8. All about Youอุ่นไอรัก NC18
9. แต่งงานอีกครั้ง ผมจะรักเธอดี ๆ
ผู้เขียน: รวิญาดา ผการุ้ง
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1.ตอน แม่อุ้มบุญ 1
ตอนที่ 1.
ประเทศคารัสซีเลีย เป็นประเทศเล็กๆ ตั้งอยู่บนหมู่เกาะแห่งหนึ่งแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย โดยมีประธานาธิบดีเป็นผู้นำสูงสุด เมืองหลวงของประเทศคือเมืองคาซาญ่า เป็นพื้นที่ส่วนกลางของประเทศ มีความเจริญเทียบเท่าเมืองหลวงของประเทศอื่นๆ
คารัสซีเลียมีทรัพยากรทางธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะทองคำและเพชร รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาจากทั่วโลก เดินทางโดยเรือสำราญมาแวะที่นี่ ทำให้มีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ มีความเจริญทางเทคโนโลยีไม่แพ้ประเทศใดใด
ทว่า... ในสังคมยังมีกลุ่มผู้ทรงอิทธิพล ที่มีเบื้องหลังเป็นแก๊งมาเฟียใหญ่ สี่แก๊งด้วยกัน ประกอบด้วย แก๊งเลโอปาสคาล มีสัญลักษณ์เป็นสิงโต แก๊งไทก้าซานโตนี่ มีสัญลักษณ์เป็นเสือดาว แก๊งฟินนิกซ์ลาโอญ่า มีสัญลักษณ์เป็นนกฟินนิกซ์ และแก๊งดราก้อนฟิโรเช่ มีสัญลักษณ์เป็นมังกร กลุ่มผู้มีอิทธิพลทั้งสี่แก๊งต่างฝ่ายต่างไม่ยุ่งเกี่ยวกัน อยู่ในเขตการปกครองสี่แคว้นใหญ่ของประเทศ คือ แคว้นปาสคาล แคว้นซานโตนี่ แคว้นลาโอญ่า และแคว้นฟิโรเช่ ดังเป็นชื่อต่อท้ายแก๊งต่างๆ ตามเมืองที่อยู่อาศัย
ณ โรงพยาบาลเซนส์โจนา เมืองคาซาญ่า
อลิชาเดินทางมาที่นี่เมื่อห้าวันที่แล้วเพื่อตรวจร่างกาย เตรียมความพร้อมก่อนจะเริ่มต้นการอุ้มบุญ เธอได้รับคัดเลือกจากผู้สมัครนับร้อยคน โดยผู้เป็นนายจ้างได้ส่งทนายความของเขามาจัดการเรื่องนี้แทนตัวเขา
“คุณผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้าย ได้ถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ นี่คือสัญญาผมจะอ่านเงื่อนไขให้ฟัง หากคุณตกลงใจว่าสามารถทำตามสัญญานี้ได้ ก็ลงชื่อรับรองสัญญาจะสมบูรณ์ในทันที”
เอริกทนายความยื่นเอกสารให้อลิชา ก่อนจะหยิบแว่นตามาสวมแล้วอ่านฉบับของตนที่ถืออยู่ให้หญิงสาวฟัง
“เงื่อนไข ในสัญญาอุ้มบุญ มีดังนี้ หนึ่งนายจ้างต้องการลูกชายเท่านั้น สองต้องปกปิดความลับเรื่องการอุ้มบุญนี้ ไม่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ โดยผู้อุ้มบุญจะสัญญาว่า จะไม่บอกว่าเป็นแม่ของเด็ก สามผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายค่าจ้างตามที่ตกลงกัน โดยไม่ต้องพบหน้ากัน ให้ทนายคือผมเป็นคนดำเนินการแทน เมื่อคลอดเด็กออกมาจะจ่ายค่าจ้างงวดสุดท้ายให้และสัญญาถือว่าสมบูรณ์”
ผู้เขียน: Kaiser Abarca
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 กลับประเทศไปหย่า
“วันนี้ต้องถ่ายรูปหลักฐานการนอกใจของเฟิงเยี่ยนให้ได้!”
