รักลวง...ที่ฉันต้องชดใช้

รักลวง...ที่ฉันต้องชดใช้

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
ชม
9
บท

'วิมานศิลป์' คือแกลเลอรีที่ฉันสร้างขึ้นมาด้วยความรักและหยาดเหงื่อ มันคือตัวตนและทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน แต่แล้วภัทรวุฒิ สามีของฉัน กลับประกาศว่าจะยกมันให้กับนภัสสร 'น้องสาว' ที่ฉันไว้ใจที่สุด เขาอ้างว่าอยากให้ฉันได้พักผ่อน แต่ในวันเกิดของฉัน เขากลับมอบสร้อยคอดอกมะลิให้เป็นของขวัญ ทั้งที่รู้ว่าฉันแพ้เกสรมันจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ก่อนจะทิ้งฉันไปอย่างไม่ใยดีเพื่อไปดูแลนภัสสรที่แกล้งป่วย คืนนั้นเองที่นภัสสรโทรศัพท์มาสารภาพความจริงทั้งหมดด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ "ภัทรไม่เคยรักพี่เลย เขาแต่งงานกับพี่ก็เพื่อเป็นเกราะป้องกันนัสเท่านั้น" แม้กระทั่งการสูญเสียลูกในท้องของฉัน ก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการของพวกเขา เมื่อโลกทั้งใบพังทลายลงต่อหน้า ฉันจึงเลือกที่จะสู้กลับเป็นครั้งสุดท้าย ฉันจัดฉากการตายของตัวเองบนเรือยอชต์ที่ระเบิดเป็นจุล แต่ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะหมดลง ฉันได้ส่งอีเมลรวบรวมหลักฐานความเลวร้ายทั้งหมดของพวกเขาไปให้ภัทรวุฒิแล้ว

บทที่ 1

'วิมานศิลป์' คือแกลเลอรีที่ฉันสร้างขึ้นมาด้วยความรักและหยาดเหงื่อ มันคือตัวตนและทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน

แต่แล้วภัทรวุฒิ สามีของฉัน กลับประกาศว่าจะยกมันให้กับนภัสสร 'น้องสาว' ที่ฉันไว้ใจที่สุด

เขาอ้างว่าอยากให้ฉันได้พักผ่อน แต่ในวันเกิดของฉัน เขากลับมอบสร้อยคอดอกมะลิให้เป็นของขวัญ ทั้งที่รู้ว่าฉันแพ้เกสรมันจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ก่อนจะทิ้งฉันไปอย่างไม่ใยดีเพื่อไปดูแลนภัสสรที่แกล้งป่วย

คืนนั้นเองที่นภัสสรโทรศัพท์มาสารภาพความจริงทั้งหมดด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ

"ภัทรไม่เคยรักพี่เลย เขาแต่งงานกับพี่ก็เพื่อเป็นเกราะป้องกันนัสเท่านั้น"

แม้กระทั่งการสูญเสียลูกในท้องของฉัน ก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการของพวกเขา

เมื่อโลกทั้งใบพังทลายลงต่อหน้า ฉันจึงเลือกที่จะสู้กลับเป็นครั้งสุดท้าย ฉันจัดฉากการตายของตัวเองบนเรือยอชต์ที่ระเบิดเป็นจุล แต่ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะหมดลง ฉันได้ส่งอีเมลรวบรวมหลักฐานความเลวร้ายทั้งหมดของพวกเขาไปให้ภัทรวุฒิแล้ว

บทที่ 1

พัณณิณ (Pannin)POV

ฉันกำแฟ้มเอกสารไว้แน่นจนกระดาษเย็นเฉียบแนบติดกับฝ่ามือที่เหงื่อซึม ปากกาในมือยังคงเปียกชุ่มด้วยหมึกสีดำ บันทึกทุกรายละเอียดที่ฉันเพิ่งเซ็นอนุมัติไป มันไม่ใช่แค่เอกสารธรรมดา แต่มันคือแผนการที่จะทำลายทุกสิ่งที่ฉันสร้างมากับมือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อมัน

ลมหายใจของฉันติดขัด

หัวใจเต้นรัวจนเหมือนจะทะลุออกมาจากอก

กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของภัทรวุฒิ คุ้มวงษ์ ลอยเข้ามาในห้องทำงานของฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องหันไปมองก็รู้ว่าเขามาแล้ว กลิ่นของเขาเป็นเหมือนสัญญาณเตือนภัยที่ดังอยู่ในหัวใจของฉันมานานแสนนาน

"ที่รัก กำลังทำอะไรอยู่ครับ" เสียงทุ้มต่ำของภัทรวุฒิดังขึ้นจากด้านหลัง เขาเดินเข้ามาใกล้ ฉันรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ รดต้นคอ

ฉันเกร็งไปทั้งตัว

พยายามฝืนยิ้มให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด

"กำลังจัดการเอกสารนิดหน่อยค่ะ" ฉันตอบ เสียงของฉันฟังดูราบเรียบจนน่าตกใจ ความจริงแล้วข้างในตัวฉันกำลังแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ

เขาไม่ได้สังเกตเห็นอะไรเลย

มือของเขาเลื่อนมาโอบรอบเอวของฉัน กดจูบลงบนไหล่เปลือยเปล่าของฉันเบาๆผ่านเนื้อผ้าซาตินของชุดคลุมอาบน้ำที่ฉันสวมอยู่

มันเป็นสัมผัสที่เคยอบอุ่น แต่ตอนนี้มันกลับเย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็ง

"ทำงานหนักอีกแล้วนะภรรยาคนเก่งของผม" เขาพูด น้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง

ฉันรู้สึกคลื่นไส้กับความแสนดีจอมปลอมของเขา

"วันนี้คุณมีประชุมสำคัญไม่ใช่เหรอคะ" ฉันเปลี่ยนเรื่อง

เขาหัวเราะเบาๆ

"ใช่ครับ แต่ผมแวะมาดูคุณก่อน ผมมีเรื่องอยากจะคุยด้วยนิดหน่อย"

"เรื่องอะไรคะ" ฉันถาม พยายามข่มความตื่นเต้นและความหวาดกลัวเอาไว้

"ผมกำลังคิดจะขยายกิจการแกลเลอรีของเรา" เขาพูด "ผมอยากให้คุณภัสรเข้ามาช่วยดูแลในส่วนของงานประชาสัมพันธ์และการตลาด เธอมีความสามารถพิเศษในการสร้างภาพลักษณ์ ผมคิดว่าเธอจะช่วยให้ 'วิมานศิลป์' กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้นไปอีก"

ฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน

หัวใจของฉันถูกบีบอัดจนหายใจไม่ออก

"ภัสรเหรอคะ" ฉันถาม เสียงแหบแห้งจนแทบไม่ได้ยิน

"ใช่ครับ ที่รัก" เขายิ้ม "คุณภัสรตื่นเต้นกับเรื่องนี้มากเลยนะ"

ฉันเคยคิดว่า 'วิมานศิลป์' คือลูกที่ฉันสร้างขึ้นมาด้วยสองมือ ค่อยๆ ปั้นแต่งมันขึ้นมาจากความว่างเปล่า ทุกเส้นสาย ทุกมุมห้อง ทุกๆ แสงที่ส่องเข้ามาในแกลเลอรีแห่งนี้ล้วนมาจากแรงกายแรงใจของฉัน มันคือความฝันของฉัน เป็นสิ่งที่ฉันใช้พิสูจน์ตัวเองในตระกูลคุ้มวงษ์ที่มองฉันเป็นเพียงผู้หญิงที่แต่งงานเข้ามาเพื่อหวังสมบัติ

แต่ตอนนี้... มันกำลังจะถูกพรากไปจากฉัน

"แต่... ฉัน..." ฉันพยายามจะพูด แต่คำพูดติดอยู่ในลำคอ

ภัทรวุฒิหันมายิ้มอย่างอ่อนโยน

"ที่รักไม่ต้องห่วงหรอกครับ คุณแค่พักผ่อนให้สบายๆ ก็พอ หลังจากนี้คุณภัสรจะเข้ามาดูแลทุกอย่าง ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อยอีกแล้วนะ ผมรู้นะว่าช่วงนี้คุณดูเหนื่อยๆ ไปมากเลย"

คำพูดของเขาฟังดูเหมือนห่วงใย แต่ในความเป็นจริงมันคือการขับไล่ฉันออกไปจากโลกที่ฉันสร้างขึ้นมา

ฉันรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าแรงๆ

ภาพความทรงจำเกี่ยวกับงานเปิดตัว 'วิมานศิลป์' ผุดขึ้นมาในหัว ฉันยืนอยู่ข้างๆ ภัทรวุฒิ ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขกับความสำเร็จที่ฉันสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง เขาโอบกอดฉันอย่างภาคภูมิใจ พูดกับทุกคนว่าฉันคือผู้หญิงที่เก่งที่สุดในโลก

เป็นคำโกหกที่หวานหอมที่สุดในชีวิตของฉัน

"ภัทร คุณรู้ไหมว่าฉันทุ่มเทกับแกลเลอรีนี้มากแค่ไหน" ฉันพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง "ฉันสร้างมันขึ้นมาตั้งแต่ศูนย์นะ"

"ผมรู้ครับที่รัก" เขาตอบเบาๆ "ผมถึงไม่อยากให้คุณต้องเหนื่อยอีกแล้วไง ผมอยากให้คุณมีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้นนะ"

เขาพูดราวกับว่าฉันเป็นคนป่วยที่ต้องได้รับการดูแล

ฉันมองเข้าไปในดวงตาของเขา พยายามหาแววตาของภัทรวุฒิคนเดิม คนที่ไม่เคยปฏิเสธความสามารถของฉัน คนที่เคยสนับสนุนทุกความฝันของฉัน

แต่ฉันไม่เจออะไรเลยนอกจากความเย็นชาที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้มจอมปลอม

"บางที... บางทีฉันอาจจะอยากเหนื่อยก็ได้นะคะ" ฉันพูด พยายามเก็บซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้

เขาหัวเราะเบาๆ เหมือนฉันพูดเรื่องตลก

"ไม่เอาหน่าที่รัก คุณแค่พักผ่อน แล้วปล่อยให้เรื่องงานเป็นของผมกับคุณภัสรดีกว่านะ"

