ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์
กใครส
ว่าจะอยู่ห่าง
อคอยอย่างม
ราสองจะมีโ
ยงครั้
นจีนในส
ิวและยุค
ัติศาสตร์จีน ยุคนี้เป็นยุคที่มีการต่อสู้อย่างดุเดือดและรุนแรงระหว่างแคว้นทั้งเจ็ดในแผ่นดินจีน ถ้าพูดถ
จ็ดรัฐมหาอำนาจในตอนปลายยุคชุนชิวนักประวัติศาสตร์จีนเรียกว่า เจ็ดมหานครรัฐแห่งยุคจ้านกว๋อ ได้แก่ รัฐฉี รัฐฉู่ รัฐเยียน รัฐฉิน รัฐหาน รัฐเว่ย และรัฐจ
่งรัฐฉิน หรือที่รู้จักกันในนาม จิ๋นซีฮ่องเต้ (พระ
หญ่แห่งยุคจ้านก
รษที่ห้าก่อนคริสตกาล จากนั้นรัฐจ้าวปฏิรูปทหารในรัชสมัยพระเจ้าจ้าวอู่หลิง ทำให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ภายหลังพ่ายแพ้ยับเยินให้แก่รัฐฉิน ในยุทธการที่ฉา
นักนิติปรัชญา, กงซุนหลง นักตรรกวิทย
่ง ฉลาดหลักแหลม แต่มักเจอกับปัญหาด้านการเมืองที่ไม่ค่อยมั่นคง มีการชิงอำนาจอ
วิตของชาวเมืองจะค่อนไปทางสบายๆ แต่เพราะไม่ค่อยระแวดระวังเกินไปจึงไม่ทันรับมือกับภัยสงค
ันมิให้รัฐฉินเข้าถึงที่ราบจีนเหนือ ทำให้รัฐหานตกเป็นเป้าโจมตีของรัฐฉินบ่อยครั้ง ที่สุดแล้วรัฐหานก็กลับกลายเป็นรัฐแรก
ิน ฉู่และเว่ย จึงเป็นเมืองที่ต้องเฝ้าระวังภัยตลอดเวลา แต่ก็ยังถือว่ามีข้อดีในแง่เป็นเมืองที่ตั้งอ
ดนตั้งอยู่ระหว่างรัฐฉินและฉีและรวมบางส่วนของเหอหนานสมัยใหม่เหอเป่ย์ชานซีและชานตง หลังจากเมืองหลวงถูกย้ายจาก Anyi ไปยัง Daliang ในช่วงรัชสมัยของกษัตริย์ Hui, Wei แค้วนเว่ยเป็นเมืองที่เต็มไปด้วย
จ้าว ส่วนทิศเหนือและทิศตะวันออกติดกับมองโกเลีย ทำให้แคว้นเหยี่ยนมีสภาพอากาศหนาวเย็น ห่างไกลจากแคว้นอื่นๆ เป็นเมืองที่ได้รับความยำเกรงจากรัฐอื่นบ้างเป็
ั้งทางด้านการทหารและการปกครองก่อนจะถูกรัฐฉินพิชิตเมื่อสองร้อยยี่สิบสามปีก่อนคริสตกาล เป็นแคว้นใหญ่ มีศักยภาพในการดำเนินการต่างๆ สู
ตะวันตก และสามารถโค่นล้มราชวงศ์ฉินลงได้สำเร็จ ขณะเดียวกันมีชาวนาซึ่งมาจากอดีตรัฐฉู่เช่นกันนามว่า หลิวปัง ได้ตั้งตนเป็นใหญ่และต่อสู้กับเซี่ยงอวี่หร
่และพัฒนาได้อย่างที่รัฐคู่แข่งทางที่ราบจีนเหนือไม่สามารถทำได้มาก่อน ครั้นเมื่อปฏิรูปกฎหมายขนานใหญ่ในศตวรรษที่สามก่อนคริสตกาล รัฐฉินก็กลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงอำนาจที่โดดเด่นของกลุ่มเจ็ดรณรัฐ จนผนวกดิ
งที่ดีจนก้าวกระโดด ทำให้ท้ายที่สุด เจ้าแคว้นอย่าง “จิ๋นซีฮ่องเต้” สามารถรวบแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ เมืองหลวงของ