Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter

5.0
ความคิดเห็น
851.4K
ชม
379
บท

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

บทที่ 1 หย่าร้าง

ในห้องที่มืดสลัว คนสองคนกำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียง

รูปถ่ายงานแต่งงานของเจ้าสาวรูปหนึ่งถูกแขวนอยู่บนผนังสีขาวตรงหัวเตียง เธอมองกล้องและยิ้มอย่างอ่อนโยน ดูเปี่ยมไปด้วยความสุข

“นี่ คุณคิดว่า ถ้าเหยาซีเยว่มาเห็นว่าเราสองคนกำลังทำเรื่องอย่างว่ากันบนเตียงในห้องหอแบบนี้ เธอจะโกรธมากจนร้องไห้ออกมาเลยไหม?”

“เหอะ เตียงห้องหออะไรล่ะ แต่งงานกันมาตั้งหลายปีแล้ว ผมยังไม่เคยได้แตะต้องเธอเลย เธอเอาแต่ไปนอนห้องนอนเล็กข้าง ๆ นั่นตลอด”

“พี่หยู พี่ใจดีกับฉันจัง......”

เสียงครวญครางหวาน ๆ ของทั้งสองคนดังขึ้นมาปะปนกับเสียงหอบหายใจ

หญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนได้ยินบทสนทนาทั้งหมด เธอเอามือกุมปากน้ำตาไหลพลากแต่ไม่ส่งเสียงใด ๆ

หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรม

หลินหยูก็สวมกางเกงขาสั้นเปิดประตูห้องนอน ทันใดนั้นเขาก็เห็นผู้หญิงที่นั่งเงียบ ๆ อยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เหยาซีเยว่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? เธอได้ยินอะไรไปบ้าง?

“คุณได้ยินหมดแล้วใช่มั้ย?”

เขาถามออกไปอย่างไม่แย่แสสนใจ แล้วเข้าไปรินน้ำอุ่นจากในครัวมาแก้วนึง จากนั้นก็เดินไปนั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่น

รูปร่างผอมเพรียว ผิวพรรณขาวใสของเขา ทว่ากลับมีรอยแดงหวานฉ่ำ เขาดูไม่แยแสกับมัน จิบน้ำสองสามคำอย่างสบายใจ

“ไหน ๆ คุณก็อยู่พอดี เซ็นซะ”

หลินหยูเปิดลิ้นชักใต้โต๊ะกาแฟ หยิบซองเอกสารออกมาจากด้านใน โยนมันลงบนโต๊ะกาแฟ “คุณก็ได้ยินแล้วนี่ ต่อให้ยื้อกันไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร”

เหยาซีเยว่เอื้อมมือไปหยิบเอกสารมา เปิดไปหน้าแรก คำว่า ‘ข้อตกลงการหย่า’ ก็ปรากฎขึ้นในม่านตาของเธออย่างจัง เธอเปิดไปจนถึงหน้าสุดท้าย แล้วก็พบว่าฝ่ายชายได้เซ็นชื่อของเขา——หลินหยู เอาไว้อย่างสละสลวยเรียบร้อยแล้ว

“ลองดูแล้วกันนะ ถ้าคุณมีเงื่อนไขอื่นก็บอกมาได้ แต่หากไม่มีข้อโต้แย้งอะไรก็เซ็นซะ”

ชายคนนั้นเอนหลัง แล้วจุดบุหรี่ ควันลอยขึ้นมาปกคลุมใบหน้าที่เย็นชาของเขา

“ไม่มีทางออกอื่นแล้วจริง ๆ เหรอ?”

