บาปผัว แค้นหัวใจ

บาปผัว แค้นหัวใจ

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
95
ชม
19
บท

ชีวิตแต่งงานของฉันเคยสมบูรณ์แบบ ฉันกำลังตั้งท้องลูกคนแรก และอาร์ม สามีของฉัน ก็เทิดทูนฉันยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด หรืออย่างน้อย ฉันก็เคยคิดแบบนั้น ความฝันพังทลายลง เมื่อเขาพร่ำเพ้อชื่อผู้หญิงคนอื่นออกมาในความมืด ชื่อนั้นคือเคท เด็กสาวจบใหม่จากบริษัทของฉันเอง คนที่ฉันรับเข้ามาดูแลด้วยตัวเอง เขาสาบานว่ามันเป็นความผิดพลาด แต่คำโกหกของเขาก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่แผนการของเคทก็ร้ายกาจขึ้นทุกที เขาวางยาฉัน ขังฉันไว้ในห้องทำงาน และเป็นต้นเหตุที่ทำให้ฉันพลัดตกจนต้องเข้าโรงพยาบาล แต่การทรยศที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นหลังจากที่เคทจัดฉากอุบัติเหตุรถชนแล้วโยนความผิดมาให้ฉัน อาร์มกระชากหัวฉันลากลงมาจากรถแล้วตบหน้าฉันอย่างแรง จากนั้นเขาก็บังคับให้พยาบาลเจาะเลือดของฉันไปให้เมียน้อยของเขา ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ต้องการเลือดเลยด้วยซ้ำ เขาจับฉันกดไว้ในขณะที่ฉันเริ่มตกเลือด ทิ้งให้ฉันนอนรอความตายขณะที่เขารีบวิ่งไปอยู่ข้างๆ เธอ เขาเสียสละลูกของเรา ซึ่งตอนนี้สมองได้รับความเสียหายอย่างถาวรจากการตัดสินใจของเขา ผู้ชายที่ฉันเคยรักได้ตายไปแล้ว ถูกแทนที่ด้วยปีศาจที่ทิ้งให้ฉันตายอย่างเลือดเย็น ขณะที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ฉันโทรออกสองสาย สายแรกถึงทนายของฉัน “จัดการเรื่องข้อสัญญาการนอกใจในสัญญาก่อนสมรสของเราได้เลย ฉันต้องการให้เขาสิ้นเนื้อประดาตัว” สายที่สองถึงเจตน์ กิจเกษม ผู้ชายที่แอบรักฉันมาตลอดสิบปี “เจตน์” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบราวน้ำแข็ง “ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ... เพื่อทำลายสามีของฉัน”

บทที่ 1

ชีวิตแต่งงานของฉันเคยสมบูรณ์แบบ

ฉันกำลังตั้งท้องลูกคนแรก และอาร์ม สามีของฉัน ก็เทิดทูนฉันยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

หรืออย่างน้อย ฉันก็เคยคิดแบบนั้น

ความฝันพังทลายลง เมื่อเขาพร่ำเพ้อชื่อผู้หญิงคนอื่นออกมาในความมืด

ชื่อนั้นคือเคท เด็กสาวจบใหม่จากบริษัทของฉันเอง คนที่ฉันรับเข้ามาดูแลด้วยตัวเอง

เขาสาบานว่ามันเป็นความผิดพลาด แต่คำโกหกของเขาก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่แผนการของเคทก็ร้ายกาจขึ้นทุกที

เขาวางยาฉัน ขังฉันไว้ในห้องทำงาน และเป็นต้นเหตุที่ทำให้ฉันพลัดตกจนต้องเข้าโรงพยาบาล

แต่การทรยศที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นหลังจากที่เคทจัดฉากอุบัติเหตุรถชนแล้วโยนความผิดมาให้ฉัน

อาร์มกระชากหัวฉันลากลงมาจากรถแล้วตบหน้าฉันอย่างแรง

จากนั้นเขาก็บังคับให้พยาบาลเจาะเลือดของฉันไปให้เมียน้อยของเขา ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ต้องการเลือดเลยด้วยซ้ำ

เขาจับฉันกดไว้ในขณะที่ฉันเริ่มตกเลือด ทิ้งให้ฉันนอนรอความตายขณะที่เขารีบวิ่งไปอยู่ข้างๆ เธอ

