้นลุกจากเตียง แต่ก็สายเสียแล้วเพราะร่างกำยำนั้น ผลักเธอลงไปที่เตียงและนาบทับร่างเธอจนรู้สึกอึดอัด “เธอจะคร่ำครวญทำไม อีกไม่นานเธอก็จะได้รู้ว่ารสรักของฉันน่ะ ล้ำเลิศกว่าของพ่อฉันเพียงไหน ไม่แน่นะเธออาจจะเปลี่ยนจากพ่อฉันและลืมคนอื่นๆ มาเป็นจับฉันแทนก็ได้ แต่ยากหน่อยนะ เพราะฉันรู้ไส้ผู้หญิงอย่างเธอดี” ---------------------------------------
ตอนที่ 1
“น้องขิมไปไหนมาพี่ตามหาแทบแย่แน่ะรู้มั้ย แล้วเราไปซนอะไรกับคุณกรรชัยหรือเปล่าฮึ”
แพรวพรรณเดินเข้ามาสมทบกับชายหญิงวัยกลางคนที่มีท่าทางภูมิฐานบ่งบอกว่าเป็นคนมีฐานะดี ถึงแม้ว่าคนทั้งสองจะอยู่ในเครื่องแต่งกายสีดำทั้งคู่ ซึ่งบ่งบอกว่ากำลังไว้อาลัยให้กับคนที่เขาและภรรยาได้สูญเสียไป ซึ่งนั้นก็คือลูกสาวคนสุดท้องของเขานั่นเอง เขาและภรรยายิ้มให้แพรวพรรณด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร เขายืนขึ้นพร้อมกับมืออีกข้างจับมือของเด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่เธอเรียกว่ายัยขิมอยู่
“ดิฉันต้องขอประทานโทษด้วยนะคะคุณกรรชัย ไม่ทราบว่ายัยขิมซนอะไรหรือเปล่าคะ”
แพรวพรรณถามด้วยอาการกังวลเนืองๆ เพราะรู้กิตติศัพท์ ของเจ้าตัวเล็กที่ถูกพูดถึงดีว่าเอาการแค่ไหน
“อ๋อไม่เป็นไรครับ พอดีผมกับณีเห็นหนูคนนี้ไม่เข้าไปร่วมสนุกกับเพื่อนๆ ก็เลยแปลกใจ เราก็เลยเข้ามาถาม และจะชวนให้เข้าไปหาเพื่อนๆ ครับ เห็นกำลังกินไอศรีมกันอย่างเอร็ด อร่อยกันเลยครับ และอีกอย่างหนึ่งเด็กน้อยคนนี้ ก็หน้าตาจิ้มลิ้มเหมือนๆ กับ เอ่อ!”
ชายหนุ่มพูดไปพลางนึกถึงเจ้าตัวน้อยแสนซนของเขาอย่างช่วยไม่ได้
“คุณคะเราสัญญากันแล้วนะว่าเราจะพยายามไม่ให้ยัยขิมที่อยู่บนสวรรค์ต้องเสียใจที่ไม่ได้อยู่กับเราแล้ว”
พรรณี ผู้เป็นภรรยารีบเดินเข้ามาจับมือผู้เป็นสามี เพื่อไม่ให้นึกถึงเรื่องราวที่มันขมขื่นจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อไม่กี่เดือนนี้
“ผมขอโทษนะ ผมจะพยายามทำไม่ให้ยัยขิมต้องเสียใจอีก ผมให้สัญญานะคุณ” กรรชัยให้คำมั่นสัญญากับภรรยา พร้อมทั้งกุมมือภรรยาอย่างคนมีความมั่นใจ
“ดิฉันต้องขอแสดงความเสียใจกับคุณกรรชัย และคุณพรรณีอีกครั้งนะคะ กับการสูญเสียคุณน้องขิมไป แต่ดิฉันเห็นด้วยกับคุณพรรณีนะคะคุณกรรชัย ถ้าเรามัวแต่เศร้าโศกจะพลอยให้วิญญาณของคุณน้องขิมไม่เป็นสุขไปด้วยนะคะ” แพรวพรรณกล่าวเสริมอีกแรงเพื่อให้กรรชัยคล้อยตามไปกับพรรณี