ถังชีชีกำมือเล็ก ๆ ของเธอด้วยความฮึกเฮิม เธอปรับหมวกแก๊ปให้แน่นขึ้น ก้มหน้าลงเพื่อหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิด แล้วก็เดินเข้าไปในคลับระดับไฮเอนด์
วันนี้ เธอมาที่นี่เพื่อจับชู้!
เธอกับเฟิงเยี่ยนแต่งงานกันมาหนึ่งปีแล้ว แต่หลังจากที่จดทะเบียนสมรสไปแล้ว เธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย
การแต่งงานแบบนี้มันไม่มีความหมายอะไรเลยสักนิด พวกเขาไม่ได้รักกัน ขืนอยู่ด้วยกันไปก็เสียเวลาชีวิตเปล่า ๆ !
ล่าสุด เพื่อนรักของเธอที่ต่างประเทศเล่าให้ฟังว่า มักจะเห็นสามีของเธอไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนอื่นบ่อย ๆ แถมทั้งคู่ยังดูสนิทสนมกันมากอีกด้วย
เธอจึงจำเป็นต้องกลับไปเพื่อหาหลักฐานบางอย่าง เพื่อที่เธอจะได้เป็นฝ่ายขอหย่ากับเฟิงเยี่ยนก่อนอย่างมีเหตุผล!
มองจากระยะไกล เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งพาเฟิงเยี่ยนไปที่ห้องเพรสซิเด้นท์ สวีท ประตูเปิดแง้มอยู่ เธอซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง แล้วก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นคุยโทรศัพท์
“ฉันรู้แล้วน่า ครั้งนี้ฉันจะไม่พลาดแน่นอน ฉันจะติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณไว้ แล้วก็จะบันทึกวิดีโอที่แสนจะโรแมนติกเอาไว้ขู่เขา.....”
ผู้เขียน: Axel Bob
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 การแต่งงานที่น่าสมเพช
ในค่ำคืนอันมืดมิด
แสงไฟภายในคฤหาสน์ของตระกูลยู่ยังส่องสว่างไสว เสียงหัวเราะครื้นเครงดังออกมาเรื่อย ๆ จากทางห้องนั่งเล่น
เจียงซุ่ยยืนอยู่เพียงผู้เดียวภายในห้องครัว ใบหน้าของหญิงสาวขึ้นสีแดงอย่างผิดปกติ เธอมองหม้อซุปด้วยความวิงเวียน ไอจากหม้อที่ลอยขึ้นมาปะทะใบหน้าทำให้เธอมองอะไรไม่ค่อยชัด
หญิงสาวมีไข้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว
แต่เธอไม่มีแม้แต่เวลาจะออกไปหาซื้อยามากิน เธอมัวแต่สาละวนอยู่กับงานบ้านพวกนี้จนไม่ได้ออกไปไหนเลย
“นี่ เสร็จหรือยังวะ! เธอขนาดแค่ทำกับข้าวก็ช้าขนาดนี้ นี่พี่ชายของฉันไปคว้าเอาขยะอย่างเธอมาแต่งงานด้วยได้ยังไงเนี่ย!”
ยู่โหลเดินเข้ามาในห้องครัวพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
เจียงซุ่ยได้แต่เลียริมฝีปากที่แห้งผากของตนเอง หญิงสาวคุ้นชินกับท่าทีเช่นนี้ของน้องสามีตนเองแล้ว
“อีกไม่นานก็เสร็จแล้วค่ะ”
“งั้นก็เร็ว ๆ เข้า พี่ชายของฉันกับพี่เมิ่งหนิงกำลังรออยู่” ยู่โหลออกคำสั่งให้อีกคนเร่งมือ “พี่เมิ่งหนิงน่ะไม่เหมือนกับสาวบ้านนอกคอกนาอย่างเธอหรอกนะ พี่เขาเพิ่งจะกลับมาจากการรักษาที่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้นจะปล่อยให้พี่เขาหิวไม่ได้ เพราะถ้าพี่เขาหิวขึ้นมา พี่ชายของฉันไม่เอาเธอไว้แน่!”