เขาเสียสละลูกของเรา ซึ่งตอนนี้สมองได้รับความเสียหายอย่างถาวรจากการตัดสินใจของเขา

ผู้ชายที่ฉันเคยรักได้ตายไปแล้ว ถูกแทนที่ด้วยปีศาจที่ทิ้งให้ฉันตายอย่างเลือดเย็น

ขณะที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ฉันโทรออกสองสาย

สายแรกถึงทนายของฉัน

“จัดการเรื่องข้อสัญญาการนอกใจในสัญญาก่อนสมรสของเราได้เลย ฉันต้องการให้เขาสิ้นเนื้อประดาตัว”

สายที่สองถึงเจตน์ กิจเกษม ผู้ชายที่แอบรักฉันมาตลอดสิบปี

“เจตน์” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบราวน้ำแข็ง “ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ... เพื่อทำลายสามีของฉัน”

บทที่ 1

พราว ศิริวัฒนา POV:

สัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าชีวิตแต่งงานของฉันจบสิ้นลงแล้ว ไม่ใช่รอยลิปสติกบนปกเสื้อ หรือข้อความน่าสงสัยในมือถือ

แต่มันคือชื่อที่ถูกกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูของฉันในความมืด และมันไม่ใช่ชื่อของฉัน

หลายสัปดาห์มานี้ อาร์มดูห่างเหิน

เขาทำงานดึกตลอด อ้างว่ากำลังง่วนอยู่กับการควบรวมกิจการที่เขาบอกว่า “โคตรจะวุ่นวาย”

เวลาที่เขาอยู่บ้าน เขาก็มักจะนั่งดูวิดีโอเก่าๆ ของฉันในมือถือ เป็นวิดีโอจากตอนที่เราไปฮันนีมูนกัน

จากตอนที่ท้องของฉันยังไม่นูนออกมา ก่อนที่ร่างกายของฉันจะเปลี่ยนไปจนแทบจำตัวเองไม่ได้

เขาบอกว่าเป็นเพราะหมอสั่งห้ามมีอะไรกันในช่วงสามเดือนแรก และเขาก็คิดถึงฉัน

ฉันเชื่อเขา ฉันเชื่อเขาเสมอ

คืนนี้ ฉันอยากจะทำลายระยะห่างนั้นลง

ฉันอยากจะรู้สึกถึงมือของเขาบนร่างกาย ไม่ใช่แค่เห็นสายตาของเขาจ้องมองผ่านหน้าจอ

ฉันเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าและตั้งใจ พยายามจะแสดงให้เขาเห็นว่าฉันยังคงเป็นผู้หญิงคนเดิมในวิดีโอเหล่านั้น เพียงแต่มีส่วนโค้งเว้าใหม่ที่ล้ำค่าเพิ่มขึ้นมาเท่านั้น

เขาตอบสนองด้วยความเร่งรีบจนน่าตกใจ เป็นความหิวกระหายที่รู้สึกเหมือนความสิ้นหวังมากกว่าความหลงใหล

มือของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างของฉันด้วยความคุ้นเคยที่กลับกลายเป็นความแปลกหน้า สัมผัสของเขาทั้งใกล้ชิดและห่างเหินในเวลาเดียวกัน

“ผมชอบไฝเม็ดงามตรงนี้นะ” เขากระซิบ ริมฝีปากลากผ่านไปตามแนวไหปลาร้าของฉัน

ฉันตัวแข็งทื่อ “อาร์มคะ พราวไม่มีไฝตรงนั้น”

เขาไม่หยุด “มีสิครับ ผมจูบมันทุกคืนเลยนะ” เขาประทับริมฝีปากลงบนจุดนั้นอีกครั้งอย่างดึงดัน “เม็ดโปรดของผมเลย”

ความหวาดกลัวอันเยียบเย็นเริ่มแทรกซึมเข้าไปในกระดูก ความหนาวที่ไม่ได้มาจากเครื่องปรับอากาศ

เขาคิดผิด เขามั่นใจเหลือเกิน แต่กลับผิดอย่างสิ้นเชิง

มันเป็นรายละเอียดที่สามีที่อยู่กินกันมาห้าปีไม่ควรจะพลาด

ไม่ใช่สามีที่อ้างว่าบูชาร่างกายของฉันทุกตารางนิ้ว

“อาร์ม” ฉันกระซิบ เสียงสั่นเล็กน้อย “มองฉันสิคะ คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”

การเคลื่อนไหวของเขาหยุดชะงัก

ชั่วขณะหนึ่ง มีเพียงเสียงลมหายใจของเราสองคนในห้องที่เงียบสงัด

แล้วเขาก็โน้มตัวเข้ามา เสียงของเขาทุ้มต่ำด้วยความอ่อนโยนที่ไม่ได้มีไว้สำหรับฉัน

“แน่นอนสิครับ เคทที่รักของผม”

