กินเด็กเขาว่าเป็นอมตะ มาลองกินหมอเด็กดูไหมล่ะจะได้เป็นนิรันดร์ ********* เพราะผิดหวังจากรักแรกที่เป็นหมอปณิชาเลยไม่อยากมีแฟนเปนหมออีก แต่ตุลธรหมอสุดหล่อจากแผนกเด็กสุดหล่อก็เข้ามาทำลายกำแพงที่หญิงสาวตั้งขึ้น เธอคิดว่ารักครั้งนี้จะได้สวยแต่เขาก็เงียบหายไปเหมือนกับรักแรก
โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่กำลังวุ่นวายกับการต้อนรับผู้ป่วยที่พากันมาใช้บริการในบ่ายวันอาทิตย์ ซึ่งมีทั้งผู้ป่วยธรรมดา ที่เดินมาเองได้ ผู้ป่วยที่ต้องนั่งรถเข็นและผู้ป่วยวิกฤตที่ต้องเข้ารับการช่วยเหลือย่างเร่งด่วน
ทั้งหมอและพยาบาลกำลังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มความสามารถ แต่ละแผนกก็มีจำนวนผู้ป่วยมากมายจนไม่มีใครได้นั่งพัก
แผนกกุมารเวชก็ไม่ต่างกัน วันนี้มีทั้งเด็กที่มีอาการเจ็บป่วยและเด็กที่มารับวัคซีน พยาบาลและผู้ช่วยต่างพากันวิ่งวุ่นเพราะเด็กบางคนก็วิ่งหนีออกจากห้องทั้งๆ ที่กุมารแพทย์ยังไม่ทันได้ตรวจด้วยซ้ำ ในจำนวนเด็กสิบคน ก็คงจะมีสักสองคนที่นั่งให้ตรวจอย่างเรียบร้อย แต่นั่นก็ต้องแลกมากับของเล่นชิ้นเล็ก หรือไม่ก็สติ๊กเกอร์ลายการ์ตูนที่หมอเด็กทุกคนต้องมีติดห้องตรวจไว้
“แม่จ๋า หนูไม่อยากฉีดยาฮือ ฮือ” เด็กหญิงวัย 4 ขวบคนหนึ่งกอดมารดาของเธอแน่น
“น้องข้าวคนสวยคะ มาให้พี่เหมยฉีดยานะคะ เจ็บนิดเดียวเองค่ะ”
“ไม่เอา หนูไม่อยากฉีดยา”
“ถ้าหนูไม่ฉัดหนูจะแข็งแรงได้ยังไงล่ะลูก ให้พี่พยาบาลฉีดหน่อยนะ เดี๋ยวฉีดเสร็จแล้วแม่จะพากินไอติมนะคะ” มารดาของเด็กพยายามต่อรองกับลูกสาว
“น้องข้าวคะ พี่เหมยไม่ฉีดก็ได้ งั้นเรามาคุยกันนะคะ”
“หนูไม่อยากคุย”
“ไม่อยากคุยก็ได้ค่ะ แต่พี่ขอถามได้ไหมคะว่าที่โรงเรียนน้องข้าวมีเพื่อนเยอะไหม”
“เยอะสิ ข้าวมีเพื่อนตั้ง 5 คนแหนะ” เด็กหญิงตัวน้อยอวดอย่างภาคภูมิใจ
“เพื่อนเยอะจังนะคะ เพราะน้องข้าวจะเป็นเด็กน่ารักเลยมีเพื่อนเยอะใช่ไหมคะ” ปณิชาเอ่ยชม
“ใช่ค่ะ คุณครูก็ชมว่าน้องข้าวน่ารักค่ะ”
“เหรอคะ พี่ก็ชอบนะคะเด็กน่ารัก ถ้าน้องข้าวไม่ได้ไปโรงเรียนน้องข้าวจะคิดถึงเพื่อนไหมคะ”
“คิดถึงค่ะ”
“พี่ว่าเพื่อนๆ ก็คงคิดถึงน้องข้าวเหมือนกัน แต่ถ้าเราไม่สบายเราก็ต้องหยุดเรียนหลายวันเลยนะคะ เพื่อนๆ คงคิดถึงมากๆ แน่เลยใช่ไหมคะ”
“น้องข้าวแข็งแรงค่ะ ดูกล้ามน้องข้าวนะคะ” เด็กหญิงทำท่าเบ่งกล้ามให้กับปณิชาอย่างภาคิภูมิใจ
