5.0
ความคิดเห็น
544
ชม
10
บท

เนื้อทองเป็นกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ พออายุได้สามขวบพ่อก็พาเข้ามาทำงานที่ไร่ของนายจ้างเก่าซึ่งผันตัวเองจากผู้รับเหมามาทำปลูกผลไม้ปลูกพืชเกตษรส่งออก เด็กสาวถูกเลี้ยงดูโดยผู้ชายตัวโตๆ ก็คือพ่อเพียงลำพัง ได้รับความเมตตาจาก 'นายใหญ่' และ 'นายผู้หญิง' เป็นอย่างดีเพราะเป็นเด็กฉลาด ช่างพูด พออายุได้หกขวบเจ้าของไร่ก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ อัศเวทย์หรือนายแทนลูกชายคนเดียวจึงต้องกลับมาจากเมืองนอกกลางคันทั้งที่ยังเรียนไม่จบเพื่อสานต่อความตั้งใจของบิดามารดา ดูแลไร่แห่งนี้ในฐานะเจ้าของไร่คนใหม่อย่างเต็มตัว เนื้อทองเติบโตมาท่ามกลางสังคมของชาวไร่ชาวสวนที่เป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ หล่อนจึงไม่ใคร่เรียบร้อยนัก กะโหลกแก่นแก้ว แต่ก็มีความอดทนสูงเหมือนพ่อ หล่อนเรียนรู้ทุกอย่างมาจากผู้ให้กำเนิด จนกระทั่งเมื่ออายุได้สิบสองปี พ่อก็พาหล่อนระหกระเหินไปยังถิ่นฐานอื่นอีกครั้ง เนื้อทองไม่อยากจากไร่ ไม่อยากจากทุกคนที่หล่อนรักไปเลย แต่ก็จำใจต้องตามบิดาที่มีเหตุผลส่วนตัวในการจากไปหนนั้น แต่แล้วหกปีต่อมา 'นายแทน' ก็ตามหาตัวหล่อนและพ่อให้กลับมาทำงานในตำแหน่งหัวหน้าคนงานอีกครั้ง ...พ่อก็ยอมเพื่ออนาคตของหล่อน กลับมาคราวนี้อะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนไป นายแทนแต่งงานกับอดีตพยาบาลสาวสวยชื่อพี่หม่อน พี่สาวใจดีที่นิสัยต่างจากนายราวฟ้ากับเหว พี่หม่อน...คือนางฟ้าแสนดีสำหรับเนื้อทอง แต่พี่หม่อนสุขภาพไม่ค่อยดีนายจึงหวงและเป็นห่วงมาก นายรักพี่หม่อน พี่หม่อนก็รักนาย ส่วนเนื้อทอง...เป็นเด็กที่สร้างแต่ความรำคาญหูรำคาญตาให้นายอยู่เสมอจนถูกดุอยู่ร่ำไป แต่ก็ได้พี่หม่อนคอยปกป้องเสมอ การมีพี่หม่อนเป็นช่วงชีวิตที่เนื้อทองรู้สึกมีความสุขที่สุด แต่ความสุขสำหรับหล่อนมันไม่เคยยั่งยืน วันหนึ่งพี่หม่อนก็จากไป...พร้อมๆ กับความเกลียดชังของนายแทนที่มีต่อหล่อนก็ได้ก่อตัวขึ้น เขาพร้อมที่จะทำลายหล่อนเพื่อบรรเทาความคับแค้นในใจอยู่ทุกเวลา... -------------- -------------- “ท้องไส้อยู่ไม่ใช่เหรอ ทำตัวเป็นลิงเป็นค่างให้ดีเถอะ ลูกฉันเป็นอะไรขึ้นมาเธอเดือดร้อนแน่เนื้อทอง” “...” หล่อนอ้าปากค้าง ใจเต้นระส่ำกับคำพูดของแทน เมื่อคืนหล่อนไม่ได้ถามหมอพงศ์ว่ามีใครบ้างที่รู้เรื่องการตั้งครรภ์ของหล่อนบ้าง แต่ตอนนี้คงไม่ต้องหาคำตอบแล้ว เพราะนอกจากแทน...ก็ไม่มีใครน่ากังวลอีก หรือจะมีก็คงเป็นพ่อของหล่อน ซึ่งเนื้อทองยังไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดีเมื่อพ่อกลับมา “ถ้ารอดจากกระท่อมร้างท้ายสวนนั้นมาได้...ก็คงไม่เป็นไรแล้วล่ะค่ะ” แม้จะเป็นประโยคสั้นๆ แต่มันก็แฝงไว้ด้วยความขมขื่นมากมาย ตลอดสามเดือนที่หล่อนต้องอดทนอยู่ที่นั่น มันเหมือนกับโลกอีกโลกหนึ่งที่ถูกตัดขาดจากทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนหล่อนไม่ใช่คน... “...” แทนมองด้วยสายตาไม่พอใจนัก แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร “อีกอย่างนะคะนาย ลูกเป็นของเนื้อทองคนเดียวค่ะ” พูดจบหล่อนหันหลังให้เขาแล้วเดินออกจากไป แต่แทนก็คว้าต้นแขนรั้งเอาไว้เสียก่อน “ถึงจะไม่ได้นอนกับเธอแบบนับไม่ถ้วน แต่ฉันก็มั่นใจว่าที่ลูกไปอยู่ในท้องเธอได้เพราะฉันทำ และฉันไม่ใช่คนไร้ความรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นอย่าแม้แต่คิดทำอะไรโง่ๆ เพราะฉันไม่ยอมแน่”

