เจ้านาย (Series of my bad boy)

เจ้านาย (Series of my bad boy)

sunflower

5.0
ความคิดเห็น
3.5K
ชม
21
บท

เพราะเด็กหนุ่มที่เขาช่วยไว้ในคืนนั้นได้สูญเสียความทรงจำหมอหนุ่มจำต้องรับไว้ดูแลความใกล้ชิดทำให้หัวใจแกร่งของเขาหวั่นไหวจนเกิดเป็นความรัก แต่เมื่อความทรงจำกลับคืนมา เจ้านายกลับจำเรื่องราวของเขาไม่ได้

บทที่ 1 เจ้านายสายละมุน1

เอี๊ยดดดดดดดด

เสียงเบรกรถสนั่นบนท้องถนนสายเปลี่ยวในยามดึกแทบไม่มีผู้คนสัญจรไปมา หมอกหนาทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่น้อยลง หมอหนุ่มขับรถด้วยความเร็วท่ามกลางความมืดต้องเหยียบเบรคจนตัวโก่งเมื่อแสงไฟหน้ารถสาดส่องกระทบร่างบางของใครคนหนึ่งที่นอนคว่ำหน้าขวางอยู่กลางถนน หมอหนุ่มมองซ้ายมองขวาดูกระจกส่องหลังเมื่อเห็นว่าไม่มีใคร อาทิตย์ วิจิตรอลงกรณ์ หมอหนุ่มเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ของจังหวัด ตัดสินใจเปิดประตูลงไปเขาจอดรถไว้ในระยะห่างพอสมควร ในยามนี้จะไว้ใจใครไม่ได้ ชายหนุ่มไม่ลืมหยิบปืนพกคู่กายลงมาด้วย เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้ชนร่างอีกคนแน่นอน

ร่างที่นอนอยู่มีเลือดไหลข้างตัว ชายหนุ่มมองไปรอบๆอีกครั้ง ก่อนจะทรุดตัวลงข้างๆร่างที่นอนนิ่ง

“ยังไม่ตาย” มือหนาแตะตรงลมหายใจอ่อนๆของอีกฝ่าย เอื้อมมือไปจับไหล่ของอีกคนพลิกให้หันมาเพื่อที่จะได้ดูหน้าตาของอีกคนอย่างช้าๆ

รอยฟกช้ำตามใบหน้าและร่างกายไม่ได้ปิดบังความหล่อเหลาคมคายของเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนนี้เลย ผิวขาวเนียนสวยราวกับผู้หญิง รูปร่างสูงสมส่วนพอเหมาะ เสื้อผ้าที่สวมใส่บ่งบอกฐานะว่าไม่ธรรมดา เด็กหนุ่มมีเลือดออกจากศีรษะเปรอะเปื้อนใบหน้าหล่อและเสื้อผ้า ลมหายใจรวยริน

หมอหนุ่มมองไปรอบๆอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจช้อนร่างสูงของอีกฝ่ายไว้ในวงแขนและอุ้มไปยังรถที่จอดไว้ ปรับเบาะเอนนอนแล้วรีบวิ่งไปยังด้านคนขับและขับออกไปบนถนนสายเปลี่ยวอย่างรวดเร็ว มือหนากดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิททันที

“เฮ้ย! ไอ้วิน มึงรีบมาที่บ้านกูด่วนเลย กูมีเรื่องให้ช่วย” น้ำเสียงปลายทางดูร้อนรน ทำให้หมอวินที่กำลังล้มตัวลงนอนดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที

“แม่ง!ไอ้หมอ กูเพิ่งจะออกเวร มีอะไรว่ามากูจะนอน”

“ไม่ได้มึงต้องมาบ้านกูก่อน เดี๋ยวนี้อีกสิบนาทีเจอกัน”

“อ้าวเฮ้ย!! ไอ้นายอาทิตย์ มึงอย่ามาใช้อำนาจกับเพื่อนตัวเองนอกเวลางานไม่ได้นะโว้ย นี่มันเวลาพักผ่อนของกู”

“กูมีเรื่องให้ช่วย มีคนบาดเจ็บกูเจอระหว่างทาง”

“ไอ้เวร มึงก็เป็นหมอเปล่าวะ เสือกจะให้กูไปดูคนเจ็บ ในประเทศนี้มีใครเก่งเกินมึง ให้กูถามหน่อยเถอะ”

“มึงจะมาไหม?” คำถามสั้นๆแต่แฝงไปด้วยคลื่นบางอย่างที่ปลายสายจำต้องรับปากแทบทันที

“เออ.เออ..แม่งไปก็ได้วะ ทำไมต้องทำเสียงดุด้วยวะ แล้วนี่เขาเป็นอะไรมากหรือเปล่า”

“ยังไม่ได้สติ อย่าถามมากความ รีบมาให้ไว”

“ไอ้หมอเวร”

วินสบถเมื่อปลายสายตัดไปแล้ว หมอวินได้แต่มองโทรศัพท์แล้วส่ายหน้าอย่างระอากับเพื่อนหนุ่มที่เป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนสนิท เขาเพิ่งจะออกเวรและอาบน้ำกำลังล้มตัวลงนอนแต่ต้องมารับโทรศัพท์เจ้านายสุดโหด

“กูอยากดูหน้าคนที่มึงช่วย แม่งจะสวยขนาดไหนวะ ถึงได้ดูร้อนรนจริง”

