3.5
ความคิดเห็น
7.3K
ชม
63
บท

อดีตนักดนตรีรูปหล่อพ่อรวยที่ผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจเต็มตัวเพื่อสืบทอดกิจการของครอบครัว สามปีที่เขามัวแต่เรียนรู้เรื่องงานที่ไม่ถนัดจนต้องปล่อยวางเรื่องความรัก ตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะรับมือกับมัน แต่ให้ตายเถอะ! ทำไมผู้หญิงแต่ละคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกถวิลหาได้เหมือนเธอคนนั้นเลยสักคน ตอนนี้เธออยู่ไหน ทำอะไรอยู่นะ เขาอยากเจอเธออีกสักครั้ง และครั้งนี้จะไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือเด็ดขาด เชิญพบกับความรักของพี่โฉดผู้น่ารักกับน้องแนนผู้ใสซื่อ(จากบัญชารักจากหัวใจ)ได้ในเล่มนี้เลยค่ะ

บทที่ 1 1

บทที่ 1

บริษัทของภพธร

“สวัสดีค่ะคุณจูน” เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์คนสวยทักทายหญิงสาวที่คุ้นหน้าเป็นอย่างดี

“สวัสดีค่ะ พี่ใหญ่อยู่ไหมคะ”

“พี่อยู่นี่” ชายหนุ่มเจ้าของชื่อที่เพิ่งเดินไปได้ไม่ไกล ได้ยินเสียงใส ๆ คุ้นหูก็รีบหันไปตอบรับ

“พี่ใหญ่” เจมีน่ารีบวิ่งไปหาชายหนุ่มที่ยืนยิ้มรออยู่ พร้อมน้ำตาที่ไหลพรากในทันที

“เป็นอะไรน้องจูน!” ภพธรตกใจมากรีบกอดตอบร่างระหงที่กอดตนไว้แน่น ไม่สนใจสายตาของพนักงานในบริษัท หยิบผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้เธอแล้วพาขึ้นไปที่ห้องทำงาน

ภพธรปล่อยให้น้องสาวร้องไห้กับอก ลูบหลังปลอบใจไม่พูดไม่จา รอจนเสียงร้องไห้เริ่มซา

“ไหนบอกพี่ซิว่าเป็นอะไร” ถามน้ำเสียงอ่อนโยน อยากรู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้เธอเสียใจจนถึงกับสะอื้นหนักขนาดนี้

เจมีน่าไม่ตอบ แต่เปิดกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือมากดหาบางอย่างก่อนยื่นไปให้พี่ชายดู

ภพธรหน้านิ่วดั่งยักษ์วัดแจ้ง เมื่อเห็นภาพในมือถือของน้องสาว

“แล้วสามีเราว่าไง.. เงียบ ๆ อย่าร้อง ๆ โอ๋ ๆ” รีบปรับน้ำเสียงดุดันให้เป็นอ่อนโยน ปลอบใจน้องสาวที่เอาแต่ส่ายหน้าและโผกอดเขาไว้แน่นทั้งน้ำตานองหน้า

“พี่ใหญ่ขา จูนจะทำยังไงดีคะ” ร้องไห้อยู่พักใหญ่จึงถามพี่ชายด้วยเสียงที่เจือสะอื้น

“แล้วจูนคุยกับพี่ปูนเขาหรือยัง”

“ยังเลยค่ะ พอจูนได้ภาพนี้มา ได้คุยกับผู้หญิงคนนั้น จูนก็รีบมาหาพี่ใหญ่ก่อนเลยค่ะ”

“เธอโทรมาหาด้วยเหรอ! แล้วเธอว่าไงบ้าง” เห็นน้องสาวพยักหน้ารับจึงถามต่อ

“เธอบอกถ้าไม่อยากให้เป็นข่าวดัง ให้จูนจ่ายค่าทำขวัญให้เธอห้าล้านค่ะ”

“แล้วจูนจะให้ไหม”

