Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เกิดใหม่มีสามีตาบอด

เกิดใหม่มีสามีตาบอด

แก้วใบเล็ก

5.0
ความคิดเห็น
3.7K
ชม
38
บท

เกิดใหม่มีสามีตาบอด เรื่องนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในเขตอีสานเหมือนเดิมนะคะ แต่คราวนี้ไม่มีมิติไม่มีของวิเศษใด ๆ ค่ะ ปมไม่หนักไม่มีดรามาไม่มีการแก้แค้นเอาคืน เนื้อเรื่องย่อยง่าย เป็นแนวบ้าน ๆ ตามเคย อ่านได้เรื่อย ๆ แต่ภาษาที่ใช้จะใช้เป็นภาษากลางทั้งหมดนะคะ หากใครชอบแนวนี้ฝากกดเข้าชั้นกดหัวใจให้ไรต์ด้วยน้า บางบทบางตอนในนิยายอาจไม่สมเหตุสมผล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ลลิลสาวโสดวัยสามสิบปีต้องย้อนกลับไปในอดีต จิตสุดท้ายก่อนจากโลกปัจจุบันไปเธออยากมีสามีหล่อรวยและที่สำคัญเขาต้องรักเธอ แต่ทว่าเมื่อเธอตื่นขึ้นมาในร่างใหม่ที่ผอมแห้งแรงน้อยแถมยังขี้โรคแล้วจะมีชายใดมาเมียงมอง และที่แย่ไปกว่านั้นเธอต้องแต่งงานกับชายตาบอดแทนพี่สาวฝาแฝดของเธออีกด้วยที่สำคัญเขาคนนั้น…ไม่ได้ต้องการเธอ ไพลินสวมเสื้อกันหนาวตัวหนาสีครีมเดินออกมาต้อนรับช่างแต่งหน้าที่เป็นหญิงแท้หนึ่งและร่างเป็นชายใจเป็นหญิงอีกหนึ่ง            “เชิญทางนี้เลยค่ะ” ช่างแต่งหน้าและผู้ช่วยเดินถือชุดเจ้าสาว และกระเป๋าเครื่องสำอางใบใหญ่ตามหลังไพลินขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน            ไพลินอดแปลกใจไม่ได้ เหตุใดพี่สาวของเธอถึงยังไม่ลุกขึ้นมาอาบน้ำเตรียมตัวสักที มือเล็กเคาะประตูหน้าห้องอยู่สักพัก พอไม่มีใครมาเปิดประตูไพลินจึงเปิดเข้าไปอย่างถือวิสาสะ เพียงตาอาจจะนอนขี้เซาเพราะคงเหนื่อยจากการเตรียมงานก็เป็นได้            ร่างบอบบางก้าวเท้าพ้นประตูเข้ามาในห้องก็ต้องตกใจเมื่อพบแค่ความว่างเปล่า ผ้าปูที่นอนยังคงเรียบตึงราวกับว่าพี่สาวของเธอยังไม่ได้นอน สายตาเหลือบมองไปเห็นกระดาษแผ่นเล็กวางอยู่บนเตียงนอนมีปากกาด้ามหนึ่งวางทับอยู่ ไพลินไม่รอช้ารีบสาวเท้าเข้าไปหยิบมาอ่านทันที เธอรู้สึกหน้าชาวาบเมื่อเห็นข้อความในกระดาษ            ทำไมพี่สาวเธอถึงเป็นคนแบบนี้ไปได้ เธอทำราวกับว่าการแต่งงานคือการเล่นขายของอย่างไรอย่างนั้น ไม่แปลกใจสักนิดว่าทำไมวันที่ไปลองชุดเจ้าสาวเพียงตาถึงได้ใจดีกับเธอนัก            “มีอะไรเหรอคะ” หัวหน้าช่างแต่งหน้าที่มีร่างเป็นชายใจเป็นหญิงเอ่ยถามขึ้น ไพลินยังไม่ได้ตอบคำถามประตูห้องก็เปิดออกอีกครั้ง “แม่คะ ตาหนีไปแล้วค่ะ” ไพลินบอกแม่หน้าตาตื่นพร้อมกับยื่นกระดาษในมือให้ “ฮะ! หนีไปไหน” พาขวัญพูดด้วยน้ำเสียงตกใจแล้วหยิบกระดาษจากมือลูกมาอ่าน ‘แม่คะ พ่อคะ ตาต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะคะที่ตาต้องเลือกทำแบบนี้ พ่อกับแม่อย่าบังคับตาเลยค่ะ ตาไม่อาจแต่งงานกับคนที่ตาไม่ได้รัก งานแต่งงานครั้งนี้ตายกให้เป็นหน้าที่ของลินก็แล้วกันค่ะ ที่จริงลินคือพี่สาวของตาต่างหากล่ะคะเพราะยังไงลินก็เกิดก่อนตา เขาทั้งสองคนเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก เจ้าบ่าวตาบอดกับเจ้าสาวความจำเสื่อม ส่วนตาขอไปสานฝันตัวเองก่อนนะคะ อนาคตของตายังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก ตาไม่มีวันเอาชีวิตไปทิ้งไว้กับคนตาบอดหรอกค่ะ พ่อกับแม่ไม่ต้องตามหาตานะคะ กว่าพ่อกับแม่จะเห็นจดหมายฉบับนี้ตาคงเกือบจะถึงกรุงเทพฯแล้ว เงินค่าสินสอดสองหมื่นตาขอยืมไปตั้งตัวก่อนนะคะ ถ้าตาได้งานทำแล้วตาจะคืนให้ค่ะ’ รักพ่อกับแม่นะคะ ตา ตามความเชื่อลูกฝาแฝดคนที่คลอดทีหลังจะเป็นแฝดพี่เพราะพี่จะเสียสละให้น้องคลอดก่อน แต่เพียงตาไม่คิดแบบนั้นเธอคลอดทีหลังเธอก็ต้องเป็นน้อง เมื่ออ่านข้อความในกระดาษจบพาขวัญก็แทบลมจับ ร่างเธอเซไปสองสามก้าว เนื้อตัวสั่นเทาเหมือนจะหายใจไม่ทั่วท้อง “แม่!” ไพลินถลาเข้าไปประคองแม่ไว้ทัน แล้วพาแม่ไปนั่งที่เตียงนอน “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะคุณแม่” หัวหน้าช่างแต่งหน้าถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เห็นแม่เจ้าสาวใบหน้าเผือดสีก็พลอยไม่สบายใจไปด้วย “ยายตาหนีเข้ากรุงเทพฯแล้วค่ะ” พาขวัญเอ่ยขึ้นเสียงเบา เธอกำลังช็อกไม่คิดว่าเพียงตาจะทำได้ลงคอ ไม่คิดว่าตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมาลูกสาวได้วางแผนไว้หมดทุกอย่างแล้ว ไม่แปลกใจว่าทำไมลูกตอบตกลงแต่งงานง่ายดายนัก

