5.0
ความคิดเห็น
441K
ชม
288
บท

เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด

บทที่ 1 หย่ากันเถอะ

“หย่ากันเถอะ”

เจี่ยนเหยาเพิ่งกลับมาจากถ่ายละครเสร็จ สามีก็โยนข้อตกลงการหย่าร้างมาตรงหน้าของเธอ

เธอมองผู้ชายที่ดูสูงส่งทะนงตัวตรงหน้าคนนั้น

คิดไม่ถึงว่าไม่ได้เจอกันสามเดือน สิ่งแรกที่เขาพูดคือคำว่าหย่าร้าง

เมื่อเห็นเธอเงียบไม่พูดอะไร

ฟู่เซิ่งเหนียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจี่ยนเหยา อย่าบอกนะว่าคุณกลับใจแล้ว! สัญญาแต่งงานครบสองปีแล้ว คุณมากลับใจตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะ!”

ใช่!

สัญญาแต่งงานสองปีของพวกเขามันถึงกำหนดแล้ว

เธอเองก็ควรลงมาจากตำแหน่งคุณนายฟู่ของเธอได้แล้ว

“ปีนี้เจี่ยนซืออายุยี่สิบปีแล้วสินะ ถึงอายุที่สามารถแต่งงานกันตามกฎหมายได้แล้ว พวกเราหย่าร้างกัน มันก็พอดีเลย” เธอแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง

เจี่ยนซือเป็นน้องสาวต่างมารดาของเธอ แล้วก็เป็นคนที่อยู่ในใจของฟู่เซิ่งเหนียนเช่นกัน

สองปีก่อน เจี่ยนซือตรวจว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือด ผลการตรวจเลือดของเธอมันตรงกับเจี่ยนซือพอดี แถมยังไม่มีปฏิกิริยาต่อต้าน

ถึงแม้ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าที่ล้มป่วย เธอก็เลือกที่จะช่วยเหลืออย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าอีกฝ่ายเป็นน้องสาวของเธอ

แต่ฟู่เซิ่งเหนียนไม่คิดแบบนั้น เขาตัดสินว่าเธอเลือดเย็นไร้ความรู้สึกไม่มีทางช่วยเหลือเจี่ยนซือแน่นอน

ดังนั้น เพื่อเจี่ยนซือเขาไม่ลังเลที่จะคุกเข่าอ้อนวอนเธอเลยแม้แต่นิดเดียว

เธอไม่เคยเห็นฟู่เซิ่งเหนียนถ่อมเนื้อถ่อมตัวขนาดนี้มาก่อน

เธอกับฟู่เซิ่งเหนียนถือว่าเป็นเพื่อสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เธอรักเขามาตั้งสิบปีเต็ม ๆ

เมื่อเห็นว่าเขาทำขนาดนี้เพื่อคนอื่น เธอก็ทั้งโกรธทั้งเกลียดและอิจฉาริษยาจนแทบจะบ้าเลย

จึงบีบบังคับให้ฟู่เซิ่งเหนียนแต่งงานกับเธอในตอนนั้นทันที

เพื่อที่จะช่วยเหลือเจี่ยนซือ ฟู่เซิ่งเหนียนสัญญาที่จะให้เวลากับเธอสองปี

ระยะเวลาสองปี เจี่ยนเหยาคิดอย่างใสซื่อว่ามันเพียงพอที่จะทำให้ฟู่เซิ่งเหนียนหลงรักเธอ

แต่สุดท้ายเธอก็พ่ายแพ้ พ่ายแพ้อย่างยับเยิน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ มุมปากที่ซีดขาวของเจี่ยนเหยาก็ยิ้มเยาะเย้ยออกมา

ดวงตาที่สวยดูดีของฟู่เซิ่งเหนียนหมดความอดทน ยื่นปากกาในมือออกไป พลางพูดขึ้นอย่างเฉยชา “เซ็นชื่อเถอะ”

