พ่อเลี้ยงเคียงรัก

พ่อเลี้ยงเคียงรัก

จินต์พิชา

5.0
ความคิดเห็น
34.2K
ชม
30
บท

คนหนึ่งไม่ศรัทธาในความรัก อีกคนก็รักอิสระไม่อยากมีครอบครัว แต่พอได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นกำแพงที่ทั้งสองคนตั้งไว้ก็ค่อยๆ พังลง รู้ตัวอีกจากเพื่อนก็กลายเป็นอย่างอื่นไปแล้ว

บทที่ 1 ใจหาย

ณ ผับแห่งหนึ่งกลางเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกามนสิชาสาวไทยเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มกำลังออกไปเต้นกับเพื่อนร่วมงานอย่างสนุกสนาน วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้สนุกสุดเหวี่ยงแบบนี้เพราะเธอเพิ่งลาออกจากบริษัทและกำลังจะกลับประเทศไทย

หญิงสาววัย 26 มาทำงานที่นี่ได้ 4 ปีแล้ว เธอเรียนจบการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศและได้เข้าทำงานเป็นเลขานุการของผู้จัดการใหญ่ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์สาขาประเทศไทย พอถึงคราวที่เขาต้องย้ายกลับมาประจำที่สาขานิวยอร์กเขาเลยชวนเธอมาทำงานที่นี่ด้วย

“แพทต้องคิดถึงมอลลี่มากแน่ๆ” เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งพูดกับมนสิชาด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันระหว่างที่หญิงสาวเดินกลับเข้ามานั่งพักเหนื่อย

“เอาไว้มอลลี่จะวิดีโอคอลมาหาบ่อยๆ นะ” เธอตอบด้วยภาษาเดียวกัน

“แพทว่ามอลลี่น่าจะพาแกรนด์มาย้ายมาอยู่ที่นี่นะ”

“มอลลี่ชวนตั้งหลายครั้งแล้วแต่ท่านไม่ยอมมา” มนสิชาเคยชวนยายของเธออยู่ด้วยกันที่นี่หลายครั้งแล้วแต่คุณยายก็ไม่ยอมมาอยู่ด้วย และที่มนสิชาต้องลาออกแล้วกลับไปอยู่ที่บ้านก็เพราะคุณยายของเธอไม่ค่อยสบายและคนที่เธอจ้างให้ดูแลก็ทนกับความดื้อของยายเธอไม่ได้

“แล้วกลับไปจะไปทำงานอะไรล่ะ สาขาที่ไทยตอนนี้ก็ตำแหน่งไม่ว่างเลย”

“ยังไม่รู้เหมือนกัน” มนสิชายังไม่ได้วางแผนอะไรเลยสักอย่างเพราะยังสนุกกับงานและไม่เคยคิดว่าจะต้องกลับประเทศบ้านเกิดเร็วแบบนี้

“มอลลี่ต้องกลับไปอยู่ที่เมืองไทยอย่างนี้อลันเขาว่ายังไงบ้าง”

อลันที่แพทริเซียพูดถึงคือแฟนหนุ่มของมนสิชาทั้งสองคบกันหลังจากที่หญิงสาวย้ายมาทำงานที่นี่ได้สองปีเขากับเธอคบหากันในฐานะคนรักแต่ยังไม่เคยพูดถึงเรื่องอนาคตเพราะต่างก็ยังอายุน้อยด้วยกันทั้งคู่

“แล้วมอลลี่บอกเขาหรือยังว่าจะเดินทางพรุ่งนี้”

“บอกแล้ว”

“เขาว่ายังไงบ้าง”

“ก็มีบ่นๆ บ้าง” เธอรู้สึกเห็นใจแฟนหนุ่มอยู่บ้างเพราะจู่ๆ ตนเองก็ต้องกลับเมืองไทยอย่างกะทันหัน ซึ่งก่อนหน้านี้เธอไม่เคยพูดถึงการกลับไปอยู่ที่บ้านเลย

“แต่ถ้ากลับไปอยู่เมืองไทยแล้วก็อาจจะลองดูว่ามีงานอะไรที่อลันพอจะทำได้บ้าง”

