ความรักคือ กรงขังของฉัน ไม่ใช่ ความรอด

ความรักคือ กรงขังของฉัน ไม่ใช่ ความรอด

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
15
ชม
10
บท

เป็นเวลาห้าปีเต็ม ที่ฉันใช้ชีวิตในฐานะ ‘เกรซ สิริวัฒนา’ ทายาทที่หายสาบสูญของอาณาจักรเกษตรกรรมยักษ์ใหญ่ ฉันได้กลับมาสู่อ้อมอกของพ่อแม่ผู้เป็นที่รัก และได้แต่งงานกับ ‘คเชนทร์’ สามีที่แสนดีเลิศเลอ พวกเขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน เป็นครอบครัวที่ฉันโหยหามาทั้งชีวิต แต่ทั้งหมดนั้น... คือเรื่องโกหก การเลี้ยวรถผิดเพียงครั้งเดียว นำพาฉันไปสู่ฟาร์มลับแห่งหนึ่ง ที่นั่นฉันได้พบสามีของตัวเองกำลังเล่นอยู่กับเด็กชายตัวน้อย และ ‘พลอย’... น้องสาวบุญธรรมที่พวกเขาเคยบอกฉันว่าเสียชีวิตไปแล้วในอุบัติเหตุทางรถยนต์ พ่อแม่ของฉันก็ร่วมรู้เห็นเป็นใจด้วย พวกเขาสนับสนุนชีวิตลับๆ ของคนทั้งคู่ และหลานชาย ‘ตัวจริง’ ของพวกเขา ไม่ใช่แค่ซุกซ่อนครอบครัวลับๆ ไว้เท่านั้น แต่พวกเขากำลังวางแผนที่จะกำจัดฉันทิ้ง คลิปเสียงในคอมพิวเตอร์ของคเชนทร์เปิดโปงแผนการทั้งหมด พวกเขาวางแผนจะมอมยาคลายกังวลให้ฉัน และป้ายสีว่าฉันเป็นโรคประสาท ถ้าหากฉันสร้างปัญหาให้กับบริษัท ความรักที่ฉันเคยคิดว่าเป็นดั่งแสงสว่าง กลับกลายเป็นกรงขังที่จองจำฉันไว้ เด็กสาวผู้ใสซื่อที่เคยเชื่อในความรักจอมปลอมของพวกเขาได้ตายลงในวันนั้นแล้ว เหลือเพียงความแค้นที่เย็นเยียบและรอวันชำระ ไม่กี่คืนต่อมา ในมื้อค่ำของครอบครัว คุณแม่เลื่อนแก้วไวน์มาตรงหน้าฉัน “หน้าซีดจังเลยนะลูก” ท่านพูด “ดื่มนี่สิ จะได้รู้สึกผ่อนคลาย” ฉันรู้ดีว่านี่คือขั้นแรกของแผนการชั่วร้ายนั่น ในไวน์แก้วนั้นมียาอยู่ ฉันยิ้ม... สบตาทุกคน... แล้วยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด เกมของพวกเขาจบลงแล้ว แต่เกมของฉัน... เพิ่งจะเริ่มต้น

บทที่ 1

เป็นเวลาห้าปีเต็ม ที่ฉันใช้ชีวิตในฐานะ ‘เกรซ สิริวัฒนา’ ทายาทที่หายสาบสูญของอาณาจักรเกษตรกรรมยักษ์ใหญ่ ฉันได้กลับมาสู่อ้อมอกของพ่อแม่ผู้เป็นที่รัก และได้แต่งงานกับ ‘คเชนทร์’ สามีที่แสนดีเลิศเลอ พวกเขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน เป็นครอบครัวที่ฉันโหยหามาทั้งชีวิต

แต่ทั้งหมดนั้น... คือเรื่องโกหก

การเลี้ยวรถผิดเพียงครั้งเดียว นำพาฉันไปสู่ฟาร์มลับแห่งหนึ่ง ที่นั่นฉันได้พบสามีของตัวเองกำลังเล่นอยู่กับเด็กชายตัวน้อย และ ‘พลอย’... น้องสาวบุญธรรมที่พวกเขาเคยบอกฉันว่าเสียชีวิตไปแล้วในอุบัติเหตุทางรถยนต์

พ่อแม่ของฉันก็ร่วมรู้เห็นเป็นใจด้วย พวกเขาสนับสนุนชีวิตลับๆ ของคนทั้งคู่ และหลานชาย ‘ตัวจริง’ ของพวกเขา ไม่ใช่แค่ซุกซ่อนครอบครัวลับๆ ไว้เท่านั้น แต่พวกเขากำลังวางแผนที่จะกำจัดฉันทิ้ง

