ผมเด็กกว่า..แล้วไง? [NC20+] (One Night, Last Kiss)

ผมเด็กกว่า..แล้วไง? [NC20+] (One Night, Last Kiss)

•✿Zwicky✿•

4.3
ความคิดเห็น
4.6K
ชม
10
บท

“ผมทนไม่ไหวแล้วนะ..” ชายหนุ่มตัวสูงก้มหน้าลงไปชิดกับหญิงสาวที่กำลังลืมตาอย่างงัวเงีย เขาไม่ได้อยากทำกับคนที่ไม่มีสติแบบนี้เลย…แต่ใบหน้านั้น..มันช่างเชิญชวนเขาเสียจริง.. "ไอย์ริณ" หญิงสาวที่มีรักเดียวมาโดยตลอด 27 ปี เธอทำตามแบบแผนมาตลอด เมื่อเธออกหักและคิดว่าอยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่าสักครั้ง เธอแค่อยากนอก "กรอบ" สักครั้งในชีวิต... "ไปป์เปอร์" หนุ่มรุ่นพี่สุดฮอตประจำบริษัทที่แอบมองไอย์ริณมาโดยตลอด "นายน์" เด็กหนุ่ม 19 ปี ที่ไอย์ริณเผลอไปมี One night stand ด้วย... จะเป็นคืนเดียว หรือ ความรักตลอดไป กันนะ?? . . .

บทที่ 1 ตอนที่ 1 : ฉันชื่อ "ไอย์ริณ"

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด … ปึก!

เสียงนาฬิกาปลุกในเวลา 6 โมงเช้า ไม่ได้ทำให้หญิงสาวในชุดนอนกระโปรงสีขาวโปร่งลุกลี้ลุกลนหรืองัวเงียสักนิด เธอตื่นเวลานี้ซ้ำๆ เดิมๆ มาเกือบ 4 ปีจนชิน

ชั้นชื่อ “ไอย์ริณ”

ปีนี้ชั้นอายุ 27 ปี ทำงานอยู่ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในตำแหน่งที่น่าเบื่ออย่างนักจัดการงานทั่วไป ตามชื่อตำแหน่งเลยล่ะ… ทำงานทั่วๆ ไปคลอบจักรวาลทั้งแผนกนั่นแหละ… บ่นไปโน่น, แต่ชั้นก็รักงานของชั้นนะ ~

เป็นอีกเช้าที่ไอย์ริณลุกจากเตียงนอนอย่างไม่รีบร้อน ไปเปิดม่านหน้าต่าง มองตึกเมืองใหญ่จากมุมสูงของคอนโด พลางคิดถึงเรื่องราวก่อนหน้าอย่างอดไม่ได้…

1 อาทิตย์ก่อน

ท่ามกลางฝนตกในเดือนมิถุนายน รถสปอร์ตคันสีดำวาวจอดนิ่งข้างฟุตบาทที่มีรถแล่นผ่านไปมา เสียงฝนตกกระทบหลังคารถดังแผ่ว ภายในรถที่เงียบสนิท…

“ผมว่าเราเลิกกันเหอะ”

ไอย์ริณทบทวนซ้ำแล้วซ้ำอีก กับผู้ชายที่นั่งฟากคนขับ คนที่คบกันมา 9 ปี .. เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่คบด้วยมาตั้งแต่มหาลัย..รักครั้งแรก เซ็กส์ครั้งแรก เขาเป็นครั้งแรกในทุกๆ เรื่องของเธอ

“มีคนอื่นแล้วใช่ไหม”

หญิงสาวถามกลับพลางก้มหน้าแต่ไม่มีน้ำตาสักหยด

ลึกๆ ในใจ เธอรู้ดีว่าเราทั้งคู่ออกห่างจากคำว่ารักมาได้หลายปีแล้วด้วยซ้ำ มันเหมือนเพื่อนสนิท คนในครอบครัว คนที่ผูกพัน แต่ไม่ได้รู้สึกร้อนวูบวาบอีกแล้ว

“อืม”

ชายหนุ่มตอบกลับเสียงเรียบ

ไอย์ริณรู้สึกสับสนไปหมด ไม่ได้โกรธ ไม่เสียใจ..แค่รู้สึก…เสียเวลา…

“ฉันขอลงตรงนี้”

ปัง!

หญิงสาวปิดประตูรถแล้วรีบเดินฝ่าสายฝนไปยังจุดรอรถ นั่งมองรถขับผ่าน ฟังเสียงฝนตก พลางคิด…หรือฉันไม่มีความรักหลงเหลืออยู่แล้ว???

.

.

.