เธอก้มหน้าลง เสียงของเธอแหบแห้งจากการร้องไห้เมื่อครู่นี้ ผมหน้าม้าของเธอก็ห้อยลงมาบนกรอบแว่นสีดำ ทำให้เธอดูน่าสงสารเป็นพิเศษ

ตั้งแต่ที่เธอแต่งงานเข้ามาในตระกูลหลิน เธอก็ทุ่มเทความพยายามกว่าร้อยเปอร์เซนต์ในการดูแลหลินหยู เธอคิดว่า สุดท้ายแล้วเธอกับเขาจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

เมื่อนึกถึงเด็กผู้ชายที่ถือร่มให้เธอท่ามกลางสายลมและหิมะ เธอก็เอามือทั้งสองข้างประสานกันแน่น ภวานาขอให้ความหวังอันริบหรี่นั้นเป็นจริงขึ้นมา

“เหยาซีเยว่ อย่าทำตัวน่าสมเพชนักเลย เรื่องของฉันกับเหลียนเหลียน เธอก็ได้ยินได้เห็นมาหมดแล้ว ทำไม เธอคิดจะกอดต่ำแหน่งคุณนายตระกูลหลินไว้ ไม่ละอายใจหรือไง?”

หลินยู่เคาะก้นบุหรี่ลงถ้วยเขี่ยบุหรี่ที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วก็เลิกคิ้วขึ้นมาอย่างหมดความอดทน “จะว่าไปการแต่งงานของเธอกับฉัน เราต่างก็ได้ในสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างต้องการกันทั้งนั้น”

หัวใจของเหยาซีเยว่แหลกสลายไปหมดแล้ว เย่เหลียน คือคนที่หลินหยูรักแต่ไม่ได้แต่งงานด้วย

ที่แท้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง

เธอก้มหน้าลงอย่างคนพ่ายแพ้ สองมือบิดชายเสื้อจนแน่น ราวกับว่าถ้ามีเย่เหลียนอยู่ สายตาของหลินหยูก็ไม่เคยละไปจากเย่เหลียนเลย

ตอนที่เย่เหลียนไปต่างประเทศ ระหว่างทางที่หลินหยูตามไปสนามบินเขาได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เดิมทีเหยาซวงซึ่งเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเหยาควรจะต้องแต่งงานกับหลินหยู แต่เธอดันไปมีลูกกับคนอื่นซะก่อน ดังนั้นตระกูลเหยาจึงส่งเหยาซีเยว่ไปแต่งงานกับเขาแทน

การแต่งงานแทนนี้ ทำให้เธอได้กลายเป็นภรรยาของหลินหยูไปโดยปริยาย

เธอดูแลหลินหยูอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง เพื่อหลินหยู เธอแทบตัดขาดการติดต่อกับชีวิตก่อนแต่งงานของเธอไปเลย

เธอไม่ได้สัมผัสกับงานออกแบบ รถแข่ง มีดผ่าตัด และคอมพิวเตอร์มานานมากแล้ว

ปีที่แล้ว เมื่อหลินหยูฟื้นขึ้นมา เขาค่อย ๆ ฟื้นตัว ซึ่งเธอคือคนที่คอยอยู่ข้าง ๆ เขาวันแล้ววันเล่า คอยไถ่ถามทุกข์สุข คอยดูแลอย่างเต็มที่ แล้วก็ไม่เคยที่จะจากไปไหน แต่เธอสู้กับการกลับมาของคนในใจของเขาไม่ได้ซะอย่างนั้น

หลังจากแต่งงานมาสองปี เธอก็ยังไม่เคยได้รับความรู้สึกอบอุ่นใด ๆ จากเขา

พอหลินหยูไม่ได้รับคำตอบ เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แล้วก็เงยหน้ามองขึ้นไปยังผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะกาแฟ

เหยาซีเยว่มีหน้าตาสะสวย แม้ว่าเธอจะมีผมหน้าม้าหนา และแว่นตาขอบดำที่หนาเตอะ แต่ยังมองเห็นได้ถึงความสวยของเธอ ปกติเธอมักจะละเลยเรื่องการแต่งตัว เธอจึงมักจะดูโทรมทั้งวัน

นิสัยของเธอก็น่าเบื่อเกินไป

หลังจากฟื้นขึ้นมา เขากับเธอจะอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่กลับไม่ได้มีความคิดอะไรเป็นอื่นเลย มันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ แล้วก็ไม่มีอะไรน่าสนใจด้วย