คลิปเสียงในคอมพิวเตอร์ของคเชนทร์เปิดโปงแผนการทั้งหมด พวกเขาวางแผนจะมอมยาคลายกังวลให้ฉัน และป้ายสีว่าฉันเป็นโรคประสาท ถ้าหากฉันสร้างปัญหาให้กับบริษัท

ความรักที่ฉันเคยคิดว่าเป็นดั่งแสงสว่าง กลับกลายเป็นกรงขังที่จองจำฉันไว้ เด็กสาวผู้ใสซื่อที่เคยเชื่อในความรักจอมปลอมของพวกเขาได้ตายลงในวันนั้นแล้ว เหลือเพียงความแค้นที่เย็นเยียบและรอวันชำระ

ไม่กี่คืนต่อมา ในมื้อค่ำของครอบครัว คุณแม่เลื่อนแก้วไวน์มาตรงหน้าฉัน

“หน้าซีดจังเลยนะลูก” ท่านพูด “ดื่มนี่สิ จะได้รู้สึกผ่อนคลาย”

ฉันรู้ดีว่านี่คือขั้นแรกของแผนการชั่วร้ายนั่น ในไวน์แก้วนั้นมียาอยู่

ฉันยิ้ม... สบตาทุกคน... แล้วยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด

เกมของพวกเขาจบลงแล้ว

แต่เกมของฉัน... เพิ่งจะเริ่มต้น

บทที่ 1

เกรซ POV:

โลกทั้งใบของฉันพังทลายลงในวินาทีที่ฉันได้เห็นภาพครอบครัว... ที่ไม่ใช่ของฉัน

ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ชีวิตของฉันเปรียบเสมือนสวรรค์ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีต ฉันคือเกรซ สิริวัฒนา ทายาทที่หายสาบสูญของอาณาจักรสิริวัฒนาเกษตร ที่ได้กลับคืนสู่ครอบครัวอีกครั้ง ฉันมีพ่อแม่ที่รักและเอาใจใส่ มีคเชนทร์ สามีที่แสนดี รอยยิ้มอ่อนโยนของเขาคือดวงอาทิตย์ที่โลกทั้งใบของฉันหมุนรอบ

เขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน พ่อแม่ก็คือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน พวกเขาเป็นเหมือนสมอเรือที่ช่วยยึดชีวิตอันไร้ทิศทางของฉันเอาไว้ หลังจากที่ต้องระหกระเหินอยู่ในบ้านเด็กกำพร้ามานานหลายปี ฉันมอบความไว้ใจ ความสามารถ และหัวใจทั้งดวงให้กับพวกเขา

ห้าปีก่อน พวกเขาบอกฉันว่าพลอย น้องสาวบุญธรรมที่เติบโตมาแทนที่ฉัน ได้เสียชีวิตลงในอุบัติเหตุรถยนต์ที่น่าเศร้า งานศพถูกจัดขึ้นอย่างเงียบๆ โดยที่โลงศพถูกปิดตาย ฉันถึงกับหลั่งน้ำตาให้กับเด็กสาวที่เคยเกลียดชังฉัน คนที่เคยคิดร้ายวางแผนทำลายโปรเจกต์ใหญ่ชิ้นแรกของฉัน จนเกือบทำให้บริษัทที่บรรพบุรุษสร้างมาต้องล้มละลาย

‘การตาย’ ของเธอให้ความรู้สึกเหมือนบทที่มืดมนได้ปิดฉากลง และเปิดทางให้แสงสว่างได้สาดส่องเข้ามาเสียที

แต่ตอนนี้ ฉันรู้แล้วว่าแสงสว่างนั้นเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง

มันเริ่มต้นจากการเลี้ยวผิดระหว่างทางกลับจากไซต์งาน ถนนส่วนบุคคลที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน มีป้ายเล็กๆ ที่แทบมองไม่เห็นติดโลโก้ของกลุ่มสิริวัฒนาอยู่ ความสงสัยใคร่รู้ที่โง่เขลาและเป็นเวรเป็นกรรม ดึงดูดให้ฉันขับตามเข้าไป มันนำไปสู่ฟาร์มกว้างใหญ่ที่งดงามราวกับภาพวาด ซึ่งฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าบริษัทของเราเป็นเจ้าของ

และที่นั่น... บนสนามหญ้าที่อาบไล้ด้วยแสงแดดอบอุ่น ฉันเห็น ‘ผี’ กำลังเล่นอยู่กับเด็กชายตัวน้อย

พลอย...

