Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ความรักของศศินาพัชร์

ความรักของศศินาพัชร์

MOONLIGHT MILK

5.0
ความคิดเห็น
145
ชม
5
บท

สาวหล่อที่แอบทำให้ใจพัชสั่นไหวได้พยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะเดินจากไปอย่างรวดเร็วแต่พัชยังคงมองตามร่างนั้นจนหายไปลับตา “พัช ถ้าแกจะมองคนที่ดาขนาดนั้น ทำไมไม่ขอเบอร์ให้จบ ๆ ไปเลยวะ” “เอ่ออ...ลืมเลย” “จ้า ๆ” ............................................................................................................ “คือ...พลอยอยากถามแม่ว่า แม่เคยคิด คิด ที่จะรังเกียจความรักในแบบของพัชไหมคะ” พัชที่กำลังจะตักกับข้าวถึงกับชะงักมือก่อนจะมองไปทางแม่ที่นั่งยิ้มและมองมาทางพัชด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นรักแบบไหนก็ตาม แต่ขอให้รักที่เกิดนั้นเป็นรักที่ไม่ผิดต่อใครและไม่ทำให้ทั้งตัวเราและใครเสียใจก็พอ”

บทที่ 1 บทนำ

การสอบแข่งขันเปรียบดั่งการต่อสู้ที่ศศินาพัชร์หรือพัชต้องผ่านมันไปให้ได้ แม้หญิงสาวจะมิชอบการแข่งขันเท่าใดนักแต่เพราะนั่นคือความหวังที่มารดาปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้หญิงสาวมุ่งมั่นที่จะทำให้มารดาภูมิใจ

“พัช ลูกเห็นหรือยัง ตอนนี้เขตเรียกตัวลูกแล้วนะ”

เสียงมารดาของพัชเอ่ยบอกบุตรสาวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ แม้พัชจะมิได้ดีใจเท่าใดนักแต่เมื่อได้ยินน้ำเสียงของมารดาหญิงสาวจึงอดยิ้มกับโทรศัพท์มือถือไม่ได้

“ค่ะแม่ ตอนนี้พัชกำลังไปรายงานตัวแล้วค่ะ”

“ในที่สุด แม่ก็จะได้เห็นลูกใส่ชุดข้าราชการเสียที”

พัชเผลอมองบนเล็กน้อย ‘ทำไมแม่และคนแถวบ้านถึงอยากให้ลูกหลานรับราชการกันนะ’ แม้จะเอ่ยบ่นกับตัวเองแต่หญิงสาวกลับมิเคยปฏิเสธในสิ่งที่มารดาของเธอต้องการแม้สักครั้ง

“แค่นี้ก่อนนะคะแม่”

“จ๊ะ ๆ เสร็จแล้วก็รีบกลับบ้านนะ”

“ค่า แม่”

พัชเอ่ยขึ้นก่อนจะรีบเดินเข้าไปในสำนักงานสถานศึกษาที่หญิงสาวถูกเรียกตัว หลังจากเสร็จจากการรายงานตัวแล้ว หญิงสาวจึงได้ตรงกลับบ้านในทันที

“แม่น้องพัช ๆ”

“มีอะไรหรือพี่”

“ได้ยินมาว่าน้องพัชสอบครูได้งั้นหรือ”

“จ๊ะ น้องพัชเพิ่งถูกเรียกบรรจุจ๊ะ”

“งั้นหรือ ดี ๆ แต่ก็อย่างว่าแหละนะ เป็นครูรัฐจะได้เงินสักเท่าไหร่กันเชียว ดูพี่แอนสิทำงานเอกชน ได้ทั้งเงินเดือน ได้ทั้งเงินพิเศษ นี่ยังไม่รวมเงินสอนพิเศษและเงินโบนัสอีกนะ”

“ดีจังเลยจ้ะ แล้วนี่น้องแอนไปที่ไหนหรือคะวันนี้ ไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้ว”

“ก็อย่างว่าแหละ ทำงานเอกชนวันหยุดก็เลยไม่ได้หยุด ต้องทำงานนั่นแหละ”

พัชจอดรถหน้าบ้านก่อนจะลงมาสวัสดีแม่และป้าข้างบ้าน

“น้องพัช เป็นอย่างไรบ้างได้ข่าวว่าถูกเรียกบรรจุแล้วนี่ ได้ที่ไหนกัน”

“อ่อ ได้แถวแม่แจ่มค่ะ”

“แม่แจ่มงั้นเหรอ ตาย ๆ ๆ กันดารเสียขนาดนั้น น้องพัชจะไหวเหรอ”

“ทำไมจะไม่ไหวกันคะ”

“แม่แจ่มทั้งไกลทั้งกันดาร น้องพัชที่มีแม่เคยดูแลมาตลอดประหนึ่งลูกคุณหนู น้องพัชจะไปที่อยู่ที่แบบนั้นได้เหรอ”

