Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ดวงใจจักรภัทร [เจ้านายหนุ่มหล่อ VS ลูกน้องสาวสวย)

ดวงใจจักรภัทร [เจ้านายหนุ่มหล่อ VS ลูกน้องสาวสวย)

สนพ. อิ่มรัก

4.8
ความคิดเห็น
91K
ชม
145
บท

CEO หนุ่มหล่อ น่าล่อ ทายาทอันดับหนึ่งของวงศ์ตระกูลมูลค่านับหมื่นล้าน เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเลือกคู่ชีวิต VS พนักงาน HR นอกจากแสนสวยกับแสนดีแล้วก็ ขาดคุณสมบัติเกือบทุกข้อที่เขาวางไว้ ------------------------------------ ‘จักรภัทร ส่งเสริมสกุลไทย’ CEO หนุ่มหล่อ น่าล่อ ทายาทอันดับหนึ่งของวงศ์ตระกูลมูลค่านับหมื่นล้าน เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเลือกคู่ชีวิต หนุ่มผู้กลายเป็นที่ต้องการของสาวค่อนเมือง เขาจำเป็นต้องเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วนและระมัดระวัง เพื่อกันความผิดพลาดหรือเลิอกคนผิดนั่นเอง คติประจำใจที่เขาและนักธุรกิจหลายต่อหลายคนมีไว้ นั่นคือ 'สมภารไม่กินไก่วัด' _______ ‘มัทรี ทรัพท์สมบูรณ์’ พนักงานสาวในฝ่าย HR ผู้ขาดคุณสมบัติเกือบทุกข้อที่เขาวางไว้สำหรับเลือกมาเป็นคู่ชีวิต ยกเว้นแต่ความสวยบาดใจโดยไม่ต้องแต่งแต้มมากมายนัก กับความเป็นกุลสตรีที่เธอมีครบถ้วน และเขาก็ไม่ควรจะมองข้ามจุดนี้ไป ++++++++++++++++++++++ ‘เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!!’ ‘ตูม!!!’ ‘พรึบ!’ “ว๊าย!!!!” ยังไม่ทันจะได้รับกระเป๋าจากมือบางด้วยซ้ำ ฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงๆ ลงมาอย่างรุนแรง ตามด้วยเสียงอะไรสักอย่างระเบิดขึ้นมา เดาว่าน่าจะเป็นหม้อแปลงไฟฟ้าของหมู่บ้าน แล้วไฟก็ดับพรึบลง คนตรงหน้าของเขาคงตกใจ ถึงกับร้องเสียงหลง แล้วกระโดดเข้ามากอดเขาทันที “ไม่ต้องกลัวนะครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ” และด้วยสัญชาตญาณ สองวงแขนของเขา ก็รับเอาร่างเล็กๆ มากอดแนบอกไว้เช่นกัน ตอนแรกนั้นเพราะความอยากปกป้องเพศที่อ่อนแอกว่า และกำลังต้องการที่พึ่งพิง ต่อมานั้นมีความต้องการด้านจิตใจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็ใครจะไปอดรนทนไหว ในเมื่อมีสาวสวยมาให้กอดขนาดนี้ สองวงแขนของเขาเลยกระชับเอาไว้แนบแน่น ‘เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!!’ เสียงฟ้าร้อง บวกกับสายฟ้าแลบแปลบปลาบ จนเกิดแสงสว่างว้าบเป็นครั้งคราวนั้น ทำให้เขาเห็นเจ้าของใบหน้าสวย ที่ดูเหมือนจะตกอกตกใจไม่หายได้ชัดเจน สองแขนเล็กเรียวที่โอบกอดเขาอยู่นั้น ก็กระตุ้นให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นได้ไม่ยาก กลิ่นกายหอมๆ บวกกับกลิ่นแชมพูอ่อนๆ จากเรือนผมยาวสลวย ก็ช่วยให้เขาไม่อาจจะผละหนีไปไหนได้ ปลายคางมนของคนตกใจ เลยถูกเขาเชยขึ้นช้าๆ สายฟ้าแลบแต่ละครั้ง ทำให้เขาได้เห็นใบหน้าสวยใสได้ไม่ยาก รวมทั้งริมกระจับงาม ที่เขาทนฝืนใจไม่ให้ก้มลงไปหาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่กี่วินาที เขาก็ได้ลิ้มลอง และเจ้าของก็ไม่มีท่าทีขัดขืนใดๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเชื้อเชิญด้วย เป็นเขาเองที่โน้มใบหน้าลงไปหา ด้วยยากจะหักห้ามใจ และไม่รู้มาก่อน ว่าตัวเองปรารถนาจะลิ้มลองสองกลีบบุปผางามมากมายขนาดนี้ หลังจากที่เจ้าของกลีบเข้าไปแย่งพื้นที่สาวอื่น มีอำนาจเหนือจิตใจเขากินอาณาบริเวณมากระดับหนึ่งมานับแรมเดือน ในบรรดาสาวๆ ที่เขาคัดสรรไว้นั้น เธอคือคนแรกที่เขาเผลอตัว เผลอใจเข้าใกล้ขนาดนี้ ใช่ว่าเขาจะอ่อนประสบการณ์เรื่องรักๆ ใคร่ๆ หรือเรื่องผู้หญิง ตรงกันข้าม เขากลับช่ำชองไม่น้อย แต่เขาจะฝึกปรือกับผู้หญิงอีกประเภท ที่ซื้อหามาได้ด้วยเงิน และเงินก็จบปัญหาด้านความสัมพันธ์ต่อเนื่องได้ ส่วนผู้หญิงที่จะยกย่องให้เป็นภรรยา เป็นแม่ของลูกนั้น เขาจะไม่มีวันปล่อยให้อารมณ์ใคร่ เข้ามามีบทบาทเหนือเหตุผลเด็ดขาด ยกเว้นก็ครั้งนี้ จะด้วยเพราะอะไรเขาเองก็ยากจะหาข้ออ้างได้ รู้แต่ว่ากำลังเป็นสุข กับการได้ดูดดื่มเรียวกระจับงาม หอมหวานอยู่ตอนนี้ แผงอกกว้างที่มีอีกอกบดเบียดอยู่นั้น ช่างอบอุ่นเหลือเกิน แม้ด้านนอกจะมีสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างบ้าคลั่ง ทว่ากลับไม่รู้จักหนาวเหน็บแม้แต่นิดเดียว ความรู้สึกนี้ก็เกิดขึ้นกับเจ้าของเรียวกระจับงาม ที่กำลังยกสองแขนกอดเกี่ยวกายเขาเอาไว้ ด้วยหัวใจนั้นเต็มตื้นด้วยความตกใจระคนเป็นสุข จนไม่แน่ใจ ว่าตัวเองกำลังตื่นหรือว่าหลับฝัน ถ้าเป็นฝัน ก็คงจะเป็นฝันอันแสนหวาน ที่สาวๆ ทั้งตึก จะต้องอิจฉาแน่ ใครเลยจะคาดคิดว่าชีวิตนี้ จะได้มีห้วงเวลาที่ผู้อยู่สูงเทียมฟ้าอย่างเขา กำลังมอบจุมพิตที่แสนรัญจวนใจให้ กลิ่นกายของเขานั้นช่างหอมเฉพาะตัว แผงอกของเขานั้น ช่างอบอุ่นราวกับมีผ้าผวยหลายร้อยผืนมาห่อหุ้มเอาไว้ สองวงแขนของเขาที่โอบกอดไว้นั้น ช่างให้ความรู้สึกปลอดภัย ยิ่งกว่ามีสรรพสิ่งใดๆ มาโอบล้อมไว้ ร่างเล็กๆ ที่พอมีเรี่ยวแรงเมื่อครู่ ใกล้จะเข่าทรุดแล้ว หากไม่มีเขาคอยประคองช่วยเอาไว้ มัทรีอยากหยุดเวลาอันแสนสุขเอาไว้แค่นี้ จะได้มีเขาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ตลอดไป จะได้เก็บความทรงจำอันแสนหวานล้ำนี้ไว้ตราบนานเท่านาน และสำหรับชายหนุ่มผู้เคร่งครัดในกฎเหล็กของตัวเอง ว่าจะไม่ปฏิบัติกับหญิงที่คัดสรรไว้เป็นภรรยา เป็นแม่ของลูก ก็กำลังบังคับตัวเองให้หยุดอย่างหนักหน่วง ‘เปรี้ยง!!!’

