อัลฟ่าริมบึง

อัลฟ่าริมบึง

ElGSi

5.0
ความคิดเห็น
749
ชม
15
บท

เมื่อคู่แห่งโชคชะตา4ขวบ อัลฟ่าพัมธุ์แท้คนสุดท้าย ผู้เพรียบพร้อมด้วยเงินและอำนาจ วันหนึ่งลูกน้องก็พังประตูเข้ามาบอกว่า เจอคู่โชคชะตาเขาแล้ว ทว่า จะป้ำลูกยังไง ก็เนื้อคู่เขาใส่ชุดอนุบาลหมีน้อยกอดตุ๊กตา

บทที่ 1 อัลฟ่าริมบึง

ตุบ!

"ไปทำมาใหม่"

ไอ้พวกสวะพวกนี้ให้เป็นเด็กฝึกงานก็ยังไม่ผ่านโปรด้วยซ้ำ คงจะมายืนจุดนี้ได้ด้วยเส้นสายกับฟีโรโมนบ้าๆ อีกตามเคย

พวกไร้น้ำยา เสียเวลาจริงๆ

ภายในห้องประชุมยามบ่าย ผู้ชายสองคนนายบ่าว คนหนึ่งยืนซ้อนหลังตามระเบียบ อีกคนนั่งหน้าซีดเขียวอยู่ที่โต๊ะประชุมตัวใหญ่

"กล้าดียังไง ถึงปัดงานของท่านเจ้าเมืองลงพื้นแบบนี้ แค่ท่านเจ้าเมืองออกปาก… (พูดต่อไม่หยุด) ..."

จู่ๆ ไอ้ผู้ชายหน้าอ่อนมันก็ก้าวมาเอ่ยเสียงดัง หึ ไร้มารยาทสิ้นดี

ขณะที่ไอ้ตัวบ่าวแผดเสียงแว้ดๆ คนใส่สูทที่ถูกพูดถึงยังนั่งทำทองไม่รู้ร้อนอยู่เลย แต่ก็ดีที่ไม่บ้าไปอีกคน ไม่งั้นผมคงต้องแสดงอำนาจให้พวกสวะมันรู้หน่อย

"เหรอ ก็แค่อัลฟ่ากลายพันธุ์" ผมจิบชาในแก้ว ก่อนขยับปากกากลับมาเหน็บที่กระเป๋าหน้าอกสูทสีน้ำเงิน แล้วปัดแก้วที่ใช้แล้วทิ้ง

เพล้ง!

"ถ้าจะทำงานนี้ ก็ไปทำตามที่สั่ง" เอ่ยเสียงเย็น

ตัวบ่าวมันกัดฟันกำหมัดแน่นอย่างกับจะมาชกผมอย่างนั้น ซึ่งบอกเลยว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ แค่ผมปรายตามองคนใส่สูทที่นั่งอยู่ คนที่ทำให้ผมเสียเวลาก็ดูเหมือนจะพอสำเหนียกตัวเองได้บ้าง

"ได้ครับ ท่านราชัน"

“ท่านเจ้าเมือง!”

ก็แค่นี้ ทำอ้อยอิ่งยืดเยื้ออยู่ได้ ผมลุกขึ้นเดินออกให้พ้นๆ สองนายบ่าวที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นน่ารังเกียจ

พอเปิดประตูออกมา บอดี้การ์ดคนสนิทก็ทำหน้าตายเหมือนจะตายจริงๆ ทำเอาผมไม่สบอารมณ์ไปด้วย

ผมสั่งคนที่เฝ้าหน้าประตูมาตลอดสองชั่วโมง

"ภูผา รายงานมา"

คนกล้ามโตในชุดเครื่องแบบแอบจิ๊ปากอย่างกับผมจะไม่เห็น ก้มหน้าตอบให้หงุดหงิด

"ไม่พบขอรับ"

"กะอีแค่ปั๊มลูก ทำไมมันยากเย็นแบบนี้" พูดไม่ทันจบกลิ่นน่าสะอิดสะเอียนก็ลอยลอดบานประตูออกมา

