เลขาหน้าหวาน กับ ท่านประธานคลั่งรัก (Mpreg)

เลขาหน้าหวาน กับ ท่านประธานคลั่งรัก (Mpreg)

กุหลาบดิน

5.0
ความคิดเห็น
893
ชม
25
บท

เวทานนท์ หนุ่มนักเรียนนอก ท่านประธานผู้คลั่งรัก อย่างคุณเลขาเนี่ยไม่ใช่ตัวเล็กสเปคเขา ปากแซ่บเกิน ยิ้มอ่อยได้ทุกคนยกเว้นเขาที่เป็นเจ้านาย คนแบบนี้เขาไม่มีทางชอบเด็ดขาด นวพรรษ เลขาหน้าหวานหล่อแบบโอปป้า ยิ้มทีทำเอาแฟนคลับคลั่ง ท่านประธานน่ะเหรอ คนอะไรหน้าตาก็ดีแต่นิสัยไม่ได้ดีไปกับหน้าตา สงสารคนที่จะมาเป็นแฟนจริงๆ

บทที่ 1 ตอนที่ 1 เลขา

นวพรรษ ปรียานันท์ อายุ 24 ปี บัณฑิตหมาดๆเพิ่งจบปริญญาโทมจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งตั้งแต่อายุยังน้อยมาหมาดๆ เจ้าของใบหน้าขาวเนียนใสลุคโอปป้า ใบหน้าออกมาทางสวยหวานน่ามองมากกว่าหล่อเหลา พร้อมกับหุ่นบางสูงโปร่งด้วยความสูง180 ซ.ม. ร่างเค้าสูงโปร่งสมส่วน ไม่ได้บึกบึนแน่นด้วยกล้ามเนื้อ แต่ก็ไม่ได้ผอมแห้ง ตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก เขาตื่นเเต่เช้าเพื่อเตรียมตัวมาทำงานวันแรก ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาท่านประธานกรรมการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ คนรุ่นใหม่หลายคนอยากจะเข้ามาทำงานเป็นพนักงานของบริษัทนี้ เพราะค่าตอบแทนสูงรวมถึงสวัสดิการต่างๆดีกว่าบริษัทอื่นในธุรกิจประเภทเดียวกัน

นวพรรษเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้เข้ามาทำงานที่นี่และในตำแหน่งที่ทุกคนอิจฉา ตอนเรียนปริญญาตรีที่ต้องฝึกงานของมหาวิทยาลัยเขาก็มาฝึกที่นี่ตำแหน่งนี้ ผลงานของเขาเด่นจนท่านประธานบริษัทท่านมีเมตตาทาบทามให้มาเป็นเลขาหลังจากที่เรียนจบ แต่นวพรรษขอกลับไปเรียนต่อปริญญาโทก่อน ท่านประธานก็เมตตารอ อันที่จริง เจ้าสัวเวทิน โชติกุลวัฒนา ท่านประธานและเจ้าของบริษัทท่านมีเลขาอยู่แล้ว แต่ท่านให้รับนวพรรษมาเพิ่มอีกคน แค่ให้เหตุผลว่าอยากหาคนมาแบ่งเบาเลขาคนโปรดคนเดิม และเจ้าสัวก็เป็นเพื่อนรักกับท่านฑูตนวพล และคุณหญิงอัญพัชร์ ปรียานันท์บิดาและมารดาของนวพรรษอยู่เดิม ยิ่งทำให้เจ้าสัวเวทินเอ็นดูนวพรรษมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว และเอาตำแหน่งนี้ไว้ให้นวพรรษคนเดียวโดยเฉพาะ

ตอนนี้นวพรรษยืนอยู่หน้าของบริษัทแล้ว เขารอพี่ท้อปหรือธนศิลป์ เลขาของท่านประธาน ที่ชั้นหนึ่งแล้วรอขึ้นลิฟท์ไปพร้อมกัน เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่นวพรรษได้กลับเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาอย่างเต็มตัว รอเพียงชั่วครู่ธนศิลป์กับเจ้าสัวเวทินก็เดินมาหาเขา

“สวัสดีครับท่านประธาน สวัสดีครับพี่ท้อป” นวพรรษกล่าวสวัสดีพร้อมยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่าอย่างนอบน้อม “หวัดดีลูก”เจ้าสัวรับไหวพร้อมเอ่ยทักทาย

“รอนานไหมครับน้องนิว” ธนศิลป์เอ่ยถามหนุ่มรุ่นน้องหน้าหวาน

“ไม่นานครับ”

“ป่ะเราขึ้นไปชั้นบนกันเถอะ” เจ้าของบริษัทบอกกับทั้งสองคนพร้อมเดินนำไปที่ลิฟต์ผู้บริหาร