บทที่ 1 1

ตอนหนุ่มเนี๊ยบ

ไม่ว่าจะวันใด เวลาไหน หรือเมื่อไหร่ สนามบินสุวรรณภูมิก็ไม่เคยบางเบาผู้คนไปเลย ในความคิดนักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัยสามสิบเก้าอย่าง ‘จักรภัทร ส่งเสริมสกุลไทย’ เพราะดูทุกคนต่างรีบเร่งไม่เคยเปลี่ยนแปลง และต่างคนต่างจุดหมายปลายทาง

ส่วนตัวเขาเองนั้น กลับอยู่ในท่าทีสบายไม่รีบร้อนใดๆ เพราะตารางเวลาที่จัดไว้ เป็นไปตามแผนทุกอย่าง เขาก้าวเดินอย่างอกผายไหล่พึง และมาดแมน ปะปนอยู่กับผู้โดยสารขาเข้านับร้อย

กับส่วนสูงร้อยแปดสิบแปด ผิวขาวสมกับมีเชื้อชาวจีนผสมอยู่ ผมตัดสั้นรองทรงช่วยส่งให้เขามีท่าทีสูงสง่าน่าเกรงขาม ใบหน้ารูปไข่และผิวขาวราวสตรีนั้น ทำให้ไม่ยุ่งยากในการเลือกแว่นสายตามาสวมใส่ให้เข้าหน้าและเข้าชุดแต่อย่างใด

และมันก็ช่วยส่งให้เขาดูหล่อเหลาราวกับพระเอกเกาหลีไม่มีผิดเพี้ยน ต่อให้ต้องเดินปะปนอยู่กับผู้คนนับร้อยนับพัน เขาก็ยังคงดูโดดเด่น สะดุดตาใครต่อใครได้ไม่เคยเปลี่ยน จนบางครั้งเกิดอาการเก้อเขิน เมื่อถูกมองมากๆ แม้จะชาชินกับการเป็นเป้าสายตามาตั้งแต่เด็กแล้วก็ตาม

แต่พอถูกจ้องนานๆ เข้า บางครั้งเขาก็ทำตัวไม่ถูกและไปไม่เป็นเช่นกัน เหมือนตอนนี้ที่กำลังถูกสาวน้อยสาวใหญ่มองมาหาไม่วางตา ในใจนั้นให้เก้อเขิลอยู่ลึกๆ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากก้าวเดินด้วยท่าทีสง่างามไปเรื่อยๆ เท่านั้น

“ป้าอรรออยู่ตรงโน้นครับคุณเกียร์”

เขาหันไปมองเนติ ผู้ช่วยคนเก่งวัยสามสิบเท่าน้องชายเขา ซึ่งกำลังเข็นรถกระเป๋าสัมภาระเดินเคียงข้างมา เขายิ้มนิดๆ แต่ไม่ได้เอ่ยอะไร นอกจากมองไปหาเลขาคู่ใจ ในวัยสี่สิบห้าปี ทำงานดีไร้ที่ติติงมากับเขาสิบสองปีเต็ม ส่วนทำกับพ่อเขานั้น ก็นับตั้งแต่จบปริญญาตรี รวมแล้วอายุงานยี่สิบสองปี

“สวัสดีค่ะคุณเกียร์ เหนื่อยหรือเปล่าคะ อรเตรียมเครื่องดื่มมาไว้ให้อยู่ในรถแล้วค่ะ”

“นิดหน่อยครับ”

“ไปเลยมั้ยคะ อรจะได้โทรบอกประมวนค่ะ”

“ครับ”

อรนภารีบโทรหาคนขับรถ ซึ่งรออยู่ลานจอดด้านนอก จากนั้นก็เดินนำเจ้านายหนุ่มหล่อไปหาประตู ไม่นานเมอร์เซเดส-เบนซ์ วีโต้หนึ่งหนึ่งหก ก็แล่นมาเทียบบาทวิถี จักรภัทรก้าวเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว พอๆ กับเลขาและผู้ช่วย ก็จัดการขนสัมภาระทั้งหมดเข้าไปในรถ แล้วขึ้นไปนั่งอย่างรวดเร็วเช่นกัน

“นี่ค่ะของคุณเกียร์”

อรนภาส่งน้ำแอปเปิล ที่ผู้ช่วยของตัวเอง ทำใส่ขวดจากออฟฟิศมาใส่ในกระติกน้ำแข็ง ซึ่งมีไว้ประจำรถให้ เพราะเจ้านายจะไม่ค่อยโปรดเครื่องดื่มมีน้ำตาลแบบอื่นสักเท่าไหร่

“ขอบคุณครับ แล้วมีอะไรบ้าง”

คนรับรีบเปิดฝาขวดยกขึ้นจิบ ส่วนเลขาก็ส่งอีกขวดไปให้เนติ ที่นั่งอยู่ด้านหลังด้วย แล้วถึงหันกลับมาคว้าแฟ้มงานของตัวเอง ซึ่งเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะทุกครั้งเวลาเจ้านายเดินทางไปต่างประเทศนานเกินอาทิตย์ ก็อยากรู้ความเป็นไปในออฟฟิศก่อนเสมอ บวกกับพรุ่งนี้เป็นวันหยุด

“ก็มีเรื่อง....”