ฉันรู้สึกเหมือนมีดกรีดลงไปในหัวใจ

'วิมานศิลป์' ไม่ใช่แค่แกลเลอรี แต่มันคือตัวตนของฉัน มันคือหลักฐานว่าฉันมีค่า และฉันสามารถสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง

แต่ตอนนี้ คนที่ฉันรักที่สุดกำลังจะมอบมันให้กับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง

ผู้หญิงที่ฉันเคยคิดว่าเป็นน้องสาวของฉัน

"ภัทร..." ฉันเรียกชื่อเขาอีกครั้ง

"เอาเถอะครับที่รัก อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะ" เขาจูบลงบนหน้าผากของฉัน "วันนี้วันเกิดของคุณไม่ใช่เหรอครับ ผมเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ไว้ให้คุณด้วยนะ"

คำว่า "วันเกิด" ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดอย่างประหลาด

ฉันจำได้ว่าภัทรวุฒิเคยบอกว่าเขาจะไม่ลืมวันเกิดของฉันเด็ดขาด

"คุณรู้ไหมว่าผมเตรียมอะไรไว้ให้คุณ" เขาพูด "สร้อยเพชรรูปดอกมะลิเม็ดเป้งเลยนะ คุณชอบดอกมะลิไม่ใช่เหรอครับ"

ฉันรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว

ฉันเกลียดดอกมะลิที่สุดในโลก

ฉันแพ้เกสรดอกมะลิ เคยเกือบจะช็อกตายในงานวันเกิดของภัทรวุฒิเมื่อหลายปีก่อน เพราะมีคนเอาช่อดอกมะลิมาให้ฉัน แล้วฉันก็จามไม่หยุด ตัวบวมไปหมด

ภัทรวุฒิเป็นคนแรกที่รีบพาฉันไปโรงพยาบาล เขาอยู่ข้างๆ ฉันตลอดเวลาที่ฉันต้องพักฟื้น เขาบอกว่าเขาจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้เด็ดขาด

แต่ตอนนี้... เขากลับจำไม่ได้

หรือเขาแค่ไม่สนใจ?

ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของฉัน แฟ้มเอกสารที่ฉันเพิ่งเซ็นอนุมัติไป มันคือเอกสารที่เกี่ยวกับการโอนหุ้นส่วนใหญ่ของ 'วิมานศิลป์' ให้กับนภัสสร

มือของฉันสั่นเทา

ภัทรวุฒิไม่ได้ลืม เขาแค่ไม่สนใจ

หรือเขาไม่เคยสนใจอะไรเกี่ยวกับฉันเลยตั้งแต่แรก

"ที่รักเป็นอะไรไปครับ ทำไมหน้าซีดจัง" ภัทรวุฒิถาม น้ำเสียงแฝงความห่วงใยจอมปลอม

ฉันพยายามรวบรวมสติ

"ไม่เป็นไรค่ะ" ฉันตอบ พยายามยิ้มให้เขา "แค่... ตื่นเต้นกับของขวัญน่ะค่ะ"

"ดีแล้วครับ" เขายิ้ม "ผมอยากให้คุณมีความสุขมากๆ นะ"

"ฉันมีเรื่องอยากจะขอคุณภัทรวุฒิสักอย่างได้ไหมคะ" ฉันถาม น้ำเสียงของฉันเรียบเฉยจนน่ากลัว

เขาดูแปลกใจนิดหน่อย

"ได้สิครับที่รัก มีอะไรที่ผมทำให้คุณไม่ได้บ้างล่ะ" เขาตอบ

"คืนนี้... ฉันอยากให้เราสองคนไปฉลองวันเกิดกันที่ทะเลนะคะ" ฉันพูด "ไปแค่เราสองคน"

ภัทรวุฒิลังเลเล็กน้อย

"แต่ว่าพรุ่งนี้ผมมีประชุมสำคัญ..."

"แค่คืนเดียวเองค่ะ" ฉันพูด "ไม่ได้เหรอคะ"

เขาถอนหายใจเบาๆ

"ก็ได้ครับ เพื่อคุณแล้ว ผมยอมเสมอ" เขายิ้ม "งั้นผมไปเตรียมตัวเข้าประชุมก่อนนะ แล้วเจอกันคืนนี้ครับที่รัก"

เขาจูบฉันเบาๆ ที่หน้าผาก แล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งไว้เพียงกลิ่นน้ำหอมและความว่างเปล่าที่กัดกินหัวใจของฉัน

ฉันล้มตัวลงนั่งบนเก้าอี้ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาอย่างเงียบงัน

คืนนี้... คือคืนสุดท้ายของฉัน

คืนสุดท้ายของการเป็น พัณณิณ จิระอนันต์

ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน ภาพของภัทรวุฒิและนภัสสรยังคงวนเวียนอยู่ในหัวใจ

ฉันคิดถึงคำหวานๆ ที่เขาเคยพูดให้ฉันฟัง คิดถึงสัมผัสอ่อนโยนที่เขาเคยให้กับฉัน คิดถึงรอยยิ้มที่เคยทำให้โลกของฉันสดใส

แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลายเป็นเถ้าธุลีไปหมดแล้ว

ฉันลุกขึ้นจากเตียง เดินไปที่ห้องแต่งตัว สายตาของฉันเหลือบไปเห็นกระเป๋าเดินทางเล็กๆ ที่ภัทรวุฒิเพิ่งซื้อมาให้เขาเองเมื่อเดือนที่แล้ว มันวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง

ฉันเปิดมันออก

ข้างในกระเป๋ามีผ้าพันคอไหมสีฟ้าอ่อนผืนหนึ่ง มันเป็นของขวัญที่ฉันตั้งใจจะให้เขาในวันครบรอบแต่งงานของเรา ผ้าพันคอนั้นปักลายดอก forget-me-not สลักชื่อย่อของเราสองคนไว้ด้วยด้ายสีทอง

ฉันหยิบผ้าพันคอนั้นขึ้นมา

หัวใจของฉันบีบรัดแน่น

มันเป็นผ้าพันคอที่ฉันเคยเห็นนภัสสรถืออยู่เมื่อสองสามวันก่อน สีหน้าของเธอมีความสุขจนแทบจะเก็บไว้ไม่อยู่

ฉันกำผ้าพันคอในมือแน่น พยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้

ไม่... นี่ไม่ใช่ความเข้าใจผิด

นี่คือความจริงอันโหดร้ายที่ฉันพยายามจะปฏิเสธมาตลอด

ภาพของนภัสสรยิ้มหวานในชุดของขวัญที่ฉันเลือกให้เธอในวันเกิดของฉันเองผุดขึ้นมาในหัว

ฉันไม่เคยได้รับอะไรแบบนั้นจากเขาเลย

ฉันรู้แล้วว่าแท้จริงแล้วผ้าพันคอนี้ไม่ได้ตั้งใจจะให้ฉัน เขาแค่มอบมันให้นภัสสรไปแล้ว และมันถูกวางทิ้งเอาไว้ในกระเป๋าเดินทางใบนี้โดยบังเอิญ

ฉันเคยคิดว่าฉันคือโลกทั้งใบของเขา

แต่แท้จริงแล้วฉันเป็นเพียงแค่ทางผ่าน

ฉันปาผ้าพันคอลงไปบนพื้นห้องนอนอย่างแรง

น้ำตาไหลทะลักออกมาจากดวงตาของฉันอย่างห้ามไม่ได้

ทุกอย่างที่ฉันเคยเชื่อมั่นมาตลอดกำลังพังทลายลงตรงหน้า

"ภัทรวุฒิ... นายมันเลวที่สุด" ฉันกรีดร้องอยู่ในใจ

ฉันทรุดตัวลงกับพื้นห้องเย็นๆ ปล่อยให้น้ำตาและความเจ็บปวดกัดกินหัวใจของฉัน

ฉันจะไม่ยอมให้เรื่องนี้จบลงแค่นี้เด็ดขาด

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
ศักดิ์ศรีที่หายไป...ฉันจะทวงคืน

ศักดิ์ศรีที่หายไป...ฉันจะทวงคืน

โรแมนติก

5.0

ฉันยอมทิ้งอนาคตที่สดใส ลาออกจากงานในฝันเพื่อมาช่วย 'ธีทัต' สามีสร้างธุรกิจจากศูนย์จนร่ำรวยมหาศาล หวังเพียงจะได้สร้างครอบครัวที่อบอุ่นด้วยกัน แต่สิ่งที่ได้รับตอบแทนคือการหักหลังตลอด 7 ปี เขาพา 'ปิยาภรณ์' รุ่นน้องหน้าซื่อใจคดเข้ามาในบ้าน ยกย่องเชิดชูเธอราวกับเจ้าหญิง เขาตราหน้าว่าฉันเป็นภรรยาที่จืดชืด ไร้ค่า เทียบไม่ได้กับเมียน้อยที่แสนอ่อนหวานและเอาใจเก่ง ในวันที่ฉันจับได้และเกิดปากเสียง เขาผลักฉันล้มกระแทกพื้นอย่างแรงจนเลือดไหลอาบขา ลูกน้อยในครรภ์ที่ฉันเฝ้ารอหลุดลอยไป แต่เขากลับเมินเฉยต่อความเจ็บปวดของฉัน เลือกที่จะอุ้มเมียน้อยที่แค่แกล้งสำออยไปโรงพยาบาล ทิ้งให้ฉันนอนจมกองเลือดและน้ำตาเพียงลำพัง วินาทีนั้น ความรักโง่ๆ ตลอดสิบปีได้ตายไปจากใจ ฉันเพิ่งตาสว่างว่าสำหรับเขา ฉันเป็นแค่บันไดที่เขาใช้เหยียบขึ้นไปแล้วถีบหัวส่ง ฉันลุกขึ้นปาดน้ำตา เซ็นใบหย่าทิ้งไว้ และจัดการโอนทรัพย์สินจอมปลอมคืนให้เขาจนหมดเกลี้ยง "เชิญพวกคุณเสวยสุขกันให้พอ เพราะจากวินาทีนี้ไป ฉันคนใหม่จะกลับมาทวงคืนศักดิ์ศรี และทำให้พวกคุณรู้ซึ้งว่า... การสูญเสียทุกอย่างมันรสชาติเป็นยังไง"