บทที่ 1 ตอนที่ 1

“ไปทางนั้นเร็ว! พวกมันอยู่ตรงนั้น!” เสียงทุ้มตะโกนก้องเพื่อบอกกล่าวแก่คนอื่นๆ ที่กำลังตามหลังมาในขณะที่ตัวเขาเองนั่งอยู่บนหลังม้าตัวใหญ่ แล้วเร่งควบด้วยความรีบร้อน

เสียงฝีเท้าของม้า...เสียงตะโกนดังโหวกเหวกไปทั่วทั้งผืนไร่ตรงส่วนที่ปลูกแก้วมังกร กลุ่มคนสองกลุ่มกำลังไล่ล่าห้ำหั่นกันอย่างไม่ยอมลดละ ในช่วงเวลาโพล้เพล้เต็มทีของวันหนึ่งในฤดูร้อน

ชายฉกรรจ์สี่ห้าคนใช้รถกระบะในการบุกรุกที่ดินเพื่อก่อเหตุร้าย และกำลังหนีสุดชีวิตให้พ้นจากอาณาเขตของ อัศเวทย์ หรือแทน...ชายหนุ่มเจ้าของไร่ที่ไหวตัวทัน และยกกำลังพลตามหลังมาติดๆ เครื่องยนต์จากกลไกที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่ได้ช่วยให้ผู้บุกรุก ขับเคลื่อนไปได้เร็วกว่าสัตว์พาหนะอย่างม้าที่กำลังโตเต็มไวได้ บวกกับพื้นที่ซึ่งผู้เป็นเจ้าของย่อมจะได้เปรียบเหนือกว่า

“คุณแทน! ผมไม่เห็นเนื้อทองแล้ว ลูกสาวผมหายไปไหน!” ม้าหนุ่มตัวสีขาวมีคนงานวัยกลางคนควบตีคู่ขึ้นมา แล้วตะโกนถามผู้เป็นนายด้วยความกังวล

“คงอยู่ในรถ...พี่ปราชพาลูกน้องสักสองสามคนไปอีกทาง ดักหน้าพวกมันไว้จะง่ายกว่า นี่ก็ใกล้มืดเต็มที ขืนปล่อยให้พวกมันหนีพ้นเขตเราได้จะยุ่งกันไปใหญ่” ชายหนุ่มร่างสูงกำยำภายใต้เสื้อผ้าชุดทำงานบอกกับหัวหน้าคนงาน แล้วใช้แส้ตีม้าของตน เพื่อให้มันเร่งฝีเท้านำหน้าห่างทุกคนไปด้วยความรวดเร็ว “ไอ้ก้อง! ไอ้เกริก! ไอ้ชัยตามกูมา!” ปราชหรือณปราชหันไปเรียกลูกน้องที่เหลือแล้วควบม้าเปลี่ยนเส้นทาง ลัดเลาะไปตามร่องสวนแก้วมังกรที่ขยายกิ่งก้านพันรอบเสาหลักยึดให้ต้นไม้ได้เกาะเกี่ยว หัวใจของผู้เป็นพ่อร้อนรุ่มยิ่งกว่าถูกสุมไฟ เมื่อลูกสาวคนเดียวถูกโจรที่เข้ามาขโมยของจับไปเป็นตัวประกัน

