Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
83.9K
ชม
64
บท

เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร

บทที่ 1 คนตกน้ำ

เว่ยเว่ย สาวนักศึกษาฝึกงานที่ฟาร์มแห่งหนึ่ง กำลังขับเวสป้าคันโปรดไปทำงานจู่ ๆก็มีรถยนต์พุ่งมาชนเธอตกเหวข้างทาง ร่างเธอและรถร่วงดิ่งลงเหวทันที

“ตู้มม”

ลู่เหวินเยียนกำลังหาปลาเพื่อเป็นอาหารเย็นให้ครอบครัวอยู่ จู่ ๆ ก็มีบางอย่างตกลงมาจากฟ้าตรงหน้าเขา เห็นเป็นหญิงสาวแต่งตัวประหลาดนอนหมดสติอยู่ เขาจึงรีบช่วยเหลือแล้วอุ้มกลับบ้าน

“ท่านแม่ แม่นางคนนี้ตกน้ำหมดสติขอรับ”

นางลู่มารดาของลู่เหวินเยียนได้ยินเสียงร้องเรียกจึงออกมาดู

“เหยียนเหยียน ผู้ใดกันแต่งกายประหลาดนัก”

“ไม่ทราบขอรับ ข้าหาปลาอยู่ที่ลำคลองนางผู้นี้ตกลงมาจากฟ้าตรงหน้าข้า”

“แม่ดูแลนางเอง เจ้าไปอาบน้ำเถอะ”

“ท่านแม่ข้าได้ปลามา 4 ตัวข้าจะต้มชุปปลาตัวหนึ่ง อีก 3 ตัวข้าจะเอาไปขายนะขอรับ”

“ตามใจเจ้า อ่อ..เอาผ้าปักไปส่งให้เถ้าแก่เนี๊ยร้านผ้าด้วยนะ”

“ได้ขอรับ”

นางลู่อยู่กับบุตรชาย 2 คน สามีนางไปเป็นทหารแต่เสียชีวิตที่สนามรบหลายปีแล้ว ครอบครัวนางยากจนมาก มีลูกชายเพียงคนเดียวที่เป็นเสาหลัก หากนางไม่มีบุตรชายคนนี้นางคงตายตามสามีไปนานแล้ว ครอบครัวนางไม่มีรายได้มากมายลูกชายเข้าป่าล่าสัตว์ หาปลาไปขายในตลาด รับจ้างทั่วไป ส่วนนางลู่ปักผ้าให้ลูกชายนำไปขายที่ร้านขายผ้า พอได้ซื้อข้าวสารมาเก็บไว้

นางลู่เช็ดเนื้อเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หญิงสาวแปลกหน้า โชคดีที่ใส่เสื้อผ้าของนางได้พอดี เสร็จแล้วไปเตรียมอาหารไว้รอบุตรชายกลับมาจากตลาด

เว่ยเว่ยหลับไป 3 วันเต็ม รู้สึกตัวว่าคอแห้งมาก

“แค่กแค่ก นะ..น้ำ…ขอน้ำหน่อย”

เพราะนอนนิ่งมาหลายวันทำให้นางลู่และบุตรชายร้อนใจ จึงไปตามหมอในเมืองมาดู หมอตรวจดูอาการแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ที่นางยังไม่ฟื้นเขาก็ไม่รู้สาเหตุเช่นกัน

เมื่อนางฟื้นทุกคนเลยดีใจ นางลู่ประคองเว่ยเว่ยลุกนั่ง ใช้ช้อนตักน้ำให้นางดื่ม เว่ยเว่ยได้ดื่มน้ำสักพักก็ดีขึ้น เหยียนเหยียนไปทำข้าวต้มง่าย ๆ มาให้คนป่วยกิน

“ข้าวต้มมาแล้วขอรับท่านแม่”

เว่ยเว่ยมองเห็นชายหญิงสองคนแต่งตัวโบราณ ๆ จึงถามเสียงเบาด้วยความสงส้ย

“ที่นี่ที่ไหนคะ”

“เจ้ากินข้าวเสียก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกัน”

เว่ยเว่ยยังมึน ๆ งง ๆ อยู่ กินข้าวเสร็จแล้วก็ตามด้วยยาต้มขม ๆ เว่ยเว่ยเป็นคนกินยาง่าย ขมแค่ไหนเธอก็กินได้

“แม่หนูเจ้าชื่ออะไรรึ”

“เว่ยเว่ย”

“ข้าแซ่ลู่ นี่เหยียนเหยียนลูกชายข้า เหยียนเหยียนบอกว่าเจ้าตกลงมาจากฟ้า”

เว่ยเว่ยมีอาการปวดหัวขึ้นมาทันที

“ขะ..ข้าจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น จำได้แต่ว่ากำลังจะออกไปทำงานเท่านั้น รู้สึกตัวก็อยู่ที่นี่แล้ว”

