Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สัญญารักซาตานร้าย

สัญญารักซาตานร้าย

รินวรส

5.0
ความคิดเห็น
35.8K
ชม
90
บท

‘ยัยหนูมิ้นท์ ยัยกระต่ายตื่น… ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังยิ้ม ร้องไห้ หรือหัวเราะ เมื่อได้เห็นสร้อยเส้นนี้ เธอจำได้ไหมว่ามันเป็นสร้อยที่เธออยากได้และฉันเคยจะซื้อให้แต่เธอไม่ยอมรับมัน (ที่เธอเคยบอกว่า มันราคาแพงเกินไป มิ้นท์รับไม่ได้) แต่วันนี้มันเป็นของเธอแล้วนะ ได้โปรดเถอะนะมายมิ้นท์ ฉันขอร้อง... ช่วยเก็บมันไว้ได้ไหม หากเธอไม่อยากได้มันแล้ว ก็ช่วยเก็บมันเอาไว้ให้ฉันที รอวันที่ฉันกลับมา เธอคงสงสัยสินะว่า... ฉันกำลังจะไปไหน เวลานี้... ตอนที่เธอกำลังอ่านจดหมายฉบับนี้ ฉันคงกำลังอยู่ที่ไหนสักแห่งบนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่นี้ มินตรา... ฉันขอโทษ ฉันไม่อาจทนลาจากเธอด้วยตัวเองได้ ฉันกลัวว่าฉันจะทำใจไม่ได้หากต้องเอ่ยลาเธอด้วยตัวเอง ตอนนี้ฉันกำลังไปฝรั่งเศส ไปทำหน้าที่หลานชายที่ดีของคุณย่า ฉันหวังเพียงว่า...เธอจะเข้าใจฉัน เวลานี้เธอคงกำลังดีใจสินะ ที่ไม่ต้องคอยอยู่ใกล้รับใช้เจ้านายเจ้าอารมณ์อย่างฉันอีกต่อไป มินตรา...มายมิ้นท์...หนูมิ้นท์ของฉัน รอฉันนะ รอวันที่ฉันกลับมา ฉันสัญญาว่า...ฉันจะกลับมาบอกรักเธอ และฟังคำตอบจากเธอด้วยตัวฉันเอง ว่า...เธอเองก็รักฉัน เหมือนที่ฉันรักเธอ ฉันหวังว่าวันที่ฉันกลับมา...ฉันจะเห็นเธอสวมสร้อยเส้นนี้ไว้แทนคำตอบว่า เธอเองก็รักฉัน ลาก่อน...มายมิ้นท์ หนูมิ้นท์ของฉัน นายน้อยจอมโหดของเธอ (ฉันรู้นะว่าเธอชอบเรียกฉันแบบนี้ ยัยกระต่ายตื่น) ส่วนเบเกอรี่นี่ฉันยกให้เธอ ค่อยๆกินทีละชิ้นนะ อย่างน้อยมันอาจทำให้เธอคิดถึงฉันบ้างเวลาที่เธอกินเบเกอรี่พวกนี้ เพราะว่า แต่ละชิ้นมันเป็นตัวแทนของความคิดถึงที่ฉันมีให้เธอ ...มายมิ้นท์

บทที่ 1 ตอนที่ 1

“ปล่อยมิ้นท์ค่ะ” เสียงหวานออกสั่นนิดๆ เอ่ยราวต้องการออกคำสั่งให้อีกฝ่ายทำตาม แต่ทว่าน้ำเสียงนั้นกลับคล้ายอ้อนวอนร้องขอเสียมากกว่า คนฟังกระตุกยิ้มอย่างเป็นต่อกับท่าทีราวกลัวเขาเสียหนักหนานั้น

“ช่วยบอกเหตุผลดีๆ สักข้อสิมิ้นท์... ว่าทำไมฉันถึงต้องปล่อยเธอ” เสียงทุ้มกร้าวกังวานขึ้นราวต้องการข่มขวัญให้อีกฝ่ายหวาดหวั่น

“นายน้อย!” เสียงหวานที่เอ่ยขานนามนั้นออกสั่นน้อยๆ ยามอุทานด้วยความตื่นตระหนก หญิงสาวไม่รู้จะจัดการกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่นี้อย่างไร ในเมื่อใจหนึ่งเฝ้าถวิลหา แต่ใจหนึ่งกลับสั่งให้ถอยห่างเขา

“เธออยากให้ฉันปล่อยเธอจริงๆหรือมิ้นท์” เจ้าของเสียงนั้นเชยคางมนให้เธอจำต้องแหงนเงยใบหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขาทั้งสองข้างแทบสิ้นเรี่ยวแรงหยัดยืนเมื่อความหวามไหวก่อเกิดขึ้นยามประสานสบกับดวงตาหวานหยดที่จับจ้องมองมา

