มนตร์ตาละวัน -ภพคุณหลวง-
ได้ ชีวิตฉันจะเป็นยัง
ปาก จะต้องอยู่กับฉันไ
ปล่งประกายสีแดง จ้องมองใบหน้าสดสวยนิ่งงัน สนใจเขี้ยวขาวคมตรงมุมปากยังเล
ป่ายบนกายสาวที่ไม่เคยยินยอมให้ชายใดแตะต้อง เว้นเสียแต่ในฐานะสามี คุณหลวงหนุ่มจึงเอาแต่ใจอยากจับตรงไหนก็จับ มือล
ประสีประสาออกไปพร่ำสอนให้อย่างใจดี นำพาเสียงน่าอายจากการกระทบกระทั่งกันของน้ำลายและริมฝีปาก ยามใบหน้าหล่อเหลาก้มลงพรมจูบไปทั่
ึ้นอีกครา เมื่อเรียวปากหนาได้รูปเริ่มหยอกล้อกับยอดปทุมถันที่แข็ง
่นชมความสวยเบื้องหลังแพรไหมสีดำขลับด้วยนัยน์ตาสีแดงเป็นประกาย ชิมชมดูดดื่มอย่างตะกละตะกลาม ประหนึ่งจระเข้ใน
บปลายลิ้นอุ่นร้อนเป็นงานยามดูดเม้ม กระหวัดเลียกลางกายสาว จนหล่อนยกตัวขึ้นนั่งตัวขดงอ หวีดร้องขอให้เขาอย่าหยุด
หวานหอมเบื้องล่าง กระเถิบกายขึ้นแทรกหว่างกลาง สองขาส
มานค่ะ... ได้โปรด
อบประโลมหล่อนด้วยจุมพิตเร่าร้อน มือสะกิดปลายยอ
ช้ความระมัดระวังตามที่รับปากเอาไว้ สัมผัสหล่อนอย่างเอาใจ ทว่ายังอดทนข่มความปราร
ะ... มั
กประเดี๋ยวหล่อนจะรู้สึกดี ฉันค
ยับตัวเข้าออกถี่ระรัวไม่ปล่อยให้หล่อนได้หายใจหายคอ สองขาสั่นเทาก็คอยหนีบสะโพกสอบเอาไว้เพราะประสบเข้ากั
ๆ สมกับที่เป็นเมียซึ่งเขาซื
ด้วยความสุขหฤหรรษ์ ร่างบางแอ่นเอวรับแรงกระแทกกระทั
กนกับผัวให้รู้แพ้รู้ชนะ บางครั้งเขาก็ช้า ก็เร็วเพื่อเอาอกเอาใจหล่อน ยั
อา... ทำไมหล่อนน่า
ดจนเส้นเลือดปูดโปน แววตาคู่คมเปล่งประกายสีแดงตามธรรมชาติ เมื่อกุมภิลหนุ่ม
อ๊ะ! คุ
เข้าหาหล่อน รักหล่อนให้มากเท่าปากว่าจะดูแลตราบชั่วชีวิต คุณหลวงจันจึงมอบความเป็นตัวตนทั้งหมดให้ในเฮือกสุดท้าย จนไม่มีเหลือสัก
----------
เร่าร้อนอบอุ่นอยู่ไม่น้อย เวลาที่เขากอดหล่อน จูบหล่อน ราวกับว่าหล่อนเป็นแก้วล้ำค่าอันแสนบอบ
้แต่เก้าอี้ทำงานตัวเล็ก ก็มาตั้งอยู่กลางห้อง คราบเลือดสีแดงสดที่แห้งกรังไปกับ
ามคนในอ้อมอก ดวงตาฉ่ำปรือของหล่อนส