“แม้แม่จะดูแลพัชเป็นอย่างดี แต่แม่ก็ไม่เคยสอนให้พัชเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนะคะ แม้ที่ที่พัชจะไปนั้นกันดารแต่ผู้คนคงจะน่ารักและจริงใจแน่นอนค่ะ”

“พัช ทานอะไรมาหรือยัง เข้าบ้านไปคุยกันเถอะ”

“ค่ะแม่”

อาหารที่พัชชอบถูกจัดวางไว้เต็มโต๊ะ พัชมองอาหารเหล่านั้นก่อนจะเดินเข้าไปกอดแม่

“แม่ พัชต้องไปบรรจุบนดอย แม่จะอยู่ได้เหรอคะ”

“ได้สิ แม่ก็คิดเสียว่าลูกไปเข้าค่าย เสาร์-อาทิตย์ลูกก็กลับมาไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ค่ะ”

ทั้งสองกอดกันก่อนจะนั่งลงรับประทานอาหารด้วยกัน ขณะที่กินข้าวนั้นพัชสังเกตเห็นว่าแม่แอบดีใจจนน้ำตาซึมจนต้องแอบเช็ดน้ำตาอยู่หลายที จนเมื่อรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วทั้งสองต่างเดินมามองรูปชายหนุ่มที่มีหน้าตาหล่อเหลาถูกวางอยู่บนโต๊ะข้างตู้โชว์

“หากพ่อยังอยู่ก็คงจะดี”

“แม้ตอนนี้พ่อจะอยู่บนสวรรค์ แต่พ่อก็มองลงมาและคอยดูแลพวกเราอยู่เสมอนะคะแม่”

“อื่ม”

ทั้งสองยืนกอดกันขณะมองรูปนั้นด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มและคราบน้ำตา

วันที่ต้องไปรายงานตัวยังโรงเรียนที่ต้องบรรจุมาถึง เพื่อน ๆ และญาติพี่น้องได้มาส่งพัชอย่างพร้อมเพรียงกัน รถขับเคลื่อนสี่ล้อสองคันได้มาจอดอยู่หน้าบ้านพัชพร้อมเสียงพูดคุยอย่างสนุกสนาน

“พัชเป็นคนแรกในรุ่นเลยนะที่ถูกเรียก”

“ใช่ค่ะแม่ พัชของเราเก่งมาก ๆ”

“พัช เก็บของเสร็จหรือยัง พวกเราจะไปวันนี้นะ”

พลอยและเพื่อน ๆ ของพัชต่างพูดคุยและแซวพัชอย่างเป็นกันเอง

“จ้า ๆ เสร็จแล้ว ๆ”

กระเป๋า 3 ใบถูกนำมาวางไว้ข้างรถ ทุกคนมองกระเป๋านั้นก่อนจะมองพัชสลับกันไปมา

“ไปอยู่ที่กันดารขนาดนั้น ขนไปแค่นี้เองเหรอ”

“แค่นี้ก็พอ ใบแรกเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว ใบที่สองที่นอนหมอนมุ้ง ใบที่สามอาหารยารักษาโรค ส่วนที่ขาดไม่ได้ มอไซค์คู่ใจ”

รถมอเตอร์ไซค์วิบากถูกนำมาจอดไว้ข้างรถขับเคลื่อนสี่ล้อนั้น

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราเก็บของเดินทางกันเถอะ”

การเดินทางเข้าแม่แจ่มแม้จะไม่ได้ลำบากเพราะถนนที่ปูด้วยทางลาดยาง ป่าไม้สองข้างทางที่ให้ร่มเงาอีกทั้งความชุ่มชื้นที่ทำให้อากาศค่อนข้างเย็นสบาย

“พวกเราแวะตลาดกันหน่อยไหม หาซื้อของกินด้วย”

“ดี ๆ”

รถขับเคลื่อนสี่ล้อสองคันได้ขับตามกันมาจอดแถวตลาดข้างอำเภอแม่แจ่ม

“พัช แกอยากได้อะไรเพิ่มไหม”

“ไม่ล่ะ รอขึ้นโรงเรียนก่อนค่อยลงมาซื้ออะไรเพิ่มดีกว่า”

“ก็ดีนะ”

“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ”

พัชที่มัวแต่คุยกับพอใจได้เผลอชนเข้ากับใครบางคน หญิงสาวจึงได้เอ่ยขอโทษในทันที

“ไม่เป็นไรค่ะ”

สาวหล่อผมสั้นดูเท่ ๆ ที่ทำให้พัชหยุดหายใจไปชั่วขณะ

“ไม่เป็นไรค่ะ”

เสียงหวาน ๆ พูดยิ้ม ๆ ก่อนจะเอ่ยตอบพัชที่ยังคงมองอยู่เช่นนั้น

“ไอ่ดา เร็วเข้า”

“เอ้อ”

สาวหล่อที่แอบทำให้ใจพัชสั่นไหวได้พยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะเดินจากไปอย่างรวดเร็วแต่พัชยังคงมองตามร่างนั้นจนหายไปลับตา

