Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
466
ชม
11
บท

"รัก" คำที่ไร้ซึ่งตัวตนไม่สามารถจับต้องได้แต่กลับสร้างความสะท้านสะเทือนให้กับทุกคนที่หลงเข้าสู่ห้วงวังวนนั้น ไม่ได้ต่างจากเธอ หญิงสาวซึ่งถูกลวงล่อผูกมัดให้หลงอยู่กับความงดงามเพริดแพร้วหฤหรรษ์ โดยหารู้ไม่ว่าอีกด้านของมันที่มืดมิดทมิฬและเต็มไปด้วยการทำลายล้างจะเผาผลาญเธอให้เหลือเพียงเถ้าธุลีในวันหนึ่ง... เมื่อปฐมบทแห่งการล้างแค้นเปิดฉากขึ้น ความรักอันสวยหรูหวานล้ำ เสน่หาที่ตรึงใจไว้กับร่างกายซึ่งเคยหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกลับกลายเป็นเพียงมายาที่ไร้ซึ่งความความจริงใจ ความเจ็บปวดรวดร้าวจึงมาเยือน "อรุโณรีย์ วรวงค์นุเดช" หญิงสาวผู้บริสุทธิ์ เพราะเธอเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่ถูกชายหนุ่มรูปงามนามทอเลเมียส นิโคไลคัส หลอกใช้เป็นเครื่องมือให้คอยประหัตประหารบิดาของเธอเอง ท่ามกลางความพยาบาทที่ร้อนระอุ แม้แต่เสน่หาที่เคยเพียรป้อนให้กันก็ไม่สามารถดับกระหายความแค้นที่ทับถมอยู่ในใจของชายหนุ่มให้บรรเทาเจือจาง

บทที่ 1 สูญสิ้น ตอนที่ 1

“คุณหนู...คุณหนูครับตื่นเร็วเถอะครับ...”

เสียงทุ้มคุ้นเคยดังแว่ว เพราะเหมือนยังอยู่ในห้วงความฝัน ทำให้หนุ่มน้อยที่นอนอยู่บนเตียงหรูหรารู้สึกตัวนิดๆ และกะพริบตามองคนเรียกด้วยอาการสะลึมสะลือ

“น้าทิม...มีอะไรเหรอครับ” เด็กหนุ่มลูกครึ่งเอ่ยถามคนสนิทของบิดา ซึ่งมีท่าทีลุกลี้ลุกลนด้วยความสงสัย ก่อนตัวเขาจะถูกกระชากให้ลุกลงจากเตียงจนเกือบตั้งตัวยืนไม่ทัน

“เร็วครับตามผมมาเราต้องไปกันแล้ว...ไม่มีเวลาแล้วครับ”

“ไปไหน...ทำไมต้องไปด้วย เกิดอะไรขึ้น” เด็กหนุ่มถูกลากออกไปจากทางด้านหลังระเบียงของห้องเสียก่อนทั้งที่ยังงุนงงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่หลากหลายคำถามที่สงสัยกู่ก้องอยู่ในหัวสมองยังคงไม่ได้รับคำตอบ

“น้าทิมเกิดอะไรขึ้น...” เขาถามอีกครั้ง แต่กลับไม่ได้รับคำตอบ คนถูกถามใช้มือโบกเป็นสัญญาณให้เงียบก่อนขณะที่ยืนอยู่ตรงระเบียงห้องแล้วก้มลงมองดูด้านล่าง แสงไฟนีออนสาดส่องให้เห็นทั่วบริเวณที่ยังคงเงียบสงัด และเด็กหนุ่มก็ไม่เห็นว่าจะมีความผิดปกติอันใดที่จะต้องทำให้คนสนิทของบิดามีท่าทีตื่นกลัวได้ถึงขนาดนี้

“เราต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดครับคุณหนู เดี๋ยวปีนระเบียงนี่ลงไปที่ชั้นสองนะครับแล้วค่อยไต่ระเบียงที่ชั้นสองไปทางสวนหลังบ้าน” ทิมบอก มองดูหน้านายน้อย หน้าที่ของเขาคือดูแลชีวิตของเด็กผู้ชายวัยสิบห้าคนนี้ ให้รอดพ้นไปจากอันตรายที่ย่างกรายมาเยือนให้ถึงที่สุด