ชื่อนั้นฟาดเข้ามาที่ฉันเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง

ลมหายใจของฉันสะดุดในลำคอ โลกหมุนคว้าง เสียงรอบข้างเลือนหายไป เหลือเพียงเสียงหึ่งๆ ในหู

เขาพูดชื่อนั้นอีกครั้ง เป็นเสียงถอนหายใจที่นุ่มนวลและเปี่ยมรัก “เคท”

ความคลื่นไส้และความขยะแขยงถาโถมเข้าใส่ฉัน

ฉันยกมือขึ้นผลักหน้าอกเขาอย่างแรง

เขาไม่ทันตั้งตัว ร่างของเขากลิ้งตกเตียงไปด้านหลัง พร้อมกับเสียงตุ้บที่น่าขนลุกเมื่อศีรษะของเขากระแทกเข้ากับขอบโต๊ะข้างเตียงอย่างจัง

ความเจ็บปวดแปลบปลาบแล่นผ่านช่องท้องของฉัน

ฉันร้องออกมาเบาๆ งอตัวด้วยความเจ็บปวด การทรยศเหมือนยาพิษที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง

เคท

เคท กุลชาติ เด็กฝึกงานในบริษัทของฉัน

เด็กสาวตากลมโตที่ฉลาดหลักแหลม คนที่ค้นพบข้อผิดพลาดร้ายแรงในแบบแปลนโครงการเจ้าพระยาทาวเวอร์ ช่วยให้อาชีพการงานของฉันรอดพ้นจากการพังทลายเมื่อสามเดือนก่อน

อาร์มยืนกรานที่จะ “ดูแล” เธอเป็นพิเศษเพื่อเป็นการขอบคุณส่วนตัว เป็นการตอบแทนบุญคุณที่เขารู้สึกว่าเธอควรได้รับแทนฉัน

เขาซื้อรถใหม่ให้เธอ จ่ายหนี้ กยศ. ให้จนหมด เป็นความใจกว้างที่ฉันมองว่าดี แต่ก็อาจจะมากเกินไปหน่อย

ฉันตาบอดไปได้อย่างไร? ฉันมองอสรพิษเป็นผู้มีพระคุณไปได้อย่างไร?

ความเย็นชาที่เริ่มจากกระดูก ตอนนี้ได้ลามมาถึงหัวใจ ห่อหุ้มมันไว้ด้วยน้ำแข็ง

โทรศัพท์ของเขาที่หล่นจากโต๊ะข้างเตียงเริ่มดังขึ้น

เป็นเบอร์ของเขาเองที่โทรเข้ามา ฉันสับสนไปชั่วครู่ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามันต้องเชื่อมต่อกับรถแน่ๆ เขาคงไปโดนปุ่มฉุกเฉินเข้า

ฉันมองดูอย่างเหม่อลอย ขณะที่เขาครางออกมาแล้วคลำหาโทรศัพท์

“ฮัลโหล?” เขาพูดเสียงแหบพร่า ยังคงมึนงง

“คุณนิธิไพศาลคะ นี่คือศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินของรถค่ะ เราได้รับการแจ้งเตือนอุบัติเหตุ คุณ 괜찮으세요?”

“ผมไม่เป็นไร” เขาพึมพำ “แค่... ตกเตียง หัวกระแทกนิดหน่อย”

“มีใครอยู่กับคุณไหมคะ ภรรยาของคุณ คุณศิริวัฒนา อยู่ที่นั่นไหมคะ”

เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วน้ำเสียงของเขาก็กลับมาเรียบสนิท เป็นโทนเสียงห่วงใยที่ฉันคุ้นเคยเป็นอย่างดี “ไม่ครับ เธอ... เธอไปนอนบ้านแม่คืนนี้ ผมอยู่คนเดียว”

เขาโกหก โกหกคนแปลกหน้าว่าฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ ทั้งๆ ที่ฉันอยู่ตรงนี้ “คุณ... คุณช่วยโทรหาเธอให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ผมไม่อยากให้เธอเป็นห่วง แต่อยากได้ยินเสียงเธอ”

เขาบอกเบอร์ของฉันไป และอีกไม่กี่วินาทีต่อมา โทรศัพท์ของฉันบนโต๊ะข้างเตียงก็สว่างขึ้น

ฉันจ้องมองมัน หัวใจเต้นรัวอยู่ในอก ฉันปล่อยให้มันดังจนตัดไปเอง

เขาพูดกับโทรศัพท์อีกครั้ง น้ำเสียงเจือความกังวลที่เสแสร้ง “เธอไม่รับสาย สงสัยจะหลับไปแล้ว เธอต้องพักผ่อนเยอะๆ โดยเฉพาะช่วงนี้ ได้โปรดอย่าโทรไปอีกนะครับ ผมไม่อยากปลุกเธอ”

เขาวางสายแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง เอามือกุมท้ายทอย

เขามองไปรอบๆ ห้องที่มืดมิด สายตาเลื่อนลอย เขาไม่เห็นฉัน

แล้วเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก

โทรศัพท์ของฉันสว่างขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ฉันรับสาย เสียงของฉันตายด้านและไร้ความรู้สึก

“พราว?”