เธอพยักหน้า รับปากกาที่เขายื่นมาให้ เปิดไปหน้าสุดท้าย ก่อนจะเซ็นชื่อของตัวเองลงไป

หลังจากวางปากกาลง เธอก็เงยหน้าขึ้นมองฟู่เซิ่งเหนียน สองตาที่สวยดูดีคู่นั้นของเขายังคงเหมือนกับเมื่อก่อน เปล่งประกายระยิบระยับ เพียงแต่สายตาที่มองเธอมันเยือกเย็นจนทำให้เธอรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ภายในใจ

ฟู่เซิ่งเหนียนรับข้อตกลงมา มองลายเซ็นของเจี่ยนเหยา ก่อนจะพูดขึ้น

“อาการป่วยของเจี่ยนซือกำเริบแล้ว...”

เขายังพูดไม่ทันจบ เจี่ยนเหยาก็ขัดจังหวะขึ้นมาอย่างแปลกประหลาดก่อน “เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง! จะให้ฉันไปให้ความร่วมมือที่โรงพยาบาลไหม”

ถึงยังไงสองปีก่อน เธอก็เป็นคนบริจาคไขกระดูกเพื่อช่วยชีวิตเจี่ยนซือ

“ไม่ต้อง! หรือว่าคุณอยากจะแสดงละครเหมือนกับเมื่อสองปีก่อนอีกงั้นเหรอ” ฟู่เซิ่งเหนียนปฏิเสธด้วยเสียงดุดัน

”ผมจัดเตรียมหมอที่ดีที่สุดเอาไว้แล้ว แล้วก็หาคนที่เหมาะสมไว้แล้วด้วย ครั้งนี้คุณไม่จำเป็นต้องช่วยอะไรทั้งนั้น เจี่ยนซือเธอบอกว่าคิดถึงคุณแล้ว คุณไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลสักหน่อยก็พอ”

ตอนที่พูดถึงเจี่ยนซือ คิ้วที่ขมวดแน่นของเขาก็ค่อย ๆ คลายออกอย่างช้า ๆ ใบหน้าที่เย็นชาเองก็เริ่มมีอุณหภูมิขึ้นมาแล้วเช่นกัน

เจี่ยนเหยารู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างแสนสาหัส ตอบอืมกลับไปอย่างเรียบเฉย

“วันนี้ค่อนข้างดึกแล้ว ค่อยย้ายออกไปวันพรุ่งนี้ได้ไหม” เธอฝืนยิ้มออกมา คิดว่าฟู่เซิ่งเหนียนจะเห็นแก่ความรู้สึกเก่า ๆ ขึ้นมาบ้าง คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดออกมาอย่างอย่างเด็ดขาดขนาดนี้ “เหล่าหลี่จะไปส่งคุณที่โรงแรม”

นี่จะไล่เธอไปแล้วสินะ

ไม่ให้เธออยู่ต่ออีกแม้แต่คืนเดียวเลยงั้นเหรอ

รอยยิ้มของเธอหยุดชะงักบนใบหน้า เผชิญหน้ากับฟู่เซิ่งเหนียนอยู่สักพัก ลุกขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชาแล้วจึงเดินจากไป

เธอกลับมาเอาข้าวของสัมภาระที่ยังไม่ทันได้เก็บที่ห้องของตัวเอง เธอถือกล่องลงมาข้างล่าง คนรับใช้เห็นแบบนี้ก็วิ่งตรงเข้ามาช่วย เธอโบกมือ “ไม่ต้อง ฉันไหว”

เหล่าบรรดาคนรับใช้มองหน้ากัน ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทาง และยืนเรียงแถวมองดูเพื่อส่งเธอออกไป

อยู่ที่นี่มาเป็นระยะเวลาสองปี เจี่ยนเหยายังคงมีความรู้สึกต่อที่นี่อยู่นิดหน่อย ทุกคนที่นี่ นอกจากฟู่เซิ่งเหนียนแล้วทุกคนก็ดีกับเธอเป็นอย่างมาก

เธอรู้สึกอาลัยอาวรณ์ แต่หลังจากที่แต่งงานกับฟู่เซิ่งเหนียน ถูกเขาทำตัวเย็นชาใส่เป็นระยะเวลาสองปีเต็ม ๆ จิตใจของเธอได้รับความเสียหายอย่างแสนสาหัส

ให้มันจบลงแบบนี้แล้วกัน

ถึงเวลาจบสิ้นลงแล้ว!