การดูแลและเอาใจใส่วันแล้ววันเล่า แต่กลับมีรูปลักษณ์และชีวิตเดิม ๆ ก็เปรียบเสมือนน้ำต้มสุกชามหนึ่งที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร มันจึงน่าเบื่อมาก

เขายอมรับนะว่า สองปีมานี้ที่เหยาซีเยว่อยู่ในตระกูลหลิน เธอเป็นคุณนายหลินได้อย่างเหมาะสม แต่เธอไม่เหมาะที่จะเป็นผู้หญิงของเขา เธอไม่มีคุณสมบัติมากพอ

เมื่อบุหรี่ทั้งมวนไหม้จนถึงก้นแล้ว หลินหยูก็บดบุหรี่ในถ้วยเขี่ยบุหรี่ แล้วก็พูดขึ้นมาอย่างไม่แยแส “คุณมาอยู่ที่บ้านตระกูลหลิน.....”

เขาเงียบไปครู่หนึ่ง พอเห็นว่าเธอยังคงก้มหน้าอยู่ ความรู้สึกคับข้องใจที่เธอแสดงออกมามันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดไปหมด

“ผมรู้เรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่คุณอยู่ที่ตระกูลเหยานะ หลังจากที่หย่ากันแล้ว นอกจากผมจะให้วิลล่าสามหลังแล้ว ผมจะให้เงินไปอีกหนึ่งร้อยห้าสิบล้าน ส่วนรถในโรงรถคุณสามารถเลือกเอาไปได้หนึ่งคัน หากมีของพวกนี้แล้ว การใช้ชีวิตของคุณในภายภาคหน้าจะดีขึ้นมาหน่อย”

เขายังคงจำตอนที่เขานอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลได้ เหยาซีเยว่ต้องลำบากลำบนคอยดูแลเขามาเป็นปี หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมา เธอก็ยังคอยอยู่กับเขาตอนที่ทำกายภาพบำบัดด้วย

แม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ แต่พฤติกรรมของเธอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาจึงสามารถเอาเงินจากบัญชีส่วนตัวของเขาจ่ายชดเชยให้เธอได้โดยไม่ถือสาอะไร

อันที่จริงช่วงชีวิตของการเป็นวัยรุ่นที่เพอร์เฟคที่สุดของเธอ กลับต้องมาถูกขังอยู่ในตระกูลหลิน

เขาเอาสองมือกอดอก รอยสักเล็ก ๆ ที่เห็นได้ชัดเจนบนกระดูกไหปลาร้าของเขาบาดตาบาดใจเหยาซีเยว่อย่างมาก

YL ซึ่งก็คือเย่เหลียนนั่นเอง

“เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทันหัน ผมจึงจะให้เวลาคุณคิดหนึ่งวัน ถ้าไม่พอใจกับเงื่อนไขคุณก็สามารถเสนอมาได้ แต่อย่าให้มันมากจนเกินไปนักล่ะ...... ผมเป็นคนอารมณ์ไม่ดี คุณก็รู้อยู่แล้วหนิ.....”

“ไม่จำเป็นต้องคิดหรอกคะ”

เหยาซีเยว่หยิบปากกาบนโต๊ะกาแฟขึ้นมา แล้วก็เซ็นชื่อของเธออย่างสง่างามลงไปในตอนท้ายของข้อตกลงการหย่าร้าง

“เดี๋ยวฉันจะย้ายออกไปเอง จะได้ไม่รบกวนพวกคุณสองคน”

หลินหยูพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ได้”

ต้องยอมรับเลยว่า เขาชอบนิสัยเชื่อฟังของเหยาซีเยว่มากจริง ๆ ประหนึ่งเป็นทาสอย่างไรอย่างนั้น ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร เธอก็ไม่ปฏิเสธ

ตัวอย่างเช่นวันนี้ เห็นได้ชัดเลยว่าเธอสามารถที่จะอาละวาดขึ้นมาได้ แต่เธอก็เลือกที่จะอดทนแทน