“จูนบอกถ้าอยากดังก็ทำไป แต่อย่าคิดว่าจะจบง่าย ๆ จูนไม่ยอมแน่” เธอเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอีกครั้ง “จูนรู้ว่าควรจะพูดจาดี ๆ กับเธอ แต่จูนโมโหนี่คะพี่ใหญ่”

“พี่เข้าใจ จูนไม่ผิดหรอก” เขาเองแค่เห็นภาพยังเลือดขึ้นหน้า แล้วเธอที่เป็นภรรยาจะไม่โกรธได้อย่างไร “แล้วตอนนี้คุณปูนเขาอยู่ไหน”

“ลาวค่ะ เพิ่งไปเมื่อเช้านี้เอง”

“แล้วเราจะไม่คุยกับเขาหน่อยเหรอ”

“จูนพูดไม่ออกหรอกค่ะพี่ใหญ่” มือเรียวกดที่หน้าอกตัวเอง น้ำตาไหลพรากหนักกว่าเดิม “มันเจ็บนะคะพี่ใหญ่”

“ไม่ต้องร้อง” ภพธรเจ็บปวดใจนักที่ต้องมาเห็นน้ำตาเป็นหาบของน้องสาว ดึงเธอมากอดปลอบ “กลับบ้านกันเถอะ แล้วก็ไม่ต้องคิดมาก เรื่องนี้พี่จะจัดการให้เอง”

ประเทศลาว

ภพธรเดินเข้าไปในคาสิโนระดับห้าดาวแห่งใหม่ของน้องเขย ที่เขาเองก็เพิ่งมาเป็นครั้งแรก เขากวาดสายตามองความอลังการของการตกแต่งสถานที่ แล้วจึงเดินไปที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ

“ผมมาพบคุณภาสกร บอกว่าภพธรต้องการพบด่วน”

พนักงานสาวเหมือนจะยิ้มค้างไปเล็กน้อย มองเขาชั่วอึดใจก่อนจะรีบตอบรับด้วยคำว่ารอสักครู่ และยกหูโทรศัพท์ต่อสายไปที่ใดที่หนึ่ง ถ่ายทอดคำพูดของเขาลงไปสักครู่ก็วางสาย

“ตอนนี้คุณภาสกรไม่ได้อยู่ที่ห้องทำงานค่ะ แต่กำลังติดต่อท่านให้อยู่ เชิญคุณภพธรนั่งรอที่ล็อบบีก่อนนะคะ” พนักงานสาวเชื้อเชิญอย่างสุภาพ

“ขอบคุณครับ”

ภาสกรเดินออกมาจากลิฟต์ กำลังจะเดินไปถามพนักงานที่เคาน์เตอร์ แต่เห็นภพธรกำลังเดินตรงมาหาจึงส่งยิ้มให้

“ไปไงมาไงครับเนี่ยคุณใหญ่” ทักอีกฝ่ายที่กำลังเดินใกล้เข้ามาพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร

หลังจากส่งน้องสาวกลับบ้าน ภพธรก็ตรงดิ่งไปที่สนามบิน หาซื้อตั๋วเดินทางเที่ยวที่เร็วที่สุดจนมาถึงที่นี่ เขาไม่ตอบคำถามของน้องเขย แต่ง้างหมัดประเคนใส่ใบหน้ายิ้มแย้มเต็มแรง

ผลัวะ!

ภาสกรหน้าสะบัด เซถลาไปตามแรงหมัด รีบตั้งหลักและปัดป้องหมัดที่ตามมารัว ๆ พยายามไม่โต้กลับ

“อย่า!” รีบห้ามลูกน้องที่เข้ามากระชากภพธรออกไปแล้วทำท่าจะลงมือ “ปล่อยเขา แล้วก็ออกไปให้หมด” เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าซับเลือดที่ไหลออกจากรูจมูก รอจนลูกน้องเดินห่างออกไปจึงตั้งคำถามที่คับข้องใจ “นี่มันเรื่องอะไรกันครับคุณใหญ่ ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยเถอะ”

