Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เรื่องสั้นเร้าร้อน

เรื่องสั้นเร้าร้อน

หนอนต้วมเตี้ยม

5.0
ความคิดเห็น
32.9K
ชม
10
บท

รวมเรื่องสั้นสุดฟินในเล่มเดียว ที่คุณไม่ควรพลาดถ้าชอบหรือถูกใจสามารถให้กำลังใจนักเขียนได้โดยการ กดถูกใจ กดติดตามให้ด้วยนร้าาา ฝากนิยายเรื่องแรกไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ

บทที่ 1 1.เรื่องภารโรงหนุ่ม

เปิดเรียนวันแรกของโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งที่มีแต่นักเรียนหญิงล้วน กฎของโรงเรียนค่อนข้างจะเข้มงวดเรื่องของการรับบุคคลากรผู้ชายเข้ามาทำงาน แต่ด้วยความจำเป็นที่ต้องใช้แรงงานทางโรงเรียนจึงอนุโลมให้รับภารโรงผู้ชายเข้ามาทำงานได้

ห้องประชุมใหญ่

"นักเรียนทุกคนคะ ผู้ชายคนนี้จะมาทำงานในตำแห่งภารโรงของโรงเรียนเรานะคะ"

"สวัสดีครับ ผมชื่อนิก จะมาเป็นภารโรงที่นี่นะครับเด็กๆ"

กรี๊ดดด!!!!!

หลังจบการแนะนำตัวของเขานักเรียนหญิงต่างพากันกรีดร้องด้วยความดีใจลั่นห้องที่จะมีผู้ชายหล่อๆหน้าตาดีมาเดินอยู่ในโรงเรียนของตนเอง ก็เป็นเรื่องปกติเพราะทุกวันพวกเธอได้เจอแต่คุณครู แม่บ้านทำความสะอาดและเพื่อนที่เป็นผู้หญิง

"เอาล่ะๆ นายนิกไปทำงานได้แล้ว ส่วนพวกเธอก็รีบแยกย้ายไปเรียนได้แล้วนะ ผอ.ขอจบการประชุมเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ"

"สวัสดีค่ะ ผอ."

การประชุมเสร็จสิ้นลงนักเรียนแต่ละระดับชั้นต่างพากันแยกย้ายไปเรียนตามอาคารต่างๆ แต่มีเพียงนักเรียนชั้นม.6สองคนที่ชอบหนีเรียนบ่อยๆ ทั้งสองพากันมานั่งที่สนามฟุตบอลเพื่อแอบมองภารโรงหนุ่มที่ตอนนี้เขาเริ่มงานแรกด้วยการตัดหญ้าจึงต้องถอดเสื้อออกจนเห็นซิกแพคแน่น กำยำรับกับผิวสีขาวใสน่าหลงไหล

"อีเบน กูจะไม่ไหวแล้วนะ มึงดูซิกแพคนั่นสิ อร๊าาายยย"

"ให้มันน้อยๆหน่อยอีมุก คนนี้อ่ะต้องเป็นผัวกูเท่านั้น"

"แหม! อีเบน...กูไม่ยอมเว้ย!!!"

เบนและมุกเริ่มถกเถียงกันดังขึ้นเรื่อยๆจนเขาต้องหันมามองและกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างมาดเท่ห์ เมื่อทั้งสองเห็นแบบนั้นก็ยิ่งใจละลายพากันเขินหน้าแดง

"อีมุกเอาน้ำเย็นไปให้พี่ภารโรงกันดีกว่า"

"เออใช่ เป็นความคิดที่ดีมาก สมแล้วที่เป็นเพื่อนกันได้"

มุกหยิบขวดน้ำเย็นในกระเป๋าออกมาและเดินตรงไปที่เขาพร้อมกับเบนทันที

"พี่นิกขา ดื่มน้ำเย็นๆก่อนสิคะ พวกเราซื้อมาให้"

"โห้วว ขอบคุณมากเลยครับ วันนี้อากาศร้อนมากด้วย ดูเหงื่อพี่สิเต็มตัวเลย"

"ให้มุกเปิดน้ำให้นะคะ"

"ครับ! ขอบคุณครับ"

เขาขอบคุณมุกก่อนจะยิ้มที่มุมปากอีกครั้งอย่างเจ้าเล่ห์ มุกใช้มือหมุนฝาน้ำออกแต่สายตากลับจ้องมองที่ซิกแพคกำยำอย่างไม่กระพริบและต้องแอบกลืนน้ำลายลงคอ

"ดะ ได้แล้วค่ะพี่นิก"

มุกยื่นขวดน้ำให้เขาแต่ก็ต้องแกล้งมือไม้อ่อนทำน้ำหกใส่ที่หน้าท้องแกร่งของเขาครึ่งขวด

"ว๊ายย...มุกขอโทษนะ เดี๋ยวเช็ดให้ค่ะ"

มือน้อยของมุกลูบวนไปมาที่ท้องน้อยของเขาจนสัมผัสได้ถึงขนอ่อนสีเทาที่งอกขึ้นมารำไร น้ำเย็นผสานกับมือน้อยอุ่นๆที่ลูบไล้ไปมาทำให้เขาเคลิ้มเผลอใช้มือวางทับบนมือน้อยของมุกแล้วเค้นคลึงไปทั่วหน้าท้องแกร่งอย่างลืมตัว

"หยุดเลยนะอีมุก...ให้เบนช่วยดีกว่าค่ะพี่นิก"

พึ่บ!!!