“เนื้อทองลูกพ่อ...อย่าเป็นอะไรนะลูก”

แรงกระแทกในยามรถแล่นไปด้วยความเร็วสูงทำให้ร่างเล็กถูกเหวี่ยงโคลงเคลง หล่อนรู้สึกปวดหนึบตรงขมับและเคลื่อนเหียนเต็มที แต่เด็กหญิงก็จำต้องอดทนไม่โวยวาย เพราะความกลัวสุดหัวใจ สองมือเล็กถูกมัดรวบไว้ด้านหน้าด้วยเชือกนอนงอตัวอยู่ตรงเบาะหลังโดยมีผู้ชายร่างใหญ่นั่งคุมเชิงอยู่ อีกคนที่นั่งเบาะหน้าข้างๆ คนขับ แต่ข้างหลังกระบะยังมีอีกสี่ห้าคนด้วยกัน

“นั่งนิ่งๆ สิวะเดี๋ยวกูจับโยนลงจากรถซะนี่” เสียงของชายร่างใหญ่ข้างๆ ขู่ เด็กน้อยวัยแปดขวบ ที่ขดตัวงอหลังติดเบาะอยู่ตรงมุมน้ำตาไหลเป็นทาง หล่อนไม่กล้ามองหน้าเจ้าของน้ำเสียงอันโหดเหี้ยมนั้นเท่าไหร่นัก

“ใกล้จะพ้นเขตไร่ไอ้แทนแล้ว...อีหนูนี่ถือว่าเป็นของแถมก็แล้วกัน” คนขับหัวเราะร่วน พลางเอียงหน้าใช้หางตามองหล่อนด้วยความกักขฬะ ตัวประกันสั่นงก...ความรู้สึกของหล่อนคงเกินกว่าคำว่าหวาดกลัวไปหลายขุม

“เอาจริงๆ กูก็ไม่อยากโยนมันลงไปตายบนถนนหรอกว่ะ...มึงดูสิโตมาท่าจะสวย เอาไปขายชายแดนน่าจะได้หลายบาท“

“...” น้ำเสียงสองพวกมัน แววตากักขฬะ ยิ่งทำให้เด็กสาวตัวสั่นด้วยความกลัวตั้งแต่แรกพบตัวหล่อนแล้วจับมา พวกโจรถ่อยไม่มีความรู้สึกเมตตาอาทรดั่งเช่นที่ปุถุชนควรมีแม้แต่น้อย พวกเขาเหมือนกับสัตว์ที่ไร้ซึ่งจิตสำนึก หากพ้นอาณาเขตนี้ไปและไม่มีใครตามมาทัน เท่ากับว่าหล่อนอาจไม่รอดเงื้อมมือมัจจุราชต่ำช้าเหล่านี้ได้เลย...

“พี่! ข้างหน้า!!” เสียงตะโกนของชายที่นั่งอยู่คุมตัวเนื้อทองดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงห้ามล้อซึ่งเกิดจากคนขับเหยียบเบรกเต็มแรงอย่างกะทันหัน ล้อรถลากไปกับพื้นดินจนตัวรถเหวี่ยงอย่างเสียหลักแล้วก็จอดนิ่งชะงัก

ดวงตาว้าวุ่นของเด็กสาวสำรวจมองเลิ่กลั่กใจจดใจจ่อแม้จะมองออกไปด้านนอกไม่ได้ก็ตาม

“ลูกพี่! ไอ้ปราชไอ้หมานายมันตามพวกเรามา”

“ทำไงดีวะ...มีปืนด้วยแม่ง”

“มันไม่กล้าทำอะไรเราหรอก มีเด็กนี่อยู่ทั้งคนอย่างมากก็แค่ขู่”

