Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เก็บดวงใจไว้ให้เธอ [พระเอกร้ายสุดๆ ท้องแล้วหนี]

เก็บดวงใจไว้ให้เธอ [พระเอกร้ายสุดๆ ท้องแล้วหนี]

สนพ. อิ่มรัก

5.0
ความคิดเห็น
123.2K
ชม
151
บท

เก็บดวงใจ...ไว้ให้เธอ. เพราะบุญคุณจะมีอานุภาพอยู่เหนือคำว่า รัก... แม้จะเจ็บปวดเพียงใด แต่หัวใจก็ไม่อาจฝืนให้ รัก...ได้ เพียงเพราะรัก ที่ถูกกีดกันด้วยฐานันดรที่ต่างกัน ทำให้เอกลัวที่จะพบกับรักครั้ง --------------------------------------- ปลาย อภิรัชโยธิน ชายผู้บีบบังคับให้เธอต้องรักอย่างไร้ทางเลือกและไม่รู้เนื้อรู้ตัว ------------- เทียมหทัย 'ขิม' หญิงสาวผู้ได้รับบาดเจ็บจากรักแรกและรักสุดท้าย อย่างไร้ทางเลือก -------------- ธรรทร ชายหนุ่มผู้จำต้องเลือกระหว่างความรักกับความกตัญญู และไม่มีหนทางหลีกเลี่ยงได้ ------------------------------------- “เอ่อ! มันเป็นของฉัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะมีอะไรกับคุณพ่อนี่” เธอเถียงเขา “งั้นเหรอ! เธอนี่มันหน้าด้านที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลย ฉันจะต้องหากล้องที่เธอกับพ่อฉันมีอะไรกันมาเปิดให้เธอดูเลยหรือยังไงเธอถึงจะยอมรับ ว่าเธอมันเลวทรามแค่ไหน ไร้ซึ่งยางอาย กินบนเรือน อึรดบนหลังคา นี่ถ้าแม่ฉันมาเห็น ท่านคงจะช๊อกตายไปเลยมั้ง เธอถึงจะสะใจ” เขาพูดเสียงเดือดดาลด้วยความโมโห และฤทธิ์ เหล้าที่ดื่มไป “คุณกำลังเข้าใจผิด ฉันไม่เคยทำอย่างที่คุณคิด” “ฉันต้องเชื่อคนไร้ยางอายอย่างเธอด้วยเหรอเทียมหทัย ฉันชักอยากจะรู้ซะแล้วสิว่า ลีลาบนเตียงของเธอ มันเด็ดขนาดไหน ไม่ว่าพ่อฉัน หรือไอ้ธรรทรนั่นมันถึงได้หลงเธอหัวปรักหัวปรำยอมทุ่มเงินซื้อเพลงที่เธอร้องตั้งเพลงละล้าน แล้วยังไม่รวมกับเพื่อนรักฉันด้วย นี่ถ้ามันรู้ว่าผู้หญิงที่มันรักนัก รักหนามีอดีตที่โสมมมันจะทำยังไง หรือว่ามันรู้แล้ว และก็ติดใจจนปล่อยเธอไปไม่ได้ งั้นฉันขอมีส่วนร่วมด้วยคนนะ เธอจะได้เอาไว้เลือกเยอะขึ้นไง” เขาพูดพลางเดินมาที่เธอ และกระชากชุดราตรีที่เกาะไว้เพียงช่วงเนินอกจนขาดวิ่น พร้อมทั้งเหวี่ยงร่างบางๆ จนถลาไปที่เตียงนอนหนานุ่ม “นี่คุณจะทำอะไรฉัน คุณจะบ้าเหรอ” เธอตะโกนใส่เขาพร้อมทั้งรีบพยุงตัวเองให้ขึ้นลุกจากเตียง แต่ก็สายเสียแล้วเพราะร่างกำยำนั้น ผลักเธอลงไปที่เตียงและนาบทับร่างเธอจนรู้สึกอึดอัด “เธอจะคร่ำครวญทำไม อีกไม่นานเธอก็จะได้รู้ว่ารสรักของฉันน่ะ ล้ำเลิศกว่าของพ่อฉันเพียงไหน ไม่แน่นะเธออาจจะเปลี่ยนจากพ่อฉันและลืมคนอื่นๆ มาเป็นจับฉันแทนก็ได้ แต่ยากหน่อยนะ เพราะฉันรู้ไส้ผู้หญิงอย่างเธอดี” ---------------------------------------

บทที่ 1 1

ตอนที่ 1

“น้องขิมไปไหนมาพี่ตามหาแทบแย่แน่ะรู้มั้ย แล้วเราไปซนอะไรกับคุณกรรชัยหรือเปล่าฮึ”

แพรวพรรณเดินเข้ามาสมทบกับชายหญิงวัยกลางคนที่มีท่าทางภูมิฐานบ่งบอกว่าเป็นคนมีฐานะดี ถึงแม้ว่าคนทั้งสองจะอยู่ในเครื่องแต่งกายสีดำทั้งคู่ ซึ่งบ่งบอกว่ากำลังไว้อาลัยให้กับคนที่เขาและภรรยาได้สูญเสียไป ซึ่งนั้นก็คือลูกสาวคนสุดท้องของเขานั่นเอง เขาและภรรยายิ้มให้แพรวพรรณด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร เขายืนขึ้นพร้อมกับมืออีกข้างจับมือของเด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่เธอเรียกว่ายัยขิมอยู่

“ดิฉันต้องขอประทานโทษด้วยนะคะคุณกรรชัย ไม่ทราบว่ายัยขิมซนอะไรหรือเปล่าคะ”

แพรวพรรณถามด้วยอาการกังวลเนืองๆ เพราะรู้กิตติศัพท์ ของเจ้าตัวเล็กที่ถูกพูดถึงดีว่าเอาการแค่ไหน

“อ๋อไม่เป็นไรครับ พอดีผมกับณีเห็นหนูคนนี้ไม่เข้าไปร่วมสนุกกับเพื่อนๆ ก็เลยแปลกใจ เราก็เลยเข้ามาถาม และจะชวนให้เข้าไปหาเพื่อนๆ ครับ เห็นกำลังกินไอศรีมกันอย่างเอร็ด อร่อยกันเลยครับ และอีกอย่างหนึ่งเด็กน้อยคนนี้ ก็หน้าตาจิ้มลิ้มเหมือนๆ กับ เอ่อ!”

