เกิดใหม่มีสามีตาบอด เรื่องนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในเขตอีสานเหมือนเดิมนะคะ แต่คราวนี้ไม่มีมิติไม่มีของวิเศษใด ๆ ค่ะ ปมไม่หนักไม่มีดรามาไม่มีการแก้แค้นเอาคืน เนื้อเรื่องย่อยง่าย เป็นแนวบ้าน ๆ ตามเคย อ่านได้เรื่อย ๆ แต่ภาษาที่ใช้จะใช้เป็นภาษากลางทั้งหมดนะคะ หากใครชอบแนวนี้ฝากกดเข้าชั้นกดหัวใจให้ไรต์ด้วยน้า บางบทบางตอนในนิยายอาจไม่สมเหตุสมผล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ลลิลสาวโสดวัยสามสิบปีต้องย้อนกลับไปในอดีต จิตสุดท้ายก่อนจากโลกปัจจุบันไปเธออยากมีสามีหล่อรวยและที่สำคัญเขาต้องรักเธอ แต่ทว่าเมื่อเธอตื่นขึ้นมาในร่างใหม่ที่ผอมแห้งแรงน้อยแถมยังขี้โรคแล้วจะมีชายใดมาเมียงมอง และที่แย่ไปกว่านั้นเธอต้องแต่งงานกับชายตาบอดแทนพี่สาวฝาแฝดของเธออีกด้วยที่สำคัญเขาคนนั้น…ไม่ได้ต้องการเธอ ไพลินสวมเสื้อกันหนาวตัวหนาสีครีมเดินออกมาต้อนรับช่างแต่งหน้าที่เป็นหญิงแท้หนึ่งและร่างเป็นชายใจเป็นหญิงอีกหนึ่ง “เชิญทางนี้เลยค่ะ” ช่างแต่งหน้าและผู้ช่วยเดินถือชุดเจ้าสาว และกระเป๋าเครื่องสำอางใบใหญ่ตามหลังไพลินขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน ไพลินอดแปลกใจไม่ได้ เหตุใดพี่สาวของเธอถึงยังไม่ลุกขึ้นมาอาบน้ำเตรียมตัวสักที มือเล็กเคาะประตูหน้าห้องอยู่สักพัก พอไม่มีใครมาเปิดประตูไพลินจึงเปิดเข้าไปอย่างถือวิสาสะ เพียงตาอาจจะนอนขี้เซาเพราะคงเหนื่อยจากการเตรียมงานก็เป็นได้ ร่างบอบบางก้าวเท้าพ้นประตูเข้ามาในห้องก็ต้องตกใจเมื่อพบแค่ความว่างเปล่า ผ้าปูที่นอนยังคงเรียบตึงราวกับว่าพี่สาวของเธอยังไม่ได้นอน สายตาเหลือบมองไปเห็นกระดาษแผ่นเล็กวางอยู่บนเตียงนอนมีปากกาด้ามหนึ่งวางทับอยู่ ไพลินไม่รอช้ารีบสาวเท้าเข้าไปหยิบมาอ่านทันที เธอรู้สึกหน้าชาวาบเมื่อเห็นข้อความในกระดาษ ทำไมพี่สาวเธอถึงเป็นคนแบบนี้ไปได้ เธอทำราวกับว่าการแต่งงานคือการเล่นขายของอย่างไรอย่างนั้น ไม่แปลกใจสักนิดว่าทำไมวันที่ไปลองชุดเจ้าสาวเพียงตาถึงได้ใจดีกับเธอนัก “มีอะไรเหรอคะ” หัวหน้าช่างแต่งหน้าที่มีร่างเป็นชายใจเป็นหญิงเอ่ยถามขึ้น ไพลินยังไม่ได้ตอบคำถามประตูห้องก็เปิดออกอีกครั้ง “แม่คะ ตาหนีไปแล้วค่ะ” ไพลินบอกแม่หน้าตาตื่นพร้อมกับยื่นกระดาษในมือให้ “ฮะ! หนีไปไหน” พาขวัญพูดด้วยน้ำเสียงตกใจแล้วหยิบกระดาษจากมือลูกมาอ่าน ‘แม่คะ พ่อคะ ตาต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะคะที่ตาต้องเลือกทำแบบนี้ พ่อกับแม่อย่าบังคับตาเลยค่ะ ตาไม่อาจแต่งงานกับคนที่ตาไม่ได้รัก งานแต่งงานครั้งนี้ตายกให้เป็นหน้าที่ของลินก็แล้วกันค่ะ ที่จริงลินคือพี่สาวของตาต่างหากล่ะคะเพราะยังไงลินก็เกิดก่อนตา เขาทั้งสองคนเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก เจ้าบ่าวตาบอดกับเจ้าสาวความจำเสื่อม ส่วนตาขอไปสานฝันตัวเองก่อนนะคะ อนาคตของตายังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก ตาไม่มีวันเอาชีวิตไปทิ้งไว้กับคนตาบอดหรอกค่ะ พ่อกับแม่ไม่ต้องตามหาตานะคะ กว่าพ่อกับแม่จะเห็นจดหมายฉบับนี้ตาคงเกือบจะถึงกรุงเทพฯแล้ว เงินค่าสินสอดสองหมื่นตาขอยืมไปตั้งตัวก่อนนะคะ ถ้าตาได้งานทำแล้วตาจะคืนให้ค่ะ’ รักพ่อกับแม่นะคะ ตา ตามความเชื่อลูกฝาแฝดคนที่คลอดทีหลังจะเป็นแฝดพี่เพราะพี่จะเสียสละให้น้องคลอดก่อน แต่เพียงตาไม่คิดแบบนั้นเธอคลอดทีหลังเธอก็ต้องเป็นน้อง เมื่ออ่านข้อความในกระดาษจบพาขวัญก็แทบลมจับ ร่างเธอเซไปสองสามก้าว เนื้อตัวสั่นเทาเหมือนจะหายใจไม่ทั่วท้อง “แม่!” ไพลินถลาเข้าไปประคองแม่ไว้ทัน แล้วพาแม่ไปนั่งที่เตียงนอน “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะคุณแม่” หัวหน้าช่างแต่งหน้าถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เห็นแม่เจ้าสาวใบหน้าเผือดสีก็พลอยไม่สบายใจไปด้วย “ยายตาหนีเข้ากรุงเทพฯแล้วค่ะ” พาขวัญเอ่ยขึ้นเสียงเบา เธอกำลังช็อกไม่คิดว่าเพียงตาจะทำได้ลงคอ ไม่คิดว่าตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมาลูกสาวได้วางแผนไว้หมดทุกอย่างแล้ว ไม่แปลกใจว่าทำไมลูกตอบตกลงแต่งงานง่ายดายนัก
รถกระบะสี่ประตูถูกขับเคลื่อนไปบนถนนมิตรภาพมุ่งหน้าสู่ภาคอีสานด้วยความเร็วไม่เกินหนึ่งร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง ทุก ๆ ปีหลังจบเทศกาลปีใหม่ลลิลจะต้องกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดของตัวเอง หรืออย่างน้อยก็ปีละครั้ง เธอจอดรถพักสามสี่ครั้งกว่าจะเดินทางถึงบ้านที่มีระยะทางห่างจากเมืองหลวงมากกว่าห้าร้อยกิโลเมตร
ลลิลเลือกกลับบ้านในช่วงวันปกติเพราะถ้าเป็นช่วงเทศกาลรถจะติดมาก บางครั้งขับรถนานเป็นวันก็ยังไม่ถึงบ้านเหยียบเบรกเหยียบคลัตช์จนขาแข็งไปหมด และก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงชอบรถเกียร์กระปุกทั้งที่เป็นคนตัวเล็กและเหมาะกับรถคันเล็กเกียร์ออโต้มากกว่า ด้วยความที่เธอต้องเดินทางเพียงลำพังทุกครั้งตั้งแต่เข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ และเลือกที่จะทำงานต่อที่นั่นเธอก็เดินทางคนเดียวมาตลอด ถึงการเป็นโสดจะทำให้ลลิลมีความสุขดี แต่บางครั้งก็อดน้อยใจในโชคชะตาไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงไม่มีแฟนสักทีทั้งที่หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร
หลายครั้งได้แต่ภาวนาในใจว่าหากชาตินี้เธอมีคู่ก็ขอให้ได้คู่ที่มีศีลเสมอกัน ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใจดีก็ขอคนรวย ๆ หน่อยเถอะ เธอจะได้ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนถวายชีวิตให้กับบริษัทเอกชนเหมือนทุกวันนี้ ความหล่อก็ขอคนที่รูปร่างสูงใหญ่เหมือนฮยอนบิน ดวงตาและคิ้วเข้มเหมือนหวังอี้ป๋อ จมูกและปากเหมือนลีมินโฮ ผิวสวยเหมือนยองแจ แค่นี้เธอก็พอใจแล้ว ไม่รู้ว่าเทวดาและนางฟ้าจะได้ยินคำขอของเธอบ้างหรือไม่ อีกไม่กี่วันเธอก็จะอายุครบสามสิบปีแล้ว ยิ่งอายุมากขึ้นเธอก็จะหาแฟนยากมากขึ้นเท่านั้น หรือเป็นเพราะเธอเลือกมากเอง
ขับรถไปเปิดเพลงคลอไปและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
เกือบหกโมงรถรถกระบะสี่ประตูคันสีขาวเลี้ยวเข้ามาจอดหน้าบ้านชั้นเดียวหลังใหญ่ทรงโมเดิร์น ภายนอกถูกฉาบด้วยสีเงินและสีเทาไว้อย่างเรียบง่าย มองแล้วรู้สึกเย็นสบายตา ลลิลรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน คิดไว้ในใจว่าอีกสิบปีถ้าเธอเก็บเงินได้สักก้อนแล้วจะกลับมาทำเกษตรที่บ้านกับน้องชายและน้องสะใภ้ แต่เธอไม่เคยได้ลงมือทำสักครั้งหรอกนะ แค่คิดว่าอยากทำเท่านั้น
ลลิลปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหยิบของฝากที่ซื้อมาจากกรุงเทพฯเพื่อนำมาให้หลานทั้งสองที่เกิดจากน้องชายของเธอ
พอเปิดประตูรถก้าวขาออกมาร่างกายก็ปะทะเข้ากับลมหนาว พอถึงฤดูหนาวอีสานมักจะหนาวและอากาศแห้งกว่าภาคอื่น ๆ
“ป้าลิลมาแล้ว” หลานชายคนโตพูดขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นหน้าผู้เป็นป้า
“คุณพ่อคุณแม่สวัสดีค่ะ” ลลิลพนมมือไหว้พ่อกับแม่ที่กำลังนั่งรอเธออยู่กับหลานทั้งสอง
“ป้าลิลมีขนมมาฝากลูกตาลไหมคะ” หลานสาวคนเล็กถามขึ้นดวงตาทอประกายพราวระยับ
“มีสิจ๊ะ นี่ไง” ลลิลยกขนมในมือขึ้นโชว์หลานทั้งสองแล้ววางไว้บนโต๊ะใต้โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนังบ้าน
“กินข้าวก่อนค่อยกินขนมนะเด็ก ๆ” เสียงย่าบอกกับหลานทั้งสอง คนโตอายุสิบขวบส่วนคนเล็กอายุแปดขวบ
“ครับ/ค่ะ” ลูกตาลกับนนทพัทธ์รับคำอย่างว่าง่าย เพราะทั้งสองเคยกินขนมแล้วไม่ได้กินข้าวจนทำให้ปวดท้องพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะกินมันอีก
“แล้วพลกับหน่อยยังไม่กลับจากนาเหรอคะ” ลลิลถามหาน้องชายและน้องสะใภ้ที่ออกไปนาเพื่อปลูกมันสำปะหลัง
“ใกล้มาถึงแล้วแหละแม่เพิ่งโทร. ไปตามเมื่อกี้”
