Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
44.5K
ชม
82
บท

เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับว่าที่เจ้าบ่าวในคืนแต่งงาน ทำให้พรรษรดาต้องเข้าพิธีกับน้องชายของเจ้าบ่าวแทน แม้วิวาห์ครั้งนี้จะเป็นเพียงวิวาห์สมมติในความรู้สึกของเขาและเธอ หากทว่าความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้ข้างในนั้นต่างหากที่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เธอจะกล้าบอกความในได้อย่างไร ว่าแท้จริงแล้วผู้ชายที่เธอมีใจใฝ่ปองและอยากแต่งงานด้วยจริงๆ ก็คือเขา ในเมื่อผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าสามี เอาแต่เฉยเมยเย็นชาใส่ ซ้ำยังเอ่ยปากขอหย่าอยู่หลายครั้ง พรรษรดาจะจัดการปัญหาหัวใจครั้งนี้อย่างไรดี ในเมื่อยิ่งเขาทำให้เจ็บ หัวใจไม่รักดีก็ยิ่งรักเขามากขึ้นๆ เธอควรรั้งเขาไว้ให้เป็นสามีในนามเพื่อทรมานใจกันเล่นๆ หรือว่าปล่อยเขาไปให้สมรักกับผู้หญิงอื่นตามที่เขาร้องขอ ***ตัวอย่าง*** “ฉันรักเธอพรรษรดา ฉันรักเธอ รักเธอคนเดียว” เขาสารภาพออกมาเสียงแหบห้าว นัยน์ตาหม่นมัวไปด้วยแรงรักแรงปรารถนาที่อัดแน่นอยู่ข้างใน “คุณภู...” “หัวเราะสิ หัวเราะเยาะฉัน หัวเราะไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่มันเป็นทาสรักของเธออย่างโงหัวไม่ขึ้นมาตลอดหลายปี หัวเราะเยาะไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่ตัดใจไม่ได้เสียที” คำสารภาพของเขาเหมือนระลอกคลื่นยักษ์ที่กระแทกโครมเข้าใส่หัวใจดวงน้อยของพรรษรดา เธอถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะแบกรับความรู้สึกอันท่วมท้นนั้นไม่ไหว “ฉันมันคงน่าสมเพชมากสินะ” ร่างใหญ่ขยับตัวเหมือนจะถอดถอนออกไป แต่พรรษตวัดขารัดรอบเอวสอบไว้แน่น ทำให้เขาดำดิ่งเข้ามาฝังลึกอยู่ในช่องสาวอีกครั้ง “อย่าบังอาจลุกจากตัวพรรษ” เธอแหวใส่เขาเสียงดังลั่น ตัวสั่นเทาเพราะความรัญจวนและความเต็มตื้นในหัวใจ “พรรษรดา...” “อย่าคิดว่าจะผลักไสพรรษง่ายๆ อีก รู้มั้ยว่าพรรษรอนานแค่ไหน รู้ไหมว่าต้องเสียน้ำตาไปกี่ครั้งเมื่อคิดว่าตัวเองรักคุณภูข้างเดียว อย่ามาบอกรักพรรษ ล้อเล่นกับหัวใจพรรษแล้วหนีไปง่ายๆ อีก พรรษไม่ยอมอีกแล้ว คราวนี้พรรษจะตามรังควานไปตลอดชีวิตเลย อย่าหวังว่าจะได้มีโอกาสมีความสุขกับผู้หญิงคนไหน อย่าหวังว่าจะได้บอกรักใครอีก เพราะคำว่ารักของคุณภูจะเป็นของพรรษคนเดียวตลอดไป”

บทที่ 1 เธอจะเลือกใคร

สายลมที่พัดโชยได้เพียงแค่บางเบา เพราะความแน่นขนัดของสิ่งปลูกสร้างในเมืองหลวง กลับเป็นข้อยกเว้นสำหรับบ้านทรงไทยย้อนยุคสีขาวหลังใหญ่ที่ตั้งบนพื้นที่กว่าสองไร่ บรรยากาศที่รายล้อมมีแต่ความร่มรื่นเย็นสบาย ซึ่งมาจากต้นไม้และดอกไม้ไทยหลายชนิด บางต้นมีอายุเกือบร้อยปีพอๆ กับอายุของบ้านหลังใหญ่หลังนี้