ชายหนุ่มพูดไปพลางนึกถึงเจ้าตัวน้อยแสนซนของเขาอย่างช่วยไม่ได้

“คุณคะเราสัญญากันแล้วนะว่าเราจะพยายามไม่ให้ยัยขิมที่อยู่บนสวรรค์ต้องเสียใจที่ไม่ได้อยู่กับเราแล้ว”

พรรณี ผู้เป็นภรรยารีบเดินเข้ามาจับมือผู้เป็นสามี เพื่อไม่ให้นึกถึงเรื่องราวที่มันขมขื่นจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อไม่กี่เดือนนี้

“ผมขอโทษนะ ผมจะพยายามทำไม่ให้ยัยขิมต้องเสียใจอีก ผมให้สัญญานะคุณ” กรรชัยให้คำมั่นสัญญากับภรรยา พร้อมทั้งกุมมือภรรยาอย่างคนมีความมั่นใจ

“ดิฉันต้องขอแสดงความเสียใจกับคุณกรรชัย และคุณพรรณีอีกครั้งนะคะ กับการสูญเสียคุณน้องขิมไป แต่ดิฉันเห็นด้วยกับคุณพรรณีนะคะคุณกรรชัย ถ้าเรามัวแต่เศร้าโศกจะพลอยให้วิญญาณของคุณน้องขิมไม่เป็นสุขไปด้วยนะคะ” แพรวพรรณกล่าวเสริมอีกแรงเพื่อให้กรรชัยคล้อยตามไปกับพรรณี

“เมื่อกี้คุณแพรวบอกว่าเด็กคนนี้ชื่ออะไรนะคะ ใช่ยัยขิมหรือเปล่าคะ”

พรรณีถาม เพราะรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ชื่อที่ทุกคนเรียกเจ้าตัวเล็กนี้ ช่างเหมือนกับชื่อยัยขิมของเธอซะเหลือเกิน แถมก็เป็นวัยเดียวกันด้วย และที่สำคัญครั้งแรกที่เธอเจอใบหน้าน้อยๆ นี้แล้ว ทำให้เธอและสามีนึกถึงลูกสาวขึ้นมาจับใจอย่างบอกไม่ถูกเลย ซึ่งทั้งเธอและสามีก็กำลังจะทำใจได้ในระยะหนึ่งแล้ว แต่เมื่อเธอและสามีได้เข้ามาทำบุญและเลี้ยงอาหารกลางวันให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ ก็ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อลูกสาวที่จากไปด้วยอุบัติเหตุของคนทั้งสองหวนกลับมาอีก

“ใช่ค่ะ เราจะเรียกว่ายัยขิมค่ะ และเพื่อนๆ กับพี่เลี้ยงบางคนก็จะเรียก ว่ายัยขิมเพี้ยนค่ะ”

แพรวพรรณสาธยาย ซึ่งสร้างความฉงนสนเท่ห์ให้กับคนทั้งสองพอสมควรซึ่งแพรวพรรณสามารถดูออกได้จากทางสีหน้าของคนทั้งสอง ว่าต้องการเหตุผลว่าทำไม

“ทำไมล่ะครับ”

“ก็เจ้าตัวนี้ซนเหลือเกินค่ะ วันๆ มีเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้พี่เลี้ยงและเพื่อนต้องปวดหัวทุกวันค่ะคุณกรรชัย”

แพรวพรรณอมยิ้มเล็กน้อย และเอามือไปลูบหัวเจ้าตัวเล็กด้วยอาการเอ็นดู ซึ่งก็เป็นคุณสมบัติของนักสังคมสงเคราะห์ทั่วๆ ไปที่จะรักและเอ็นดูผู้ที่เธอกำลังให้การดูแลอยู่เป็นอย่างดี

“อ๋ออย่างนี้นี่เองเหรอคะ” พรรณีพยักหน้ารับรู้

“ก็บางครั้งเท่านั้นนะคะ แต่ก็มีบางอารมณ์ที่จะชอบอยู่คนเดียวเป็นตัวของตัวเองค่ะ จะไม่อยากให้ใครมายุ่ง เหมือนตอนนี้ไงคะ ยัยขิมก็จะแยกออกมาจากเพื่อนๆ อย่างนี้ล่ะค่ะ” แพรวพรรณตอบ

“ผมไม่ยักกะรู้นะครับว่านิสัยยิ่งเหมือนยัยขิมของผมเปี๊ยบเลยครับ รายนั้นน่ะ ถ้าลองไม่ถูกใจใครหรืออะไรก็แล้วแต่ล่ะครับ ผมต้องเดือดร้อนไปตามที่บ้านคุณย่าทุกทีเลย” กรรชัยอธิบายถึงลูกสาว

“ไม่ค่อยเหมือนเจ้าพี่ชายเท่าไหร่ครับ รายนั้นมีอะไรก็จะเก็บเอาไว้ไม่ค่อยบอกให้ใครเขารู้เท่าไหร่ เราต่างหากต้องเป็นคนคอยเดาใจว่าเขาต้องการอะไร ไม่ชอบอะไร ก็ต่างกันพอสมควรพี่น้องคู่นี้”

กรรชัยพูดถึงลูกชายคนโตซึ่งตอนนี้อายุก็ 11 ขวบกว่าๆ ที่กำลังขะมักเขม้นกับการตักไอศรีมให้เพื่อนๆ ทางด้านในโรงอาหาร “แต่น้องปลายก็อายุเพิ่งไม่เท่าไหร่นะคะ แต่ดูแล้วจะเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ดีมากๆ เลยค่ะ ดูเป็นผู้ใหญ่เอามากๆ ต่าง จากเมื่อปีที่แล้วที่คุณกรรชัยมาเลี้ยงข้าวเด็กๆ ไปมากเลยนะคะ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าน้องปลายกำลังเสียใจเรื่องน้องสาวอยู่คะ” แพรวพรรณถามเพราะสงสัยจริงๆ

“อายุก็ห่างจากน้องสาว 6 ปีเท่านั้นเองค่ะคุณแพรว แต่ตั้งแต่ยัยขิมจากไปเขาก็บอกกับณีว่าไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ต้องกังวลเรื่องเขา และอีกอย่างเขาก็บอกนะคะว่าเขาจะต้องทำงานเลี้ยงพ่อแม่และก็คุณย่าต่อไปน่ะค่ะ” พรรณีอธิบายเพิ่ม