บทที่ 1 คำอธิษฐาน

รถกระบะสี่ประตูถูกขับเคลื่อนไปบนถนนมิตรภาพมุ่งหน้าสู่ภาคอีสานด้วยความเร็วไม่เกินหนึ่งร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง ทุก ๆ ปีหลังจบเทศกาลปีใหม่ลลิลจะต้องกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดของตัวเอง หรืออย่างน้อยก็ปีละครั้ง เธอจอดรถพักสามสี่ครั้งกว่าจะเดินทางถึงบ้านที่มีระยะทางห่างจากเมืองหลวงมากกว่าห้าร้อยกิโลเมตร

ลลิลเลือกกลับบ้านในช่วงวันปกติเพราะถ้าเป็นช่วงเทศกาลรถจะติดมาก บางครั้งขับรถนานเป็นวันก็ยังไม่ถึงบ้านเหยียบเบรกเหยียบคลัตช์จนขาแข็งไปหมด และก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงชอบรถเกียร์กระปุกทั้งที่เป็นคนตัวเล็กและเหมาะกับรถคันเล็กเกียร์ออโต้มากกว่า ด้วยความที่เธอต้องเดินทางเพียงลำพังทุกครั้งตั้งแต่เข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ และเลือกที่จะทำงานต่อที่นั่นเธอก็เดินทางคนเดียวมาตลอด ถึงการเป็นโสดจะทำให้ลลิลมีความสุขดี แต่บางครั้งก็อดน้อยใจในโชคชะตาไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงไม่มีแฟนสักทีทั้งที่หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร

หลายครั้งได้แต่ภาวนาในใจว่าหากชาตินี้เธอมีคู่ก็ขอให้ได้คู่ที่มีศีลเสมอกัน ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใจดีก็ขอคนรวย ๆ หน่อยเถอะ เธอจะได้ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนถวายชีวิตให้กับบริษัทเอกชนเหมือนทุกวันนี้ ความหล่อก็ขอคนที่รูปร่างสูงใหญ่เหมือนฮยอนบิน ดวงตาและคิ้วเข้มเหมือนหวังอี้ป๋อ จมูกและปากเหมือนลีมินโฮ ผิวสวยเหมือนยองแจ แค่นี้เธอก็พอใจแล้ว ไม่รู้ว่าเทวดาและนางฟ้าจะได้ยินคำขอของเธอบ้างหรือไม่ อีกไม่กี่วันเธอก็จะอายุครบสามสิบปีแล้ว ยิ่งอายุมากขึ้นเธอก็จะหาแฟนยากมากขึ้นเท่านั้น หรือเป็นเพราะเธอเลือกมากเอง

ขับรถไปเปิดเพลงคลอไปและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

เกือบหกโมงรถรถกระบะสี่ประตูคันสีขาวเลี้ยวเข้ามาจอดหน้าบ้านชั้นเดียวหลังใหญ่ทรงโมเดิร์น ภายนอกถูกฉาบด้วยสีเงินและสีเทาไว้อย่างเรียบง่าย มองแล้วรู้สึกเย็นสบายตา ลลิลรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน คิดไว้ในใจว่าอีกสิบปีถ้าเธอเก็บเงินได้สักก้อนแล้วจะกลับมาทำเกษตรที่บ้านกับน้องชายและน้องสะใภ้ แต่เธอไม่เคยได้ลงมือทำสักครั้งหรอกนะ แค่คิดว่าอยากทำเท่านั้น

ลลิลปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหยิบของฝากที่ซื้อมาจากกรุงเทพฯเพื่อนำมาให้หลานทั้งสองที่เกิดจากน้องชายของเธอ

พอเปิดประตูรถก้าวขาออกมาร่างกายก็ปะทะเข้ากับลมหนาว พอถึงฤดูหนาวอีสานมักจะหนาวและอากาศแห้งกว่าภาคอื่น ๆ

“ป้าลิลมาแล้ว” หลานชายคนโตพูดขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นหน้าผู้เป็นป้า

“คุณพ่อคุณแม่สวัสดีค่ะ” ลลิลพนมมือไหว้พ่อกับแม่ที่กำลังนั่งรอเธออยู่กับหลานทั้งสอง

“ป้าลิลมีขนมมาฝากลูกตาลไหมคะ” หลานสาวคนเล็กถามขึ้นดวงตาทอประกายพราวระยับ

“มีสิจ๊ะ นี่ไง” ลลิลยกขนมในมือขึ้นโชว์หลานทั้งสองแล้ววางไว้บนโต๊ะใต้โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนังบ้าน

“กินข้าวก่อนค่อยกินขนมนะเด็ก ๆ” เสียงย่าบอกกับหลานทั้งสอง คนโตอายุสิบขวบส่วนคนเล็กอายุแปดขวบ

“ครับ/ค่ะ” ลูกตาลกับนนทพัทธ์รับคำอย่างว่าง่าย เพราะทั้งสองเคยกินขนมแล้วไม่ได้กินข้าวจนทำให้ปวดท้องพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะกินมันอีก

“แล้วพลกับหน่อยยังไม่กลับจากนาเหรอคะ” ลลิลถามหาน้องชายและน้องสะใภ้ที่ออกไปนาเพื่อปลูกมันสำปะหลัง

“ใกล้มาถึงแล้วแหละแม่เพิ่งโทร. ไปตามเมื่อกี้”

“งั้นลิลขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” ลลิลเข้าไปหอมแก้มพ่อกับแม่แล้วก็เดินเข้าห้องตัวเองที่แม่ทำความสะอาดไว้ให้เป็นอย่างดี มุมปากคลี่ยิ้มออกมาด้วยแววตาอ่อนโยน เธอคิดถึงเตียงนอนในห้องนี้เหลือเกิน คิดแล้วก็อยากกลับมาอยู่บ้านในเร็ววัน ทุกวันนี้ทำงานวันหยุดเหมือนไม่ได้หยุด ต้องคอยรับโทรศัพท์ลูกน้องราวกับว่าเป็นเจ้าของบริษัทเสียเอง จะทำอย่างไรได้ถ้ายังทำงานอยู่ตรงนั้นก็ต้องมีความรับผิดชอบ