“น้าทิมมันเกิดอะไรขึ้นบอกผมหน่อย...” รัชตะ หรืออีกชื่อหนึ่งคือทอเลเมียส เดชดำรงไพศาล เอ่ยคำถามซ้ำ เขาเริ่มค่อยๆ รับรู้ถึงความผิดปกติได้อย่างชัดเจน

ความเงียบ ความวังเวงเงียบงัน...น่ากลัว

“ไปจากที่นี่ก่อนเถอะครับ...” ทิมยังไม่ยอมตอบอะไร เขาดันตัวเด็กชายให้รีบไต่ราวระเบียงและโหนตัวลงไปยังระเบียงของอีกชั้นด้านล่าง คอยดูลาดเลาไปพลางก่อนจะกระโดดตามลงไป ทั้งคู่ลัดเลาะเดินตามแนวระเบียงห้องจากอีกห้องหนึ่ง ไปยังอีกห้อง จนกระทั่งวนมาถึงด้านหลังของคฤหาสน์ รัชตะมองหน้าลูกน้องบิดาแล้วต้องกลืนน้ำลายเฮือก เมื่อทิมพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าให้กระโดดลงไปยังพื้นล่าง มันสูงมาก ตึกนี้เป็นคฤหาสน์ใหญ่สามชั้นและตรงที่เขายืนมันก็สูงจากระดับพื้นดินหลายเมตรเลยทีเดียว

“กระโดดเลยครับคุณหนูพยายามอย่าเกร็งตัวนะครับ ย่อเข่านิดๆ พอถึงพื้นก็ให้สปริงตัวขึ้นจะช่วยรับแรงกระแทกได้ครับ...เร็วครับ...”

รัชตะไม่มีเวลาคิดนานนักเพราะถูกทิมรุกเร้าอยู่ตลอดเวลาเขารีบทำตามคำสั่งผู้อาวุโสกว่าโดยการกระโดด และสปริงตัวขึ้นเมื่อลงถึงพื้นตามที่ได้รับคำแนะนำ แต่เด็กหนุ่มก็ยังทำได้ไม่ดีพอจังหวะที่ลงถึงพื้นดินและกำลังจะสปริงตัว เขาเกิดเสียหลักและล้มลงเสียก่อน ทิมที่กระโดดตามหลังมาติดๆ รีบคว้าตัวเขาพาวิ่งเข้าไปในสวนรกร้างหลังคฤหาสน์

“คุณหนู...หลบอยู่ในห้องน้ำนี่ก่อนนะครับ...”

“น้าทิมบอกผมได้รึยังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” รัชตะตามเสียงแข็งขณะที่เขาและหนุ่มวัยฉกรรจ์อยู่ในห้องน้ำเก่าคร่ำครึในสวนร้างท้ายคฤหาสน์ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวตึกพอสมควรและไม่ค่อยมีใครได้ย่างกรายเข้ามานักนอกเสียจากพวกแม่บ้านหรือคนสวน “คุณหนูรออยู่ที่นี่นะครับไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามออกไปเด็ดขาดจนกว่าคุณหนูแน่ใจว่าปลอดภัย” “ทำไมครับ...แล้วคุณพ่อคุณแม่ล่ะน้าทิมเล่าให้ผมฟังหน่อยสิว่ามันเกิดอะไรที่บ้านเรา...” คำถามซ้ำๆ เป็นสิบรอบยังไม่ได้รับคำตอบจนน่าหงุดหงิด

“เชื่อผมครับรอผมอยู่ที่นี่....แย่แล้ว...ไม่ทันแล้ว...”

ทิมที่อยู่ในท่าคุกเข่ากำลังบอกให้รัชตะอยู่กับที่ ส่วนตัวเขาก็จะออกไปดูสถานการณ์ข้างนอกอีกครั้งต้องชะงัก เมื่อหันมองลอดผ่านช่องรอยผุผังของผนังไปยังสนามหญ้าหลังตึกที่พวกเขาเพิ่งกระโดดลงมาจากระเบียงเมื่อสักครู่

“คุณพ่อ...คุณแม่...”