เจียงซุ่ยกำช้อนในมือของตนเองแน่น เธอรู้สึกเหมือนถูกแทงทะลุหัวใจ มันเจ็บปวดเหลือเกิน
เธอคอยดูแลยู่จินเฉินและตระกูลยู่ด้วยกำลังทั้งหมดที่เธอมีมาตลอดระยะเวลาสามปี ไม่ต่างอะไรกับคนรับใช้คนหนึ่ง แต่ในสายตาของสามี เธอเทียบอะไรกับเสิ่นเมิ่งหนิงไม่ได้แม้แต่ปลายเส้นผมด้วยซ้ำ
ผู้เขียน: อัญญาณี
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1
เหมือนเช่นทุกปี วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่คือวันรวมญาติ คนในตระกูลวัฒนะพันธ์ จะมารวมตัวกันที่บ้านหลังนี้ บ้านที่มีผู้อาวุโสสุดพักอาศัยอยู่ ปีนี้นางมีอายุแปดสิบปี ทว่าร่างกายยังแข็งแรง ลุกเดินได้โดยไม่ต้องมีใครช่วยพยุงหรือใช้เครื่องทุ่นแรง โดยเฉพาะฝีปาก ยังกล้าแข็งไม่แผ่ว และเป็นที่นับถือของลูกหลาน ที่ออกเกรงกลัวพลังอำนาจของนาง เพราะนางเป็นคนเดียวที่ช่วยให้ธุรกิจครอบครัว ผ่านวิกฤตมาได้อย่างหวุดหวิด
ลัดดาคนกุมอำนาจในบ้านนั่งอยู่ในห้องรับแขก โดยมีลูกหลานราวเจ็ดคนนั่งล้อมรอบ ใบหน้าทุกคนเกลื่อนด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข พูดคุยเรื่องธุรกิจที่เพิ่งฟื้นตัวอย่างภาคภูมิใจ
ต่างกับผู้หญิงคนหนึ่ง ดวงหน้าหวานอาบความเศร้า นัยน์ตาหล่อนหมองหม่น ความเสียใจ น้อยใจโบกทับจิตใจจนมันสูงเสียดฟ้า แล้วดูเหมือนว่า ความรู้สึกทั้งหลายจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ หญิงสาวเดินถือกระเป๋ากลางเก่ากลางใหม่เข้ามาในห้องดังกล่าว กุลธิรัตน์นั่งคุกเข่าบนพื้น
“ลูกหมีมาลาคุณย่าค่ะ” ลัดดาปรายตามองหลานสาวแสนชังแวบเดียว คล้ายไม่ใส่ใจคำพูด
“อืม ก็ไปสิ มัวรออะไร คนของบ้านโน้นมารอรับแล้ว อย่าพิรี้พิไรเลย” ไม่มีคำอวยพร ไม่มีประโยคที่ชวน
ให้รู้สึกว่า เป็นห่วงเป็นใย ชวนให้รู้สึกว่าเป็นการเสือไสไล่ส่งมากกว่า กุลธิรัตน์น้ำตารื้น หัวใจเจ็บปวดมาก
“ลูกหมีลาคุณพ่อคุณแม่ค่ะ” หล่อนยกมือไหว้บิดามารดาที่แทบไม่สนใจ อภิรักษ์ก้มหน้ากดมือถือ อนงค์ยกน้ำชาขึ้นมาจิบ ไม่มีใครกล่าวคำใด มีแต่ความหมางเมิน ไม่เห็นกุลธิรัตน์อยู่ในสายตา กุลธิรัตน์ยกมือไหว้ญาติผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก ก่อนลุกขึ้นยืน หยิบกระเป๋าเดินทาง ก้าวเดินออกไปนอกบ้าน
“นี แกเอาน้ำมนต์มาถูกบ้านฉันด้วยนะ แล้วฉีดให้ทั่วบ้านด้วยนะ ตัวเสนียดไปแล้ว ฉันไม่อยากให้เศษเสนียดในตัวมันอยู่ในบ้านหลังนี้”
เสียงคำสั่งดังมากพอให้คนกำลังเดินออกจากบ้านได้ยิน กุลธิรัตน์กลั้นน้ำตาไม่ได้ มันหยดลงเคลียร์แก้มนวล หยาดน้ำตาที่ไม่เคยห่างใบหน้าสาว มันหลังรินมาตลอดนับตั้งแต่หล่อนเกิดมา ยี่สิบเจ็ดปี เป็นเวลาอันยาวนานมาก กุลธิรัตน์หวังเหลือเกินว่า ที่อยู่ใหม่ของตน จะทำให้หล่อนไม่ต้องหลั่งน้ำตา หล่อนอยากมีรอยยิ้ม มีความสุขเหมือนคนอื่นบ้าง
กุลธิรัตน์หวังเช่นนั้น...
