Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
7.2K
ชม
37
บท

ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"

บทที่ 1 เพลิงไหม้

ณ เมืองหยุน

ในย่านเมืองเก่า มีไฟไหม้ในบ้านของตึกเก่าหลังหนึ่ง เปลวเพลิงลุกลามไปอย่างรวดเร็วด้วยแรงลม เผาผลาญอย่างรุนแรงจนเปลวไฟและควันดำปกคลุมตึกไปกว่าครึ่ง

“ช่วยออกมาแล้ว! ช่วยออกมา……”

เจียงหว่านถูกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอุ้มออกมาวางตรงริมถนน

ใบหน้าที่งดงามของเธอเปื้อนคราบเขม่าเต็มไปหมด ดวงตารูปทรงดอกท้อที่เคยสดใสกลับนิ่งเฉย มองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่าราวกับบ่อน้ำนิ่ง

เมื่อได้สติ ความโชคดีที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ทำให้เธอไม่ใส่ใจเรื่องมารยาทตามปกติที่ได้รับการปลูกฝังมาแต่อย่างใด เธอเพียงกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิงด้วยเสียงแหบพร่า ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขที่จำได้ขึ้นใจด้วยท่าทีรีบร้อนและสั่นเทาในทันที

“ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง……”

เสียงโทรศัพท์ดังอยู่สองสามครั้งก่อนจะถูกตัดสายไป ความขมขื่นที่เอ่อล้นออกมาถูกกลืนกลับไปติดอยู่ในลำคอ ก่อนที่ความโศกเศร้าจะแพร่กระจายไปทั่วร่าง

“ปัง!”

ทันใดนั้นเอง เสียงระเบิดดังสนั่นกลบเสียงตอบรับจากระบบอัตโนมัติ เจียงหว่านเงยหน้าขึ้นขวับและได้เห็นบ้านที่เธออยู่เมื่อครู่ระเบิดกระจุย

ชิ้นส่วนมากมายกระเด็นออกมาพร้อมกับแรงระเบิด

ทุกคนในที่นั้นต่างตกใจกลัว โดยเฉพาะผู้รอดชีวิตที่เพิ่งได้รับการช่วยออกมา บางคนกรีดร้องและกอดกันไว้เพื่อปลอบใจอีกฝ่าย ซึ่งทำให้เจียงหว่านที่นอนอยู่บนเปลตามลำพังดูโดดเดี่ยวมากขึ้นไปอีก

“เผยเสี้ยน……” เจียงหว่านกัดริมฝีปาก และพยายามโทรออกอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้

แต่ปลายสายยังคงตัดการเชื่อมต่อหลังดังเพียงไม่กี่ครั้ง

ในขณะนั้น การแจ้งเตือนจากเวยป๋อก็ปรากฏขึ้นมา

“แฟนหนุ่มเศรษฐีผู้ลึกลับของดาราสาวชื่อดังเหยียนเสวี่ยหนิงถูกจับภาพไว้ได้?”

บัญชีข่าวซุบซิบเปิดเผยว่า:โปรดิวเซอร์รายการหนึ่งชวนเหยียนเสวี่ยหนิงไปทานอาหาร แต่เธอไม่ยอมดื่มฉลอง สองฝ่ายจึงเกิดมีปากเสียงกัน แฟนหนุ่มที่เป็นประธานจอมเผด็จการของเธอเดินผ่านมาและพาเหยียนเสวี่ยหนิงออกไปทันที โดยไม่ไว้หน้าโปรดิวเซอร์คนนั้นเลยแม้แต่น้อย

โพสต์ดังกล่าวบรรยายเหตุการณ์ได้อย่างถึงพริกถึงขิง ราวกับผู้อ่านได้เห็นเองกับตาว่า ท่านประธานจอมเผด็จการได้ปกป้องภรรยาคนสวยของเขาไว้

อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเพราะสถานะของฝ่ายชาย รูปถ่ายที่หลุดออกมาจึงมีเพียงภาพด้านหลังของเขา โดยไม่มีการเปิดเผยใบหน้า ส่วนเหยียนเสวี่ยหนิงที่อยู่ด้านหลังชายคนนั้นสวมเสื้อสูทที่ใหญ่เกินตัว เธอมีรอยยิ้มสดใสราวกับดอกไม้ขณะเดินตามเขาไป พร้อมกับยื่นมือไปหาชายคนนั้น คล้ายกับกำลังจะจับมือกัน

เจียงหว่านมองหน้าจออย่างเหม่อลอย สายตาของเธอจับจ้องไปที่ภาพถ่ายนั้น

เป็นเผยเสี้ยน!