“เมื่อกี้คุณแพรวบอกว่าเด็กคนนี้ชื่ออะไรนะคะ ใช่ยัยขิมหรือเปล่าคะ”
พรรณีถาม เพราะรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ชื่อที่ทุกคนเรียกเจ้าตัวเล็กนี้ ช่างเหมือนกับชื่อยัยขิมของเธอซะเหลือเกิน แถมก็เป็นวัยเดียวกันด้วย และที่สำคัญครั้งแรกที่เธอเจอใบหน้าน้อยๆ นี้แล้ว ทำให้เธอและสามีนึกถึงลูกสาวขึ้นมาจับใจอย่างบอกไม่ถูกเลย ซึ่งทั้งเธอและสามีก็กำลังจะทำใจได้ในระยะหนึ่งแล้ว แต่เมื่อเธอและสามีได้เข้ามาทำบุญและเลี้ยงอาหารกลางวันให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ ก็ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อลูกสาวที่จากไปด้วยอุบัติเหตุของคนทั้งสองหวนกลับมาอีก
“ใช่ค่ะ เราจะเรียกว่ายัยขิมค่ะ และเพื่อนๆ กับพี่เลี้ยงบางคนก็จะเรียก ว่ายัยขิมเพี้ยนค่ะ”
แพรวพรรณสาธยาย ซึ่งสร้างความฉงนสนเท่ห์ให้กับคนทั้งสองพอสมควรซึ่งแพรวพรรณสามารถดูออกได้จากทางสีหน้าของคนทั้งสอง ว่าต้องการเหตุผลว่าทำไม
“ทำไมล่ะครับ”
“ก็เจ้าตัวนี้ซนเหลือเกินค่ะ วันๆ มีเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้พี่เลี้ยงและเพื่อนต้องปวดหัวทุกวันค่ะคุณกรรชัย”
แพรวพรรณอมยิ้มเล็กน้อย และเอามือไปลูบหัวเจ้าตัวเล็กด้วยอาการเอ็นดู ซึ่งก็เป็นคุณสมบัติของนักสังคมสงเคราะห์ทั่วๆ ไปที่จะรักและเอ็นดูผู้ที่เธอกำลังให้การดูแลอยู่เป็นอย่างดี
“อ๋ออย่างนี้นี่เองเหรอคะ” พรรณีพยักหน้ารับรู้
“ก็บางครั้งเท่านั้นนะคะ แต่ก็มีบางอารมณ์ที่จะชอบอยู่คนเดียวเป็นตัวของตัวเองค่ะ จะไม่อยากให้ใครมายุ่ง เหมือนตอนนี้ไงคะ ยัยขิมก็จะแยกออกมาจากเพื่อนๆ อย่างนี้ล่ะค่ะ” แพรวพรรณตอบ
“ผมไม่ยักกะรู้นะครับว่านิสัยยิ่งเหมือนยัยขิมของผมเปี๊ยบเลยครับ รายนั้นน่ะ ถ้าลองไม่ถูกใจใครหรืออะไรก็แล้วแต่ล่ะครับ ผมต้องเดือดร้อนไปตามที่บ้านคุณย่าทุกทีเลย” กรรชัยอธิบายถึงลูกสาว
“ไม่ค่อยเหมือนเจ้าพี่ชายเท่าไหร่ครับ รายนั้นมีอะไรก็จะเก็บเอาไว้ไม่ค่อยบอกให้ใครเขารู้เท่าไหร่ เราต่างหากต้องเป็นคนคอยเดาใจว่าเขาต้องการอะไร ไม่ชอบอะไร ก็ต่างกันพอสมควรพี่น้องคู่นี้”
