Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี

กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี

หมอนบนโซฟา

5.0
ความคิดเห็น
32.1K
ชม
43
บท

ตอนมีชีวิตอยู่ก็ยากจนแสนเข็ญ เมื่อตกตายไป ยังต้องเข้ามาอยู่ในร่างของคุณหนูตกอับที่อาภัพรัก ถูกคู่หมายทิ้งร้าง จนนางเฝ้าถามฟ้าดินว่าเหตุใดไม่ปล่อยให้นางตายไปเสีย ตายแล้วตายเลยมิได้หรืออย่างไรกัน!!! เรื่องย่อ ผู้จัดการร้านเหล้าชื่อดัง กลับต้องกลายมาเป็นคุณหนูตกอับแห่งสกุลเหอ เหอหลี่น่า ทั้งที่ตายตกไปแล้ว เหตุใดยังฟื้นตื่นขึ้นมาอีกเล่า วิบากกรรมอันใดที่เคยก่อ จึงต้องมาใช้ชีวิตลำบากลำบนเช่นนี้ ครอบครัวถูกโกง ผู้คนมินับหน้าถือตา คู่หมายที่ให้คำมั่นกันไว้ก็แต่งสตรีอื่นเข้ามาแทนที่ คอยดูเถิด ข้าจะเป็นเศรษฐีนีของแคว้นให้ดู เหอหลี่น่า VS จ้าวหวังหย่ง “ทาบทาม หมายถึงแต่งงานน่ะหรือ” “ใช่” “ไม่ต้องๆ ข้ามิได้คิดมาก แต่ท่านต้องรีบไปซื้อยาห้ามครรภ์มาให้ข้า” “เหตุใดต้องดื่ม ข้าจะรับผิดชอบทุกอย่าง” “ข้าจะดื่ม แล้วข้าก็จะไม่แต่งด้วย!”

บทที่ 1 ตายไป มันง่ายกว่า

“นั่นใครน่ะ” แผ่นหลังของสตรีร่างอวบอ้วน สวมชุดยาวเฟื้อย เป็นสิ่งเดียวที่ลีน่าเห็นอยู่ตอนนี้ ทั่วบริเวณที่เธอมองไป มีเพียงหมอกสีขาวปกคลุมจนหนาตา

“ฉันถามว่าเธอเป็นใคร”

“ฮึก! ฮื้อ ฝากด้วยนะเจ้าคะ ฝากท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ชาย และเอินเอินของข้าด้วย” ใบหน้าน่ารักหันกลับมามองลีน่าทั้งน้ำตา

“ฝากอะไรกัน พ่อแม่ใครพ่อแม่มันสิ แล้วนั่นเธอจะไปไหน เดี๋ยวสิ เดี๋ยวๆ” ไม่ทันที่ลีน่าจะวิ่งเข้าถึงตัว หญิงสาวก็จางหายไปกับหมอกขาว และสติของลีน่าก็เลือนหายไปด้วยเช่นกัน

ฮึก! อึก! อึก! อัก

ตากลมลืมขึ้น สติเริ่มฟื้นคืนมาอีกครา แต่สิ่งที่ลีน่ารับรู้ คืออาการของคนที่ขาดอากาศหายใจ แรงดึงรัดที่ลำคอ ทำให้เธอไม่สามารถสูดหายใจเข้าไปได้

“ชะ ช่วย อึก!”

