1. เหตุวุ่นลุ้นรักท่านประธานNC18
4. ท่านประธานขาพาหนูลงจากเตียง เอ๊ย คานที
ผู้เขียน: เล้าโลมLaoLome
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 เปิดตัว
ณ คอนโดหรูวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านใจกลางเมืองราคาสองร้อยล้าน ถูกตกแต่งสวยงามอย่างลงตัว ซึ่งรังสวาทของท่านประธานสุทธิ์พิธา
เมื่อซูซี่คนรักเก่าบินจากอเมริกาตรงมาที่คอนโดท่านประธาน.เอี๊ยด.เสียงประตูเปิด
" ไฮ...บี๋ไอ มาถึงแล้ว อยู่หน้าประตู" ชายหนุ่มไม่รอช้าสวมกอด คว้ามาจูบร่างสวยอย่างดูดดื่ม
"ไอคิดถึงยูมากเลย......" แม้ปากหนาจะครอบครองริมฝีปากอิ่มแถมยังรัวจูบไม่หยุด
" ใจเย็นๆ ค่ะบี๋ I Love You" ทั้งสองร่างชายหญิงแลกลิ้นกันอยากดูดดื่ม
"อื้ออออออ"
ฝ่ามือใหญ่ประธานสุทธิ์พิธาผลักร่างงามลงบนเตียงนุ่มขนาดหกฟุต ประกอบด้วยชุดเครื่องนอนราคาแพง มือใหญ่ยังซุกซนเล้าโลมกายสาวไม่หยุด ชุดที่ปกคลุมร่างกายตัวหนา ตัวบางที่หล่อนสวมใส่ราวกับหลุดมาจากแคทวอร์ค ถูกดึงชุดหล่อนโยนลงกับพื้นอย่างไม่ไยดี.....
แม้กระนั้นเจ้าของชุดก็ใช่ว่าจะต่อต้าน ยินยอมพร้อมใจแอ่นรับยั่วๆกายหนาอย่างไม่เกรงกลัว แถมยังชอบใจอีกต่างหาก
"อ่า...โอ้ว..........อ่า ซี้ด"
ทันใดนั้นเสียงออดหน้าคอนโดหรูก็ดังขึ้น..............
ปิ๊งป่อง..........ปิ๊งป่อง..........
"ท่านประธานครับ ท่านประธาน คุณสุทธิ์พิธาครับ ท่านครับ" เสียงทุ้มรัว อยู่หน้าห้อง พร้อมกับโทรศัพท์เครื่องหรูที่ดัง ครืด ครืด อย่างน่ารำคาญ
"ใครกล้ามาขัดจังหวะกูวะ" กระนั้นประธานหนุ่มรีบใส่เครื่องป้องกัน รัวใส่สาวสวยไม่ยั้งเพราะกำลังเข้าได้เข้าเข็ม
"ไม่ต้องสนใจหรอกบี๋ ให้เค้ารอไปเดี๋ยวอารมณ์ค้างมาต่อกันเถอะ ...."ซูซี่เอ่ยเสียงหวานดึงแก้มคนตรงหน้ามาหอม ใช้ขาเรียวเกี่ยวรั้งเอวสอบเอาไว้ ชายหนุ่มเห็นดังนั้นยกยิ้มเจ้าเล่ห์เด้งเอวสอบต่อจนถึงฝั่งฝัน....ไม่นานน้ำกามขาวขุ่นแตกเต็มถุงยาง ก่อนจะรีบลุกออกจากร่างอรชรใต้ล่าง แต่ขณะเดียวกันเสียงออดยังคงดังไม่หยุด
ผู้เขียน: อัญญาณี
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1
เหมือนเช่นทุกปี วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่คือวันรวมญาติ คนในตระกูลวัฒนะพันธ์ จะมารวมตัวกันที่บ้านหลังนี้ บ้านที่มีผู้อาวุโสสุดพักอาศัยอยู่ ปีนี้นางมีอายุแปดสิบปี ทว่าร่างกายยังแข็งแรง ลุกเดินได้โดยไม่ต้องมีใครช่วยพยุงหรือใช้เครื่องทุ่นแรง โดยเฉพาะฝีปาก ยังกล้าแข็งไม่แผ่ว และเป็นที่นับถือของลูกหลาน ที่ออกเกรงกลัวพลังอำนาจของนาง เพราะนางเป็นคนเดียวที่ช่วยให้ธุรกิจครอบครัว ผ่านวิกฤตมาได้อย่างหวุดหวิด
ลัดดาคนกุมอำนาจในบ้านนั่งอยู่ในห้องรับแขก โดยมีลูกหลานราวเจ็ดคนนั่งล้อมรอบ ใบหน้าทุกคนเกลื่อนด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข พูดคุยเรื่องธุรกิจที่เพิ่งฟื้นตัวอย่างภาคภูมิใจ
ต่างกับผู้หญิงคนหนึ่ง ดวงหน้าหวานอาบความเศร้า นัยน์ตาหล่อนหมองหม่น ความเสียใจ น้อยใจโบกทับจิตใจจนมันสูงเสียดฟ้า แล้วดูเหมือนว่า ความรู้สึกทั้งหลายจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ หญิงสาวเดินถือกระเป๋ากลางเก่ากลางใหม่เข้ามาในห้องดังกล่าว กุลธิรัตน์นั่งคุกเข่าบนพื้น
