อัศวินพิชิตพลอย

อัศวินพิชิตพลอย

S.nook

5.0
ความคิดเห็น
244
ชม
15
บท

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออัศวินอยากจะมีลูกน้อยเพื่อเป็นโซ่คล้องใจ แต่พลอยไพลินยังคงรักสนุก เธอยังคงยึดติดกับชีวิตการทำงานและวัยสาวของเธอ ทำให้เธอไม่พร้อมที่จะมีลูกในช่วงเวลานี้ อัศวินจึงต้องวางแผนทุกแผนการเพื่อที่จะมีลูกกับเธอ

บทที่ 1 บทนำ

หกปีกว่าแล้วที่อัศวินกับพลอยไพลินได้แต่งงานกันและใช้ชีวิตร่วมกันมา ตอนนี้พลอยไพลินเรียนจบแพทย์อย่างที่เธอฝันไว้และกำลังทำอาชีพหมออย่างที่เธอตั้งใจอย่างเต็มที่ ตอนแรกเธอตื่นเต้นกับการจบใหม่มากจนแทบจะทำอะไรไม่ถูกเลย ดีที่มีอัศวินคอยให้คำแนะนำเธออยู่ไม่ห่าง จนเวลาผ่านไปสามเดือนเธอก็ค่อยๆ เรียนรู้งานมากขึ้น เก่งขึ้นจนเขาแทบจะไม่จำเป็นสำคัญเธอไปแล้ว

ส่วนเขาน่ะเหรอก็อย่างที่เขาบอกไว้เขาเป็นอาจารย์ที่มหาลัยเคเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น หลังจากเลิกสอนที่มหาลัยเคเขาก็มาช่วยพ่อแม่ทำธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มตัว เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงบริหารทั้งโรงแรมเดอะเอ็ม และห้างเดอะเอ็ม จนมีผลกำไรทะลุเป้ามีคนอยากเข้ามาทำธุรกิจร่วมด้วยมากมาย

ส่วนชีวิตรักก็ราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร จะมีก็แต่พลอยไพลินไม่ยอมมีลูกน้อยกับเขาสักที เขาก็อายุมากขึ้นทุกวันจะย่าง 40 ปีอยู่แล้ว ส่วนเธอน่ะเหรอก็ยังสาวยังสวยอยู่ทุกวัน มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มารุมจีบเป็นว่าเล่น จนเขาตามหึงจนแทบไม่หวาดไม่ไหว ไหนจะยังมีคนไข้ของเธออีกล่ะ แค่คิดอัศวินก็ปวดหัวแล้ว เห็นที่ต้องใช้มาตรการเด็ดการเสียแล้ว

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้อัศวินตื่นจากภวังค์ความคิด อัศวินก้มลงมองหมายเลขที่โทรเข้ามา แล้วรู้สึกไม่อยากจะรับสายแต่จำใจต้องรับอย่างเลี่ยงไม่ได้

“นี่มาคัส! แกจะโทรมาหาสวรรค์วิมานอะไรดึกๆ แบบนี้ แกไม่หลับไม่นอนบ้างบ้างรึไง”

อัศวินบ่นกระปอดกระแปดอย่างหัวเสีย นึกถึงตอนที่มันช่วยเขาคิดแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดของพลอยไพลินตอนไปปารีสทีไร เขาอยากจะกระทืบมันยิ่งนัก เขาไม่น่าหลงเชื่อแล้วทำตามมันเลย เกือบทำให้พลอยไพลินตกอยู่ในอันตรายก็เพราะแผนปัญญาอ่อนของมัน

“ไอคิดถึงยูนะวิน ตอนนี้ไออยู่ที่เมืองไทย ยูออกมาหาไอที่ผับหน่อยสิ”

“ไม่ไป! อยากไปก็ชวนไอ้ชัยไปสิ”

“นี่ยูยังโกรธไอเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ มันผ่านมาทั้งหกปีกว่าแล้วนะ ยูเลิกโกรธไอสักทีเถอะ ไอขอร้องล่ะ พลีสส!”

“ใช่ ฉันยังโกรธอยู่ และก็โกรธมากด้วย!”

“ได้โปรด พลีสส!! ออกมาหาไอหน่อย ไอชวนชัยแล้วมันไม่ว่าง ไอมีแค่ยูคนเดียวเท่านั้นตอนนี้”

“ไม่เอาฉันไม่ออกไปไหนทั้งนั้น เดี๋ยวพลอยก็จะกลับมาจากโรงพยาบาลแล้ว”

“ยูแน่ใจเหรอ ว่าพลอยจะกลับไป”

“นายหมายความว่าไง?”