โพสต์อิทคือโลกทั้งใบของฉัน

โพสต์อิทคือโลกทั้งใบของฉัน

โรแมนติก

5.0

ฉันสูญเสียความทรงจำ ชีวิตในแต่ละวันของฉันต้องพึ่งพาโพสต์อิทสีเหลืองที่แปะอยู่เต็มผนังบ้าน มันคือโลกทั้งใบที่แตกสลายของฉัน จนกระทั่งพศิน แฟนเก่าที่ฉันทิ้งไปเมื่อเจ็ดปีก่อน กลับมาพร้อมคู่หมั้นของเขา เขาตราหน้าว่าฉันเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงินที่ทิ้งเขาไปหาเสี่ยรวยๆ อย่างเลือดเย็น พวกเขาใช้ฉันเป็นเครื่องมือในรายการเรียลลิตี้ สร้างเรื่องราวให้ฉันถูกคนทั้งประเทศเกลียดชัง บังคับให้ฉันสารภาพผิดในสิ่งที่ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ฉันถูกประจานให้อับอาย ถูกผลักลงไปในตู้กระจกที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งในพิธี "ชำระล้างบาป" ต่อหน้าคนนับล้าน จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด พี่ชายของฉันที่พยายามเข้ามาปกป้องก็ถูกทำร้ายและใส่ร้ายไปด้วย แต่สายตาของพศินที่มองมายังคงเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่ฉันไม่เข้าใจ ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ในเมื่อความทรงจำของฉันมันว่างเปล่าไปหมดแล้ว ทำไมเขาถึงต้องกลับมาทำลายชีวิตฉันให้ย่อยยับถึงขนาดนี้? เจ็ดปีที่แล้ว... มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

อย่าคุกเข่าอ้อนวอน ในวันที่ฉันหมดใจแล้ว

อย่าคุกเข่าอ้อนวอน ในวันที่ฉันหมดใจแล้ว

มนุษย์หมาป่า

5.0

ในขณะที่ออกซิเจนในห้องนิรภัยกำลังจะหมดลง ฉันรวบรวมลมหายใจเฮือกสุดท้ายวิทยุไปหาสามี "ดันเต้... ช่วยด้วย ฉันหายใจไม่ออก" แต่เสียงที่ตอบกลับมานั้นเย็นชายิ่งกว่าความตาย "จัดการตัวเองไปก่อน เอเลน่า ผมกำลังพาโซเฟียออกจากเขตอันตราย" วินาทีน้น ฉันรู้ทันทีว่าสำหรับมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่อย่าง 'ดันเต้ วิทิเอลโล' ฉันเป็นเพียงภรรยาในนามที่ไร้ค่า เขาเลือกช่วยชู้รัก และทิ้งให้ฉันกับลูกในท้องที่เขาไม่เคยรู้ว่ามีตัวตน ต้องเผชิญความตายเพียงลำพัง ฉันรอดมาได้ แต่หัวใจของฉันตายไปแล้ว ฉันทิ้งใบหย่าไว้บนกองเอกสารธุรกิจพันล้านของเขา แล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมความลับเรื่องลูกที่จากไป หนึ่งเดือนต่อมา ดันเต้แทบพลิกแผ่นดินหา เมื่อเขารู้ความจริงจากคลินิกว่าคืนนั้นฉันสูญเสียอะไรไปบ้าง และเขาเป็นต้นเหตุ เขาบุกมาหาฉันถึงนิวยอร์ก สภาพดูไม่ได้ คุกเข่าลงท่ามกลางสายฝนและโคลนตม อ้อนวอนขอโอกาสแก้ตัว "ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ กลับบ้านเถอะนะ" ฉันมองผู้ชายที่เคยรักสุดหัวใจด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนจะเอ่ยประโยคสุดท้ายปิดตายความสัมพันธ์ "คุณไม่ได้เสียใจที่ทำร้ายฉันหรอก ดันเต้... คุณแค่เสียใจที่ฉันไม่อยู่ให้คุณควบคุมแล้วต่างหาก"