“มิ้นท์... ” หญิงสาวพยายามสรรหาคำตอบที่ดีที่สุดแต่จนแล้วจนรอดเสียงหวานก็หลุดเอ่ยได้แค่นามของตัวเองเท่านั้นเมื่ออีกฝ่ายยิงคำถามกระชั้นชิดหนักเข้าราวต้องการไล่ต้อนให้เธออับจนหนทางหลบหนี

“บอกฉันสิมิ้นท์... ว่าเธอพูดออกมาจากใจเธอจริงๆ ” เจ้าของเสียงทุ้มกระซิบสั่งอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาโน้มใบหน้าคมต่ำลงจนริมฝีปากแทบชิดติดกัน หญิงสาวพยายามทัดทาน แต่ทว่าก็ได้เพียงแค่ขานนามเท่านั้น

“นายน้อย...อื้อ! ” เสียงหวานถูกกลืนหายไปเมื่อริมฝีปากอวบอิ่มถูกครอบครองอย่างเอาแต่ใจจากเจ้านายหนุ่ม ภาคินใช้ฝ่ามือแข็งแรงบีบบังคับศีรษะทุยได้รูปให้แหงนเงยรับจุมพิตลงทัณฑ์จากเขา ริมฝีปากหยักเคล้าคลึงซึมซับความหอมหวานให้สมกับที่โหยหามานานปี

มินตราพยายามผลักไสร่างหนาให้ออกห่างแต่ทว่ายิ่งดิ้นกลับยิ่งเปิดทางให้เจ้านายหนุ่มประชิดตัวได้ง่ายขึ้น กำปั้นเล็กๆ ที่กระหน่ำทุบแผงอกกว้างค่อยๆคลายลงเมื่อถูกรุกเร้าหนักขึ้น

หญิงสาวเผลอครางผะแผ่วสองแขนโอบรัดต้นคอเจ้านายหนุ่มแน่นเมื่อฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังบางเบาก่อนที่จะหยุดลงตรงเอวคอดแล้วดึงรั้งโอบร่างบางให้แนบชิด

เสียงครางเบาๆ ในลำคอของชายหนุ่มแสดงความพึงพอใจเมื่อแรงต่อต้านของคนในอ้อมกอดหมดสิ้น สองร่างกอดรัดกันแนบแน่นราวกลัวว่าอีกฝ่ายจะหลุดลอยไป

“นายน้อย... ” หญิงสาวพยายามเค้นเสียงเรียกอย่างยากเย็นเมื่อริมฝีปากอิ่มเป็นอิสระ

“หืม... ” ภาคินหยุดชะงักเพียงเสี้ยววินาทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่ออกอาการแหบพร่าของคนในอ้อมกอด

จมูกโด่งจรดลงตรงซอกคอตามติดด้วยริมฝีปากร้อนๆ ร่างบางในอ้อมกอดเกิดอาการสั่นสะท้านขึ้นมาทันที ภาคินเดินหน้าต่ออย่างรวดเร็วเมื่ออารมณ์หนุ่มกระเจิดกระเจิง แขนแข็งแรงโอบกระหวัดช้อนร่างน้อยลอยละลิ่ว สองเท้าก้าวยาวตรงไปยังโซฟามุมห้อง

ชายหนุ่มทิ้งร่างนุ่มนิ่มบนโซฟาด้วยแรงอารมณ์ปรารถนาแต่แฝงด้วยความอ่อนโยน แต่กระนั้นไม่วายสร้างความตระหนกตกใจให้หญิงสาวที่บัดนี้ดวงตากลมโตเบิกกว้างราวกระต่ายน้อยกำลังตื่นตกใจ หญิงสาวขยับจะลุกขึ้นหลีกหนีแต่ไม่ไวเท่าร่างหนาที่ทาบทับตามลงมา

“นายน้อย!” หญิงสาวรีบท้วงเสียงสั่นเมื่อทั้งปากและจมูกของเจ้านายหนุ่มทำท่าจะฝากฝังรอยเสน่หาลงตรงเนินอกอิ่ม ฝ่ามือน้อยๆ ผลักดันใบหน้าคมเข้มไว้ได้ทันท่วงที