ซึ่งมันน่าเบื่อมาก

หลังจากใช้ชีวิตอยู่กับคนแบบนี้มาเป็นเวลานาน เขาก็กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นคนแบบนี้ไป

เรื่องของความรู้สึก มันไม่สามารถบังคับกันได้

หลินหยูหยิบสัญญามาตรวจดู ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยพูด เย่เหลียนที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวก็เดินออกมาอย่างเงียบ ๆ

เนื่องจากความยาวของเสื้อเชิ้ตถึงแค่ต้นขา อีกทั้งกระดุมก็ติดเพียงแค่สองสามเม็ดเท่านั้น มันจึงเผยให้เห็นเนื้อหนังข้างในของเธอ

ผมของเธอยังเปียกอยู่ ทำให้เสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอนั้นเปียกเล็กน้อย เผยให้เห็นสิ่งที่น่าเย้ายวนใจที่เล็ดลอดออกมา

พอเหยาซีเยว่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจึงหันไปมอง แค่เห็นแวบเดียวเธอก็จำได้แล้วว่านี่คือเสื้อเชิ้ตของหลินหยู แล้วก็เป็นตัวที่เธอเลือกเองกับมือด้วย

ทันใดนั้นดวงตาของพวกเธอสองคนก็สบกัน คิ้วของเย่เหลียนโค้งลง เผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะออกมา นี่เป็นแค่การประกาศศักดาเท่านั้น

ตอนที่สายตาของหลินหยูกวาดมองมา เธอก็ซ่อนรอยยิ้มนั้นกลับไปแล้ว

“น้องซีเยว่ เจอกันครั้งแรกสินะ ฉันชื่อเย่เหลียนนะ”

เธอค่อย ๆ เดินไปนั่งลงข้างหลินหยู แล้วก็อิงซบไปที่ไหล่เขาอย่างอ่อนระทวยประหนึ่งไม่มีกระดูก จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ได้ยินพี่หยูพูดถึงน้องซีเยว่อยู่บ่อย ๆ ในที่สุดก็ได้เจอสักทีนะ ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ”

เหยาซีเยว่ลดสายตาลง ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

เมื่อเย่เหลียนเห็นเช่นนี้ เธอจึงผลักหลินหยู แล้วก็พูดอย่างออดอ้อนขึ้นมาว่า “เมื่อกี้นี้ฉันได้ยินพี่หยูบอกว่าจะมอบวิลล่าสามหลังให้กับน้องซีเยว่ พี่ก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันอยากได้วิลล่าติดทะเลสาบหลังนั้นน่ะ? ทำไมต้องให้หลังนั้นไปด้วยล่ะ พี่ไม่รักฉันแล้วเหรอ?”

หลินหยูมักจะเติมเต็มต่อคำขอของเย่เหลียนเสมอ เขาจึงพูดกับเหยาซีเยว่ว่า “ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่เหลียนเหลียนว่าแล้วกันนะ เดี๋ยวผมจะเลือกวิลล่าหลังอื่นให้คุณใหม่ก็แล้วกัน”

เหยาซีเยว่เงยหน้าขึ้น ตาใส ๆ ของเธอมองผ่านกรอบแว่นหนา ๆ ไปที่หลินหยู “คุณบอกว่าจะให้ฉันแล้วไม่ใช่เหรอ?”

เย่เหลียนพูดออดอ้อนขึ้นมาว่า “พี่หยู~”

สีหน้าของหลินหยูบ่งบอกว่าหมดความอดทนแล้ว “เหยาซีเยว่ คุณฟังภาษาคนไม่เข้าใจรึไง? ของพวกนี้ผมแค่ให้พิเศษกับคุณ ถ้าคุณไม่อยากได้ งั้นก็ไม้ต้องเอา”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว
1

บทที่ 1 หย่าร้าง

26/03/2024

2

บทที่ 2 บทเรียน

27/03/2024

3

บทที่ 3 การเปลี่ยนแปลง

27/03/2024

4

บทที่ 4 ที่กลามอร์คลับ (ภาค 1)