“ดูช่างน่าเอ็นดูจริงๆ เลยนะคะ ตัว แค่นี้ยังรู้จักคิดเรื่องการเรื่องงาน แล้วไม่ทราบว่าน้องปลายจะบินไปเรียนที่อเมริกาเมื่อไหร่นะคะ”

แพรวพรรณถามเพื่อความแน่ใจ เพราะจำได้ว่าคุณกรรชัยบอกเมื่อวันที่โทรมาแจ้งว่าจะเลี้ยงข้าวเด็กๆ ว่าลูกชายจะไปเรียนที่อเมริกา

“ก็อีกสองเดือนครับ นี่ถ้าเสร็จจากนี่ก็ต้องเตรียมอะไร ให้เขาล่ะครับ แล้วก็ให้คุณแม่ไปส่ง ส่วนผมก็ต้องดูงานที่โรงแรม พอดีเดือนหน้าก็จะไปเปิด

สาขาใหม่ที่พัทยา และก็อีกสามเดือนก็จะไปเปิดที่หัวหินต่อครับ ก็เลยยุ่งๆ คงต้องพึ่งณีกับคุณแม่ผมล่ะครับคราวนี้”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ สนพ. อิ่มรัก

ข้อมูลเพิ่มเติม
ตรวนเสน่หา

ตรวนเสน่หา

มหาเศรษฐี

5.0

ตรวนบาปที่ครอบครัวเขา มีต่อครอบครัวเธอก็ร้ายแรงจนดิ้นไม่หลุดแล้ว แต่เขายังสร้างตรวนใหม่ขึ้นมา ผูกมักให้ตัวเองหมดหนทางดิ้นให้หลุดได้ แม้เธอจะไม่ปรารถนาจะล่ามเขาไว้ยังไง แต่เขาก็ไม่อาจจะหนีไปไหนได้แล้ว ------------------------------ นายแพทย์เมธี พัฒนาธรสกุล ได้พาตัวเองและครอบครัว ถูกพันธนาการด้วยตรวนบาปกับครอบครัวศรีสมบูรณ์ จนไม่อาจจะปลดปล่อยให้หลุดพ้นได้ *** ซ้ำร้ายไปกว่านั้น นายแพทย์เขมินท์ พัฒนาธรสกุล ลูกชายคนโตของตระกูล *** กลับทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงกว่าที่เป็น ด้วยการสร้างตรวนบาปใหม่ขึ้นมา *** และยิ่งเป็นตรวนแห่งเสน่หาด้วยแล้ว ใยเลยที่เขากับครอบครัวจะพาตัวเองให้เป็นอิสระได้ ปรียา ศรีสมบูรณ์ ผู้ไม่คิดจะหยิบยื่นตรวนให้ใคร แต่เมื่อได้สูญเสียแล้ว ใยเลยจะปล่อยให้ตัวเองและครอบครัวยุ่งยาก หม้ายสาวจึงไม่คิดจะปลดตรวนบาปให้ใครง่ายๆ *** สถานการณ์ของตัวเองยิ่งเป็นต่อ เมื่อ มัสยา ศรีสมบูรณ์ ลูกชายคนโตของบ้าน *** ถูกดึงเข้าไปอยู่ในเกมที่ทำให้อีกฝ่ายย่ำแย่ขึ้นกว่าเดิม นั่นเป็นโอกาสให้หม้ายสาวมีอำนาจต่อรองมากขึ้น *** แต่มัสยากลับไม่ปรารถนาจะล่ามเขาไว้ ในเมื่อเขาไม่ได้มีใจ ใยเลยที่เธอจะต้องจองจำเขาให้ตัวเองเจ็บช้ำใจไปเปล่าๆ ------------------------------

เจ้าสาวแสงตะวัน [Affection of The Sun ]

เจ้าสาวแสงตะวัน [Affection of The Sun ]

สมัยใหม่

5.0

ชายหนุ่มผู้ที่วิ่งหนีข้อผูกมัด แต่ต้องมาเจอหญิงสาวที่สุดแสนธรรมดาผูกมัดและล่ามเขาไว้ในสถานะ'สามีที่ถูกต้องตามกฏหมาย' คราแรกรังเกียจนักหนา แต่เอาไปเอามากลับเป็นเขาที่วิ่งตามล่า&มัดเธอไว้กับเขาตลอดกาล ------------------------------ แสงตะวัน หนุ่มใหญ่วัยสามสิบหก เจ้าของฟาร์มแสงตะวัน ซึ่งเป็นฟาร์มม้าใหญ่ที่สุดในประเทศ ผู้มากด้วยเงินทองและเสน่ห์ --------- เหมือนดาว สาวแสนสวย เปรี้ยว เฉี่ยวและน่ารัก ผู้มีมาดมั่น และไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ êตัวอย่างสักเล็กน้อย [น้ำจิ้ม] ê "ผมไม่ได้บอกว่าจะไม่หย่า ผมแค่บอกว่าจะยืดเวลาหย่าไปอีกสามปี เพื่อเหมือนดาวจะได้พิสูจน์ให้ผมเห็นก่อนว่าสามารถดูแลอะไรต่อมิอะไรได้เอง ไม่ใช่เอาไปทำโดยไม่มีประสบการณ์ไม่นานเดี๋ยวก็เจ้ง หรือไม่ก็ขาดทุนเหมือนครั้งก่อนจนผมต้องเหนื่อยมาทำให้มันฟื้นขึ้นมาอีก” แสงตะวันเลยอธิบายด้วยความใจเย็นอีกครั้งหลังจากทนายบอกไปในรอบแรก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่มีใครอยากเชื่อ “ถ้าถึงสามปีแล้วคุณเห็นว่าฉันยังไม่พร้อมเหมือนวันนี้ล่ะ”คนไม่ยอมใครเลยรีบยิงคำถามตรงๆ “คุณก็คงต้องไปฟ้องเอาแล้วล่ะ และผมขอแนะนำให้หาทนายเก่งๆ ไว้ด้วยนะ เพราะคุณสุทินฝีมือไม่เป็นสองรองใคร แล้วค่าใช้จ่ายในส่วนนี้คุณไม่มีสิทธิ์มาเบิกจากผมแม้แต่บาทเดียว” “ว่ายังไงล่ะ จะเอายังไงก็บอกมา คุณสุทินจะได้ทำข้อตกลงร่วมกันอีกรอบ” แสงตะวันไม่ใคร่จะแยแสนักว่าเด็กสาวตรงหน้าจะคิดยังไง เพราะรู้ดีว่าไม่อาจจะปล่อยทุกอย่างให้พังลงมาอีกรอบได้แน่ “ฉันจะไม่หย่าและจะทำงานที่นี่อย่างที่คุณต้องการ ถ้าคุณตกลงจะจัดงานแต่งงานระหว่างเราให้ทุกคนรอบข้างคุณและฉันรับรู้ ฉันจะย้ายเข้ามาอยู่บ้านของคุณในฐานะภรรยาไม่ใช่ฐานะพนักงานธรรมดาๆ ทุกคนรอบข้างคุณจะต้องให้ความนับหน้าถือตาว่าฉันที่เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณ มีสิทธิ์มีเสียงเท่าๆ กับคุณในทุกๆ เรื่อง พอครบสามปีหรืออาจจะช้าหรือเร็วกว่านั้นที่คุณเห็นว่าฉันมีความสามารถจะบริหารงานเองได้ เราถึงจะหย่ากัน” “ผมไม่ได้อยากมีเมีย และไม่คิดว่าจะมีด้วย โดยเฉพาะเมียเด็กที่ฟันน้ำนมยังไม่หลุดด้วยซ้ำ” “ฉันเป็นเพียงภรรยาในนามของคุณเท่านั้น เราจะไม่เกี่ยวข้องกันใดๆ เหมือนที่เคยเป็นมา ยกเว้นให้คนรอบข้างรับรู้ และฉันเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ร่วมกับคุณ มีสิทธิ์มีเสียงเหนือบรรดาคู่นอนของคุณเท่านั้น ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันไม่ว่าอะไรในเรื่องนี้หรอก เพราะฉันเองก็มีแฟนอยู่แล้วทั้งคน เราจะให้อิสระกันและกันในเรื่องนี้ คุณจะไปไหน กับใคร เมื่อไหร่ฉันไม่สน และในทางเดียวกันคุณก็ต้องไม่สนด้วยว่าฉันจะไปไหน กับใคร เมื่อไหร่ แฟร์ไหมคะวิธีนี้” “ทำไมผมต้องยอมด้วยล่ะ ในเมื่อผมไม่ใช่คนที่อยากจะได้อำนาจบริหารคืนเหมือนคุณนี่”

