พ่ายรักพลิน

พ่ายรักพลิน

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
231.4K
ชม
78
บท

พลินใจหายวาบเมื่อตื่นมาแล้วเห็นคราบเลือดบนที่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่การเข้าใจผิด เธอกับว่าที่พี่เขยมีความสัมพันธ์ทางกายกันเมื่อคืนนี้อย่างนั้นหรือ! ###### “หยุดนะ คนหื่นกาม!” บารมีผงะออกไม่ใช่เพราะถูกผลักแต่เพราะใบหน้าตื่นกลัวนั่น พร้อมคำกล่าวหาที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาต่างหาก ก่อนตวาดกลับเสียงดุดัน “คิดว่าตัวเองน่าพิศวาสมากหรือไงพลิน” พลินเม้มปากแน่น เพราะไม่เคยเห็นเขาพูดจาแบบนี้กับใครมาก่อน “ถ้าไม่ได้พิศวาส คุณก็อย่ามาแตะตัวพลินสิ” ว่าออกไปด้วยเสียงสั่นๆ ตัวก็สั่นไปด้วยตามแรงอารมณ์ที่ถาโถมเข้ามา ดวงตาแดงกล่ำน้ำตาเอ่อคลอไหลพรากอาบแก้มราวกับทำนบกั้นเขื่อนแตก เพราะเจ็บใจ บารมีเห็นแบบนั้นก็ผุดยิ้มร้ายกาจก่อนหยามต่อด้วยการขุดเรื่องในอดีตขึ้นมาถาม “อะไรกันแค่จับๆจูบๆแค่นี้เองทำไมต้องร้องไห้ด้วย ทีเมื่อสี่ปีก่อนทำมากกว่านี้ ยังไม่เห็นจะร้องซักแอะ” “ตอนนั้นพลินเมา คุณเองก็เมา ถึงได้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าตอนนั้นพลินไม่ร้อง” ตาคมดุจมีดคู่นั่นมองเธอราวกับจะเฉือนเนื้อออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ปรากฏแววไหววูบในนั้นครู่เดียวก่อนพ่นคำออกมาหมิ่นอีกฝ่ายต่อราวกับรอเวลามาเนิ่นนาน “แล้วเธอล่ะแน่ใจหรือเปล่าว่าคืนนั้นน่ะเธอเมาจริง ไม่ใช่ว่าที่ดื่มไปสี่ห้าแก้วนั่นเป็นการดื่มย้อมใจเพื่อที่จะได้กล้านอนแบให้ผู้ชายที่ไม่รู้จักเอา แลกกับเงินสามล้านบาทนั่นน่ะ!”

บทที่ 1 1

‘บารมี’ วางเอกสารในมือลง หลังได้รับรายงานจากเพื่อนกึ่งลูกน้องว่าเขากำลังถูกนายสมโกง

เพราะความไว้วางใจให้ช่วยบริหารงาน จึงยอมให้อีกฝ่ายช่วยเหลือ เคยตรวจสอบประวัติพบว่าขาวสะอาด โปร่งใสดี รวมถึงมีผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนช่วยแนะนำมาให้อีกทีจึงไว้ใจมากกว่าใครคนอื่น เผื่อใจไว้บ้างแล้วแต่ไม่วายเจอเล่ห์กลโกงขั้นเทพ ชนิดที่ว่าหากเขาไม่ใช้คนที่ชำนาญการมากกว่ามาตรวจสอบอีกทีคงไม่พบว่ามีการฉ้อโกงครั้งนี้เกิดขึ้น

อีกฝ่ายแก้ไขเอกสาร ตัวเลขการส่งออก ทั้งยังลักลอบยักย้ายถ่ายเทผลผลิตล็อตใหญ่ไปขายโดยไม่ลงรายงาน แล้วนำของที่ไร้คุณภาพมาบรรจุใส่แทนในนามของไร่มากล้นบารมี ขาดทุนไม่พอ ยังเสียชื่อเสียง กลายเป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้อีกด้วย