เนื้อทองกลอกตามองพลางฟังการสนทนาของทั้งสามคนเงียบๆ หล่อนมองไม่เห็นอะไรเพราะนอนราบอยู่บนเบาะ ที่แน่ๆ ได้รู้แล้วว่าบุคคลที่ถูกพูดถึงอยู่นั้นคือใคร จากความหวาดกลัวอย่างสุดแสน บัดนี้กำลังใจของหล่อนได้ฟื้นกลับคืนมาอีกครั้งแล้ว

“มัน...มันล้อมเราไว้หมดแล้ว”

“พวกมึงออกมาจากรถ! เร็วๆ เข้า!” เสียงตะโกนดังมาจากด้านนอก

“พ่อ...” เนื้อทองอุทานแผ่วเบา ไม่อยากให้พวกมันรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของตนกับบิดาในยามนี้เพราะอาจจะยิ่งทำให้หล่อนไม่ปลอดภัย หากพวกโจรระแคะระคายว่าหล่อนไม่ใช่ลูกชาวบ้านในไร่ธรรมดา แต่เป็นลูกของคนคุมไร่ที่กำลังตะโกนขู่พวกเขาปาวๆ หล่อนอาจกลายเป็นตัวต่อรองที่มีความสำคัญมากขึ้น

“...” ไอ้คนขับยอมเปิดประตูรถ แล้วยกมือขึ้นเหนือศีรษะ เป็นครั้งแรกที่เนื้อทองได้มองเห็นด้านนอกผ่านหน้าต่างรถที่เปิดอ้าแล้วร่างของคนขับก็ค่อยๆ แทรกตัวลงไป ชายฉกรรจ์ที่นั่งเบาะข้างคนขับ ลนลานเปิดประตูฝั่งตนตามลงไปด้วยความจำยอมท่ามกลางคนงานในไร่ที่ล้อมอยู่รอบๆ ตัวรถพร้อมอาวุธในมือ “เด็กอยู่ไหน!!”ณปราชตะโกนถามทั้งที่แน่ใจว่าบุตรสาวนั้นคงยังถูกควบคุมตัวอยู่ในรถ “ยุ...อยู่ข้างใน...”

“ไอ้เกริกมึงเปิดประตูรถ”

“ครับพี่ปราช” คนงานชายที่ณปราชสั่งลดปืนยาวในมือลงแล้วจ้ำอ้าวไปเปิดประตูรถด้านหลังทันที คนอื่นๆ ควบคุมเหล่าโจรทั้งหมดเอาไว้แล้วพามานั่งรวมๆ กันและยึดอาวุธทั้งหมดออกจากตัว

“โอ๊ย!!” เกริกส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บพร้อมกับร่างที่กระเด็นหงายหลังลงพื้น ทุกคนหันมอง แล้วเสียงปืนก็ดังขึ้น กระสุนพุ่งเข้าหาร่างของเกริกทันที เลือดกระฉูดตามแรงวิถีของเพชฌฆาตเหี้ยม

“ไอ้เกริก!” ณปราชตะโกนเรียกลูกน้องที่กำลังร้องโอดโอยด้วยความทรมานจากอาการบาดเจ็บแล้วกระโดดลงจากม้าไปดูทันที รู้สึกตัวเองพลาดอย่างมากที่ไม่รอบคอบไม่สำรวจให้ดีเสียก่อนว่าพรรคพวกของโจรนั้นมีกี่คนกันแน่ คิดเพียงแต่จะจับทรชนให้ได้ และช่วยลูกให้รอดพ้นจากอันตรายเท่านั้น

ส่วนคนงานอื่นๆ ที่รีบจับอาวุธขึ้นเล็งไปยังรถคันเดิมอีกหน เมื่อรับรู้ถึงกลิ่นอายอันตราย

“พวกมึงถอยไป...ไม่งั้นอีเด็กนี่ไม่รอดแน่ กูเอาจริง...” ผู้ร้ายคนที่เหลือลากเนื้อทองลงจากรถพร้อมกับตน ในมือถือปืนจี้ตรงศีรษะเด็กสาวเอาไว้ด้วยความทุลักทุเล พยายามจะขึ้นไปตรงที่นั่งคนขับด้านหน้า เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายมากขึ้นเมื่อเกิดเรื่องไม่คาดหมาย “พ่อจ๋า...” เนื้อทองขยับริมฝีปากที่สั่นระริกเรียกหาบิดาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา สายตาของผู้เป็นพ่อที่จ้องมองมานั้นเต็มไปด้วยความห่วงหาอาวรณ์ สีหน้าเจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