“ฉันอยู่นี่”

“โอ้ ขอบคุณพระเจ้า” เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก “ที่รัก เป็นอะไรหรือเปล่า ผมฝันร้าย ตื่นมาอีกทีก็ลงมานอนกองอยู่กับพื้นแล้ว ปวดหัวจะตายอยู่แล้วเนี่ย”

ฉันอยู่ในห้องควบคุมความปลอดภัยของคอนโดเคท กุลชาติ

ฉันขับรถมาที่นี่ด้วยความตื่นตระหนก จิตใจสับสนวุ่นวายไปด้วยความตกใจและความเจ็บปวด

การโทรหาคนรู้จักที่เคยช่วยงานด้านความปลอดภัยของบริษัท ทำให้ฉันเข้าถึงภาพจากกล้องวงจรปิดในล็อบบี้ได้

ตอนนี้ฉันกำลังมองดูเขาอยู่บนหน้าจอมอนิเตอร์ที่ภาพไม่ค่อยชัด เขากำลังเดินไปมาในห้องนอนของเรา มือข้างหนึ่งกุมศีรษะไว้

“ฉันไม่เป็นไร” ฉันพูด เสียงกลวงโบ๋ “แค่ออกมาสูดอากาศ”

“ไม่ควรออกมาดึกๆ แบบนี้นะ” เขาตำหนิอย่างอ่อนโยน สามีผู้แสนดีที่สมบูรณ์แบบ “ลูกเป็นยังไงบ้าง กินวิตามินบำรุงครรภ์หรือยัง จำได้ไหมที่หมอวิภาพูดเรื่องระดับธาตุเหล็กของคุณ อย่าลืมดื่มซุปที่ผมอุ่นไว้ให้ในตู้เย็นนะ”

การดูแลเอาใจใส่อย่างพิถีพิถัน การแสดงบทบาทสามีผู้ภักดีที่ไร้ที่ติซึ่งเขาฝึกฝนมานานหลายปี ตอนนี้มันกลับรู้สึกเหมือนเป็นการเยาะเย้ยที่โหดร้าย

ฉันรู้ว่าเขาเคยรักฉัน เขาเคยอยู่เคียงข้างฉันตอนที่แท้งลูก เฉลิมฉลองความสำเร็จของฉัน และจูบซับน้ำตาให้ฉัน

เขาคือผู้ชายที่เก็บชากระป๋องโปรดราคาแพงของฉันไว้ในออฟฟิศ เผื่อวันที่ฉันเจอเรื่องแย่ๆ

ผู้ชายคนนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา หรือบางทีเขาอาจไม่เคยมีตัวตนอยู่เลย

“อาร์ม” ฉันถาม คำพูดหลุดออกจากลำคออย่างยากลำบาก “คุณยังรักฉันอยู่ไหม”

“ถามอะไรแบบนั้นล่ะ” เขาหัวเราะเบาๆ เสียงนั้นเสียดแทงประสาทที่เปราะบางของฉัน “แน่นอนสิว่าผมรักคุณ มากกว่าทุกสิ่งในโลกนี้ ผมกำลังคิดถึงคุณอยู่พอดี คิดถึงจนเจ็บไปหมดแล้วเนี่ย รอไม่ไหวแล้วที่คุณจะกลับบ้าน”

ขณะที่เขาพูดคำเหล่านั้น ลิฟต์ในล็อบบี้บนหน้าจอมอนิเตอร์ของฉันก็เปิดออก

เคท กุลชาติ ก้าวออกมา เธอกำลังคุยโทรศัพท์ ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มที่สดใสและเปี่ยมชัยชนะ

“เคทก็คิดถึงคุณค่ะ อาร์ม” เธอพูดใส่โทรศัพท์ เสียงของเธอดังพอที่จะได้ยินผ่านลำโพงราคาถูกของมอนิเตอร์ “ใกล้จะถึงบ้านแล้วค่ะ”

ในโทรศัพท์ของฉัน เสียงของอาร์มอ่อนโยนราวกับสัมผัสอันอบอุ่น “ผมจะรอนะที่รัก ผมรักคุณ”