ภาคินชะงักงันเมื่อถูกฝ่ามือบางขวางกั้น ชายหนุ่มเงยใบหน้าหล่อเหลาขึ้น ดวงตาคู่คมจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตคู่นั้น คิ้วเข้มยกสูงขึ้นแทนคำถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นแววตาสั่นระริกอย่างหวาดวิตกของคนในอ้อมกอด ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจเก็บกลั้นอารมณ์ปรารถนาที่คุกรุ่นไว้ ทั้งที่แทบระเบิดอยู่รอมร่อ

เจ้านายหนุ่มตัดใจดันตัวออกห่างอย่างขัดใจ ร่างหนาขยับถอยมานั่งอีกด้านหนึ่งของโซฟาหลังจากฉุดดึงร่างน้อยให้ลุกนั่งเรียบร้อย สายตาคมยังคงจับจ้องดวงหน้ากลมมนไม่วางตา ไม่ว่าจะกี่เดือนกี่ปีที่จากลาดวงหน้าจิ้มลิ้มนี้ก็ยังคงตามติดตรึงใจไม่เสื่อมคลาย

มินตราก้มหน้างุดหลบสายตาคมกล้าที่จ้องมองมา หญิงสาวทั้งขัดเขินและอับอายกับสัมผัสร้อนแรงที่เพิ่งยุติลงไม่ถึงนาทีที่ผ่านมา แม้จะเคยใกล้ชิดแต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะแนบแน่นเท่าครั้งนี้มาก่อน หญิงสาวรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้าและลำคอ แผ่นหลังเกิดอาการเย็นวูบวาบ จุมพิตร้อนแรงราวต้องการลงทัณฑ์ให้เธอตระหนักมันช่างต่างกันกับจุมพิตวาบหวามเมื่อคราแรกสิ้นเชิง

สัมผัสแรกที่เคยแนบชิดมันเต็มไปด้วยความโหยหาอิ่มอุ่นความอิ่มเอมหวานซึ้งลึกๆ ในใจ แต่ทว่าสัมผัสครานี้กลับสร้างความตระหนกหวั่นไหว หัวใจดวงน้อยไหวระริกราวกระต่ายน้อยกำลังตกอยู่ในอุ้งบาทราชสีห์ อาการจู่โจมรวดเร็วร้อนแรงอย่างไม่ทันตั้งตัวสร้างความกังวลกึ่งกลัวกึ่งวาบหวาม ยิ่งถูกรุกเร้าหนักเข้าหัวใจสาวแทบกระเจิง หากเธอไม่มีสติพอที่จะยับยั้งมินตราไม่อยากคิดว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นนับจากวินาทีนั้น

“จะไปไหน นั่งลง!” เสียงเข้มกังวานขึ้นเมื่อร่างน้อยขยับลุกขึ้นเตรียมหลีกหนี

ร่างบางสะดุ้งชะงักงันเมื่อถูกออกคำสั่งดุดัน มินตราค่อยๆหย่อนกายลงบนโซฟาตามคำสั่งอย่างว่าง่าย แต่ทว่าขยับห่างออกไปยังโซฟาอีกตัวด้านตรงข้าม ใบหน้างามก้มหลบสายตาคมกล้าที่จ้องมาไม่วางตา สมองอันน้อยนิดเวลานี้พยายามคิดหาวิธีหลีกหนีจากเจ้านายหนุ่ม

“นี่! จะรังเกียจอะไรฉันขนาดนั้นมายมิ้นท์ ขยับมานี่! มานั่งตรงนี้!” ภาคินตบฝ่ามือลงบนโซฟาตรงที่ว่างข้างกายประกอบคำสั่งเมื่อเห็นอาการหวาดผวาของอีกฝ่าย

“มิ้นท์เปล่ารังเกียจนายน้อย แต่ว่า... ” มินตราพยายามอธิบายหน้าตาตื่น

“ไม่มีแต่... หรือจะให้ฉันไปนั่งตรงนั้นแทน”

“มะ...ไม่ต้องค่ะ มิ้นท์ไปนั่งตรงนั้นเองค่ะ” มินตรารีบทำตามอย่างง่ายดายเมื่อเห็นว่าเจ้านายหนุ่มจะทำตามอย่างที่พูดจริง

จะให้เขามานั่งโซฟาตัวเดียวกันนั่นได้ยังไง แค่นั่งคนเดียวก็แทบไม่เหลือพื้นที่แล้ว หากเจ้านายหนุ่มไปนั่งด้วยอีกคน มินตราไม่อยากนึกภาพว่ามันจะแนบชิดแค่ไหน คิดแค่นี้หญิงสาวก็ขนลุกชันไปทั้งร่าง ลำคอแห้งผากกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

“ขยับเข้ามาใกล้ๆซิ” ภาคินออกคำสั่งอีกรอบเมื่อเห็นร่างบางนั่งห่างออกไปเกือบช่วงแขน