“ใช่ค่ะ ตอนนี้น้องข้างแข็งแรง แต่พอถ้าวันนี้ไม่ยอมฉีดยาเชื้อโรคที่มีอยู่รอบตัวก็จะเข้าไปในตัวน้องข้าวทีละนิดๆ พอหลายๆ วันน้องข้าวก็จะป่วยและต้องหยุดเรียน”
“น้องข้าวไม่อยากหยุดเรียน น้องข้าวอยากไปหาเพื่อน”
“ถ้างั้นให้พี่เหมยช่วยนะคะ ฉีดยาเจ็บนิดเดียวแต่มันจะทำให้น้องข้าวแข็งแรงและต่อสู้กับเชื้อโรคได้ค่ะ”
“เหรอคะ แต่หนูกลัวเจ็บ”
“มันจะเจ็บนิดเดียวค่ะ พี่จะให้น้องข้าวกอดคุณแม่ไว้ดีไหมคะ”
“ดีค่ะ”
“น้องข้าวเลือกสติ๊กเกอร์ได้หนึ่งชิ้นนะคะ เดี๋ยวพี่เหมยจะแปะที่หน้าขาให้ค่ะ”
บทสนทนาอันยาวเหยียดของพยาบาลสาวทำให้คนที่เดินผ่านห้องฉีดวัคซีนสำหรับเด็กต้องหยุดฟังแล้วยิ้มตาม
ตุลธรเพิ่งเคยมาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้วันแรก เขารู้สึกประทับใจจนอยากจะรู้ว่านอกจากเสียงที่ไพเราะแล้วหน้าตาของเธอจะเป็นยังไง
ชายหนุ่มยืนรอจนกระทั่งเธอเดินออกมาหลังจากฉีดวัคซีนให้กับเด็กคนเมื่อครู่เสร็จแล้ว
“หมอมีอะไรหรือเปล่าคะ” ปณิชาถามคุณหมอคนใหม่ที่วันนี้เขามาตรวจแทนคุณหมอประจำซึ่งตอนนี้เธอกำลังอยู่ในช่วงลาคลอด
“คือผมยังไม่ค่อยคุ้นกับระบบที่นี่เท่าไหร่ ถ้ามีตรงไหนที่ผมทำไม่ถูกคุณพยาบาลบอกได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ค่ะ ถ้าคุณหมอไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามเหมยหรือน้องคนอื่นๆ ได้ค่ะ”
“ครับคุณเหมย”
“เดี๋ยวเหมยเรียกคนไข้คนต่อไปเลยนะคะ น่าจะเหลืออีกไม่กี่คนหมอจะได้พักแล้วค่ะ”
“ได้ครับ”
ตุลธรกลับเข้ามายังห้องตรวจของตัวเองอีกครั้ง จากนั้นผู้ช่วยพยาบาลก็พาคนได้คนต่อไปเข้ามา
คุณหมอคนใหม่ตรวจคนไข้เด็กจนกระทั่งถึงเวลาห้าโมงเย็นถึงได้พัก
“อาหารว่างค่ะคุณหมอ” แม่บ้านประจำแผนกผู้ป่วยนอกเอากล่องอาหารว่างซึ่งมีขนมน้ำผลไม้รวมถึงน้ำเปล่าอีกหนึ่งขวดมาวางบนเคาน์เตอร์ที่อยู่หลังโต๊ะทำงาน
“ที่นี่แจกอาหารว่างให้หมอด้วยเหรอครับ”
“ค่ะ ที่นี่จะแจกอาหารว่าง 3 รอบค่ะ เช้า บ่ายแล้วก็ช่วงเย็นค่ะ แต่ถ้าคุณหมออยากจะทานข้าวแล้วไม่มีเวลาออกไปข้างนอกก็โทรสั่งกับห้องอาหารได้ค่ะ เดี๋ยวเขาจะเอามาส่งที่ห้องพักแพทย์ค่ะ”
“ขอบคุณคะครับ ผมเพิ่งมาทำงานวันแรกเลยยังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร”
“คุณหมอมาแทนหมอปิ่นใช่ไหมคะ ป้าจำได้ว่าบ่ายวันอาทิตย์เป็นเวรของหมอปิ่น”
