Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
2.5K
ชม
131
บท

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

บทที่ 1 1

1

“โธ่! ไม่แน่จริงนี่หว่า เก่งจริงอย่าหนีสิวะ ไอ้ลูกหมา ไอ้หน้าตัวเมีย”

ผู้พูดถลกแขนเสื้อทั้งสองขึ้น ชี้นิ้วไปยังร่างชายคนหนึ่งที่วิ่งหนีเธออย่างไม่คิดชีวิต จากนั้นเท้าเอวมองคนผู้นั้นอย่างแค้นเคือง พร้อมพูดไล่หลังดังลั่น

“อย่าให้เจออีกครั้งนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่ แม่จะเตะให้ก้นยุบ ม้ามทะลุ ฟันหัก แก้มโย้เลยคอยดู”

เสียงที่ดังลั่นซอยเรียกความสนใจจากบ้านใกล้เรือนเคียงที่ดูเหมือนจะชาชินกับเสียงและท่าทางนักเลงโตของหญิงสาว อีกทั้งยังไม่มีใครกล้าว่าเธอสักคน ใครล่ะจะไปกล้ายุ่งกับนักมวยหญิงสมัครเล่นหรือมาเฟียแห่งซอยต้นมะขาม ใครกล้าแหยมจะเจอทั้งหมัดทั้งเท้าที่สุดแสนจะหนักของเธอไม่รู้ตัว

“พี่ปรางไปทำอย่างนั้นกับพี่ลาภได้ยังไง ดูสิวิ่งหนีไปโน่นแล้ว”

องุ่นหรืออิสรียา น้องสาวคนเล็กของภัทรียา เจ้าของค่ายมวย จ่าดาบ ศิษย์จอมทอง ที่รับสืบทอดจากบิดา เอ่ยกับพี่สาวซึ่งยืนทำท่าทางเอาเรื่องหน้าบ้าน

“ก็ไอ้คนนี้ไม่ใช่เหรอที่แกบอกว่าชอบมายุ่งวุ่นวายกับแกจนแกรำคาญ พี่ก็จัดการให้แล้วไง เห็นรึเปล่าว่ามันวิ่งหางจุกตูดไปโน่นแล้ว โธ่! นึกว่าจะแน่”

ภัทรียาไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลกิจการของบิดาเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวหน้าครอบครัว เลี้ยงมารดา เลี้ยงน้องสาวคนเล็ก และเลี้ยงลูกสาวของน้องสาวคนรองที่เสียชีวิตไปเมื่อสี่ปีก่อน เธอจึงเป็นคนเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ไม่ยอมคน และเป็นที่พึ่งของทุกคนในครอบครัว ใครมาแหยมกับคนในครอบครัวของเธอ รับรองได้ว่าเจ็บจนจุก

“ใช่พี่ลาภที่ไหนกันล่ะพี่ปราง พี่ลาภเขามาส่งองุ่นต่างหาก” น้องสาวแย้ง ท่าทีของภัทรียาเปลี่ยนไปทันที เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ลดมือที่เท้าเอวลง

“แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก” นางมารร้ายแห่งซอยต้นมะขามแก้ตัวหน้าตาเฉย “องุ่นบอกพี่ช้าเองนะช่วยไม่ได้ พี่ฝากไปขอโทษไอ้ลาภคนนั้นด้วยก็แล้วกัน พี่ไปละ” จากนั้นก็เดินเข้าบ้านหน้าตาเฉย

“พี่มะปรางเป็นอย่างนี้ทุกที น่าจะฟังกันก่อน”

อิสรียารู้ดีว่าพี่สาวสุดแสบหวังดีและเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน เพราะพี่สาวคนนี้ไม่ต้องการให้เธอเป็นเหมือนวิริยา พี่สาวคนที่สองที่จบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน ภัทรียาจึงคุมเข้มผู้ชายที่เข้ามาใกล้ชิดเธอ สแกนจนแทบจะเห็นกระดูกก็ว่าได้ ด้วยกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย

“อะไรกันอีกล่ะองุ่น พี่แกไปสร้างวีรกรรมอะไรอีก”

วลัยพร มารดาสุดที่รักถามขณะเดินออกมาจากบ้าน สวนทางกับลูกสาวคนโตพอดี

“จะอะไรอีกล่ะแม่ พี่ปรางลุยผิดคนน่ะสิ ไม่ถามอะไรสักคำ มาถึงก็ออกฤทธิ์เลย” คนถูกถามตอบมารดาด้วยสีหน้าละห้อยละเหี่ย

“แหมๆ นิสัยตบไว้ก่อนพ่อสอนไว้แก้ไม่หายเลยนะ ไม่ถามไม่ไถ่ ซัดได้แม่เป็นซัด ห้าวอย่างนี้แล้วเมื่อไหร่จะมีผัววะ สงสัยต้องซื้อหมู่บ้านคานทองนิเวศน์ให้พี่แกอยู่ซะแล้ว” ผู้เป็นแม่พูดเชิงประชด

“ถ้ารอให้มีผู้ชายมาจีบ มีหวังขึ้นคานเหมือนที่แม่พูดแน่ๆ” ลูกสาวคนเล็กเห็นพ้องด้วย