เธอกำลังหัวเราะ เส้นผมเป็นประกายในแสงแดด ดูสดใสและมีชีวิตชีวา... มากๆ และข้างๆ เธอ คนที่กำลังอุ้มเด็กชายตัวน้อยโยนขึ้นไปในอากาศ คือสามีของฉัน... คเชนทร์ของฉัน

ภาพนั้นดูอบอุ่นและเปี่ยมสุขเสียจนสมองของฉันปฏิเสธที่จะประมวลผลในวินาทีแรก มันเหมือนกับการมองดูรูปถ่ายในชีวิตของคนแปลกหน้า แต่ผู้ชายคนนั้นคือคเชนทร์อย่างไม่ต้องสงสัย และผู้หญิงคนนั้นก็คือพลอย ส่วนเด็กชาย... ที่มีผมหยิกสีเข้มเหมือนคเชนทร์และดวงตาสดใสเหมือนพลอย ดูแล้วน่าจะอายุราวๆ สี่ขวบ

ความรู้สึกเย็นเยียบและหนักอึ้งก่อตัวขึ้นในช่องท้องของฉัน มันหนักหน่วงเสียจนฉันรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก

ฉันจอดรถหลังพุ่มไม้หนาทึบ มือสั่นเทาจนแทบจะดับเครื่องยนต์ไม่ได้ ฉันค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้ ซ่อนตัวอยู่หลังกำแพงหินเก่า หัวใจเต้นรัวเหมือนนกที่ติดอยู่ในกรง

ตอนนี้ฉันได้ยินเสียงของพวกเขาแล้ว มันลอยมาตามสายลมอ่อนๆ

“สูงอีกครับพ่อ สูงอีก!” เด็กชายร้องลั่นอย่างดีใจ

พ่อ... คำๆ นี้บาดลึกเข้ามาในใจฉัน

“ระวังหน่อยสิคะคเชนทร์” พลอยพูด น้ำเสียงของเธอเจือไปด้วยความรักใคร่ที่ทำให้เลือดในกายฉันเย็นเฉียบ “อย่าให้ลูกคึกเกินไปก่อนจะถึงเวลานอนกลางวันนะคะ”

“เขาไม่เป็นไรหรอกน่า ใช่ไหมครับดิน?” คเชนทร์กดจูบลงบนหน้าผากของเด็กชาย “แชมเปี้ยนตัวน้อยของพ่อ”

แล้วคำพูดของพลอยก็ลอยมาถึงหูฉัน มันพันรอบลำคอและบีบรัดจนหายใจไม่ออก “ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้นะคะคเชนทร์ สำหรับทุกอย่างเลย ที่คอยปกป้องพวกเราให้ปลอดภัย”

“เสมอครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและปลอบประโลมแบบเดียวกับที่เขาใช้กับฉันทุกวัน “ผมจะปกป้องครอบครัวของผมเสมอ”

ครอบครัวของผม...

โลกทั้งใบหมุนคว้าง ดวงอาทิตย์ที่เคยสาดส่องกลับรู้สึกหนาวเหน็บ บ้านไร่ที่สวยงาม ทุ่งหญ้าสีเขียว เด็กน้อยที่หัวเราะร่า... ทั้งหมดกลายเป็นละครโรงใหญ่แห่งการหลอกลวงที่น่าขยะแขยง การแต่งงานของฉัน ครอบครัวของฉัน ชีวิตทั้งชีวิตของฉันตลอดห้าปีที่ผ่านมา... มันเป็นเพียงฉากละคร เป็นเรื่องราวที่แต่งขึ้นเพื่อปกปิดพวกเขา

คลื่นความคลื่นไส้รุนแรงตีขึ้นมาจนฉันต้องยกมือปิดปาก ความรักที่ฉันเคยทะนุถนอม ครอบครัวที่ฉันโหยหามาทั้งชีวิต... ทั้งหมดเป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้เพื่อปกปิดอาชญากรรมทางธุรกิจและครอบครัวลับๆ ของพวกเขา

ฉันเดินโซซัดโซเซกลับไปที่รถ ร่างกายเคลื่อนไหวไปเองเหมือนหุ่นยนต์ ขณะที่ฉันกำลังคลำหากุญแจ โทรศัพท์ของฉันก็สั่นขึ้น เป็นข้อความจากแม่

`เช็กหน่อยจ้ะลูกรัก ทุกอย่างโอเคไหม?`

ความรักความห่วงใยที่ดูเป็นปกติธรรมดานั้น บัดนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัว ฉันจ้องมองหน้าจอ ภาพเบื้องหน้าพร่ามัว พวกเขาทุกคนร่วมมือกัน พ่อแม่ของฉันที่เคยร้องไห้เสียใจกับการ ‘ตาย’ ของพลอยไปกับฉัน พวกเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องโกหกนี้