“หึ น่าขยะแขยง” ผมมองค้อนคนด้านในที่กำลังทำกิจกามโดยมีบานประตูกั้นอยู่

ไอ้โลกเฮงซวยใบนี้มันน่าทำลายให้หมดสิ้น ไม่รู้ว่าจะสร้างกฎบ้าๆ นี่ขึ้นมาทำไม เพราะไอ้เงื่อนไขธรรมชาติห่วยแตกนี่แท้ๆ ที่ทำให้ชีวิตผมต้องยากลำบาก

ผมถอดสูทตัวนอกส่งให้คนข้างๆ ภูผาก็รับไปถืออย่างว่าง่าย

"ที่อัลฟ่าต้นกำเนิดเหลือแค่ท่านคนเดียวก็คงเพราะเหตุผลนี้ พวกสวะนี่เป็นสัตว์ป่าหรือไง"

ถึงจะได้รับรายงานว่าไม่พบ ไม่พบแบบนี้ทุกครั้ง แต่คนรายงานก็ยังทำหน้าไม่สู้ดีทุกครั้ง เหมือนที่ผมหงุดหงิดอยากขยำโลกทิ้งทุกครั้งเช่นกัน

"ช่างเถอะ รีบหาให้พบ เตรียมรถให้พร้อม ฉันจะเข้าผับ"

"ขอรับ"

……..

ผับชื่อดังอันดับ1ช่วงหัวค่ำบรรยากาศอย่างกับคอกหมู! พลังทำลายล้างยิ่งกว่าอัลฟ่ายีนเด่นสิบคนรุมผมซะอีก อยากล้างบางไอ้พวกที่เอาแต่เต้นแร้งเต้นกาให้หมด

"ท่านราชัน เอาสำลีอุดจมูกไหมขอรับ"

ผมยืนในชุดสบายๆ เสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็คดำ พอเปิดประตูลงรถที่หน้าผับ คนสนิทที่ยืนสแตนบายกับพวกทหารเฝ้าประตูก็ปรี่เข้ามาถาม แต่นั่นเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์

"ไร้สาระ"

พวกลูกกระจ๊อกเปิดประตู 2 บานออกกว้างอย่างต้อนรับ ทว่ายังไม่ต้องก้าวเดินแค่เปิดประตูผมก็อยากจะอ้วกออกมา

กลิ่นฟีโรโมนของอัลฟ่าและโอเมก้าชายหญิงน่าสะอิดสะเอียน!

"ท่านราชัน หน้าเขียวแล้วนะขอรับ ไหวไหมขอรับ"

ยิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิมเพราะไอ้คนถามไม่ออกอาการอะไรสักนิด แน่นอนว่าระดับคนธรรมดาคงไม่รู้สึกอะไร ไอ้กฎธรรมชาติเฮงซวยนั่นแหละที่มันทำให้เป็นแบบนี้

ผมรีบเดินจ้ำขึ้นไปห้องทำงานชั้น2แล้วปิดประตู

"ทำไมมีแต่ฉันที่ต้องเจอเรื่องบ้าๆ นี่ ขนาดนายเป็นอัลฟ่ายีนเด่นสุดๆ อย่างมากก็คงรู้ว่ามีคนปล่อยฟีโรโมนเมื่อมันเข้มข้นถึงระดับหนึ่ง"

คนถูกถามรีบโค้งตัวตอบทำอย่างกับเพิ่งเคยฟังประโยคนี้เป็นครั้งแรกอย่างนั้น น่าเบื่อจริงๆ

"กระผมไม่บังอาจตีเสมอท่านราชันขอรับ! ท่านราชันเป็นถึงยีนเด่นพันธุ์แท้ที่เกิดจากคู่แห่งโชคชะตาทั้งสองท่าน ดังนั้นต่อให้คนทั่วไปไม่ได้ปล่อยฟีโรโมนออกมา แต่ฟีโรโมนจางๆ ก็ไม่อาจหลุดรอดสายตาท่านราชันได้"

