5.0
ความคิดเห็น
82.9K
ชม
144
บท

"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""

ตัวเอก

: มู่ชิงเกอ และ เฟิงจิ่วเฉิน

บทที่ 1 ตายอย่างอนาถก่อนกลับมาเกิดใหม่ (ภาค 1)

“ไม่…… เจ้าควักลูกตาข้าไปแล้ว เจ้าปล่อยลูกของพวกเราไปเถิด!”

ณ อาณาจักรเทียนอันแห่งดินแดนชางหลาน

ยามค่ำคืนที่มหามณเฑียรหลวง

มู่ชิงเกอที่ร่างกายอ่อนแอกำลังนอนฟุ๊บอยู่บนแท่นบูชา พลังจิตของนางถูกดูดไปจนหมด ข้อเท้าที่เรียวเล็กก็ถูกตัดไป ดวงตาทั้งสองข้างของนางโบ๋แห้งเกอะไปด้วยลอยเลือด

เลือดของนางไหลลงมาตามแท่นบูชา ย้อมทับบันไดแห่งสวรรค์ทั้งเก้าสิบเก้าขั้น

ส่วนนางกำลังแบกท้องโต ๆ นอนรอความตายอยู่บนแท่นบูชาอย่างหมดสภาพ

แต่……

ในตอนกลางวันนางยังเป็นองค์หญิงเฟิงหนิงผู้สูงศักดิ์ของอาณาจักรเทียนอันอยู่เลย นางไม่เพียงแต่เกิดมามีหน้าตาสะสวยงดงามจนน่าพิศวงเท่านั้น แต่ตอนอายุสิบเก้านางยังได้เป็นปรมาจารย์ระดับสูงในหมู่นักสื่อวิญญาณ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงดังกึกก้องไปทั่วโลกอีกด้วย

ถึงแม้ว่าซวนหยวนหยูผู้เป็นคู่หมั้นของนาง จะทำนางตั้งครรภ์ตั้งแต่ยังอายุน้อย แต่โชคดีที่หลังจากนางท้องเขาก็จะดูแลนางเป็นอย่างดีทุกวัน อีกทั้งยังให้สัตปฏิญาณว่าจะมาขอพรให้กับงานมงคลสมรสที่มหามณเฑียรหลวงอีกด้วย

ในสายตาของนางมีเพียงเรื่องที่น่ายินดีสองเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น

ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ จู่ ๆ มู่ชิงอวี่ผู้เป็นน้องสาวบุญธรรมของมู่ชิงเกอเปลี่ยนไปราวกับคนละคน ใบหน้าที่เหมือนกับนางทุกประการปรากฏตัวอยู่ตรงหน้านาง

หลังจากนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด ความฝันทุกอย่างพังลงในชั่วพริบตา

“ท่านพี่ ท่านยังโง่เขลาและไร้เดียงสาเหมือนเดิมเลยนะเจ้าคะ จนถึงตอนนี้แล้วท่านยังไม่เข้าใจอีกหรือ ลูกในท้องของท่านไม่ใช่ลูกของเฮียหยูเสียหน่อย!”

“หึ นังสารเลวยังไม่สำนึกอีก อวี่เออร์ของข้าบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ดีกว่าเจ้าเป็นพันเป็นหมื่นเท่า!! !”

เมื่อได้ยินว่าซวนหยวนหยู และมู่ชิงอวี่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย มู่ชิงเกอก็รู้สึทรมานราวกับจะขาดใจ

ที่แท้คนที่ขืนใจนางในคืนนั้น ก็คือผู้อื่น.....

แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ เด็กก็เป็นผู้ที่บริสุทธิ์ไม่ใช่หรือไร?

มู่ชิงเกอทำได้เพียงอดทนเก็บความเจ็บปวดในใจเอาไว้ พยักหน้าอย่างเศร้า ๆ นางกัดฟันอดทนต่อคำกล่าวหาและการใส่ร้ายทุกอย่างจากพวกเขา แล้วขอร้องอ้อนวอนอย่างขมขื่น

“อ๋องจ้าว มู่ชิงอวี่...... พวกท่านก็ได้พลังจิตทั้งหมดของข้าไปแล้ว อีกทั้งยังควักดวงตาสีม่วงที่มีศาสตร์ตาทิพย์ของข้าไปแล้ว ตอนนี้ขอเพียงแค่พวกท่านยอมปล่อยลูกในท้องของข้าไป ข้าพร้อมที่จะให้พวกท่านได้ทุกอย่าง!”