‘อดทนไว้นะเนื้อทอง...’ ณปราชสื่อคำพูดผ่านแววตาที่เพ่งมองบุตรสาวไม่ได้ละวาง

‘เนื้อทองรักพ่อนะ...’ หล่อนพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ แม้จะเป็นเด็กแต่เพราะถูกเลี้ยงมาโดยบิดาตามลำพัง หล่อนจึงเข้มแข็งและเรียนรู้ที่จะตั้งสติได้ดีกว่าเด็กสาวในวัยเดียวกัน

กระนั้น...เด็กก็คือเด็กวันยังค่ำ จะให้เฉลียวฉลาดเอาตัวรอดได้คล่องแคล่วอย่างผู้ใหญ่นั้นคงเป็นไปไม่ได้

“กูบอกให้ถอยไปไง! แล้วห้ามพวกมึงตามมานะ ถ้ากูเห็นใครตามรถมาพวกมึงเตรียมโลงศพไว้ให้อีเด็กนี่แล้วไปรอเก็บซากได้เลย!” ผู้ร้ายตะโกนเกรี้ยวกราด มือที่ถือปืนจ่อขมับเนื้อทองเกร็งจนกล้ามเนื้อปูดนูนเป็นสัน ทุกคนหันมองณปราชรอการตัดสินใจ

หัวหน้าคนงานวัยกลางคนยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ เป็นสัญญาณให้ทุกคนถอยออกห่างบริเวณนั้น เนื้อทองจึงถูกผลักดันเข้าไปในรถแล้วโจรร้ายก็ขึ้นประจำที่นั่งคนขับ ปิดประตูสตาร์ทเครื่องยนต์ทันทีไม่รีรอที่จะเอาตัวรอดแม้ว่าเพื่อนร่วมก่อการที่เหลือจะยังถูกควบคุมตัวอยู่ก็ตาม เพราะหากยังห่วงช่วยคนอื่นๆ พวกคนงานอาจตามมาสมทบมากขึ้น คราวนี้คงไม่รอดกันทั้งหมดแม้แต่ตัวเอง

“พี่ปราชเอายังไงดีเนื้อทองถูกจับไปเป็นตัวประกันแล้ว” หนึ่งในคนงานเอ่ยถามด้วยความร้อนรนเนื่องจากสนิทคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ด้วยความผูกพันจึงต่างก็เป็นห่วงเด็กสาวกันไม่น้อยไปกว่าผู้เป็นพ่อเลย

“คุณแทนมาพอดี...เริ่มมืดแล้วด้วยเราคงต้องแจ้งตำรวจให้ช่วย” ณปราชเอ่ยขึ้นในขณะที่สายตาละจากความเสียใจเศร้าโศกมองไปยังเส้นทางที่ม้าตัวใหญ่ควบเข้ามา โดยมีนายเหนือหัวของไร่เป็นผู้ควบคุม พร้อมกับเหล่าลูกน้องอีกสองสามคน

“เป็นอย่างไรบ้างเมื่อกี้ผ่านมาพวกคนงานถูกทำร้ายบาดเจ็บหลายคน...” ชายหนุ่มร่างใหญ่บนหลังม้าเอ่ยถามณปราช พร้อมกับเล่าถึงเหตุผลที่ตนเองมาช้าให้ฟังเป็นนัยๆ

“ผมพลาดครับคุณแทน ไม่ทันระวังตัวรอดไปได้คนหนึ่ง มันพาเนื้อทองไปเป็นตัวประกันด้วยแล้วขู่ไม่ให้พวกเราตามไปไม่อย่างนั้นมันจะฆ่าเนื้อทอง”