หมอนี่มันมองว่าเรื่องนี้เป็นข้อดีได้ยังไงนะถึงทำหน้าตาภูมิใจแทนแบบนั้น ผมไม่อ้วกตายก็ถือว่าแกร่งขนาดไหนแล้ว ลองมาได้กลิ่นนับร้อยที่ปนกันเหมือนถังขี้หมูดูสิ

"เฮ้อ” ผมเดินไปทิ้งตัวที่เก้าอี้บุหนังตรงโต๊ะทำงาน “พวกอัลฟ่าไม่เท่าไหร่ แต่กลิ่นพวกโอเมก้าชวนอ้วกสุดๆ ไปเลย นายต้องเร่งมือหน่อยแล้ว"

"ขอรับ"

แอ้ด

“ท่านราชันขอรับ!”

ผมเพิ่งหย่อนก้นไม่ถึงสองนาที ไอ้พวกกระจอกมันก็พรวดพราดเปิดประตูเข้ามาหน้าตาตื่น แต่เหมือนเจ้านี่จะนึกได้เลยหน้าซีดเหงื่อแต่พลักๆ ตรงปากประตู

กล้าเสียมารยาทต่อหน้าผม คงไม่อยากหายใจ

"มีอัลฟ่าคลุ้มคลั่งอาละวาดอยู่ข้างล่างขอรับ"

"บังอาจ กล้าดียังไงเปิดประตูเข้ามาตามอำเภอใจ" ภูผายกปืนเล็งคนมาใหม่ตามสัญชาตญาณ

แม้สถานการณ์จะหน้าสิ่วหน้าขวานแค่ไหน แต่คนที่ยืนตรงหน้าผมก็ยังเหนี่ยวไกปืนทำท่าจะยิง จนไอ้คนที่เข้ามาใหม่มันยืนขาสั่นริกๆ

จบงานนี้คงต้องตบรางวัลให้ภูผาหน่อยแล้ว

"ขะ…ขออภัยขอรับ ขออภัยขอรับท่านราชัน ได้โปรดไว้ชีวิตกระผม"

ก็แค่อัลฟ่าอาละวาดแท้ๆ ลูกน้องผมทั้งหมดก็เป็นอัลฟ่า เวลาอาละวาดไม่เห็นมีใครตื่นตูมแบบหมอนี่

โทษฐานที่ก่อความวุ่นวายโดยใช่เหตุ คงต้องให้ภูผายิงแขนไม่ก็ขาสักข้าง

"ทะ ท่านราชัน"

อัลฟ่าขาล้มพับลงไปคุกเข่า เขกหัวลงพื้นราวกับว่าโยนศักดิ์ศรีของความเป็นอัลฟ่าทิ้งไปหมดแล้ว ภูผาก็กำลังรอรับคำสั่ง ถ้าผมไม่ให้อภัยเขาก็จะลั่นไกทันที

"อะ อัลฟ่ายีนเด่นขอรับ”

"ภูผา" สิ้นคำบอดี้การ์ดคนสนิทก็เก็บอาวุธกลับเข้าไป

คนตัวสั่นก็ยังสั่นไม่หยุด แม้กระทั่งเสียงที่พูดต่อก็ยังสั่น “คนที่อาละวาดเป็นอัลฟ่ายีนเด่น เลยไม่มีใครหยุดเขาได้เลยขอรับ”

"หึ ก็แค่พวกกลายพันธุ์ ต่อให้เป็นยีนเด่นพิเศษก็แค่พวกสวะ"

ผมบ่นก่อนจะลุกเดิน ก้าวข้ามหัวไอ้คนไม่ได้เรื่องออกไป

โครม!