นิ้วของฉันขยับไปอย่างเย็นชาและไร้ความรู้สึก พิมพ์ข้อความตอบกลับ มันเป็นการลองใจที่บ้าบิ่นและสิ้นหวัง เหมือนการโยนไม้ขีดก้านเดียวเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยแก๊ส

`ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะ พอดีระหว่างทางกลับบ้านเจออะไรแปลกๆ แวบแรกเกรซนึกว่าเห็นพลอย`

ฉันกดส่ง

การตอบสนองเกิดขึ้นทันที โทรศัพท์ของฉันไม่ได้สั่น แต่มันดังขึ้น เป็นพ่อที่โทรมา ฉันปล่อยให้มันตัดเข้าวอยซ์เมล วินาทีต่อมา โทรศัพท์ของคเชนทร์ซึ่งฉันมองเห็นจากที่ซ่อนว่าวางอยู่บนผ้าห่มปิกนิกก็สว่างขึ้น เขารับสาย แผ่นหลังของเขาเกร็งขึ้นมาทันที

โทรศัพท์ของฉันดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นคเชนทร์ หน้าจอโชว์รูปคู่ของเราในวันแต่งงานที่กำลังยิ้มแย้ม เป็นเรื่องตลกที่แสนโหดร้าย

ฉันรับสาย ลำคอแห้งผาก “ฮัลโหลคะ?”

“เกรซ? ที่รัก เป็นอะไรรึเปล่า?” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใยที่เสแสร้งได้อย่างสมบูรณ์แบบ “คุณพ่อโทรหาพี่ บอกว่าเกรซส่งข้อความแปลกๆ มา นี่เรื่องเห็นพลอยมันอะไรกัน เกรซคงจะเหนื่อยมากแน่ๆ”

ฉันเอนศีรษะพิงกระจกรถที่เย็นเฉียบ เล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ ความเจ็บปวดเล็กๆ น้อยๆ นี้เป็นเหมือนสมอที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ฉันต้องใจเย็น ฉันต้องเล่นไปตามบท

“เกรซ... เกรซรู้ค่ะ” ฉันกระซิบ พยายามดัดเสียงให้สั่น “พี่พูดถูก เกรซแค่เหนื่อย คงเป็นแค่คนที่หน้าเหมือนเธอน่ะค่ะ มันทำให้เกรซตกใจ แค่นั้นเอง”

มีความเงียบงันชั่วครู่ ฉันได้ยินเสียงลมพัดใบไม้ และเสียงหัวเราะของเด็กชายที่ดังแว่วมาแต่ไกล

“แน่นอน มันก็แค่นั้นแหละ” เขาพูด น้ำเสียงอ่อนลงด้วยความโล่งอก เขาเชื่อฉัน “ฟังนะ พี่ใกล้จะเสร็จธุระที่นี่แล้ว เดี๋ยวจะรีบกลับบ้านไปทำอาหารเย็นให้ เราจะได้พักผ่อนกันนะ โอเคไหมที่รัก?”

“โอเคค่ะ” ฉันตอบกลับไปได้แค่นั้น

เขากลับไปสู่ชีวิตอีกด้านของเขา สู่ครอบครัวที่แท้จริงของเขา คงจะรู้สึกเหมือนเพิ่งหลบกระสุนได้อย่างหวุดหวิด

แต่ขณะที่ฉันวางสาย ความจริงอันเยือกเย็นก็กระจ่างชัดขึ้นมา ผู้ชายที่ฉันแต่งงานด้วยไม่ใช่แค่คนโกหก เขาคือคนแปลกหน้า และความรักที่ฉันเคยคิดว่าเป็นดั่งแสงสว่าง กลับกลายเป็นกรงขังที่จองจำฉันไว้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
การหลอกลวงห้าปี การชดใช้ตลอดชีวิต