“คุณเคยสัญญาไว้ว่าจะรักและดูแลทะนุถนอมน้องสาวของผมอย่างดี จะไม่ทำให้เธอเสียใจ แล้วทำไมถึงไม่รักษาคำพูด” ภพธรชี้หน้าถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด แต่ไม่ดังจนกลายเป็นตะคอก

เจอคำถามของพี่เมียเข้าไป ภาสกรถึงกับทำหน้าตาตื่น เมื่อเช้าตอนอยู่บนเตียงเขายังพลอดรักฝากรอยสวาท ก่อนจากกันเขากับเธอยังรักกันดี เธอยังกอดออดอ้อนบอกว่าให้รีบกลับเพราะไม่อยากนอนคนเดียว แล้วยังจูบลาตอนส่งขึ้นรถต่อหน้าลูกน้องเขาอีกด้วย

“ตกใจมากเลยเหรอครับที่ความลับถูกเปิดเผย” ภพธรถากถางเมื่อได้เห็นหน้าตาแตกตื่นของน้องเขย

“ใจเย็น ๆ ก่อนนะครับคุณใหญ่” ภาสกรยกมือห้ามความเข้าใจผิดของพี่เมีย “คุณใหญ่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ผมกับเมียไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะครับ เรายังรักกันดี”

“หึ! เมียคนไหนครับที่รักกันดี เมียเก่าหรือเมียใหม่”

“ผมมีจูนเป็นเมียคนเดียว คุณใหญ่พูดแบบนี้หมายความว่าไง” ภาสกรเริ่มหงุดหงิด ถามเสียงแข็งเมื่อถูกอีกฝ่ายทำท่าดูแคลนความรักเดียวใจเดียวของเขา “เรากลับไปคุยกันที่ห้องทำงานผมดีกว่านะ คุยตรงนี้มันไม่ค่อยเหมาะ”

“ไม่ดีกว่าครับคุณปูน ที่ผมมาถึงที่นี่ก็แค่ต้องการบอกให้คุณรู้ ว่าผู้หญิงของคุณไประรานน้องสาวของผม น้องสาวผมเสียใจร้องไห้จะเป็นจะตายก็เพราะการกระทำของคุณ ดังนั้น”

“เดี๋ยวนะครับคุณใหญ่!” ภาสกรตกใจตาตั้ง “ผมว่าคุณใหญ่เข้าใจผิดไปใหญ่โตแล้วนะครับ ตั้งแต่ผมมีจูน ผมไม่เคยนอกใจจูนสักครั้ง นี่คือความสัตย์จริง คุณใหญ่จะพิสูจน์ยังไงก็ได้ ผมยินดีให้ความร่วมมือทุกเรื่อง”

สายตาท่าทางของน้องเขยทำให้ภพธรเริ่มลังเล จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน ว่าภาสกรจะกล้านอกใจเมีย เพราะเท่าที่เห็นมาตลอดหลายปี เขารักเธอเอามาก ๆ แต่ภาพมันฟ้องซะขนาดนั้น จะไม่ให้เชื่อได้อย่างไร

“คุณแน่ใจนะครับคุณปูน ถ้าผมพิสูจน์ว่าคุณนอกใจน้องสาวผมได้ คุณเต็มใจที่จะหย่ากับเธอไหม”

“ผมไม่หย่า ผมรักเมียผมคนเดียวเท่านั้น ให้ผมไปตายยังง่ายกว่ามั้งคุณใหญ่” เขาสวนกลับ ทำไมเขาต้องหย่าในเมื่อเขาไม่เคยนอกใจเธอสักครั้ง

“ดูคุณมั่นใจมากเลยนะคุณปูน” ถ้าไม่ได้เห็นภาพเขาคงซาบซึ้งกับคำพูดนั้น

“ผมลูกผู้ชายพอนะคุณใหญ่ ถ้าผมทำผิดผมกล้ายอมรับแน่นอน” ภาสกรกล่าวหนักแน่น ประสานสายตาเด็ดเดี่ยวกับอีกฝ่าย

“ถ้าคุณกล้ายืนยันหนักแน่นขนาดนี้ ผมก็จะเชื่อใจคุณสักครั้ง” แล้วภพธรก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้น้องเขยฟัง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ณศิกมล / ซินเหมย