“แม่ก็ว่าอย่างนั้น ใครจะกล้ามาจีบ ใครพูดไม่เข้าหูเข้าหน่อยก็ไล่ชก ไล่เตะเขาซะงั้น แถมยังไล่ตะเพิดจนผู้ชายหงอกันทั้งบาง พี่แกมีแววเป็นสาวโสดโหนคานทองแน่ๆ” วลัยพรคาดเดาอนาคตลูกสาวคนโตแบบตาเห็น และคิดว่าไม่ผิดจากที่คาดเดาเป็นแน่

“เอาน่าแม่ ไม่แน่นะ บางทีอาจมีพระเอกใจกล้าเข้ามาประชิดตัวพี่ปราง ไม่กลัวหมัด ไม่กลัวเท้าของพี่ปรางแล้วจีบพี่ปรางก็ได้นะแม่” อิสรียาพูดอย่างมีความหวัง แม้ว่าจะน้อยนิดก็ตาม

“แล้วแต่บุญแต่กรรมก็แล้วกัน เข้าบ้านเถอะ แม่ทำกับข้าวเสร็จแล้วจะได้กินกัน” คนเป็นแม่พูดตัดบท ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าบ้านชั้นเดียว ซึ่งสร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงของนางและสามีที่เสียชีวิต วลัยพรไม่รู้ว่าจะรักษาบ้านนี้ไว้กับตัวได้นานแค่ไหน เนื่องจากหนี้สินที่มากกว่ารายรับกำลังบีบรัดนางและคนในครอบครัวอย่างหนัก ทว่าทุกชีวิตที่อาศัยในบ้านหลังนี้ ไม่มีใครสักคนที่ย่อท้อหรือสิ้นหวัง ทุกคนมีความหวังว่าสักวันหนึ่งจะปลดหนี้สินทุกบาททุกสตางค์ให้จงได้

สุมณฑาเดินถือถุงส้มตำปลาร้ารสแซ่บ น้ำตกหมู ไก่ย่าง และข้าวเหนียวร้อนๆ เข้ามาในค่ายมวยจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง อาหารโปรดของเธอกับภัทรียาเพื่อนรัก เธอรู้สึกกระชุ่มกระชวยทุกครั้งเมื่อเดินเข้ามาในค่ายมวย เพราะได้เห็นผู้ชายล่ำบึ้กอวดมัดกล้ามซ้อมมวยกันอย่างขะมักเขม้น บางคนเตะกระสอบทราย บางคนกระโดดเชือก บางคนซ้อมมวยอยู่บนเวทีกับเทรนเนอร์ ส่วนคนที่เธอมาหาก็กำลังซ้อมลงนวมกับจ่าเอก ครูมวยที่ปั้นมะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง ตั้งแต่เริ่มหัดชกมวยครั้งแรก พอภัทรียาเห็นเพื่อนเดินมาหาจึงหยุดซ้อม แล้วเท้าเอวมองหน้าเพื่อน

“ไหนแกบอกฉันว่าจะมาตอนเย็น แล้วมาทำไมตอนนี้”

ภัทรียาทัก คนถูกทักยังไม่ตอบคำถาม แต่กลับพนมมือไหว้และทักทายจ่าเอกก่อน

“สวัสดีค่ะครูจ่า ไม่เจอครูตั้งนาน คิดถึงกระแตบ้างไหมจ๊ะ”

“เอ็งนี่ท่าจะรั่วหนักเหมือนไอ้ปรางมันนะ เอ็งกับข้าเพิ่งเจอกันเมื่อวานนี่เอง ยังจะมาพูดว่าไม่ได้เจอตั้งนาน” จ่าเอกเขกหัวสุมณฑาไม่แรงมากอย่างมันเขี้ยวคำพูดเกินจริงของสุมณฑา

“อ้าวครู ไหงมาว่าปรางรั่วล่ะ คนสวยๆ อย่างปรางไม่มีรั่วหรอก มีแต่น่ารัก สวยสะดุดตา สะดุดใจ” คนถูกพาดพิงโวยกลับ แถมท้ายด้วยการพูดเข้าข้างตัวเอง ทำให้โดนจ่าเอกเขกหัวอีกคน

“วันนี้พอแค่นี้ก่อนละกัน พรุ่งนี้ต้องมาซ้อมแต่เช้านะ ใกล้วันแข่งแล้วจะมัวมาอ่อนซ้อมไม่ได้”

“รับทราบครับผม” เจ้าของค่ายมวยพูดเสียงหนักแน่นพร้อมตะเบ๊ะ ก่อนจะพนมมือไหว้จ่าเอกที่เดินไปยังห้องพักนักมวยเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวกลับบ้าน

“ฉันซื้อส้มตำป้าเอียดมาฝากแกด้วยนะ ไปกินกันดีกว่า” สุมณฑาโชว์ถุงส้มตำให้เพื่อนดู

“แกบอกฉันว่าจะมาตอนเย็นไม่ใช่เหรอ แล้วมาทำไมซะหัววัน” ภัทรียาถามคำถามเดิมอีกครั้ง ขณะถอดนวมแล้วนำไปวางไว้ตรงชั้นวางนวม

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