ยอดรักเฮียตะวัน

ยอดรักเฮียตะวัน

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
ชม
14
บท

เธอเป็นคู่หมั้นคู่หมายกับเขามานานหลายปี แต่เขาไม่อยากหมั้นและแต่งงานกับเธอ เขามีคนที่รักอยู่แล้ว เธอจึงกลายเป็นส่วนเกิน บิดามารดามาเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้เธอไร้ที่พึ่งพิง ในเมื่อเขาไม่รักใคร่ไยดี เธอก็พร้อมถอยห่าง แต่เขากลับตามติดไม่ยอมให้เธอออกไปจากชีวิตของเขา

บทที่ 1 1

ควันจากปล่องเมรุสีดำทะมึนทำให้ผกามณีน้ำตาซึม บิดามารดาจากไปแล้ว เธอรู้สึกเหมือนตัวคนเดียวเพราะไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีก

“ไม่เป็นไรนะจ๊ะ ไปอยู่กับลุงกับป้านะ”

“หนูเกรงใจน่ะค่ะ” ผกามณีเอ่ยอย่างเกรงใจ

“ผิงจะอยู่คนเดียวได้ยังไงลูก ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งอยู่คนเดียวไม่ได้ ในสวนก็ไกลผู้ไกลคน” ธาริณีลูบหลังลูบไหล่ สีหน้าท่าทีเป็นห่วงเป็นใยไม่น้อย

“จริงด้วย พ่อกับแม่ของเราน่ะฝากเราเอาไว้กับลุงกับป้า ถ้าลุงกับป้าต้องปล่อยให้หนูอยู่คนเดียว คงไม่ดีแน่” ศุภกรเองก็ไม่อยากให้ผกามณีอยู่เพียงลำพังที่บ้านสวนห่างไกลเช่นนี้

“เขาไม่อยากไปอยู่กับเรา แล้วเราจะไปบังคับเขาทำไมกันครับ” ประโยคของตะวัน ทำให้ผกามณีต้องเม้มปากเข้าหากัน

ตะวันเป็นคู่หมั้นของเธอ และเป็นลูกชายคนเดียวของศุภกรและธาริณี เพื่อนรักของบิดามารดา แต่เขาไม่ได้ยินดีกับการหมั้นในครั้งนี้ มีแค่เธอเท่านั้นที่แอบรักเขาข้างเดียว

“ปากเราเหรอนั่น ถ้าพูดแล้วฟังไม่เข้าหูแบบนี้เงียบไปเสียดีกว่า” ธาริณีหันไปบ่นกับลูกชาย ทำให้ตะวันต้องขอตัวไปรอที่รถ

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวจะพูดไม่เข้าหูหลานสาวสุดที่รักของคุณแม่อีก”

“อย่าไปถือสาเฮียเขาเลยนะลูก ลุงกับป้าจะดูแลหนูเอง”

“หนูขอนอนที่บ้านสวนสักสองสามคืนได้ไหมคะ” เพราะคิดถึงบิดามารดามาก ๆ บ้านหลังนี้มีแต่ความทรงจำดี ๆ ระหว่างเธอกับบิดามารดา

“เอางั้นเหรอจ๊ะ ให้ป้านอนเป็นเพื่อนไหม”

“ไม่เป็นไรค่ะ ที่นี่หนูนอนมาตั้งแต่เด็ก ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”

“ให้สาวใช้ที่บ้านของป้ามานอนเป็นเพื่อนดีกว่าจ้ะ”

“เกรงใจคุณป้าจังเลยค่ะ”

“เกรงใจอีกแล้ว ไม่ต้องเกรงใจหรอกจ้ะ ต่อไปหนูก็จะกลายมาเป็นลูกสาวป้าอีกคน” ท่านหมายถึงเธอต้องแต่งงานกับลูกชายของท่าน กลายไปเป็นสะใภ้ ก็เหมือนเป็นลูกสาวอีกคนของท่านนั่นเอง

“หนูขอบคุณคุณลุงคุณป้ามากนะคะที่เอ็นดูหนูถึงขนาดนี้”