สายเกินไปที่จะรั้งหัวใจภรรยาอัจฉริยะกลับคืนมา

สายเกินไปที่จะรั้งหัวใจภรรยาอัจฉริยะกลับคืนมา

สมัยใหม่

5.0

ฉันวางใบหย่าที่เซ็นชื่อแล้วไว้บนโต๊ะทำงานของฮั่วเจ๋อซู เพื่อจบสิ้นสถานะ "เมียแต่ง" ที่เหมือนคนรับใช้ตลอด 8 ปี แต่เขากลับพา "โจวโม่โม่" รักแรกของเขาเดินควงแขนเข้ามาในบ้านอย่างเปิดเผย เธาสวมเพียงเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของเขา ประกาศชัยชนะเย้ยหยันฉันที่กำลังยืนจัดโต๊ะอาหารราวกับเป็นส่วนเกิน ฮั่วเจ๋อซูไม่แม้แต่จะถามไถ่ความรู้สึกฉัน เขากลับตะคอกใส่เมื่อฉันขอตัวลา โดยไม่รู้เลยว่านั่นคือฟางเส้นสุดท้าย ในวันที่ฉันลากกระเป๋าออกจากบ้าน อาการวิงเวียนศีรษะรุนแรงทำให้ฉันต้องแวะโรงพยาบาล และผลตรวจก็ตบหน้าฉันอย่างจัง... ฉันตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์ วินาทีที่ฉันกำใบตรวจครรภ์ด้วยมือที่สั่นเทา ฮั่วเจ๋อซูกลับวิ่งผ่านหน้าฉันไปเพื่อประคองชู้รักที่แกล้งเจ็บท้อง โดยไม่ปรายตามองภรรยาที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ความเจ็บปวดเปลี่ยนเป็นความแค้น ฉันตัดสินใจขีดฆ่าชื่อพ่อออกจากชีวิตลูก เผาแหวนแต่งงานทิ้ง และบินหนีไปอเมริกาโดยไม่ทิ้งร่องรอย วันที่เขารู้ความจริงว่าฉันท้องและจากไป เขาแทบพลิกแผ่นดินหาอย่างคนบ้าคลั่ง แต่มันสายไปเสียแล้ว สามปีต่อมา ฉันกลับมาอีกครั้งในฐานะนักวิจัยระดับโลกผู้สง่างาม พร้อมกับเด็กชายตัวน้อยที่ถอดแบบใบหน้าเขามาทุกกระเบียดนิ้ว ฮั่วเจ๋อซูผู้ยิ่งใหญ่ยอมทิ้งศักดิ์ศรี คุกเข่าตากฝนหน้าโรงพยาบาลเพื่อขอโอกาสเป็นพ่อคน "ชีวิตของคุณไม่มีค่าพอสำหรับฉันหรอก ฮั่วเจ๋อซู" ฉันมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า แล้วปิดประตูรถใส่หน้าเขา ทิ้งให้เขาร่ำไห้อย่างน่าสมเพชกับบทเรียนราคาแพงที่ชื่อว่า "สายเกินไป"

ห้องฮันนีมูนซ่อนกลกล้องวงจรปิด

ห้องฮันนีมูนซ่อนกลกล้องวงจรปิด

โรแมนติก

5.0

เพื่อหาเงินรักษาแม่ที่นอนรอความตาย ฉันยอมขายศักดิ์ศรีรับงาน "พิเศษ" ในโรงแรมหรู แต่โลกกลับกลมจนน่าตลก เมื่อฉันได้งานใหม่และพบว่า "ลูกค้า" คืนนั้น คือสามีของประธานบริษัทที่ฉันต้องรับใช้! ฉันคิดว่าจะโดนไล่ออก แต่คุณหทัยกลับยิ้มเย็นเยือก แล้วส่งฉันกับสามีเธอไปดูงานต่างจังหวัด พร้อมจอง "ห้องฮันนีมูน" ให้เราสองคน คืนนั้นฉันสะดุ้งตื่นเพราะฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด พบว่าตัวเองกำลังถูกสามีเจ้านายกอดรัดอยู่บนเตียง ที่มุมห้องมีแสงไฟสีแดงวาบจากกล้องวงจรปิด พร้อมข้อความจากคุณหทัยที่ส่งมาว่า "ทำได้ดีมากค่ะ ทั้งสองคนดูเร่าร้อนกว่าครั้งแรกอีกนะ" วินาทีนั้นฉันถึงรู้ความจริงอันน่าสะอิดสะเอียน คุณหทัยไม่ได้โง่ แต่เธอคือคนบงการ! เธอเสพติดการเห็นสามีตัวเองมีอะไรกับหญิงอื่นผ่านกล้อง นภดลเองก็เป็นแค่เหยื่อที่ถูกมอมยาและบีบด้วยหนี้สินไม่ต่างจากฉัน ความกลัวเปลี่ยนเป็นความแค้น ในเมื่อเธออยากดูหนังสดนัก ฉันกับนภดลก็จะเล่นให้ดู แต่บทตอนจบ... นางพญาโรคจิตอย่างเธอจะต้องไปนอนในคุก