ผู้เขียน: Abelard Evans
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 เสียงครางจากในห้อง
ที่สนามกีฬาของมหาวิทยาลัย
มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดกีฬาสีฟ้า ยืนอยู่หน้าประตูสนามกีฬา
มือข้างนึงถือกระสอบ มืออีกข้างสวมถุงมือ กำลังก้มลงหยิบขวดเปล่า โยนลงในกระสอบ
‘ถ้ามีการแข่งบาสทุกวันก็คงจะดี หลังจากจบการแข่งขัน ฉันจะได้เอาขวดพวกนี้ไปขายได้ อย่างน้อย ๆ ก็สองสามร้อย สิ้นเดือนฉันจะได้มีเงินไปซื้อไอโฟนสิบเอ็ดให้หยิงหยิงเป็นของขวัญวันเกิด”
เฉินฝานดูตื่นเต้นมาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบ ๆ เพื่อหาขวดพลาสติก
ขณะเดียวกัน มีนักศึกษาชายตัวสูงกลุ่มนึงเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ละคนถือถังใบเล็ก ๆ ที่มีชุดกีฬาและถุงเท้าเหม็น ๆ เดินเข้ามาหาเฉินฝาน
“เฉินฝาน ชุดของทีมบาสทั้งหมด ถังละห้าสิบ นายเอาไปซักให้ทีสิ”
นักศึกษาชายคนหนึ่งย้อมผมสีแดงในปากคาบบุหรี่ โยนถังลงข้าง ๆ เฉินฝาน
“ทุกคนต่างก็เป็นเด็กใหม่ของทีม อย่าหาว่าฉันกัวเถาไม่ดูแลนายเลยนะ รับไปสิ”
พูดจบ ผู้ชายผมแดงก็โบกมือเพื่อเป็นสัญญาณ คนอื่น ๆ ก็โยนเสื้อผ้า รองเท้า และถุงเท้าที่มีกลิ่นเหม็น ๆ เต็มไปด้วยเหงื่อลงบนพื้น
“นี่เสื้อผ้าและถุงเท้าเหม็น ๆ ที่ฉันให้ลูกทีมเก็บไว้อาทิตย์นึง เพื่อให้นายมีรายได้เลยนะ ลองดมดูสิหอมไหม?”