“ลูกหมีมาลาคุณย่าค่ะ” ลัดดาปรายตามองหลานสาวแสนชังแวบเดียว คล้ายไม่ใส่ใจคำพูด
“อืม ก็ไปสิ มัวรออะไร คนของบ้านโน้นมารอรับแล้ว อย่าพิรี้พิไรเลย” ไม่มีคำอวยพร ไม่มีประโยคที่ชวน
ให้รู้สึกว่า เป็นห่วงเป็นใย ชวนให้รู้สึกว่าเป็นการเสือไสไล่ส่งมากกว่า กุลธิรัตน์น้ำตารื้น หัวใจเจ็บปวดมาก
“ลูกหมีลาคุณพ่อคุณแม่ค่ะ” หล่อนยกมือไหว้บิดามารดาที่แทบไม่สนใจ อภิรักษ์ก้มหน้ากดมือถือ อนงค์ยกน้ำชาขึ้นมาจิบ ไม่มีใครกล่าวคำใด มีแต่ความหมางเมิน ไม่เห็นกุลธิรัตน์อยู่ในสายตา กุลธิรัตน์ยกมือไหว้ญาติผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก ก่อนลุกขึ้นยืน หยิบกระเป๋าเดินทาง ก้าวเดินออกไปนอกบ้าน
“นี แกเอาน้ำมนต์มาถูกบ้านฉันด้วยนะ แล้วฉีดให้ทั่วบ้านด้วยนะ ตัวเสนียดไปแล้ว ฉันไม่อยากให้เศษเสนียดในตัวมันอยู่ในบ้านหลังนี้”
เสียงคำสั่งดังมากพอให้คนกำลังเดินออกจากบ้านได้ยิน กุลธิรัตน์กลั้นน้ำตาไม่ได้ มันหยดลงเคลียร์แก้มนวล หยาดน้ำตาที่ไม่เคยห่างใบหน้าสาว มันหลังรินมาตลอดนับตั้งแต่หล่อนเกิดมา ยี่สิบเจ็ดปี เป็นเวลาอันยาวนานมาก กุลธิรัตน์หวังเหลือเกินว่า ที่อยู่ใหม่ของตน จะทำให้หล่อนไม่ต้องหลั่งน้ำตา หล่อนอยากมีรอยยิ้ม มีความสุขเหมือนคนอื่นบ้าง
กุลธิรัตน์หวังเช่นนั้น...
ผู้เขียน: ซีไซต์
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 บทนำ
เสียงประกาศราชโองการดังลั่นไปทั่วห้องโถง ทุกคนในห้องต่างคุกเข่านั่งเงียบไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยปากแม้แต่เพียงครึ่งคำ คล้ายกับว่าที่นี่คือป่าช้าอันเงียบสงบ
“บุรุษที่อายุเกินกว่าสิบห้าปีประหารชีวิต หากต่ำกว่าสิบห้าปีเนรเทศไปชายแดน สตรีที่อายุเกินกว่าสิบห้าปีให้ปลิดชีพตนเองด้วยการผูกคอ สตรีที่ต่ำกว่าสิบห้าปีให้ลดฐานะและส่งขายในตลาดทาส”
ซูลี่จูไม่มีโอกาสแม้จะพูดคุยต่อหน้าบิดามารดาหลังจากที่ประกาศราชโองการสิ้นสุดลง ด้วยถูกทหารแยกตัวพวกเขาออกจากกันไปโดยพลัน
ซูลี่จูคุกเข่าอ้อนวอน
“ขอโอกาสข้าได้พูดคุยกับบิดามารดาและน้องชายน้องสาวของข้าสักคำเถิดเจ้าค่ะ”
แม้นางจะอ้อนวอนเช่นนั้นทว่าทหารกลับไม่สนใจคำของนางแม้แต่ประโยคเดียว
“หุบปาก ใครก็ได้หาผ้ามาปิดปากนางที”
ซูลี่จูถูกปิดปากสนิท ไม่อาจเอ่ยคำใดได้อีก นางได้ยินเสียงร้องไห้ของน้องทั้งสองคน พวกเขายังเด็กอยู่แท้ ๆ อายุเพียงแปดและสิบขวบเท่านั้นจะทนถูกเนรเทศได้อย่างไร
ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของนางเอง
“ลากตัวนางไปแขวนคอ”
ซูลี่จูนึกถึงความสุขสบายในอดีตที่เป็นเฉกเช่นความฝัน นางเป็นคุณหนูใหญ่สกุลซูที่บิดารักใคร่ที่สุด ไม่ว่าสิ่งใดที่นางต้องการเพียงแค่เอ่ยปากก็ล้วนถูกวางไว้ตรงหน้า นับตั้งแต่ลืมตามีบ่าวไพร่รายล้อมรอบกาย กระทั่งถอดรองเท้านางยังทำไม่เป็นด้วยซ้ำ
ผู้เขียน: ผลิกา(เลอบัว)
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 บทนำ
บทนำ