27/03/2024

5

บทที่ 5 ที่กลามอร์คลับ (ภาค 2)

27/03/2024

6

บทที่ 6 หุบปาก (ภาค 1)

27/03/2024

7

บทที่ 7 หุบปาก (ภาค 2)

27/03/2024

8

บทที่ 8 ใครกันที่อยากเจอฉัน (ภาค 1)

28/03/2024

9

บทที่ 9 ใครกันที่อยากเจอฉัน (ภาค 2)

28/03/2024

10

บทที่ 10 คุณดูแลตัวเองด้วยแล้วกัน (ภาค 1)

28/03/2024

11

บทที่ 11 คุณดูแลตัวเองด้วยแล้วกัน (ภาค 2)

29/03/2024

12

บทที่ 12 เงื่อนไขในการรักษา (ภาค 1)

29/03/2024

13

บทที่ 13 เงื่อนไขในการรักษา (ภาค 2)

29/03/2024

14

บทที่ 14 เรื่องไม่คาดฝัน (ภาค 1)

29/03/2024

15

บทที่ 15 เรื่องไม่คาดฝัน (ภาค 2)

29/03/2024

16

บทที่ 16 ข่าวคราว (ภาค 1)

29/03/2024

17

บทที่ 17 ข่าวคราว (ภาค 2)

29/03/2024

18

บทที่ 18 ถ้าได้ที่หนึ่งจะไปพบ (ภาค 1)

29/03/2024

19

บทที่ 19 ถ้าได้ที่หนึ่งจะไปพบ (ภาค 2)

29/03/2024

20

บทที่ 20 แกไปคิดให้ดี ๆ (ภาค 1)

29/03/2024

21

บทที่ 21 แกไปคิดให้ดี ๆ (ภาค 2)

29/03/2024

22

บทที่ 22 เดิมพัน (ภาค 1)

29/03/2024

23

บทที่ 23 เดิมพัน (ภาค 2)

29/03/2024

24

บทที่ 24 การแข่งขันปาเป้า (ภาค 1)

29/03/2024

25

บทที่ 25 การแข่งขันปาเป้า (ภาค 2)

29/03/2024

26

บทที่ 26 สั่งสอนหลินซือฉี

29/03/2024

27

บทที่ 27 เรื่องของจวินเย่ว (ภาค 1)

29/03/2024

28

บทที่ 28 เรื่องของจวินเย่ว (ภาค 2)

29/03/2024

29

บทที่ 29 ความวุ่นวายในการเรียกแท็กซี่ (ภาค 1)

29/03/2024

30

บทที่ 30 ความวุ่นวายในการเรียกแท็กซี่ (ภาค 2)

29/03/2024

31

บทที่ 31 ขอบคุณคุณเป่ยมากเลยนะคะ (ภาค 1)

29/03/2024

32

บทที่ 32 ขอบคุณคุณเป่ยมากเลยนะคะ (ภาค 2)

29/03/2024

33

บทที่ 33 ฉันไม่มีเวทมนตร์ (ภาค 1)

29/03/2024

34

บทที่ 34 ฉันไม่มีเวทมนตร์ (ภาค 2)

29/03/2024

35

บทที่ 35 นี่คือ ป้ารองเหรอ? (ภาค 1)

29/03/2024

36

บทที่ 36 นี่คือ ป้ารองเหรอ? (ภาค 2)

29/03/2024

37

บทที่ 37 คุณเหยาบังเอิญจริง ๆ เลยนะครับ (ภาค 1)

29/03/2024

38

บทที่ 38 คุณเหยาบังเอิญจริง ๆ เลยนะครับ (ภาค 2)

29/03/2024

39

บทที่ 39 เป็นหมอก็ดีเหมือนกัน (ภาค 1)

30/03/2024

40

บทที่ 40 เป็นหมอก็ดีเหมือนกัน (ภาค 2)

30/03/2024