คงเห็นว่าเขาใจดีเกินไปแล้วละมัง

“ทำมานานแค่ไหนแล้วหนุ่ย”

เสียงถามนั่นเคร่งเครียดเต็มไปด้วยโทสะอัดแน่น

ชายร่างสันทัดสูงไม่ทัดเทียมคนเป็นนายเจ้าของชื่อ ‘หนุ่ย’ มองบารมีที่แม้ภายนอกดูนิ่ง แต่ข้างในคงเดือดดาลน่าดู เทียบเคียงภูเขาไฟรอปะทุอยู่ทุกวินาที ก่อนตอบเสียงเครียดปานกัน

“สายสืบเรารายงานว่าทำมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วครับ แก้เอกสาร แก้ตัวเลขในบัญชีมาเรื่อยๆ มีคนในของเรากลุ่มหนึ่งคอยช่วยนายสมด้วยครับ”

“ระยำเถอะ!”

เค้นเสียงสบถอย่างเหลืออดในพฤติกรรมของนายสม

หนุ่ยชำเลืองมองชายรุ่นพี่ที่ควบตำแหน่งเจ้านายด้วยสายตาเห็นใจ แม้บารมีจะเป็นลูกเศรษฐีมีชื่อในจังหวัด แต่เขาไม่เหมือนลูกคนรวยทั่วไป และเพราะไม่ยอมสานต่อกิจการของทางบ้าน จึงถูกตัดขาดการช่วยเหลือของทางนั้นอย่างสิ้นเชิง ไม่มีเงินทุนช่วยหนุน ไม่มีใครคอยช่วยเหลือติดต่อประสานงานใดๆ ให้ บารมีต้องทำเอง เริ่มเองทั้งหมด พอตั้งใจทำอะไรแล้วมีคนคอยทิ่มแทงอยู่แบบนี้ก็จะให้เป็นสุขอยู่ได้อย่างไร

บารมีเองมักทำตัวติดดินมาเสมอตั้งแต่เด็ก และที่หันมาจับงานเกษตรนี้ก็ด้วยใจรักล้วนๆ เขาเริ่มต้นจากศูนย์ มุทำงานบนพื้นที่เล็กๆ ไม่กี่ไร่ จนผลผลิตงอกงามเป็นไปได้ด้วยดี ก็มีนายสมเข้ามาเสนอตัวช่วยงาน

ทั้งที่ปกติแล้วบารมีไม่ใช่พวกเชื่อใจใครง่ายๆ แต่นายสมเข้ามาถูกจังหวะที่บารมีต้องการความช่วยเหลือพอดิบพอดี บวกกับความเป็นคนมีฝีปากเก่งและฝีมือการโกงที่เชี่ยวชาญจึงทำให้บารมีพลาดจนได้ และเครียดจัดอยู่ในขณะนี้

หนุ่ยตัดสินใจส่งซองเอกสารสีน้ำตาลในมือให้คนที่ตนนับถือเป็นนาย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว รู้อีกสักเรื่องไปเลยก็แล้วกัน

“อะไร” บารมีมองก่อนถามด้วยน้ำเสียงระแวง

“ข้อมูลของคุณญาดาครับ”

“พี่ไม่ได้อยากรู้” คนเป็นนายมักแทนตัวเองว่าพี่กับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาทุกคน หนุ่ยถอนใจเบาๆ พยักหน้าน้อยๆ บอกอย่างจำใจ

“แต่เรื่องนี้พี่ควรต้องรู้ครับ”

มองสบตาหนุ่ยแล้ว บารมีรับมาเปิดออกดู ยิ้มหมิ่นแคลน สบถออกมาอีกคำ พร้อมนึกถึงหญิงสาวที่ชื่อ ‘ญาดา’ ส่ายหน้าชิงชังด้วยความสะอิดสะเอียน