มื้อค่ำวันนั้นทุกคนในครอบครัวรับประทานอาหารด้วยกันอย่างมีความสุข พรุ่งนี้ลลิลคิดไว้ว่าจะไปเยี่ยมยายที่อาศัยอยู่กับป้าผู้เป็นพี่สาวของแม่

สิบโมงของวันใหม่ลลิลขับรถมาหายายพร้อมกับของฝากที่ซื้อมาจากกรุงเทพฯ ก้าวขาลงจากรถแล้วก็ต้องแปลกใจ เพราะไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน ก่อนมาเธอไม่ได้โทร.บอกใครเพราะอยากมาเซอร์ไพรส์ ลลิลกวาดสายตามองไปโดยรอบ นึกขึ้นได้ว่าบ้านป้ามีสวนหลังบ้านและยายของเธอชอบไปขลุกอยู่ในสวนเป็นเวลานานลลิลจึงตัดสินใจเดินไปตามยายที่หลังบ้าน

พอก้าวขาออกไปแค่ก้าวแรกตาข้างขวาก็กระตุกแรงสามครั้ง

ลลิลยกมือขวาขึ้นตีตาข้างที่มันกระตุกเบา ๆ สามที

“จะกระตุกอะไรนักหนาเนี่ย” ลลิลบ่นพึมพำเพราะถึงแม้เธอจะใช้มือตีตาข้างขวาแล้วแต่มันก็ยังกระตุกอีกหลายที ตัวเธอเองเป็นคนมีเซ้นส์แรงและเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ตากระตุกข้างขวาก็เหมือนเป็นลางบอกเหตุไม่ดีบางอย่าง

แต่ก็ช่างเถอะมันคงไม่มีอะไร ลลิลได้แต่ปลอบตัวเองอยู่ในใจ

หลังบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้และผักหลายชนิดเพราะยายเป็นคนชอบปลูกทุกสิ่งอย่างที่กินได้ เช่น ขนุน มะม่วงทั้งเปรี้ยวทั้งมัน นอกจากนั้นยังมี ข่า มะรุม ผักหนาม ไผ่ ผักติ้ว และอีกหลายอย่างจนมันดูเกือบจะรก ดีที่ยายยังมีลูกเขยคอยตัดแต่งกิ่งและดายหญ้าให้อยู่เป็นนิจ

ลลิลหยุดเดินแล้วไล่สายตามองไปโดยรอบ

“ยายจันทร์จ๋า” ลลิลตะโกนเรียกยายเสียงดัง ยายอาจจะอยู่ข้างกอไผ่สักกอ เธอร้องเรียกอีกครั้งเมื่อไม่มีใครขานรับ “ยายจ๋า”

ลลิลยืนอยู่เกือบสองนาทีเมื่อไม่มีเสียงตอบรับเธอจึงคิดจะกลับไปบ้านก่อนตอนเย็นค่อยมาใหม่ เท้าขวาก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่ทันระวังขาจึงสะดุดเข้ากับบ่อน้ำที่ใช้ท่อปูนเรียงซ้อนกันขึ้นมาสูงแค่หน้าแข้ง รอบ ๆ มีผักหนามขึ้นเต็มขอบบ่อเพราะผักหนามชอบความชื้นยายจึงปลูกไว้ใกล้น้ำ

“ว้าย!” ลลิลกรีดร้องขึ้นสุดเสียงด้วยความตกใจเมื่อร่างเธอหงายท้องล้มทับไม้กระดานอันผุพังที่วางปิดปากบ่อไว้สองแผ่น

ตู้ม!

ร่างของคนตัวเล็กตกลงไปในบ่อน้ำอย่างรวดเร็วทั้งกลัวทั้งตกใจลลิลพยายามตะเกียกตะกายอยู่ครู่ใหญ่ แต่น้ำในบ่อนั้นลึกมากจนทำให้เธอหมดแรงและไม่มีที่ยึดเกาะ ไม้กระดานที่หักลงไปด้วยก็ไม่สามารถรับน้ำหนักของเธอได้ ร่างของเธอค่อย ๆ จมดิ่งลงไป จิตสุดท้ายของเธอภาวนาแค่ว่าขอให้มีคนพบศพเธอโดยเร็ววัน และสิ่งที่เธออ้อนวอนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรื่องคู่ครองเธอก็ยังยืนยันคำเดิม

หากชาติหน้ามีจริงขอให้เธอมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ขอให้เธอมีโอกาสได้รักกับใครสักคนและเขาก็รักเธอด้วย

ไม่นานจิตของเธอก็สงบลงพร้อมกับร่างที่จมอยู่ก้นบ่อ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ แก้วใบเล็ก