“ฉันก็รักคุณค่ะ” ฉันกระซิบตอบกลับไป สายตาจับจ้องอยู่ที่หน้าจอ

เขาวางสาย

บนหน้าจอมอนิเตอร์ ฉันเห็นเขาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง

ฉันเห็นเคทวางสายของเธอ เธอเดินข้ามล็อบบี้ออกไปทางประตูหน้า

ครู่ต่อมา รถซีดานสีดำของอาร์มก็แล่นมาจอดเทียบขอบทาง

เธอเลื่อนตัวเข้าไปนั่งในที่นั่งข้างคนขับโดยไม่ลังเล

รถคันนั้นพุ่งทะยานออกไป

ฉันไม่จำเป็นต้องเดาเลยว่าพวกเขาจะไปที่ไหน

บ้านของเรา เตียงของฉัน

เสียงสะอื้นอย่างขมขื่นหลุดออกมาจากริมฝีปากของฉัน เป็นเสียงแห่งความเจ็บปวดอย่างแท้จริง

ชีวิตแต่งงานที่สมบูรณ์แบบของฉัน ชีวิตที่ฉันสร้างขึ้นมาอย่างประณีต มันเป็นเรื่องโกหก

เป็นเรื่องโกหกที่สวยงาม ซับซ้อน และทำลายล้าง

ฉันนึกถึงวิธีที่เขาปฏิบัติต่อฉันอย่างระมัดระวังเสมอ อ่อนโยน และให้เกียรติในการร่วมรักของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ฉันตั้งท้อง

เขาปฏิบัติต่อฉันเหมือนงานศิลปะที่เปราะบาง

ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไม

เขากำลังเก็บความหลงใหลที่แท้จริง ความปรารถนาที่ดิบเถื่อนและไร้การควบคุมของเขาไว้สำหรับเธอ

โทรศัพท์ของฉันสั่นพร้อมกับการแจ้งเตือน

มันมาจากแอปเบบี้มอนิเตอร์ที่เชื่อมต่อกับกล้องในห้องนอนของเรา แอปที่เขายืนกรานให้เราติดตั้ง

ฉันเปิดมันขึ้นมา

ภาพคมชัดมาก

อาร์มกำลังดึงเคทเข้ามาในห้อง ปากของพวกเขายังคงประกบกันอยู่

ฉันได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ เหมือนเสียงแก้วแตก “แล้วพราวสุดที่รักของคุณล่ะ หลับปุ๋ยอยู่บ้านแม่เหรอ”

“แน่นอน” เสียงของอาร์มหยาบกระด้างและหิวกระหาย “เธอซื่อบื้อจะตาย บอกอะไรก็เชื่อหมด”

“ไม่กลัวว่าเธอจะจับได้เหรอ” เคทถาม มือของเธอปลดกระดุมเสื้อของเขา

“ไม่มีทาง” เขาพูดด้วยความมั่นใจอย่างน่าขนลุก “และต่อให้เธอจับได้ แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ เธอกำลังท้อง ลูกในท้องนั่นแหละจะเป็นโซ่ล่ามเธอไว้ เธอไปไหนไม่รอดหรอก”

เสียงที่กรีดร้องออกมาจากตัวฉันไม่ใช่มนุษย์

มันคือเสียงของหัวใจที่ถูกฉีกเป็นสองซีก เสียงของจิตวิญญาณที่แตกสลาย

เขาไม่ใช่แค่กำลังนอกใจ

เขากำลังใช้ลูกของเรา ลูกที่ยังไม่เกิดมาของเรา เป็นกรงขังเพื่อกักขังฉันไว้ในใยแห่งการหลอกลวงของเขา

“ไม่” ฉันกระซิบกับห้องที่ว่างเปล่า น้ำตาไหลอาบแก้ม “ไม่นะอาร์ม คุณคิดผิด”

ฉันนั่งอยู่ที่นั่นทั้งคืน จ้องมองหน้าจอ ในที่สุดน้ำตาของฉันก็เหือดแห้งไป ถูกแทนที่ด้วยความตั้งใจที่เย็นชาและแข็งกร้าวซึ่งฝังลึกอยู่ในกระดูก

เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่ดวงอาทิตย์ขึ้นเหนือเมือง ฉันไม่ได้กลับบ้าน

ฉันไปที่สำนักงานทนายความของฉัน

“ฉันต้องการเปิดใช้ข้อสัญญาการนอกใจในสัญญาก่อนสมรส” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง “และฉันต้องการฟ้องหย่า”

จากนั้นฉันก็โทรออกอีกครั้ง เป็นเบอร์ที่ฉันไม่ได้โทรมาหลายปีแล้ว

“ขอสายคุณเจตน์ กิจเกษม ค่ะ”

ครู่ต่อมา เสียงทุ้มลึกที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น “พราว?”

