Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
My year love ลุ้นรักล่าฝัน(หัวใจ)นี้มีแค่เธอ

My year love ลุ้นรักล่าฝัน(หัวใจ)นี้มีแค่เธอ

Ailnda-อลิดา

5.0
ความคิดเห็น
6
ชม
10
บท

เรื่องราวความรักของทั้งห้าคู่ ที่มีอุปสรรค ที่เรียกว่าความฝันของแต่ละคน มาขวางกั้น เกิดเป็นความรัก ที่ไม่อาจเปิดเผยได้ ด้วยเส้นเรื่องของแต่ละคู่ ที่มีรสชาติที่แตกต่างกับอุปสรรค ที่ไม่เหมือนกัน

บทที่ 1 บทนำ

บทนำ

00

สามปีก่อนหน้านี้

“ฟ้าเสร็จหรือยังลูก”

“ค่ะ เสร็จแล้ว”

เสียงหวานจากคนเป็นเจ้าของฉันเอ่ยปากตอบกลับคนมีศักดิ์เป็นแม่ขึ้นมา พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ดังก้องของหญิงวัยยี่สิบปีวิ่งลงจากบันไดบ้าน เสียงของมีศักดิ์เป็นแม่เอ่ยปากเธอเสียงดุเล็กน้อย

“เดียวสิลูกวิ่งลงบันไดเสียงดัง”

“รบกวนผีบ้านผีเรือน”

“ขอโทษค่าาา ก็หนูรีบนี่นา”

“อีกเดียวพี่เจ้าขุนก็จะมารับแล้วด้วย”

เธอเอ่ยปากบอกคนมีศักดิ์เป็นแม่เสียงหวานวิ่งไปหยิบแซมวิซมื้อเช้า ที่คนเป็นแม่ทำไว้ให้เข้าปาก วิ่งออกไปสวมร้องเท้าคู่โปรดของตัวเองพอดีกับที่ชายหนุ่มเจ้าของชื่อที่เธอเอ่ยถึง เลี้ยวเขามาจอดหน้าประตูทางเข้าบ้านของหญิงสาวทันทีพร้อมรอยยิ้มละมุน มองมาที่หญิงสาวคนรักของตัวเอง เดินเข้ามารับหญิงสาวที่ยืนรอรับ ตัวเองอยู่หน้าบ้านพร้อมกับคนเป็นแม่

“สวัสดีครับ คุณแม่”

“จ้า มารับลูกสาวแม่ใช้ไหมลูก”

“ไปเที่ยวกันให้สนุกนะจ้ะ”

“แม่ฝากลูกสาวแม่ด้วย”

คนเป็นแม่บอกกับชายหนุ่มขึ้นมาพร้องรอยยิ้ม ชายหนุ่มยิ้มรับพยักหน้าให้กลับคนอายุมากกว่าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามหญิงสาวคนรักของตัวเองขึ้นมา พร้อมรอยยิ้มละมุน

“พร้อมหรือยังครับ สาวน้อย”

ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวคนรักขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ยกมือหนาของตัวเองไปตรงหน้าหญิง ยิ้มให้กับคนเป็นแม่ของหญิงสาวเป็นการขออนุญาต

คนเป็นแม่ยิ้มรับพยักเบาๆเป็นการอนุญาตลูกสาวตัวเองเล็กน้อยก่อนที่หญิงสาวจะวางมือลงบนมือหนาเบาๆ ก่อนที่ทั้งสองคนจะพากันเดินไปที่รถ ของชายหนุ่ม ขับเคลื่อนออกจากหน้าบ้านของหญิงสาว

“อ่าว ยัยฟ้า ไปแล้วเหรอค่ะ”

เสียงหวานจากคนเป็นพี่สาวเอ่ยปากถามคนเป็นแม่ของตัวเองขึ้นพร้อมรอยยิ้มในชุดนอนครบชุด คนเป็นแม่พยักหน้าให้กับลูกสาวคนโตของตัวเองพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยปากบอกกับลูกสาวคนโตของตัวเอง

“ลูกเอง ว่าก็ว่าเถอะ”

“ใกล้ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วไม่ใช้เหรอจ้ะ”

“รีบไปอาบน้ำได้แล้ว”

