ทัณฑ์รักอสูรร้าย (ภาคต่อสูรร้อนซ่อนรัก)

ทัณฑ์รักอสูรร้าย (ภาคต่อสูรร้อนซ่อนรัก)

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
81.3K
ชม
113
บท

ดวง ตาสีเขียวมองร่างเปลือยของสาวน้อยตรงหน้าด้วยสายตาแค้นเคือง ดุดัน เธอถอยร่นหนีเขาอย่างหวาดผวา ตื่นกลัว ตกใจ ดวงหน้างามสั่นไปมาจนเส้นผมสลวยปลิวไสว เมื่อเห็นเขาถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นๆ อย่างใจเย็น ปรางค์รวีพยายามถอดโซ่ตรวนที่จองจำอยู่ที่ข้อเท้า เพื่อที่เธอจะหนีอสูรร้ายที่กำลังย่างกรายขึ้นมาบนเตียง ในสภาพที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ “เธอ คิดเหรอว่าจะหนีฉันพ้น?..ไม่มีทาง..ผู้หญิงใจร้ายฆ่าได้แม้กระทั่งลูกของตัว เอง ไม่สมควรจะได้รับความปราณีจากฉัน..เธอจะต้องถูกจองจำจนกว่าเธอจะให้กำเนิด ลูกของฉัน เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะส่งเธอไปลงนรกด้วยตัวของฉันเอง” เขา พูดเสียงเข้มกัดกรามทั้งสองข้างแน่น ใบหน้าคมแกร่งบึ้งตึง แววตาของเขาไร้ซึ่งแสงของคำว่าปราณี ปรางค์รวีอยากจะอธิบายให้เขาได้รับรู้เหลือเกินว่า สิ่งที่เขารับรู้ว่ามันผิดทั้งหมด เหตุการณ์ในครั้งนั้นเธอไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น หากแต่คำพูดที่จะร้องค้านออกไป ถูกปิดสนิทด้วยริมฝีปากหนาที่ประทับลงมาอย่างป่าเถื่อน จาบจ้วงและดุดัน มือของเขาจับต้องร่างเปลือยของเธออย่างไม่ปราณี โหดร้าย ร่างกายสาวร้าวระบมไม่ต่างกับหัวใจที่ร้าวราน จะมีวันไหนบ้างที่เธอได้รับความรักจากเขา “จำใส่สมองของเธอไว้..ต่อไปนี้เธอคือทาสของฉัน ทาสของความใคร่ที่ไม่มีวันหนีพ้นหรือเป็นอิสระได้” เขา พูดกระซิบชิดเรียวปากนุ่มที่มีเลือดไหลซึมออกมา หญิงสาวเผยอปากที่จะปลดปล่อยคำอธิบายให้เขาฟัง หากแต่ผ้าผืนใหญ่ถูกนำมาปิดที่ริมฝีปาก มือทั้งสอง ข้างที่ว่างอยู่จึงเป็นสิ่งเดียวที่สามารถปกป้องตัวเองได้ เธอทุบร่างหนาไม่เลือกที่ มีแรงมากเท่าไหร่กระหน่ำไปที่ร่างหนามากเท่านั้น หากแต่...ข้อมือทั้งสองข้างของเธอกลับถูกมือหนารวบเอาไว้ ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังถูกพันธนาการด้วยเชือกเส้นใหญ่ จับขึงกับซี่ของเตียงไม้หัวเตียง เธอหมดสิ้นอิสรภาพทันที น้ำตาไหลอาบเป็นทางเมื่อขาเรียวทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกัน และจากนั้นความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสได้เริ่มขึ้น

บทที่ 1 1

1

“ปรางค์ วันนี้รายงานตัวเข้าฝึกงานไม่ใช่เหรอลูก รีบแต่งตัวสิ เดี๋ยวรถจะติดไปไม่ทันกันพอดี”

สดศรีมารดาของปรางค์รวีเอิ่นบอกลูกสาวที่กำลังแต่งตัวอยู่ในห้อง เมื่อมองดูนาฬิกาบนฝาบ้านที่บอกเวลาหกโมงครึ่ง นางกลัวว่าการจราจรอันแสนคับคั่งจะทำให้เธอไปสายในวันแรกของการฝึกงาน

“ค่ะแม่ ปรางค์เสร็จแล้วค่ะ” เจ้าของเสียงเดินออกมาจากห้องพร้อมรอยยิ้มแสนหวาน

“แม่ไม่อยากให้ปรางค์ไปสาย ไปทำงานวันแรกเราก็ต้องตรงต่อเวลา ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่การฝึกงานก็เถอะ”