เซ็นหย่าไม่รู้ว่าเสียอะไรไป

เซ็นหย่าไม่รู้ว่าเสียอะไรไป

โรแมนติก

5.0

สามีเซ็นใบหย่าโดยไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่กกกอดอยู่กับแฟนเก่าที่เขาพาเข้ามาหยามเกียรติฉันถึงในบ้าน ในมือฉันกำผลตรวจครรภ์ที่เขาไม่มีวันได้เห็นแน่น แต่มันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว เพราะวินาทีที่เขาจรดปากกาเซ็นชื่อลงไปโดยไม่อ่านเนื้อหา ฉันก็กลายเป็นอิสระจากนรกขุมนี้ทันที ตลอด 4 ปีที่แต่งงานกันมา ฉันเป็นได้แค่ "เฟอร์นิเจอร์ที่เคลื่อนที่ได้" สำหรับภราดร เขาเย็นชา ไร้หัวใจ และเมื่ออิสรีย์ แฟนเก่าของเขากลับมา เขาก็พร้อมจะเขี่ยฉันทิ้งเหมือนขยะเพื่อเอาใจเธอ ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นในวันที่ฉันไปโรงพยาบาลและพบว่าตัวเองตั้งท้อง ฉันโทรหาเขาด้วยความดีใจ แต่เขากลับตวาดใส่และบอกว่ากำลังยุ่งอยู่กับการดูแลอิสรีย์ที่แค่ "ข้อเท้าแพลง" วินาทีนั้นฉันตาสว่าง ความรักที่ฉันมีให้เขามันตายไปพร้อมกับความหวัง ฉันวางแผนอย่างใจเย็น สอดไส้ใบหย่าไว้ใต้กองเอกสารวิจัยที่ให้เขาเซ็น เขาเซ็นมันอย่างรวดเร็วเพื่อจะรีบไปหาชู้รัก โดยไม่รู้เลยว่านั่นคือการเซ็นยกเลิกสิทธิ์ความเป็นพ่อและสามีของตัวเอง ตอนนี้ฉันกำลังจะขึ้นเครื่องไปสวิตเซอร์แลนด์ เริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกในท้อง ส่วนภราดร... รอให้เขารู้ตัวตอนที่หิมะถล่มลงมาทับความรู้สึกผิดของเขาเถอะ ว่าเขาได้สูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดไปตลอดกาลแล้ว

หนังสือที่คุณอาจชอบ

แสนรัก(ลักษณ์)พันธนาการใจ

แสนรัก(ลักษณ์)พันธนาการใจ

มณีมายา/แอล/รมตี
5.0

หนุ่มใหญ่วัย 42 เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตระดับ 5 ดาว ผู้ทรงอิทธิพลแห่งขุนเขา ดุดัน โหดและดินเถื่อน ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับสายตาและรอยยิ้้มแสนหวาน ของสาวน้อยวัย 19 เธอคือ made mind day เธอคือคนที่ทำให้วันเครียดๆ ของเขากลายเป็นสีชมพู รอยยิ้มของเธอทำให้เขาไม่มีวันลืม นอนไม่หลับ และเฝ้ารอที่จะได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง “ปวดท้องอีกแล้วค่ะ อื้อ! พอปวดมันก็ไหลออกมาอีก” “บอกอาเลย ให้อาทำยังไง” “ไปร้านสะดวกซื้อ ซื้อผ้าอนามัยให้วีได้ไหมคะ” “ไอ้เขตไปร้านสะดวกซื้อ เร็ว” พ่อเลี้ยงหนุ่มสั่งอย่างรีบร้อน ก่อนจะประคองมนัสวีเขามากอดปลอบไปก่อนเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร “ครับๆ” ว่าแล้วเขตแดนก็ขับรถไปพาร้านสะดวกซื้อทันทีซึ่งหาไม่ยาก “ถึงแล้ว ให้อาซื้ออะไรบ้างบอกมาซิ” ครั้นจะให้หนุ่มๆ ไปซื้อก็มีความรู้เท่ากันนั่นแหละ สู้เขาไปจัดการเองดีกว่า “ได้เหรอคะ วีกลัวคุณอาจะ...” “ไม่เป็นไรวีเดินไม่ไหว ไหนกางเกงน่าจะเปื้อนแล้ว” “เอาแบบกลางวัน ยาว 30 cm. 1 ห่อนะคะ แล้วกลางคืนยาว 35 cm. ค่ะ ถ้าหาไม่เจอบอกพนักงานก็ได้ค่ะ” “โอเคจ้ะ” ได้หรือไม่ได้เขาก็รับปากไปก่อนก็แล้วกัน ว่าแล้วจึงรีบลงจากรถพุ่งตัวเข้าไปในร้านในทันที เพียงไม่กี่ล็อกก็เจอผ้าอนามัยแต่ “คุณพระคุณเจ้ามีเป็นร้อย เอ่อ ไงดีวะ” ด้วยความไม่แน่ใจ กลัวหยิบไปผิด ต้องรวบรวมความกล้าและทิ้งความอายไปถามพนักงาน ไม่งั้นเมียเขาม่ได้ใส่ผ้าอนามัยแน่ๆ เชียว “ขอโทษทีครับ คือ ผม... มาซื้อผ้าอนามัยให้... ภรรยา แต่ไม่รู้ว่าต้องเลือกยี่ห้อไหนขนาดอะไรหรือแบบไหนถึงจะดี”