“เดียวไม่ทันขึ้นเครื่องนะ”

“จริงด้วย”

“เสียดายจัง”

“อย่างเจอหน้าแฟนยัยฟ้าสักครั้ง”

อิงดาวเอ่ยปากบอกกับคนเป็นแม่ขึ้นมาอย่างเสียดาย ก่อนที่หญิงสาวจะจำใจเดินกลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยก่อนจะกลับลงมาด้านล่างอีกครั้ง พร้อมกับกระเป๋าเดินทางของตัวเองหอมแก้มของคนเป็นแม่หนึ่งที หยิบแซมวิซติดมือตัวเองหนึ่งชิ้นเดินออกจากบ้านของตัวเองไปขึ้นรถของคนรักของตัวเองเดินทางไปที่สนามบิน

“ฟ้า อยากไปไหนอีกหรือเปล่าค่ะ”

เสียงของพี่เจ้าขุนเอ่ยปากถามฉันที่กำลังเลือกซื้อเครื่องเขียนของตัวเองขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม ฉันส่ายหัวเบาๆเป็นการตอบคำถามของคนอายุมากกว่า

ก่อนเอ่ยปากถามคนอายุมากกว่าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มวางเครื่องเขียนที่อยู่ในมือตัวเองลงยกมือบางจับที่หน้าของคนอายุมากกว่า

“พี่นั้นแหละ เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ มาเที่ยวกับฟ้าไม่สนุกเหรอค่ะ”

“เห็นทำหน้าซีเรียจทั้งวันเลย พี่มีอะไรบอกฟ้าได้นะคะ พี่เจ้าขุน”

สิ้นประโยคดังกล่าวของฉันคนอายุมากกว่าจับมือฉันแนบกับแก้มตัวเองเบาๆก้มลงหอมที่หลังมือของฉันเล็กน้อยก่อนที่คนอายุมากกว่าจะเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมา

“ฟ้า หลายวันก่อน…”

“ก็ไปสิค่ะ ความฝันพี่ไม่ใช้เหรอ”

“พี่ไปเถอะ”

“ฟ้าโอเค”

“ความฝันพี่ ฟ้าเต็มใจให้พี่ไปค่ะ”

“พี่ไปเถอะนะค่ะ”

“ฟ้าจะค่อยซัพพอร์ทพี่อยู่ตรงนี้”

“พยายามเข้านะคะ”

“ฟ้าเองก็มีความฝันของฟ้า พี่เองก็มีความฝันของพี่ฟ้ากับพี่มีความฝันที่แตกต่าง แม้จะต้องแยกจากกัน ในวันนี้ ไม่ใช้ว่าอนาคตความฝันของเราทั้งสองคนจะไม่มาบรรจบกันนะคะ”

ฉันเอ่ยปากบอกกับคนอายุมากขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม จับแก้มของคนอายุมากกว่าอีกครั้ง ยิ้มให้กับคนอายุมากกว่า คนอายุมากกว่าพยักหน้ารับคำทั้งน้ำตา

“คบกับพี่มาตั้งหลายปี เพิ่มรู้นะคะเนี่ย ว่าพี่เจ้าขุนของฟ้าขี้แย ขนาดนี้ ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่เจ้าขุนจะเป็นของฟ้าแค่คนเดียวแล้วมาเก็บความทรงจำครั้งสุดท้ายด้วยกันดีกว่านะคะ”

“จะได้จากลากันด้วยดี รอวันที่เส้นทางของพี่กับฟ้าโคจรกลับพบกัน ถึงตอนนั้นเราค่อยกลับมาคบกันอีกครั้งก็ได้”

“ถ้าความรู้สึกของพี่ที่มีให้ฟ้า ยังเหมือนเดิม”

แม้ปากของฉันจะพูดแบบนั้นกับคนอายุมากกว่า แต่แล้วในใจลึกๆของฉันก็ยังคงหวัง หวังว่าในอนาคตหน้าความรู้สึกของพี่เจ้าขุนที่มีให้ฉันยังคงเหมือนเดิม แม้เพียงแค่นิดเดียวก็ยังดี

“เดินทางปลอดภัยนะคะ”