สดศรีเป็นคนตรงต่อเวลา นางจะไปไหนมาไหนต้องเผื่อเวลารถติดเสมอ หากไปถึงก่อนเวลาก็ไม่มีอะไรเสียหาย แต่ถ้าไปถึงหลังเวลานัดอาจจะถูกมองในแง่ไม่ดีได้ และส่งผลตรงถึงหน้าที่การงาน

“ปรางค์รู้ค่ะแม่ ปรางค์ถึงรีบออกจากบ้านเร็วไงคะ กว่าจะฝ่าดงรถยนต์ไปถึงที่ทำงานได้ก็คงใช้เวลาชั่วโมงนึง แต่ถ้าไม่ทันจริงๆ ปรางค์จะขึ้นวินมอ’ ไซค์ค่ะ รับรองไปทันแน่ๆ ค่ะ”

ปรางค์รวีเตรียมแผนการเดินทางของตนไว้เรียบร้อย เนื่องจากระยะทางระหว่างบ้านหลังนี้ไปที่ทำงานไม่ไกลเท่าไหร่มากนัก แต่ทว่ารถติดเหลือกำลัง จึงต้องเผื่อเวลาไว้เรื่องนี้ด้วย

“แม่ไปซื้อโจ๊กกับปาท่องโก๋มาให้ปรางค์ด้วย กินก่อนแล้วค่อยไปนะลูก มีอะไรรองท้องบ้างเพราะกว่าจะได้กินอีกทีก็เที่ยง”

พูดจบก็เดินไปหยิบอาหารที่เตรียมไว้ให้หลานสาวมาว่งไว้บนโต๊ะตัวเล็กที่นั่งประจำของปรางค์รวี

“ขอบคุณค่ะแม่” ปรางค์รวีลงมือทานอาหารเช้าที่มารดาเตรียมไว้ให้ เธอใช้เวลาทานประมาณสิบนาทีโจ๊กในชามก็เกลี้ยง “ปรางค์ไปก่อนนะคะแม่ สวัสดีค่ะ”

“โชคดีนะลูก ขอให้ลูกแม่เจอแต่คนดีๆ ให้ความเมตตานะลูก”

“ขอบคุณค่ะแม่” ปรางค์รวีไหว้และกล่าวขอบคุณในคำอวยพรของผู้เป็นแม่ แล้วเดินทางออกจากบ้านทันที

สดศรีมองตามร่างของปรางค์รวีด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะยกมือท่วมหัว ภาวนาขอให้เพื่อนร่วมงานและเจ้านายของลูกสาวเป็นคนดี มีจิตใจเมตตา มีความเอื้อเฟื้อต่อปรางค์รวี นางคิดว่าหากเจ้านายและเพื่อนร่วมงานดี การทำงานก็ราบรื่น

แต่นางจะรู้หรือไม่ว่า กำลังมีเสือร้ายรอเขมือบร่างของปรางค์รวี ที่ไม่เพียงแค่นั้นยังเป็นคนที่สร้างความเสียใจให้กับเธออย่างมากมายด้วย

ตึกสูงระฟ้าตรงหน้าทำให้ปรางค์รวีต้องรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วมากยิ่งขึ้น อีกสิบห้านาทีเธอจะต้องเข้าไปรายงานตัวกับแผนกบุคคล เป็นนักศึกษาฝึกงานคนแรกของบริษัททีทีอาร์ กรุ๊ป เธอถูกคัดเลือกจากหนึ่งในร้อยของนักศึกษาที่ยื่นความจำนงขอฝึกงานด้วย

“ทำไมมาช้าจังยัยปรางค์ นี่ได้เวลาแล้วนะ” ภัทราหันมาต่อว่าเพื่อนสนิท ที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในตัวอาคาร

“รถติดมากเลย นี่ก็รีบสุดๆ แล้วนะ” ปรางค์รวีพูดเสียงปนเหนื่อยหอบ

“ไปเถอะ กว่าจะรอลิฟต์อีกเดี๋ยวสายกันพอดี”

ภัทราบ่นอุบ วันนี้ทั้งสองสาวต้องมารายงานตัวเป็นนักศึกษาฝึกงานที่นี่ หากแต่คนละบริษัท ภัทราฝึกงานในบริษัทประกันชีวิต ที่เช่าสำนักงานในอาคารแห่งนี้ ส่วนปรางค์รวีโชคดีได้ฝึกงานกับบริษัทเจ้าของตึก เพื่อนรักทั้งสองจึงนัดหมายเจอกันที่นี่