“เจ้าพักผ่อนเถอะ หายดีแล้วค่อยว่ากัน”

นางลู่เอ่ยขึ้น แม้ไม่รู้ที่มาทีไปของสตรีผู้นี้ แต่นางก็รู้สึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก

วันถัดมาอาการของเว่ยเว่ยดีขึ้นมากแล้ว จึงอยากลุกเดินออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายบ้าง นอนติดเตียงมาหลายวันแล้วเธอรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวยิ่งนัก เว่ยเว่ยสังเกตุเห็นว่าบ้านหลังนี้เก่าทรุดโทรมมาก จะเรียกบ้านก็ไม่ถูกนัก กระท่อมหลังเล็กๆ เสียมากกว่า มีเพียง 2 ห้อง เธอนอนห้องหนึ่งท่านน้าลู่นอนอีกห้องหนึ่ง แล้วพี่เหยียนไปนอนที่ไหนล่ะ เธอเดินออกมาจากกระท่อมมองดูรอบ ๆก็มีแต่ป่า

“เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรนะ”

เว่ยเว่ยยืนคิดอยู่คนเดียวสักพักก็นึกบางอย่างได้ เธอฝันว่าเธอเดินไปในป่าที่นี่แน่นอน เธอจึงตัดสินใจเดินไปตามทางที่เธอฝัน เธอเดินไปในป่าเรื่อย ๆ ช่วงที่เธอหลับอยู่หลายวันนั้นเธอฝันว่าเธอเดินมาทางนี้ เดินไปเรื่อยในฝันว่าเธอหยุดตรงนี้ คลับคล้ายว่าเธอเจออะไรสักอย่าง แต่ในฝันก็ไม่ชัดเจนว่าเธอเจอกับอะไรเธอจึงก้มมองหาจนทั่ว

“ในฝันเราหาอะไรนะที่ตรงนี้ โสมซานซีนี่นา ถังเช่า! เห็ดเป๋าฮื้อ (คล้ายเห็ดนางฟ้าแต่โคนอวบใหญ่) "

เธอตัดสินใจยังไม่ขุดโสมไป แต่เธอเก็บเห็ดกลับไปพอประมาณ เอาไปผัดทำอาหาร ส่วนโสมกับถังเช่าเดี๋ยวเธอจะชวนพี่เหยียนมาขุดให้เขานำไปขาย ตอบแทนครอบครัวลู่ที่ช่วยเหลือชิวิตเธอ

เธอกลับมาถึงบ้านก็เห็นน้าลู่และพี่เหยียนนั่งหน้าเครียดกันอยู่หน้าบ้าน เกิดอะไรขึ้นกันนะ

“ท่านแม่นั้นเว่ยเว่ยกลับมาแล้ว”

ลู่เหวินเหยียนเห็นเว่ยเว่ยเดินออกมาจากป่า ถือบางอย่างมาด้วยนางลู่เห็นเว่ยเว่ยกลับมาอย่างปลอดภัย ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

“เว่ยเว่ยเจ้าไปไหนมา ท่านแม่ตามหาเจ้าไปทั่วทั้งหมู่บ้าน”

เว่ยเว่ยยิ้มน่ารักประจบนางลู่

“ข้านอนหลายวันรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว จึงลุกเดินออกกำลังกายน่ะ”

“เจ้าเดินเล่นในป่านั้นงั้นรึ มันใช่ที่เดินเล่นรึไง”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ พนิดา