กัวเถาหยิบถุงเท้าที่มีกลิ่นเหม็นขึ้นมา และโยนใส่เฉินฝาน
เฉินฝานหลบไม่ทัน ทำให้ถุงเท้าตกลงมาบนหน้าของเขา เขาได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวจนแสบจมูก
“ฉัน…”
ขณะที่เฉินฝานกำลังจะโต้กลับ เขาได้แต่กัดฟัน และกลืนคำพวกนั้นลงไป เขาโกรธจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด
ผู้เขียน: ฮุยอิง
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 3 คนในอดีต
“อันอันเข้ามาในห้องหน่อย!” เสียงหัวหน้างานดังขึ้นอยู่ห้องทำงานส่วนตัว
ร่างบุรุษในชุดเกราะแม่ทัพหันกลับมามองหัวหน้างานของหญิงสาวเพียงครู่ ก่อนจะหันกลับมามองเธอดั่งเดิม พรึบ! ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ เลือนหายไปชั่วพริบตา
“เฮ้อ!” หญิงสาวถอนหายใจออกมาทันใด มือน้อยๆ ยกขึ้นจับหน้าอกของตัวเองพร้อมตบลงเบาๆ เป็นการเรียกขวัญของเธอให้กลับคืนมาโดยพลันพลางกลืนน้ำลายลงคอ
“มาให้เห็นกลางวันแสกๆ เลยหรือนี่ ผีหวงของชัดๆ” จางเพ่ยอันบ่นพึมพำพร้อมยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดใบหน้าหวานสวยของเธอพลางสูดลมหายใจเข้าปอด
“มาแล้วค่ะหัวหน้า” หญิงสาวรีบขานรับตอบกลับไป
ร่างระหงรีบลุกจากเก้าอี้ทำงานหากแต่ก่อนไปก็ไม่วายที่จะหันกลับมามองปิ่นหยกโบราณที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพิศวงอย่างยิ่งยวด เมื่อเพิ่งได้พานพบกับเจ้าของปิ่นหยกดังกล่าวอย่างไม่คาดฝัน
ทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในห้องทำงานส่วนตัวของหัวหน้างาน
“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าเตรียมตัวออกพื้นที่ไปร่วมตรวจสอบกับทีมงานที่เพิ่งขุดค้นสุสานใหม่ด้วยนะอันอัน ข้อมูลของวัตถุโบราณที่เพิ่งให้ไปนำส่งก่อนจะออกเดินทางด้วยนะ” หัวหน้าสาวรุ่นใหญ่บอกกับเธอก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเห็นลูกน้องยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่เช่นนั้น
“เป็นอะไรอันอัน ไม่สบายหรือเปล่าดูหน้าซีดๆ ชอบกล” หัวหน้างานถามกลับไปทันทีที่เห็นความผิดปกติ
และนั่นทำให้จางเพ่ยอันรู้สึกตัวขึ้นมาทันที
“อะ… เออ... อันอันสบายดีค่ะหัวหน้า พอดีกำลังค้นคว้าหาข้อมูลปิ่นหยกนั่นอยู่ก็เลยคิดอะไรเพลินไปหน่อย” หญิงสาวรีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แล้วก็อย่าลืมไปรายงานตัวที่ฝ่ายพัฒนาบุคลากรด้วยล่ะ เธอจะได้มาช่วยทำงานเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้กับสถาบันวิจัยอย่างเต็มที่”
ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างออกมาทันใดครั้นได้ยินเช่นนั้น
ผู้เขียน: ribbo
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 มาแบบงงๆ
เพล้ง!!!
เสียงของแจกันเคลือบลายคราวอย่างดี ตกกระแทกพื้นก่อนจะแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี ก่อนมีสาวใช้คนหนึ่งรีบวิ่งไปแจ้งแก่นายท่านของบ้าน
อี้ชุนสาวใช้ของอนุเซียง รีบวิ่งมายังห้องของนายท่านต้วน ก่อนจะรีบรายงาน "เรียนนายท่านเจ้าค่ะ คุณหนูสามทำแจกันลายครามในห้องโถงแตกเจ้าค่ะ"
ตุ๊บ!!!