การหลอกลวงห้าปี การชดใช้ตลอดชีวิต

สยองขวัญ

5.0

ฉันคืออลินา ธีรโชติ ทายาทที่หายสาบสูญไปนานของตระกูลดัง ในที่สุดก็ได้กลับบ้านหลังจากต้องระหกระเหินในบ้านเด็กกำพร้ามาทั้งชีวิต พ่อแม่รักและเอ็นดูฉัน สามีทะนุถนอมฉัน ส่วนผู้หญิงที่พยายามทำลายชีวิตฉันอย่างคีรติก็ถูกขังอยู่ในโรงพยาบาลบ้า ฉันปลอดภัย ฉันเป็นที่รัก ในวันเกิดของฉัน ฉันตัดสินใจจะไปเซอร์ไพรส์ไอศูรย์ สามีของฉันที่ออฟฟิศ แต่เขาไม่อยู่ที่นั่น ฉันตามไปเจอเขาที่แกลเลอรี่ส่วนตัวแห่งหนึ่งอีกฟากของกรุงเทพฯ เขายืนอยู่กับคีรติ เธอไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลบ้า เธอดูสดใสเปล่งปลั่ง กำลังหัวเราะอย่างมีความสุขขณะยืนอยู่ข้างๆ สามีของฉันและลูกชายวัยห้าขวบของพวกเขา ฉันมองผ่านกระจกใส เห็นไอศูรย์ก้มลงจูบเธอ เป็นจูบที่แสนคุ้นเคยและเต็มไปด้วยความรักแบบเดียวกับที่เขาเพิ่งจูบฉันเมื่อเช้านี้ ฉันแอบเข้าไปใกล้ขึ้นและได้ยินบทสนทนาของพวกเขา คำขอของฉันที่อยากไปเที่ยวสวนสนุกในวันเกิดถูกปฏิเสธ เพราะเขาสัญญาไว้แล้วว่าจะเหมาสวนสนุกทั้งสวนให้กับลูกชายของพวกเขา ซึ่งเกิดวันเดียวกับฉัน “ยัยนั่นซาบซึ้งที่มีครอบครัวจนเราพูดอะไรก็เชื่อไปหมด” ไอศูรย์พูด น้ำเสียงของเขาเจือความเหยียดหยามที่โหดร้ายจนฉันแทบหยุดหายใจ “น่าสมเพชชะมัด” โลกทั้งใบของฉัน—พ่อแม่ที่แสนดีซึ่งคอยให้เงินทุนสนับสนุนชีวิตลับๆ นี้ สามีผู้ทุ่มเท—เป็นเพียงเรื่องโกหกที่ดำเนินมานานถึงห้าปี ฉันเป็นแค่ตัวตลกที่พวกเขาจับมาเล่นละครตบตา โทรศัพท์ของฉันสั่น เป็นข้อความจากไอศูรย์ที่ส่งมาขณะที่เขายืนอยู่กับครอบครัวที่แท้จริงของเขา “เพิ่งประชุมเสร็จ เหนื่อยมากเลย คิดถึงนะ” คำโกหกง่ายๆ นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย พวกเขาคิดว่าฉันเป็นแค่เด็กกำพร้าผู้น่าสงสารที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับความรัก และจะควบคุมยังไงก็ได้ พวกเขาคิดผิด และกำลังจะได้รู้ว่าผิดมหันต์แค่ไหน

การจากลาครั้งที่เก้าสิบเก้า

การจากลาครั้งที่เก้าสิบเก้า

วัยรุ่น

5.0

ครั้งที่เก้าสิบเก้าที่ ‘เจต’ ทำให้ฉันใจสลาย คือครั้งสุดท้ายของเรา เราสองคนเคยเป็นคู่รักดาวเด่นของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา อนาคตของเราถูกวางแผนไว้อย่างสวยหรูว่าจะเข้าเรียนที่จุฬาฯ ด้วยกัน แต่แล้วในช่วงปีสุดท้ายของม.ปลาย เขากลับไปหลงรักผู้หญิงคนใหม่ที่ชื่อ ‘แคท’ เรื่องราวความรักของเรากลายเป็นละครน้ำเน่าราคาถูกที่น่าเบื่อหน่าย เต็มไปด้วยการทรยศของเขาและการขู่ว่าจะเลิกอย่างไร้ความหมายของฉัน ในงานเลี้ยงจบการศึกษา แคท ‘บังเอิญ’ ดึงฉันตกลงไปในสระว่ายน้ำกับเธอ เจตกระโดดลงไปช่วยโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เขากลับว่ายผ่านฉันที่กำลังตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดไปอย่างไม่ใยดี แล้วโอบแขนรอบตัวแคทก่อนจะพาเธอขึ้นจากสระอย่างปลอดภัย ขณะที่เขาช่วยพยุงเธอขึ้นจากสระ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ เขาหันกลับมามองฉันที่ตัวสั่นเทา มาสคาร่าไหลเป็นทางสีดำอาบแก้ม “ชีวิตเธอ ไม่ใช่ปัญหาของฉันอีกต่อไป” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนน้ำในสระที่ฉันกำลังจะจมดิ่งลงไป คืนนั้นเอง บางสิ่งในตัวฉันก็แตกสลายลงอย่างสมบูรณ์ ฉันกลับบ้าน เปิดโน้ตบุ๊ก และคลิกปุ่มยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาต่อ ไม่ใช่ที่จุฬาฯ กับเขา แต่เป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คนละฟากฝั่งของกรุงเทพฯ