ฉันเอ่ยปากพูดบอกคนตรงหน้าเสียงแผ่วเบา แต่ก็เบาไม่มากพอที่เจ้าขุนจะไม่ได้ยิน พร้อมหยดน้ำตาของฉันที่หยดลงมาลงบนหลังมือของพี่เจ้าขุน จนพี่เจ้าขุนจับสังเกตได้

“ร้องไห้เหรอครับ”

เสียงอ่อนโยนจากพี่เจ้าขุนถามฉันขึ้นมาก่อนที่พี่เจ้าขุนจะยกมือหนาของตัวเองขึ้นเช็คน้ำตาให้กับฉันอย่างเบามือ

รอยยิ้มอ่อนโยนปรากบนใบหน้า ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากตอบปฏเสธพี่เจ้าขุนเสียงแข็ง

“ไม่ใช้สักหน่อยฝุ่นมันเข้าตาฉันตังหาก”

ส่งประโยคดังกล่าวของฉันพี่เจ้าขุนหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนที่พี่เจ้าขุนจะเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมา

“ครับๆไม่ร้องฝุ่นมันเข้าตาสินะครับ”

“โอเคครับ พี่เชื่อก็ได้ครับ”

สิ้นประโยคดังกล่าวของพี่เจ้าขุน รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของฉัน ก่อนที่พี่เจ้าขุนจะจุงมือฉันเดินกลับไปที่รถ พร้อมกลับล้อรถที่หมุนออกจากลานจอดรถ พาฉันไปที่ไหนสักแห่ง

ล้อรถชะลอหยุดลงหน้าชายหาดขาวของที่ไหนสักแห่งพอกับแสงทอจากพระอาทิตย์ที่ตกดิน ย้อนสีท้องฟ้าให้กลายเป็นสีแดง จนฉันไม่อาจละสายตาจากมันได้

“สวยจัง” ^-^

“ขอบคุณนะคะ ที่พาฟ้ามาดูพระอาทิตย์ตกดินสวยแบบนี้ ฟ้าจะเก็บมันเอาไว้เป็นความทรงจำสุดท้ายระหว่างเราสองคนนะคะ จะไม่ลืมเด็ดขาด”

“ไม่ลืมแน่นอน”

“ไม่ลืม ไม่ลืม ไม่มีวันลืม”T_T

“ไม่ลืมจริงๆนะคะ ฟ้าจะไม่ลืมมันเด็ดขาด…”

ฉันเอ่ยปากบอกกับพี่เจ้าขุนขึ้นมาเสียงแผ่วเบาพร้อมรอยยิ้ม มือบางเยอะขึ้นเช็คไปที่ขอบตาของตัวเองที่มีน้ำใสๆหยดลงแผ่วเบา รอจนพระอาทิตย์ตกดินหายลับจากขอบฟ้า เป็นช่วงเวลาสุดท้าย ใบหน้าของฉัน ถูกประคองด้วยมือหนาของคนอายุมากกว่า ริมฝีปากหนาบรรจบลงประดับที่หน้าผาของฉันแผ่วเบา ก่อนริมฝีปากของคนอายุมากกว่าจะคี่ยิ้มอ่อนโยนออกมา เอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมาพร้อมเสียงแผ่วเบาเป็นเสียงกระซิบ

“มะจำเอาไว้ก่อนนะครับ”

สิ้นประโยคดังกล่าวของคนอายุมากกว่า มือหนาของคนอายุมากกว่าก็หยิบสร้อยที่ร้อยด้วยแหวนสีเงินที่แกะสระเป็นอักษรย่อที่เป็นชื่อของอายุมากกว่ากับอักษรย่อชื่อของฉันพร้อมรอยยิ้ม

ก่อนที่คนอายุมากกว่าจะสวมสร้อยที่แกะสระเป็นอักษรย่อ ของคนอายุมากว่าให้กับฉัน พร้อมกับส่งสร้อยอีกเส้นหนึ่งมากให้กับฉัน รอยยิ้มของคนอายุมากกว่าปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของคนตรงหน้าก่อนที่คนตรงหน้าจะเอ่ยปากบอกกฉันขึ้นมา

“ใส่ให้พี่หน่อได้ไหม”