ร่างอวบอ้วนค้างเติ่งอยู่กับผ้าขาวที่ถูกผูกเป็นบ่วง ปลายเท้าห้อยอยู่เหนือพื้น ข้างกันนั้นมีเก้าอี้ไม้ล้มอยู่

ลีน่าไม่รู้เลยว่า เธอตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร รู้เพียงว่าตอนนี้จะต้องหาทางรอดให้ได้เสียก่อน มือทั้งสองถูกยกขึ้นมาจับบ่วงผ้าเอาไว้ ใช้แรงที่มีดึงตัวขึ้น แต่ด้วยแรงที่เหลืออยู่น้อยนิด จึงไม่สามารถดึงตนเองขึ้นได้นานนัก

เฮือก! ฮ้า~ กระนั้นลีน่าก็ยังสูดหายใจเข้ามาเต็มปอด เท้าทั้งสองพยายามเตะไปทั่ว เผื่อว่าจะโชคดี…

เพล้ง!และแล้วสิ่งที่เธอทำก็เป็นผล แจกันที่วางอยู่ไม่ไกล ตกลงมาแตก จะเพราะสิ่งใดที่ทำให้แจกันหล่นลงมา เธอไม่ได้สนใจสักนิด ขอเพียงมีคนได้ยินเท่านั้นก็พอ

“คุณหนู เกิดอันใดขึ้นเจ้า- กรี๊ดดดดดดด ช่วยด้วย! ช่วยคุณหนูด้วย” หญิงสาวร่างเล็กเดินเข้ามาเห็นสภาพของผู้เป็นนาย ก็กรีดร้องเรียกให้คนมาช่วย หญิงผู้นั้นรีบเข้าไปยกตัวลีน่าขึ้น พอให้เธอโล่งใจว่าอย่างน้อยก็มีคนมาช่วย โดยมิได้สนใจสรรพนามที่สตรีผู้นี้ใช้เรียกเธอเลย

“เสียงดังอันใดกะ- หลี่เอ๋อร์! หลี่เอ๋อร์ ท่านพ่อ ท่านแม่มาช่วยข้าที”

“หลี่เอ๋อร์! ลูกพ่อ” ลีน่ารู้สึกหายใจโล่งขึ้นมาทันที เมื่อมีชายหนุ่มเข้ามายกตัวเธอให้สูงขึ้น ก่อนที่ชายวัยกลางคนจะปีนโต๊ะขึ้นไปปลดปมผ้า ทำให้ร่างอวบร่วงลงมากองกับพื้น พร้อมกับชายหนุ่ม

เสียงร้องไห้คร่ำครวญและแรงกอดรัด เป็นสิ่งสุดท้ายที่ลีน่าสัมผัสได้

อะไรล่ะเนี่ย ฝันหรอ หรืออะไรกันแน่

“อะ โอ้ย!” มืออวบยกขึ้นจับบริเวณลำคอขาว ที่บัดนี้ขึ้นสีแดงช้ำจนน่ากลัว ลีน่าจำได้ว่าตนเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่ก็มีคนมาช่วยเธอไว้ได้ทัน

‘อ่า~ ดูเหมือนจะรอดแล้วสินะ’

“หลี่เอ๋อร์ฟื้นแล้วขอรับท่านพ่อ ท่านแม่” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้น ดึงสติให้ลีน่าหันมองไปทางต้นเสียง ภาพที่ปรากฏต่อหน้าเธอตอนนี้ เป็นภาพที่มีชายสองคน และหญิงอีกสองคน กำลังยืนมองเธอ ด้วยสีหน้าและแววตาเศร้าโศก

“หลี่เอ๋อร์ เหตุใดจึงทำเช่นนี้ลูก แม่ปวดใจยิ่งนัก ฮื้อออ” หญิงวัยกลางคนร้องห่มร้องไห้ ปานจะขาดใจ…

‘นี่มันเรื่องอะไรกัน คนพวกนี้เป็นใคร งงไปหมดแล้วนะ’ ลีน่าได้แต่มองคนนั้นที คนนี้ที

“พอเถิดน้องหญิง อย่าได้คาดคั้นลูกนักเลย” ชายหญิงคู่นี้ ดูเหมือนจะเป็นสามีภรรยากัน แต่ทำไมถึงเรียกเธอว่าลูกกันล่ะ

“นั่นสิขอรับ ท่านแม่อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกเลย”