“มอลลี่พูดเหมือนจะไม่กลับมาที่นี่อีกเลย อย่าลืมนะว่าหัวหน้ายังไม่เซ็นใบลาออก”

หัวหน้าของมนสิชาอนุญาตให้เธอกลับบ้านได้ตามที่เธอต้องการโดยยังไม่ต้องลาออกเพราะคิดว่าเธอคงไปไม่นานและก็กลับมาทำงานอีกครั้งถ้าทุกอย่างเรียบร้อย

“ก็พูดเผื่อไว้ก่อน ตอนนี้ยายของมอลลี่ก็อายุมากแล้ว ท่านไม่มีลูกหลานคนอื่นดูแล”

“แล้วทำไมงานเลี้ยงวันนี้อลันถึงไม่มาด้วยล่ะ”

“เขายังติดงานอยู่นะ แต่ตอนกลับเดี๋ยวอลันจะมารับ”

“แพทขออวยพรให้มอลลี่โชคดีนะ ไปถึงที่นั่นแล้วก็ส่งข่าวคราวมาบ้าง บางทีแพทกับเพื่อนๆ ที่นี่อาจจะไปเที่ยวหา”

“ได้เลยมอลลี่ยินดีต้อนรับทุกคน บ้านของมอลลี่อยู่ทางภาคเหนืออากาศไม่ได้ร้อนมาก”

“ดีเหมือนกันพวกเรา พวกเราก็ไม่เคยไปเที่ยวเมืองไทยสักทีสงสัยจะได้ไปกันก็คราวนี้แหละ”

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราความจริงข้อนี้คงไม่มีใครปฏิเสธ เพราะตอนนี้ทุกคนกำลังอวยพรให้กับมนสิชาหรือเพื่อนๆ ที่นี่จะเรียกเธอว่ามอลลี่เพราะง่ายต่อการออกเสียง

หญิงสาวรู้สึกใจหายที่จะต้องจากทุกคน แต่เทคโนโลยีสมัยนี้ก็ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้และมันคงทำให้เธอคลายความคิดถึงลงได้บ้าง ขนาดเพื่อร่วมงานยังรู้สึกขนาดนี้แล้วกับอลันล่ะ เธอไม่รู้เลยว่าถึงนาทีที่ต้องจากเขาจะรู้สึกใจหายมาแค่ไหน

มนสิชาเดินแยกจากเพื่อนแล้วก็เดินมายืนรอแฟนหนุ่มซึ่งเขาโทรมาบอกว่ากำลังลงจากรถไฟและจะเดินมารับเธอที่หน้าผับ

“มอลลี่รอนานไหม” อลันมาถึงหลังจากผ่านไปสิบนาทีตามที่เขาบอก ชายหนุ่มเป็นชาวอเมริกันแท้ที่มีรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวจมูกโด่งคิ้วเข้มมีไรหนวดสีเขียวครึ้มบริเวณสันกรามเสริมให้ใบหน้านั้นดูหล่อเหล่าจนบางครั้งก็เคยมีคนมาเสนอให้เขาไปเป็นนายแบบถ่ายภาพนิ่งซึ่งก็มีหลายงานที่อลันรับเพราะค่าจ้างที่ได้ค่อนข้างจะมากอยู่พอสมควร

“ไม่นานเลย อลันมาตรงเวลา”

“หิวไหมเมื่อกี้ได้กินอะไรหรือเปล่า ผมเอาเบอร์เกอร์มาด้วย”

“ขอบใจนะ” มนสิชารับแฮมเบอร์เกอร์ที่เขาแกะกระดาษออกให้เรียบร้อยแล้วเข้าปากด้วยท่าทางอย่างเอร็ดอร่อย

“เราจะเดินกลับหรือเรียกรถดีละมอลลี่” อลันและมนสิชาไม่มีรถขับเพราะการเดินทางที่นี่สะดวกสบายจนไม่คิดจะซื้อรถ

“เดินไปดีกว่า มอลลี่อยากเดินคุยกับอลันไปเรื่อยๆ”

“ได้สิ ผมก็อยากเดินจับมอลลี่ไปแบบนี้เหมือนกัน”