สายธารรักซาตาน [โลลิคอน/กินเด็ก/ท้องแล้วหนี]

สายธารรักซาตาน [โลลิคอน/กินเด็ก/ท้องแล้วหนี]

มหาเศรษฐี

5.0

อสมา อิศรานุกล เขาและน้อง ๆ ทั้งสี่คน คือนันทินี นันทิตา และสรนันท์ต่างไม่มีใครลืมอดีตอันแสนขมขื่นจากน้ำมือพ่อได้ แม้ทั้งพ่อและแม่จะจากไปหลายปีแล้วก็ตาม โดยเฉพาะอสมาซึ่งเป็นพี่คนโตและจำทุกอย่างได้อย่างแม่นยำนั้นไม่มีวันลืมเลย บวกกับที่ชีวิตคู่ของเขาต้องพบกับความล้มเหลว ด้วยตัวเขาเองเป็นคนทำลายลงอย่างไม่น่าให้อภัย จนภรรยาคือเจนนิเฟอร์ขอหย่าขาดมาเป็นสิบปีแล้ว และหนีกลับไปอยู่อเมริกาตั้งแต่นั้นมา แต่เขาก็ยังเฝ้าตามง้องอนขอคืนดีกับเธอและขอโอกาสแก้ตัวกับเธอมาตลอดเช่นกัน ------------------------------- ปาลิตา พฤกษาชาติ นักศึกษาสาวที่อีกหกเดือนจะจบปริญญาแล้ว จำเป็นจะต้องก้าวเข้ามาในชีวิตอสมาอย่างไม่รู้ตัวมาก่อน เมื่อด้วงผู้เป็นแม่เลี้ยง กับนิรมลแม่แท้ ๆ ของตัวเองเอาที่สวนมาจำนองกับอสมาไว้ด้วยวงเงินสูงถึงห้าล้าน แต่ไม่มีปัญญามาไถ่ถอนเมื่อเลยเวลามามากแล้ว ด้วงที่ขี้เหล้าขี้บ่อนและเห็นแก่ตัว จึงรีบเสนอเอาลูกเลี้ยงอย่างปาลิตามาแลกกับหนี้ห้าล้านทันที นิรมลไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง อสมาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้เช่นกัน ------------------------------------- แต่เมื่อเขาเห็นปาลิตาแล้วก็เกิดสงสารขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก และกลัวว่าสักวันเด็กสาวจะต้องถูกด้วงทำมิดีมิร้ายด้วยแน่ ๆ เขาจึงตกลงใจรับข้อเสนอ โดยมีเงื่อนไขเพียงแค่ให้ปาลิตาอยู่รับใช้เขาสองปี จากนั้นเขาก็จะคืนที่สวนให้ทันที ปาลิตาที่มีสิงหาเป็นคนรักอยู่แล้วเสียใจร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเมื่อสงสารแม่จับใจ ส่วนพ่อเลี้ยงนั้น ปาลิตาเกลียดเข้าไส้จนไม่เคยมองหน้าและไม่พูดด้วยเลย และความเกลียดชังนี้ก็ถูกเหมารวมไปถึงอสมาด้วย เพราะปาลิตา สิงหา และอริสา เพื่อนสนิทของปาลิตาและเป็นลูกของคนในสวนอสมาเอง

ไฟล้อมน้ำ [Alternative Bride]

ไฟล้อมน้ำ [Alternative Bride]