“ขอโทษ แคกๆ นะคะ พวกคุณเป็นใครคะเนี่ย” ลีน่าสะบัดหน้า ไล่ความมึนงง จะคิดว่าเธอกำลังฝันอยู่ มันก็เหมือนจริงเกินไป

ลีน่าแน่ใจว่าตั้งแต่เกิดมาจากท้องแม่ จนอายุย่างเข้าสามสิบปี เธอไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้าผู้คนเหล่านี้มาก่อน ไหนจะเรื่องการแต่งตัว ที่เหมือนพวกนักแสดงซีรีส์จีนย้อนยุคนี่อีก

“ละ หลี่เอ๋อร์ นี่พี่อย่างไรเล่า พี่เหิงของเจ้า”

“เหิงไหนอีกล่ะ แล้วฉันก็ไม่ได้ชื่อหลี่เอ๋อร์ด้วย ฉันชื่อลีน่า ลอ อี ลี นอ อา นา ไม้เอก น่า…ลีน่า” มืออวบชี้ไปที่ปากของตัวเอง ก่อนจะขยับปากสะกดคำให้คนตรงหน้าฟัง

ทั้งคำพูดและท่าทีที่หญิงสาวแสดงออก ทำให้ครอบครัวสกุลเหอหวั่นใจ โดยเฉพาะเหอเข่อซิงผู้เป็นบิดา

จากกิริยาและท่าทางของบุตรสาว นอกจากจะแปลกประหลาดไปจากเดิม นางยังทำราวกับมิรู้จักพวกเขาอีก หากเป็นเช่นนี้ การเร่งเข้าหา อาจจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี

“เอ่อ อาเหิงอย่าพึ่งไปเร่งรัดน้องเลย นางอาจจะยังสับสนมึนงง หากได้พักผ่อนสักหน่อยคงจะดีขึ้น เอินเอินฝากเจ้าดูแลนางที” ชายที่ดูจะมีอายุมากที่สุดเดินออกไปจากห้อง ตามไปด้วยชายหนุ่มที่ชื่อพี่เหิง และหญิงวัยกลางคน

“ดะ เดี๋ยวสิ อย่าพึ่งไป พาฉันกลับบ้านก่อน” ลีน่าลุกขึ้นจากเตียง หมายจะวิ่งตามทั้งสามออกไป แต่กลับเสียหลักล้มไปกับพื้น

ตุบ!!!

“ทำไมหนักแบบนี้เนี่ย”

“ระวังเจ้าค่ะ คุณหนูจะไปที่ใดเจ้าคะ”

“ก็จะไปหาพวกเขานะสิ-” ลีน่าชะงักนิ่ง เมื่อเห็นเงาสะท้อนในกระจกบานใหญ่ ภาพที่สะท้อนอยู่ตอนนี้ เป็นหญิงสาวร่างอวบอั๋น ใบหน้าน่ารัก พวงแก้มขาว กลมใหญ่ราวกับซาลาเปาก้อนโต

สองมือยกขึ้นโบกไปมา เงาในกระจกก็ทำตาม ลีน่าจงใจเปลี่ยนเป็นชูมือสองนิ้ว เงานั้นก็ทำตาม!!!

“ย้ากกกกกกก อะไรวะเนี่ย” ทำไมหน้าเธอเปลี่ยนไป รูปร่างก็ด้วย

“คุณหนูเจ็บที่ใดเจ้าคะ ฮึก คุณหนูของบ่าว”

“ฉันชื่ออะไร”

“ฮึก หมายถึงนามของคุณหนูหรือเจ้าคะ คุณหนูเหอหลี่น่าเจ้าค่ะ” หญิงสาวตัวจ้อยตอบทั้งน้ำตา แม้ว่าคำพูดที่คุณหนูของนางเอ่ย จะแปลกไปบ้าง แต่นางก็พอจะคาดเดาได้ว่าคุณหนูถามถึงเรื่องใด