ข้อมูลเพิ่มเติม
สามีข้าเป็นมากกว่าชายพิการ

สามีข้าเป็นมากกว่าชายพิการ

เมืองแฟนตาซี

5.0

โปรย: เธอไปเก็บเห็ดแต่ดันได้สามี ซ้ำเธอยังไม่ใช่เจ้าของร่างนี้ สำคัญกว่านั้นเขาพิการ ไม่ใช่พิการธรรมดาแต่พิการแบบตะโกน ....................... ฝากนิยายเรื่องใหม่ค่า เรื่องนี้มีความเป็นอีสานนิด ๆ บวกแฟนตาซีหน่อย ๆ ค่ะ มันหอมออกไปเก็บเห็ดบนภูเขาแต่กลับเจอชายหนุ่มที่กำลังวิ่งหนีเสือมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เขาลากเธอวิ่งหนีเสือไปด้วยกันจนตกภูเขา ตื่นขึ้นมาอีกทีเธอก็ไม่ใช่มันหอมคนเดิมแล้ว แต่ต้องแบกผู้ชายคนนั้นกลับบ้านด้วย ใครจะไปรู้ว่าแค่แบกผู้ชายกลับบ้านจะทำให้เธอต้องแต่งงานกับเขา ที่สำคัญตอนนี้เขาขาหัก ตาบอด และความจำเสื่อม เธอจะมีชีวิตรอดอยู่ในร่างนี้ได้อย่างไร เนื้อหาบางส่วน.............. มันหอมเดินจากไปพักผ่อนในห้องแล้ว พ่อเฒ่าขวาน โสม และขุนเดชนั่งปรึกษากันด้วยใบหน้าเคร่งเคร่งขรึม พ่อเฒ่าพูดออกมาด้วยความลำบากใจ “ถึงอย่างไรมันทั้งสองก็ต้องแต่งงานกัน” ขุนเดชสะดุ้งเฮือก “ไม่มีวิธีแก้ทางอื่นแล้วเหรอครับ” ขุนเดชก็หนักใจไม่ต่างกัน เขาจะเกลี้ยกล่อมอย่างไร ให้ลูกสาวผู้ดื้อรั้นยอมแต่งงานกับคนต่างถิ่น ถึงหน้าตาไอ้คนนั้นมันจะหล่อเหลาปานใด แต่อย่างไรก็ไม่ใช่คนในหมู่บ้านนี้ หรือหากเป็นคนที่พ่อเฒ่าหรือผู้ใหญ่บ้านหามาก็ว่าไปอย่าง อีกทั้งขาข้างซ้ายของมันก็หัก คนอย่างมันหอมจะดูแลมันไหวหรือ “คำว่าผิดผีแก้ด้วยวิธีอื่นไม่ได้นอกจากพวกมันต้องตบแต่งให้แก่กันเท่านั้น” พ่อเฒ่ากล่าวเสียงแข็ง “หญิงชายแนบกายชิดใกล้ในที่ลับตาคน ถึงจะอยู่ในที่โล่งแจ้งก็นับว่าผิดผีป่าผีเรือน หากไม่ทำตามประเพณีดั้งเดิมนั้นแล้ว เกรงว่าหมู่บ้านของเราจะต้องเผชิญกับเหตุร้ายที่คาดไม่ถึง” พ่อเฒ่าเอ่ยถึงประเพณีดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

เมืองแฟนตาซี

5.0

โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว            “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ”            “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย”            “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้”            “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่”            “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย            “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้            “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน            “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ            “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้”            ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน            เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด            “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง            คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม            ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน

หวนกลับมาครานี้ไม่เป็นแล้วภรรยาชั่วร้าย

หวนกลับมาครานี้ไม่เป็นแล้วภรรยาชั่วร้าย

เมืองแฟนตาซี

5.0

โปรย: ปางก่อนเธอเคยละเลยเขากับลูก เมื่อได้มีโอกาสย้อนกลับไปแก้ไขชะตาอีกครั้งเธอจำต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เขาอภัยให้กับผู้หญิงชั่วร้ายอย่างเธอ .................................... นิยายเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พระเอกพิการนะคะ พื้นที่ยังคงเป็นภาคอีสาน เกี่ยวกับวิถีชาวบ้านและความเป็นอยู่ อ่านได้เรื่อย ๆ ค่ะ เป็นเรื่องสั้น ๆ ไม่น่าจะเกินหกหมื่นคำค่ะ กชกรได้ย้อนกลับไปแก้ไขอดีตที่เธอเคยทำไม่ดีกับลูกกับสามี โดยเธอต้องทำงานหนักทุกอย่าง เพราะเธอกลับไปคราวนี้พบว่าสามีของเธอพิการและต้องเลี้ยงลูกสองคนเพียงลำพัง ไปติดตามกันค่ะ ว่าเธอจะเอาชนะใจสามีได้หรือไม่ ………………………………. เท้าของเธอหยุดเดินและยืนอยู่บนคันนาเมื่อมาถึงนาของสามีที่ส่วนลุ่มอยู่ติดกับลำน้ำปาว ส่วนนาดอนด้านบนติดกับนาเธอ ใบตองพลวงหลุดจากมือตอนไหนเธอไม่ได้รู้ตัวเลย น้ำตารินไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ สามีกับลูกทั้งสองกำลังช่วยพ่อขุดดินและปักดำต้นกล้าลงไป