สมัยใหม่

5.0

พลาธิป ชายหนุ่มผู้เจ็บช้ำจากคนรัก ปิยธิดาส่วนปราณปริยาวดี ซึ่งเป็นน้องสาวต่างแม่กับคนรักเก่าของเขา คือหญิงสาวที่เขามองเห็นเป็นคนแรกที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการเย้ยหยันแฟนสาวที่มองไม่เห็นค่าของเขา ---------------------------------- พลาธิป พงษ์พันธุ์สถาพร ชายหนุ่มผู้เจ็บช้ำจากคนรัก ปิยธิดา ศรีสวัสดิ์วัฒนา ที่สลัดเขาทิ้งอย่างไม่เสียดาย แล้วหันหน้าเข้าสู่ประตูวิวาห์กับเพื่อนรักของเขา ด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ที่ว่า ‘เขามีพ่อที่เจ้าชู้ หลายลูกหลายเมีย ซึ่งนั่นอาจจะทำให้เขาได้เลือดแย่ๆ จากพ่อมาด้วยล้านเปอร์เซ็น และโอกาสที่เขาจะทำให้คนรักต้องกลายเป็นเมียหลวงมีมากมายจนอาจจะทำให้ชีวิตครอบครัวพินพังลง’ นั่นทำให้เขาไม่เข้าใจ ขุ่นเคืองใจ และแค้นเคืองแฟนสาว กับเพื่อนสนิทที่พิชิตใจหญิงคนรักของเขาไปได้ในเวลาอันเฉียดฉิว ก่อนที่เขาจะคว้าชัยชนะได้ไม่กี่อึดใจ ปราณปริยาวดี ศรีสวัสดิ์วัฒนา ซึ่งเป็นน้องสาวต่างแม่กับคนรักเก่าของเขา คือหญิงสาวที่เขามองเห็นเป็นคนแรกที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการเย้ยหยันแฟนสาวที่มองไม่เห็นค่าของเขา และทันทีที่คิดได้ เขารีบส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอและแต่งงงานด้วยทันที ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาคาดหวังจะให้คนรัก ถูกหยิบยื่นให้ปราณปริยาวดี ซึ่งเป็นลูกเมียน้อยและเป็นผู้หญิงที่อดีตคนรักของเขาเกลียดชังมาก นั่นทำให้เขาสะใจที่ได้เห็นอดีตแฟนเต้นเป็นเจ้าเข้าด้วยความเสียดายที่สลัดคนอย่างเขาไป แต่สุดท้ายเขาก็รู้ว่าตัวเองทำพลาดที่ดึงเธอเข้ามาในชีวิต เพราะจากเดิมที่เขาเกลียดลูกเมียน้อยเข้าไส้ กลับกลายเป็นว่าเขาเผลอใจรักเธอเข้าเต็มๆ หากก็ยังปากหนักปากแข็งอยู่นั่นเอง ปรานปริยากรเองก็ไม่คิดจะมอบหัวใจให้เขาง่ายๆ ทั้งสองจะลงเอยกันด้วยดีได้หรือไม่ เพราะอะไร เพราะใคร และทำไม ‘ไฟล้อมน้ำ’ มีคำตอบรอให้ท่านค้นหาแล้ว แม้ในโลกความเป็นจริงจะต่างจากความฝัน แต่โลกในนิยายรักนั้นจะสรรค์สร้างรอยยิ้มให้คุณได้ ด้วยรักและมิตรไมตรี / กันเกรา ---------------------------------- “ถ้าคุณเสียดายมันมาก ฉันจะคืนให้ทุกบาททุกสตางค์ ปล่อย!!! ฉันจะกลับไปนอนบ้าน คุณพร้อมเมื่อไหร่นัดวันหย่ามาได้เลย ฉันพร้อมเสมอ” “คิดเหรอว่าผมจะอยากได้เงินคืน แล้วคิดเหรอว่าผมจะปล่อยคุณให้ไปออเซาะกับไอ้มือระนาดนั่นได้ง่ายๆ แล้วคิดเหรอว่าคืนนี้ผมจะปล่อยให้คุณก้าวออกจากห้องนี้ได้ง่ายๆ โดยที่ผมไม่ได้ทำหน้าที่ผัวให้สมบูรณ์ก่อน มานี่!!! อยากหย่านักใช่มั้ย” ร่างสูงเพรียวปลิวไปหาเตียงด้วยแรงเหวี่ยงของเขาจนชุดนอนเปิดไปถึงไหนๆ มือบางต้องรีบดึงชายชุดลงและพยายามจะพาตัวเองหนีให้รอดพ้นเขา แต่มีหรือที่คนโกรธจัดจะยอมให้ทำอย่างนั้นได้ง่ายๆ “จะไปไหน!!! คืนนี้คุณต้องเป็นเมียผมสักที หลังจากที่ผมปล่อยให้คุณไปอ่อยใครต่อใครๆ หรืออาจจะไปเอากับใครๆ มาหลายเดือนแล้ว หรืออาจจะนานหลายปีแล้วก็ได้ใครจะไปรู้” “อย่านะ!!! ออกไป!!! อื้มมมมมมม” สองแขนเล็กเรียวถูกตึงไว้กับที่นอนเมื่อร่างสูงกระโดดไปขึ้นคร่อมไว้ ใบหน้าสวยก็สบัดหลบใบหน้าคมที่ก้มลงไปหาอย่างเร่งรีบ “อย่า....” ปากบางก็ร้องห้าม ขาขาวเรียวก็ถีบไปทั่ว แต่ก็ไม่อาจจะทัดทานแรงมหาศาลของอีกคนได้ “ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยคุณไว้อีกแล้ว ต่อให้ผมเกลียดและขยะแขยงลูกเมียน้อยอย่างคุณมากแค่ไหน ผมก็จะไม่มีทางเก็บคุณไว้จนถึงวันที่เราจะหย่ากันโดยไม่คิดจะทำอะไรแน่ และคนที่จะเอ่ยปากเรื่องหย่าได้จะต้องเป็นผมเท่านั้นไม่ใช่คุณ จำเอาไว้” ริมฝีปากที่กำลังเผยอขึ้นไปต่อว่าเขาถูกอีกปากบดเบียดลงไปหา แม้ใบหน้าจะสบัดซ้ายขวาสักแค่ไหน แต่เขาก็ช้อนมือขวาลงไปใต้ท้ายทอยแล้วล็อกไว้เพื่อให้ได้ก้มไปครอบครองสะดวกขึ้น อีกมือมือก็ออกแรงกดสองแขนลงบนที่นอนอีก เมื่อรับรู้ว่ากำลังจะยกขึ้นมาขัดขืน ช่วงขายาวและหนักอึ้งก็ยกไปทับสองขาที่ถีบที่นอนไปมาจนไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหนได้อีก นานหลายนาทีกว่าเขาจะสยบคนอยู่เบื้องล่างให้สงบลงด้วยแรงจุมพิต จนมั่นใจว่าแขนเรียวจะไม่ยกขึ้นมาฟาดฟันเขาอีก ถึงได้ปล่อยให้เป็นอิสระแล้วเลื่อนมาหาอกตั้งตรงแล้วบีบเค้นอย่างหนักหน่วง ปลายนิ้วชำนาญการสบัดหยอกเย้าไปมาตรงปลายยอดเพื่อหมายให้อีกฝ่ายยินยอมพร้อมใจไปกับบทรักที่กำลังจะเริ่มต้น มือบางที่ว่างเว้นจากการรัดตรึงรีบยกขึ้นมาปัดป้อง แม้จะหวั่นไหวกับการกระทำของเขาสักแค่ไหนก็ตาม แต่เขาไม่สนใจจะหยุดยั้ง แถมยังยกขึ้นไปดึงสายเดี่ยวออกจากไหล่ลากไล่ลงไปจนเลยอกสวย แล้วถลกบราผ้าเนื้อนุ่มขึ้นทันที ตามด้วยบีบขยี้ตรงปลายให้ตื่นตระหนกอย่างรวดเร็วปากก็ยังคงลิ้มลองของหวานบนเรียวปากไม่ยอมห่าง “อย่าค่ะคุณหนึ่ง ปล่อยฉันนะ” ปากบางได้อิสระเมื่อเขาละลงมาหาอกอิ่ม “ไม่มีทาง คุณต้องทำหน้าที่เมียให้ผมสักที หลังจากที่คนอื่นทำงานแทนคุณมานานแล้ว” นั่นคือคำยืนยันของเขา ก่อนจะก้มลงไปลิ้มลองยอดอกนุ่ม แล้วสอดมือไปใต้แผ่นหลังนุ่มปลดตะขอบราดึงออกจากร่างอรชร ก่อนจะดึงชุดนอนหวานแว๋วลงไปกรอม์อยู่ปลายเท้า ลูบไล้เรียวขานุ่มขึ้นมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงแพนตี้สีหวานที่ปกปิดสิ่งหวงแหนเอาไว้ เขาวนฝ่ามืออุ่นไปมาก่อนจะหยอกเย้ากลีกกุหลาบจนเจ้าของสะดุ้งสุดตัวเมื่อก้อนความสุขแล่นเข้าไปเล่นงานอย่างไม่เคยมีมาก่อน เรื่องที่คุณน่าจะสนใจ ----------------------------------