“คุณหนูอย่าครับ...อย่าออกไปผมขอร้องให้ผมไหว้ก็ยอมคุณหนูเชื่อผมนะครับ” ทิมรั้งตัวเด็กชายเอาไว้ ใช้มือปิดปากไม่ให้ส่งเสียงดัง

รัชตะพยายามดิ้น แต่ก็สู้แรงของมือขวาของบิดาไม่ได้ ใจเขาสั่นรัวเมื่อมองเห็นผ่านช่องอิฐเห็นว่าทั้งบิดาและมารด ากำลังถูกจับมัดมือไขว้หลังรวมถึงคนอื่นๆ ทั้งแม่บ้าน แม่ครัวคนรับใช้ คนสวน หรือแม้แต่คนขับรถรวมแล้วกว่าสิบชีวิต ดวงตาสีน้ำทะเลด้วยเป็นลูกครึ่งแดงก่ำ อัดเต็มไปด้วยความงุนงงสงสัยและเจ็บปวดกับสิ่งที่ได้เห็น

กลุ่มคนเป็นชายชุดดำประมาณเกือบๆ ยี่สิบคนแต่ละคนมีอาวุธปืนอยู่ในมือ ฉุดกระชากคนในบ้านให้เดินมารวมกัน และผลักให้นั่งลงกับพื้นสนามหญ้า หนึ่งในนั้นที่สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นตัวหัวหน้า ก็คือชายร่างท้วมในชุดสูทสีเทาเข้มยืนดูดบุหรี่ปรายตามองกลุ่มเหยื่อที่ถูกตามมานั่งรวมอยู่ในกลุ่มเดียวกัน แล้วที่เหลือก็แยกย้ายยืนประจำเป็นจุดๆ เพื่อคอยสังเกตการณ์และรับคำสั่งนาย

“คุณหนู...คุณหนูใจต้องเข้มแข็งนะครับเพื่อคุณท่านทั้งสองแล้วก็เพื่อทุกคน ตอนนี้พวกมันยังไม่รู้ว่าคุณหนูกลับมาจากเมืองนอกแล้วก็เลยไม่ได้สนใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคุณหนูก็ต้องอดทนนะครับ” ทิมกัดฟันบอก ดวงตาคมเข้มแดงก่ำด้วยความคับแค้นใจ ภาพที่เพื่อนร่วมงานและเจ้านาย กำลังถูกกลุ่มคนชุดดำดังกล่าวจับมัดแล้วกระชากลากมันบาดลึกไปถึงดวงจิต บอดี้การ์ดซึ่งได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจกลับมาหลบซ่อนตัวขณะที่ทุกคนกำลังอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย มันไม่ใช่วิสัยของเขาแม้แต่น้อย

แต่เมื่อหันมองหน้าทายาทเพียงคนเดียวของนายเหนือหัว เขาก็จำยอมก้มหน้าทำตามคำสั่งสุดท้ายอย่างอดกลั้น ความเจ็บแค้นครั้งนี้จำเป็นต้องมีคนตามสะสาง ทิมปล่อยมือออกจากปากรัชตะ เมื่อเด็กหนุ่มพยักหน้ารับรู้ความตั้งใจ ทิมยังกอดร่างในวัยกำลังโตของนายน้อยไว้แน่น ทั้งคู่กัดฟันข่มอารมณ์เสียใจและความเจ็บปวดไว้สุดฤทธิ์ ด้วยรู้ว่าหากออกไปในตอนนี้คงมีสภาพไม่ได้ต่างจากคนทั้งบ้าน

“จะเซ็นได้รึยังคุณพิภพ...ผมไม่ได้อยากทำอะไรรุนแรงแบบนี้เลยนะ ถ้าคุณให้ความร่วมมือดีๆ ซะตั้งแต่แรก”