“ผับ ๆๆ…” เสียงเสียดสีของสองกายที่ กำลังสอดประสานกลายเป็นหนึ่ง ยิ่งฟังยิ่งกระตุ้นความกำหนัดให้ปะทุถึงขีดสุด ดุ้นยักษ์ที่กำลังชำแรกแทรกผ่านความนุ่มลึก ทำเอาพวกเขาเสียวซ่านจนแทบลืมตัวตน เขาแข็งขึง ในขณะที่เธอก็อ่อนนุ่มแต่ร้อนผ่าว เขาเหยียดขยาย ในขณะที่เธอตอดรัดตลอดลำกายแกร่ง เขาขยับตอกอัด ในขณะที่เธอก็ส่ายร่ารับได้ทุกจังหวะการสอดใส่ ประหนึ่งร่างกายทั้งคู่เกิดมาเพื่อเติมเต็มซึ่งกันและกัน
“อ๊ะ! อื้อ!” เสียงเธอครางตามจังหวะที่ถูกกระแทกกระทั้น รับกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อเป็นจังหวะเดียวกัน
“อา…!” เขาเองก็คำรามเสียงแหบห้าว นึกไม่ถึงว่าร่างกายของผู้หญิงคนนี้จะให้ความรู้สึกดีถึงปานนี้ โดยเฉพาะความรัดรึงที่กำลังตอดตุบๆ มันทำเอาเขาอยากทะลายทำนบปลดปล่อยให้สายธารสวาทสาดกระเซ็นใส่ความแนบแน่นของเธอเต็มที อีกไม่นานหรอก รอให้เขาเสพสมเรือนร่างงดงามผุดผาดนี้ให้หนำใจซะก่อน ถึงตอนนั้นเขาจะปลดปล่อยให้เธอได้กลืนกินมัน
กายแกร่งแข็งขึงและร้อนผ่าวราวแท่งเหล็กที่กำลังขยับเข้าขยับออกเสียดสีจนเนินสาวร้อนฉ่า ไม่ใช่แค่เธอที่กำลังเสียดเสียวกับดุ้นยักษ์ที่ขยับตอกอัดลงมาซ้ำๆ เขาเองที่เป็นฝ่ายโรมรันก็ไม่ได้รู้สึกต่างกัน ยิ่งเขาขยับความคับแน่นก็ยิ่งบีบอัดจนต้องครางระงม ความกำหนัดที่มันกำลังพลุ่งพล่านอย่างที่ไม่เคย ทำให้เขาแทบระเบิด เหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่กำลังผุดพรายเต็มใบหน้าของ ไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกเหน็ดเหนื่อย กลับเป็นแรงกระตุ้นให้พวกเขาเข้าหากันอย่างรุนแรงมากขึ้น แนบแน่นขึ้น เธอยังคงส่ายร่าแอ่นรับตัวตนทั้งหมดที่เขาให้ ในขณะที่เขาก็โยกขยับสลับบดเบียดจนกายสาวสั่นคลอน
แสงไฟสลัวๆ จากหัวเตียงที่สาดกระทบมายังเรือนร่างเปลือยเปล่าขาวเนียนกำลังปลุกปั่นความกำหนัดของเขาให้พุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิม เธอเป็นใคร คำนี้ยังดังก้องอยู่ในหัว แล้วอะไรทำให้เธอต้องมาทำงานแบบนี้ คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็อดโมโหไม่ได้ เผลอระบายออกมาด้วยการกระแทกใส่เนินสาวแรงๆ จนเธอครางประท้วงใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเก แน่นอนว่าเขารู้ดีว่านี่คือครั้งแรกของเธอ แต่ที่ไม่รู้คือ...ทำไมเธอต้องเป็นสาวไซด์ไลน์ ถึงครั้งนี้จะเป็นครั้งแรก แต่ครั้งต่อๆ ไปล่ะ จะมีผู้ชายอีกกี่คนที่ได้ทำอย่างที่เขาทำ เพียงแค่คิด เขาก็เดือดดาลขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล พลันสะโพกสอบก็ขยับตอกอัดรุนแรงขึ้นอีก
ผู้เขียน: Melyssa
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1 ปลดปล่อย
"อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊า...อื้ม...แทนขาาาา...กระแทกเข้ามาแรงๆ เลยค่ะ...โอ้ว...แบบนั้น...เกลเสียว...ใจจะขาดแล้วแทนขาาา...อ๊า..." เสียงร้องครางปานจะขาดใจของนางแบบสาวนามว่ามิเกล ที่ถูกท่อนลำความเป็นชายของมาเฟียหนุ่มอย่างแทนไทถาโถมเข้าใส่ในร่องสวาทอย่างเน้นหนัก และต่อเนื่องรัวๆ