ไฟรักมาเฟียร้าย [เจ้านาย VS เลขา]

ไฟรักมาเฟียร้าย [เจ้านาย VS เลขา]

มหาเศรษฐี

4.8

ปลัมน์ นักธุรกิจหนุ่มหล่อลูกครึ่ง ถูกแม่สั่งให้ทำยังไงก็ได้ ที่จะกัน พลอยหยก ออกไปจากชีวิตน้องชายของเขา แต่หารู้ไม่ว่า พอถึงคราวของตัวเอง เขากลับกันเธอออกจากชีวิตตัวเองไม่ได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ เขาไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ โดยไม่มีเธอ ----------------------- “ปวดแผลจัง สงสัยต้องนอนพัก คุณล่ะทำอะไรตั้งหลายอย่างผมว่านอนพักก่อนดีกว่ามั้ย” เขาเอ่ยเมื่อพลอยหยกกลับจากเอาทุกอย่างไปล้างในทะเลเรียบร้อยแล้ว “ฉันยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ แต่คุณนอนก็ดี เดินไกลกว่าทุกวันแล้วค่ะ” พลอยหยกเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยเดินมาคอยประคองให้เขานอนลงได้อย่างสะดวก โดยมีเสื้อชูชีพสองตัววางซ้อนกันเป็นหมอนให้ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้วเมื่อจ้องมองใบหน้าของเขาที่หล่อเหลากว่าทุกวัน ยิ่งเขาจ้องมองมาหาด้วยแล้วก็ยิ่งเกิดอาการประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก “คุณนอนพักก่อนดีกว่านะแกว จะได้มีแรงไว้สู้กับการสอยมะพร้าวไง” มือข้างขวาของเขารั้งเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน แถมยังออกแรงกดบังคับให้เธอโน้มกายลงไปหาพื้นข้างๆ อย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะเจ็บแผลอยู่บ้างแขนข้างขวาของเขาก็ยังมีเรี่ยวแรงมาพอที่จะหยัดตัวให้นอนตะแคงไปหาเธอ ดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้าที่เขาเดาว่าคงจะแดงเพราะความอายที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาเป็นแน่ และเขาก็ช่วยให้ห้วงเวลาที่เธอคงจะอึดอัดนั้นสั้นลงด้วยการก้มลงไปหาริมฝีปากนุ่มช้าๆ มอบจุมพิตอันแผ่วเบาให้เจ้าของริมฝีปากที่ไม่ได้ขัดขืนใดๆ อีกทั้งยังโอบกอดตัวเขาไว้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ใบหน้าสวยก็แหงนเงยขึ้นเพื่อให้เขาได้ดอมดมปลายคาง ลำคองามระหงอย่างสะดวก ก่อนจะกลับขึ้นไปดูดดื่มริมฝีปากอีกวาระ แขนข้างซ้ายที่เคยเจ็บบัดนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว และใช้มันยกสอดเข้าไปใต้เสื้อยืด แถมมันยังมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะถลกบราเซียออกจากสองบัวงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อไม่ใคร่ถนัดนักเขาเลยเลื่อนมือขวาลงมาช่วยด้วยการถลกเสื้อยืดขึ้น โดยเจ้าของเสื้อคอยให้ความร่วมมือพยุงกายขึ้นจากพื้น แล้วแอ่นอกให้กับอุ้งปากอุ่นของเขาได้ลิ้มลองอย่างไม่หวงแหน แม้ใจจะบอกตัวเองว่าต้องห้ามเขา แต่พลอยหยกก็ไม่อาจจะทำได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร รู้แต่ว่าตอนนี้เป็นสุขใจจนลืมทุกอย่างเพียงเพราะมีเขาอยู่แนบชิดขณะนี้ จนไม่อาจจะผลักไสเขาไปไหนได้นอกจากยินยอมพร้อมใจให้เขาได้เชยชมเพื่อชดเชยความสุขสมที่พึงมีด้วยกันนับตั้งแต่วันได้นอนแนบชิดกันโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ปลัมน์ก็ไม่คิดจะห้ามตัวเองด้วยเช่นกัน เขาไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ไม่มีแม้แต่ถุงยางอนามัยติดตัว และไม่แคร์ด้วยว่าเธอคืออดีตคนรักของหลานชาย