ถึงแม้ว่าจะเจ็บปวดหัวใจจนแทบจะฉีกขาดออกจากกัน แต่เธอก็กลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว

หลังจากที่ทำเรื่องเข้าพักโรงแรมเสร็จ ก็เป็นเวลากลางดึกแล้ว

เธอไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน หลังจากที่ฟ้าสว่างแล้วเธอก็เตรียมเนื้อเตรียมตัว มุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลกลาง

เจี่ยนซืออยู่ที่ห้องผู้ป่วยเดี่ยวห้องหนึ่ง มีนางพยาบาลดูแลเป็นพิเศษ มองจากกระจกที่อยู่บนประตูเห็นนางพยาบาลกำลังป้อนอาหารเจี่ยนซือ แต่กินไปได้ไม่กี่คำเจี่ยนซือก็อาเจียนออกมาทั้งหมด ภายในใจของเธอรู้สึกทรมานอย่างบอกไม่ถูก

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

หวนคืนมิลืมรัก

หวนคืนมิลืมรัก

ต้ายวี่
5.0

นางเคยมอบความรัก ความภักดี ให้เขาด้วยความจริงใจ แต่เขากลับตอบแทนนางด้วยการทรยศ หักหลัง สกุลของนางต้องล่มสลาย ยามที่สวรรค์มอบโอกาสให้นางได้หวนคืนชะตา นางจึงตั้งมั่นไม่ขอหวนกลับไปยุ่งเกี่ยวพัวพันกับเขาอีก เพียงแต่นางพยายามหลีกหนี คนหน้าหนากลับพยายามไล่ตาม ใช้ความเจ้าเล่ห์ทั้งหลอกล่อบีบคั้นจนนางไร้หนทางหลีกหนี ในเมื่อมิอาจหลีกหนีเช่นนั้นครั้งนี้นางก็จะทำให้เขาได้รู้ว่า สตรีสกุลหลิวจะไม่ยอมโง่เขลาเป็นครั้งที่สอง "กู่เหว่ยหยวน ตลอดชีวิตของข้า สิ่งที่ข้าเสียใจที่สุด คือมอบใจให้บุรุษชั่วช้าเช่นเจ้า หากสวรรค์มีจริง ไม่ว่าจะกี่ภพชาติอย่าได้พบกันอีกเลย"

จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ

จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ

ประตูฟ้ายั่งยืน
5.0

หลินเจียอีหญิงสาวในศตวรรษที่21ตกตายด้วยโรคระบาด วิญญาณของเธอได้ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ14 ที่มีชื่อเดียวกับเธอซึ่งสิ้นใจตายระหว่างเดินทางกลับบ้านเดิมของมารด ********* หลินเจียอีลืมตาตื่นขึ้นมาในสภาพบ้านที่ไม่คุ้นชิน เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ได้เข้ารักษาตัวจากอาการติดเชื้อโรคระบาดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เหตุใดถึงมาโผล่ในบ้านทรงโบราณ รอบกายเธอเต็มไปด้วยผู้คนแต่งตัวล้าสมัย ต่อมาเธอค้นพบว่าตนเองได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ 14 ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับเธอ แต่ชะตากรรมของเด็กสาวผู้นี้ช่างน่าสงสารนัก บิดาเพิ่งลาโลก แม่โดนฮุบสมบัติแล้วถูกขับไล่ออกจากตระกูล ต้องระหกระเหินพาเจ้าของร่างที่ถูกทุบตีจนสิ้นใจระหว่างทางกลับมาบ้านเดิมที่แสนยากจนข้นแค้น ****ไม่มีฉากอีโรติก เริ่มล็อกเหรียญตอนที่ 25 ก่อนเข้าไปอ่านเนื้อหานิยายอ่านคำเตือนก่อนนะคะ (สำคัญมาก) 1. กรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพให้เกียรตินักเขียนและนักอ่านท่านอื่น หากแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในนิยายหรือมุ่งประเด็นด่าทอนักเขียนเพื่อระบายอารมณ์ ความคิดเห็นจะถูกลบออก!! 2. นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน บุคคลและสถานที่ที่เกิดขึ้นไม่มีอยู่จริงในโลก เนื้อหาในนิยายมีทั้งสมเหตุผลและไม่สมเหตุสมผล บางตอนอาจมีฉากที่รุนแรง (ต่อสู้) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ตัวละครในนิยายมีทั้งดีและเลวแต่กต่างกันไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ห้ามคัดลอกดัดแปลงแก้ไขนิยายเรื่องนี้ทุกกรณี หน่วยเงินตรา 1000 อีแปะ 1 ตำลึงเงิน หน่วยวัดตวงน้ำหนัก 1 ชั่ง 500 กรัม หน่วยเวลา 1 จิบน้ำชา ระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ 1 เค่อ 15 นาที 1 ก้านธูป 30 นาที 1 ชั่วยาม 2 ชั่วโมง 12 ชั่วยาม 24 ชั่วโมง ยามจื่อ 23.00-24.59 ยามโฉ่ว 01.00-02.59 ยามอิ๋น 03.00-04.59 ยามเหม่า 05.00-06.59 ยามเฉิน 07.00-08.59 ยามซื่อ 09.00-10.59 ยามอู่ 11.00-12.59 ยามเว่ย 13.00-14.59 ยามเชิน 15.00.16.59 ยาวโหย่ว 17.00-18.59 ยามชวี 19.00-20.59 ยามห้าย 21.00-22.59

สัญญารักลวงใจ

สัญญารักลวงใจ

Gorden Barros
5.0

เพื่อค่ารักษาของพ่อ ฟางจิ้งหร่านยอมแทนที่น้องสาว แต่งงานกับชายผู้เสื่อมเสียชื่อเสียงและหูหนวก คืนแรกของวันแต่งงาน เธอค่อยๆ ถอดชุดทีละชิ้น ด้วยความคาดหวัง... แต่กลับได้ยินเพียงคำเตือนเย็นชาจากเขา "การแต่งงานของเราเป็นแค่สัญญา" อยู่ข้างกายชายเจ้าอารมณ์คนนี้ ฟางจิ้งหร่านต้องระมัดระวังทุกเมื่อ โดยกลัวว่าจะทำเขาไม่พอใจเข้า ทุกคนรอคอยดูเธอเสียหน้า... แต่ใครจะไปคิดว่า สามีคนนี้กลับกลายเป็น"ที่พึ่งที่มั่นคงที่สุด"ของเธอ จนกระทั่งวันที่สัญญาครบกำหนด ฟางจิ้งหร่านถือกระเป๋าเตรียมตัวจะจากไป... ชายคนนั้นกลับมีดวงตาแดงก่ำ กระซิบขอร้องว่า "อย่าไป..."