คุณนายฟู่ กรุณาเซ็นต์หย่า

คุณนายฟู่ กรุณาเซ็นต์หย่า

Harper
5.0

ความรักที่ซ่อนเร้นของสาวน้อยเริ่มต้นในวันที่ทั้งสองได้พบกันในการพบกันที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนาน ทว่าเด็กสาวที่ครอบครัวรับมาเลี้ยงกลับแย่งชิงครอบครัวและเด็กหนุ่มไปโดยไม่รู้สึกเกรงกลัว เมื่อโตขึ้น เธอใช้โอกาสการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์เพื่อแย่งชิงตำแหน่งภรรยาของชายคนนั้น ไม่ยอมถอยแม้แต่นิดเดียว ฟู่เป่ยชวนกอดพี่สาวของเธอไว้ในอ้อมแขน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เธอทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน” ซูชิงเฉินรู้สึกปวดท้องเหมือนมีบางอย่างในร่างกายของเธอค่อยๆ เลือนหายไป เธอยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงแน่วแน่ “แน่นอน ฉันจะไม่มีวันปล่อยมือ ถึงจะต้องตายก็ตาม” ไม่นานนัก ซูชิงเฉินก็เหมือนจะหายไปจริงๆ จากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในยามค่ำคืน ฟู่เป่ยชวนมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับเขาว่า “ถ้าฉันไม่เคยรักเธอเลยก็คงจะดี” ห้าปีต่อมา ซูชิงเฉินกลับมาพร้อมกับเด็กคนหนึ่ง กลับมาในสายตาของคนทั่วไปอีกครั้ง ...

ความรักเป็นพิษ

ความรักเป็นพิษ

Rascal
5.0

เจียนเยว่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนกระทั่งพบอาของเธอ แต่เธอก็ตกหลุมรักอาของเธออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น่าเสียดายที่อาคนนั้นกำลังจะแต่งงาน เลยจัดให้เธอไปต่างประเทศ เพื่อแก้แค้น เธอจึงเรียนวิชาบุรุษวิทยาและหลังจากกลับมาอีกครั้ง เธอก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบุรุษวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุด เชี่ยวชาญการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งเร็ว ภาวะมีบุตรยาก... คราวนี้คุณอาดันเธอไว้ในห้องนอน "ถ้าอยากดูร่างกายของผู้ชายมาก ก็ช่วยตรวจให้ผมหน่อยสิ" เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย และใช้มือปลดเข็มขัดของเขา "มิน่าเล่าขนาดอามีคู่หมั้นแล้ว แต่กลับไม่แต่งงานสักที ที่แท้มันใช้งานไม่ได้สินะ" "จะได้หรือไม่ได้ คุณก็ลองดูเองสิ" "ไม่เลย อาไปหาคนอื่นช่วยดูให้เถอะ"

มงกุฎเลือด

มงกุฎเลือด

Tepui Frost
5.0

ในชาติก่อน นางได้ต่อสู้เพื่อประเทศชาติเป็นเวลาห้าปี แต่ความดีความชอบทางการทหารกลับถูกน้องหญิงยึดไป คู่หมั้นที่นางรักหมดใจนั้นกลับนิ่งเฉยและร่วมมือกับอีกฝ่ายผลักนางตกลงสู่ห้วงลึกจนต้องเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจในคืนที่หนาวเย็น หลังจากได้เกิดใหม่ นางสาบานว่าจะทำให้ทุกคนที่รังแกนางได้รับผลกรรมที่สาสม เมื่อเผชิญหน้ากับครอบครัวที่เสแสร้งและผู้ชายเจ้าชู้ นางยิ้มเยาะ : ความดีความชอบทางทหาร? รางวัล? คู่หมั้น? เอาไปให้หมด นางหันหลังกลับและคุกเข่าในงานเลี้ยงในวังอย่างน่าตกใจโดยชี้ตรงไปยังมุมมืดที่มีอ๋องอวี้นั่งอยู่บนรถเข็น“ขอฝ่าบาททรงโปรดพระราชทานการสมรสระหว่างหม่อมฉันกับอ๋องอวี้เพคะ” ทุกคนต่างตกตะลึง อ๋องอวี้เซียวจือ ขาทั้งสองข้างใช้การไม่ได้และมีนิสัยเย็นชา เป็นคนที่ทุกคนหลีกเลี่ยงเสมือนปีศาจที่มีชีวิต ทุกคนหัวเราะเยาะนางว่าคงบ้าไปแล้ว ถึงรนหาที่ตายเช่นนี้ แต่ไม่มีใครรู้ว่านางเห็นถึงความโดดเด่นและพลังที่ซ่อนอยู่ลึกในตัวชายคนนี้ นางช่วยให้เขาฟื้นฟูความแข็งแกร่งและรักษาขาที่เป็นพิการ เขาสัญญาว่าจะให้ชีวิตที่มั่นคงแก่นางและเป็นที่พึ่งที่แข็งแกร่งที่สุดให้นาง เมื่อน้องหญิงที่แอบอ้างนำความดีความชอบทางทหารของนางไปอวดความเก่งกล้า และแม่แท้ ๆ ยังคงใช้กลอุบายควบคุมชะตากรรมของนาง… นางและอ๋องอวี้ร่วมมือกันวางแผนอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน เปิดโปงกลโกงและแสดงความกล้าหาญในสนามรบ! จนกระทั่งอ๋องอวี้ยืนขึ้นได้อีกครั้งและมีอำนาจครอบครองราชสำนัก จนกระทั่งนางแสดงตราประทับที่แท้จริงข และให้ทหารทั้งหลายยอมรับ ทุกคนเพิ่งรู้สึกตระหนักว่า คนที่พวกเขาเคยทิ้งไปไม่ต่างจากขยะนั้น ทั้งคู่ได้จับมือกันแล้วครองแผ่นดินไว้ด้วยแล้ว

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