กรรชัยพูดถึงลูกชายคนโตซึ่งตอนนี้อายุก็ 11 ขวบกว่าๆ ที่กำลังขะมักเขม้นกับการตักไอศรีมให้เพื่อนๆ ทางด้านในโรงอาหาร “แต่น้องปลายก็อายุเพิ่งไม่เท่าไหร่นะคะ แต่ดูแล้วจะเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ดีมากๆ เลยค่ะ ดูเป็นผู้ใหญ่เอามากๆ ต่าง จากเมื่อปีที่แล้วที่คุณกรรชัยมาเลี้ยงข้าวเด็กๆ ไปมากเลยนะคะ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าน้องปลายกำลังเสียใจเรื่องน้องสาวอยู่คะ” แพรวพรรณถามเพราะสงสัยจริงๆ
“อายุก็ห่างจากน้องสาว 6 ปีเท่านั้นเองค่ะคุณแพรว แต่ตั้งแต่ยัยขิมจากไปเขาก็บอกกับณีว่าไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ต้องกังวลเรื่องเขา และอีกอย่างเขาก็บอกนะคะว่าเขาจะต้องทำงานเลี้ยงพ่อแม่และก็คุณย่าต่อไปน่ะค่ะ” พรรณีอธิบายเพิ่ม
“ดูช่างน่าเอ็นดูจริงๆ เลยนะคะ ตัว แค่นี้ยังรู้จักคิดเรื่องการเรื่องงาน แล้วไม่ทราบว่าน้องปลายจะบินไปเรียนที่อเมริกาเมื่อไหร่นะคะ”
แพรวพรรณถามเพื่อความแน่ใจ เพราะจำได้ว่าคุณกรรชัยบอกเมื่อวันที่โทรมาแจ้งว่าจะเลี้ยงข้าวเด็กๆ ว่าลูกชายจะไปเรียนที่อเมริกา
“ก็อีกสองเดือนครับ นี่ถ้าเสร็จจากนี่ก็ต้องเตรียมอะไร ให้เขาล่ะครับ แล้วก็ให้คุณแม่ไปส่ง ส่วนผมก็ต้องดูงานที่โรงแรม พอดีเดือนหน้าก็จะไปเปิด
สาขาใหม่ที่พัทยา และก็อีกสามเดือนก็จะไปเปิดที่หัวหินต่อครับ ก็เลยยุ่งๆ คงต้องพึ่งณีกับคุณแม่ผมล่ะครับคราวนี้”
บทที่ 1 1
15/09/2022
บทที่ 2 2
15/09/2022
บทที่ 3 3
15/09/2022
บทที่ 4 4
15/09/2022
บทที่ 5 5
15/09/2022
บทที่ 6 6
15/09/2022
บทที่ 7 7
15/09/2022
บทที่ 8 8
15/09/2022
บทที่ 9 9
15/09/2022
บทที่ 10 10
15/09/2022
บทที่ 11 11
15/09/2022
บทที่ 12 12
15/09/2022
บทที่ 13 13
15/09/2022
บทที่ 14 14
15/09/2022
บทที่ 15 15
15/09/2022
บทที่ 16 16
15/09/2022
บทที่ 17 17
15/09/2022
บทที่ 18 18
15/09/2022
บทที่ 19 19
15/09/2022
บทที่ 20 20
15/09/2022
บทที่ 21 21
15/09/2022
บทที่ 22 22
15/09/2022
บทที่ 23 23
15/09/2022
บทที่ 24 24
15/09/2022
บทที่ 25 25
15/09/2022
บทที่ 26 26
15/09/2022
บทที่ 27 27
15/09/2022
บทที่ 28 28
15/09/2022
บทที่ 29 29
15/09/2022
บทที่ 30 30
15/09/2022
บทที่ 31 31
15/09/2022
บทที่ 32 32
15/09/2022
บทที่ 33 33
15/09/2022
บทที่ 34 34
15/09/2022
บทที่ 35 35
15/09/2022
บทที่ 36 36
15/09/2022
บทที่ 37 37
15/09/2022
บทที่ 38 38
15/09/2022
บทที่ 39 39
15/09/2022
บทที่ 40 40
15/09/2022
หนังสืออื่นๆ ของ สนพ. อิ่มรัก
ข้อมูลเพิ่มเติม