ชายร่างท้วมที่กำลังดึงบุหรี่ออกจากปาก พูดด้วยท่าทีสบายๆ ทั้งทิมและรัชตะได้ยินเสียงนั้นเพียงเบาๆ เนื่องจากระยะที่อยู่ห่างกันแถมยังมีพุ่มไม้ขวางกั้นอีกชั้น แต่เขาทั้งสองก็ยังเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ผ่านผนังกำแพงที่ผุพังเป็นช่องโหว่เท่าสองกำปั้น และมองผ่านพุ่มไม้ระย้าอีกที

“มันชื่อวงศ์ศาสตร์ครับคุณหนู...มันเป็นเพื่อนในสังคมธุรกิจของคุณท่าน ครั้งหนึ่งเคยประสบปัญหาขาดทุน คุณท่านก็เคยยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แต่พอมันเห็นว่าบริษัทขนส่งระหว่างประเทศของคุณท่านมีประโยชน์ จะใช้ทำงานผิดกฎหมายก็เลยมาเจรจาต่อรองให้คุณท่านร่วมมือกับมัน คุณท่านไม่ตกลงและโกรธมากที่มันดูถูกท่านโดยการยัดเยียดงานสกปรกให้ท่านทำ มันก็เลยคิดจะกำจัดคุณท่านเพื่อปิดปากไม่ให้เรื่องเลวๆ ของมันรั่วไหล...”

“คุณพ่อ...นี่หมายความว่ามันจะฆ่าคุณพ่อ คุณแม่แล้วก็คนของเราทั้งบ้านเหรอเนี่ย” รัชตะเอ่ยถามร่างใหญ่ที่คุกเข่าข้างเดียวรั้งตัวเขาอยู่ แล้วก็ได้คำตอบเป็นการพยักหน้ารับ ทั้งที่ดวงตาดุจพญาเหยี่ยวนั้นยังมองเหตุการณ์ไม่กะพริบ

“คุณพิภพอย่าดื้อน่า เราก็คนกันเองแท้ๆ ถ้าคุณยอมเซ็นมอบทุกอย่างให้ผม...ผมสัญญาว่าจะปล่อยทุกคนไป...ตกลงไหม แต่ถ้าไม่เซ็น...”

“อ๊าก!!” ปืนที่ใส่กระบอกเก็บเสียงไว้ด้วยในมือของมันลั่นไกทันที ผู้เคราะห์ร้ายเป็นคนสวนในบ้าน ที่อยู่ใกล้ตัวฆาตกรเลือดเย็นที่สุดล้มลงไปนอนกลิ้งตาเหลือกถลนบนพื้นหญ้า ได้สักพักก็แน่นิ่งไป เลือดสดๆ ไหลเจิ่งนองออกมาจากบาดแผลที่หน้าอกซ้าย พาให้คนที่เหลือกลัวตัวสั่นกอดรวมกลุ่มกันแน่น พลางส่งเสียงร้องไห้กระซิกระงม ฟังดูน่าสลดใจเหลือเกิน

“แกไอ้เลว...แกทำแบบนี้กับคนบริสุทธิ์ได้ยังไง” ดวงตาของพิภพแดงก่ำเป็นสีเดียวกับเลือดที่นองพื้น จ้องคนกระทำด้วยความอาฆาต

แต่วงศ์ศาสตร์ซึ่งกำชัยเหนือกว่ากลับแสยะยิ้มราวกับเป็นเรื่องไร้สาระก่อนจะลั่นไกปืนยิงใส่คนลำดับต่อไป มองคนที่แดดิ้นหมดลมหายใจตรงหน้าเป็นผักปลาไร้ค่าก็มิปาน คนแล้วคนเล่า...ชีวิตแล้วชีวิตเล่าที่ต้องจบลง เพียงเพราะความไม่ได้ดั่งใจของคนชั่วช้า