ความวิจิตรบรรจงของสิ่งปลูกสร้างที่มีชื่อว่าบ้านจันทร์ฉาย รวมถึงอาณาบริเวณกว้างใหญ่และแสนร่มรื่น ทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นต่างก็อดมองอย่างนึกทึ่งและชื่นชมไม่ได้ พร้อมกันนั้นก็นึกอยากรู้ว่าเจ้าของบ้านหลังงามนี้เป็นใคร เหตุใดจึงได้ครอบครองสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าและสะท้อนความเป็นไทยย้อนยุคเช่นนี้ได้ หลายคนคาดเดาว่าน่าจะเป็นตระกูลเก่าแก่หรือสืบเชื้อสายมาจากราชสกุลเป็นแน่ ซึ่งการคาดเดาเหล่านั้นก็ไม่ได้ผิดจากความเป็นจริงสักเท่าไหร่นัก

คุณหญิงจันทร์จรีสืบเชื้อสายมาจากราชสกุลเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 5 และได้สมรสกับหม่อมหลวงคฑาวุธลูกชายจากตระกูลผู้ดีเก่าที่ศักดิ์ศรีไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน ซึ่งภายหลังทั้งคู่ผันตัวเองมาทำธุรกิจจนร่ำรวยมหาศาล

หลังจากหม่อมหลวงคฑาวุธเสียชีวิตไป คุณหญิงจันทร์จรีก็เป็นผู้ดูแลธุรกิจเพียงลำพังมานานกว่าสิบปี เพิ่งจะได้วางมือเมื่อสี่ห้าปีที่แล้วนี่เอง เมื่อลูกชายทั้งสองจบการศึกษาจากต่างประเทศมาช่วยบริหาร

บ่ายวันนี้ห้องโถงที่โอ่อ่าหรูหราไม่ได้ว่างเปล่าเช่นเคย โซฟาหลุยส์ราคาแพงถูกผู้เป็นเจ้าของนั่งอยู่เกือบครบทุกตัว ผู้เป็นประมุขของบ้านนั่งอยู่ตรงกลาง ซ้ายขวาเป็นลูกชายทั้งสอง และคนสนิทของคุณหญิงอย่างจิตรานั่งอยู่ด้วย

“แม่เรียกผมกับภูกลับบ้านแต่หัววัน มีอะไรด่วนหรือเปล่าครับ” หนุ่มหล่อหน้าตาคมคายสะอาดสะอ้านซึ่งเป็นลูกชายคนโตถามมารดา เมื่อเขากับน้องชายถูกสั่งให้กลับบ้านเร็วทั้งคู่

“แม่แค่จะคอนเฟิร์มว่าพรุ่งนี้หนูพรรษจะมาที่นี่ เพื่อให้คำตอบว่าเลือกจะแต่งงานกับใคร แม่อยากให้ภาสกับภูอยู่ฟังคำตอบพร้อมกัน”

“ผมขอสละสิทธิ์ แต่ถึงไม่สละเด็กคนนั้นก็คงไม่เลือกผมอยู่ดี เพราะฉะนั้นให้พี่ภาสอยู่คนเดียวก็น่าจะเหลือเฟือนะครับ” ลูกชายคนเล็กของคุณหญิงจันทร์จรีปฏิเสธคำสั่งนั้นทันที ทำให้คนเป็นแม่หันไปมองตาขุ่น

“เผื่อหนูพรรษเลือกแกล่ะ”

คำถามของมารดาทำให้ภูริชแค่นยิ้มออกมาอย่างเหยียดๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าและแววตาของคนที่กำลังเป็นประเด็น เด็กคนนั้นน่ะหรือจะเลือกเขา หึ...

“น้ำคงท่วมหลังเป็ดมั้งครับ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่มีทางยอมแต่งกับเด็กคนนั้นหรอก เพราะผมไม่ชอบเป็นตัวเลือกของใคร”

“คุณภูสบายใจได้ค่ะ พรรษไม่ได้เลือกคุณภู” เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของคนที่นั่งอยู่ในห้องโถง แต่เป็นเสียงของคนมาใหม่ ทำให้คนทั้งสี่ต่างหันไปมองด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน

“หนูพรรษ!” คุณหญิงจันทร์จรีอุทานออกมาอย่างตกใจและห่วงความรู้สึกของหญิงสาวที่ตัวเองหมายตาไว้เป็นสะใภ้อยู่ไม่น้อย ไม่คิดว่าพรรษรดาจะมาได้ยิน ทว่าพรรษรดาชินเสียแล้วกับความเย็นชาหมางเมินที่ภูริชมีให้ตนมาตลอดหลายปี