เจ้านายหนุ่มปรับเบาะเอนลง แล้วยกสองขาขึ้นพาดเบาะ ตาก็ปิดลง หูนั้นฟังรายงานจากเลขาไปด้วย รถก็แล่นไปตามถนนอย่างไม่รีบเร่ง จุดหมายปลายทางคือ คฤหาสน์ ‘ส่งเสริมสกุลไทย’ ซึ่งกำลังมีจะปาร์ตี้ใหญ่ จนเขาจำต้องรีบบินกลับให้ทันในค่ำนี้

ราวชั่วโมงครึ่ง ประมวนก็นำวีโต้มาจอดอยู่ประตูรั้วเหล็กดัดอิตาลี มีอักษรตัวเอส สีทองเหลืองอร่ามติดอยู่ทั้งสองบาน แล้วมันก็ค่อยๆ เปิดออก เมื่อ รปภ. เห็นว่าเป็นรถเจ้านายอีกคนของบ้าน

บ่อน้ำพุขนาดใหญ่ดักหน้ารถไว้เพื่อบังคับให้เลี้ยวซ้าย น้ำใสๆ ต่างกำลังพวยพุ่งออกมาราวกับจะสื่อว่า ตระกูลนี้กำลังเจริญรุ่งเรืองไปเรื่อยๆ ไม่มีวันสิ้นสุดก็ไม่ปาน ติดกันเป็นสนามหญ้ากว้างใหญ่เขียวขจี ทอดยาวไปถึงหน้าคฤหาสน์สไตล์ยุโรปสีขาว

“โห! คนเริ่มมางานแล้วนี่ครับคุณเกียร์”

เนติมองออกไปนอกหน้าต่าง ขณะรถแล่นช้าๆ ไปตามถนนคอนกรีต ตรงสนามหญ้ากว้างใหญ่ มีโต๊ะตั้งเรียงรายเอาไว้ รถจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ประทับโลโก้โรงแรมห้าดาวจอดอยู่หลายคัน แทนการจะให้คนในบ้านช่วยกันทำอาหารเอง เหมือนงานเลี้ยงอื่นๆ เหตุเพราะวันนี้แม่ไม่มีเวลาคอยควบคุม

“เพิ่งหกโมงเองนะ”

จักรภัทรลืมตาขึ้นมองนาฬิกาข้อมือราคาเฉียดล้าน แล้วมองไปยังจุดเดียวกับผู้ช่วย เขาถอนหายใจหนักๆ ออกมา เพราะอยากนอนพักสักชั่วโมงก่อน ถึงจะลงมาร่วมงานวันเกิดของแม่ แต่เมื่อมีผู้คนเริ่มมาแล้วแบบนี้ เขาคงได้ทำได้แค่ อาบน้ำแต่งตัวเท่านั้น

“งั้นอรไปช่วยคุณท่านก่อนนะคะ”

อรนภารู้งานเสมอ เลยรีบเอ่ยหลังออกจากรถแล้ว เจ้านายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ให้แทนคำขอบคุณ ก่อนจะพยักหน้ารับ จากนั้นก็มองผู้ช่วยกับคนรถ ต่างช่วยกันลากกระเป๋าเข้าบ้านไปอย่างรู้งานไม่แพ้กัน เขามองไปสนามเห็นแม่กับน้องสาวทั้งสอง กำลังวุ่นอยู่ เลยรีบเดินเข้าบ้านไปแบบไม่ทักทายใคร

‘โฮ่งๆ ๆ’

เสียงเห่าดังมาจากข้างบ้านฝั่งสระน้ำ ไม่นานก็มี ‘เจ้าฮ็อตด็อก’ สุนัขพันธุ์อเมริกันค็อกเกอร์สีน้ำตาลวิ่งหน้าตั้งมา แถมมีตามหลังอีกคือ ‘เจ้าไส้กรอก’ สุนัขพันธุ์โกลเดน รีทรีฟเวอร์สีน้ำตาล

ตบท้ายด้วยตัวเล็กสุดคือ ‘เจ้าปังปัง’ สุนัขพันธุ์ตุ๊กตา สเปเนียล คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สีขาวหน้าตาน่ารักน่ากอด ทั้งสามต่างทำท่าดีอกดีใจเมื่อเห็นเจ้านายกลับบ้าน และต่างวิ่งกรูเข้ามาหา

จนเขาจำต้องทรุดกายลงนั่งตรงขั้นบันไดหน้าประตูเข้าบ้าน แล้วอ้าแขนรับเจ้าฮ็อตด็อกกับเจ้าไส้กรอกมากอดไว้ ส่วนเจ้าปังปังนั้น คลอเคลียอยู่กับขาของเขา เพราะมีสองตัวกันท่าเอาไว้ไม่ให้เข้าใกล้เจ้านายได้

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ สนพ. อิ่มรัก

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