“ครับ ผมมาทำแทนหมอปิ่นระหว่างที่เธอลาคลอด”
“นานๆ ทีแผนกนี้จะมีคุณหมอหล่อๆ ป้าอยากให้มาทำนี่นี่นานๆ จังเลยค่ะ”
“ผมก็คงทำจนหมอปิ่นกลับมานั่นล่ะครับ”
“ก็ยังดีนะคะได้มองคนหล่อ ตั้งสามเดือน”
“ป้าชมผมอีกแล้ว ผมชักเขินแล้วนะครับ”
“แหม ก็คุณหมอน่ะหลอจริงๆ นี่ เอาล่ะ ป้าไปก่อนนะคะ ยังเหลืออีกหลายห้องเลยที่ต้องเขาของว่างไปให้”
“ขอบคุณนะครับป้า”
ปกติแล้วตุลธรทำงานที่โรงพยาบาลรัฐบาลที่นั่นไม่มีของว่างมาส่งถึงห้องแบบนี้ ทุกอย่างหมอต้องบริการตัวเองอยากทานอะไรก็ซื้อเข้ามาที่ห้องทำงานตั้งแต่ตอนเช้า เพราะถ้าเข้ามาแล้วไม่ค่อยมีเวลาออกไปข้างนอกถึงแม้จะมีเวลาพักกลางวันแต่เขาก็ต้องแบ่งเวลาตรงนั้นไปตรวจผู้ป่วนที่นอนโรงพยาบาล บางครั้งตุลธรก็ต้องนั่งทานอาหารในห้องตรวจ
ชายหนุ่มชักชอบที่นี่เข้าแล้วเพราะนอกจากอาหารว่างแล้วเขายังมีอาหารตาที่เขาชอบมองอีกด้วย
บทที่ 1 หมอคนใหม่
18/06/2024
บทที่ 2 ทำความคุ้นเคย
18/06/2024
บทที่ 3 หล่อแล้วไง ไม่ใช่สเปก
18/06/2024
บทที่ 4 เลือดเย็นเกินไปแล้ว
18/06/2024
บทที่ 5 เรื่องบังเอิญ
18/06/2024
บทที่ 6 เข้าทาง
18/06/2024
บทที่ 7 นึกว่าลืมได้แล้ว
18/06/2024
บทที่ 8 ไม่อยากเสียใจ
18/06/2024
บทที่ 9 ผมไม่ใช่เขา
18/06/2024
บทที่ 10 ชี้โพรงให้กระรอก
18/06/2024
บทที่ 11 รับผิดชอบ
18/06/2024
บทที่ 12 คนในความลับ
18/06/2024
บทที่ 13 เหตุผลที่ทิ้งเธอไป
18/06/2024
บทที่ 14 ทำไมถึงบอกผม
18/06/2024
บทที่ 15 ดีใจที่ถูกทิ้ง
18/06/2024
บทที่ 16 ความลับที่ปิดไม่มิด
18/06/2024
บทที่ 17 คนที่ใช่ของหมอตุลย์
18/06/2024
บทที่ 18 ไม่ผิดที่จะหึง
18/06/2024
บทที่ 19 หวาน
18/06/2024
บทที่ 20 เรื่องที่พลาด
18/06/2024
บทที่ 21 เพราะไวน์หรือเพราะมีใจ nc
18/06/2024
บทที่ 22 คำสัญญา nc
18/06/2024
บทที่ 23 คิดไม่ผิด
18/06/2024
บทที่ 24 ความลับไม่มีอยู่จริง
18/06/2024
บทที่ 25 เราจะไม่เจอกันอีกหลายวัน nc
18/06/2024
บทที่ 26 หมอเด็กเอวดุ nc
18/06/2024
บทที่ 27 ก่อนจากต้องถึงใจ nc
18/06/2024
บทที่ 28 เงียบหาย
18/06/2024
บทที่ 29 จบเหมือนเดิม
18/06/2024
บทที่ 30 เผชิญหน้า
18/06/2024
บทที่ 31 เดินหน้าหาความสุข
18/06/2024
บทที่ 32 ตอนจบ
18/06/2024
หนังสืออื่นๆ ของ จินต์พิชา
ข้อมูลเพิ่มเติม