“เปล๊าาา!! ไอก็แค่จะบอกยูว่า พลอยอาจจะติดเข้าเวรต่ออะไรแบบนี้ เลยไม่ได้กลับบ้านก็ได้นี่น่า ออกมาหาไอเถอะนะ”

“อย่ามาทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลยน่า แล้วก็เลิกพูดยูกับไอสักทีเถอะ พูดแบบปกติที่เคยพูดกันไม่ได้รึไง”

“เศร้าจัง ฉันอุตส่าห์พูดสุภาพๆ กับแกแล้วนะ”

“แบบนี้สิค่อยน่าฟังหน่อย”

“ฮ่าๆ มาหาฉันเถอะ ถ้าไม่มาถือมึงพลาดของเด็ด”

มาคัสมองไปยังสาวสวยที่ใส่ชุดลายเสือบวกกับหน้ากากเสื้อแล้วขยิบตาให้เธอ

“ฉันขอคิดดูก่อน ถ้าพลอยไม่กลับบ้านจริง ฉันถึงไปหาแก”

“โอเค แล้วจะรอ” อัศวินวางสายจากมาคัส ก็มีข้อความจากพลอยไพลินส่งมาพอดี เข้ารีบเปิดมันอ่านทันที เธอบอกว่ามีเข้าเวรต้องอยู่กะดึกจนถึงตอนเช้าให้นอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอเธอ

“นายเป็นหมอดูรึไงวะมาคัส สรุปฉันต้องออกไปหาแกสินะ”

อัศวินบ่นก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปหามาคัส เขาขับรถมายังผับที่มาคัสว่า จะว่าไปตั้งแต่เขาแต่งงานเขาก็ไม่เคยเข้าผับหรือเที่ยวเล่น ดื่มเหล้าอะไรเลย ชีวิตเขามีแค่พลอยไพลิน และก็งานเท่านั้น เขาจอดรถไว้หน้าผับก่อนจะเข้าไปยังข้างใน เขาเดินฝ่าผู้คนมากมายเข้าไป ใช้สายตาสอดส่องเพื่อหามาคัส เมื่อมาคัสเห็นอัศวินจึงโบกมือเรียกเขาทันที

“Hey! ทางนี้”

“นายมีอะไรก็ว่ามาฉันจะรีบกลับ”

“อะไรกันวะ เพิ่งจะมาถึงเองนะ ดื่มก่อนสิ”

“ไม่อยากดื่ม เดี๋ยวเมา”

“เอาน่า...ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วช่วยดื่มเป็นเพื่อนกันหน่อย”

อัศวินบ่นพึมพำคนเดียว ก่อนจะยกแก้วเหล้าที่มาคัสยื่นให้จนหมดแก้ว ภายในผับนั้นแสง สี เสียง และกลิ่นของมึนเมาทำให้เขาอยากจะหลีกหนี อัศวินเหลือบไปเห็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งคุ้นตา เดินอย่างยั่วยวนเข้ามาทางเขา เธอใช่ชุดลายเสื้อ เนื้อผ้ามันรัดรูปเห็นสัดส่วนจนชัดเจน จนเขาหลงนึกไปถึงร่างของพลอยไพลิน แต่จะเป็นเธอไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอเข้าเวรกะดึกอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้าเป็นเธอจริงล่ะก็ เขาจะจับมาฟาดก้นให้นั่งไม่ได้เลยค่อยดู โทษฐานที่แต่งตัวออกมายั่วให้ผู้ชายคนอื่นมอง และแทะโลมเล่นด้วยสายตา

“สวยใช่มั้ยล่ะ”

“สวยกะผีอะไร ใส่หน้ากากเสืออย่างนั้นหลงมาจากงานหน้ากากแฟนตาซีสิไม่ว่า”

“ออกจะเซ็กซี่ ไม่ชอบแบบเหรอวะ”

“ฉันมีเมียแล้ว แกจะให้ฉันสนใจผู้หญิงคนอื่นได้ไงกัน”

คนรักเมียอย่างอัศวินพูดตอบกลับมาคัสผู้เป็นเพื่อนไป เขาทำท่าจะเดินหนี แต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อแม่เสือสาวเดินมาหาเขา ดึงแขนเขาไปกลางฟลอร์แบบไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนจะเริ่มเต้นยั่วยวนเขา

เธอถูแผ่นหลังของตัวเองที่หน้าอกของเขา แล้วเต้นส่ายสะโพกมาราวกับซ้อมมาอย่างดี แค่นั้นยังไม่พอ เมื่อหันหน้ามาหาเขาก็ใช้มือแตะที่ไหล่แล้วเต้นรูดตัวลง ทำอย่างกับเขาเป็นเสาหรือต้นไม้ที่ไร้ความรู้สึกที่คิดจะทำอะไรกับเขาก็ได้ แม้เขาจะรักพลอยไพลินมาก แต่พอเจอเข้าแบบนี้ของมันก็ขึ้นสิ แต่น่าแปลกปกติเขาไม่ใช่ของขึ้นง่ายๆ ถ้าไม่ใช่พลอยไพลินล่ะก็ ผู้หญิงคนอื่นมาแก้ผ้าต่อหน้าก็ไม่อาจทำให้เขารู้สึกอะไรด้วยได้เลย ยัยเสือสาวคนนี้เป็นใครกันแน่ถึงได้มีอิทธิต่อร่างกายของเขาได้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ S.nook

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง

หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

เด็กน้อยคว้าฝัน
4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

Lewie Parenti
5.0

"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ

ขอโอกาสอีกครั้ง

ขอโอกาสอีกครั้ง

Arny Gallucio
5.0

หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ" เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter
5.0

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