“เลวเอ้ย...ยะ! จัดการทางนี้ด้วย รอตำรวจอยู่ทางนี้ ตำรวจกำลังมาพี่ปราชไปกับผม” เสียงทุ้มห้าวสั่งการครอบคลุมแล้วเตะสีข้างให้ม้าเคลื่อนไหวอีกครั้ง แต่เลี้ยวลัดเลาะไปยังทางร่องของแก้วมังกร ณปราชกระโดดขึ้นหลังม้าของตนเอง แล้วควบวิ่งติดตามกันไป ส่วนผู้ร้ายที่เหลือก็ถูกเหล่าคนงานล้อมควบคุมตัวเอาไว้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจัดการนำไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เฌอรามิล

ข้อมูลเพิ่มเติม
ลำนำรักร้าว

ลำนำรักร้าว

โรแมนติก

5.0

"ไสหัวจากบ้านฉันซะ! แล้วไม่ต้องกลับมาอีกที่นี่ไม่ต้อนรับกาลกิณีที่มีเลือดชั่วๆ อย่างเธอ" "พี่อาร์ม...ปล่อยนะคะพี่อาร์มเป็นบ้าไปแล้วเหรอ นี่มันดึกแล้วจะให้จันทร์เจ้าไปไหนคะ" หล่อนรู้ดีว่าเขาพูดจริงทำจริง ใจดวงน้อยแปลบปลาบหวิวเหมือนจะหลุดลอยไปตามแรงลากดึง อุตส่าห์หลบลี้หนีหน้าไม่ออกไปให้เขาเห็นวายยังถูกตามรังควาญจนได้ และที่สำคัญเขากำลังผลักไสหล่อนออกไปทิ้งข้างถนนหน้าบ้าน "อย่ามาเรียกฉันว่าพี่...ฉันไม่เคยคิดจะนับญาตินับเชื้อกับผู้หญิงกาลกิณีอย่างเธอ อย่าคิดว่ามีคุณแม่ให้ท้ายแล้วจะตีเสมอเป็นเจ้าของบ้านคนนึงได้นะ เพราะต่อไปนี้เธอ! ไม่ต้องเข้ามาเหยียบบ้านฉันอีกแล้ว จะไปไหนก็ไป!!!" ปัง! "ว้าย! พี่อาร์ม!!" ร่างเล็กถูกเหวี่ยงจนกระเด็นติดประตูรั้วที่ยังปิดสนิท แล้วยืนเท้าสะเอวทะมึงถึงจ้องหล่อนราวเป็นสัตว์เดรัจฉานน่ารังเกียจนักหนา "ออกไปซะ...ไม่มีเธอสักคนที่นี่คงสงบสุขมากขึ้น อีกหน่อยฉันจะแต่งงานพาเมียมาอยู่ที่นี่! ฉันไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องเลี้ยงลูกเมียน้อยอย่างเธอไว้เป็นหอกข้างแคร่ทำไม" พรพระจันทร์น้ำตาไหลทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะร้องไห้ หัวอกของหล่อนแน่นจุกกับคำถาถางด่าทอต่างๆ นาๆ ที่เขาสรรหามาพ่นพูด ชายหนุ่มจะรู้บ้างไหมว่าหล่อนก็ไม่ได้อยากเกิดมาเป็นแบบนี้ ถ้าเลือกได้หล่อนคงไม่อยากมีชีวิตอยู่เป็นภาระ เป็นตัวปัญหาของใครหรอก....