“เจตน์” ฉันพูด เสียงไร้ซึ่งอารมณ์ “ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ฉันต้องการให้คุณช่วยทำลายสามีของฉัน”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

มหาเศรษฐี

5.0

ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้

รักต้องห้าม  โทสะของผู้ปกครอง

รักต้องห้าม โทสะของผู้ปกครอง

วัยรุ่น

5.0

สิบปีเต็มที่ฉันแอบรักภาคิน วงศ์วรานนท์ ผู้ปกครองของฉัน หลังจากครอบครัวของฉันล้มละลาย เขาก็รับฉันไปดูแลและเลี้ยงดูฉันจนโต เขาคือโลกทั้งใบของฉัน ในวันเกิดอายุสิบแปดปี ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อสารภาพรักกับเขา แต่ปฏิกิริยาของเขากลับเป็นความเกรี้ยวกราดอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เขาปัดเค้กวันเกิดของฉันตกพื้นแล้วคำรามลั่น “สติแตกไปแล้วเหรอ? ฉันเป็นผู้ปกครองเธอนะ!” จากนั้นเขาก็ฉีกภาพวาดที่ฉันใช้เวลาวาดเป็นปีเพื่อเป็นคำสารภาพรักของฉันจนไม่เหลือชิ้นดี เพียงไม่กี่วันต่อมา เขาก็พาโคลอี้ คู่หมั้นของเขากลับมาบ้าน ผู้ชายที่เคยสัญญาว่าจะรอฉันโต ที่เคยเรียกฉันว่าดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดของเขา ได้หายไปแล้ว ความรักที่ร้อนแรงและสิ้นหวังตลอดสิบปีของฉันทำได้เพียงแผดเผาตัวเอง คนที่ควรจะปกป้องฉันกลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายฉันเจ็บปวดที่สุด ฉันก้มมองจดหมายตอบรับจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในมือ ฉันต้องไปจากที่นี่ ฉันต้องถอนรากถอนโคนเขาออกจากหัวใจ ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ของพ่อ “พ่อคะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เอวาตัดสินใจแล้ว เอวาอยากไปอยู่กับพ่อที่กรุงเทพฯ ค่ะ”

ความรัก คำโกหก และ การทำหมันชาย

ความรัก คำโกหก และ การทำหมันชาย

โรแมนติก

5.0

ตอนที่ฉันตั้งท้องได้แปดเดือน ฉันเคยคิดว่าชีวิตของฉันกับธีร์ สามีของฉัน มันสมบูรณ์แบบไปหมดแล้ว เรามีบ้านที่แสนอบอุ่น ชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความรัก และลูกชายคนแรกที่กำลังจะลืมตาดูโลก แต่แล้ว ในขณะที่ฉันกำลังจัดห้องทำงานของเขา ฉันก็ไปเจอใบรับรองการทำหมันของเขาเข้า มันลงวันที่เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว... นานมากก่อนที่เราจะเริ่มพยายามมีลูกกันด้วยซ้ำ ฉันสับสนและตื่นตระหนกสุดขีด ฉันรีบตรงไปยังที่ทำงานของเขาทันที แต่สิ่งที่ได้ยินกลับเป็นเสียงหัวเราะที่ดังออกมาจากหลังประตูบานนั้น มันคือเสียงของธีร์กับเอกภพ เพื่อนสนิทของเขา “กูไม่อยากจะเชื่อเลยว่าป่านนี้มันยังไม่รู้อีก” เอกภพหัวเราะร่วน “เดินอุ้มท้องโตไปทั่ว ทำหน้าตาเป็นนางฟ้านางสวรรค์” น้ำเสียงของสามีฉัน... เสียงที่เคยกระซิบคำรักข้างหูฉันทุกคืน ตอนนี้มันกลับเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “ใจเย็นๆ เพื่อน ยิ่งท้องมันใหญ่เท่าไหร่ เวลาล้มมันก็จะยิ่งเจ็บหนักเท่านั้น และเงินก้อนโตของกูก็จะยิ่งใหญ่ขึ้น” เขาบอกว่าชีวิตแต่งงานทั้งหมดของเราเป็นแค่เกมโหดๆ ที่เขาสร้างขึ้นเพื่อทำลายฉัน ทั้งหมดก็เพื่อเอมิกา น้องสาวบุญธรรมสุดที่รักของเขา พวกเขายังพนันกันด้วยซ้ำว่าใครคือพ่อที่แท้จริงของเด็กในท้องฉัน “แล้วเรื่องพนันยังอยู่ไหมวะ?” เอกภพถาม “เงินกูยังลงที่กูเหมือนเดิมนะ” ลูกของฉันเป็นแค่ของรางวัลในเกมวิปริตของพวกเขา โลกทั้งใบของฉันราวกับจะพังทลายลงมา ความรักที่ฉันเคยรู้สึก ครอบครัวที่ฉันเฝ้าสร้าง... ทั้งหมดเป็นแค่เรื่องหลอกลวง ในวินาทีนั้น ท่ามกลางซากปรักหักพังของหัวใจ... การตัดสินใจที่เยียบเย็นและชัดเจนก็ก่อตัวขึ้น ฉันหยิบมือถือขึ้นมา เสียงของฉันนิ่งสงบอย่างน่าประหลาดใจตอนที่โทรออกไปยังคลินิกเอกชนแห่งหนึ่ง “สวัสดีค่ะ” ฉันพูด “ฉันต้องการนัดหมาย... เพื่อยุติการตั้งครรภ์ค่ะ”