"เอ๊าะ!!!"

เบนใช้ร่างชนเข้ากับร่างของมุกแรงๆจนมุกเซออกไป เบนก็ไม่น้อยหน้ารีบใช้มือจับที่หน้าท้องของเขาแล้วทำเหมือนมุกได้เพียงชั่วครู่ แต่แล้วโชคกับไม่เข้าข้างเบนเพราะมีเพื่อนร่วมชั้นมาตามให้ทั้งสองไปเข้าเรียน ไม่อย่างนั้นจะได้เรียนซ้ำชั้นเป็นแน่

"เบน...มุก คุณครูให้มาตามไปเข้าเรียน"

"โธ่เอ๊ย! รู้แล้วๆ เดี๋ยวเบนจะมาหาใหม่นะคะพี่นิก บ๊ายบายค่ะ"

"มุกด้วยค่ะ เดี๋ยวมาหาใหม่นะคะ"

"ครับ! ตั้งใจเรียนนะเด็กๆ"

ถึงเวลาพักเบรก15นาที มุกและเบนพากันมาเข้าห้องน้ำเก่าที่ไม่มีนักเรียนมาใช้เพราะจะได้ไม่ต้องแย่งกันเข้า แต่ด้วยว่าความที่เป็นห้องน้ำเก่าระบบน้ำอาจจะไม่ค่อยดีนัก ท่านผู้อำนวยการจึงให้นิกกี้เขามาซ่อมแซม

"น่าเบื่อๆจริงๆ วันๆก็ให้แต่เรียนๆ เพื่อนกูที่เรียนโรงเรียนรัฐนะ อายุ18ปีมีผัวกันไปหลายคนแล้ว"

"ก็จริงแหละขนาดมึงกับกูเต็ม18ปีไปหลายเดือนยังไม่มีผัวเลย ในโรงเรียนก็มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น....เฮ้ออ บ่นไปก็เท่านั้นเนาะอีมุก"

"กูก็อยากมีผัวจนตัวสั่นเหมือนกันแหละ ทำไงได้ ถ้ามึงกับกูยังต้องเรียนอยู่ที่นี่อ่ะอีเบน"

เธอทั้งสองบ่นให้กันฟังเสียงดังเพราะคิดว่าไม่มีใครได้ยินแน่นอน แต่ทว่านิกกี้ก็เดินออกมาจากห้องน้ำห้องเล็กๆตรงหน้าที่พวกเธอยืนกอดอกเม้าท์กันอยู่

"ว๊ายย!!! พ พี่นิกกี้ อยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"

"ก็อยู่ก่อนที่เธอทั้งสองคนบ่นอยากมีผัวตัวสั่นนะสิ"

"พี่นิกกี้คะ อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกผอ.เลยนะคะ พวกเราขอร้อง"

"งั้นเธอทั้งสอง อยากลองมีผัวไม่ใช่หรอ มาลองทำดูสิ แล้วสิ่งที่พี่ได้ยินจะไม่มีใครรู้แน่นอน"

นิกกี้เดินเข้าไปในห้องน้ำที่เขากำลังซ่อมแซมอยู่ก่อนหน้า โดยมีมุกและเบนเดินตามเข้าไปข้างในด้วย กลอนประตูถูกล็อคพร้อมกับร่างของเธอทั้งสองถูกดันให้นั่งลงกับพื้น เขาใช้มือปลดกระดุมกางเกงสแลคและดึงมันลงพร้อมกับซับในทำให้ดุ้นเอ็นขนาดมโหฬารเด้งชีหน้าน้อยของพวกเธอ

"พ พี่นิกกี้...จะให้พวกเราทำอะไรหรอคะ"

"แย่งกันอมมันเข้าไปสิ มันสนุกมากเลยนะ รีบทำเลยสิ"

"ค่ะๆ....แผล่บๆๆ"

ลิ้นน้อยของมุกไล่เลียตั้งแต่โคนพวงแฝดจรดปลายหัวเห็ดบาน ส่วนเบนก็ใช้ปากพยายามอมหัวเห็ดเข้าไปโดยแย่งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

อ่านตอนต่อไป

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

กู๊ดบาย นายสุดที่รัก

กู๊ดบาย นายสุดที่รัก

Glad Rarus
5.0

หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ก็เด็กมันยั่ว Naughty boy

ก็เด็กมันยั่ว Naughty boy

Xmaniac
5.0

" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "

ข้าเก็บภรรยาได้ที่ชายหาด (ภาคต่อ สามีข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง)

ข้าเก็บภรรยาได้ที่ชายหาด (ภาคต่อ สามีข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง)

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

ชาติที่แล้วของไห่เฉิงเขาเป็นประมุขมารที่ไม่สมหวังในความรัก มาแสนภพแสนชาติ และภพชาติที่หนึ่งแสนของเขา มีเหตุให้ต้องทำลายดวงจิตมารของตนเอง และเหลือเสี้ยวดวงจิตเอาไว้เพียงน้อยนิด ดวงจิตที่เหลืออยู่เขาอ้อนวอนขอต่อมหาเทพขอให้เขาได้เกิดเป็นมนุษธรรมดา ที่สมหวังในความรักม่ีครอบครัวที่อบอุ่น และไม่ขอจดจำอดีตชาติของตัวเองอีกต่อไป เขาขอเริ่มต้นใหม่ในดินแดนมนุษย์และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ครั้งกี่ภพกี่ชาติ ขอให้เขาได้สมหวังในความรักทุกภพทุกชาติไป

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