แต่ใครจะไปรู้ เสียงของซวนหยวนหยูกลับยังคงเย็นชาอยู่

“มีเลือดของเด็กคนนี้ อวี่เออร์ถึงจะสามารถแทนที่เจ้าได้อย่างสมบูรณ์ ไม่อย่างนั้นข้าจะยอมรับไอ้เด็กเวรนี่ และฝืนทนอยู่ร่วมกับเจ้ามานานกว่าแปดเดือนไปทำไม!”

ความเจ็บปวดจากการถูกหลอกลวงและถูกทรยศ มันทำให้มู่ชิงเกอรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น

สุดท้ายนางก็ยังคงอ้อนวอนต่อมู่ชิงอวี่อย่างไม่ลดละ เสียงของนางแทบจะสั่นเครืออยู่แล้ว

“อวี่เออร์ ข้าขอร้องล่ะ เจ้าปล่อยลูกข้าไปเถิด! ข้ายังทำดีกับเจ้าไม่มากพออีกหรือ?”

“เจ้าก็ดีกับข้าอยู่หรอก……” ทันใดนั้นมู่ชิงอวี่ก็ขยับเข้าไปใกล้อย่างดุดัน แล้วก็พูดด้วยเสียงที่มีแค่มู่ชิงเกอได้ยินเพียงคนเดียวว่า “เพราะเหตุนี้ ข้าก็เลยทำให้เจ้าได้มีค่ำคืนที่สุขสันต์ แล้วก็มีไอ้มารหัวขนคนนี้มามาอย่างไรเล่า บัดนี้ข้าจะช่วยเจ้าดูแลมันเอง เจ้าตายไปอย่างสบายใจได้เลย!”

ขณะที่กำลังพูด นางก็เอามีดสั้นแทงเข้าไปที่ท้องของมู่ชิงเกอ

คมมีดกรีดลงบนท้อง แล้วเด็กก็ถูกดึงตัวออกมา

ในขณะเดียวกัน ลำแสงสีม่วงก็พุ่งข้ามท้องฟ้าอันมืดมิดลงมา

มู่ชิงเกอเจ็บปวดปางตาย นางร้องโหยหวนอยู่ท่ามกลางแอ่งเลือดราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังโกรธแค้นไม่มีผิด

“ต่อให้ข้าจะเป็นผีไปแล้ว ข้าก็จะไม่ปล่อย..... ไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่!”

“คงต้องขึ้นอยู่กับว่าคนสารเลวเช่นเจ้า จะยังโชคดีได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกรึเปล่าแล้วล่ะ!”

ซวนหยวนหยูเตะนางออกไปจากชั้นที่เก้าสิบเก้าของมหามณเฑียรหลวงอย่างแรง!

มู่ชิงเกอถูกเตะลงไปในเหวลึกราวกับว่าวที่เชือกขาด ภายในชั่วพริบตาร่างของนางก็หายไปท่ามกลางเมฆหมอก

ซวนหยวนหยูยืนกอดมู่ชิงอวี่อยู่บนแท่นบูชา ส่วนมู่ชิงอวี่ก็กำลังอุ้มเด็กเอาไว้ แล้วพวกเขาก็เดินจากไปพร้อมกันประหนึ่งสามคนพ่อแม่ลูก

ซึ่งพวกเขาไม่รู้เลยว่า จู่ ๆ ก็มีลำแสงของดวงตาสีม่วงพุ่งออกมาจากกลางหน้าผาด้านหลังของพวกเขา!

จากนั้นรัศมีอันแรงกล้าก็เปล่งออกมาจากตัวของมู่ชิงเกอ!

มู่ชิงเกอที่ไร้ซึ่งลมหายใจไปแล้ว หอบหายใจเข้าออกอย่างรุนแรง!

เจ็บเหลือเกิน!

นางไม่เพียงแต่เจ็บระบมไปทั้งร่างกายเท่านั้น แต่ดวงตาของนางยังมองไม่เห็นอีกด้วย!

