เรื่องราวความรักของทั้งห้าคู่ ที่มีอุปสรรค ที่เรียกว่าความฝันของแต่ละคน มาขวางกั้น เกิดเป็นความรัก ที่ไม่อาจเปิดเผยได้ ด้วยเส้นเรื่องของแต่ละคู่ ที่มีรสชาติที่แตกต่างกับอุปสรรค ที่ไม่เหมือนกัน
สามปีก่อนหน้านี้
“ฟ้าเสร็จหรือยังลูก”
“ค่ะ เสร็จแล้ว”
เสียงหวานจากคนเป็นเจ้าของฉันเอ่ยปากตอบกลับคนมีศักดิ์เป็นแม่ขึ้นมาพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ดังก้องของหญิงวัยยี่สิบปีวิ่งลงจากบันไดบ้านเสียงของมีศักดิ์เป็นแม่เอ่ยปากเธอเสียงดุเล็กน้อย
“เดียวสิลูกวิ่งลงบันไดเสียงดัง”
“รบกวนผีบ้านผีเรือน”
“ขอโทษค่าาา ก็หนูรีบนี่นา”
“อีกเดียวพี่เจ้าขุนก็จะมารับแล้วด้วย”
เธอเอ่ยปากบอกคนมีศักดิ์เป็นแม่เสียงหวานวิ่งไปหยิบแซมวิซมื้อเช้า ที่คนเป็นแม่ทำไว้ให้เข้าปาก วิ่งออกไปสวมร้องเท้าคู่โปรดของตัวเองพอดีกับที่ชายหนุ่มเจ้าของชื่อที่เธอเอ่ยถึงเลี้ยวเขามาจอดหน้าประตูทางเข้าบ้านของหญิงสาวทันทีพร้อมรอยยิ้มละมุน มองมาที่หญิงสาวคนรักของตัวเองเดินเข้ามารับหญิงสาวที่ยืนรอรับ ตัวเองอยู่หน้าบ้านพร้อมกับคนเป็นแม่
“สวัสดีครับ คุณแม่”
“จ้า มารับลูกสาวแม่ใช้ไหมลูก”
“ไปเที่ยวกันให้สนุกนะจ้ะ”
“แม่ฝากลูกสาวแม่ด้วย”
คนเป็นแม่บอกกับชายหนุ่มขึ้นมาพร้องรอยยิ้ม ชายหนุ่มยิ้มรับพยักหน้าให้กลับคนอายุมากกว่าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามหญิงสาวคนรักของตัวเองขึ้นมา พร้อมรอยยิ้มละมุน
“พร้อมหรือยังครับ สาวน้อย”
ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวคนรักขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ยกมือหนาของตัวเองไปตรงหน้าหญิง ยิ้มให้กับคนเป็นแม่ของหญิงสาวเป็นการขออนุญาต
คนเป็นแม่ยิ้มรับพยักเบาๆเป็นการอนุญาตลูกสาวตัวเองเล็กน้อยก่อนที่หญิงสาวจะวางมือลงบนมือหนาเบาๆ ก่อนที่ทั้งสองคนจะพากันเดินไปที่รถ ของชายหนุ่ม ขับเคลื่อนออกจากหน้าบ้านของหญิงสาว
“อ่าว ยัยฟ้า ไปแล้วเหรอค่ะ”
เสียงหวานจากคนเป็นพี่สาวเอ่ยปากถามคนเป็นแม่ของตัวเองขึ้นพร้อมรอยยิ้มในชุดนอนครบชุด คนเป็นแม่พยักหน้าให้กับลูกสาวคนโตของตัวเองพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยปากบอกกับลูกสาวคนโตของตัวเอง
“ลูกเอง ว่าก็ว่าเถอะ”
“ใกล้ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วไม่ใช้เหรอจ้ะ”
“รีบไปอาบน้ำได้แล้ว”
“เดียวไม่ทันขึ้นเครื่องนะ”
“จริงด้วย”
“เสียดายจัง”
“อย่างเจอหน้าแฟนยัยฟ้าสักครั้ง”
อิงดาวเอ่ยปากบอกกับคนเป็นแม่ขึ้นมาอย่างเสียดาย ก่อนที่หญิงสาวจะจำใจเดินกลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยก่อนจะกลับลงมาด้านล่างอีกครั้งพร้อมกับกระเป๋าเดินทางของตัวเองหอมแก้มของคนเป็นแม่หนึ่งทีหยิบแซมวิซติดมือตัวเองหนึ่งชิ้นเดินออกจากบ้านของตัวเองไปขึ้นรถของคนรักของตัวเองเดินทางไปที่สนามบิน
“ฟ้า อยากไปไหนอีกหรือเปล่าค่ะ”
เสียงของพี่เจ้าขุนเอ่ยปากถามฉันที่กำลังเลือกซื้อเครื่องเขียนของตัวเองขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม ฉันส่ายหัวเบาๆเป็นการตอบคำถามของคนอายุมากกว่า
ก่อนเอ่ยปากถามคนอายุมากกว่าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มวางเครื่องเขียนที่อยู่ในมือตัวเองลงยกมือบางจับที่หน้าของคนอายุมากกว่า
“พี่นั้นและเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะมาเที่ยวกับฟ้าไม่สนุกเหรอ”
“เห็นทำหน้าเครียดตลอดเลยนะคะวันนี้”
สิ้นประโยคดังกล่าวของฉันคนอายุมากกว่าจับมือฉันแนบกับแก้มตัวเองเบาๆก้มลงหอมที่หลังมือของฉันเล็กน้อยก่อนที่คนอายุมากกว่าจะเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมา
“ฟ้า หลายวันก่อน…”
“ก็ไปสิค่ะ ความฝันพี่ไม่ใช้เหรอ”
“พี่ไปเถอะ”
“ฟ้าโอเค”
“ความฝันพี่ ฟ้าเต็มใจให้พี่ไปค่ะ”
“พี่ไปเถอะนะค่ะ”
“ฟ้าจะค่อยซัพพอร์ทพี่อยู่ตรงนี้”
“พยายามเข้านะคะ”
“ฟ้าเองก็มีความฝันของฟ้าพี่เองก็มีความฝันของพี่ฟ้ากับพี่มีความฝันที่แตกต่าง แม้จะต้องแยกจากกัน ในวันนี้ไม่ใช้ว่าอนาคตความฝันของเราทั้งสองคนจะไม่มาบรรจบกันนะคะ”
ฉันเอ่ยปากบอกกับคนอายุมากขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม จับแก้มของคนอายุมากกว่าอีกครั้ง ยิ้มให้กับคนอายุมากกว่า คนอายุมากกว่าพยักหน้ารับคำทั้งน้ำตา
“คบกับพี่มาตั้งหลายปี เพิ่มรู้นะคะเนี่ย ว่าพี่เจ้าขุนของฟ้าขี้แย แบบนี้ ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่เจ้าขุนจะเป็นของฟ้าแค่คนเดียวแล้วมาเก็บความทรงจำครั้งสุดท้ายด้วยกันดีกว่านะคะ”
“จะได้จากลากันด้วยดีรอวันที่เส้นทางของพี่กับฟ้าโคจรกลับพบกัน ตอนนี้พี่นำหน้าฟ้าไปหนึ่งก้าวแล้วนะคะ”
“อย่างก้าวเร็วนักนะคะ รอฟ้าด้วย”
แม้ปากของฉันจะพูดแบบนั้นกับคนอายุมากกว่าไป แต่ถ้าในอนาคตพี่เจ้าขุนก้าวไปไกลเกินกว่าที่ฉันจะไล่ทันฉันก็พอที่จะซัพพอร์ทพี่เจ้าขุนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลก
“เดินทางปลอดภัยนะคะ”
ฉันเอ่ยปากพูดขึ้นมาเสียงแผ่วเบา เบาจนเหมือนเสียงกระซิบ ไม่ให้พี่เจ้าขุนได้ยืน
มือหนาของพี่เจ้าขุนเอื้อมมาจับมือฉันไว้ก่อนที่พี่เจ้าขุนจะเดินนำฉันออกจากร้านเครื่องเขียนไป พาฉันเดินกลับมาที่รถก่อนที่พี่เจ้าขุนจะขุบเคลื่อนรถออกจากลานจอดรถภายใน เซ็นทรัลของจังหวัดเชียงใหม่
“พาฉันไปที่ผาปันดาว ที่ลับของพี่เจ้าขุน พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้ว”
พี่เจ้าขุนเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม พร้อมกับรถของพี่เจ้าขุนจะชะลอหยุดลงท้องฟ้าถูกย้อมด้วยแสงจากพระอาทิตย์ที่กำลังเคลื่อนลงจากท้องฟ้า
“สวยจังนะคะ”
ฉันเอ่ยปากบอกกับพี่เจ้าขุนขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม รอจนพระอาทิตย์ตกดินหายลับจากท้องฟ้าเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของวัน ใบหน้าของฉันถูกประคองด้วยมือของอายุมากกว่าก่อนที่คนอายุมากกว่าจะก้มลงหอมที่หน้าผาของฉันแผ่วเบาเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมา พร้อมรอยยิ้ม
“มะจำไว้ก่อนนะครับ”
“พี่จะรอนะ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของคนอายุมากกว่ามือหนาของคนอายุมากกว่าก็หยิบสร้อยที่ร้อยด้วงแหวนเงินที่แกะสระเป็นรูปอักษรย่อของชื่อพี่เจ้าขุนกับฉันขึ้นมา พร้อมรอยยิ้ม
ก่อนที่พี่เจ้าขุนจะสวมสร้อยที่แกะสระเป็นอักษรย่อ ตัว J ใส่ให้กับฉันก่อนที่พี่เจ้าขุนจะส่งสร้อยอีกเส้นที่ร้อยด้วยแหวนที่แกะสระเป็น ตัว I ให้กับฉัน ก่อนที่พี่เจ้าขุนจะเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม
“ใส่ให้พี่หน่อยนะครับ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของพี่เจ้าขุนฉันยิ้มให้กับพี่เจ้าขุนเล็กน้อยพยักหน้ารับคำให้กับพี่เจ้าขุนก่อนที่ฉันจะสวมสร้อยคอเส้นนั้นให้กับพี่เจ้าขุนพร้อมรอยยิ้ม
ก่อนที่พี่เจ้าขุนจะขับเคลื่อนรถออกจากผาปันดาว ไม่ส่งฉันหน้าบ้านก่อนที่พี่เจ้าขุนจะขับรถกลับบ้านของตัวเองไป ประโยคสุดท้ายที่ฉันกับพี่เจ้าขุนบอกลากัน
“จะรอวันที่เรากลับมาพบกัน”
“ถึงตอนนั้น…”
“พี่จะไม่ปล่อยมือฟ้าแล้วนะครับ”
บทที่ 1 บทนำ
29/10/2024