"อื้ม..." เสียงครางกระเส่าในลำคอของร่างสูงกำยำ มือหนาจับยืดสะโพกกลมกลึงไว้มั่น อัดกระแทกแก่นกายที่ใหญ่เกินมาตรฐานเข้าใส่ไม่ยั้ง เพราะเหตุนี้ทำให้มาเฟียหนุ่มเป็นที่หมายปองของสาวน้อยสาวใหญ่ที่อยากลิ้มลองรสกามของเขา อีกทั้งยังเพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ และทรัพย์สมบัติ ไม่ว่าจะเป็นเหล่านางแบบ ไฮโซ หรือแม้แต่ดาราดัง ก็ต่างล้วนอยากครอบครองหัวใจของเขา แต่ก็ไม่เคยมีใครพิชิตหัวใจมาเฟียหนุ่มได้เลย
"อ๊า...แทนขาาาา...เกลเสียวร่องไปหมดแล้ว...ซี๊ดดด...อ๊ะ...อื้อ..." เสียงร้องครางของนางแบบสาวร่านสวาทดังลั่นไม่หยุด พร้อมกับขยับเอวไปมาตามแรงกระแทกรัวเร็วในร่องสวาทของเธอในท่า Doggie Style
"อู้ว...ซี๊ดดด...อ๊ะ...อ๊า...อ๊า...แทนขาาาา...อ๊า..." เสียงร้องครางของเธอดังไม่ขาดสาย มาเฟียหนุ่มจับร่างบางนอนราบไปกับเตียง แล้วกระแทกความเป็นชายเข้ามาอีกหลายต่อหลายครั้งจนถึงจุดสุดยอด ทำเอานางแบบสาวนอนหอบหายใจเหนื่อยหมดเรี่ยวหมดแรง จากนั้นเขาก็ถอดถุงยางอนามัยโยนทิ้งลงไปในถังขยะใกล้ๆ บริเวณนั้น
"พรุ่งนี้ให้เกลมาหาแทนอีกนะคะ เกลจะทำให้แทนมีความสุขยิ่งกว่าวันนี้แน่นอน" นางแบบสาวร่างเพรียวเอ่ยเสียงหวานอย่างมีมารยาและจริตจะก้าน ก่อนจะเลื่อนตัวลงมากลางหว่างขาของเขา มือบางลูบไล้แก่นกายใหญ่อย่างหลงใหล จับท่อนเอ็นรูดขึ้นรูดลงตามความยาวอย่างชำนาญมือ แล้วก้มลงไปจูบท่อนเอ็นนั้นที่ยังคงแข็งชูชัน ปลายลิ้นเล็กตวัดเลียวนไปบนปลายหัวหยัก เลียวนตั้งแต่โคนจนถึงปลายยอด ปากเล็กค่อยๆ ครอบครองแก่นกายใหญ่เข้าไป
"อื้ม..." มาเฟียหนุ่มครางในลำคอด้วยความกระสันซ่าน ใช้สองมือหนาประคองศีรษะแล้วกระแทกสวนท่อนเอ็นเข้าไปในปากของนางแบบสาว
"อื้ม...อ๊า..." ร่างบางผละออกจากท่อนเอ็นร้อน แล้วค่อยๆ ขึ้นมานั่งคร่อมบนร่างกายอันกำยำของมาเฟียหนุ่ม บั้นท้ายกลมกลึงบดคลึงแก่นกายใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ จับแก่นกายหมายจะจับยัดเข้าไปในร่องสวาทอันฉ่ำเยิ้มของเธอ
"ถุงยาง" เสียงกร้าวของมาเฟียหนุ่มทำให้เธอต้องหยุดชะงัก
"ไม่ต้องใส่หรอกค่ะ เนื้อแนบเนื้อดีกว่าเป็นไหนๆ" มิเกลบอกพลางลูบไล้ไปบนหน้าท้องแกร่งอย่างเย้ายวน
"ถ้าไม่ใส่ก็กลับไป" มาเฟียหนุ่มบอกเสียงกร้าวอีกครั้ง ตั้งท่าจะลุกขึ้น
"ก็ได้ค่ะ" นางแบบสาวบอกเสียงอ่อย ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบถุงยางอนามัยที่อยู่ไม่ไกลนักมาสวมใส่ท่อนเอ็นใหญ่ แล้วจับแก่นกายของเขาเข้าไปในร่องสวาท ครอบครองความใหญ่โตจนมิดลำยาว
ผู้เขียน: นันทฉัตร ไชยวัฒนา
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ฉันสั่งให้คุณช่วยฉันเดี๋ยวนี้
ณ โรงแรมห้าดาวเพนนินซูล่าในเมืองตันโจว
งานเลี้ยงวันเกิดปีที่ 22 ของลี่เฉี่ยนโลว่จบลงแล้ว ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อราวกับลูกตำลึกสด เธอเริ่มเดินโซซัดโซเซ
หลังจากขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นแปด ฟู่ซินหยูได้กุมมือของเฉี่ยนโลว่ไว้แน่นเธอจะไม่ยอมให้เฉี่ยนโลว่ไปนอนบนเตียงของชีเจิ๋อหมิงเป็นอันขาด