“เหอหลี่น่า” เมื่อได้คำตอบ ลีน่าก็ถอยมานั่งบนเตียงอย่างหมดแรง ในหัวพยายามนึกถึงเหตุผลและที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมดนี้

ลีน่า สาวใหญ่วัยสามสิบปี เธอเป็นลูกครึ่งไทย-จีน มีครอบครัวแสนอบอุ่นจนกระทั่งอายุได้ห้าขวบ พ่อชาวจีนของเธอ ก็ทิ้งเธอและแม่ไปกับหญิงอื่น ลีน่าเลยต้องอยู่กับยายและแม่นับจากนั้นมา

หลี่น่า เป็นชื่อที่พ่อใช้เรียกเธอ แต่นับจากที่พ่อจากไป ก็ไม่มีใครเคยเรียกเธอแบบนั้นอีก

หลังจากทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยจนจบปริญญา เธอก็ได้งานเป็นผู้จัดการอยู่ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง จนมีเงินทองมากพอ จะส่งให้แม่และยายใช้ ทว่าหลังจากที่ลีน่าทำงานได้ไม่กี่ปี ยายกับแม่ของเธอก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จากนั้นเธอก็อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด มีเพียงเพื่อนที่ทำงานเท่านั้นที่พอจะไปมาหาสู่กันได้

ลีน่าจำได้ว่า เธอไปทำงานตามปกติเหมือนทุกวัน อยู่ตรวจสอบความเรียบร้อยจนร้านปิดอย่างที่เคยทำ

“พวกแกมาเก็บขวดเหล้าตรงนี้ไปด้วย”

“ได้ครับ” แน่นอนว่าการทำงานในสถานที่ ที่มีแต่คนมึนเมาย่อมต้องมีเรื่องให้ปวดหัวบ้าง แต่เธอก็เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง จนกลายเป็นเจ้ใหญ่ที่น้องๆ ต่างเคารพ

อ่า~ ที่จริง เพราะเธอทำงานที่นี่มานานแล้ว

“เจ้ลี ผมเอาขวดไปทิ้งก่อนนะ” ไอ้โจพนักงานในร้านตะโกนบอก พร้อมกับยกถุงขยะเดินออกไปทางหลังร้าน

“ฉันชื่อลีน่าจ้า ลี-น่า เรียกซะเป็นป้าแถวบ้านเลยนะ” ลีน่าตะโกนด่าไปโดยมิได้คิดอะไร มือทั้งสองก็วุ่นวายอยู่กับการช่วยพนักงานในร้านเก็บกวาด ด้วยตำแหน่งของเธอ จะไม่ทำก็ไม่มีใครว่า แต่เธอก็อยากช่วย เพราะยังไม่อยากกลับคอนโด

“เอ้า! อีกถุงก็ไม่เอาไป ไอ้โจนะไอ้โจ” แม้จะบ่น แต่เธอก็เลือกจะหยิบถุงไปทิ้งเอง เมื่อเดินออกไปตรงที่ทิ้งขยะ ก็พบว่าไอ้โจกำลังถูกกลุ่มวัยรุ่นสี่ห้าคน รุมทำร้ายอยู่

“พวกมึงทำอะไร คิดจะหมาหมู่หรอวะ” กับพวกถ่อย ไม่จำเป็นต้องพูดดีด้วย

“อีแก่ มึงไม่เกี่ยว อย่าหาเรื่องใส่ตัว” ลีน่าถึงกับหน้ามืดครึ้ม

“อีแก่งั้นหรอ กูพึ่งจะสามสิบโว้ย!!!”

ตอนนั้นเธอจำได้เพียงว่า ตัวเองเข้าไปถีบไอ้คนปากหมานั่น จากนั้นเหตุการณ์ก็ชุลมุน มีพนักงานที่ร้านออกมาช่วยพวกเธอ ตัวเธอเองก็ต่อยตีกับพวกวัยรุ่นไปหลายหมัด

แต่แล้ว…ปัง!!!