พอทั้งสามเดินมาถึงโต๊ะทำงานหน้าห้องประธานกรรมการบริษัท ที่ตอนนี้เพิ่มมาอีก1ชุดเพื่อให้นวพรรษได้เรียนรู้งานจากธนศิลป์อย่างเข้มข้นตามคำสั่งของเจ้าของบริษัท

“น้องนิว เรียนรู้งานกับพี่ท้อป ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามพี่ท้อปได้นะ แต่ไม่ต้องเครียดนะค่อยๆเรียนรู้ไป ลุงเชื่อว่าน้องนิวทำได้ นิวเก่งอยู่แล้วเชื่อลุง ผมฝากหน่อยนะคุณท้อป” ท่านเจ้าสัวเอ่ยกับทั้งสองหนุ่มที่หน้าหวานทั้งคู่

ถ้าใครได้มาเห็นเลขาของท่านประธานบริษัทนี้ คงคิดว่าเค้าคัดหน้าตามาแน่เลย เพราะเลขาของท่านประธานทั้งสองคนหน้าตาดีถึงขั้นดีมาก หน้าหวานผิวเนียนลุคโอปป้าทั้งสองคน เพียงแต่ธนศิลป์ตัวบางและเล็กกว่านวพรรษเล็กน้อยเท่านั้น

ตั้งแต่นั้นมานวพรรษก็ตั้งใจเรียนรู้งานทุกอย่างจากธนศิลป์และสามารถทำได้ดีเกือบเท่ากับคนสอน

“ทำได้ดีมากน้องนิว ไม่เสียเเรงที่พี่สอนจริง”ธนศิลป์เอ่ยชมจากใจจริงเขาชอบเด็กคนนี้มาก ตั้งใจเรียนรู้ และขยันทำงาน โดยไม่คิดว่าตัวเองเป็นเด็กเส้นเป็นลูกของเพื่อนเจ้าของบริษัทเลย ทำตัวเหมือนพนักงานธรรมดา ไม่ถืออภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ทั้งยั้งรู้จักมีสัมมาคารวะ รู้จักผู้ใหญ่ผู้น้อย นอบน้อมถ่อมตน ทำให้ทั้งธนศิลป์เองและท่านเจ้าสัวเอ็นดูเป็นอย่างมาก

“นิวเองต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่ท้อปมากๆ เลยนะครับ ที่ช่วยสอนและแนะนำนิวมาตลอด อดทนกับนิวจน นิวทำได้” นวพรรษกล่าวขอบคุณรุ่นพี่อย่างท้อปที่คอยสอนคอยแนะนำ จนเขาเข้าใจในงานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบมากขึ้น เขารู้สึกโชคดีที่ได้เจอกับเพื่อนร่วมงานที่ดีและเจ้านายที่ดีอย่างนี้

ตั้งแต่นวพรรษเข้ามาทำงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆของเมืองไทยของท่านเจ้าสัวเวทินผู้เป็นเพื่อนของบิดามารดา นอกจากเจ้าสัวและคู่รักอย่างธนศิลป์จะให้ความเอ็นดูแล้ว คนอัธยาศัยดี หน้าตาดีอย่างนวพรรษก็มีแฟนคลับในบริษัทมากมาย ไม่ว่าจะทั้งผู้หญิงหรือผู้ชาย แค่ได้เห็นหน้าหรือรอยยิ้มพิมพ์ใจของคุณเลขาหน้าหวานเท่านั้นแหละ ก็โดนเจ้าของใบหน้าหวานตกเอามาเป็นแฟนคลับหมด บางคนถึงขั้นเอาขนมหรือของกินไปดักรอให้นวพรรษถึงทางเดินเข้าบริษัท บางคนไม่กล้าเจอหน้าเพียงเพราะเขินอายไม่กล้าที่จะสบตาก็ฝากเอาไว้ที่แผนกต้อนรับของบริษัทแทน ซึ่งเรื่องนี้พี่ท้อปและท่านเจ้าสัวรู้ดี

ยิ่งรู้มาว่าคุณเลขายังโสดยังไม่มีแฟน นวพรรษยิ่งกลายเป็นคนเนื้อหอมมีแฟนคลับอย่างกับดารา ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้เคยเกิดกับธนศิลป์เลขาหน้าหยกของท่านประธานมาก่อน แต่พอธนศิลป์โดนท่านประธานอย่างเจ้าสัวเวทินจับกินเสียเอง แฟนคลับเลยอกหักกันเป็นแถวๆ แต่ใช่ว่าแฟนคลับจะหมดไป ยังมีคนตั้งคลับสายวายมาให้อีก แต่พอมีนวพรรษเข้ามาในบริษัท เลขาหน้าหล่อออกไปทางหวานละมุน หุ่นสูงโปร่ง มาปรากฏตัวที่บริษัททำให้หัวใจแฟนคลับทั้งหลายกระชุ่มกระชวยขึ้นมาอีก ต่างพากันชื่นชมในหน้าตาและนิสัยกริยาของคุณเลขาคนใหม่ ที่ดีกรีไม่ธรรมดา เป็นถึงลูกท่านฑูต สิ่ยิ่งเพิ่มกระแสความฮ็อตเข้าไปอีก