นิยามแสงดาว

นิยามแสงดาว

โรแมนติก

5.0

ผมไม่มีเหตุผลว่าทำไมถึงรักคุณ หัวใจสั่งให้รัก ผมก็รัก ...หรัญย์... ____________ ว่ากันว่า...หากหญิงสาวคนใดได้รับช่อดอกไม้เจ้าสาว หรือช่อบูเก้ในงานแต่งจะได้สละโสดเป็นคนต่อไป แต่ไม่เคยมีใครบอกหล่อนเลยว่า ผู้หญิงที่รับช่อบูเก้ของหล่อนได้ จะได้ว่าที่ผัวหล่อนไปด้วย!! ชีวิตต้องพลิกผันในชั่วข้ามคืน เมื่อเจ้าสาวหม้ายขันหมากอย่างณธิดาต้องหอบหิ้วหัวใจอันบอบช้ำอุ้มขวดเหล้าทั้งชุดเจ้าสาวซัดเซพเนจรหนีอดีตคนรักสุดโฉดที่ไม่โสดอย่างปากว่า เพราะมีทั้งเมียทั้งลูกมาเดินร่อนรื่นในงานแต่งที่หล่อนควรเด่นหรูที่สุด แต่กลับถูกแย่งซีนจนชุดแพงหมดแสงออร่า แล้วใครจะทน! ความเมาและบ้าบิ่นทำให้ณธิดาพบชายรูปงามท่ามกลางแสงดาวแสงเดือนและคลื่นทะเล หล่อนจึงบอกเขาว่าเมาจนความจำเสื่อมเพื่อให้เขาเอ็นดูอุปการะ ตั้งใจหันหลังให้รักครั้งเก่าที่น้ำเน่าจนเหม็นเขียว หลบลี้หนีหน้าผู้คนมาซบอกพ่อค้าผู้น่ากินกว่าลูกชิ้นปิ้งที่เขาขาย แต่กลายเป็นว่าหล่อนกลับถูกเขากิน! นัวๆ และตั้งชื่อใหม่ตามสินค้าหน้าร้านให้ว่า ‘ลูกชิ้น’ หรัญย์เป็นผู้ชายใจดี รักหมารักแมวและรักโลก ที่สำคัญ...เขาชอบกินลูกชิ้นเป็นชีวิตจิตใจ

ทาสรักจอมทมิฬ

ทาสรักจอมทมิฬ

โรแมนติก

5.0

รัก...ไม่มีถูกไม่มีผิด มีแต่รักหรือไม่รัก ความรัก...ไม่ใช่รางวัลของความดี ทำดีหรือไม่ดีไม่ได้มีผลอะไร...เพราะคนไม่รักก็คือไม่รัก ------------- คุณเชื่อในเรื่อง ‘รักแท้’ ไหม เคยคิดหรือเปล่าว่าจะมีใครสะกดหัวใจของคุณไว้ แค่เพียงครั้งแรกที่เจอในช่วงเวลาสั้นๆ และหวั่นไหวทุกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องราวประทับใจเหล่านั้น แต่เขาไม่เคยจำ... ผ่านไปเนิ่นนาน... ในวันหนึ่งเมื่อฝันของคุณเป็นจริงขึ้นมา คุณได้อยู่เคียงข้างเขา ได้เป็นของเขา... คุณกลับพบว่าไม่มีอะไรเหมือนอย่างที่วาดฝันเอาไว้เลย ไม่มีเจ้าชาย ไม่มีความดีงามใดๆ ในตัวเขาที่คุณเคยศรัทธา... ทุกๆ วันมีแต่ความเลวร้ายที่คอยบั่นทอนให้จิตใจล่มสลาย ทุกๆ อย่างในตัวคุณไร้ค่าสำหรับเขา คุณไม่เคยได้เป็นคนสำคัญ และไม่มีวันได้เป็น คุณเป็นได้แค่เงาของใครบางคนที่เขาไม่เคยลืม แล้วคุณยังจะรักเขาได้เหมือนเดิมไหม ยังคงคิดว่าเขาคือ ‘รักแท้’ ของคุณหรือเปล่า....