พอลงมาชั้นล่างก็เห็นผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่งกำลังทำเรื่องไร้สาระปัญญาอ่อนอย่างการเอาโต๊ะใหญ่ๆ ทุ่มลงพื้น แววตาเป็นประกายสีน้ำเงิน

แบบนี้คลั่งชนิดไร้สติ300%

น่ารำคาญ

"เฮ้ย!" ผมตะโกนเรียกความสนใจจากเจ้าตัวน่ารำคาญ รอบข้างตกอยู่ในความเงียบทันที ก่อนผมจะเอ่ยบอก "ทุกคนปิดจมูก"

บอดี้การ์ดกับเด็กในร้านต่างพากันเอาสำลีที่เหน็บไว้ตามจุดต่างๆ ของร่างกายออกมาปิดปากทางหายใจของตัวเอง

ช่วยไม่ได้ ถ้าจะโทษก็ไปบ่นกับยมบาลเอาเองแล้วกัน

ผมปล่อยฟีโรโมนพี่กักเก็บไว้ในยามปกติออกมา ทันใดนั้นอาณาเขตรอบข้างก็ปกคลุมไปด้วยควันสีม่วง ไอ้ตัวที่บอกว่าคลุ้มคลั่งน่ารำคาญนั่นสลบเหมือดลงไปอย่างไร้พิษสง

ทั้งที่กากขนาดนี้แท้ๆ

“น่าเบื่อ”

ไม่ใช่แค่คนที่อาละวาด แต่คนอื่นๆ ตั้งแต่หน้าประตูมาจนถึงในร้านแม้แต่คนที่อุดจมูกแล้วก็พากันสลบล้มพับ ผมเอือมระอากับภาพนี้เต็มทน

ตอนนี้คนที่ยังมีสติอยู่ภายในร้าน ก็เหลือแต่ผมกับภูผาเท่านั้น

"ดีนะครับที่ผมอุดจมูกทัน" ภูผาแอบบ่น เขาเดินตามลงมาสมทบทั้งที่รูจมูกสองข้างยังมีก้อนสีขาวๆ คาอยู่ แต่ก็ยังทำหน้าตาดูทึ่งนิดๆ “ท่านราชันโอเคไหมขอรับ”

"นี่แหละเป็นสาเหตุว่าทำไมพวกพันธุ์แท้ถึงเหลือน้อย ถ้าได้เสียกับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่แห่งโชคชะตา ไม่ใช่แค่เด็กที่เกิดมาจะเป็นพวกกลายพันธุ์ แต่พลังอำนาจของฟีโรโมนตัวเองก็จะลดลง ต่อให้ตอนนั้นเจอคู่แห่งโชคชะตาก็ไม่อาจกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว"

"กระผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาคนคนนั้นให้พบขอรับ ท่านราชันโปรดวางใจ ถ้าเป็นคำสั่งของท่านราชัน ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟหรือตัดแขนตัดขาคนคนนั้นกระผมก็จะลากตัวมาให้ได้"

ถ้าไม่มีกฎบ้าๆ นี่ละก็ ชีวิตผมคงไม่ต้องวุ่นวายขนาดนี้ บางทีถ้าหาตัวมันยาก การล้างบางพวกคนในอาณาจักรอาจจะง่ายกว่าก็ได้

“ถ้าวันหนึ่งฉันฆ่าคนสักล้านคนจะเป็นยังไงนะ”

…….