ถูกอัลฟ่าของฉันปฏิเสธ แต่ถูกมงกุฎของฉันทวงคืน

ถูกอัลฟ่าของฉันปฏิเสธ แต่ถูกมงกุฎของฉันทวงคืน

มนุษย์หมาป่า

5.0

คู่แท้ของฉัน อัลฟ่าธาม กำลังจัดพิธีตั้งชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ให้ทายาทของเขา ปัญหามีอยู่เรื่องเดียว... เขากำลังฉลองให้กับลูกที่เกิดกับลิตา หมาป่าไร้ฝูงที่เขาพาเข้ามาในฝูงของเรา ส่วนฉัน คู่แท้ตัวจริงของเขาที่กำลังตั้งท้องทายาทของเขาได้สี่เดือน กลับเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับเชิญ เมื่อฉันไปเผชิญหน้ากับเธอ เธอกลับใช้เล็บข่วนแขนตัวเองจนเลือดออก แล้วกรีดร้องว่าฉันทำร้ายเธอ ธามเห็นการแสดงของเธอก็ไม่แม้แต่จะมองฉัน เขาคำรามลั่น ใช้คำสั่งอัลฟ่าบีบบังคับให้ฉันจากไป พลังแห่งสายใยผูกพันของเราถูกบิดเบือนให้กลายเป็นอาวุธที่หันกลับมาทำร้ายฉันเอง ต่อมา เธอทำร้ายฉันจริงๆ จนฉันล้มลง ขณะที่เลือดเริ่มซึมออกมาจากชุดของฉัน คุกคามชีวิตลูกของเรา เธอกลับเหวี่ยงลูกของตัวเองลงบนพรมแล้วกรีดร้องว่าฉันพยายามจะฆ่าลูกของเธอ ธามพุ่งเข้ามา เขาเห็นฉันจมกองเลือดอยู่บนพื้น แต่เขากลับไม่ลังเลเลยสักนิด เขาช้อนลูกของลิตาที่กำลังร้องลั่นขึ้นมาในอ้อมแขน แล้ววิ่งออกไปตามหมอทันที ทิ้งให้ฉันกับทายาทที่แท้จริงของเขานอนรอความตาย แต่ขณะที่ฉันนอนอยู่ตรงนั้น เสียงของแม่ก็ดังขึ้นในหัวผ่านกระแสจิตของเรา คนของครอบครัวกำลังรอฉันอยู่นอกเขตแดนแล้ว เขากำลังจะได้รู้ว่าโอเมก้าที่เขาเขี่ยทิ้ง แท้จริงแล้วคือเจ้าหญิงของฝูงที่ทรงพลังที่สุดในโลก