เสียงปืนดังลั่น พร้อมกับอาการเจ็บจี๊ดที่กลางอก หลังจากนั้นเมื่อเธอได้สติขึ้นมา ก็พบหญิงสาวร่างอวบ แล้วก็โผล่มาที่นี่

นี่หมายความว่า…

“ฉันโดยยิงตาย แล้วมาติดอยู่ในร่างนี้หรอ บ้าปะ! ใครมันเล่นบ้าอะไรเนี่ย”

“คุณหนู…?”

“ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย ฮื่อออ ทำไม~ ตายแล้วตายเลยไม่ได้หรอวะ โมโหโว้ย!!!” ลีน่าในร่างของคุณหนูเหอหลี่น่าดีดดิ้น งอแง อยู่บนเตียงนอน จนบ่าวรับใช้มิรู้จะปฏิบัติตนอย่างไร

“คุณหนูเจ้าคะ”

“ฮื่อออ เกิดมาก็ลำบาก ตายแล้วยังไม่ตายจริงอีก ชีวิตฉัน!” ทั้งเบะปากร้องไห้ ทั้งทุบอกตนเองอย่างช้ำใจ

“คุณหนูอย่าทุบตีตนเองเลยเจ้าค่ะ ฮึก” ลีน่าคร่ำครวญจนพอใจ ก็นอนนิ่ง หอบหายใจหนัก เพราะอาการเหนื่อย ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่ชินกับร่างกายที่อ้วนท้วมสมบูรณ์เช่นนี้ ชีวิตก่อนผอมแห้งแรงน้อย จนจะปลิวไปกับลม

“เธอ- ไม่สิๆ ต้องใช้เจ้ากับข้าเหมือนในซีรีส์สินะ”

“…?”

“เจ้าบอกอีกทีสิ ว่าฉัน- ข้าชื่ออะไร”

“นามว่า เหอหลี่น่า เจ้าค่ะ” ลีน่าพยักหน้าเข้าใจ แม้ในใจจะไม่ยินยอม แต่ก็คงต้องยอมรับว่าจากนี้จะต้องใช้ชื่อ เหอหลี่น่า

“แล้วธะ- เจ้าล่ะ” บ้าเอ้ย! พูดยากจริง ไอ้ตอนฟังซีรีส์ก็ไม่เห็นจะยากขนาดนี้

“บ่าวนามว่า เอินเอิน เจ้าค่ะ คุณหนูจำมิได้หรือเจ้าคะ ฮึก”

“…แล้วสามคนที่เข้ามาเมื่อกี้ล่ะ”

“เอ่อ คุณหนูหมายถึงสามคนเมื่อครู่หรือเจ้าคะ เป็นท่านพ่อ ท่านแม่ และพี่ชายของคุณหนูเจ้าค่ะ”

“ครอบครัวสินะ”

“เกิดอันใดขึ้นกับคุณหนูเจ้าคะ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้” ดวงตาแดงก่ำของเอินเอิน ทำให้หลี่น่านึกหนักใจ ว่าจะบอกเรื่องคุณหนูเหอหลี่น่าคนเดิมกับหญิงสาวตรงหน้าดีหรือไม่

“ข้า…ความจำเสื่อมน่ะ เหมือนในละครไง แบบว่าจำอะไรไม่ได้เลย” ไม่บอกแล้วกัน บอกไปก็มีแต่จะทำให้ทุกคนคิดว่านางเป็นบ้า

“จะ เจ้าคะ? ความจำเสื่อมคืออันใดเจ้าคะ”

“เห้อ เข้าใจยากจริง เอาเป็นว่าตอนที่ข้าร่วงลงมาบนพื้น หัวข้าไปกระแทกกับพื้นดังเปาะ!ทีนี้ข้าก็จำอะไรไม่ได้เลย ความจำมันหายไปหมดเลย” พูดไปก็ทำท่าทางประกอบไปด้วย ให้อีกฝ่ายเข้าใจมากขึ้น