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ห้ามใจไม่ได้
1

บทที่ 1 หย่ากันเถอะ

18/12/2024

2

บทที่ 2 เธอไม่คู่ควร

18/12/2024

3

บทที่ 3 หย่าไม่ได้ (ภาค 1)

18/12/2024

4

บทที่ 4 หย่าไม่ได้ (ภาค 2)

18/12/2024

5

บทที่ 5 ถ้าอยากตายก็อย่ามาตายที่นี่

18/12/2024

6

บทที่ 6 ใช้สิทธิ์ของสามี

18/12/2024

7

บทที่ 7 ทะยานขึ้นการค้นหายอดนิยม

18/12/2024

8

บทที่ 8 เธอคือภรรยาของผม (ภาค 1)

18/12/2024

9

บทที่ 9 เธอคือภรรยาของผม (ภาค 2)

18/12/2024

10

บทที่ 10 เขามาแล้ว

18/12/2024

11

บทที่ 11 รักอย่างต้อยต่ำมาสิบปี

18/12/2024

12

บทที่ 12 ระวังสถานภาพของคุณ

18/12/2024

13

บทที่ 13 ไข้สูงกะทันหัน (ภาค 1)

18/12/2024

14

บทที่ 14 ไข้สูงกะทันหัน (ภาค 2)

18/12/2024

15

บทที่ 15 เฝ้าเธอตลอดทั้งคืน

18/12/2024

16

บทที่ 16 ทักษะการแสดงของคุณฟู่โดดเด่นเหนือใคร (ภาค 1)

18/12/2024

17

บทที่ 17 ทักษะการแสดงของคุณฟู่โดดเด่นเหนือใคร (ภาค 2)

18/12/2024

18

บทที่ 18 เขากำลังช่วยเหลือเธอ (ภาค 1)

18/12/2024

19

บทที่ 19 เขากำลังช่วยเหลือเธอ (ภาค 2)

18/12/2024

20

บทที่ 20 ทนได้ไหม ถ้าทนไม่ไหวเรียกฉัน (ภาค 1)

18/12/2024

21

บทที่ 21 ทนได้ไหม ถ้าทนไม่ไหวเรียกฉัน (ภาค 2)

18/12/2024

22

บทที่ 22 จงใจสร้างความลำบากใจ (ภาค 1)

18/12/2024

23

บทที่ 23 จงใจสร้างความลำบากใจ (ภาค 2)

18/12/2024

24

บทที่ 24 คุณฟู่อยู่ที่งานด้วย (ภาค 1)

18/12/2024

25

บทที่ 25 คุณฟู่อยู่ที่งานด้วย (ภาค 2)

18/12/2024

26

บทที่ 26 คุณลองแตะต้องเธอดูสิ (ภาค 1)

18/12/2024

27

บทที่ 27 คุณลองแตะต้องเธอดูสิ (ภาค 2)

18/12/2024

28

บทที่ 28 ไม่ได้ตั้งท้อง (ภาค 1)

18/12/2024

29

บทที่ 29 ไม่ได้ตั้งท้อง (ภาค 2)

18/12/2024

30

บทที่ 30 เขาดึงดันที่จะยุ่งให้ได้ (ภาค 1)

18/12/2024

31

บทที่ 31 เขาดึงดันที่จะยุ่งให้ได้ (ภาค 2)

18/12/2024

32

บทที่ 32 จะได้เห็นดีกัน (ภาค 1)

18/12/2024

33

บทที่ 33 จะได้เห็นดีกัน (ภาค 2)

18/12/2024

34

บทที่ 34 ภรรยาของตัวเองแต่ไม่ยอมดูแลให้ดี (ภาค 1)

18/12/2024

35

บทที่ 35 ภรรยาของตัวเองแต่ไม่ยอมดูแลให้ดี (ภาค 2)

18/12/2024

36

บทที่ 36 ทำเหมือนกับว่าเธอไม่มีตัวตน (ภาค 1)

18/12/2024

37

บทที่ 37 ทำเหมือนกับว่าเธอไม่มีตัวตน (ภาค 2)

18/12/2024

38

บทที่ 38 เขากำลังอธิบาย (ภาค 1)

18/12/2024

39

บทที่ 39 เขากำลังอธิบาย (ภาค 2)

18/12/2024

40

บทที่ 40 โลกของสองเรา (ภาค 1)

18/12/2024