เธอจำเสื้อสูทตัวใหญ่ที่เหยียนเสวี่ยหนิงสวมอย่างไม่พอดีตัวได้ในพริบตา

ทุกชุดสูทของเผยเสี้ยนถูกสั่งตัดพิเศษโดยช่างฝีมือจากราชวงศ์อิตาลี แต่ละชุดล้วนเฉพาะตัวและไม่ซ้ำใคร เธอคุ้นเคยกับชุดพวกนั้นเกินกว่าที่จะจำพลาด

เธอกำโทรศัพท์ในมือแน่นจนข้อนิ้วขาวซีดไร้สีเลือด เธอหึงหวงแทบจะเป็นบ้าแล้ว หัวใจเหมือนถูกบีบคั้นจนทั้งเจ็บและปวดไปหมด

ในช่วงเวลาที่เธอต้องเผชิญกับความเป็นความตาย เขากลับตัดสายโทรศัพท์ของเธอและไปอยู่เคียงข้างเหยียนเสวี่ยหนิง

สองปีของการแต่งงานนั้น มันมีค่าอะไรบ้าง?

ในเวลานี้ น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้มานานกลับพุ่งทะลักออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

เจียงหว่านแหงนหน้าขึ้นสูง แต่หยาดน้ำตาก็ยังคงไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่

เหยียนเสวี่ยหนิงเป็นรักแรกของเผยเสี้ยน ตามข่าวลือในสังคม เหล่าคนตระกูลเผยไม่ยอมรับเธอ เพราะเธอเป็นเพียงหญิงสาวที่มาจากครอบครัวธรรมดา ๆ

สุดท้ายทั้งสองก็ถูกตระกูลเผยกีดกันให้เลิกรากัน โดยเหยียนเสวี่ยหนิงเป็นฝ่ายเสนอให้จบความสัมพันธ์

หลังจากนั้น เผยเสี้ยนมุ่งมั่นทำงานหนัก จนขึ้นมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำของตระกูลเผย

เดิมที เขาคิดว่าหลังจากนั้นจะได้กลับมาคบกับเหยียนเสวี่ยหนิง แต่กลับพบว่าเธอมีคนรักใหม่ไปแล้ว

ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเพราะเขาจงใจประชดตระกูลเผยหรือไม่ ชายหนุ่มจึงเลือกแต่งงานกับเจียงหว่าน หญิงสาวธรรมดา ๆ ที่ไม่มีอะไรเลยเหมือนกัน และให้เธอครองตำแหน่งคุณนายเผย เพื่อขัดขวางแผนการของคนในครอบครัวที่พยายามจะส่งผู้หญิงที่พวกเขาเลือกมาให้

ในตอนนั้น เจียงหว่านเองก็กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากพ่อเจียงที่ต้องการให้เธอแต่งงานกับลูกชายเศรษฐีผู้เอาแต่ใจ เพื่อหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่แสนแพงของคุณยาย

ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างมีจุดประสงค์ จึงตกลงแต่งงานกันตามสัญญา

การแต่งงานมีเงื่อนไขเพียงแค่หนึ่งปี แต่เมื่อครบกำหนด สถานะสมรสกลับดำเนินต่อไป ซึ่งทั้งสองยังคงรักษาชีวิตแต่งงานไว้โดยไม่พูดถึงข้อตกลง จนถึงตอนนี้ เวลาล่วงเลยกว่าที่เคยตกลงกันไว้มาก เจียงหว่านคิดว่าเธอได้กลายเป็นคุณนายเผยจริง ๆ แล้ว แต่สุดท้าย ทุกอย่างกลับเป็นเพียงภาพลวงตาที่เธอคิดไปเอง

เมื่อครู่เธอเกือบต้องเอาชีวิตไปทิ้งในกองเพลิง เธอพยายามโทรหาเขาถึงสองครั้ง แต่เขากลับตัดสายทุกครั้ง ที่แท้เพราะไปอยู่เคียงข้างเหยียนเสวี่ยหนิง……

ความรักจอมปลอมที่เธอเคยคิดว่ากลายเป็นจริงไปแล้ว พอเหยียนเสวี่ยหนิงปรากฏตัวขึ้น เธอก็ถูกลากออกมาจากความฝันสู่ความจริงที่โหดร้าย เธอตื่นจากฝันหวานด้วยความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด

เธอไม่ใช่แม้แต่ตัวแทนด้วยซ้ำ เธอเป็นเพียงเครื่องมือที่เผยเสี้ยนใช้เพื่อประชดคนในครอบครัวเท่านั้นเอง

เจียงหว่านนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเริ่มแดงก่ำขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้

บางทีอาจถึงเวลาที่เธอควรยอมแพ้ได้แล้ว ควรเลิกหลอกตัวเองด้วยความหวังลม ๆ แล้ง ๆ เสียที

……

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

นางบำเรออุ้มรัก

นางบำเรออุ้มรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ณัฐรวีเป็นได้เพียงนางบำเรอไร้ราคา เปรียบดังผืนหญ้าให้เมฆาย่ำยียิ่งกว่าทาสในเรือนเบี้ย ทุกการกระทำของเขาอัดแน่นไปด้วยความแค้นที่แฝงความรักไม่รู้ตัว ในวันที่หล่อนจากไป หล่อนไปแต่ตัวและลูกน้อยในครรภ์ ............ แควก...แควก “กรี๊ด! อย่าค่ะ อย่าทำรวีแบบนี้...ฮือ” เสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดังขึ้น ตามด้วยเสียงกรีดร้อง อ้อนวอนของณัฐรวี ทว่าคนกระทำหาได้ฟังเสียงหล่อน เขายังคงออกแรงฉีกเสื้อผ้าจนขาดติดมือมาอีกหลายครั้ง ทั้งเนื้อทั้งตัวหล่อนเหลือเพียงชุดชั้นในท่อนบนและท่อนล่าง “รวีกลัวแล้ว ต่อไปรวีจะไม่ใส่ชุดนี้อีก...ฮือ...พี่เมฆอย่าทำอะไรรวีเลยนะคะ” กระแสเสียงสั่นเครือ เจ้าของประโยคคำพูดน้ำตาไหลอาบแก้ม ยกมือไหว้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้าด้วยท่าทางหวาดกลัว “เธอไม่มีสิทธิ์ใส่ชุดนี้ ชุดนี้ฉันซื้อให้แก้วตา ไม่ได้ซื้อให้เธอใส่” เสียงเขาเดือดดาล ก่อนกระชากแขนเรียวเล็กสุดแรง ร่างณัฐรวีลอยขึ้นตามแรงฉุด “อย่าเอาตัวเธอไปเทียบกับแก้วตา เธอมันก็แค่เศษดินเศษหญ้าที่รองมือรองเท้าฉัน เป็นได้แค่นางบำเรอ แต่แก้วตาคือว่าที่เมียฉัน จำใส่หัวไว้” พูดจบ ณัฐรวีรับรู้ถึงแรงเหวี่ยง เสี้ยววินาทีต่อมา ร่างงามกระทบกับที่นอนเต็มแรง หล่อนเจ็บไปทั้งตัว แต่นี่มันเป็นแค่ความเจ็บปวดเริ่มต้น ความปวดร้าวระบมร่างกายและจิตใจกำลังตามมาชุดใหญ่ เป็นความเจ็บปวดที่ไม่เคยชาชินสักครั้ง

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

เมืองแฟนตาซี

5.0

โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว            “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ”            “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย”            “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้”            “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่”            “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย            “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้            “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน            “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ            “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้”            ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน            เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด            “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง            คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม            ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน

เมียใบสั่ง

เมียใบสั่ง

โรแมนติก

4.8

เพราะบุตรชาย...ทำตัวเป็นหนุ่มเพลย์บอย แม่ที่รักลูกยิ่งชีพ จึงรู้สึกเป็นกังวล นางเล็งสาวสวย เพียบพร้อมคนหนึ่งไว้ให้ และข้อเสนอที่ โลแกนปฏิเสธไม่ได้ด้วยซิ!! ข้อแลกเปลี่ยนเชิงธุรกิจ โดยมีคู่ปรับนั่งจ้องรอเขมือบ...จึงเป็นตัวบีบบังคับชั้นดีให้ โลแกน...จำยอม แต่...เพราะความกลัว...มรินญาจึงเลือกที่จะหนี...ในนาทีสุดท้าย งานวิวาห์ล่ม...แต่สถานะภาพทางสังคม โลแกนคือผู้ชายที่ภรรยาแล้ว เพื่อให้ข้อแลกเปลี่ยนดำเนินต่อไป...เขายอม จนกระทั่งวันหนึ่ง...เขามีคนที่อยากจะอยู่ด้วย...เขาจึงคิดจะจัดการเรื่องเก่าๆ ให้เรียบร้อย พระเจ้าเล่นตลกกับเขาแน่...พอเจอหน้า 'เมีย' กลับไม่อยาก 'หย่า' ขึ้นมาดื้อๆ เขาอยากซั่มหล่อน!! เป็นความเห็นแก่ตัวตามประสาเพศชาย... และเมื่อได้หล่อนสมใจ...ดันทะลึ่งทิ้งหล่อนไม่ลงเสียอย่างนั้น เอาล่ะทีนี้...ผู้ชายที่คิดว่าตนเองฉลาดสุด จะจัดการปัญหาโลกแตกนี่ยังไง?!! จะเลือกใครดี? ระหว่าง... คนใหม่...กับเมียใบสั่ง ของแม่...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
รักไร้ค่า
1