">

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ElGSi

ข้อมูลเพิ่มเติม
เบียร์จะกินไวน์

เบียร์จะกินไวน์

นิยายวาย

5.0

ไวน์ นักศึกษาปี 2 เดือนคณะผู้ปฏิญาณตนว่าจะโสดตลอดไป เจ้าของใบหน้าหล่อออกหวานนิดๆแบบเกาหลี คนที่วันๆอยู่กับการวิ่งไปแย่งคอมตัวแรงเพื่อดูหุ้นไม่ก็จมหัวอยู่ที่ร้านหมูกะทะ เรื่องโน่นนี่ไม่สนก็จริง แต่ใครอย่ามาปากหมาใส่แล้วกัน แปลงร่างเป็นพิตบูทันที เบียร์ เอกอินเตอร์บริหาร คุณชายตระกูลดังขี้รำคาญ ใบหน้าหล่อคมที่ใครๆก็บอกว่าควรขึ้นตำแหน่งเดือนมหาลัย คุณชายที่ขับรถหรู ใช้ของแบรนด์เนมทั้งตัว แต่ติดที่ปากเสีย ขี้เหวี่ยง ไม่คบค้าสมาคมกับใคร ขู่ได้แม้กระทั่งอธิการบดี ꧁{★… ★}꧂ ไอ้ผู้ชายปากหมานั่นใครวะ หยิ่งฉิบหาย พอแหย่เขาแล้วเขาไม่เล่นด้วย ไวน์เลยตามตอแยทุกวิถีทาง แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้คิดอะไรนะ ด่าเขาปาวๆ บอกแค่จะเอาของมาคืน! เบียร์เห็นก็เลยแก้เผ็ด วุ่นวายดีนัก ตีหัวรวบเข้าบ้านเลยแล้วกัน “อย่าดื้อ หมอสั่ง” “หรือวะ หมอสั่งให้กูอยู่กับมึงนานขนาดนี้เลย?” ฟอด!!! คุณตำรวจ มีคนลวนลาม! “ไอ้เห้เบียร์!!” ꧁{★… ★}꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ

ท่านอ๋องสามีข้าเป็นบ้า

ท่านอ๋องสามีข้าเป็นบ้า

โรแมนติก

5.0

เหมยลี่ อายุ 25 ปี คุณหนูผู้ร่ำรวย สาวตากลมตัวเล็กผิวขาวมาดซีอีโอนุ่มนิ่ม เธอใช้เงินบัลดาลทุกอย่างตามใจ ไม่แคร์โลก ใครจะรู้ว่าภายใต้หน้ากากของซีอีโอสาวสุดเพอร์เฟค จะเต็มไปด้วยเรื่องราวของนิยายในหัว แถมมีอยู่เรื่องเดียวซะด้วย งานนี้งานการไม่ทำมันแล้ว มู่จิน พระเอกนิยายติงต๊อง ที่ฆ่าเมียตัวเองตายในคืนเข้าหอ ชายหนุ่มร่างใหญ่เจ้าของเรือนผมดำยาวและสันกรามทรงเสน่ห์ เขามีประวัติความเป็นมาหรือเรื่องราวของเขาเป็นมาอย่างไร ไม่มีผู้ใดรู้ได้ เขาเบื่อหน่ายโลกใบนี้เต็มทน ชีวิตคนสำหรับเขาก็เป็นเพียงเศษหญ้าเท่านั้น ꧁⊱ ⊰꧂ เพราะถูกรถชนตายตอนที่เพิ่งอ่านนิยายจบรอบที่ 99 ยังไม่ครบร้อย พอลืมตามาก็อยู่ในร่างตัวประกอบ ไม่ใช่นางเอกไม่พอยังต้องแต่งงานกับคนบ้า 'เหมยลี่' คนนี้เลยต้องพยายามฆ่าเจ้าบ่าวในห้องหอ ก่อนที่เธอจะถูกเขาฆ่าตามบทในนิยายอีกครั้ง แต่แล้ว ความพยายามของเธอก็ไร้ค่า เธอตายอีกครั้งแล้วไม่ได้กลับโลกเดิม แต่ย้อนกลับมาที่คืนเข้าหอ ทว่าทำไมรอบนี้คุณพระเอกเจ้าบ่าวมองเธอตาเยิ้มขนาดนั้นล่ะเนี่ย ꧁⊱ ⊰꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ*