สายตาคมจ้องมองอย่างคนเจ้าเล่ห์ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี มินตรา... มายมิ้นท์ของเขาก็ยังว่านอนสอนง่ายไม่เปลี่ยนแปลง ดูเหมือนหญิงสาวจะขาดความสามารถในการควบคุมตัวเองเวลาอยู่ใกล้เขา ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ทำอะไร หญิงสาวก็มักจะออกอาการหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา ยิ่งทำให้เขาอยากแกล้งให้เธอตื่นตระหนกเล่น

แต่ทว่า... ความจริงแล้วเขาแค่อยากอยู่ใกล้ๆ ได้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้ม ดวงตากลมโตที่ฉายแววขี้ตกใจคู่นั้น อาการงกๆเงิ่นๆ ทำอะไรไม่ค่อยถูกเวลาถูกเขาควบคุมออกคำสั่ง แม้กระทั่งรอยยิ้มสดใสที่แสดงอาการดีใจเวลาที่ได้ของถูกใจ เขาชอบความไร้เดียงสาของหญิงสาวที่แสดงออกมาอย่างเปิดเผยไม่เสแสร้ง

ดูเอาเถอะ! นี่ก็ทำท่ากลัวเขาเสียจนตัวสั่น เขาจะทำอย่างไรกับมายมิ้นท์ของเขาดีนะ

“มินตรา” ภาคินเรียกเสียงดุเข้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังไม่ขยับ

“นายน้อย... มิ้นท์” มินตราเงยหน้ามองอย่างตกใจเมื่อสิ้นเสียงเรียกก็พบว่าร่างหนาขยับมานั่งใกล้ชิดติดเธอเสียแล้ว หญิงสาวมองไม่เห็นหนทางหลีกหนี ลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดตรงขมับสร้างความรู้สึกประหลาดล้ำให้ หญิงสาวมากมาย มินตราหลุบสายตาหลบต่ำลงเก็บซ่อนความรู้สึกวาบหวามที่เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

“ตกลงจะเล่นไล่จับกันอีกนานไหม มายมิ้นท์” เจ้าของเสียงทุ้มตวัดสายตาหลุบต่ำลงไปจับจ้องนิ่งนานที่เนินอกอิ่มด้วยสายตาพร่างพราวเต็มไปด้วยไฟเสน่หา

“ฉันจะทำยังไงกับเธอดีนะมินตรา... มายมิ้นท์... กระต่ายน้อยของฉัน ช่วยบอกหน่อยสิว่าฉันต้องทำยังไง” ภาคินเอ่ยถามราวรำพันอยู่กับตัวเอง

ปลายนิ้วแข็งแรงเชยคางมนให้หญิงสาวแหงนเงยใบหน้าจิ้มลิ้มขึ้นสบตาเขา ชายหนุ่มจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่งามอย่างค้นคว้า ในดวงตากลมโตคู่นั้นภาคินค้นพบแวววาบหวามวูบไหว ใบหน้าคมค่อยๆโน้มเข้าหาก่อนหยุดลงเมื่อปลายจมูกแทบจรดกัน

“นายน้อย... คือ... ” มินตราพยายามหาเหตุผล แต่ทว่าภาคินกลับยิ่งรุกเร้าถามต่อไม่ยอมให้หญิงสาวได้มีโอกาสหยุดคิด

“เธออยากให้ฉันปล่อยเธอไปจริงๆหรือมิ้นท์”

“มิ้นท์” หญิงสาวพยายามต้านทานอารมณ์หวามไหวที่ก่อตัวขึ้นอีกหน ยามนี้เธอรู้สึกราวมีกองไฟร้อนระอุกำลังปะทุอยู่ในอก แต่ทว่ามันกลับให้ความรู้สึกซาบซ่านวาบหวามมากกว่าที่จะทุกข์ทรมาน

“ช่วยตอบฉันหน่อยสิ เธอสวมสร้อยเส้นนี้ไว้ทำไม ในเมื่อเธออยากให้ฉันไปจากเธอจริงๆ ” ภาคินถามหลังจากที่เลื่อนสายตาคมลงมาตามปลายนิ้วเรียวที่ลากไล้แผ่วเบาจากปลายคางมนระเรื่อยลงมาตามลำคอระหงก่อนหยุดลงตรงสร้อยคอจี้รูปหัวใจที่อยู่เหนือเนินอกอิ่ม