“เรื่องเรียนของหนูว่ายังไงจ๊ะ” ขณะเดินไปขึ้นรถ ธาริณีก็สอบถามไปด้วย

“หนูสอบได้หลายที่ค่ะ กำลังตัดสินใจอยู่น่ะค่ะว่าจะเลือกที่ไหน” ตอนนี้ยังสามารถเลือกได้ว่าจะเรียนมหาวิทยาลัยไหน

“อันดับหนึ่งได้มหาวิทยาลัยที่ไหนจ๊ะ”

“ที่กรุงเทพฯ ค่ะ” เธอบอกชื่อมหาวิทยาลัยให้ท่านทั้งสองได้รับรู้

“เรียนเก่งเสียด้วย สอบติดที่นี่ถือว่าเก่งมากเลยจ้ะ เกรดเฉลี่ยของหนูได้สี่จุดศูนย์ศูนย์ใช่ไหม พ่อกับแม่ของหนูคงภูมิใจที่ลูกสาวขยันเรียนแบบนี้”

“หนูอยากเรียนเกษตรน่ะค่ะ เพราะชอบปลูกต้นไม้เหมือนคุณพ่อกับคุณแม่ คิดว่าเรียนจบจะกลับมาพัฒนาที่ดินน่ะค่ะ”

“ดีแล้วจ้ะ เลือกเรียนที่ตัวเองชอบ” ธาริณีพูดแล้วยิ้มกว้าง ครอบครัวของนางก็ทำไร่ทำสวน มีที่ดินมากมาย ถ้าลูกชายและลูกสะใภ้มุ่งมั่นไปกับการพัฒนาที่ดินก็ถือว่าดีมาก ๆ จะได้มีคนดูแลทรัพย์สินที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้ให้

“ตะวันไปส่งน้องที่บ้านสวนก่อนนะลูก” ธาริณีเอ่ยบอกลูกชายเมื่อขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว

“หลานสาวคนดีของคุณแม่ ไม่ไปอยู่กับคุณแม่เหรอครับ” ตะวันเอ่ยถาม

“น้องอยากนอนค้างที่บ้านน่ะจ้ะ คงจะคิดถึงพ่อกับแม่ อีกอย่างพรุ่งนี้ก็ต้องเก็บกระดูกด้วย”

“ครับ”

“ป้าไม่ยอมให้หนูนอนคนเดียวหรอกนะ” ธาริณีพูดขึ้นเมื่อลูกชายออกรถ

“คุณป้าจะนอนค้างที่บ้านหนูด้วยเหรอคะ”

“ใช่จ้ะ คุณลุงด้วย เฮียเขาด้วย” ใครจะให้เด็กสาวแสนสวยนอนบ้านสวนคนเดียวกันล่ะ แต่ในความคิดของผกามณี เธออยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็ก จึงไม่คิดว่าที่นี่น่ากลัวหรืออันตรายอะไร เพราะไม่เคยมีขโมยขโจรเข้ามาขโมยของหรือมาปล้นจี้ทำร้าย เธออยู่ที่นี่กับพ่อแม่อย่างสงบสุขมาตลอด

“ค่ะ” ผกามณีรับคำ

“ผมด้วยเหรอครับคุณแม่” คนขับรถเอ่ยถาม

“เราต้องขับรถให้พ่อกับแม่แล้วก็น้อง เราไม่นอนใครจะขับรถให้ พ่อเราน่ะหูตาไม่ค่อยดีแล้วนะ” ธาริณีค้อนลูกชาย

“เดี๋ยวหนูขับให้ก็ได้ค่ะ” บิดาสอนให้เธอหัดขับรถ ซึ่งเธอก็ขับรถเป็นและคล่องด้วย

“ขืนให้เธอขับ ได้พาพ่อกับแม่ฉันลงคูข้างทาง” ตะวันทำเสียงดุใส่

“อย่ามาดูถูกกันนะคะ ผิงขับรถคล่องแล้ว”

“อย่างนั้นเหรอ” เขายั่วแหย่ ทำเอาเธอต้องค้อนเขาเสียวงใหญ่

“ให้เฮียเขาขับน่ะดีแล้วจ้ะ” ธาริณีเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

ว่าที่ลูกสะใภ้ของนางไม่รู้จักทำตัวให้ผู้ชายอยากช่วยเหลือเลย พูดออกไปว่าขับรถเก่ง จะเปิดช่องให้ผู้ชาย