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เฌอรามิล

ข้อมูลเพิ่มเติม
ลำนำรักร้าว

ลำนำรักร้าว

โรแมนติก

5.0

"ไสหัวจากบ้านฉันซะ! แล้วไม่ต้องกลับมาอีกที่นี่ไม่ต้อนรับกาลกิณีที่มีเลือดชั่วๆ อย่างเธอ" "พี่อาร์ม...ปล่อยนะคะพี่อาร์มเป็นบ้าไปแล้วเหรอ นี่มันดึกแล้วจะให้จันทร์เจ้าไปไหนคะ" หล่อนรู้ดีว่าเขาพูดจริงทำจริง ใจดวงน้อยแปลบปลาบหวิวเหมือนจะหลุดลอยไปตามแรงลากดึง อุตส่าห์หลบลี้หนีหน้าไม่ออกไปให้เขาเห็นวายยังถูกตามรังควาญจนได้ และที่สำคัญเขากำลังผลักไสหล่อนออกไปทิ้งข้างถนนหน้าบ้าน "อย่ามาเรียกฉันว่าพี่...ฉันไม่เคยคิดจะนับญาตินับเชื้อกับผู้หญิงกาลกิณีอย่างเธอ อย่าคิดว่ามีคุณแม่ให้ท้ายแล้วจะตีเสมอเป็นเจ้าของบ้านคนนึงได้นะ เพราะต่อไปนี้เธอ! ไม่ต้องเข้ามาเหยียบบ้านฉันอีกแล้ว จะไปไหนก็ไป!!!" ปัง! "ว้าย! พี่อาร์ม!!" ร่างเล็กถูกเหวี่ยงจนกระเด็นติดประตูรั้วที่ยังปิดสนิท แล้วยืนเท้าสะเอวทะมึงถึงจ้องหล่อนราวเป็นสัตว์เดรัจฉานน่ารังเกียจนักหนา "ออกไปซะ...ไม่มีเธอสักคนที่นี่คงสงบสุขมากขึ้น อีกหน่อยฉันจะแต่งงานพาเมียมาอยู่ที่นี่! ฉันไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องเลี้ยงลูกเมียน้อยอย่างเธอไว้เป็นหอกข้างแคร่ทำไม" พรพระจันทร์น้ำตาไหลทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะร้องไห้ หัวอกของหล่อนแน่นจุกกับคำถาถางด่าทอต่างๆ นาๆ ที่เขาสรรหามาพ่นพูด ชายหนุ่มจะรู้บ้างไหมว่าหล่อนก็ไม่ได้อยากเกิดมาเป็นแบบนี้ ถ้าเลือกได้หล่อนคงไม่อยากมีชีวิตอยู่เป็นภาระ เป็นตัวปัญหาของใครหรอก....

นิยามแสงดาว

นิยามแสงดาว

โรแมนติก

5.0

ผมไม่มีเหตุผลว่าทำไมถึงรักคุณ หัวใจสั่งให้รัก ผมก็รัก ...หรัญย์... ____________ ว่ากันว่า...หากหญิงสาวคนใดได้รับช่อดอกไม้เจ้าสาว หรือช่อบูเก้ในงานแต่งจะได้สละโสดเป็นคนต่อไป แต่ไม่เคยมีใครบอกหล่อนเลยว่า ผู้หญิงที่รับช่อบูเก้ของหล่อนได้ จะได้ว่าที่ผัวหล่อนไปด้วย!! ชีวิตต้องพลิกผันในชั่วข้ามคืน เมื่อเจ้าสาวหม้ายขันหมากอย่างณธิดาต้องหอบหิ้วหัวใจอันบอบช้ำอุ้มขวดเหล้าทั้งชุดเจ้าสาวซัดเซพเนจรหนีอดีตคนรักสุดโฉดที่ไม่โสดอย่างปากว่า เพราะมีทั้งเมียทั้งลูกมาเดินร่อนรื่นในงานแต่งที่หล่อนควรเด่นหรูที่สุด แต่กลับถูกแย่งซีนจนชุดแพงหมดแสงออร่า แล้วใครจะทน! ความเมาและบ้าบิ่นทำให้ณธิดาพบชายรูปงามท่ามกลางแสงดาวแสงเดือนและคลื่นทะเล หล่อนจึงบอกเขาว่าเมาจนความจำเสื่อมเพื่อให้เขาเอ็นดูอุปการะ ตั้งใจหันหลังให้รักครั้งเก่าที่น้ำเน่าจนเหม็นเขียว หลบลี้หนีหน้าผู้คนมาซบอกพ่อค้าผู้น่ากินกว่าลูกชิ้นปิ้งที่เขาขาย แต่กลายเป็นว่าหล่อนกลับถูกเขากิน! นัวๆ และตั้งชื่อใหม่ตามสินค้าหน้าร้านให้ว่า ‘ลูกชิ้น’ หรัญย์เป็นผู้ชายใจดี รักหมารักแมวและรักโลก ที่สำคัญ...เขาชอบกินลูกชิ้นเป็นชีวิตจิตใจ