ลูกชายคนโตกำลังใช้จอบเล็กขุดดินส่วนคนเล็กใช้เสียมขุดบางครั้งก็นั่งลงแช่ในน้ำ เดือนลูกสาวคนเล็กก็ทำตามประสาเด็กคงไม่ได้ช่วยพ่อมากนัก ในแปลงนามีน้ำท่วมถึงตาตุ่ม สามีใช้จอบเล่มใหญ่เขานั่งคุกเข่าด้วยขาข้างซ้ายลากขาอีกข้างตามไปอย่างทุลักทุเล เนื้อตัวพ่อลูกทั้งสามคนเต็มไปด้วยโคลนตม            ปีที่แล้วเขาไม่ได้ทำนา ถ้าปีนี้ไม่ได้ทำอีกก็คงไม่มีข้าวให้กินแล้ว เพราะในยุคนี้ผู้คนล้วนขาดแคลนข้าวกันทั้งนั้น ครั้นจะจ้างก็คงไม่มีเงิน อีกอย่างเขาคงอยากทำเอง อุดรฯ ก็แห้งแล้งเหลือเกิน แต่พอถึงฤดูน้ำหลากนาของสามีที่อยู่ติดกับลำน้ำปาวน้ำก็ท่วมขังทุกปี หากจะขอพี่น้องหรือพ่อแม่กิน พวกเขาก็คงไม่มีให้เพราะนาพวกเขาก็ท่วมเหมือนกัน ก่อนหน้าที่เขายังเดินได้ก็ยังพออยู่พอกิน ตอนนั้นเขาเลี้ยงดูลูกเมียได้เป็นอย่างดี            เกสรยกมือขึ้นปาดน้ำตาซ้ายขวา วางกระเป๋าย่ามไว้บนคันนาถอดรองเท้าวางไว้ข้างย่ามแล้วเดินลงไปในแปลงนามุ่งหน้าไปหาสามีกับลูก            เดือนยืนมองเธออยู่พักใหญ่เมื่อมั่นใจจึงตะโกนเรียกเสียงดัง “แม่!” จ๋อม! จ๋อม! จ๋อม! ดำและลูกชายต่างละสายตาจากดินที่ขุดอยู่แล้วมองไปตามเสียงฝีเท้าที่เดินในน้ำเข้ามาใกล้            “แม่!” ลูกทั้งสองวิ่งเข้าไปกอดแม่ซ้ายขวาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิตที่เห็นแม่กลับมา น้ำตาของเธอก็ยิ่งไหลพรากออกมา ชาติที่แล้วเธอกล้าทิ้งเด็กน้อยหน้าตาน่ารักอย่างนี้ไปได้อย่างไร ถึงแม้ตอนนี้เนื้อตัวจะมอมแมมมากก็ตาม            “แม่เกสรสวยขึ้น ขาวขึ้น” ดินบอกแม่            “จริงด้วยค่ะ พ่อบอกว่าแม่ไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อส่งเงินมาให้พวกเรา แม่ไปทำงานอะไรหรือคะ ทำไมสวยจัง”            สิ้นคำลูกสาวน้ำตาก็ไหลทะลักออกมาเป็นสายยาว เขาคงไม่เคยบอกลูกในสิ่งที่เธอทำไม่ดีเอาไว้ และคงยังไม่กล้าบอกลูกเรื่องที่เธอเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวาน            “แม่…แม่ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษที่ไม่ได้อยู่กับพวกหนู” เธอไม่รู้จะพูดคำไหนกับลูกดี ในใจตอนนี้รู้สึกผิดกับลูกกับสามีจนไม่อยากให้อภัยตัวเอง รู้สึกเกลียดตัวเองที่ทำตัวเหมือนสองปีที่ผ่านมา เป็นใครก็คงยากจะให้อภัย            เห็นแม่สะอื้นหนัก ทั้งสองก็ทำได้เพียงใช้มือที่เปื้อนตมเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มให้แม่ จนหน้าขาวนวลของแม่เลอะไปด้วยดินโคลน            เกสรเงยหน้าขึ้น ดวงหน้ายังเต็มไปด้วยน้ำตา ดวงตาพร่ามัวมองหน้าสามีนิ่ง            ทั้งสองสบตากัน แววตาของเกสรเต็มไปด้วยคำว่าขอโทษเป็นล้านคำ ส่วนเขานั้นมองเธอด้วยสายตาเย็นชา ในดวงตาคมเข้มคู่นั้นไม่มีแม้แต่เงาของเธอหลงเหลืออยู่เลย เขาวางหน้านิ่งมาก มากเสียจนไม่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรที่เห็นเธอกลับมา ใบหน้าเขายังหล่อเข้มเหมือนที่เธอเคยฝันถึง กรอบหน้าล้อมรอบไปด้วยเคราดกดำ ผมยาวมวยไว้ด้านหลังเหมือนคนป่า ผิวสีเข้มเพราะกรำแดดแต่เธอมองว่านั่นคือเสน่ห์ของเขา กล้ามเนื้อส่วนบนถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อผ้าฝ้ายแขนสั้นสีซีด กล้ามแขนเขายังดูแข็งแรงและบึกบึน ส่วนท่อนล่างมีกางเกงขายาวสีดำปิดบังไว้ เธอจึงมองไม่เห็นว่าขาของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ขาข้างขวาของเขาจะลีบหรือไม่            เขาคงเกลียดเธอมาก และเธอคงไม่หวังให้เขาอภัยให้เธอในวันนี้ เกสรนั่งคุกเข่าลงในน้ำจนผ้าถุงเปียกชื้นเพื่อให้กอดลูกได้ถนัดขึ้น หอมแก้มลูกซ้ายขวาทั้งสองคน อยากขอบคุณคุณยายคนนั้นเหลือเกินที่ทำให้เธอได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ถึงแม้ว่าต่อจากนี้ไปเธอไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง            แม่ลูกทั้งสามต่างร้องไห้ไปด้วยกัน            ดำละสายตาจากสามแม่ลูก ไม่มีเสียงใดหลุดออกจากปากของเขาแม้แต่คำเดียว            มือหนาสับจอบลงบนหน้าดินแล้วค่อย ๆ คลานออกจากตรงนั้น ปีนขึ้นคันนาแล้วใช้แรงจากแขนทั้งสองข้างและขาข้างซ้ายส่งตัวเองเคลื่อนตัวไปตามคันนาที่มีแต่หญ้าขึ้นปกคลุม เขาไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร และไม่รู้ว่าเธอมาที่นี่เพราะเหตุผลอันใดอีก ทั้งที่วันนั้นเขาพูดชัดเจนแล้ว แต่คนอย่างเขาจะไม่มีวันเสียน้ำตาให้ใครเป็นครั้งที่สองอีก