สิ้นประโยคดังกล่าวของพี่เจ้าขุนฉันยิ้มให้กับกับคนตรงหน้าเล็กน้อนก่อนที่ฉันจะรับสร้อยเส้นนั้นมาถือไว้ ก่อนที่ฉันจะสวมมันให้กับคนตรงหน้า พร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากบอกกับคนตรงหน้าขึ้นมาหลังจากฉันสวมสร้อยให้คนอายุมากกว่ากว่าเสร็จ

“เสร็จล้วค่ะ เดินทางปลอดภัยบนเส้นทางของพี่นะคะ”

“ฟ้าจะอยู่ตรงนีค่อยซัพพอร์ทพี่บนเส้นทางของฟ้า”

สิ้นประโยคดังกล่าวของฉัน คนอายุมากกว่าพยักหน้ารับคำพร้อมรอยยิ้มก่อนที่คนอายุมากกว่าจะเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมาเป็นครั้งสุดท้าย

“พี่จะรอวันที่เรากลับมาพบกันนะครับ”

“ถึงตอนนั้น…”

“พี่จะไม่ปล่อยมือฟ้าอีกแล้วนะครับ”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

สามีเถื่อนที่รัก

สามีเถื่อนที่รัก

B.J.BEN
5.0

โปรย เข้าห้องผิดชีวิตเปลี่ยน!!! +++ “เธอเป็นใคร” เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม สีหน้าที่รกไปด้วยหนวดเคราและร่างสูงใหญ่ที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งทำให้นิรินมีท่าทีหวาดกลัว ร่างบอบบางพยายามดิ้นแต่เขาข่มขู่เสียงเข้มทำให้เธอไม่กล้าดิ้น “ถ้าเธอดิ้นอีกฉันจะปาดคอเธอซะ” เขานึกครึ้มอกครึ้มใจอยากแกล้งคนขี้กลัว เธอหยุดกึกในขณะที่มือบอบบางถูกกดเอาไว้เหนือศีรษะ “ตอบคำถามมาเสียดีๆ ห้ามโวยวายกรีดร้องไม่งั้นได้เป็นศพก่อนจะมีคนมาช่วยแน่ๆ” พอเขาพูดแบบนั้นเธอก็รีบพยักหน้าทันที ร่างของเขายังคร่อมทับร่างของเธออยู่ หญิงสาวกลัวจนตัวสั่น พอเขาปล่อยเธอก็ทำท่าจะร้อง “อื้อ...” เขาก้มลงบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่ม เธอรัวกำปั้นทุบแผ่นหลังเขาระรัว พอเขาปล่อย เธอทำท่าจะกรีดร้องเขาก็บดจูบลงมาอีกครั้ง นิรินหอบหายใจระรัวเมื่อเขาปลดปล่อยริมฝีปากเธออีกหน “เธอเป็นใคร” เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม “ไอ้โจรห้าร้อย” “ใครบอกว่าฉันเป็นโจรห้าร้อย ทั้งเนื้อทั้งตัวมีอยู่ยี่สิบ ฉันเป็นโจรยี่สิบบาทต่างหากล่ะ” เธอกะพริบตาปริบๆ กับประโยคของเขา “เธอเป็นใคร” นรราชถามซ้ำ หรี่ตามองคนใต้ร่าง เขาเห็นใบหน้าของเธอไม่ชัดจึงเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียง แสงสลัวจากโคมไฟทำให้มองเห็นใบหน้าของสาวน้อยชัดเจน ใบหน้าหวานหยดคุ้นเคยนั้นทำให้นรราชชะงักงัน “ทำไมไม่ตอบคำถามล่ะ” เสียงของเขาเหมือนสำลักเมื่อได้เห็นใบหน้ากลมหวาน ดวงตากลมโต คิ้วโก่งเรียวงาม ริมฝีปากเต็มอิ่ม เขาอยากหอมแก้มสาวแรงๆ ด้วยความมันเขี้ยว “ลุงราช” นิรินจำเขาได้ หลานชายคนโตของคุณย่าทวดลักษณ์นาราผู้แสนใจดี แต่หลานชายของท่านโคตรใจร้าย แม้ใบหน้าของเขาจะรกไปด้วยหนวดเคราแต่เธอก็จำเขาได้ ปีหนึ่งจะได้เจอกันหนึ่งครั้ง บิดาของเธอกับนรราชไม่ใคร่จะลงรอยกันนัก และท่านก็ไม่ต้องการให้เธอยุ่งเกี่ยวกับเขาเป็นอันขาด...