“งั้นลิลขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” ลลิลเข้าไปหอมแก้มพ่อกับแม่แล้วก็เดินเข้าห้องตัวเองที่แม่ทำความสะอาดไว้ให้เป็นอย่างดี มุมปากคลี่ยิ้มออกมาด้วยแววตาอ่อนโยน เธอคิดถึงเตียงนอนในห้องนี้เหลือเกิน คิดแล้วก็อยากกลับมาอยู่บ้านในเร็ววัน ทุกวันนี้ทำงานวันหยุดเหมือนไม่ได้หยุด ต้องคอยรับโทรศัพท์ลูกน้องราวกับว่าเป็นเจ้าของบริษัทเสียเอง จะทำอย่างไรได้ถ้ายังทำงานอยู่ตรงนั้นก็ต้องมีความรับผิดชอบ
มื้อค่ำวันนั้นทุกคนในครอบครัวรับประทานอาหารด้วยกันอย่างมีความสุข พรุ่งนี้ลลิลคิดไว้ว่าจะไปเยี่ยมยายที่อาศัยอยู่กับป้าผู้เป็นพี่สาวของแม่
สิบโมงของวันใหม่ลลิลขับรถมาหายายพร้อมกับของฝากที่ซื้อมาจากกรุงเทพฯ ก้าวขาลงจากรถแล้วก็ต้องแปลกใจ เพราะไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน ก่อนมาเธอไม่ได้โทร.บอกใครเพราะอยากมาเซอร์ไพรส์ ลลิลกวาดสายตามองไปโดยรอบ นึกขึ้นได้ว่าบ้านป้ามีสวนหลังบ้านและยายของเธอชอบไปขลุกอยู่ในสวนเป็นเวลานานลลิลจึงตัดสินใจเดินไปตามยายที่หลังบ้าน
พอก้าวขาออกไปแค่ก้าวแรกตาข้างขวาก็กระตุกแรงสามครั้ง
ลลิลยกมือขวาขึ้นตีตาข้างที่มันกระตุกเบา ๆ สามที
“จะกระตุกอะไรนักหนาเนี่ย” ลลิลบ่นพึมพำเพราะถึงแม้เธอจะใช้มือตีตาข้างขวาแล้วแต่มันก็ยังกระตุกอีกหลายที ตัวเธอเองเป็นคนมีเซ้นส์แรงและเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ตากระตุกข้างขวาก็เหมือนเป็นลางบอกเหตุไม่ดีบางอย่าง
แต่ก็ช่างเถอะมันคงไม่มีอะไร ลลิลได้แต่ปลอบตัวเองอยู่ในใจ
หลังบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้และผักหลายชนิดเพราะยายเป็นคนชอบปลูกทุกสิ่งอย่างที่กินได้ เช่น ขนุน มะม่วงทั้งเปรี้ยวทั้งมัน นอกจากนั้นยังมี ข่า มะรุม ผักหนาม ไผ่ ผักติ้ว และอีกหลายอย่างจนมันดูเกือบจะรก ดีที่ยายยังมีลูกเขยคอยตัดแต่งกิ่งและดายหญ้าให้อยู่เป็นนิจ
ลลิลหยุดเดินแล้วไล่สายตามองไปโดยรอบ
“ยายจันทร์จ๋า” ลลิลตะโกนเรียกยายเสียงดัง ยายอาจจะอยู่ข้างกอไผ่สักกอ เธอร้องเรียกอีกครั้งเมื่อไม่มีใครขานรับ “ยายจ๋า”
ลลิลยืนอยู่เกือบสองนาทีเมื่อไม่มีเสียงตอบรับเธอจึงคิดจะกลับไปบ้านก่อนตอนเย็นค่อยมาใหม่ เท้าขวาก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่ทันระวังขาจึงสะดุดเข้ากับบ่อน้ำที่ใช้ท่อปูนเรียงซ้อนกันขึ้นมาสูงแค่หน้าแข้ง รอบ ๆ มีผักหนามขึ้นเต็มขอบบ่อเพราะผักหนามชอบความชื้นยายจึงปลูกไว้ใกล้น้ำ
“ว้าย!” ลลิลกรีดร้องขึ้นสุดเสียงด้วยความตกใจเมื่อร่างเธอหงายท้องล้มทับไม้กระดานอันผุพังที่วางปิดปากบ่อไว้สองแผ่น
ตู้ม!