เงาบาปปรารถนา

เงาบาปปรารถนา

โรแมนติก

5.0

บาปใดๆ ไหนเล่า...จะหอมหวานเท่าบาปสวาท ------------------- ปัง!! เพล้ง!! ขวดแก้วนั้นถูกปาเต็มแรงบุรุษไปกระทบกับประตูห้องที่สายตาคมเข้มเขม่นมองเคร่งขรึม เศษแก้วแตกกระจายเกลื่อนพื้น น้ำเมากระเด็นติดทั้งประตู ฝาผนังและพื้นตามแรงอารมณ์กราดเกรี้ยว หากนึกย้อนกลับไปคิดทบทวนดีๆ สัตตบงกชเป็นคนเอาเหล้าเข้ามาให้เขาก่อนจะขอตัวขึ้นไปนอน และเขาก็นั่งดื่มจนดึก...หลังจากนั้นก็ไม่รู้ตัวเลยว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งช่วงเช้า ทั้งที่...การดื่มก็ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา ต่อให้เมาแค่ไหนก็ไม่เคยไร้สติจนเลอะเลือนความทรงจำสูญสิ้น...อย่างเช่นเมื่อคืนที่ผ่านมา สันกรามขบเข้าหากันแน่นจนเกิดเสียงกรอดผ่านไรฟันหันกลับมาเปิดประตูห้องตัวเองแล้วย่างเท้าเข้าไปทันที มือนึงดึงประตูกระแทกปิดไม่เบาแรงนักตามอารมณ์ที่กำลังฉุนเฉียว นี่เขาต้องนอนร่วมบ้านกับผู้หญิงที่เพิ่งทำให้ครอบครัวของเขากับภรรยาแตกหักไม่มีชิ้นดีอย่างนั้นเหรอ ในคืนที่ฝนฟ้ากระหน่ำตกไม่ลืมหูลืมตา เมียรักต้องจากจรหนีไปอยู่ไหนเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้ แต่คนก่อปัญหาร่วมกับเขากลับยังอาศัยอยู่ภายใต้หลังคาบ้านที่เพิ่งถูกสุมไฟจนวายวอด

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

ทางเดินใหม่ของหัวใจ

ทางเดินใหม่ของหัวใจ

Viv Thauer
5.0

เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

ประธานหลี่ พอได้แล้วนะ จะง้อภรรยาก็เข้าคิวก่อน

ประธานหลี่ พอได้แล้วนะ จะง้อภรรยาก็เข้าคิวก่อน

Encore
5.0

แต่งงานซ่อนเงากับหลี่ เจวี๋เฉินมาได้สามปี เจียงวานเคยคิดว่าความรักของเธอจะทำให้หัวใจเขาอุ่นขึ้นได้ แต่สิ่งที่รอเธออยู่ กลับเป็นวันที่จู่ ๆ รักแรกของเขากลับมาจากต่างประเทศ แล้วเขาก็พูดเพียงประโยคเดียวว่า “พวกเราหย่ากันเถอะ” เจียงวานรู้ดีว่าคนที่หลี่ เจวี๋เฉินรักไม่ใช่เธอ เธอจึงกลบเก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้ หยิบกระเป๋าแล้วเดินจากไปอย่างเด็ดขาด หลังหย่า ชีวิตของเจียงหว่านกลับพุ่งแรงราวติดปีก ทั้งงานทั้งโชคลาภหลั่งไหลไม่หยุด กลายเป็นสไตลิสต์ระดับท็อปของโลก ทั้งการงานและความรักล้วนรุ่งโรจน์ ส่วนอดีตสามีผู้มีตำแหน่ง บางคน นั้นวัน ๆ เอาแต่จ้องหน้าจอ คิดทุกวิถีทางว่าจะทำยังไงให้ได้แต่งงานกับเธออีกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเจียงวานตอนยังเด็กกลับมาอีกครั้งหลี่ เจวี๋เฉินถึงกับอยู่เฉยไม่ไหวอีก “วานวาน แต่งงานกันอีกครั้งเถอะนะ ได้โปรด!” เจียงวานเพียงยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ“ไม่มีเวลาหรอก ไปหารักแรกของคุณเถอะ!” หลี่ เจวี๋เฉินควักแหวนออกมา คุกเข่าข้างเดียวแล้วเอ่ยว่า “ฉันไม่มีใครคนอื่นในใจ มีเพียงเธอเท่านั้น เธอคือคนที่ฉันรักมาตลอด ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเธอ!” ตลอดสามปีที่อยู่ด้วยกันทั้งเช้าเย็น ทำให้ทั้งคู่ค่อย ๆ เกิดความรักและผูกพันต่อกัน เธอเข้าใจว่าเขายังรักแฟนเก่าอย่างสุดหัวใจ แต่เขากลับคิดว่าในใจเธอมีใครอีกคนอยู่แล้ว คนดื้อสองคนที่แอบรักกันอยู่ฝ่ายละมุม แต่กลับเข้าใจผิดเพราะมีคนอื่นเข้ามาอยู่รอบตัวจนคิดไปต่าง ๆ นานา ความรักครั้งนี้จะฝ่าหมอกแห่งความเข้าใจผิดไปจนถึงตอนจบที่งดงามได้หรือไม่?

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