นายท่านต้วน รึต้วน อู๋เอิ๋น ตบโต๊ะเสียงดังลั่น ทันที่เมื่อได้ยินสิ่งที่สาวใช้รายงาน นังลูกสารเลววันๆก่อแต่เรื่อง แจกันลายครามใบนั้นเขาเพิ่งได้มามิกี่วันก่อน เขาตั้งใจจะเอาไปมอบแกขุนนางท่านหนึ่ง แล้วเช่นนี้จะทำเยี่ยงไรต่อ
"ไปลากนังเด็กสารเลวนั้นมา"
"เจ้าค่ะนายท่าน"
อนุเซียงที่ตอนนี้นั่งอยู่ข้างกับนายท่านต้วน นางถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทัน ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผนการ ก่อนจะรีบตีหน้าเศร้า "ท่านพี่ใจเย็นๆก่อน อย่าได้ทำอันใดรุนแรงนักนะเจ้าค่ะ นางยังเด็กมิค่อยรู้ความเท่าใด"
"ฮึ!! เจ้าอย่าเข้าข้างนังตัวซวยนั้นเลย ครานี้ข้าจะเฆียนนางให้ตาย ตัวกาละกิณี"
มินานคุณหนูสามก็ถูกลากและนำตัวมายังลานกลางบ้าน นางตัวสั่นไปหมด วันนี้อยู่ดีๆคนของอนุเซียงก็เข้ามาหานาง บอกว่าท่านย่าเรียกหา ระหว่างทางนางเห็นแจกันอันใหม่ที่ท่านพ่อเพิ่งได้มา มันถูกตั้งวางไว้ที่ห้องโถงใหญ่ นางเห็นว่ามีกระดาษบางอย่างตกอยู่ข้างๆ ไม่คิดเลยว่าตอนที่กำลังจะหยิบกระดาษชิ้นนั้นขึ้นมาดู
นางกลับถูกสาวใช้ของอนุเซียงพลักจากด้านหลัง ทำให้ร่างนางเซเล็กน้อย แต่แจกันที่อยู่เบื้องหน้ากลับถูกกระแทกและตกหล่นลงพื้น พอนางหันมาอีกทีสาวใช้คนนั้นก็มิได้อยู่ตรงนั้นแล้ว กลายเป็นบ่าวที่เห็นเหตุกราณ์ เห็นว่านางเป็นคนทำแจกันตกลงมาแตก
"ทะ ท่านพ่อให้คนไปตามข้ารึเจ้าค่ะ"
เพี๊ยะ!!!
ต้วน อู๋เอิ๋นยั้งมือไว้ไม่ทัน เขาเข้ามาตบหน้าบุตรสาวตัวน้อยทันที ก่อนจะชี้หน้านางอย่างโมโห "นางสารเลว วันนี้ถ้าข้ามิตีเจ้าให้ตายคามือ ข้าคงอกแตกตาย เด็กๆไปเอาหวายมาให้ข้า"
ผู้เขียน: Me'JinJin
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 INTRO
โรงพยาบาล N
ร่างสูงของธามไทเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้เขาทำหน้าที่ควงเวรผ่าตัดแทนหมอเพลิงกัลป์ ที่หนีไปสวีตกับภรรยาอย่างคุณพยาบาลลูกพีชที่กำลังงอนสามีขั้นสุด โดยทิ้งงานผ่าตัดเอาไว้ให้เขา ผู้ชายที่ยังโสดแต่ไม่ซิงทำเอาธามไทถอนหายใจแรง ๆ อย่างเหน็ดเหนื่อยตลอดการทำหน้าที่แทนเพื่อนที่ว่าง่าย ๆ ก็คือหนีงานไปง้อเมียนั่นแหละ
แต่ก็นะเรื่องแค่นี้สำหรับเพื่อนสนิทอย่างเพลิงกัลป์แล้ว เขาพร้อมที่จะช่วยเหลือเสมอ เพราะในยามที่เขาแฮงก์เอาต์จนไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงนอนมาทำงานได้ ก็ได้คุณหมอเพลิงกัลป์ที่กำลังนอนกอดเมียในวันหยุดนี่แหละ ที่ต้องแหกขี้ตาตื่นขึ้นมาเข้าเวรแทนเขาเช่นกัน
หึ ๆ ทีใครทีมันอะเนอะ แต่ศีลเสมอกันแบบนี้แหละถึงคบกันได้นาน
“เพื่อนเวร เมียงอนทีไรลำบากกูทุกที เหนื่อยจะตายห่าอยู่แล้วเนี่ย”
ธามไทบ่นเบา ๆ เพียงลำพัง คุณหมอร่างสูงในชุดผ่าตัดเดินตบไหล่ด้วยความเมื่อยขบผ่านเคาน์เตอร์พยาบาลสาว ๆ ที่ต่างพากันมองเขายิ้ม ๆ แต่ธามไทกลับไม่สนใจใครเลยสักนิด
อ่า ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจผู้หญิงนะ ก็แหมเขาน่ะมันเสือตัวพ่อ แต่ที่นี่มันสถานที่ทำงานยังไงล่ะ ตามจรรณยาบรรณแพทย์แล้วคงไม่ดีหากมีปัญหาเรื่องชู้สาวในที่ทำงาน
อีกอย่างถ้าให้คบใครเป็นตัวเป็นตนคงต้องโบกมือลา แต่ถ้าชั่วคราวทีละหลาย ๆ คนแบบนั้น ธามไทคนนี้พร้อมเสมอครับ
ปึก
“โอ๊ย!!”