หญิงสาวมองหน้าเขาแล้วยิ้มก่อนจะหันมาสนใจแฮมเบอร์เกอร์เจ้าดังที่เธอชอบทาน แต่วันนี้กลับรู้สึกว่ารสชาติของมันช่างฝืดคอจนแทบกลืนไม่ลง

“ไม่อร่อยเหรอ” อลันเห็นว่าคนรักกัดไปเพียงไม่กี่คำขณะที่เขานั้นกำลังจะกัดคำสุดท้ายเข้าปาก

“อร่อย แต่เมื่อหัวค่ำมอลลี่กินข้าวไปเยอะ อลันเอาของมอลลี่ไปกินนะ”

“ได้สิ” ชายหนุ่มรับแฮมเบอเกอร์ในมือของแฟนสาวมากัดอย่างไม่รังเกียจ กัดเพียงไม่กี่คำแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นโตก็หมด เขาทิ้งกระดาษลงถังขยะแล้วรับน้ำในมือของหญิงสาวมาดื่มก่อนจะทิ้งขวดลงในถังขยะแล้วจับมือกันเดินไปตามถนนที่ทอดยาวที่ดูเหมือนว่าบรรยากาศมันจะดูเหงาๆ กว่าทุกครั้ง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จินต์พิชา

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

รักซ้ำรอย

รักซ้ำรอย

มาชาวีร์
4.9

“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

“สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13

“สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13

Saranon Writer
5.0

“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ผลิกา(เลอบัว)
5.0

เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
พ่อเลี้ยงเคียงรัก
1

บทที่ 1 ใจหาย

25/02/2024

2

บทที่ 2 คำสัญญา

25/02/2024

3

บทที่ 3 ทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่

25/02/2024

4

บทที่ 4 เรื่องวุ่นๆ

25/02/2024

5

บทที่ 5 ปะทะคารม

25/02/2024

6

บทที่ 6 ข้อเสนอเพิ่ม

25/02/2024

7

บทที่ 7 ในเวลาที่อ่อนแอ

25/02/2024

8

บทที่ 8 คนที่อยู่ข้างๆ

25/02/2024

9

บทที่ 9 มีแค่คำขอบคุณ

25/02/2024

10

บทที่ 10 ไม่เสียดาย

25/02/2024

11

บทที่ 11 อยากให้เป็นมากกว่าลูกสาว

25/02/2024

12

บทที่ 12 ใกล้กันทีละนิด

25/02/2024

13

บทที่ 13 ​​​​​​​มิตรภาพ

25/02/2024

14

บทที่ 14 ​​​​​​​แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

25/02/2024

15

บทที่ 15 ​​​​​​​ย้ายชั่วคราว

25/02/2024

16

บทที่ 16 ​​​​​​​ชิดใกล้

25/02/2024

17

บทที่ 17 ​​​​​​​รู้สึกแปลกๆ

25/02/2024

18

บทที่ 18 ​​​​​​​ดูแล

25/02/2024

19

บทที่ 19 ​​​​​​​ลองเปิดใจ

25/02/2024

20

บทที่ 20 ​​​​​​​ไม่อยากให้ไป

25/02/2024

21

บทที่ 21 ​​​​​​​แอบหวง

25/02/2024

22

บทที่ 22 ​​​​​​​มั่นใจก็เดินหน้า

25/02/2024

23

บทที่ 23 ​​​​​​​ชอบ

25/02/2024

24

บทที่ 24 ​​​​​​​ฝากดูแล

25/02/2024

25

บทที่ 25 ​​​​​​​เปิดอกคุย

25/02/2024

26

บทที่ 26 ​​​​​​​ความกลัว

25/02/2024

27

บทที่ 27 ​​​​​​​คู่คิด

25/02/2024

28

บทที่ 28 ​​​​​​​เห็นผลจนน่าตกใจ

25/02/2024

29

บทที่ 29 ​​​​​​​ไม่เหมือนที่คิดไว้ nc

25/02/2024

30

บทที่ 30 ​​​​​​​คนเดียวที่จะยอมทุกอย่าง (ตอนจบ)

25/02/2024