ด้วยหัวใจไม่อาจจะหักห้ามความต้องการทั้งทางกายและทางใจได้อีกต่อไปแล้ว ผ่านมาหลายค่ำคืนที่เขามีสติล้วนแล้วแต่เป็นการกล้ำกลืนฝืนทนสุดๆ สำหรับเขาแล้ว แผงอกเปลือยทั้งสองบดเบียดแนบชิดกันเนิ่นนานกว่าปลัมน์จะค่อยๆ เลื่อนมือขวาลงไปหาหน้าท้องแบนราบจนพานพบตะขอกางเกงยีนส์ เขาใช้เวลาปลดไม่นานพอๆ กับการรูปซิปออก แล้วส่งนิ้วเรียวเข้าไปลูบไล้ผิวกายนุ่มนวลนอกแพนตี้สีหวานที่ชวนให้หลงใหลจนเขาปล่อยใจให้เตลิดเปิดเปิงไปเลยขั้นที่เกินจะควบคุมได้อีกต่อไป ไม่แตกต่างจากพลอยหยกนักที่เป็นสุขใจเกินคณากับการมีเขามาแนบชิดอยู่อย่างนี้ สองฝ่ามือนุ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้างบึกบึนของเขาอย่างลืมตัว ริมฝีปากนุ่มก็จูบตอบเขาด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า แม้จะไร้ซึ่งประสบการณ์ก็ตามที แต่การถูกเขามอบจุมพิตให้บ่อยครั้งก็คือเป็นความคุ้นเคยกับเขาในระดับหนึ่งแล้ว หญิงสาวสะดุ้งเฮือกกับอุ้งปากอุ่นของเขาที่กำลังครอบครองปลายยอดชูช่อประหนึ่งรอให้เขามาเยี่ยมเยือนก็ไม่ปาน แผ่นหลังนุ่มแทบไม่ติดพื้นใบมะพร้าวเมื่อเธอเผลอแอ่นกายขึ้นเพื่อให้เขาได้ดูดดื่มอย่างสะดวก เธอรับรู้ได้ว่ากายเขาสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือบางเผลอออกแรงบีบตรงหัวไหล่ซ้ายของเขาเพราะความเจ็บร้าวไปทั่วกายจากความต้องการที่จะมีเขาเข้าครอบครอง “แกว! ตัวผมจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเขาแหบพร่าอยู่ใกล้ๆ หู ก่อนจะซอกไซ้ปลายจมูกไปกับซอกคอระหงแล้วเลื่อนลงไปหาอกอวบอิ่ม อ้อยอิ่งอยู่กับปลายยอดอีกข้างอย่างหลงใหลอีกครั้ง พลอยหยกรับรู้ถึงความต้องการของเขาได้ตรงสะโพกผายตึงเมื่อความแข็งแกร่งของเขาส่งสัญญาณมาหาโดยไม่ต้องบอกกล่าวทางวาจาเพราะด้วยภาษาทางกายแจ้งอย่างชัดเจนกว่าเรียบร้อยแล้ว “คุณปลัมน์คะ!” พลอยหยกส่งเสียงติดๆ ขัดๆ ไปหาเขา สองมือบางก็พยายามจะดันอกเขาออกอย่างยากลำบาก “แกว! อย่าห้ามผมเลยนะ เราต่างก็ต้องการกันและกัน อย่าสนใจอะไรอีกเลยนะ” เขาส่งน้ำเสียงอ้อนวอนมาให้ขณะพรมจูบไปตามผิวกายขาวและกำลังเลื่อนต่ำลง พลอยหยกต้องพยายามสะกัดกลั้นความรู้สึกวาบหวานเอาไว้และพยายามใช้สองแขนหยัดกายให้ลุกขึ้น “คุณปลัมน์คะ! ฟังสิคะ” “บนเกาะนี้มีแค่เราสองคน ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเราหรือเปล่า และไม่แน่ว่าเราอาจจะต้องติดอยู่นี่ไปเป็นปีๆ ก็ได้ ถ้าถึงตอนนั้นเราก็คงไม่พ้นต้องทำเรื่องนี้ด้วยกันอยู่ดี แล้วจะให้ผมรออะไรอีกแกวคุณอยากให้ผมลงแดงตายเพราะต้องการคุณหรือไง” แต่ก็ถูกกายกำยำเขาทาบทับไว้ ส่วนมือขวาที่ใช้การได้ก็กำลังเลื่อนขอบกางเกงยีนส์ออกจากสะโพกผายตึง “แต่เสียงนั่นค่ะ คุณฟังสิคะ” แม้จะเป็นเสียงแห่งความช่วยเหลือกำลังมาถึง แต่ปลัมน์ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น และอยากฆ่าคนที่กำลังมาด้วย เพราะมันไม่ถูกเวลาเอาเสียเลย “คุณหูฝาดไปเอง ผมไม่เห็นได้ยินอะไรสักนิด” เขางับยอดบัวงามไว้ในอุ้งปากแล้วดูดดื่มอย่างหิวกระหายและควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่ “คุณปลัมน์คะ แต่เสียงนั่นใช่เสียงเครื่องบินหรือเปล่าคะ ฉันได้ยินค่ะ คุณฟังสิคะ”

ในรอยรักร้าว [ดราม่าหนัก พระเอกถูกเอาคืนสาสมมาก]

ในรอยรักร้าว [ดราม่าหนัก พระเอกถูกเอาคืนสาสมมาก]