“คะ ความจำหดหายหรือเจ้าคะ” เด็กสาวยกมือปิดปาก นัยน์ตาฉายแววเวทนาผู้เป็นนายเหลือทน

“อืม ฉะ- ข้าความจำหดหาย ทีนี้ต้องพึ่งเจ้าแล้ว เล่าเรื่องราวของข้าให้ฟังทีเถิด”

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูเป็น-” ยังไม่ทันที่เอินเอินจะเอ่ยเล่าสิ่งใด เสียงเอะอะโวยวายด้านออกก็ดังขึ้น

เคร้ง! ตุบ! ปัง!!!

“เอินเอิน รีบพาหลี่เอ๋อร์กับท่านแม่ไปหลบเร็วเข้า” จู่ๆ พี่เหิงของหลี่น่า ก็พามารดาเข้ามาในห้องด้วยท่าทีร้อนรน

“เจ้าค่ะ!” ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลี่น่าถูกดึงเข้าไปหลบในห้องลับ ทั้งที่นางยังคงสับสนมึนงงอยู่

หลบอะไรอีกละเนี่ย แล้วเสียงข้าวของแตกนั่นคือสิ่งใด!!?

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หมอนบนโซฟา

ข้อมูลเพิ่มเติม
แม่หมอแห่งซูโจว

แม่หมอแห่งซูโจว

โรแมนติก

5.0

บิดามารดาสิ้นใจไปอย่างกะทันหัน ครอบครัวที่เหลือก็กดขี่ราวมิใช่ลูกใช่หลาน ชุนลี่มี่จึงต้องพาน้องชายออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยพรที่สวรรค์มอบให้ ......................................................................................................................................................................... หลังจากบิดาตายจาก สองพี่น้องก็ใช้ชีวิตในสกุลชุนอย่างยากลำบาก แต่ทั้งสองก็ยังอดทนเรื่อยมา ทว่าเรื่องครานี้มันหนักหนาเกินทน ชุนลี่มี่ "ข้าขอตัดขาดกับพวกท่าน ต่อจากนี้พวกท่านมิต้องเลี้ยงดูข้า ข้ามิต้องแทนคุณท่าน อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกันอีก" . . "ท่านยาย ในนิมิตหลานเห็นเขากำลังควบขี่..." "ขี่ม้าหรือ" "มิใช่เจ้าค่ะ" "แล้วขี่สิ่งใดเล่า หรือจะเป็นกระบือ วัว ลา- " "เป็นข้าเจ้าค่ะ”

ชายเสเพลผู้นี้ เป็นของข้า

ชายเสเพลผู้นี้ เป็นของข้า

โรแมนติก

5.0

ในเมื่อเป็นเพียงองค์หญิงที่เกิดจากสนม แล้วต้องถูกกดขี่เช่นนี้ ข้าจะทำทุกอย่างให้ไปอยู่จุดที่สูงกว่า มีอำนาจมากกว่า แม้แต่เสด็จพ่อก็ต้องไว้หน้าข้าส่วนหนึ่ง เรื่องย่อ : จวิ้นซิงเยียน องค์หญิงอันดับสี่ของราชวงศ์จวิ้น ที่ประสูติจากสนมขั้นกุ้ยเฟย แม้จะมีอำนาจเหนือผู้อื่น แต่ก็มิมากไปกว่าเหล่าพี่น้องที่ประสูติจากฮองเฮาหรือสนมขั้นหวงกุ้ยเฟย นางและน้องสาวจึงถูกกลั่นแกล้งอยู่เสมอ และนั่นเป็นบ่อเกิดของความเคียดแค้นและทะเยอทะยาน "หากมิอยากถูกกดขี่ ก็กระทำตนให้สูง" นั่นเป็นคำสอนที่จวิ้นซิงเยียน ยึดถือมาโดยตลอด และนางจะทำให้ แม้แต่องค์กษัตริย์ของแผ่นดินคิดจะทำสิ่งใดก็ต้องไว้หน้านางอยู่บ้าง จวิ้นซิงเยียน x ชายเสเพลผู้หนึ่ง “อย่ากระทำตน เช่นคนอดอยากปากแห้งหน่อยเลย ข้ารู้ว่าเจ้าเข้าหอนางโลมบ่อยยิ่งกว่าเข้าห้องสุขาเสียอีก” “ถ้าเป็นถ่ายหนักก็ใช่อยู่ แต่หากถ่ายเบา ข้าเข้าห้องสุขาบ่อยกว่าเข้าหอนางโลมนะ”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี
1