ค่า เมียน้อย วัยสิบเก้า ของเขา

ค่า เมียน้อย วัยสิบเก้า ของเขา

โรแมนติก

5.0

คริสโตเฟอร์ อัศวโยธิน สามีของฉัน คือเพลย์บอยตัวพ่อที่ฉาวที่สุดในกรุงเทพฯ เขามีชื่อเสียงเรื่องการควงเด็กสาวอายุสิบเก้าเป็นฤดูกาล ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ฉันเชื่อมาตลอดว่าฉันคือข้อยกเว้นที่สามารถทำให้เขาหยุดได้ ภาพลวงตานั้นพังทลายลง เมื่อพ่อของฉันต้องการการปลูกถ่ายไขกระดูก ผู้บริจาคที่เข้ากันได้สมบูรณ์แบบคือเด็กสาวอายุสิบเก้าชื่อไอริน ในวันผ่าตัด พ่อของฉันเสียชีวิต เพราะคริสเลือกที่จะนอนอยู่บนเตียงกับเธอ แทนที่จะพาเธอไปโรงพยาบาล การหักหลังของเขายังไม่จบแค่นั้น ตอนที่ลิฟต์ร่วง เขาดึงเธอออกไปก่อนแล้วทิ้งให้ฉันร่วงลงไป ตอนที่โคมระย้าถล่มลงมา เขาใช้ตัวเองบังร่างเธอแล้วก้าวข้ามฉันที่นอนจมกองเลือดไป เขายังขโมยของขวัญชิ้นสุดท้ายที่พ่อผู้ล่วงลับทิ้งไว้ให้ฉันไปให้เธอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเรียกฉันว่าคนเห็นแก่ตัวและไม่รู้จักบุญคุณ โดยไม่เคยรู้เลยว่าพ่อของฉันจากไปแล้ว ฉันจึงเซ็นใบหย่าเงียบๆ แล้วหายตัวไป วันที่ฉันจากมา เขาส่งข้อความมาหาฉัน "ข่าวดีนะ ผมหาผู้บริจาคคนใหม่ให้พ่อคุณได้แล้ว เราไปนัดวันผ่าตัดกันเถอะ"

งานวิวาห์ของฉัน ไม่ใช่กับเธอ

งานวิวาห์ของฉัน ไม่ใช่กับเธอ

โรแมนติก

5.0

ห้าปีที่แล้ว ฉันช่วยชีวิตคู่หมั้นของฉันไว้บนภูเขาที่เชียงใหม่ อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้สายตาของฉันเสียหายอย่างถาวร—เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจที่พร่าเลือนอยู่เสมอถึงวันที่ฉันเลือกเขาแทนที่จะเป็นดวงตาที่สมบูรณ์แบบของตัวเอง เขาตอบแทนฉันด้วยการแอบเปลี่ยนสถานที่จัดงานแต่งงานของเราจากเชียงใหม่ไปเป็นภูเก็ต เพราะแอนนี่ เพื่อนสนิทของเขาบ่นว่าที่นั่นหนาวเกินไป ฉันได้ยินเขากับหูตัวเองว่าเขาเรียกการเสียสละของฉันว่า “เรื่องดราม่าน้ำเน่า” และเห็นเขากับตาว่าเขาซื้อชุดราคาเกือบสองล้านบาทให้หล่อน ขณะที่ดูถูกชุดของฉัน ในวันแต่งงานของเรา เขาทิ้งให้ฉันรอที่แท่นพิธีเพื่อรีบไปอยู่ข้างๆ แอนนี่ที่เกิด “อาการแพนิค” ขึ้นมาได้ถูกจังหวะพอดิบพอดี เขามั่นใจเหลือเกินว่าฉันจะให้อภัยเขา เขามั่นใจแบบนั้นเสมอ เขาไม่ได้มองว่าการเสียสละของฉันคือของขวัญ แต่เป็นเหมือนสัญญาที่ผูกมัดให้ฉันต้องยอมจำนนต่อเขา ดังนั้น เมื่อในที่สุดเขาโทรเข้ามายังสถานที่จัดงานที่ว่างเปล่าในภูเก็ต ฉันจึงปล่อยให้เขาได้ยินเสียงลมภูเขาและเสียงระฆังโบสถ์ ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากพูด “งานแต่งของฉันกำลังจะเริ่มแล้ว” ฉันบอกเขา “แต่ไม่ใช่กับคุณ”