หลังตัดสินใจแน่วแน่ เธอดึงเฉี่ยนโลว่ให้เดินไปทางห้องริมสุดทางเดิน บริเวณหน้าห้องมีพนักงานรูมเซอร์วิสเพิ่งเข้าไปทำความสะอาดและกำลังจะเดินออกไป
“เดี๋ยวค่ะ อย่าเพิ่งปิดประตู นี่ห้องเพื่อนฉันเอง ฉันกำลังจะเข้าไปหาเขาพอดี” พนักงานรูมเซอร์วิสเข็นรถเดินจากไปโดยไม่ได้สงสัยใด ๆ
ซินหยูมองลอดไปตรงช่องประตู เห็นแผ่นหลังของชายหนุ่มที่กำลังสวมชุดคลุมอาบน้ำอยู่ เธอคิดว่าเขาคงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
‘ขอแค่เป็นผู้ชายก็พอ!’ เธอผลักเฉี่ยนโลว่เข้าไปในห้อง ๆ นั้นอย่างเต็มแรง ก่อนจะจัดแจงปิดประตูห้องทันที
ซินหยูเงยหน้าขึ้นกวาดสายตาหากล้องวงจรปิด โชคเข้าข้างเธอที่ห้องนั้นอยู่ในมุมอับพอดี
หลังจากจัดทรงผมที่หยักศกของเธอเข้าที่เรียบร้อยแล้ว เธอก็มุ่งหน้าไปยังห้องชุดอีกห้อง โดยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ภายในห้องที่มืดสลัว เฉี่ยนโลว่ที่ยังมึน ๆ ตกใจหลังเห็นชายหนุ่มตรงหน้าหันมามองเธออย่างไม่วางตา
เธอกลัวจนตัวสั่น เมื่อเห็นสายตาที่เย็นชาของเขา
เธอแค่รู้สึกไม่สบายตัว แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรต่อ เธอเดินเซเข้าไปหาเขา เธอรู้สึกต้องการอะไรบางอย่าง แต่กลับคิดไม่ออกว่าต้องการอะไร
ผู้เขียน: ซีไซต์
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 บทนำ
หลัวเซียงเซียงเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา นอกจากอาการมึนงงสับสนและปวดศีรษะอย่างแรงแล้วเธอยังถูกความจริงตรงหน้าทำให้ตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าตัวเองได้เข้ามาอยู่ในนิยายออนไลน์ที่กำลังอ่านค้างอยู่ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงจนร่างกายถูกทับด้วยแผ่นปูนขนาดใหญ่ที่ถล่มลงมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
ตอนนั้นหลัวเซียงเซียงกำลังนั่งกินบะหมี่รสหมาล่าของโปรดในหอพักนักศึกษาปีสี่ที่มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของปักกิ่ง พร้อมกับนั่งอ่านนิยายอย่างเอาเป็นเอาตาย ยังก่นด่าตัวร้ายที่โง่เง่าวัน ๆ เอาแต่ตามพระเอกจนน่ารำคาญไม่ทันขาดคำตัวเองก็ถูกของแข็งหล่นลงมาทับร่างกายส่วนล่างหลังจากนั้นไม่กี่นาทีที่หลัวเซียงเซียงตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้นเธอก็สติดับวูบไปเสียแล้ว
ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ในที่สุดหลัวเซียงเซียงก็ตื่นขึ้นมา เธอไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดและตอนนี้ยังอยู่ในความมืดมิดกระทั่งหลังมือของตัวเองยังมองไม่เห็น หลัวเซียงเซียงคิดว่าตัวเองอาจจะตายไปแล้ว จนกระทั่งได้ยินเสียงหนึ่งในหัวดังขึ้นมา
'หลัวเซียงเซียงยังอยู่หรือไม่'
ในความมืดมิดนั้นเธอไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงของใครกันแน่ ชีวิตนี้ถึงบุญกุศลไม่ค่อยได้สร้าง แต่ก็ไม่เคยทำร้ายใครนอกจากนินทาดาราไปวัน ๆ ด้วยเรื่องชั่วช้าเล็ก ๆ นี้คงไม่ถึงขนาดให้เธอตกนรกกระมัง
'ฉันอยู่นี่ คุณเป็นใครเหรอ ฉันตายแล้วใช่หรือเปล่า'