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ

จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ

ประตูฟ้ายั่งยืน
5.0

หลินเจียอีหญิงสาวในศตวรรษที่21ตกตายด้วยโรคระบาด วิญญาณของเธอได้ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ14 ที่มีชื่อเดียวกับเธอซึ่งสิ้นใจตายระหว่างเดินทางกลับบ้านเดิมของมารด ********* หลินเจียอีลืมตาตื่นขึ้นมาในสภาพบ้านที่ไม่คุ้นชิน เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ได้เข้ารักษาตัวจากอาการติดเชื้อโรคระบาดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เหตุใดถึงมาโผล่ในบ้านทรงโบราณ รอบกายเธอเต็มไปด้วยผู้คนแต่งตัวล้าสมัย ต่อมาเธอค้นพบว่าตนเองได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ 14 ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับเธอ แต่ชะตากรรมของเด็กสาวผู้นี้ช่างน่าสงสารนัก บิดาเพิ่งลาโลก แม่โดนฮุบสมบัติแล้วถูกขับไล่ออกจากตระกูล ต้องระหกระเหินพาเจ้าของร่างที่ถูกทุบตีจนสิ้นใจระหว่างทางกลับมาบ้านเดิมที่แสนยากจนข้นแค้น ****ไม่มีฉากอีโรติก เริ่มล็อกเหรียญตอนที่ 25 ก่อนเข้าไปอ่านเนื้อหานิยายอ่านคำเตือนก่อนนะคะ (สำคัญมาก) 1. กรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพให้เกียรตินักเขียนและนักอ่านท่านอื่น หากแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในนิยายหรือมุ่งประเด็นด่าทอนักเขียนเพื่อระบายอารมณ์ ความคิดเห็นจะถูกลบออก!! 2. นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน บุคคลและสถานที่ที่เกิดขึ้นไม่มีอยู่จริงในโลก เนื้อหาในนิยายมีทั้งสมเหตุผลและไม่สมเหตุสมผล บางตอนอาจมีฉากที่รุนแรง (ต่อสู้) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ตัวละครในนิยายมีทั้งดีและเลวแต่กต่างกันไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ห้ามคัดลอกดัดแปลงแก้ไขนิยายเรื่องนี้ทุกกรณี หน่วยเงินตรา 1000 อีแปะ 1 ตำลึงเงิน หน่วยวัดตวงน้ำหนัก 1 ชั่ง 500 กรัม หน่วยเวลา 1 จิบน้ำชา ระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ 1 เค่อ 15 นาที 1 ก้านธูป 30 นาที 1 ชั่วยาม 2 ชั่วโมง 12 ชั่วยาม 24 ชั่วโมง ยามจื่อ 23.00-24.59 ยามโฉ่ว 01.00-02.59 ยามอิ๋น 03.00-04.59 ยามเหม่า 05.00-06.59 ยามเฉิน 07.00-08.59 ยามซื่อ 09.00-10.59 ยามอู่ 11.00-12.59 ยามเว่ย 13.00-14.59 ยามเชิน 15.00.16.59 ยาวโหย่ว 17.00-18.59 ยามชวี 19.00-20.59 ยามห้าย 21.00-22.59

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ฟาร์มสุข
1

บทที่ 1 คนตกน้ำ

12/01/2023

2

บทที่ 2 พบโสม

12/01/2023

3

บทที่ 3 ขุดถั่งเช่า

12/01/2023

4

บทที่ 4 เว่ยเว่ยซื้อที่ดิน

12/01/2023

5

บทที่ 5 ลั่วหลินเว่ยย้ายเข้าทะเบียนบ้าน

12/01/2023

6

บทที่ 6 ต้นอ่อนทานตะวัน

12/01/2023

7

บทที่ 7 เงินเงินเงิน

12/01/2023

8

บทที่ 8 หมาป่าบาดเจ็บ

12/01/2023

9

บทที่ 9 ผงปรุงรส

12/01/2023

10

บทที่ 10 เผาถ่าน

12/01/2023

11

บทที่ 11 สือหู

12/01/2023

12

บทที่ 12 หาฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่

15/01/2023

13

บทที่ 13 ขึ้นบ้านใหม่

15/01/2023

14

บทที่ 14 หยาเจียว

15/01/2023

15

บทที่ 15 ทำซอสมะเขือเทศ

18/01/2023

16

บทที่ 16 ชุดขนสัตว์

18/01/2023

17

บทที่ 17 อยากอยู่ใกล้ ๆ

18/01/2023

18

บทที่ 18 ฝูงกวาง

18/01/2023

19

บทที่ 19 กุ้งก็มีปลาก็มา

18/01/2023

20

บทที่ 20 พบแร่ทองคำ

18/01/2023

21

บทที่ 21 ราตรีแห่งวสันต์

18/01/2023

22

บทที่ 22 รับคนงานเพิ่ม

18/01/2023

23

บทที่ 23 มอบหมายงาน

18/01/2023

24

บทที่ 24 ทดลองปลูกมะเขือเทศ

18/01/2023

25

บทที่ 25 ทำหม้อไฟ

18/01/2023

26

บทที่ 26 ท่าเรือเทียนจิน

18/01/2023

27

บทที่ 27 ปลาหมึกยัดไส้

18/01/2023

28

บทที่ 28 เจรจาธุรกิจ

18/01/2023

29

บทที่ 29 ซื้อบ้านได้ร้านค้า

18/01/2023

30

บทที่ 30 ซื้อทาส

18/01/2023

31

บทที่ 31 ขายข้าวห่อไข่

18/01/2023

32

บทที่ 32 กลับมาแล้ว

18/01/2023

33

บทที่ 33 ผู้สูงศักดิ์

18/01/2023

34

บทที่ 34 ราคามิตรภาพ

18/01/2023

35

บทที่ 35 ห้องลับ

18/01/2023

36

บทที่ 36 เว่ยเว่ยป่วย

18/01/2023

37

บทที่ 37 อาการเหมือนคนแพ้ท้อง

18/01/2023

38

บทที่ 38 ข้าแค่ไปเก็บเกาลัด

18/01/2023

39

บทที่ 39 นมถั่วเหลือง

18/01/2023

40

บทที่ 40 ส่งสินค้าให้ เจียงเย่

18/01/2023