ตอนนี้ในเบ้าตาของนางมีเพียงแสงสีม่วงจากศาสตร์ตาทิพย์ที่ยังหลงเหลืออยู่เท่านั้น ซึ่งช่วยให้นางมองเห็นได้อย่างเลือนราง

ภายใต้การมองเห็นที่แทบจะมืดสนิท ความทรงจำอันน่าเศร้าต่าง ๆ ก็พรั่งพรูขึ้นมาในหัวของนาง

มู่ชิงเกอนักฝึกดวงตาสัตว์อสูรอันดับหนึ่งในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดผู้สง่างาม ได้ข้ามเวลามาอยู่ในร่างของหญิงสาวผู้โชคร้ายคนหนึ่ง!

ทว่าด้วยความที่มู่ชิงเกอเป็นคนจำฝั่งใจมาตลอด ในเมื่อนางมารับช่วงต่อร่างของเจ้าของร่างเดิมแล้ว ความอัปยศอดสู และความเจ็บปวดทั้งหมดที่นางต้องแบกรับในวันนี้ ในภายภาคหน้านางจะส่งคืนกลับไปเป็นร้อยเท่าพันเท่า หากไม่ตายกันไปข้างนางจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!

ในช่วงเวลาสำคัญของความเป็นความตายนี้ นางไม่มีเวลามาคิดอะไรมากแล้ว

ขั้นแรกนางตวัดมือออกไป จิ้มจุดฝังเข็มสำคัญหลายจุดอย่างแรงเพื่อห้ามเลือด ทำให้เลือดแข็งตัว สามารถบรรเทาอาการปวดลงได้

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

แก้วใบเล็ก
5.0

โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว            “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ”            “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย”            “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้”            “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่”            “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย            “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้            “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน            “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ            “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้”            ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน            เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด            “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง            คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม            ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน

ฉันหนีไม่พ้นแล้ว

ฉันหนีไม่พ้นแล้ว

Fiona Lynx
5.0

ที่งานหมั้น มู่ซินยวี่ดื่มเหล้าเข้าไปจนรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว เมื่อเห็นเงาร่างที่คุ้นเคย เธอจึงพุ่งเข้าไปหาและจูบอย่างหลงใหล “คุณสามีจ๋า ฉันอยาก...” หลังจากเกิดอะไรบ้าคลั่งมาคืนหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าชายที่อยู่ข้างกายเธอคือ เสิ่นเจียสวี่ ลูกพี่ลูกน้องนักบินของคู่หมั้น! “ตอดรัดแน่นมาก ชอบมากเลยเหรอ?”พอเสียงแหบ ๆ เบา ๆ นี้ลอยเข้าหูมา ที่น่ากลัวกว่านั้นคือเสียงคู่หมั้น เสิ่นเจียหวิน ตะโกนโวยวายอยู่หน้าประตู เสิ่นเจียสวี่เอาเสื้อสูทคลุมหัวเธอเพื่อพาเธอออกมาแต่ก็ยื่นเงื่อนไขโหดร้าย “มาเป็นกิ๊กของฉัน ไม่งั้น...ลองเดาดูสิว่าตระกูลเสิ่นจะมองเธอเป็นหญิงสำส่อนยังไง ?” มู่ซินยวี่กัดฟันรับข้อเสนอ แค่อยากจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ แต่กลับพบว่าเสิ่นเจียสวี่คือกัปตันเครื่องบินของเธอ ในห้องพักบนเครื่องบินสูงหมื่นเมตร เขาจับเอวเธอ "คิดหนีเหรอ? เที่ยวบินนี้ฉันเป็นเป็นหลัก" เธอกล้ำกลืนเอาไว้เพื่อรักษาบริษัทที่แม่ทิ้งไว้และพ่อที่ป่วยหนักของเธอ แต่กลับได้ยินเสิ่นเจียหวินเยาะเย้ยว่า “คุณหนูที่ตกอับ เล่นสนุกแค่แป๊บเดียวก็เบื่อแล้ว!” และเห็นเขากอดมู่อยู่อู่ น้องสาวบุญธรรม พร้อมทุ่มเงินฟุ่มเฟือย! มู่ซินยวี่รู้สึกใจหาย เอาล่ะ การหมั้นนี้ เธอไม่เอาแล้ว เธอหันหลังไปหาเสิ่นเจียสวี่ที่มีอำนาจมากกว่า “ช่วยฉันถอนหมั้น ฟื้นฟูบริษัท แล้วฉันจะยอมตามใจคุณ” ชายหนุ่มมีประกายตาแห่งความต้องการเป็นเจ้าของ “ตกลง จำไว้ จากนี้ไป เธอต้องเป็นของฉันเท่านั้น” ตั้งแต่นั้น ชีวิตของมู่ซินยวี่ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.8