ท่านฑูตนวพล กับ คุณหญิงอัญพัชร์ ปรียานันท์ คุณป๊ากับม่าม๊าของนวพรรษ มีลูกชายแค่คนเดียวเลยรู้สึกรักเเละเป็นห่วงลูกชายมาก ให้ไปเรียน ไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก เจ้าลูกชายก็ไม่เอา ไม่ชอบเมืองนอก เลยจำใจต้องให้ลูกชายคนเดียวใช้ชีวิตที่เมืองไทยคนเดียว นานๆคุณป๊ากับคุณม๊าจะบินกลับมาหาลูกชายที ไม่อย่างนั้นก็ให้ลูกชายบินไปหา พอเรียนจบถึงเวลาต้องทำงาน ท่านฑูตเลยฝากลูกชายคนเดียวเข้าทำงานที่บริษัทของเพื่อนรักอย่างเจ้าสัวเวทิน ซึ่งตอนแรกที่นวพรรษมาฝึกงานท่านเจ้าสัวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นลูกชายของเพื่อนรัก แต่ก็ชอบและเอ็นดูในความเก่งของเด็กหนุ่มคนนี้อยู่แล้ว ยิ่งพอรู้ว่าเป็นลูกของเพื่อนรักยิ่งเอ็นดูเพิ่มขึ้นอีก และรับปากว่าจะดูแลให้อย่างดีจนเพื่อนรักอย่างท่านฑูตเบาใจ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ กุหลาบดิน

ข้อมูลเพิ่มเติม
ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)

ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)

นิยายวาย

5.0

ถ้าเด็กมันจะยั่ว อยากได้เราเป็นผัวเราก็ต้องสนอง ถ้าคิดจะมีเมียเด็กต้องเช็คร่างกายให้พร้อม เด๋ียวเมียหาว่าแก่ ถ้าคิดจะมีผัวแก่ต้องยั่วให้เป็น ลีลาต้องเด็ด แต่งตัวให้ยั่ว ให้ผัวรักผัวหลงจนโงหัวไม่ขึ้น พ่อเลี้ยง กิตติภูมิ เลิศธนาธีรกานต์ (พี่บลู) อายุ 29 ปี เจ้าของไร่ชาเลิศธนา ไร่ชาที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของเชียงใหม่และเมืองไทย “ไอ้เด็กปากเก่ง ทำงานให้เก่งอย่างปากหน่อยแล้วกัน อย่าดีแต่ปาก ถ้ายังไม่หยุดพูดจะโดนของดีอุดปากจนพูดไม่ออก” ภูตะวัน อิทธินานนท์ (ข้าวโพด) อายุ 22 ปี ผู้ช่วยปากกล้า กล้าแม้กระทั่งต่อปากต่อคำกับเสือร้ายอย่างพ่อเลี้ยงกิตติภูมิที่ไม่มีใครเคยกล้า “คนแก่ใจร้าย ดุยิ่งกว่าเจ้าพิทบูล พ่อเลี้ยงบ้าอำนาจ ดีแต่วางมาดกับคนอื่น จะมีใครรู้ไหมว่าตัวตนที่แท้จริงเป็นคนแก่หื่นกามดีๆนี่เอง”

พู่กันของวรานนท์ Mpreg

พู่กันของวรานนท์ Mpreg

นิยายวาย

5.0

เพราะรักจึงตามตื้อเพียงแค่อยากเห็นหน้าอยากได้รักตอบ แต่ไม่เคยจะรู้เลยว่ามันทำให้อีกคนทั้งลำบากใจ ทั้งหงุดหงิดและไม่ชอบ เนม วรานนท์ ทายาทคนโตของบ้านโชติกุลวัฒนา ที่บ้านทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงเลือกที่จะเรียนบริหารธุรกิจ ตอนเด็กที่น้องคลอด “ลุงหมอครับน้องเนมขอน้องน้อยมาเป็นเจ้าสาวให้น้องเนมได้ไหมครับ” พอโตมาโดนน้องบอกรักและตามตื้อ โคตรน่าหงุดหงิดรำคาญ พู่กัน พนัชกร ทายาทคนโตของบ้านธีรวัฒนาวัฒน์ ที่บ้านเป็นเจ้าของโรงพยาบาลจึงเลือกที่จะเรียนแพทย์ ตกหลุมรักพี่ชายใจดี พอบอกรักและตามตื้อ กลับเป็นว่าสร้างความลำบากใจและหงุดหงิดรำคาญใจให้อีกคน