คู่หมั้นที่ทิ้งเธอให้ตาย

คู่หมั้นที่ทิ้งเธอให้ตาย

โรแมนติก

5.0

สัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าฉันกำลังจะตาย ไม่ใช่พายุหิมะ ไม่ใช่ความหนาวเหน็บที่กัดกินลึกถึงกระดูก แต่มันคือแววตาของคู่หมั้นของฉัน ตอนที่เขาบอกว่าเขายกผลงานทั้งชีวิตของฉัน ซึ่งเป็นหลักประกันเดียวที่จะทำให้เรารอดชีวิตไปให้ผู้หญิงคนอื่น “เค้กหนาวจะตายอยู่แล้ว” เขาพูดเหมือนกับว่าฉันกำลังไร้เหตุผล “คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญนี่ คุณรับมือได้อยู่แล้ว” จากนั้นเขาก็เอาโทรศัพท์ดาวเทียมของฉันไป ผลักฉันลงไปในหลุมหิมะที่ขุดไว้อย่างลวกๆ แล้วทิ้งฉันไว้ให้ตายตรงนั้น เค้ก แฟนใหม่ของเขาปรากฏตัวขึ้น เธอห่มผ้าห่มอัจฉริยะผืนที่เป็นประกายของฉันไว้อย่างอบอุ่น เธอยิ้มขณะที่ใช้ขวานน้ำแข็งของฉันเอง กรีดทำลายชุดของฉัน ซึ่งเป็นเกราะป้องกันพายุชั้นสุดท้าย “เลิกดราม่าสักที” เขาพูดกับฉัน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรังเกียจขณะที่ฉันนอนรอความตายอย่างหนาวเหน็บ พวกเขาคิดว่าได้เอาทุกอย่างไปจากฉันแล้ว พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะ แต่พวกเขาไม่รู้เรื่องสัญญาณฉุกเฉินลับที่ฉันเย็บซ่อนไว้ในแขนเสื้อ และด้วยแรงเฮือกสุดท้ายที่มี ฉันได้เปิดใช้งานมัน

ไม่เป็นตัวแทนอีกแล้ว ราชินีกลับมา

ไม่เป็นตัวแทนอีกแล้ว ราชินีกลับมา

โรแมนติก

5.0

ห้าปีเต็มที่ฉันเป็นคู่หมั้นของเจตน์พัฒน์ วงศ์วิริยะ ห้าปีที่ในที่สุดพี่ชายของฉันก็ปฏิบัติต่อฉันเหมือนน้องสาวที่พวกเขารัก แล้วฝาแฝดของฉัน หทัย—คนที่ทิ้งเขาไว้หน้าแท่นพิธี—ก็กลับมาพร้อมกับเรื่องโกหกว่าเป็นมะเร็ง แค่ห้านาที เขาก็แต่งงานกับเธอ พวกเขาเชื่อทุกคำโกหกของเธอ ตอนที่เธอพยายามจะฆ่าฉันด้วยแมงมุมพิษ พวกเขาก็หาว่าฉันดราม่า ตอนที่เธอใส่ร้ายว่าฉันทำลายงานเลี้ยงของเธอ พี่ชายก็เฆี่ยนฉันจนเลือดอาบ พวกเขาเรียกฉันว่าตัวแทนไร้ค่า เป็นแค่คนคั่นเวลาที่มีใบหน้าเหมือนเธอ ฟางเส้นสุดท้ายขาดลงตอนที่พวกเขาจับฉันมัดกับเชือกแล้วปล่อยให้ห้อยต่องแต่งอยู่ริมหน้าผา รอวันตาย แต่ฉันไม่ตาย ฉันปีนกลับขึ้นมา จัดฉากการตายของตัวเอง แล้วหายตัวไป พวกเขาอยากได้ผีนักใช่ไหม ฉันก็จะจัดให้