หญิงสาวเสยผมยาวสีน้ำตาลอ่อนที่ปกคลุมใบหน้าสีขาวนวล แล้วดึงม่านเปิดอ้ากว้าง รดน้ำบอนไซบนโต๊ะข้างหน้าต่าง แล้วผละไปเข้าห้องน้ำ แต่งตัวไปทำงานทันที

เช้าวันจันทร์ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ ไอย์ริณปั่นจักรยานคู่ใจเข้าออฟฟิศที่อยู่ห่างจากคอนโดของเธอเพียง 2-3 ช่วงตึก เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่มีแบบแผนในหัวอยู่เสมอจนอาจดูน่าเบื่อเกินไปในสายตาผู้ชายหรือเปล่า?

ติ๊ด~

เสียงแสกนบัตรเจ้าหน้าที่หัวหน้าแผนกจัดการงานทั่วไป

“ไอย์ริณ เวลาเข้างาน 07.42 น.”

เธอเดินตรงไปยังโต๊ะประจำตำแหน่ง แขนข้างหนึ่งแขวนกระเป๋าผ้าเก็บแผ่นงานใบใหญ่ แขนอีกข้างหนีบไอแพดคู่กายเอาไว้แล้ววางลงบนโต๊ะเหมือนอย่างเช่นเคยแล้วเดินตรงไปยังเครื่องทำกาแฟหาเอสเปรสโซร้อนดื่มให้สดชื่น

“มาเช้าอีกแล้วนะครับน้องไอย์”

เสียงนุ่มทุ้มจากทางด้านหลัง เดินก้าวเข้ามาด้านหลังไอย์ริณที่ยืนเหม่อๆ รอกาแฟ เพราะเธอไม่คาดคิดว่าจะมีคนมาเข้างานเช้าเหมือนเธอ ซึ่งมีไม่บ่อยนัก…เธอหันกลับไปตอบเจ้าของใบหน้าหล่อผมสีดำจัดทรงอย่างดี

“ค่ะ พี่ไปป์…วันนี้งานเยอะหรือคะ?”

ไอย์ริณทักทายกลับอย่างยิ้มแย้ม พลางคิดว่า 3-4 วันมานี้ รุ่นพี่อย่าง “ไปป์เปอร์” รุ่นพี่หนุ่มต่างแผนกสุดฮอตขวัญใจสาวๆ ในบริษัท เข้ามาทักทายเธอบ่อยเป็นพิเศษ…

เขารู้ว่าชั้นเพิ่งเลิกกับแฟนแล้วอดสงสารไม่ได้เลยต้องมาชวนคุยให้หายเศร้าหรือเปล่านะ?...

ไอย์ริณรู้จักไปป์เปอร์ รุ่นพี่ของเธอมาได้ 4 ปีแล้ว เขาห่างกับเธอแค่ 2 ปี ซึ่งปกติก่อนหน้านี้หล่อนกับเขาแทบไม่เคยคุยกันนอกจากเรื่องงานและทักทายกันตามประสาเพื่อนร่วมงานด้วยซ้ำ…

ชายหนุ่มรีบผละตัวออกทันที ในใจแทบระเบิดคิดอะไรไม่ออก ร้านเบเกอรี่ที่จองโต๊ะไว้คงต้องแคนเซิลไปก่อน พลางนึกย้อนไปว่า หญิงสาวแทบไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าตนแอบมองด้วยสายตาที่ชื่นชม ห่วงใย …หลงรัก สายตาคู่นั้นที่แอบมองเธอมันไม่เหมือนกับสายตาที่มองผู้หญิงคนไหนทั้งแผนก เขามองเธอแบบนั้นมาตลอด 4 ปี …แต่เธอมีเจ้าของที่มัดหัวใจมาถึง 9 ปี ใครจะกล้าล้ำเส้น…และเธอก็ใสซื่อ ไม่มีพิษภัย ไม่รู้ตัวอะไรเลยมาตลอด

“ได้ค่ะ ..ขอบคุณนะคะพี่ไปป์”

ไอย์ริณส่งยิ้มกลับ ชื่นชมในความทำงานเก่งของรุ่นพี่

“อร๊ายยยยย!!~

ชั้นอยากให้พี่ไปป์มาเตือนงานชั้นบ้างอ๊าาาา! ชั้นอยากเงยหน้ามองตาสีน้ำตาลของเค้าชัดๆ บ้าง เผื่อจ้องตากันเกิน 8 วิ แล้วพี่เค้าจะตกหลุมรักชั้น!”

เสียงวี๊ดว๊าย เสียง4เสียง5 ของจีน่าเพื่อนตัวสูงหุ่นนางแบบผมสั้นประต้นคอ ดังเจื้อยแจ้ว จนพลอยชมพูเพื่อนหุ่นเพรียวแสนใจดี ต้องเอามือไปอุดปากจีน่าก่อนคนจะมองกันมากกว่านี้

“เธอมีงานเยอะถึงขนาดต้องให้เขามาเตือนรึไงจีน่า! วันๆ เดินว่างไปเมาท์ทุกแผนกได้ทั้งวันขนาดนี้อ่ะ!”