เมียตัวแทน (Mpreg)

เมียตัวแทน (Mpreg)

นิยายวาย

5.0

การแต่งงานกับคนที่ไม่เคยรู้จัก แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักกัน มันเจ็บแบบนี้นี่เอง เพราะไม่มีสถานะอะไร นอกจากเป็นเมียตัวแทน นิลกาฬ ธีรวัฒนาวัฒน์ อายุ 32 ปี ศัลยแพทย์หนุ่มหล่อมือหนึ่งพ่วงตำแหน่งเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังโดนผู้เป็นพ่อจับแต่งงาน กับลูกสาวเพื่อนสนิท เพราะมัวแต่ทำงานทำให้พ่อกลัวว่าลูกชายแก่ตัวมาจะไม่มีคนดูแล อยากให้แต่งงาน เขาก็แต่งให้แล้ว แต่ถ้าหลังแต่งงานแล้วอย่ามาก้าวก่ายเรื่องของเขาก็แล้วกัน พีรฉัตร ศิริวงศ์ไพโรจน์ อายุ 24 ปี หนุ่มนักเรียนนอกด้านการบริหารอาหารและเครื่องดื่มจากฝรั่งเศส ที่กลับบ้านมาโดนเซอร์ไพรส์ จากพี่สาวที่หนีการแต่งงาน ทำให้เขาต้องทำหน้าที่เป็นเมียตัวแทนทั้งที่ไม่รู้จักเจ้าบ่าวเลยแต่ต้องมาอยู่ ด้วยกันใช้ชีวิตสามีภรรยาเพื่อรอวันหย่า

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

ความจำเสื่อม ชีวิตใหม่

ความจำเสื่อม ชีวิตใหม่

Psithurist
5.0

หลังจากที่แฟนหนุ่มประสบอุบัติเหตุรถชนและหมดสติไปหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ฟื้นคืนความทรงจำขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาจำได้ว่ามีคนที่เขารักมายาวนาน ดังนั้น สิ่งแรกที่เซิ่งหลินชวนทำเมื่อฟื้นจากอาการโคม่า คือการขอเลิกกับฉินเวย “เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ฉันความจำเสื่อม ไม่ได้เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจทำจริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราตัดขาดความสัมพันธ์ ความรักของเราก็ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย ” ฉินเวยไม่ได้ว่าอะไร บัญเอิญว่าการวิจัยยาใหม่ในห้องทดลองสำเร็จ ฉินเวยจึงขอเข้าร่วมการทดลองยา “เมื่อคุณรับประทานยาเม็ดนี้ ความทรงจำส่วนนี้จะถูกลบไปอย่างถาวร คุณฉินเวย คุณตัดสินใจดีแล้วหรือ?”

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.8

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เลขาหน้าหวาน กับ ท่านประธานคลั่งรัก (Mpreg)
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1 เลขา

10/05/2025

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2 ท่านประธาน

10/05/2025

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3 เลขาของผม

10/05/2025

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4 จูบแรก

10/05/2025

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5 เตรียมออกงาน

10/05/2025

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6 ออกงานคู่

10/05/2025

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7 ต่อสู้กับฤทธิ์ยา

10/05/2025

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8 ฤทธิ์ยาหรือฤทธิ์รัก NC

10/05/2025

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9 ครั้งแรก พี่เวย์ไม่อ่อนโยน NC

10/05/2025

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10 ปรึกษาไอ้หมอหมา

10/05/2025

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11 ดูแล

11/05/2025

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12 มาทำงาน แต่งานไม่ได้ทำNC

12/05/2025

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13 มาทำงาน แต่งานไม่ได้ทำ NC (ต่อ)

14/05/2025

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14 คนอื่นเค้ารู้เรื่องหมดแล้ว

14/05/2025

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15 เป็นอะไรกันแน่

15/05/2025

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16 เมื่อต้องห่างกัน NC

15/05/2025

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17 ว่าที่พ่อตาแม่ยาย

16/05/2025

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18 เข้าหอ NC

17/05/2025

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19 โจทย์เก่าทำเอาหงุดหงิด

17/05/2025

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20 คนป่วยงอแง

18/05/2025

21

บทที่ 21 ตอนที่ 21 ไม่เห่อเลย

19/05/2025

22

บทที่ 22 ตอนที่ 22 เบบี๋อยากทักทายแด็ดดี้ NC

20/05/2025

23

บทที่ 23 ตอนที่ 23 การกลับมาของคนในอดีต

21/05/2025

24

บทที่ 24 ตอนที่ 24 ง้อคนงอน NC

21/05/2025

25

บทที่ 25 ตอนที่ 25 วรานนท์

22/05/2025