ร่างของคนตัวเล็กตกลงไปในบ่อน้ำอย่างรวดเร็วทั้งกลัวทั้งตกใจลลิลพยายามตะเกียกตะกายอยู่ครู่ใหญ่ แต่น้ำในบ่อนั้นลึกมากจนทำให้เธอหมดแรงและไม่มีที่ยึดเกาะ ไม้กระดานที่หักลงไปด้วยก็ไม่สามารถรับน้ำหนักของเธอได้ ร่างของเธอค่อย ๆ จมดิ่งลงไป จิตสุดท้ายของเธอภาวนาแค่ว่าขอให้มีคนพบศพเธอโดยเร็ววัน และสิ่งที่เธออ้อนวอนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรื่องคู่ครองเธอก็ยังยืนยันคำเดิม
หากชาติหน้ามีจริงขอให้เธอมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ขอให้เธอมีโอกาสได้รักกับใครสักคนและเขาก็รักเธอด้วย
ไม่นานจิตของเธอก็สงบลงพร้อมกับร่างที่จมอยู่ก้นบ่อ
บทที่ 1 คำอธิษฐาน
21/12/2023
บทที่ 2 คำสัญญา
21/12/2023
บทที่ 3 ร่างใหม่
21/12/2023
บทที่ 4 ความจำเสื่อม
21/12/2023
บทที่ 5 ข่าวดี
21/12/2023
บทที่ 6 ตัวแทน
21/12/2023
บทที่ 7 เจ้าสาวจำเป็น
21/12/2023
บทที่ 8 หมีควาย
21/12/2023
บทที่ 9 โกรธ
21/12/2023
บทที่ 10 เดินหน้า
21/12/2023
บทที่ 11 ทนได้ก็ทนไป
21/12/2023
บทที่ 12 ป้อนข้าว
21/12/2023
บทที่ 13 กอด
21/12/2023
บทที่ 14 เรื่องมาก
21/12/2023
บทที่ 15 ตัดอ้อย
21/12/2023
บทที่ 16 นวด
21/12/2023
บทที่ 17 ขอเงินเพิ่ม
21/12/2023
บทที่ 18 กลัว
21/12/2023
บทที่ 19 แผนขั้นสุด
21/12/2023
บทที่ 20 อาการมันเป็นยังไง
21/12/2023
บทที่ 21 ใจอ่อน
21/12/2023
บทที่ 22 ลินโกหกพี่
21/12/2023
บทที่ 23 เลือนราง
21/12/2023
บทที่ 24 ลินเคยรักพี่บ้างไหม
21/12/2023
บทที่ 25 เยี่ยมพ่อตาแม่ยาย
21/12/2023
บทที่ 26 ลาบหมาน้อย
21/12/2023
บทที่ 27 ปวดจนทนไม่ไหว
21/12/2023
บทที่ 28 เหมือนตายแล้วเกิดใหม่
21/12/2023
บทที่ 29 เธอไม่ใช่ไพลิน
21/12/2023
บทที่ 30 เราจะดูแลพี่ไกรเอง
21/12/2023
บทที่ 31 หรือตารังเกียจพี่
21/12/2023
บทที่ 32 งานสบาย
21/12/2023
บทที่ 33 ถอดใจ
21/12/2023
บทที่ 34 ทำไมต้องเช็ดตัวด้วยคะ
21/12/2023
บทที่ 35 ลินไม่ได้ป่วย
21/12/2023
บทที่ 36 กลับใจ
21/12/2023
บทที่ 37 ธุรกิจของครอบครัว
21/12/2023
บทที่ 38 ต้นกับโต (ตอนจบ)
21/12/2023
หนังสืออื่นๆ ของ แก้วใบเล็ก
ข้อมูลเพิ่มเติม