สองสาวยืนรอลิฟต์อยู่เกือบห้านาที หากแต่ลิฟต์ยังไม่เดินทางมาถึงชั้นล่าง ปรางค์รวีก้มมองดูนาฬิกาข้อมือหลายครั้ง ด้วยความกระวนกระวายใจ เหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบนาทีเท่านั้นก้จะถึงเวลานัดหมายเข้ารายงานตัว เวลาที่เหลือน้อยนิด เธอจึงภาวนาขอให้ลิฟต์มาจอดถึงชั้นล่างเร็วๆ

ขณะเดียวกันประธานหนุ่มไฟแรงของบริษัททีทีอาร์ กรุ๊ป บุรุษที่มากด้วยเสน่ห์และเจ้าชู้อย่างร้ายกาจ เดินมายังลิฟต์โดยสารของอาคาร โดยมีลูกน้องคนสนิทที่เป็นทั้งคนไทยและอิตาลี เดินขนาบเจ้านายหนุ่ม ก่อนที่ทั้งหมดจะมาหยุดยืนหน้าลิฟต์สำหรับเจ้าของบริษัทดังกล่าวใช้งานได้เพียงคนเดียว

รังสรรค์เสียบการ์ดลงไปในช่องหน้าลิฟต์ ก่อนจะกดปุ่มเปิดลิฟต์ เมื่อลิฟต์เปิดออกทั้งหมดก็ก้าวเข้าไปภายใน ในช่วงจังหวะนั้นเอง ภัทราหันมามองทางด้านหลังเมื่อเห็นว่าลิฟต์อีกตัวเปิดอยู่ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ยืนอยู่ภายใน เธอจับข้อมือของเพื่อนสาว ลากเดินเข้าไปในลิฟต์ ไม่ทันได้อ่านป้ายที่เขียนว่า “สำหรับผู้บริหารเท่านั้น” คนที่อยู่ภายในลิฟต์จะบอกก็บอกไม่ทัน เพราะประตูลิฟต์ปิดเสียก่อน

“โชคดีนะเนี่ยที่ลิฟต์ตัวนี้มาเสียก่อน ไม่งั้นไม่ทันแน่เลย”

ภัทราบ่นอีกตามเคย เอื้อมมือไปกดปุ่มชั้นที่เธอต้องการ หากแต่ไม่มีตัวเลขชั้นที่เธอต้องการ เพราะมีอยู่สามหมายเลขเท่านั้นคือ 46, 47, 48

“อ้าวแล้วเธอจะไปชั้นที่ยี่สิบสองได้ยังไงล่ะ มันไม่มีหมายเลขชั้นนั้นนี่” ปรางค์รวีเอ่ยถามเพื่อนรัก เมื่อนิ้วเรียวยาวเอื้อมมือไปกดปุ่มหมายเลขชั้นที่ต้องการ แต่ไม่มีหมายเลขชั้นที่ภัทราฝึกงานอยู่

“สงสัยเมื่อกี้รีบร้อนเลยเข้าลิฟต์ผิด ไม่เป็นไร.ถือว่าภัทรมาส่งปรางค์ก็แล้วกัน” ภัทราพูดด้วยรอยยิ้ม ลิฟต์บางอาคารแยกเป็นสัดส่วนชั้นคี่กับชั้นคู่ เธอจึงไม่ติดใจอะไรกับลิฟต์ตัวนี้

ปรางค์รวีมองไปรอบๆ ตัวลิฟต์ บุคคลที่อยู่ในลิฟต์ตัวนี้ดูน่าเกรงขาม แต่ละคนใบหน้านิ่งราวกับเป็นหุ่นยนต์ มีจุดเด่นอยู่คนเดียว ใบหน้าของเขาดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล หล่อเหลาผิวขาว เส้นผมของเขาสีน้ำตาลประกายทองถูกจัดแต่งทรงอย่างสวยงาม หนวดเคราขึ้นบางๆ ที่สันแก้มทั้งสองข้าง โดดเด่นมากที่สุดคงเป็นดวงตาสีเขียว

เขาช่างหล่อบาดใจเธอยิ่งนัก หัวใจของปรางค์รวีเต้นรัวเมื่อได้ที่สบสายตาแสนเสน่ห์นั้น เหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาล ยิ่งมองยิ่งร้อนวูบวาบ จนเธอต้องเบนหน้าหนีก่อนที่ร่างกายของเธอจะละลาย สติของเธอถูกดึงกลับมาเมื่อเพื่อนสาวเอ่ยถามคำถามบางอย่าง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

Crimson Syntax
5.0

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

Coupling Shim
5.0

ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

ทางเดินใหม่ของหัวใจ

ทางเดินใหม่ของหัวใจ

Viv Thauer
5.0

เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