ในที่สุดเธอก็ตอบกลับออกไปด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว
'ยัง ยังไม่ถึงเวลาตาย นายท่านต้องการให้เธอเล่นเกมสักเกมก่อน เธอโชคดีมากที่ต่อไปจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง'
'เกมอะไร นายท่านคือใคร แล้วคุณคือใคร ทำไมฉันต้องเล่นเกมด้วย'
เจ้าของน้ำเสียงประหลาดกระแอมเล็กน้อยก่อนจะบอกเธอว่า
'ฉันคือระบบระหว่างจักรวาล มาเป็นไกด์นำทางของเธอ ช่วงนี้นายท่านรู้สึกเบื่อเธอเลยเป็นผู้โชคดีที่ถูกเลือกมาทำให้นายท่านสนุกเสียหน่อย หลัวเซียงเซียงหากเธอสามารถเอาชนะเกมนี้ได้เธอจะมีชีวิตรอดกลับไปเป็นหลัวเซียงเซียงคนเดิม เธอจะได้กลับไปหาเพื่อน กลับไปหาครอบครัวของเธอ แต่หากเธอไม่สามารถพลิกชะตาได้แน่นอนว่าความตายกำลังรอเธออยู่'
ผู้เขียน: เนื้อนวล
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1
อองเดร มาร์แต็ง นักธุรกิจผู้ร่ำรวยและมีอิทธิพลมากระดับโลก ชายหนุ่มคือหนุ่มหล่อในฝันที่สาวๆ ทุกคนล้วนแต่อยากได้มาครอบครอง แต่อองเดรไม่ใช่สมบัติของใครทั้งนั้น เพราะในหัวของเขาเกลียดคำว่า ‘ครอบครัว’ ที่สุด
คำว่าครอบครัวไม่เคยเฉียดเข้าใกล้สมองของเขามาก่อน และเขาก็แทบไม่รู้จักกับคำนี้เลย คงเพราะฝันร้ายในวัยเยาว์ ทำให้เขาเลือกที่จะไม่สนใจคำนี้อีกเลย
บิดาของเขาร่ำรวย แต่ก็มีผู้หญิงมากหน้าหลายตา เขาต้องจมปลักอยู่กับความทุกข์เมื่อเห็นน้ำตาของมารดาไหลอาบแก้มทุกเมื่อเชื่อวัน จนกระทั่งวันที่มารดาจากโลกนี้ไป และทิ้งรอยแผลขนาดใหญ่เอาไว้ในใจของเด็กสิบขวบเช่นเขา
ความรักเหรอ... มันก็ไม่มีอยู่จริงเหมือนกับคำว่าครอบครัวนั่นแหละ
ดวงตาสีสนิมจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างห้องทำงานหรูอย่างไร้จุดหมาย
ตอนนี้เขาอายุย่างเข้าสู่เลขสี่มาสิบสองวันแล้ว แต่ในหัวของเขาก็ยังคงว่างเปล่า ชีวิตในทุกวันคือการทำงาน ส่วนค่ำคืนก็คือการหลับนอนกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา
เขาสนุกกับการมีเซ็กซ์โดยไร้การผูกมัด เงินในกระเป๋าจบปัญหากวนใจทุกอย่างได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีบ้างที่เขาถูกคู่นอนตามตื้อ แต่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะเขามีเลขาฯ คู่ใจผู้ที่จะจัดการกับผู้หญิงพวกนั้นจนไม่กลับมาตอแยกับเขาอีก
เรือนร่างสูงใหญ่เกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรขยับเดินกลับมาหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้หนังสีดำตัวโต
หลังจากที่บิดาตายคานมปลอมของนางแบบชุดชั้นในไปเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน เขาก็รับช่วงต่อจากท่านดูแลธุรกิจน้ำมัน และพัฒนาจนมันรุ่งเรืองจนไม่มีคู่แข่งใดๆ กล้าเทียบเคียง
ชีวิตของเขาประสบความสำเร็จในทุกด้าน ทั้งงาน และความรื่นเริงในยามค่ำคืน แต่ทำไมนะ เขาถึงรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางสิ่ง
มันไม่ใช่คำว่าครอบครัว และมันก็ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง แต่มันคือ...