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ รินวรส

ข้อมูลเพิ่มเติม
หมอขาเข็มใหญ่จัง

หมอขาเข็มใหญ่จัง

โรแมนติก

5.0

‘น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ หวังว่าจะไม่น้อยจนเกินไปสำหรับ 'ผู้ชายขายกล้วย’ อย่างคุณ ขอบคุณค่ำคืนดีๆ ที่น่าจดจำ’ ‘เปลวตะวัน’ ฉุนจัดเมื่อตื่นมาในเช้าวันใหม่หลังผ่านค่ำคืนอัน เร่าร้อนกับแม่สาวไวไฟความเร็วเกิน 5G แล้วพบธนบัตรสีเทา ปึกหนึ่ง พร้อมจดหมายน้อยระบุข้อความถึงเขาชัดเจน!! "ห้าหมื่น! กล้าดียังไงมาตีค่าราคาฉันด้วยเศษเงินแค่นี้” คนอย่างเขาเสียเงินไม่ว่า แต่เสียหน้าไม่ได้! หยามกันขนาดนี้ ต่อให้ต้องควานหาจนไกลสุดขอบฟ้า ต้องจ่ายเงินมหาศาล เขาก็จะตามล่าเธอมาลงทัณฑ์ให้ได้ นั่นคือคำประกาศก้องของ ‘หมอเปลวตะวัน’ ผู้แสนหล่อเหลา เบื้องหน้าเขาคือสูตินรีแพทย์ผู้แสนสุภาพและอ่อนโยนในสายตาคนทั่วไป แต่เบื้องลึกเขามีอีกด้าน ตัวตนที่ไม่มีใครคาดคิด เขาแสนร้าย เร่าร้อน และดุดัน! เธออยากมีลูก แต่ไม่อยากมีสามีผูกมัด ‘หนุมโฮสต์’ ทรงเสน่ห์ ในค่ำคืนนั้นจึงตอบโจทย์ 'พราวชมพู' ไม่คิดว่าการตัดสินใจเลือกคำตอบข้อนี้จะนำความยุ่งยากมาให้มากขนาดนี้ เธอตาถั่วหรือสวรรค์ชังความคิดรั่วๆ ของเธอจึงแกล้งสาปส่งให้ดวงตาเธอฝ้าฟางเข้าใจไปว่าเขาคือ ผู้ชายขายกล้วย' ในคำนิยามของเธอที่นัดหมายเอาไว้ ซ้ำร้ายยังส่งเขามาตามรังควานจนหาความสงบสุขไม่ได้ เธออยากได้แค่ลูก ไม่อยากได้ผัว ใครอยากได้แม่ยกให้ฟรีๆเลยเอ้า!

ร้อยเล่ห์พรางใจ

ร้อยเล่ห์พรางใจ

โรแมนติก

5.0

ว่ากันว่า...First impression จะเกิดขึ้นใน 3 วินาทีแรก ถ้าจะทำให้ใครสักคนประทับใจต้องมัดใจเขาให้ได้ใน 3 วินาทีนั้น!! และเขาจะไม่มีวันลืมเลือน... ซ่า... “โอ๊ะ!” เสียงน้ำสาดซัดเข้าใส่ร่างสูง ดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงร้องอย่างตกใจของชายนิรนามเมื่อจู่ๆก็ถูกใครคนหนึ่งกระโจนขึ้นขี่หลังแล้วใช้กระป๋องครอบศีรษะเขา พร้อมเสียงตะโกนโหวกเหวก “นี่แน่ะเจ้าหัวขโมย!” “ท่านรองฯ!!” “ท่านรองฯ อะไรคะพี่ๆ นี่มันโจรโรคจิตชัดๆ เราต้องจับไอ้หมอนี่ส่งตำรวจนะคะ” “ยู้ดดด... หยุดก่อนหนูช่อ นี่ท่านรองฯ ...รองประธานนะไม่ใช่โจรโรคจิต” “ฮะ!” ช่อมาลีผงะถอย มือน้อยปล่อยท่อนแขนกำยำโดยไว คนถูกเรียก ‘ท่านรองฯ’ ยืนทำหน้าถมึงทึง จ้องมองมาด้วยสายตาดุดัน “ตามฉันไปที่ห้อง!” โอ้! เจ้าช่อมาลี ช่างกล้า... แบบนี้ 'ท่านรองฯ' คงประทับใจเจ้ามิรู้ลืม... 555 เรื่องแจ้ง: นิยายเรื่องนี้ช่อมาลีเป็นสาวเชียงใหม่ ธัชชาจึงมีสอดแทรกภาษาพื้นเมืองลงไปตามถิ่นเกิดของนางเอกนะคะ ทั้งนี้ธัชชาไม่ใช่คนทางนั้น ภาษาพูดที่ใส่ลงไป ธัชชาปรึกษาจากเพื่อนซึ่งเป็นคนทางนั้น แต่อาจมีบางประโยคที่ธัชชาเขียนเองแต่ลืมถามเพื่อน หากใครอ่านแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ รีบท้วงมานะคะ จะได้แก้ไขให้ถูกต้อง “ไปกับฉันช่อมาลี ไปเป็นผู้หญิงของภีมวัจน์ ฉันสัญญาว่าเธอจะเป็นผู้หญิงของฉันคนเดียว...ตลอดกาล” “แต่สมภารไม่กินไก่วัดนะคะ” “บังเอิญว่า ฉันไม่ใช่สมภารแล้วเธอก็ไม่ใช่ไก่วัดด้วยสิ” เขาบอกยิ้มๆ ช่อมาลีนิ่งอึ้งจ้องคนตัวโตที่ยามนี้ดวงหน้าคมของเขาโน้มต่ำลง ...ใกล้เข้ามา ...ใกล้เข้ามา ทุกขณะ! “เธอนี่จริงๆเลยนะ ไหนว่าฉันถอดเสื้อแล้วอุจาดตาไง ทำไมตอนนี้ถึงได้กอดแล้วก็ซบอกฉันไม่ยอมปล่อยแบบนี้ล่ะฮึ” ช่อมาลีผงะ! ภีมวัจน์แกล้งคลายวงแขนออกเหมือนจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ และก่อนที่ช่อมาลีจะทันได้ขยับห่างออกไปอีก เขาก็คว้าเอวคอดรั้งร่างเธอเข้ามากอดแล้วจู่โจมจูบเธอไม่ปล่อยให้ตั้งตัว!