ข้อมูลเพิ่มเติม
น้องเมีย

น้องเมีย

โรแมนติก

5.0

ชติรสรีบพลิกตัวหันหลังให้ชายหนุ่มทันทีที่เขาผละจากเธอไปยืนอยู่ข้างเตียง ควานมือไปด้านหลังเพื่อหาผ้าห่มมาคลุมร่างที่เปลือยเปล่าของตนให้พ้นจากสายตาร้อนแรงสีน้ำตาลเฮเซลคู่นั้น แต่ให้ตายเถอะผ้าห่มมันหายไปไหนวะ! ชายหนุ่มกอดผ้าห่มไว้กับอก มองทรวดทรงอวบอัดที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจน เธอคือผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติในสายตาของเขาจริงๆ คิดไปคิดมาความต้องการที่เพิ่งสงบลงไปก็เริ่มตื่นตัวอีกครั้ง เขารีบคลี่ผ้าห่มคลุมร่างให้เธอแล้วแต่งตัวเพราะกลัวอดใจไม่ไหว กลัวจะทำให้เธอเจ็บปวดทรมานจนเข็ดขยาด “ผมไปก่อนนะยอดรัก” เขาเกี่ยวร่างที่ตะแคงหันหลังให้ด้วยมือข้างเดียว แล้วโน้มหน้าไปกระหน่ำจูบที่เรียวปากอิ่มนั้นอย่างเสน่หา ก่อนจะออกไปจากห้องเขายังหยิบโทรศัพท์ของเธอมากดเข้าหาเบอร์ตัวเอง และอดไม่ได้ที่จะรั้งร่างบางมากอดแนบอกและดูดดื่มความหวานของเรียวปากอย่างอาลัยอาวรณ์ “อย่าลืมสัญญาของเราล่ะ” เธอเน้นย้ำเมื่อเขาจะจากไป เขามองร่างที่กอดกระชับผ้าห่มนวมเอาไว้ด้วยความรักใคร่อย่างเปิดเผย “ผมจะรักษาสัญญาอย่างเคร่งครัดถ้าคุณไม่ผิดคำสัญญา” “เราควรทำหนังสือสัญญาต่อกัน” “ไม่จำเป็น หน้าที่ของคุณคือเป็นตัวแทนของลิก้า หน้าที่ของผมคือห้ามยุ่งกับลิก้า ดังนั้นคุณและผมแค่ทำหน้าของตัวเองอย่างเคร่งครัดหนังสือสัญญาก็ไม่มีความหมาย” “ถ้าฉันรู้ว่าคุณยุ่งกับพี่สาวของฉันทั้งที่ฉันยอมคุณถึงขนาดนี้ เราได้เห็นดีกันแน่” เธอข่มขู่ “ผมไม่โง่เสียคุณไปหรอกยอดรัก คุณเด็ดกว่าเธอเป็นไหนๆ” “อย่ามาหยาบคายกับฉัน ไสหัวออกไปจากห้องฉันได้แล้ว” เธอหยิบหมอนปาใส่คนปากเปราะนัยน์ตาลามกด้วยความอับอายระคนโกรธแค้น