พลอยชมพูจิกกัดปนขำเบาๆ ให้ความแรดแต่ไม่มีพิษภัยของเพื่อนสนิทตัวเอง

“เธอต้องเปิดใจได้แล้วนะยัยไอย์…ชั้นว่าพี่เค้าอ่อยแกว่ะ แกไม่เอาชั้นเอานะ”

จีน่าพูดพลางจิ้มนิ้วชี้มาที่ตัวเอง

“9 ปีเลยนะจีน่า…ใครมันจะรีเซ็ตความรู้สึกไวขนาดนั้นอ่ะ”

พลอยชมพู พูดถูก…ไอย์ริณไม่อยากเปิดใจอีกต่อไป คบกันไปนานๆ ก็ไม่เหลือความรักแล้วอยู่ดี…จะมีความรักไปทำไมล่ะ? หญิงสาวคิด

“งั้นถ้าแกไม่คบใคร ก็น่าจะออกไปหาอะไรสนุกๆ ทำบ้างอะ จะทำงานกลับห้องวนไปวนมาแบบนี้หรอวะ…ข้างนอกมันมีอะไรสนุกๆ อีกเยอะนะเว้ย ถ้าสนใจรีบบอกเลย ชั้นรู้จักเจ้าของร้านเหล้าแถวนี้เกือบทุกร้าน *-^”

ไอย์ริณกำลังคิดว่าต้องไปบ่อยขนาดไหนถึงจะรู้จักเจ้าของร้านเหล้าได้ทุกร้านกันนะ…เธอขำออกมาเบาๆ

“ฮ่าาา~ บ้าน่ะจีน่า..แยกย้ายทำงานเหอะ”

.

.

.

17.40 น. ไอย์ริณเก็บของพร้อมกับโบกมือลาเพื่อนๆ ในแผนกที่ทยอยกันกลับบ้าน เธอปั่นจักรยานกลับคอนโดตามเคยพลางคิดถึงเรื่องที่จีน่าบอก..ไม่ใช่เรื่องรุ่นพี่ไปป์..แต่เป็นเรื่องการออกไปหาความสนุกข้างนอก…

เธอควรทำแบบนั้นบ้างไหมนะ?..

เธอไม่เคยไปร้านเหล้าหรือไปผับเลยตลอดเวลาที่คบหากับแฟนเก่า เขาและเธอต่างตั้งใจเรียน พากันทำงาน มีเซ็กส์กันบ้างตามปกติ แบบไม่ได้หวือหวาอะไร…

หญิงสาวเปลื้องเสื้อผ้า ยืนมองรูปร่างผอมเพรียว 161 เซนติเมตร 48 กิโลกรัม เธอหุ่นดีตามแบบฉบับดาราผอมเพรียว แต่ไม่เก้งก้าง เธอมีเนินอกสวยได้รูปขนาดพอดีตัว ยอดปทุมถันสีชมพูสวย เนินสวาทที่ผ่านการใช้งานมาแค่คนเดียวนั้นไม่ได้ทำให้เธอด่างพร้อยเลย…เธอห่างหายจากคำว่าเซ็กส์มานานแค่ไหน?...

“ชั้นเหงาจัง” หญิงสาวคิด

ไอย์ริณตัดสินใจตอนเธออาบน้ำแล้วว่า วันนี้เธอจะออกไปหาแสงสี…จะไม่เก็บตัวหรือทำตามแบบแผนที่คิดไว้อีกแล้ว คืนนี้เธอจะไม่ทำตามกรอบของตัวเองอีกต่อไป…

.

.

.

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

หัวใจร่วงโรย

หัวใจร่วงโรย

Evelyn Hart
5.0

ลู่หลีเคยได้รับการช่วยชีวิตจากสามีของเธอ แต่หลังจากเขาสูญเสียความทรงจำ เขากลับลืมเธอเสียสนิท สามปีหลังจากแต่งงาน เพ่ยซือหานถึงกับนอกใจต่อหน้าผู้คน ทำให้เธอรู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก ลู่หลีรู้สึกผิดหวังมาก จากนั้นก็เซ็นเอกสารหย่าทันที ตั้งแต่นั้นมา เธอได้กลับมาเป็นหญิงสาวที่มีอำนาจอีกครั้ง หมอผีที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือเธอ ตำนานนักแข่งรถคือเธอ แฮกเกอร์ระดับโลกคือเธอ และนักออกแบบอัจฉริยะก็เป็นเธอเช่นกัน ต่อมา เพ่ยซือหานไม่เพียงแต่เสียใจจนสุดขีด แต่ยังฟื้นความทรงจำได้อีกด้วย เขาถึงกับบุกเข้าไปในงานแต่งงาน “เสี่ยวหลี ขอร้องเถอะ ให้โอกาสผมอีกครั้ง!” แต่เอวของลู่หลีถูกโอบกอดไว้โดยใครอีกคนหนึ่งที่มีอำนาจ เขาหัวเราะในลำคอว่า “ที่รัก มีคนที่กำลังเล่นกับไฟ”