นางรอง The Shadows

นางรอง The Shadows

โรแมนติก

5.0

เนื้อทองเป็นกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ พออายุได้สามขวบพ่อก็พาเข้ามาทำงานที่ไร่ของนายจ้างเก่าซึ่งผันตัวเองจากผู้รับเหมามาทำปลูกผลไม้ปลูกพืชเกตษรส่งออก เด็กสาวถูกเลี้ยงดูโดยผู้ชายตัวโตๆ ก็คือพ่อเพียงลำพัง ได้รับความเมตตาจาก 'นายใหญ่' และ 'นายผู้หญิง' เป็นอย่างดีเพราะเป็นเด็กฉลาด ช่างพูด พออายุได้หกขวบเจ้าของไร่ก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ อัศเวทย์หรือนายแทนลูกชายคนเดียวจึงต้องกลับมาจากเมืองนอกกลางคันทั้งที่ยังเรียนไม่จบเพื่อสานต่อความตั้งใจของบิดามารดา ดูแลไร่แห่งนี้ในฐานะเจ้าของไร่คนใหม่อย่างเต็มตัว เนื้อทองเติบโตมาท่ามกลางสังคมของชาวไร่ชาวสวนที่เป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ หล่อนจึงไม่ใคร่เรียบร้อยนัก กะโหลกแก่นแก้ว แต่ก็มีความอดทนสูงเหมือนพ่อ หล่อนเรียนรู้ทุกอย่างมาจากผู้ให้กำเนิด จนกระทั่งเมื่ออายุได้สิบสองปี พ่อก็พาหล่อนระหกระเหินไปยังถิ่นฐานอื่นอีกครั้ง เนื้อทองไม่อยากจากไร่ ไม่อยากจากทุกคนที่หล่อนรักไปเลย แต่ก็จำใจต้องตามบิดาที่มีเหตุผลส่วนตัวในการจากไปหนนั้น แต่แล้วหกปีต่อมา 'นายแทน' ก็ตามหาตัวหล่อนและพ่อให้กลับมาทำงานในตำแหน่งหัวหน้าคนงานอีกครั้ง ...พ่อก็ยอมเพื่ออนาคตของหล่อน กลับมาคราวนี้อะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนไป นายแทนแต่งงานกับอดีตพยาบาลสาวสวยชื่อพี่หม่อน พี่สาวใจดีที่นิสัยต่างจากนายราวฟ้ากับเหว พี่หม่อน...คือนางฟ้าแสนดีสำหรับเนื้อทอง แต่พี่หม่อนสุขภาพไม่ค่อยดีนายจึงหวงและเป็นห่วงมาก นายรักพี่หม่อน พี่หม่อนก็รักนาย ส่วนเนื้อทอง...เป็นเด็กที่สร้างแต่ความรำคาญหูรำคาญตาให้นายอยู่เสมอจนถูกดุอยู่ร่ำไป แต่ก็ได้พี่หม่อนคอยปกป้องเสมอ การมีพี่หม่อนเป็นช่วงชีวิตที่เนื้อทองรู้สึกมีความสุขที่สุด แต่ความสุขสำหรับหล่อนมันไม่เคยยั่งยืน วันหนึ่งพี่หม่อนก็จากไป...พร้อมๆ กับความเกลียดชังของนายแทนที่มีต่อหล่อนก็ได้ก่อตัวขึ้น เขาพร้อมที่จะทำลายหล่อนเพื่อบรรเทาความคับแค้นในใจอยู่ทุกเวลา... -------------- -------------- “ท้องไส้อยู่ไม่ใช่เหรอ ทำตัวเป็นลิงเป็นค่างให้ดีเถอะ ลูกฉันเป็นอะไรขึ้นมาเธอเดือดร้อนแน่เนื้อทอง” “...” หล่อนอ้าปากค้าง ใจเต้นระส่ำกับคำพูดของแทน เมื่อคืนหล่อนไม่ได้ถามหมอพงศ์ว่ามีใครบ้างที่รู้เรื่องการตั้งครรภ์ของหล่อนบ้าง แต่ตอนนี้คงไม่ต้องหาคำตอบแล้ว เพราะนอกจากแทน...ก็ไม่มีใครน่ากังวลอีก หรือจะมีก็คงเป็นพ่อของหล่อน ซึ่งเนื้อทองยังไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดีเมื่อพ่อกลับมา “ถ้ารอดจากกระท่อมร้างท้ายสวนนั้นมาได้...ก็คงไม่เป็นไรแล้วล่ะค่ะ” แม้จะเป็นประโยคสั้นๆ แต่มันก็แฝงไว้ด้วยความขมขื่นมากมาย ตลอดสามเดือนที่หล่อนต้องอดทนอยู่ที่นั่น มันเหมือนกับโลกอีกโลกหนึ่งที่ถูกตัดขาดจากทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนหล่อนไม่ใช่คน... “...” แทนมองด้วยสายตาไม่พอใจนัก แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร “อีกอย่างนะคะนาย ลูกเป็นของเนื้อทองคนเดียวค่ะ” พูดจบหล่อนหันหลังให้เขาแล้วเดินออกจากไป แต่แทนก็คว้าต้นแขนรั้งเอาไว้เสียก่อน “ถึงจะไม่ได้นอนกับเธอแบบนับไม่ถ้วน แต่ฉันก็มั่นใจว่าที่ลูกไปอยู่ในท้องเธอได้เพราะฉันทำ และฉันไม่ใช่คนไร้ความรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นอย่าแม้แต่คิดทำอะไรโง่ๆ เพราะฉันไม่ยอมแน่”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