แสนเถื่อนยอดรัก

แสนเถื่อนยอดรัก

มณีมายา/แอล/รมตี
5.0

คเชนทร์ หนุ่มหล่อ มาดดิบเถื่อน ผู้ใช้ชีวิตจากจุดต่ำสุด สู่จุดสูงสุดของชีวิต ในฐานะผู้บริหารระดับสูงของโรงแรมห้าดาว แม้ชีวิตจะรวยล้น มีทุกสิ่งราวเนรมิตร ทว่าอดีตอันเลวร้ายมันตามหลอกหลอน ไม่อาจทำให้เขาหลุดพ้นไปจากความกลัวได้ ทำให้คนเก่งอย่างเขากลัวที่สุด คือการไม่คู่ควรต่อสิ่งใด แม้กระทั่งความรัก บทเรียนรักสอนให้เขาเจียมตัวเจียมใจ และตอกย้ำกับตัวเองเสมอว่าเป็นเพียง ไอ้เชนทร์ เด็กกำพร้าไร้อนาคต เฝ้ารอแต่เพียงใครสักคนมาปลดล็อกความกลัวนั้น... หากคนนั้นจะเป็นเธอที่ฟ้าส่งมา เจ้าขา ทายาทเจ้าสัวหมื่นล้าน คุณหนูไฮโซที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง กับชีวิตที่เปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อเธอหนีขึ้นรถชายแปลกหน้าโดยไม่ให้เขารู้ และไม่รู้ว่าเขาคือใคร เพียงแต่เธออยากหนีไปให้สุดหล้าและทิ้งความเจ็บปวดเอาไว้เบื้องหลัง แต่หารู้ไม่ ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา... ทว่าเป็นคนที่พาเธอไปพบกับโลกใบใหม่ จนเธออยากจะทิ้งทุกอย่าง เพราะเขา มือหนาข้างหนึ่งยกปืน มืออีกข้างเปิดประตูรถออก แล้วจ่อปืนไปที่ร่างนั้นทันที แต่สิ่งที่เขาเห็นคือผู้หญิงในชุดแต่งงาน เธอร้องไห้พร้อมกับมองหน้าเขา ดวงตาบวมแดง เครื่องสำอางเปลอะเปื้อนไปหมด ไม่มีแม้แรงจะยกมือขึ้นมาห้ามปรามเพื่อไม่ให้เขาทำร้าย “คุณ! ผะ! ผะ! ผีหรือคนเนี่ย” เขาถามเสียงสั่น ทว่าสิ้นคำของเขา เธอก็เบ้ปากร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ร้องจนตัวโยนเลยทีเดียว เขาจำต้องเก็บปืนแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ สัมผัสได้ถึงความแย่ และความเดือดร้อนมันกำลังมาถึงแน่ๆ “ขอโทษที่ติดรถคุณมา” หญิงสาวบอกเสียงสั่นเครือ “ลงมา!” ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ พลางมองไปรอบๆ ตัว ว่ามีใครอยู่แถวนี้หรือเปล่า “ผมบอกให้ลงมา!” เขาตะคอกเมื่อเห็นเธอเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมลงจากรถ กระทั่งเขาเอื้อมมือไปกระชากเธอลงมาเสียเอง “มาจากงานแต่งงานที่ไหนเนี่ย” เขาถามเพราะคิดว่าน่าจะมาจากงานเดียวกับเขาหรือเปล่า ทว่าเธอเอาแต่ร้องไห้ ไม่กล้าเงยหน้ามองเขา “นี่คุณ จะเอาแต่ร้องไห้ไม่ได้นะ คุยกันให้รู้เรื่อง” พอเขาเอ่ยเช่นนี้เธอก็หันซ้ายหันขวา เหมือนไม่กล้าพูด เขาจึงดึงเข้าบ้านเสียเลย แต่พอเปิดไฟในบ้านเห็นหน้ากันชัดๆ เท่านั้นแหละ สวยชะมัดเลย นี่นางฟ้าตกสวรรค์หรือวะเนี่ย

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