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ตำนานตาม่วง
1

บทที่ 1 ตายอย่างอนาถก่อนกลับมาเกิดใหม่ (ภาค 1)

27/06/2025

2

บทที่ 2 ตายอย่างอนาถก่อนกลับมาเกิดใหม่ (ภาค 2)

27/06/2025

3

บทที่ 3 สตรีสองแม่ลูกแต่งกายเป็นบุรุษเพศ (ภาค 1)

27/06/2025

4

บทที่ 4 สตรีสองแม่ลูกแต่งกายเป็นบุรุษเพศ (ภาค 2)

27/06/2025

5

บทที่ 5 เอาเด็กกลับไปผิดคน (ภาค 1)

27/06/2025

6

บทที่ 6 เอาเด็กกลับไปผิดคน (ภาค 2)

27/06/2025

7

บทที่ 7 ออกไปจากที่นี่ (ภาค 1)

27/06/2025

8

บทที่ 8 ออกไปจากที่นี่ (ภาค 2)

27/06/2025

9

บทที่ 9 ในที่สุดก็หาเจ้าเจอเสียที

27/06/2025

10

บทที่ 10 มังกรเก้าสวรรค์ยังต้องก้มหัวศิโรราบ

27/06/2025

11

บทที่ 11 ทำไมจึงไม่มีปฏิกิริยาอันใดเลย

27/06/2025

12

บทที่ 12 ค่อย ๆ ทรมานอย่างช้า ๆ

27/06/2025

13

บทที่ 13 รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

27/06/2025

14

บทที่ 14 ลูกรัก เจ้ามีนามว่าเยี่ยงใด

27/06/2025

15

บทที่ 15 เฉิงเอ๋อร์

27/06/2025

16

บทที่ 16 เขาคือพ่อแท้ ๆ ของเป่าเอ๋อร์กับเฉิงเอ๋อร์อย่างนั้นรึ

27/06/2025

17

บทที่ 17 คิดจะหนีงั้นหรือ สายไปเสียแล้วล่ะ

27/06/2025

18

บทที่ 18 ท่านหลี่ผู้ดูแลจวน

27/06/2025

19

บทที่ 19 มู่หยวนเฟิง

27/06/2025

20

บทที่ 20 เกิดความผิดปกติขึ้นอย่างกะทันหัน

27/06/2025

21

บทที่ 21 พิษ

27/06/2025

22

บทที่ 22 ช่างน่าชังยิ่งนัก

27/06/2025

23

บทที่ 23 เรือนหลังนี้ ข้าไม่ขาย

27/06/2025

24

บทที่ 24 หมอผี

27/06/2025

25

บทที่ 25 เกิดมาพร้อมกับดวงตาสีม่วง

27/06/2025

26

บทที่ 26 ฝึกฝนการใช้งานศาสตร์ตราทิพย์

27/06/2025

27

บทที่ 27 ภาวะบกพร่องทางการสื่อสาร

27/06/2025

28

บทที่ 28 เปิดโรงหมอ

27/06/2025

29

บทที่ 29 ท่านเองก็อย่าหวังว่าจะได้มีชีวิตที่สงบสุขเลย

27/06/2025

30

บทที่ 30 พ่อตัวจริงอย่างนั้นรึ

27/06/2025

31

บทที่ 31 มีวิธีที่จะจัดการกับเจ้าเยอะแยะไป

27/06/2025

32

บทที่ 32 ยอมให้ข้าดูดเลือดเจ้าแต่โดยดี

27/06/2025

33

บทที่ 33 กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง

27/06/2025

34

บทที่ 34 ใครเด็กเหลือขอ

27/06/2025

35

บทที่ 35 ต่างคนต่างมีจุดประสงค์แอบแฝง

28/06/2025

36

บทที่ 36 มู่ซินโหรว

29/06/2025

37

บทที่ 37 เจ้าไปเอาความกล้ามาจากที่ใด

30/06/2025

38

บทที่ 38 คนจากจวนจิงหยวนโหวมา

01/07/2025

39

บทที่ 39 ช่างน่าหดหู่ใจเสียจริง

02/07/2025

40

บทที่ 40 ไม่คิดว่าสิ่งที่พูดมาน่าขันบ้างเลยรึ

03/07/2025