ก็บอกว่าไม่ใช่พระรองไงฟ้ะ

ก็บอกว่าไม่ใช่พระรองไงฟ้ะ

นิยายวาย

5.0

เตียวเฉิน ก่อนตายเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ในโลกใหม่ เขาเป็นพระรองมาดแมนแม้ตัวจะไม่มีกล้ามแซงหน้าพระเอก ในเมื่อเกิดมาหล่อ รวย หน้าตาการศึกษาดี แต่ข้างในวิญญาณไม่มีความรู้สักกะติ๊ด เขาจึงพยายามใช้สมองอันน้อยนิดหาหนทางรอด ด้วยการ มุดโพลงหมาลอดออกไปเป็นขอทานเสียเลย มู่จิน พระเอกของโลกใบนี้ นักธุรกิจและผู้มีอำนาจที่สุดในเมือง ชายหุ่นกล้ามที่ชอบใส่สูทผูกไทป์ แล้วหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน สีหน้าของเขาเยือกเย็นตลอดเวลา อะไรๆในโลกก็น่ารำคาญไปหมด ยกเว้นวันที่เห็นตัวอะไรปีนเข้าบ้าน ꧁{★… ★}꧂ เกิดใหม่ก็ต้องดิ้นรนหนีออกจากบ้าน พอนึกไปแล้ว เข้าร่างพระรองมาได้ไม่กี่เดือน แต่เดี๋ยก็ถึงเวลาที่พระเอกนายเอกเขาก็จะเจอกันแล้ว ผมก็ชิงหนีออกไปเป็นขอทานก่อนน่ะสิ เรื่องอะไรจะอยู่รอแบดเอ็น เอ๊ะ ผู้ชายที่เปลื่อยกายนั่นหน้าคุ้นๆ ทำไมบ้านที่ผมปีนกำแพงเข้าไปมันดันเป็นบ้านพระเอกล่ะ ซวยแล้ว งั้นตีเนียนไม่รู้ไม่ชี้ก่อนแล้วกัน ทั้งที่ตั้งใจจะอยู่ที่นี่อีกนิดเดียวแท้ๆ พวกคนใช้เองก็บูลลี่กันอยู่ได้ ผมมั่นใจว่าพระเอกต้องโยนผมออกไปในไม่ช้า เขาน่ะระแวงผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่... แปลกๆ นะ ขอทานแล้วได้เสื้อผ้า อาหาร เพชรพลอย ที่แปลกกว่าคือ พอผมอาละวาทพังบ้าน เกิดอะไรขึ้นรู้ไหม เจ้าของบ้านซื้อเฟอร์ใหม่มาให้พังเพิ่มน่ะสิ วันๆหัวจะปวด เขาจับผมมัดตั้งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในห้องทำงาน แล้วก็เอาแต่นั่งครุ่นคิดว่าพรุ่งนี้จะเอาอะไรมาให้ตอนผมขอทานดี ผมนี่ขมวดคิ้วเลย ꧁{★… ★}꧂

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

Crimson Syntax
5.0

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"

ข้าโหด ทว่าข้าคือสุดที่รักของท่านอ๋อง

ข้าโหด ทว่าข้าคือสุดที่รักของท่านอ๋อง

Samuel Wren
5.0

เสิ่นสุยยินถูกบังคับให้ดำรงชีวิตในสถานะที่ด้อยกว่าตั้งแต่เด็ก การถูกกดขี่มาอย่างยาวนานไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองแม้แต่น้อย การตกต่ำของตระกูลเสิ่นในสายตาของคนภายนอกดูเหมือนจะเป็นความเสื่อมของตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นโอกาสเดียวของเสิ่นสุยยินที่จะกลับคืนสู่ชีวิตใหม่ นางต่อสู้กับคนอื่นเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่ทว่ากลับไม่รู้ว่าทุกแผนการของนาง เขากำลังจ้องตามองอยู่ ลู่จินหวยให้นางหลอกใช้ตนเองเป็นประโยชน์ได้ตามอำเภอใจของนาง แต่ไม่เคยให้นางต้องเปื้อนเลือดแม้แต่นิด สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงตัวนางเท่านั้น “เสิ่นสุยยิน ทางที่ดีเจ้าจะแกล้งทำไปตลอดชีวิต”

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.8

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