ญาดาเข้ามาทำตัวสนิทสนมกับเขาได้พักใหญ่ โดยติดตามนายสมมาที่นี่ด้วยเสมอ เจ้าหล่อนอ่อนหวาน เอาใจเก่ง พูดจารู้อยู่รู้เป็น แล้วหากต้องออกไปข้างนอกด้วยกัน เธอก็จะทำตัวให้ดูเหมือนว่าสนิทสนมกับเขามากเป็นพิเศษ บารมีมั่นใจว่าหากใครมองเข้ามาที่เขากับญาดา ก็ต้องคิดว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่เป็นแน่

บุตรสาวของนายสม สวยสดงดงามจริง ญาดารู้จุดเด่นของตัวเองดีว่ามีตรงไหนที่ใช้มัดใจชายได้ก็จะดึงเอาออกมาใช้

เจ้าหล่อนชอบที่จะส่งสายตาหวานฉ่ำพร้อมเอ่ยคำพูดหยอกเย้าป้อยอทุกครั้งที่แวะเวียนมาหา ชายผู้ไม่ค่อยมีเวลาสนใจมองใครเพราะมัวแต่มุ่งทำงานอาจมีเคลิบเคลิ้มเผลอไผลไปบ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นหลงใหลขนาดชายคนอื่นที่เธอเที่ยวหว่านเสน่ห์ใส่

‘รู้จักคนอย่างบารมีกันน้อยเกินไปแล้วละมัง’

หนุ่ยคิดอยู่ในหัว เมื่อเห็นใบหน้าของบารมีนิ่งเฉย อ่านและคาดเดาความคิดไม่ออก แต่กระนั้นหนุ่ยก็พอทราบอารมณ์ของคนเป็นนายได้อย่างดี เพราะเติบโตมาด้วยกัน

บารมีอายุมากกว่าเขาเพียงสามปีเท่านั้น แต่นิสัยโตกว่ารุ่นเดียวกันมาก รวมถึงทัศนคติ การวางตัว และลึกๆ แล้วนายของหนุ่ยเป็นคนเด็ดขาดขั้นสุด คำไหนคำนั้น เป็นคนถนอมวาจา เงียบ เปี่ยมไปด้วยบารมีสมชื่อ เขามีคนรู้จักมากหน้าหลายตาส่วนหนึ่งมาจากนามสกุลดังที่ต่อท้าย แต่อีกส่วนที่รู้จักก็เพราะความมีมิตรไมตรีชอบช่วยเหลือคนของบารมีเอง จึงได้รับการตอบแทนเป็นความช่วยเหลือเกื้อกูลกลับมาเมื่อเขาต้องการเช่นกัน แต่ไม่เคยมีใครกล้าทำกับบารมีอย่างที่นายสมทำมาก่อน

จากความคุ้นชินกันเป็นอย่างดีนี้เอง หนุ่ยคาดว่าอาการนิ่งขรึม ควบคุมตัวเองได้อยู่เสมอนั้น ภายใต้ลงไปข้างในลึกๆ คงกำลังคิดหนทางเอาคืนอีกฝ่ายอยู่เป็นแน่

บารมีเป็นคนประเภทรักแรงเกลียดแรง ฝังใจเจ็บ ชอบและสนุกกับการแก้แค้นเอาคืน

เขาไม่ใช่พ่อพระมาเกิด แม้จะมีน้ำใจช่วยเหลือใครต่อใคร แต่ภายในจิตใจลึกๆ ด้านมืดแล้ว บารมีมีความผูกใจเจ็บชนิดที่ว่าสามารถเล่นงานอีกฝ่ายให้ย่อยยับจมดินได้ด้วยเหตุผลเล็กๆ น้อยๆ ที่คิดมาหยามหมิ่นความตั้งใจดีของตัวเอง บารมีสามารถทำได้ทุกวิถีทางให้คนประสงค์ร้ายกับตนนั้นไร้ซึ่งที่ยืน ไร้ซึ่งทุกสิ่งอย่างได้แบบไม่สนใจสิ่งใดๆ เลยทั้งสิ้น