“พัช ถ้าแกจะมองคนที่ดาขนาดนั้น ทำไมไม่ขอเบอร์ให้จบ ๆ ไปเลยวะ”

“เอ่ออ...ลืมเลย”

“จ้า ๆ”

พลอยมองบน เมื่อซื้อของเรียบร้อยแล้วทั้งหมดต่างออกเดินทางกันต่อไป แดดร้อน ๆ ยามบ่ายแก่ ๆ ทำให้ทุกคนในรถต่างหลับบ้างหรือไม่ก็จมดิ่งอยู่ในความคิดของตนเองเมื่อเห็นสภาพถนนหนทางที่เต็มไปด้วยฝุ่นสีแดงฟุ้งกระจายไปตามทาง ใบไม้และต้นไม้ด้านข้างถนนล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยสีแดงจากฝุ่น

“เฮลโล่ ฮ่า ๆ ๆ สภาพ อีกนานไหมถึงจะถึง”

เสียงเพื่อนของพัชที่นั่งหลังรถเอ่ยขึ้น เพราะตอนนี้เนื้อตัวเต็มไปด้วยฝุ่นจนทุกคนที่อยู่ในรถต่างหัวเราะ

“อีกไม่กี่โค้งก็ถึงแล้ว”

“ไม่กี่โค้งนี่คือกี่โค้ง”

“ก็โค้งซ้าย โค้งขวา เดี๋ยวก็ถึง”

“ไอ้บ้า....ฮ่า ๆ ๆ”

จนเมื่อรถขับเคลื่อนสี่ล้อหยุดอยู่หน้าป้ายโรงเรียนที่ใกล้จะพังแหล่ไม่พังแหล่

“โรงเรียน......ถึงซะที”

พลอยบ่นก่อนที่รถจะเลี้ยวขวาเข้าไปด้านใน อาคารเรียนไม้ที่ตั้งอยู่แม้จะไม่ใหม่แต่ก็พอที่จะใช้ได้เรียงรายอยู่ 4 หลังเป็นรูปตัวยู ตรงกลางนั้นคือสนามตะกร้อและสนามบาส รถเคลื่อนเข้าไปอีก 200 เมตรนั่นคือโรงอาหารของนักเรียนที่ตั้งอยู่หลังแทงก์น้ำ ด้านข้างคือบ้านพักไม้สองชั้นสองหลังที่อยู่ติดกัน และท้ายสุดคือบ้านพักครูที่ดัดแปลงให้ด้านล่างเป็นห้องครัว ส่วนด้านบนเป็นห้องพักครู ทุกคนเดินลงมาจากรถก่อนจะยืดเส้นยืดสายและช่วยกันเอารถมอเตอร์ไซค์วิบากลง

“สวัสดีค่ะ ครูใหม่ใช่ไหมคะ”

หญิงสาวร่างเล็กหน้าเก๋ ๆ เดินมาทักทายกลุ่มคนของพัชด้วยรอยยิ้ม

“สวัสดีค่ะ ครูศศินาพัชร์มารายงานตัวค่ะ ไม่ทราบว่าผู้อำนวยการอยู่ไหมคะ”

“ผอ. ไปประชุมค่ะ ถ้างั้นพี่ขออนุญาตรับเอกสารแทนนะคะ อ้อ ลืมไปพี่ชื่อ...หนึ่งจ๊ะ”

“สวัสดีค่ะ น้องชื่อพัชค่ะ”

“พี่หนึ่ง ของเรียบร้อยแล้วจะเอาไงต่อ”

เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้พัชต้องหันไปตามเสียง

“อ้าว”

“อ้าว”

สาวหล่อคนที่พัชเจอเมื่อเดินซื้อของในตลาดเอ่ยขึ้นพร้อม ๆ กับพัชก่อนที่ทั้งสองจะส่งยิ้มให้แก่กัน

“น้องมาบรรจุที่โรงเรียนนี้เหรอคะ”

“ค่ะ”

“พี่ชื่ออันดา ชื่อเล่นดา”

“สวัสดีค่ะ เรียกน้องว่าพัชก็ได้ค่ะ”

“ถ้างั้นให้พี่พาไปดูที่พักและรอบ ๆ ก่อนดีไหม”

“ถ้าได้จะขอบคุณมากค่ะ”

พลอยที่เดินมาสมทบแอบสะกิดพัชเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มที่ทำให้พัชอดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้

“บังเอิญหรือพรหมลิขิตกันนะ”

“พลอย เงียบไปเลย”

ดาเดินเข้ามาทักทายกลุ่มคณะที่มาส่งพัชก่อนจะพาทุกคนชมรอบ ๆ โรงเรียนและดูที่พักรวมถึงพาไปเดินดูรอบ ๆ หมู่บ้านที่มีนักเรียนมาเรียนที่นี่

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ MOONLIGHT MILK

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter
5.0

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

คุณหมอที่รัก NC18++

คุณหมอที่รัก NC18++

Me'JinJin
4.4

กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