สะใภ้นอกทำเนียบ + ตอนพิเศษ

สะใภ้นอกทำเนียบ + ตอนพิเศษ

pimchan publication
4.9

เพียงข้ามคืนที่หล่อนต้องสูญเสียพรหมจรรย์เพราะเขาเดินเข้าผิดห้อง จากนั้นแล้วชีวิตหล่อนกับเขาก็ผูกพันกันยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง _________________________________________________________ “ไม่มีใครทำให้ผมกังวลที่สุดเท่าไอ้พีท สายตาที่คุณมองมันวันนั้น แล้วการที่มันโทรหาคุณค่ำๆ มืดๆ มันทำให้ผม...” เฟื่องฟ้าไม่อยากฟังคำตัดพ้อที่เด่นชัดทั้งปากทั้งตานั่นอีก เขายังพูดไม่ทันจบเพราะหล่อนขยับเข้าหาและกดริมฝีปากไว้กับปากของเขา... “ถ้าคุณจะให้ความมั่นใจผม คุณก็ไม่ควรหยุดแค่จูบ การปิดปากผมไห้หยุดพูดไม่ได้ทำให้ผมหายกังวลใจหรอกนะ” “ฉันทำอะไรมากกว่านี้ไม่เป็น คุณก็รู้ นี่ครั้งแรก ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน” “ผมจะสอนเอง ผมอยากให้ผมเป็นผู้รับ ผมจะได้รู้ว่าผมไม่ได้ต้องการอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าผมทำ มันจะทำให้ผมรู้สึกว่าผมฝืนใจคุณ คุณไม่รู้หรือไงว่าเรื่องนี้มันกระทบจิตใจผมแค่ไหน” “แต่...” “ผมเสียขวัญมากเลยนะ คุณจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หรือไง” หล่อนชักเริ่มจะไม่คิดว่าเขากำลังกังวลใจเรื่องหล่อนกับหมอพีท แต่กำลังเจ้าเล่ห์ให้หล่อนทำอะไรที่หล่อนทำไม่เป็นแถมน่าอายสุดๆ อีกด้วย... อยากปฏิเสธแต่แล้วทำไมเขาต้องทำหน้าจริงจังปนเศร้าแบบนั้นด้วย... เฟื่องฟ้ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความรู้สึกซ่านซ่าแปลกๆ กับบางสิ่งที่ดุนดันหน้าท้อง คล้ายมันสั่นระริกเพียงแค่คิดถึงหล่อนก็แก้มแดงเห่อ... “ฉันต้องทำอะไรบ้าง” เสียงพูดและคำถามที่ไม่อยากจะเชื่อว่านั่นคือเสียงหล่อน อาชว์ดูเหมือนอารมณ์ดีขึ้นหากแต่ไม่ยอมยิ้ม เขาตอบหล่อนด้วยสีหน้าจริงจัง “เริ่มจากถอดเสื้อก่อนเป็นไง...” ครางอิดออดนิดเดียวหล่อนก็ยอมทำตามที่เขาบอก มือสั่นเทานิดๆ เมื่อแกะกระดุมเสื้อนอนปาจามาของเขาออกและแก้มเห่อร้อนยามเมื่อแหวกสาบเสื้อออก “ผมหมายถึงถอดเสื้อคุณ” “เอ๊ะ” หญิงสาวทำท่าจะถลึงตาใส่เขา แต่เขาก็ทำหน้านิ่งๆ แล้วก็ต้องถอนหายใจ ไม่รู้ว่าโกรธจริงหรือโกรธเล่นกันแน่ เห็นเขานอนมองหน้าเหมือนรอว่าหล่อนจะทำอะไรหล่อนก็จำต้องถอดผ้าตัวเองมือไม้สั่นไปหมด แกะกระดุมไปพลางเอ็ดตัวเองไปว่าทำไมต้องยอมเขาขนาดนั้นทั้งที่ไม่จำเป็นเลย เพียงแค่เห็นว่าเขาโกรธและเต็มไปด้วยความกังวลใจหล่อนก็ต้องรีบทำให้เขาสบายใจ เขาสำคัญขนาดนั้นกับหล่อนมากหรือไงกัน ถามไปก็ได้คำตอบอยู่ตรงหน้า... เสื้อนอนหล่อนถูกถอดออกด้วยฝีมือตัวเองเพียงเพราะไม่อยากเห็นเขามึนตึงใส่

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

เมียหย่ารัก

เมียหย่ารัก

Gabie Parpia
4.9

เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