ทะลุมิติไปเป็นสามีตัวอ้วนของหญิงอัปลักษณ์

ทะลุมิติไปเป็นสามีตัวอ้วนของหญิงอัปลักษณ์

เมืองแฟนตาซี

5.0

หนุ่มวิศวะผู้หวงความโสดต้องทะลุมิติไปเป็นสามีของหญิงสาวหน้าผีที่มีแต่คนรังเกียจ แต่พ่อกับแม่ของเขาอยากได้หลานแล้วเขาจะทำอย่างไรเมื่อเขาก็ไม่สามารถมีลูกกับคนที่ไม่ได้รักได้เช่นกัน .............................. เรื่องนี้มาแนวแบบอีสานบ้าน ๆ อีกแล้วค่ะ บทสนทนาในเรื่องเป็นภาษาอีสานนะคะ อาจจะอ่านลำบากหน่อยแต่ไรต์มีคำแปลให้ค่ะ มาวินหนุ่มวิศวะย้อนอดีตกลับไปอีสานในปี 2528 และเขาก็พบว่าเขามีภรรยาแล้วและเธอยังมีหน้าตาอัปลักษณ์อีก ไม่พอแค่นั้นเธอยังอาศัยอยู่ในกระท่อมกลางป่ากลางเขาที่ทุรกันดารเพราะถูกครอบครัวผลักไสไล่ส่ง แล้วหนุ่มเมืองกรุงอย่างเขาจะอยู่กับเธอได้หรือไม่ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ …………………………………. หลายนาทีต่อมา มาวินนอนเอามือขึ้นมาก่ายหน้าผาก สักพักก็พลิกกายไปมาอยู่หลายครั้ง ร้อนด้วย คิดไม่ตกด้วย            “อ้ายนอนบ่อหลับเบาะ” (พี่นอนไม่หลับเหรอ)            ถึงเขาจะไม่ได้พลิกกายแรงแต่เธอก็รู้สึกได้ เพราะเรือนก็หลังแค่นี้            “อื้อ” (ครับ)            “เป็นหยัง เฮ็ดเวียกเมื่อยเบาะ” (เป็นอะไร ทำงานเหนื่อยเหรอ) เขาเพิ่งทำงานวันแรกอาจจะปวดเมื่อยตามร่างกายจนนอนไม่หลับ            “หึ” (ไม่) เขาคิดเรื่องนี้มาทั้งวัน คิดว่าพูดกับเธอดีกว่าเก็บมันไว้ ว่าแล้วก็เอ่ยถามเธอ “นิดอยากเลิกกับอ้ายบ่อ” (นิดอยากเลิกกับพี่ไหม) ทั้งสองแต่งงานกันเพราะพ่อกับแม่ของเขาอยากได้หลานเพราะพี่ชายของเขาเป็นหมันไม่สามารถมีหลานให้พ่อกับแม่ได้ ส่วนพ่อกับแม่ของนิตยาก็เต็มใจให้ลูกแต่งงานกับเขาเพราะอยากได้ค่าสินสอด ในหมู่บ้านนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนเอาคนอย่างอำนาจไปเป็นสามี เช่นเดียวกับนิตยาผู้มีหน้าตาอัปลักษณ์ผู้ชายในหมู่บ้านนี้ก็ไม่มีใครเลือกเธอไปเป็นภรรยาเช่นกัน ไม่มีใครอยากคุยกับเธอแม้แต่คนในครอบครัวยังเลือกเชื่อหมอดูมากกว่าเชื่อลูกตัวเอง หาว่าเธอเป็นกาลกินีจนต้องไล่มาอยู่คนเดียวกลางป่ากลางเขาเช่นนี้            นิตยาครุ่นคิดในใจ ทำไมวันนี้เขาถามแปลก ๆ ปกติอำนาจไม่เคยพูดเรื่องนี้ จากที่เธอสังเกตเขารู้สึกดีด้วยซ้ำที่ได้มาอยู่กับเธอเพราะอยู่กับนิตยาเธอไม่เคยบ่น ไม่เคยด่าเหมือนอยู่กับพ่อแม่ของเขา เขาไม่ทำงานเธอก็ไม่เคยสนใจ ทำหน้าที่ของตนไปมีอะไรให้กินเขาก็กิน เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องเลิกกันหรือแยกกันอยู่            นิตยาไม่ได้ตอบออกไปแต่กลับย้ำสิ่งที่คิดว่าเขาน่าจะลืม “พ่อกับแม่อ้ายเพิ่นอยากได้หลาน” (พ่อกับแม่พี่เขาอยากได้หลาน) ตลอดกว่าหนึ่งปีที่อยู่ด้วยกันมาทั้งสองไม่เคยยุ่งเกี่ยวกันในฐานะสามีภรรยาเลยสักครั้ง และนิตยาก็ยินดีที่ทุกอย่างเป็นเช่นนั้น            “อ้ายฮู่อยู่ แต่เฮาบ่อได้มักกัน เฮามีลูกนำกันบ่อได้” (พี่รู้ แต่เราไม่ได้รักกัน เรามีลูกด้วยกันไม่ได้) คนไม่รักกันมีลูกด้วยกันนับวันก็ยิ่งหมางเมิน ดีไม่ดีผลกรรมไปตกอยู่ที่ลูก อีกอย่างถึงอยากมีมากแค่ไหนก็คงไม่มีใครบังคับเขาได้ เพราะเขารู้ว่าร่างเดิมนี้นกเขาไม่ขันมาหลายปีแล้ว คงเป็นก่อนที่จะแต่งงานกับนิตยากระมัง อำนาจถึงกล้าแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ เพราะเขาคิดว่าตัวเองมีลูกไม่ได้ และเขาก็คงไม่ได้ชอบเธอเช่นกัน แต่ที่ยอมแต่งงานเพราะตัดรำคาญพ่อกับแม่ที่ชอบบ่นชอบบังคับเขา            “อ้ายอยากเลิกบ่อกะสั่น ถ้าอ้ายอยากเลิกกะเลิกกะได้” (พี่อยากเลิกไหมล่ะ ถ้าพี่อยากเลิกก็เลิกได้)            ถึงเธอไม่ได้รักอำนาจในแบบสามีแต่เขาก็เป็นเหมือนพี่ชายที่สามารถนอนเป็นเพื่อนเธอได้ทั้งวัน อย่างน้อยก็รู้สึกว่าโลกนี้เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว            “อ้ายจั่งได๋กะได้” (พี่ยังไงก็ได้)            มาวินแค่ให้อิสระในการตัดสินใจของเธอเท่านั้น เพราะเท่าที่เขารู้เธอไม่มีสิทธิ์ได้เลือกทางเดินชีวิตของตัวเองเลยแม้แต่ครั้งเดียว            “กะซั่นอ้ายกะอยู่เป็นหมู่ข่อยไปนิ่ล่ะ ค่านอยู่มื่อได๋กะจั่งไป” (ถ้าอย่างนั้นพี่ก็อยู่เป็นเพื่อนฉันไปอย่างนี้แหละ ขี้เกียจอยู่วันไหนก็ค่อยไป)            เธอไม่ห้ามหากเขาจะไปเพราะที่ผ่านมาเธอก็อยู่เพียงลำพัง เรื่องลูกก็ให้ไปคุยกับพ่อแม่เขาเอาเอง เพราะเธอก็ไม่สามารถมีอะไรกับคนที่ไม่รักได้เช่นกัน            “อื้อ จั่งซั่นกะได้ มื่อได๋ที่นิดมีคนมาอยู่นำ อ้ายจั่งสิไป ตอนนี่เฮากะอยู่นำกันแบบอ้ายน่องไปก่อน” (อือ อย่างนั้นก็ได้ วันไหนที่นิดมีคนมาอยู่ด้วยแล้วพี่ค่อยไป ตอนนี้เราก็อยู่ด้วยกันเหมือนพี่น้องไปก่อน)