หญิงซ่อนร้าย ชายซ่อนรัก

หญิงซ่อนร้าย ชายซ่อนรัก

ผจญภัย

5.0

ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบทุกกระเบียดนิ้วอย่างเขา ทำไมต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นง่อยอย่างเธอด้วยล่ะ.. ------------------ เขากอดเธอแน่น จูบหนักหน่วงขึ้น เรียกว่าแทบจะสูบเอาวิญญาณออกมา จูบจนเธอต้องเบือนหน้าหนีเพื่อสูดเอาอากาศเข้าปอด “หายใจไม่ทันเหรอ” ถามเสียงนิ่ง จ้องใบหน้านวลไม่กะพริบ “ตอบผมสิ” คะยั้นคะยอขอคำตอบเมื่อเธอเอาแต่อ้ำอึ้ง ไม่กล้าจะสบตาด้วย “..ค่ะ” ตอบอย่างขัดเขิน “มองหน้าผมให้เต็มตาแล้วค่อยตอบสิหนูเล็ก” ไม่พูดเปล่า แต่ยังเอื้อมมือไปจับปลายคาง รั้งใบหน้าเธอให้หันมามองตน.. แต่ใบหน้าเรียวแดงซ่านช่างน่ารักเหลือเกิน อดใจไม่ได้ต้องโน้มไปหาและจูบเสียอีกที หอมอีกสองฟอด “เด็กเลี้ยงแกะ!” แล้วตำหนิเสียงขรึม แววตาวาว คนถูกดุเหลือบสายตามองโต้ ทั้งเขินทั้งงง ไม่เข้าใจว่าตนกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะได้อย่างไร

โหยตัณหา

โหยตัณหา

โรแมนติก

4.7

“เป็นอะไร หน้ามืดเหรอ” เขาตีหน้าเครียดถามไถ่ เก็บซ่อนอาการขำขันด้วยความเอ็นดูเอาไว้มิดชิด เธออายจนต้องยกมือปิดหน้า ซ้ำยังบิดตัวซุกหลบกับอกแกร่งเพราะกลัวจะตก “คุๆๆๆ คุณ..คุณไคปล่อยครีมลงเถอะค่ะ” “ไม่ปล่อย” “ทำไมล่ะคะ” “ก็ไม่อยากปล่อย ตั้งแต่แต่งงานกันมาเรายังไม่เคยทำตัวเป็นสามีภรรยากันเลย ผมก็อยากอุ้มภรรยาดูบ้างไม่ได้เหรอ” “ได้ค่ะ แต่ไม่ใช่เวลานี้ ตอนนี้คุณไคไม่สบายอยู่นะคะ ปล่อยครีมลงก่อนดีกว่าค่ะ อุ้มของหนักมากๆ เดี๋ยวยิ่งปวดหัวนะคะ” เธอแก้ตัวบ้าบออะไรของเธอเนี่ย ทำไมยิ่งฟังยิ่งน่ารักน่าฟัด พาให้หมั่นเขี้ยวนัก

กุหลาบร้ายพ่ายรัก

กุหลาบร้ายพ่ายรัก

โรแมนติก

5.0

เธอคือสาวสวย มาดมั่น วัย 30 ปี ที่ปากจัดสุดๆ ส่วนเขาเป็น CEO หนุ่มหล่อ มาดแมน วัย 27 ปี ที่เธอไม่ชอบขี้หน้าเอาซะเลย เพราะเขาคอยแต่จับผิดและชอบใช้งานเธอผิดหน้าที่อยู่บ่อยๆ +++++++++++++++++++ ยัสซันรีบขยับกายตั้งท่าลุกขึ้นอย่างหัวเสีย วิ่งตามหญิงสาวฝีเท้าหนักที่ทำเอาเขาวูบไปชั่วขณะเพราะแรงของมัน เธอมันร้ายได้ทุกสถานที่จริงๆ ขนาดอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ยังกล้าลงมือ ถ้าทำกันขนาดนี้ก็อย่าหวังว่าจะรอดออกไปได้ง่ายๆ “กรี๊ดดดด..” สองเท้าของเธอตะกุยอยู่ในอากาศ เพราะถูกร่างที่สูงใหญ่กว่าโอบอุ้มจากข้างหลังจนตัวลอย “ปล่อยฉันนะไอ้เลว ไอ้ระยำ แกจะต้องเสียใจที่ทำกับฉันแบบนี้” เธอยังดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากการโอบกอด “ใครกันแน่ที่ต้องเสียใจ กล้าถีบหน้าผมก็ต้องชดใช้ให้สาสม” จมูกโด่งเป็นสันแตะที่ขมับของหญิงสาว กระซิบที่หูขณะหิ้วเธอกลับไปที่เตียงนอน เหวี่ยงเธอลงไปบนเตียงหลังใหญ่อีกครั้ง แล้วรีบโถมกายตามไปติดๆ จัดการลงโทษตามแบบที่ต้องการ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