พรหมจรรย์แลกรัก

พรหมจรรย์แลกรัก

โรแมนติก

5.0

‘กุลสตรี’ หญิงสาวหน้าตาธรรมดาแต่ดวงตาและทรวดทรงของหล่อนนั้นเซ็กซี่เข้าขั้นขยี้ใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แบบชะงัด แต่เจ้าหล่อนกลับรักษาพรหมจรรย์ไว้ยิ่งชีพจวบจนกระทั่งอายุย่างเข้าสู่วัย 25 ปี เรื่องวุ่นๆก็เกิดขึ้นเพราะการตัดสินใจอย่างไร้สติของหล่อนเอง “กุลรักพี่ธีร์นะคะ รักมานานแล้ว” “พิสูจน์สิ ...ว่าเธอยังเวอร์จิ้น ถ้าใช่! ฉันจะคบกับเธอ แล้วหยุดที่เธอคนเดียว” กุลสตรีหน้าชา สายตาเขาดูหมิ่นดูแคลนหล่อนเหลือใจ หล่อนไม่เคยอับอายอะไรอย่างนี้มาก่อน นี่หล่อนทำอะไรลงไป ความตื่นตระหนกตกใจ ทำให้หล่อนก้าวผิดพลาดไปหมด อะไรที่วาดหวังวางแผนไว้ หล่อนลืมเลือนหมดสิ้น ...ลืมเลือนถึงขั้นไร้สติ เอ่ยวาจาเหมือนคนไร้สมองให้เขาเหยียดหยาม “ว่าไง...กล้าพิสูจน์ไหมล่ะ” นั่นคือคำท้า ...และหล่อนก็ใจกล้าอย่างไร้สติจริงๆ ความรักทำให้คนตาบอดฉันใด ความอยากเอาชนะและอยากครอบครองก็ทำให้คนขาดสติฉันนั้น กุลสตรีเองก็เช่นกัน หล่อนตัดสินใจทันควัน ...หล่อนจะเป็นคนรักของ ‘ธันเดอร์ ธีร์ เทย์เลอร์’ ...และเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายในชีวิตเขา! ฝากนิยายเรื่องแรกของ 'ธีร์ ธัชชา' ด้วยนะคะ คำเตือนก่อนอ่านนิยายเรื่องนี้ คำเตือน 1 นิสัยและความคิดพระเอกอาจจะดูร้ายเข้าขั้นเลวบริสุทธิ์ แต่ก็นะ...ท้ายสุดก็รักนางเอก คำเตือน 2 นิสัยนางเอก คือ ความมุมานะ ลงว่าตั้งใจทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ แต่อีกนัยคือ ความรั้น! เมื่อรักบดบังคนดวงตามืดมิด ความคิดและความรู้สึกก็เหมือนตกอยู่ในห้วงมายา ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า... หลอกตัวเองไปวันๆ คำเตือน 3 'พรหมจรรย์แลกรัก' ไม่มีอยู่จริง เพราะในความเป็นจริง ความรักไม่มีอะไรสามารถนำมาแลกเปลี่ยนได้ รักก็คือรัก ไม่รักก็คือไม่รัก แต่ไม่รักสุดท้ายอาจรักก็ได้ (เครดิต ความเห็นจาก นักอ่านท่านหนึ่งในเด้กดี ขอบคุณค่ะ) คำเตือน 4 นิยายเรื่องนี้นักเขียนจินตนาการขึ้นมาเพื่อความบันเทิงและสอดแทรกมุมมองความคิด หากไม่ถูกจริตท่านใดก้ขออภัย