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน

เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน

Zuey
5.0

จะมีสิ่งใดน่าทุกข์ใจไปมากกว่าการถูกคนในครอบครัวรังเกียจภายหลังจากมารดาเสียชีวิตเด็กน้อยอายุห้าขวบต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดพร้อมกับน้องสาวที่พึ่งลืมตาดูโลกอีกทั้งน้องชายฝาแฝดที่พึ่งเกิดมายังถูกพรากไป หลี่อันหนิง เด็กสาวผู้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ไม่เหมือนผู้ใดนอกจากต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากคนในครอบครัว ตลอดชีวิตนางยังไม่เคยได้รับอุ่นไอจากผู้เป็นบิดาที่ยังเหลืออยู่ จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นางก็ยังไม่รู้เลยว่าเหตุใดสวรรค์ถึงได้กำหนดชะตาชีวิตเช่นนี้ให้กับตน เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวพบว่าตนเองกลับมายังอดีตในช่วงเวลาที่ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ พร้อมกับความสามารถที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้เหมือนอย่างนาง หลี่อันหนิงได้เริ่มวางแผนแก้แค้นให้กับตนและช่วยเหลือน้องทั้งสองมิให้มีชะตากรรมดั่งชาติที่แล้ว ************************************************************ “ท่านแม่!! ท่านแม่!! ตื่นสิเจ้าคะ นอนที่นี่ไม่ได้นะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ร่างเล็กแกรนแกะเอาเสื่อที่ห่อม้วนร่างของมารดาออก ก่อนจะเขย่ากายที่เย็นชืดไปนานแล้วของนาง ทว่าในระหว่างที่สายฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสียงร้องแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อยก็ดังขึ้น หลี่อันหนิงมองไปยังช่วงขาของมารดาเห็นบางสิ่งกำลังขยับไหว นางจึงเลิกชุดสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตของมารดาขึ้น บัดดลร่างเล็กของเด็กทารกที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ปรากฏแก่สายตา ด้วยสัญชาตญาณ เด็กน้อยในวัยห้าขวบรีบถอดเสื้อคลุมด้านนอกอันเปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำฝนออกมาห่อร่างเล็กของน้องสาวเอาไว้ ส่วนตนเองก็เอาแต่เอ่ยพึมพำว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่สาวจะดูแลน้องเอง หลี่อันหนิงกอดเด็กทารกเอาไว้ในอ้อมแขน ใช้ร่างกายเล็กจ้อยของตนกำบังลมฝนให้น้องน้อยอย่างกล้าหาญ ******************************************************** ร่างเล็กนั่งตากฝนอยู่บนเขาเป็นเวลาเนิ่นนาน เพราะหาหนทางกลับเรือนเฉกเช่นผู้ใหญ่ไม่ได้ กายของเด็กน้อยเริ่มสั่นสะท้านเสียงฟันของนางกระทบกันดังกึกกัก ก่อนสติสุดท้ายของเด็กหญิงจะดับวูบไป หลี่อันหนิงคล้ายมองเห็นมารดาของตนที่นอนอยู่เบื้องหน้าลุกขึ้นมาตระกองกอดนางเอาไว้แนบอก ก่อนกระซิบน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม่อยู่นี่แล้ว เสียงเพลงกล่อมเด็กที่มารดาเคยร้องกล่อมตนยามค่ำคืนยังคงดังก้องประทับในโสต หลี่อันหนิงหลับไปทั้งรอยยิ้มโดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนั้น

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

คุณนายฟู่ กรุณาเซ็นต์หย่า

คุณนายฟู่ กรุณาเซ็นต์หย่า

Harper
5.0

ความรักที่ซ่อนเร้นของสาวน้อยเริ่มต้นในวันที่ทั้งสองได้พบกันในการพบกันที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนาน ทว่าเด็กสาวที่ครอบครัวรับมาเลี้ยงกลับแย่งชิงครอบครัวและเด็กหนุ่มไปโดยไม่รู้สึกเกรงกลัว เมื่อโตขึ้น เธอใช้โอกาสการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์เพื่อแย่งชิงตำแหน่งภรรยาของชายคนนั้น ไม่ยอมถอยแม้แต่นิดเดียว ฟู่เป่ยชวนกอดพี่สาวของเธอไว้ในอ้อมแขน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เธอทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน” ซูชิงเฉินรู้สึกปวดท้องเหมือนมีบางอย่างในร่างกายของเธอค่อยๆ เลือนหายไป เธอยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงแน่วแน่ “แน่นอน ฉันจะไม่มีวันปล่อยมือ ถึงจะต้องตายก็ตาม” ไม่นานนัก ซูชิงเฉินก็เหมือนจะหายไปจริงๆ จากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในยามค่ำคืน ฟู่เป่ยชวนมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับเขาว่า “ถ้าฉันไม่เคยรักเธอเลยก็คงจะดี” ห้าปีต่อมา ซูชิงเฉินกลับมาพร้อมกับเด็กคนหนึ่ง กลับมาในสายตาของคนทั่วไปอีกครั้ง ...

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

Lewie Parenti
5.0

"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

แก้วใบเล็ก
5.0

โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว            “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ”            “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย”            “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้”            “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่”            “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย            “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้            “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน            “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ            “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้”            ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน            เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด            “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง            คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม            ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