ทะลุมิติไปเป็นสาวใช้ผู้มั่งคั่งในยุค 90

ทะลุมิติไปเป็นสาวใช้ผู้มั่งคั่งในยุค 90

เมืองแฟนตาซี

5.0

เธอทะลุมิติไปเป็นสาวใช้ส่วนตัวที่เขาซื้อมาจากครอบครัวที่เก็บขยะขาย ในยุคปัจจุบันก็ทำงานจนตัวตาย มาอยู่อดีตก็กลายเป็นคนอัตคัดขัดสน ชีวิตจะลำบากซ้ำซ้อนไปถึงไหน ……………………………………………… เช็ดท่อนบนเสร็จเนื้อนวลก็เตรียมถอดชิ้นล่างที่เป็นกางเกงผ้านิ่มขายาว มือเล็กกำลังจับขอบกางเกงเตรียมจะถอดออก            หมับ! แต่ก็มีมือใหญ่มายึดไว้อีกครั้ง พร้อมเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา            “หย่า!” เด็กอะไรแก่แดดขนาดนี้ ไม่รู้จักอายผีอายสาง กลางวันแสก ๆ ยังจะแก้ผ้าผู้ชาย ถึงปู่กับย่าจะไม่ค่อยมีเวลาอบรมบ่มนิสัยให้รักนวลสงวนตัวแต่เธอก็น่าจะคิดเองเป็นบ้าง หรือเธอเป็นเด็กใจแตกถึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้            เช่นเดิมเนื้อนวลไม่ได้สนใจ เพราะกลิ่นตัวของเขาที่โชยเข้าจมูกเธอคิดว่าน่าจะเกือบเดือนแล้วที่เขาไม่ได้เช็ดตัว เพราะเท่าที่เนื้อนวลเข้ามารับใช้เขาไม่กี่วัน สุรเชษฐ์ก็ไล่เธอท่าเดียว แต่อย่าหวังว่าเนื้อนวลคนนี้จะยอมแพ้ง่าย ๆ            “ถ้าอายก็หลับตา” เนื้อนวลพูดเสียงเรียบเรื่อยเหมือนเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ มือข้างหนึ่งจับสะโพกเขายกขึ้นมืออีกข้างดึงกางเกงนอกลงมาจนสุดปลายเท้าตามด้วยกางเกงผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เพราะเขาไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายทั้งหนักและเบาของตัวเองได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันระวังตัว เมื่อนั้นแหละสุรเชษฐ์จึงนอนแน่นิ่งปิดเปลือกตาแน่น ร่างใหญ่แข็งทื่อไปทั้งตัว จากที่ไม่รู้สึกแค่ฝั่งขวาตอนนี้เหมือนจะชาไปทุกสัดส่วนบนร่างกาย            ให้ตายเถอะ! ผู้หญิงคนนี้ช่างไร้ยางอายสิ้นดี เกิดมาเขายังไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนเห็นร่างเขาตอนเปลือยเปล่าแบบนี้มาก่อน เว้นเสียแต่ภรรยาของเขาเพียงคนเดียว เธอช่างเป็นผู้หญิงที่…หน้าด้านเหลือทน มีผู้หญิงคนไหนกันที่อยู่กับชายแปลกหน้าที่นอนเปลือยล่อนจ้อนแบบนี้ในห้องสองต่อสองเหมือนเธอบ้าง ถ้าคนอื่นรู้เข้ามีหวังเธอไม่มีทางหาสามีได้แน่ อย่างว่าล่ะนะก็คนไม่ได้เรียนหนังสือก็คงไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร            พ่อจ๋า! แม่จ๋า! ช่วยลูกด้วย ผมกำลังโดนแทะโลมทางสายตา สุรเชษฐ์พร่ำบ่นในใจเมื่อคิดว่าสาวใช้คงใช้สายตาจ้องมองเขาไปทั้งตัว

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวนาผู้ยากจนซ้ำสามียังพิการ

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวนาผู้ยากจนซ้ำสามียังพิการ

เมืองแฟนตาซี

5.0

ว่าที่แพทย์หญิงที่ย้อนกลับไปสู่อดีตในร่างหญิงอวบอ้วนที่สามีและลูกชิงชัง และอยากให้เธอตายอยู่ทุกวัน เธอจะไม่ยอมใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายที่ไม่ได้รักเธอเป็นอันขาด นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายไทยโบราณนะคะ แต่ไม่ได้ย้อนยุคไปไกลมาก ชื่อเรื่องอาจจะเหมือนจีนโบราณแต่ความจริงแล้วคือไม่ใช่ค่ะ (อยากเขียนแต่ความสามารถยังไม่มากพอ) ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวนาผู้ยากจนซ้ำสามียังพิการ เป็นเรื่องราวของนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่หกที่ทะลุมิติไปอยู่ในร่างหญิงอวบอ้วนในปีพุทธศักราช 2495 เธอต้องเลี้ยงลูกสองคนและสามีพิการขาหักทั้งสองข้างอีก แถมพวกเขายังชิงชังหญิงอ้วนใจร้ายอย่างเธอด้วย ภาษาที่ใช้ในเรื่องนักเขียนจินตนาการขึ้นมาเองค่ะไม่ได้อิงประวัติศาสตร์แต่อย่างใด ส่วนประเพณีหรือวัฒนธรรมและความเป็นอยู่บางส่วนไรต์อ้างอิงมาจากเรื่องจริงแต่ส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการอาจมีบางตอนที่ไม่สมเหตุสมผล เนื้อหาค่อนไปทางอีสานนะคะ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ ใครที่ชอบแนวนี้รอติดตามกันได้เลยนะคะว่าเธอจะไปใช้ชีวิตอยู่ในยุคนั้นให้รอดพ้นได้อย่างไร ถ้าชอบถ้าใช่อย่าลืมกดหัวใจกดติดตามให้ไรต์ด้วยนะค้า

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ

ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ

โรแมนติก

5.0

“อันตัวข้า มีนามว่าไป๋ฟางเซียน” ปกติคนอื่นข้ามเวลาคงได้รับมิติ พลังวิเศษ ความเทพทรูต่าง ๆ แล้วนางเล่า ไม่เห็นเป็นเหมือนในนิยายที่เคยอ่านบ้าง เท่านั้นยังไม่พอ! นางยังเข้ามาอยู่ในร่างสาวงามอันดับหนึ่ง มีสถานะเป็นถึงภรรยาของท่านแม่ทัพ ที่สามีหาได้รักใคร่ชมชอบไม่ ออกจะเกลียดแสนเกลียดเสียด้วยซ้ำไป หนำซ้ำสามีหน้าตายผู้นั้นดันมีคนที่ตนพึงใจอยู่แล้ว เช่นนี้นางจะเอาตัวรอดต่อไปในโลกที่ไม่รู้จักได้อย่างไร นอกจากจะต้องปรับตัวอย่างมากแล้ว นางต้องคิดหาวิธีรับมือกับบุรุษผู้เป็นสามีที่จ้องแต่จะกินหัวนางอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอีกด้วย! โอ สวรรค์ ท่านเกลียดชังอะไรข้านักหนา เหตุใดถึงให้ข้าเผชิญชะตากรรมเช่นนี้ ชีวิตสงบสุขที่ใฝ่ฝัน คงได้จบสิ้นกันแล้ว แต่ช่างเถอะ ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ต้องเจอ ไม่สามารถหลีกหนีได้ นาง! ไป๋ฟางเซียนผู้นี้! จะขอร่วมลงประชันสนามอารมณ์กับเขาเอง! ให้มันรู้กันไปเลยว่า ภรรยาอย่างนาง จะเอาชนะสามีอย่างเขา... ไม่ได้!