เมื่อเดินมาถึงทางเลี้ยว จู่ ๆ ก็มีไม้เท้าปริศนาฟาดลงบนหลังของคุณหมอธามไทอย่างแรงจนสะดุ้งสุดตัว ทั้งยังเผลอส่งเสียงร้องดัง ๆ ออกมาด้วยความเจ็บปวด เพราะไม้เท้าที่ฟาดลงมานั้นแรงไม่ใช่เล่น ราวกับว่าคนฟาดตั้งใจหวดหลังเขาเต็มที่อย่างไรอย่างนั้นเลย
“เจ็บนะตาแก่บ้า”
ธามไทตวัดเสียงใส่ท่านประธานโรงพยาบาลด้วยความโกรธเคือง ตาคู่คมตวัดมองผู้อาวุโสที่มาเล่นซ่อนแอบตีเขาทีเผลอ ในขณะที่ท่านประธานอย่างคุณหมอกฤษฎิ์ก็เตรียมเงื้อไม้เท้าขึ้นสูงเตรียมตีคุณหมอหน้าหล่อซ้ำอีกรอบ
แต่คราวนี้คุณหมอหนุ่มรู้ทัน จึงรีบวิ่งหนีไม้เท้ากายสิทธิ์วนไปวนมา ทำเอาผู้อาวุโสเกือบหน้ามืดเลยทีเดียว
เมื่อหมดแรงจะรังแกคุณหมอหนุ่มตัวแสบ ท่านประธานกฤษฎิ์จึงพักเอาแรงไปหยุดยืนนิ่ง ๆ แล้วหายใจด้วยความเหนื่อยหอบ
ผู้เขียน: จารุณี ครองจินดา
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 เราหย่ากันเถอะ
ครืด ๆ...
เสียงมือถือสั่นขึ้น ท่ามกลางความเงียบสงบภายในห้อง ซูจิ้งสะลึมสะลือพลันเอื้อมมือไปหยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมา เมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใคร เธอก็กดรับอย่างไม่ลังเล
เธอเกรงว่าหากไม่รีบรับสาย สายอาจจะตัดไป
“ฮัลโหลค่ะ” เธอตื่นเต้นจนพูดจาตะกุกตะกัก
เมื่อใดก็ตามหากเธอต้องรับสายนี้ เธอมักจะประหม่าอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าปลายสายจะมองไม่เห็นเธอ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะเอามือขึ้นสางผม
“วันนี้ผมจะกลับบ้าน” เสียงทุ้มของชายหนุ่มดังมาจากปลายสาย
หัวใจของซูจิ้งเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ หลังจากนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เธอเอ่ยถาม “แล้วคุณอยากให้ฉันทำอะไรให้ไหม? คุณอยากทานอะไร? หรืออยากให้ฉันเตรียมอะไร...”
“ไม่ต้อง” เขาพูดแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ราวกับปลายสายไม่ใช่ภรรยาของตน
เขาเป็นสามีของเธอ แต่เพราะเขามีท่าทีเยี่ยงนี้กับเธอแต่แรก เธอเลยชินซะแล้ว
“ซีเจว๋...” ซูจิ้งเอามือกุ้มที่หน้าท้องของเธอ เธอกัดริมฝีปากล่างเบาๆแล้วตัดสินใจที่จะบอกข่าวนี้กับเขา “ฉัน ฉันอาจจะ...”