โรแมนติก

5.0

เพื่อเอาชนะและเพื่อทวงคืนให้ตัวเองและครอบครัว เขาขอมแลกทุกอย่างแม้กระทั่งหัวใจและความรัก เพื่อให้ได้ความรัก เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เพื่อบ้านเกิด เธอยอมแลกด้วยทุกอย่าง แม้กระทั่งร่างกาย --------------------------------- คฑาธร ไวทยาพาณิชย์ นักธุรกิจหนุ่ม ผู้สร้างตัวเองด้วยมันสมอง สองมือกับหนึ่งหัวใจ เขามีอัตตาของความไม่ยอมแพ้ใคร โดยเฉพาะสตรีเพศ และเมื่อก็ตามที่ผู้หญิงคนไหนมาลบอัตตาเขาลง เขาก็จะเอาคืนให้สาสม ผสมกับความแค้นครอบครัวเข้าด้วยกันแล้ว เขาคือชายที่อันตรายสุดขีด “ผมบอกว่าผมจะไม่ทำ แต่ไม่ได้หมายความว่า คนในบริษัทผมจะทำไม่ได้นี่ แล้วผมพูดหรือทำอะไรผิดไม่ทราบ” “ทำไมผมจะต้องจ่ายด้วย ในเมื่อผมไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าคุณอยากไปก็เชิญตามสบาย แต่ก่อนไป ช่วยคิดให้ดีๆ หน่อยนะ ว่ากำลังเล่นกับใครอยู่ ช่วยคิดถึงตัวเองและคนรอบข้างให้มากๆ” “ผมแค่อยากบอกว่า ถ้าคุณก้าวออกจากชีวิตผมไปเมื่อไหร่ คุณก็จะเหมือนคนไม่เหลืออะไรทันที แม้แต่คนในครอบครัวของคุณ ค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่ารักษา ค่าเลี้ยงดูที่ผมจ่ายให้จะถูกยกเลิก และถ้าคุณเห็นว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้ทุกคนเดือดร้อนมากพอล่ะก็ คุณคงจะคิดผิด เพราะผมสามารถทำให้พ่อค้าทุกคน เมินผลไม้ในสวนคุณได้อย่างสบาย น้องๆ ของคุณที่เรียนอยู่ ผมก็สามารถทำให้มีปัญหาการเรียน หรือแม้แต่ด้านความประพฤได้ไม่ยาก เพื่อนบ้านร้านตลาดที่เป็นพวกพ้องพ่อของคุณ ผมก็ทำให้คนพวกนั้นเกลียดพ่อคุณ เกลียดคุณและคนในบ้านคุณได้สบายมาก ทีนี้คุณยังอยากจะไปจากผมอีกหรือเปล่า” --------- พิมพ์ภิษา วัฒนากรณ์ หญิงสาวผู้โหยหาความรักและอ้อมกอดของพ่อผู้ให้กำเนิด เมื่อพ่อไม่เคยหยิบยื่นให้ เธอจึงยอมใช้ร่างกายเข้าแลก เพื่อตัวเอง เพื่อพ่อ เพื่อครอบครัว และเพื่อเพื่อนร่วมสังคมเล็กๆ ที่คุ้นเคย แต่สุดท้าย เธอก็พบว่า สิ่งที่ได้มาคือความว่างเปล่า “คุณทำแบบนี้ทำไม คุณหลอกฉันทำไม แล้วคุณสัญญากับฉันทำไม ในเมื่อคุณไม่เคยคิดจะรักษาสัญญาอยู่แล้ว” “รักเหรอ! ไม่มีทางที่ฉันจะรักคนใจร้ายอย่างคุณได้ มีเพียงความรู้สึกเดียวที่ฉันจะให้ได้ นั่นก็คือ ความเกลียด...” “ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อฉันไม่เคยรู้สึกอย่างที่คุณว่าเลยสักนิดเดียว ช่วยกรุณาฟังชัดๆ อีกครั้ง ว่าฉันไม่มีวันจะรักคุณ ในใจของฉันมีแต่ความเกลียดเท่านั้น ฉันเกลียดคุณตั้งแต่แรกเห็น กระทั่งเดี๋ยวนี้ ความรู้สึกฉันไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย ตรงกันข้าม ฉันกลับเกลียดคุณมากกว่าเดิมอีกร้อยเท่าพันเท่า ได้ยินมั้ยว่าฉันกละ...” --------- อดีต ไพรัช กองทอง หนุ่มผู้ด้อยเงินแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยรัก ปัจจุบัน ไพทัช ไวทยาพาณิชย์ ผู้มากด้วยเงินแต่ไร้รัก --------- ขจร วัฒนากรณ์ อดีตคือหนุ่มมากด้วยเงินแต่ไร้รัก ปัจจุบันคือผู้ไร้เงินและไร้รัก --------- ศุภิษา วัฒนากรณ์ อดีตคือหญิงสาวผู้เป็นต้นเหตุแห่งโศกนาฏกรรมรัก ปัจจุบันคือผู้หล่อหลอมสองดวงใจให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยรัก ---------------------------------

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ประวัติศาสตร์

4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

ขอโอกาสอีกครั้ง

ขอโอกาสอีกครั้ง

โรแมนติก

5.0

หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ” เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"

พระชายาสารพัดพิษ

พระชายาสารพัดพิษ

โรแมนติก

4.9

"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เก็บดวงใจไว้ให้เธอ [พระเอกร้ายสุดๆ ท้องแล้วหนี]
1

บทที่ 1 1

15/09/2022

2

บทที่ 2 2

15/09/2022

3

บทที่ 3 3

15/09/2022

4

บทที่ 4 4

15/09/2022

5

บทที่ 5 5

15/09/2022

6

บทที่ 6 6

15/09/2022

7

บทที่ 7 7

15/09/2022

8

บทที่ 8 8

15/09/2022

9

บทที่ 9 9

15/09/2022

10

บทที่ 10 10

15/09/2022

11

บทที่ 11 11

15/09/2022

12

บทที่ 12 12

15/09/2022

13

บทที่ 13 13

15/09/2022

14

บทที่ 14 14

15/09/2022

15

บทที่ 15 15

15/09/2022

16

บทที่ 16 16

15/09/2022

17

บทที่ 17 17

15/09/2022

18

บทที่ 18 18

15/09/2022

19

บทที่ 19 19

15/09/2022

20

บทที่ 20 20

15/09/2022

21

บทที่ 21 21

15/09/2022

22

บทที่ 22 22

15/09/2022

23

บทที่ 23 23

15/09/2022

24

บทที่ 24 24

15/09/2022

25

บทที่ 25 25

15/09/2022

26

บทที่ 26 26

15/09/2022

27

บทที่ 27 27

15/09/2022

28

บทที่ 28 28

15/09/2022

29

บทที่ 29 29

15/09/2022

30

บทที่ 30 30

15/09/2022

31

บทที่ 31 31

15/09/2022

32

บทที่ 32 32

15/09/2022

33

บทที่ 33 33

15/09/2022

34

บทที่ 34 34

15/09/2022

35

บทที่ 35 35

15/09/2022

36

บทที่ 36 36

15/09/2022

37

บทที่ 37 37

15/09/2022

38

บทที่ 38 38

15/09/2022

39

บทที่ 39 39

15/09/2022

40

บทที่ 40 40

15/09/2022