ภรรยาที่พวกเขาบดขยี้

ภรรยาที่พวกเขาบดขยี้

โรแมนติก

5.0

ภาคินกับอาร์ตี้ สามีและลูกชายของฉัน หมกมุ่นในตัวฉันอย่างป่วยจิต พวกเขาทดสอบความรักของฉันอยู่เสมอ ด้วยการหันไปทุ่มเทความสนใจให้ผู้หญิงอีกคน...แก้วใส ความหึงหวงและความทุกข์ทรมานของฉัน คือเครื่องพิสูจน์ความภักดีในสายตาของพวกเขา แล้วอุบัติเหตุรถยนต์ก็เกิดขึ้น มือของฉัน...มือที่ใช้ประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์จนได้รับรางวัลมากมาย...ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด แต่ภาคินกับอาร์ตี้กลับเลือกที่จะให้ความสำคัญกับแผลเล็กน้อยที่ศีรษะของแก้วใสก่อน ทิ้งให้อาชีพการงานของฉันพังทลายลงต่อหน้าต่อตา พวกเขามองฉัน รอคอยน้ำตา ความโกรธเกรี้ยว ความหึงหวง แต่กลับไม่ได้อะไรเลย ฉันนิ่งเหมือนรูปปั้น ใบหน้าเรียบเฉยราวกับสวมหน้ากาก ความเงียบของฉันทำให้พวกเขาไม่สบายใจ พวกเขายังคงเล่นเกมอันโหดร้ายต่อไป จัดงานวันเกิดให้แก้วใสอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย ขณะที่ฉันได้แต่นั่งมองอยู่ในมุมหนึ่ง ภาคินถึงกับกระชากสร้อยล็อกเก็ตทองคำของแม่ที่เสียไปแล้วออกจากคอฉันเพื่อเอาไปให้แก้วใส ซึ่งเธอก็ตั้งใจกระทืบมันจนแหลกละเอียดคาส้นสูง นี่ไม่ใช่ความรัก มันคือกรงขัง ความเจ็บปวดของฉันคือกีฬาของพวกเขา และความเสียสละของฉันคือถ้วยรางวัลของพวกเขา ขณะที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ที่เย็นเฉียบ ฉันรู้สึกได้ว่าความรักที่เฝ้าทะนุถนอมมานานหลายปีกำลังจะตายลง มันเหี่ยวเฉาและกลายเป็นเถ้าถ่าน ทิ้งไว้เพียงบางสิ่งที่แข็งกระด้างและเย็นชา ฉันพอแล้ว ฉันจะไม่แก้ไขพวกเขาอีกต่อไป ฉันจะหนี...และฉันจะทำลายพวกเขาให้ย่อยยับ

เรา ร่วมกัน ผงาด จาก เถ้าถ่าน

เรา ร่วมกัน ผงาด จาก เถ้าถ่าน

สยองขวัญ

5.0

ฉันกับพี่สาวติดอยู่บนถนนเปลี่ยวร้างผู้คน ฉันท้องแก่แปดเดือน และรถของเราก็ยางแบน ทันใดนั้น แสงไฟหน้ารถบรรทุกก็สาดส่องมาจับจ้องเราจนตาพร่า มันไม่ได้หักหลบเพื่อเลี่ยงเรา แต่มันตั้งใจพุ่งเข้าหาเรา เสียงกระแทกดังสนั่นหวั่นไหวราวกับบทเพลงแห่งความพินาศ ขณะที่ความเจ็บปวดมหาศาลฉีกกระชากผ่านท้องที่อุ้มครรภ์ของฉัน ฉันโทรหาสามี คิน เสียงของฉันแหบพร่าไปด้วยเลือดและความหวาดกลัวสุดขีด “คิน... เกิดอุบัติเหตุ... ลูก... ลูกเป็นอะไรก็ไม่รู้” แต่ฉันไม่ได้ยินเสียงตื่นตระหนกจากเขาเลย ฉันได้ยินเสียงฟ้า น้องสาวต่างมารดาของเขา กำลังครวญครางอยู่ข้างๆ ว่าปวดหัว แล้วเสียงของคินก็ดังขึ้น เย็นเยียบราวกับน้ำแข็งขั้วโลก “เลิกดราม่าซะทีเถอะ ก็น่าจะแค่ขับรถเฉี่ยวขอบทางล่ะสิ ฟ้าต้องการฉัน” เขาวางสาย เขาเลือกผู้หญิงคนนั้นแทนที่จะเป็นฉัน แทนที่จะเป็นพี่ภรรยา และแทนที่จะเป็นลูกในไส้ของตัวเอง ฉันตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลพร้อมกับความจริงสองอย่าง พี่สาวของฉัน ชบา นักเปียโนชื่อดังระดับโลก จะไม่มีวันได้เล่นเปียโนอีกต่อไป และลูกชายของเรา ลูกที่ฉันอุ้มท้องมาแปดเดือนเต็ม... ได้จากไปแล้ว พวกเขาคิดว่าเราเป็นแค่ความเสียหายข้างทางในชีวิตอันสมบูรณ์แบบของพวกเขา แต่พวกเขากำลังจะได้รู้ว่า... เราคือการเอาคืน

หนังสือที่คุณอาจชอบ

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

มาชาวีร์
5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

Tann Aronson
5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

รักใหม่พันล้าน

รักใหม่พันล้าน

Hilarius Erikson
5.0

เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