บทที่ 1 ตายไป มันง่ายกว่า

09/08/2023

2

บทที่ 2 ความโมโห เป็นแรงผลักที่ดี

09/08/2023

3

บทที่ 3 ปากว่า ตาขยิบ

09/08/2023

4

บทที่ 4 เก็บข้อมูล

09/08/2023

5

บทที่ 5 ลงมือด้วยตนเอง

09/08/2023

6

บทที่ 6 ได้สหายดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

09/08/2023

7

บทที่ 7 กลัว

09/08/2023

8

บทที่ 8 พรีเซนเตอร์ชื่อดังของแคว้น

09/08/2023

9

บทที่ 9 ลูกค้าคือพระเจ้า

09/08/2023

10

บทที่ 10 ว่านสงบใจ

09/08/2023

11

บทที่ 11 งานช้าง (1)

09/08/2023

12

บทที่ 12 งานช้าง (2)

09/08/2023

13

บทที่ 13 ช่องทางการโปรโมต

09/08/2023

14

บทที่ 14 ตีฝีปาก

09/08/2023

15

บทที่ 15 ช่วยคน

09/08/2023

16

บทที่ 16 ตบแต่งกับข้าเถิด

09/08/2023

17

บทที่ 17 ใส่ร้ายป้ายสี

09/08/2023

18

บทที่ 18 สงสารเด็กตาดำๆ

09/08/2023

19

บทที่ 19 ตัวแทน

09/08/2023

20

บทที่ 20 ก่อนจากลา

09/08/2023

21

บทที่ 21 ฝากถึง

09/08/2023

22

บทที่ 22 วันผ่อนคลาย

09/08/2023

23

บทที่ 23 ท่านย่า VS ว่าที่หลานสะใภ้

09/08/2023

24

บทที่ 24 บันทึกการค้า

09/08/2023

25

บทที่ 25 รู้สึกรัก

09/08/2023

26

บทที่ 26 เอาตัวเข้าแลก

09/08/2023

27

บทที่ 27 งานเลี้ยงทหารกล้า

09/08/2023

28

บทที่ 28 หนุ่มหล่อ สาวงาม

09/08/2023

29

บทที่ 29 ลูกค้าต่างแคว้น

09/08/2023

30

บทที่ 30 เช่าที่สกุลลั่ว

09/08/2023

31

บทที่ 31 สืบข่าว

09/08/2023

32

บทที่ 32 รับโทษแทน

09/08/2023

33

บทที่ 33 หนีตามสามี

09/08/2023

34

บทที่ 34 บังคับให้จำยอม

09/08/2023

35

บทที่ 35 มาดีหรือร้าย

09/08/2023

36

บทที่ 36 บ่าวสกุลจ้าว

09/08/2023

37

บทที่ 37 ความเป็นจริง

09/08/2023

38

บทที่ 38 ปลอบใจ

09/08/2023

39

บทที่ 39 สารภาพรัก

09/08/2023

40

บทที่ 40 ภารกิจลับของท่านย่า

09/08/2023