โรแมนติก

4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า “ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?” เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า “ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว...” ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา “เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?”

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

โรแมนติก

5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

กุหลาบในเปลวไฟ

กุหลาบในเปลวไฟ

โรแมนติก

5.0

หลังจากแต่งงานมาสามปี ฮั่วเป่ยอวี๋ไม่เพียงแต่เย็นชากับเสิ่นเจียงหนานเท่านั้น แต่ยังคบชู้ ทำให้เสิ่นเจียงหนานผิดหวังมาก เขาก็แค่ชายเจ้าชู้นี่เอง หลังจากหย่ากันอย่างเด็ดขาด เธอก็มุ่งหน้าไปทำงาน ในฐานะนักออกแบบชั้นนำ แพทย์ผู้อัศจรรย์ และแฮ็กเกอร์เก่งๆ เธอเชี่ยวชาญหลายๆ ด้านและกลายเป็นเจ้าหญิงที่ทุกคนชื่นชมและเป็นที่ต้องการ ในที่สุด ฮั่วเป่ยอวี๋ก็ตระหนักถึงสิ่งที่เขาสูญเสียไปและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะใจเธอ แต่เขากลับเห็นเธอจัดงานแต่งงานแห่งศตวรรษร่วมกับชายอีกคน เมื่องานแต่งงานของคนสองคนถูกถ่ายทอดสดบนป้ายโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก-- เผ๋ยเหยียนหลี่สวมแหวนให้เธอ และประกาศให้โลกได้รับรู้อย่างท่วมท้น "เสิ่นเจียงหนานเป็นภรรยาของผมและเธอเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับผม ใครกล้ามาแตะต้อง ต้องเจดีแน่!"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