ใครดีมาบารมีดีตอบ แต่หากใครร้ายมาคาดว่าคนผู้นั้นต้องชะตาขาดในอนาคตอันใกล้นี้อย่างไม่ต้องสงสัย

จริงอย่างที่หนุ่ยคาด วินาทีนั้นเองบังเกิดความคิดชั่วร้ายแวบหนึ่งในหัวของบารมี รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากก่อนลงนั่งนิ่งๆ พร้อมแผนการตอบโต้นายสมให้หน้าแหกกลับไปเช่นกัน

คนอย่างบารมีไม่เคยทำใครก่อน แต่หากใครคิดมาต่อกรด้วย เห็นว่าเขาเป็นหมูในอวย ก็คาดว่าคนผู้นั้นคงคิดผิดไปมหันต์

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

Coupling Shim
5.0

ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.4

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

ฉันหนีไม่พ้นแล้ว

ฉันหนีไม่พ้นแล้ว

Fiona Lynx
5.0

ที่งานหมั้น มู่ซินยวี่ดื่มเหล้าเข้าไปจนรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว เมื่อเห็นเงาร่างที่คุ้นเคย เธอจึงพุ่งเข้าไปหาและจูบอย่างหลงใหล “คุณสามีจ๋า ฉันอยาก...” หลังจากเกิดอะไรบ้าคลั่งมาคืนหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าชายที่อยู่ข้างกายเธอคือ เสิ่นเจียสวี่ ลูกพี่ลูกน้องนักบินของคู่หมั้น! “ตอดรัดแน่นมาก ชอบมากเลยเหรอ?”พอเสียงแหบ ๆ เบา ๆ นี้ลอยเข้าหูมา ที่น่ากลัวกว่านั้นคือเสียงคู่หมั้น เสิ่นเจียหวิน ตะโกนโวยวายอยู่หน้าประตู เสิ่นเจียสวี่เอาเสื้อสูทคลุมหัวเธอเพื่อพาเธอออกมาแต่ก็ยื่นเงื่อนไขโหดร้าย “มาเป็นกิ๊กของฉัน ไม่งั้น...ลองเดาดูสิว่าตระกูลเสิ่นจะมองเธอเป็นหญิงสำส่อนยังไง ?” มู่ซินยวี่กัดฟันรับข้อเสนอ แค่อยากจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ แต่กลับพบว่าเสิ่นเจียสวี่คือกัปตันเครื่องบินของเธอ ในห้องพักบนเครื่องบินสูงหมื่นเมตร เขาจับเอวเธอ "คิดหนีเหรอ? เที่ยวบินนี้ฉันเป็นเป็นหลัก" เธอกล้ำกลืนเอาไว้เพื่อรักษาบริษัทที่แม่ทิ้งไว้และพ่อที่ป่วยหนักของเธอ แต่กลับได้ยินเสิ่นเจียหวินเยาะเย้ยว่า “คุณหนูที่ตกอับ เล่นสนุกแค่แป๊บเดียวก็เบื่อแล้ว!” และเห็นเขากอดมู่อยู่อู่ น้องสาวบุญธรรม พร้อมทุ่มเงินฟุ่มเฟือย! มู่ซินยวี่รู้สึกใจหาย เอาล่ะ การหมั้นนี้ เธอไม่เอาแล้ว เธอหันหลังไปหาเสิ่นเจียสวี่ที่มีอำนาจมากกว่า “ช่วยฉันถอนหมั้น ฟื้นฟูบริษัท แล้วฉันจะยอมตามใจคุณ” ชายหนุ่มมีประกายตาแห่งความต้องการเป็นเจ้าของ “ตกลง จำไว้ จากนี้ไป เธอต้องเป็นของฉันเท่านั้น” ตั้งแต่นั้น ชีวิตของมู่ซินยวี่ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