ไฟร้อนซ่อนสวาท

ไฟร้อนซ่อนสวาท

โรแมนติก

5.0

“เปล่านะ ฉันไม่ได้โกหกสักหน่อย แค่ไม่ได้บอกว่าจะให้รางวัลมากน้อยแค่ไหนและตอนไหนเท่านั้นเอง” คนเจ้าเล่ห์ตอบกลับเสียงใส รีบปลดสองแขนใหญ่ออกจากร่าง ลุกขึ้นไปยืนยิ้มหน้าระรื่น “เอาน่า...ฉันไม่ผิดคำพูดหรอก แค่ยืดเวลาออกไปนิด คุณคงไม่ถึงกับลงแดงหรอกนะ” “ได้จ้ะเมียจ๋า แต่เดี๋ยวถึงเวลาฉันทวงรางวัล เธอจะมาว่าฉันมักมากไม่ได้นะ” “ให้มันแน่เถอะค่ะคุณสามีขา...แก่แล้วนะคะ กลัวจะตายคาอกฉันน่ะซิ” นิลลดาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ทว่าในใจเธอกลับขลาดกลัว เพราะดันมีเรื่องปกปิดชายหนุ่มเอาไว้น่ะซิ ************ “คะ...คุณภูมิต้องการอะไรล่ะคะ” เอ่ยถามเสียงใสพลิ้ว “ถ้าฉันให้ได้ก็จะให้ค่ะ” “ฉันก็แค่อยาก...” นิ้วยาวร้อนผ่าวทาบทับคลึงบนกลีบปากนุ่ม “กอดเธออย่างแนบชิด แล้วก็จูบ...จูบไปทั่วทั้งตัวเธอเท่านั้นเอง” “บ้า!! คุณภูมิน่ะ” ยกมือทุบอกกว้างเบาๆ “เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย คุณขอแบบนั้นได้ยังไง” “ไม่ได้หรือยายดำ” ภูมินทร์ทำหน้ามุ่ย ทำตาละห้อยโหยหาราวกับว่าจะต้องจากลาไปในบัดเดี๋ยวนี้

ภรรยาคั่นเวลา ชุด Sweet Temptations

ภรรยาคั่นเวลา ชุด Sweet Temptations

โรแมนติก

4.9

หล่อนเป็นแค่เมียคั่นเวลา คอยปลดปล่อยความใคร่ให้กับเขายามที่ตัวจริงไม่อยู่ ไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียง และไม่เคยมีค่าในสายตาของเขาเลย อลินดา จำต้องเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าบ่าวแทนพี่สาวฝาแฝดที่หนีตัวไปอย่างลึกลับในคืนวันแต่งงานอย่างไม่มีทางเลือก หล่อนคิดว่าเมื่อจบสิ้นพิธีการแล้ว หน้าที่ของตัวเองก็จะหมดไปเช่นกัน แต่หล่อนคิดผิด เมื่อเจ้าบ่าวใช้ร่างกายของหล่อนเป็นตัวแทนของเจ้าสาวตัวจริงตลอดทั้งค่ำคืน แซคคารีย์ แฮซมิลตัน รู้สึกราวกับถูกเหยียบหน้าเมื่อเจ้าสาวตัวจริงหายหน้าไป พร้อมกับที่ญาติพี่น้องฝ่ายหญิงอุปโลกน์น้องสาวฝาแฝดขึ้นมาเป็นเจ้าสาวตัวแทน เขาโมโหจนเลือดขึ้นหน้า และแน่นอนว่าจะต้องมีใครสักคนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากแม่เจ้าสาวตัวแทนที่จะต้องรองรับความหื่นกระหายของเขา จนกว่าเจ้าสาวตัวจริงจะกลับมา

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เกิดใหม่มีสามีตาบอด
1

บทที่ 1 คำอธิษฐาน

21/12/2023

2

บทที่ 2 คำสัญญา

21/12/2023

3

บทที่ 3 ร่างใหม่

21/12/2023

4

บทที่ 4 ความจำเสื่อม

21/12/2023

5

บทที่ 5 ข่าวดี

21/12/2023

6

บทที่ 6 ตัวแทน

21/12/2023

7

บทที่ 7 เจ้าสาวจำเป็น

21/12/2023

8

บทที่ 8 หมีควาย

21/12/2023

9

บทที่ 9 โกรธ

21/12/2023

10

บทที่ 10 เดินหน้า

21/12/2023

11

บทที่ 11 ทนได้ก็ทนไป

21/12/2023

12

บทที่ 12 ป้อนข้าว

21/12/2023

13

บทที่ 13 กอด

21/12/2023

14

บทที่ 14 เรื่องมาก

21/12/2023

15

บทที่ 15 ตัดอ้อย

21/12/2023

16

บทที่ 16 นวด

21/12/2023

17

บทที่ 17 ขอเงินเพิ่ม

21/12/2023

18

บทที่ 18 กลัว

21/12/2023

19

บทที่ 19 แผนขั้นสุด

21/12/2023

20

บทที่ 20 อาการมันเป็นยังไง

21/12/2023

21

บทที่ 21 ใจอ่อน

21/12/2023

22

บทที่ 22 ลินโกหกพี่

21/12/2023

23

บทที่ 23 เลือนราง

21/12/2023

24

บทที่ 24 ลินเคยรักพี่บ้างไหม

21/12/2023

25

บทที่ 25 เยี่ยมพ่อตาแม่ยาย

21/12/2023

26

บทที่ 26 ลาบหมาน้อย

21/12/2023

27

บทที่ 27 ปวดจนทนไม่ไหว

21/12/2023

28

บทที่ 28 เหมือนตายแล้วเกิดใหม่

21/12/2023

29

บทที่ 29 เธอไม่ใช่ไพลิน

21/12/2023

30

บทที่ 30 เราจะดูแลพี่ไกรเอง

21/12/2023

31

บทที่ 31 หรือตารังเกียจพี่

21/12/2023

32

บทที่ 32 งานสบาย

21/12/2023

33

บทที่ 33 ถอดใจ

21/12/2023

34

บทที่ 34 ทำไมต้องเช็ดตัวด้วยคะ

21/12/2023

35

บทที่ 35 ลินไม่ได้ป่วย

21/12/2023

36

บทที่ 36 กลับใจ

21/12/2023

37

บทที่ 37 ธุรกิจของครอบครัว

21/12/2023

38

บทที่ 38 ต้นกับโต (ตอนจบ)

21/12/2023