พระจันทร์ร่ายรัก

พระจันทร์ร่ายรัก

โรแมนติก

5.0

‘พระจันทร์’ นักธุรกิจหนุ่มด้านอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่แห่งภูมิภาคอาเซียน ไม่มีครั้งไหนที่เขาจะต้องเป็นฝ่ายวิ่งตามผู้หญิง แต่สำหรับ ‘พิมพ์อัปสร’ มัคคุเทศก์สาวแสนธรรมดา เธอกลับพยศเสียจนเขาอยากเอาชนะ และเมื่อเธอกล้าใช้หัวใจของเขาเป็นสะพาน ซ้ำอาจหาญทำร้ายจิตใจน้องสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจของเขา เธอจะต้องได้รับโทษทัณฑ์อย่างสาสม!! “ว้าย! นี่คุณจะทำอะไรปล่อยนะ” “กับผมสะดีดสะดิ้ง ทีกับนายทัดเทพคุณกลับยิ้มระรื่นนะพิมพ์” “ปล่อยนะ! บอกให้ปล่อย!” พิมพ์อัปสรณ์ออกคำสั่งด้วยเสียงสั่นสะท้านเพราะรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาจับจิต “ตบผมถึงสองครั้งสองหน คุณคิดว่าผมจะปล่อยคุณง่ายๆ หรือไง” จบคำร่างบางก็ถูกโยนขึ้นเตียงกว้างพร้อมร่างหนาตามติดขึ้นไปทับทาบขึงตรึงจนไม่อาจขยับหนีได้ “กรี๊ดดด... ” “อย่า... ได้โปรด... อย่าทำพิมพ์” เสียงหวานเปลี่ยนมาเป็นร้องขอ เมื่ออีกฝ่ายไม่มีทีท่าหยุดฟังสักนิด พระจันทร์เหยียดยิ้มเมื่อเห็นแววตื่นตระหนกในดวงตาคู่งาม “ผมปล่อยคุณไปก็โง่น่ะสิพิมพ์ ฮึ!”

หัวใจรักซ่อนเร้น

หัวใจรักซ่อนเร้น

โรแมนติก

5.0

ชีวิตของซุปเปอร์สตาร์หนุ่มมีเพียง One night stand เท่านั้น ไม่มีรัก ไม่ผูกพัน ‘คิมฮัน’ ไม่เคยคิดเลยว่ารักแรกพบจะมีอยู่จริง จนกระทั่ง... “ฉันจะมาทำอะไร ยังไงมันก็เรื่องของฉัน” จบคำหญิงสาวก็สะบัดหน้าพรืดหมุนกายขยับจะหลีกหนีกลับเข้าไปในงาน แต่ทว่าเรียวแขนกลมกลึงกลับถูกอีกฝ่ายคว้าไว้เสียก่อน “เอ๊ะ! ปล่อยนะ นายถือดียังไงมาจับแขนฉัน” “แตะนิดแตะหน่อยทำเป็นโวยวาย อยากให้ฉันทำมากกว่านี้ก็บอกมาเถอะน่า ไม่ต้องทำเป็นแกล้งหวงเนื้อหวงตัวหรอก บางทีถ้าเธอบอกมาตรงๆ คืนนี้เราอาจไปสนุกกันต่อก็ได้นะ” เพียะ!! เสียงฝ่ามือกระทบเข้ากับเนื้อข้างแก้มของคิมฮันทันทีที่จบวาจาแสนร้ายกาจนั้น ใบหน้าคมสะบัดตามแรงกระทบ ดาราหนุ่มตกใจไม่น้อย เรียวฟันแข็งแกร่งขบเข้าหากันแน่นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ขุ่นมัว แม้ในใจจะรู้ดีว่านี่คือผลของการใช้วาจาระรานอีกฝ่ายด้วยความคึกคะนอง แต่ทว่าไม่เคยมีใครกระทำกับเขาเยี่ยงนี้มาก่อน ใบหน้าคมสันค่อยๆ หันกลับมา ดวงตาคมวาวโรจน์ราวกับดวงไฟที่ลุกโชนด้วยความโกรธ ร่างบางถูกกระชากเข้าหาอย่างลืมตัว สองแขนถูกรวบไพล่ไปด้านหลังด้วยมือแข็งแรง ศีรษะสวยถูกบังคับให้เงยแหงนขึ้นด้วยมืออีกข้าง ใบหน้าคมโน้มต่ำลงแล้วฉกจูบเธออย่างรวดเร็ว... เธอ... จะทำอย่างไร เมื่ออยู่ๆ ผู้ชายที่ชื่อ ‘คิมฮัน’ ก็เข้ามาวิ่งวุ่นวายอยู่ในใจตลอดเวลา ยิ่งหลบหนีก็ยิ่งชิดใกล้... แม้จะปิดบังซ่อนเร้นหัวใจที่อ่อนไหวไว้ภายใต้ท่าทีเย็นชา แต่ว่า... จะซ่อนเร้นได้ตลอดไปหรือ ในเมื่อยิ่งหลบซ่อน เขาก็ยิ่งค้นหา เธอยิ่งหนี เขาก็ยิ่งรุก!