ผู้เขียน: ดอกอ้อลู่ลม
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 2 การกลับมา
สวัสดีค่ะฉันชื่อว่าเรนเดียร์พ่อกับแม่มักจะเรียกสั้นๆ ว่าเรนส่วนเพื่อนๆ จะเรียกว่าเดียร์แต่ฉันก็ยังมีชื่ออีกชื่อนึงนะคะแต่ชื่อนี้จะมีแค่คนเดียวที่เรียกแต่ตอนนี้ฉันไม่ได้ยินชื่อนั้นอีกแล้วล่ะเพราะอะไรน่ะเหรออ่านไปก็จะรู้เองค่ะฉันไม่อยากสาธยายเพราะมันเหมือนเป็นการตอกย้ำความเจ็บปวดของตัวเอง
ตอนนี้ฉันมาอยู่ที่งานเลี้ยงรุ่น งานที่รวบรวมเพื่อนๆ ทุกคนที่บางคนก็ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่เรียนจบหรือบางคนอาจจะยังเจอกันอยู่ ส่วนฉันตั้งแต่เรียนจบไปสามปีฉันไม่ได้เจอใครเลยค่ะเพราะหลังจากเรียนจบฉันก็ย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านของตัวเองที่ต่างจังหวัด
"เฮ้ยัยเดียร์ทางนี้โว๊ยยยยย!!! " เสียงเรียกชื่อของฉันที่ดังแข่งกับเสียงดนตรีทำให้ฉันหันไปมองหาว่าใคร ปรากฏว่าเป็นยัยอิมเพื่อนสนิทของฉันเองค่ะที่มันกำลังตะโกนเรียกจนทำให้คนอื่นๆ หันมามองจนฉันต้องรีบก้มหน้าแล้วเดินไปหามันที่โต๊ะ ยัยอิมชื่อเต็มๆ ก็คืออิมเมจและที่ฉันกับมันไม่ได้เจอกันก็เพราะหลังจากเรียนจบพ่อแม่มันก็ส่งมันไปเรียนต่อต่างประเทศทันทีทำให้ฉันกับมันไม่ได้เจอหน้ากันเลยมีแค่โทรคุยกันเท่านั้น
"ไม่ได้เจอแกตั้งหลายปีโคตรคิดถึงเลยว่ะ" มันพุ่งเข้ามากอดฉันจนฉันแทบหงายหลังคือตอนนี้มันคงจะเมาแล้วล่ะเพราะดูจากแก้วเครื่องดื่มที่วางอยู่เต็มโต๊ะ
"อื้มมมฉันก็คิดถึงแกเหมือนกันว่าแต่ทำไมแกเมาเร็วขนาดนี้ล่ะงานเพิ่งเริ่มไม่ใช่เหรอ"
"ก็มันไม่มีอะไรทำนี่หว่าแกก็มาช้าฉันไม่อยากคุยกับใครก็เลยสั่งเครื่องดื่มมาดื่ม" มันยกแก้วเหล้าขึ้นมาโชว์ก่อนจะกระดกเข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว
"เป็นความผิดฉัน?? " ฉันใช้นิ้วชี้มาที่ตัวเองเพราะยัยอิมมันโทษฉันว่าฉันมาสาย แต่ฉันก็มาสายจริงๆ เพราะฉันนั่งเครื่องจากเชียงใหม่เพิ่งจะถึงกรุงเทพได้ไม่กี่ชั่วโมงนี้เองแล้วไหนจะต้องหาโรงแรมที่พักอีกเพราะที่นี่ฉันไม่มีบ้านเมื่อก่อนตอนเรียนที่นี่ฉันก็เช่าหออยู่มาตลอดและไหนจะรถติดอีกคือกรุงเทพรถติดยังไงก็ยังติดอยู่อย่างนั้นคือฉันผิดเองแล่ะที่กะเวลาผิดเพราะเคยชินกับการเดินทางที่สะดวกสบายรถไม่ติดของบ้านเกิดตัวเอง
ผู้เขียน: อักษรสีทอง
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 มีเซ็กซ์ครั้งแรกกับท่านประธาน
เทียนหอมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อรวบรวมความกล้า ในมือคือกล้องที่มีสายคล้องคอไว้ เธอใส่เสื้อยืดกับกระโปรงทรงพลีทยาวคลุมเข่า ผมยาวมัดรวบปล่อยเป็นหางม้าไว้ด้านหลัง เปิดเผยดวงหน้าเรียวรูปไข่ที่ประกอบไปด้วยเครื่องหน้าสวยเฉี่ยว ดวงตาโตเรียว ปากอิ่ม จมูกโด่งรั้น เธอแต่งหน้าอ่อนๆ ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เสริมแต่งจุดไหนมากเป็นพิเศษ โดยรวมแล้วเธอแต่งตัวเรียบร้อยตามกาลเทศะ แต่แม้จะแต่งเรียบง่าย ทว่าใบหน้าสวยหวานของเธอก็ยังดูผุดผาดโดดเด่นอยู่ดี
เธอมีกระเป๋าสะพายข้างคล้ายถุงย่าม ในนั้นมีทั้งสมุดสำหรับจดบันทึก และปากกา
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเปลี่ยนจากทำข่าวอาชญากรรมมาอยู่ฝ่ายบันเทิง และงานแรกของเธอก็ไม่ใช่การหาข่าวของดารานักร้องหรือบุคคลสาธารณะทั่วไป แต่เป็นการสัมภาษณ์มหาเศรษฐี
นนทิวรรธน์ รดิศไชยนันท์ อายุ 32 ปี มีบิดาเป็นเจ้าของนิคมอุตสาหกรรม ทำธุรกิจนำเข้า – ส่งออกสินค้าและอสังหาริมทรัพย์หลายพันล้าน และมีมารดาเป็นเจ้าของธุรกิจเพชร สตาร์ไดมอนต์
เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวที่จะต้องสานต่อธุรกิจของพ่อและแม่ โดยเขาเรียนจบปริญญาโทจากประเทศออสเตรเลีย และตอนนี้ก็อยู่ในช่วงรับงานต่อจากพ่อแม่ เขาจึงเป็นผู้ชายที่เนื้อหอมที่สุดในช่วงนี้ เป็นคนที่ผู้หญิงร้อยละแปดสิบต่างใฝ่ฝัน ติดอันดับ 1 ใน 10 สามีในฝันที่ผู้หญิงทั่วประเทศพากันโหวตให้
และในตอนนี้เขากำลังคบหาดูใจอยู่กับวิมลิน นางเอกสาวดาวรุ่ง จึงยิ่งเป็นที่จับตามองมากขึ้น เธอเองก็มาที่แห่งนี้เพื่อสัมภาษณ์เขาในฐานะที่เขาเป็นนักธุรกิจไฟแรงและเป็นคู่หมั้นของวิมลิน
กว่าจะติดต่อขอสัมภาษณ์ได้ช่างยากเย็น รอนานเป็นเดือนกว่าทางเขาจะตอบรับยอมให้เธอไปทำข่าวได้ ซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะเป็นนักข่าวคนแรกที่ได้รับอนุญาต
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ อีกครั้ง แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมา เธอยืนนิ่งอยู่หน้าห้องมาพักใหญ่แล้ว
“เชิญสิครับ คุณนนท์ว่างแค่ชั่วโมงเดียวนะครับ เดี๋ยวก็ต้องเข้าประชุมแล้ว” พิพัฒน์ ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะหน้าห้อง ในตำแหน่งเลขาได้เอ่ยเตือนสติ
“อ่า...นั่นสินะคะ คงเพราะฉันตื่นเต้นมากเกินไป” เธอกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ มีเวลาแค่ชั่วโมงเดียว ดังนั้นเธอต้องทำให้ดีที่สุด จะผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด
2024-03-12
2024-03-12
2024-03-12
2024-03-12
2024-03-12
626
359
87
53
51