มาช่วยขับรถมาดูแล พาไปโน่นไปนี่ก็หมดโอกาสน่ะสิ นางไม่มีทางยอมแน่นอน

ลูกสะใภ้ของนางจะต้องเป็นผกามณีเท่านั้น คนอื่นนางไม่ต้องการ

บ้านเรือนไทยหลังใหญ่อันร่มรื่นด้านหลังบ้านมีคลอง ซึ่งที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบ ถ้าต้องการอาศัยกันอยู่เป็นครอบครัวและต้องการความสันโดษถือว่าโอเคทีเดียว แต่ถ้าต้องอยู่คนเดียวเป็นผู้ชายไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นผู้หญิงก็ดูจะอันตรายเกินไปในสังคมสมัยนี้

บ้านช่องของผกามณีสะอาดสะอ้าน รอบบ้านเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์ บ่งบอกว่าเจ้าของบ้านดูแลเอาใจใส่บ้านช่องเป็นอย่างดี จึงทำให้น่าอยู่เช่นนี้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
คู่หมั้นไร้เสน่หา

คู่หมั้นไร้เสน่หา

โรแมนติก

5.0

เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้อเสนอหัวใจ

ข้อเสนอหัวใจ

Nichole Venzo
5.0

หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย

เจ้าสาวหกเดือน

เจ้าสาวหกเดือน

เฌอเลียร์
5.0

อมันต์กับจันทร์นิลแต่งงานกันเพราะถูกคลุมถุงชน เธอแอบรักเขา แต่อมันต์กลับทำร้ายจิตใจ จนเธอต้องหนีหายไปพร้อมกับอีกหนึ่งชีวิต และในวันนี้เขาจะมาตามลูกเมียกลับคืน! +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ “ใครเหรอคะคุณแม่ ตัวซู้ง...สูง” พิณญาดาที่หลบหลังมารดาถาม ค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย ที่เขาเรียกชื่อเล่นจันทร์นิล แสดงว่ารู้จักกัน “เขาเป็น...” หญิงสาวอึกอัก “คนรู้จักของแม่ค่ะ” อมันต์กับเธอมีสถานะแค่นั้น ไม่ว่าวันนี้หรือเมื่อสี่ปีก่อน... “คุณมาที่นี่ทำไม” ภายใต้หนวดเครารุงรังนั้น ชายหนุ่มกำลังขบฟันกรอด ๆ “เรามีเรื่องต้องคุยกัน” เขาก้าวเท้ามาหา หากเธอถอยหลังหนี “แมลงปอคะ ลุงเลี้ยงสเลอร์ปี้นะ ไปกดได้เลย” เด็กหญิงตาวาว เหลือบมองแม่เพื่อดูว่าเธอจะอนุญาตหรือไม่ “ลุงมีเรื่องต้องคุยกับแม่หนูนิดหน่อย” เป็นประโยคคำสั่งที่อมันต์ใช้มันกับเธอตลอดเหมือนครั้งอดีต ออกคำสั่งผ่านดวงตา ให้เชื่อฟังเขา แต่วันนี้จะไม่เป็นเช่นนั้น จันทร์นิลไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว “ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ” เธอคว้ามือลูก แต่เขาเร็วกว่า คว้าแขนเธอไว้ดึงจนร่างเปรียวชนกับอกแข็ง ๆ อย่างแรง “อยากพูดเรื่องของเราต่อหน้าเด็กหรือไง คิดสิ แกจะรู้สึกยังไง” จันทร์มองพิณญาดาที่กำลังจ้องแม่และลุงตัวสูงตาแป๋ว “ฉันคุยกับเธอไม่นานหรอกน่า” อมันต์สำทับ “แมลงปอไปกดสเลอร์ปี้รอแม่นะคะ” เธอฝืนยิ้มให้ลูก เด็กหญิงพนมมือไหว้อมันต์ ตามที่เธอสอนไว้ ผู้ใหญ่ให้อะไรต้องขอบคุณ “นั่นลูกฉันใช่ไหม” เขาปล่อยเธอเป็นอิสระ ตามองร่างตุ้ยนุ้ยที่กดเครื่องดื่มอย่างร่าเริง “คุณไม่มีสิทธิ์ในตัวแก เราหย่ากันแล้ว ลืมไปหรือไง”

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
5.0

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

ซีไซต์
5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