“ชัดเจนนะครับแม่ ผมไปล่ะ”

ว่าแล้วร่างสูงเกือบหกฟุตก็ลุกจากโซฟาราคาแพง แล้วก้าวดุ่มๆ ออกจากห้อง เขาทำเพียงแค่ยกมือขึ้นไหว้ปภาซึ่งเป็นแม่ของพรรษรดาที่ยืนอยู่หน้าห้องโถงเท่านั้น แล้วหลังจากนั้นก็ไม่คิดจะอนาทรว่าคนข้างในจะพูดถึงตนหรือไม่อย่างไร

รถคันหรูแล่นออกจากอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่ มุ่งหน้าสู่ถนนใหญ่โดยยังไม่รู้จุดหมายปลายทาง เขาเพียงแค่อยากใช้ความเร็วของรถช่วยดับความหงุดหงิดที่คุกรุ่นอยู่ข้างในเท่านั้น ความจริงเขาไม่ควรหงุดหงิดสักนิด เพราะไม่ว่าพรรษรดาจะเลือกหรือไม่เลือกใคร มันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเขา และต่อให้เธอบอกว่าเลือกเขา เขาก็ไม่คิดจะแต่งด้วยอยู่แล้ว เพราะไม่ชอบการเป็นตัวเลือกของใคร และยิ่งได้รู้ว่าไม่ใช่คนถูกเลือก ความหงุดหงิดก็ยิ่งทวีขึ้นเป็นเท่าตัว

รถยุโรปสมรรถนะสูงยังคงแล่นไปเรื่อยๆ ตามการควบคุมอันเชี่ยวชาญของคนขับ รู้ตัวอีกทีรถก็แล่นออกจากเขตเมืองหลวงเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ก็กำลังมุ่งหน้าไปทางพัทยาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปทางนั้น แต่อาจเป็นเพราะความเคยชินหรืออะไรเขาก็ขี้เกียจคิด

Rrrr… Rrrr…

เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มวัยยี่สิบเก้าต้องระบายลมหายใจออกมาแรงๆ เพื่อปรับอารมณ์ ลดความเร็วรถลงนิดหนึ่ง ก่อนจะกดรับสายและคุยผ่านลำโพงของรถ

“ว่าไง”

“มึงอยู่ไหนวะภู” เสียงนั้นคือเสียงของธัญญ์ ดาราหนุ่มที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังอยู่ในประเทศจีน เพราะความหล่อและซีรีส์เรื่องล่าสุดที่เขาแสดงได้รับความนิยมในระดับบ้าคลั่งเลยทีเดียว

“กูขับรถอยู่”

“ไปไหน”

“ไปพัทยามั้ง”

“ทำไมต้องมีมั้งด้วยวะ มึงพูดเหมือนมึงไม่แน่ใจ แล้วมึงไปทำไม หรือว่าไปดูไอ้ไวท์มันแข่งรถ แต่มันไม่ได้แข่งวันนี้นี่ สนามนี้กูก็แข่ง โปรแกรมมันอาทิตย์หน้านี่หว่า หรือว่ามึงไปหาสาว” ธัญญ์ทั้งถามเองตอบเองและแซวเองเสร็จสรรพไปหลายคำถาม

“กูไปหาลูกค้าน่ะ” ไม่ชอบและไม่เคยชอบการโกหก แต่ตอนนี้ภูริชกำลังละเมิดตัวตนของตัวเอง เพราะไม่รู้จะตอบว่ายังไง ธัญญ์จึงจะไม่ซักต่อ

“แล้วไป กูนึกว่ามึงแอบมีสาวแล้วไม่บอกกู”

“กูจำเป็นต้องรายงานมึงทุกเรื่องมั้ย”

“ก็กูเมียมึง”

“ระวังเถอะ กูจะจับมึงทำเมียจริงๆ”

“เฮ้ย อย่านะเว้ย ถ้ากูอยากมีผัว เดี๋ยวกูหาเอง ว่าแต่มึงจะกลับมาทันงานเลี้ยงฉลองสละโสดของไอ้เสกข์หรือเปล่า เลี้ยงเย็นนี้นะเว้ย กูโทร.มาเตือน เมื่อกี้ไอ้ธีร์ก็เพิ่งโทร.มาเตือนกู มันบอกว่ามันกำลังจะไปรับไอ้ปริญที่สนามบิน”

“ไอ้ปริญมาถึงแล้วเหรอ”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ เทียนธีรา

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