“ผมต้องไปแล้ว”
เขาตัดสายอย่างกะทันหัน
ซูจิ้งจับมือถือไว้ ยิ้มอย่างหม่นหมอง พลันเอ่ยประโยคที่ค้างไว้ออกมา “ฉันอาจจะท้อง”
ซูจิ้งและซีเจว๋ แต่งงานกันมาได้สามปีแล้ว เธออาศัยอยู่กับครอบครัวของเขา ในขณะที่เขาใช้ชีวิตตามลำพังในหวาถิง วิลล่า ช่วงสามปีของชีวิตคู่ พวกเขาเคยนอนด้วยกันเพียงหนเดียว คือเมื่อช่วงเดือนกว่าๆที่ผ่านมา คืนนั้นเขากลับมานอนที่บ้านตระกูลหยง ไม่ได้กลับวิลล่าของตน เรื่องคืนนั้นซูจิ้งรู้อยู่เต็มอก เขาอาจจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น
ผู้เขียน: ณดารินทร์
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1 ไปอยู่กับฉันไหม
เสียงลมหายใจหอบกระชั้นดังฝ่าความมืดมิดจนแทบมองไม่เห็นสิ่งใดในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ อวัยวะเบื้องต่ำกระทบผืนดินแตกระแหงในจังหวะถี่รัว
เด็กสาวอายุเพียง 18 ปี ผมเผ้ารุงรัง เหงื่อกาฬไหลท่วมตัวผสมกับหยาดน้ำตาที่เอ่อนองเต็มใบหน้าเปรอะเปื้อนมอมแมมแทบดูไม่ได้
เธอเม้มปากแน่นกลั้นเสียงสะอื้นจากความเจ็บปวดที่ได้รับบริเวณฝ่าเท้าเปลือยเปล่าที่แตกยับจากการวิ่งหนีใครบางคนอย่างไม่คิดชีวิต
แสงสว่างเป็นดวงๆ ลอยอยู่ด้านหน้าไม่ไกลจากจุดที่เธออยู่นัก จึงกลั้นใจฝืนทนต่อความเจ็บแสบปวดแปลบแล้วใช้แรงเฮือกสุดท้ายพุ่งทะยานไปข้างหน้าตามแสงไฟที่ลอดผ่านแนวพุ่มไม้นั้น
อีกนิด อีกเพียงนิด ในที่สุด..เธอพุ่งตัวพ้นแนวพุ่มไม้ขนาดใหญ่ แสงไฟบนท้องถนนสว่างวาบขึ้นตรงหน้าพร้อมกับเสียงห้ามล้อดังสนั่น
คนตัวบางที่น้ำตาไหลอาบแก้มเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ขาเรียวไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะขยับไปไหนอีกแล้ว จึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาบังแสงไฟ ก่อนความสว่างวาบนั้นจะถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดราวกับเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ไม่มีผิดพร้อมๆ กับสติสัมปชัญญะสุดท้ายของสาวน้อยผู้แสนโชคร้ายนี้จะวูบดับลงไป
“เห้ยยยยย”
ชายหนุ่มหล่อเหลาเรือนร่างใหญ่โตที่อยู่เบื้องหลังพวงมาลัยรถยนต์คันหรูราคาแพงที่การันตีสมรรถนะในการขับขี่ร้องลั่น เมื่ออยู่ๆ ก็มีผู้หญิงตัวบางๆ วิ่งทะเล่อทะล่าออกมายืนขวางหน้ารถของเขาในระยะไม่ไกลนัก
เขาเหยียบเบรกและประคองพวงมาลัยเพื่อหักหลบไปอีกเลนหนึ่งของถนนขนาดเล็กนอกเมือง โชคดีเหลือเกินที่เวลานี้ไม่มีการสัญจรขวักไขว่เหมือนช่วงหัวค่ำจึงไม่มีรถสวนมาให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำ
รถยนต์สัญชาติยุโรปสมรรถนะดีเยี่ยมหยุดตัวเองลงได้หลังจากต้องไถลเปลี่ยนเลนไปไกล ผู้ชายที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วรีบมองกระจกหลังเพื่อดูว่าผู้หญิงที่เห็นเมื่อครู่ยังมีตัวตนอยู่ไหม ก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นถนน จึงรีบขับรถกลับมาอยู่ในเลนปกติของตัวเองแล้วขยับเข้าจอดชิดริมขอบทาง ก่อนจะรีบวิ่งไปดูคนที่นอนอยู่กับพื้นถนนนั้นอย่างรวดเร็ว
2024-03-12
2024-03-12
2024-03-12
2024-03-12
2024-03-12
638
366
88
54
51