ต้านรักสัมผัสร้าย

ต้านรักสัมผัสร้าย

โรแมนติก

5.0

‘เตชัส’ หรือ ‘ดาวิเด้ ดิ เฟอร์นันโด’ เครียดขึ้นมาทันทีเพราะ ‘สาวน้อยนัยน์ตากวาง’ ที่เขาต้องตาต้องใจและเกือบเขมือบเจ้าหล่อนคืนนั้นกลายมาเป็น 'น้องสาวต่างมารดา' ของเขา และเพียงเหยียบย่างเข้าสู่อาณาเขต 'คฤหาสน์นราธิบดี' เขาก็พบว่า...นอกจากจะต้องเก็บข่มความรู้สึกในหัวใจของตัวเองเอาไว้แล้ว เขายังต้องรับมือกับความร้ายกาจของใครบางคนที่หวังครอบครองทุกสิ่งอย่างของตระกูล ความลับบางอย่างที่ใครบางคนเก็บซ่อนเอาไว้จะถูกเปิดเผยหรือไม่ เขาและเธอจะก้าวผ่านเรื่องราวบีบคั้นหัวใจนี้ไปได้อย่างไร ประตูแห่งความรักจะถูก 'ปิดตาย' หรือพอจะมีช่องทางใดเป็น 'สะพาน' ให้พวกเขาก้าวข้ามเดิน!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้าอยู่บน ท่านอ๋องอยู่ล่าง

ข้าอยู่บน ท่านอ๋องอยู่ล่าง

ซีไซต์
5.0

เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

เด็กน้อยคว้าฝัน
4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
4.9

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สัญญารักซาตานร้าย
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1

25/02/2022

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2

25/02/2022

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3

25/02/2022

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4

25/02/2022

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5

25/02/2022

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6

25/02/2022

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7

25/02/2022

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8

25/02/2022

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9

25/02/2022

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10

25/02/2022

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11

09/03/2022

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12

09/03/2022

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13

09/03/2022

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14

09/03/2022

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15

09/03/2022

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16

09/03/2022

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17

09/03/2022

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18

09/03/2022

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19

09/03/2022

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20

09/03/2022

21

บทที่ 21 ตอนที่ 21

09/03/2022

22

บทที่ 22 ตอนที่ 22

09/03/2022

23

บทที่ 23 ตอนที่ 23

09/03/2022

24

บทที่ 24 ตอนที่ 24

09/03/2022

25

บทที่ 25 ตอนที่ 25

09/03/2022

26

บทที่ 26 ตอนที่ 26

09/03/2022

27

บทที่ 27 ตอนที่ 27

09/03/2022

28

บทที่ 28 ตอนที่ 28

09/03/2022

29

บทที่ 29 ตอนที่ 29

09/03/2022

30

บทที่ 30 ตอนที่ 30

09/03/2022

31

บทที่ 31 ตอนที่ 31

09/03/2022

32

บทที่ 32 ตอนที่ 32

09/03/2022

33

บทที่ 33 ตอนที่ 33

09/03/2022

34

บทที่ 34 ตอนที่ 34

09/03/2022

35

บทที่ 35 ตอนที่ 35

09/03/2022

36

บทที่ 36 ตอนที่ 36

09/03/2022

37

บทที่ 37 ตอนที่ 37

09/03/2022

38

บทที่ 38 ตอนที่ 38

09/03/2022

39

บทที่ 39 ตอนที่ 39

09/03/2022

40

บทที่ 40 ตอนที่ 40

09/03/2022