บทที่ 1 เพลิงไหม้

18/12/2024

2

บทที่ 2 อันดับค้นหายอดฮิต (ภาค 1)

18/12/2024

3

บทที่ 3 อันดับค้นหายอดฮิต (ภาค 2)

18/12/2024

4

บทที่ 4 เผยความในใจ (ภาค 1)

18/12/2024

5

บทที่ 5 เผยความในใจ (ภาค 2)

18/12/2024

6

บทที่ 6 เจียงหว่าน เธอบ้าไปเหรอ!

18/12/2024

7

บทที่ 7 พี่สะใภ้

18/12/2024

8

บทที่ 8 ส่งด่วน

18/12/2024

9

บทที่ 9 บล็อก

18/12/2024

10

บทที่ 10 คุณเผยถึงกับหาแม่บ้านไม่ได้เลยเหรอ? (ภาค 1)

18/12/2024

11

บทที่ 11 คุณเผยถึงกับหาแม่บ้านไม่ได้เลยเหรอ? (ภาค 2)

18/12/2024

12

บทที่ 12 ผู้มาใหม่แสนงาม

18/12/2024

13

บทที่ 13 ออดิชั่น

18/12/2024

14

บทที่ 14 ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา

18/12/2024

15

บทที่ 15 ภรรยาในนาม

18/12/2024

16

บทที่ 16 เขารู้เรื่องไฟไหม้เหรอ?!

18/12/2024

17

บทที่ 17 คุณยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะสู้ได้

18/12/2024

18

บทที่ 18 รับบทนางรองได้

18/12/2024

19

บทที่ 19 เผชิญหน้ากันในโรงพยาบาล

18/12/2024

20

บทที่ 20 ค่อยบอกท่านประธานคราวหน้า

18/12/2024

21

บทที่ 21 รีบร้อนเกินไปย่อมไม่ได้ผลดี

18/12/2024

22

บทที่ 22 ยังไม่ทันดังก็โดนด่าแล้ว

18/12/2024

23

บทที่ 23 คนเราก็มีขีดจำกัด

18/12/2024

24

บทที่ 24 เป็นเขาที่เข้าใจเธอผิดไปงั้นเหรอ?

18/12/2024

25

บทที่ 25 ได้รับคลิปการออดิชั่น

18/12/2024

26

บทที่ 26 ปกป้องกันอย่างแน่นหนาเสียจริง!

18/12/2024

27

บทที่ 27 ซื้อดอกไม้

18/12/2024

28

บทที่ 28 ช่อนั้นก็เก้าสิบเก้าดอก

18/12/2024

29

บทที่ 29 ดูไม่เหมือนจะไปง้อกัน

18/12/2024

30

บทที่ 30 ใช้เธอเป็นตัวสร้างสถานการณ์หรือไง?

18/12/2024

31

บทที่ 31 เจียงหว่านจะเป็นคุณนายเผยของฉันไปตลอดชีวิต

18/12/2024

32

บทที่ 32 ที่แท้เพราะต้องการตัวประกอบ

18/12/2024

33

บทที่ 33 กลับบ้านเก่า

18/12/2024

34

บทที่ 34 ใส่กระสอบก็ยังดูดี

19/12/2024

35

บทที่ 35 เห็นฉันโดนว่าแล้วเธอดีใจขนาดนี้เลยเหรอ?

20/12/2024

36

บทที่ 36 การมีลูกไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้โดยลำพัง

วันนี้00:02

37

บทที่ 37 สารภาพ

22/12/2024