อาทิตย์วางโทรศัพท์ไว้ข้างกายก่อนจะหันไปมองคนข้างด้วยความเป็นห่วงด้วยจรรยาบรรณเขาจะปล่อยคนที่ได้รับบาดเจ็บที่นอนบนท้องถนนไว้ได้อย่างไรถึงแม้จะไม่รู้จักก็ตามที แต่จะให้พาไปยังโรงพยาบาลเขาก็ไม่กล้าเสี่ยงเพราะไม่รู้หัวนอนปลายเท้าของอีกคน ว่าทำไมถึงนอนเจ็บอยู่บนถนนสายเปลี่ยวแบบนั้นได้ หากอาการดีขึ้นแล้วเขาจะซักไซร้ไล่เรียงแล้วนำส่งโรงพยาบาลต่อไป เพียงไม่นานชายหนุ่มก็ขับรถมาจอดหน้าคฤหาสน์หรูแม่บ้านร่างท้วมคนเก่าคนแก่ของตระกูลออกมารอรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“คุณหนูเหนื่อยไหมคะ ทานอะไรมาหรือยัง”

“ยังครับ แต่ป้าให้เด็กไปเตรียมต้มน้ำร้อนให้ผมหน่อย” หมอแบงค์หรืออาทิตย์ บอกแล้วรีบเดินไปยังประตูด้านข้างคนขับแล้วอุ้มร่างสูงของอีกคนออกมา

“ว้าย แล้วนี่ใครคะ คะ..คุณหนูขับรถชนเขาเหรอคะ” แม่บ้านถามด้วยแววตาตื่นตกใจกับภาพหนุ่มหน้าตาดีแต่มีเลือดออก ตามตัวฟกซ้ำดำเขียวไม่น้อยทีเดียว

“ไม่ใช่ครับป้า แล้วผมค่อยเล่าให้ฟัง”

ชายหนุ่มอุ้มอีกคนเข้าไปในบ้านและขึ้นบันไดตรงไปที่ห้องนอนของตน เขาว่างลงสูงลงอย่างแผ่วเบาโดยไม่กลัวว่าเลือดจากตัวชายหนุ่มจะเปรอะเปื้อนบนที่นอน

“พาไปโรงพยาบาลเถอะค่ะคุณหนู ใครก็ไม่รู้ป้าว่ามันจะเกิดเป็นเรื่องราวเอานะคะ” หญิงสาวที่ผ่านโลกมาก่อนเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วง สีหน้ามีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“เพราะผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ผมถึงไม่กล้าพาไปส่งที่โรงพยาบาล”

“ป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมเป็นหมอนะครับป้า เดี๋ยวไอ้วินก็มาแล้ว ป้าไปเตรียมของมาให้ผมก็พอ”

สิ้นเสียงชายหนุ่มก็หันมาสนใจใบหน้าหล่อที่ยังคงหลับสนิทไม่รู้สึกตัว อย่างสำรวจตรวจตรา ชายหนุ่มคนนี้ผิวพรรณดี จัดว่าหล่อระดับขั้นเทพหาตัวจับยากเลยทีเดียว ใบหน้าใสรับกับคิ้วดกดำเรียวยาวได้รูป ผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างทันสมัย จมูกโด่งเป็นสันรั้นขึ้นเล็กน้อยไม่บอกก็รู้ว่าดื้อรั้นมากแค่ไหน ริมฝีปากบางสวยของชายหนุ่มซีดเผือด เสื้อเชิ้ตแบรนเนมและยีนส์ราคาแพงลิบลิ่ว รวมถึงรองเท้าคู่สวยที่มีเพียงไม่กี่คู่เท่านั้น ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแต่ดูก็รู้ว่าไม่ธรรมดาแน่นอน ของประดับทั้งนาฬิกาเรือนละเจ็ดหลักที่สวมนี่อีก ทำไมคนมีเงินมากมายขนาดนี้ถึงมานอนอยู่กลางถนนแบบนั้นได้

“ท่าทางจะเป็นลูกคนมีเงิน”

หมอหนุ่มขมวดคิ้วพลางคิดไปต่างๆนาๆคิ้วเข้มสวยขมวดเข้าหากันแน่น ก่อนจะยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจถอดรองเท้าออก ตามด้วยเสื้อผ้าที่เลอะเปรอะเลือดของอีกฝ่าย เหลือเพียงชั้นในยี่ห้อหรู สายตาคู่คมสำรวจเรือนร่างแกร่งสวยกำลังดี มีกล้ามเนื้อเป็นลอนอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอ หน้าอกแกร่งขยับขึ้นลงตามแรงหายใจรวยริน ยอดอกชูชันสีสวย มันทำให้เขาหัวใจเต้นถี่รัวแปลกๆ ไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกแบบนี้เลยสักครั้ง หมอหนุ่มจัดการเช็ดทำความสะอาดให้คนเจ็บด้วยตัวเองแล้วเอาชุดของเขามาเปลี่ยนให้

เสียงฝีเท้าเดินตรงมาที่ห้องไม่นานก็ปรากฏร่างสูงของหมอหนุ่มฝีมือดีอีกคนที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา ครั้งนี้เขาไม่อยากจะรักษาคนเจ็บเองด้วยยังรู้สึกแปลกๆตั้งแต่อุ้มอีกคนขึ้นรถมาที่นี่แล้ว

“แหม่..ถึงขนาดยืนเฝ้าคนเจ็บจนชิดขอบเตียงเชียวนะไอ้หมอ” อาทิตย์หลีกให้หมอวินเข้ามาใกล้คนป่วยและหยิบอุปกรณ์เตรียมพร้อม

“หน้าตาดีนี่หว่า ผิวพรรณเหมือนไม่ใช่คนแถวนี้ มึงไปเจอที่ไหนวะ”

หมอวินก้มลงสำรวจบาดแผลตามใบหน้าลำตัวของอีกฝ่าย รวมถึงบริเวณที่สำคัญที่สุดคือที่ศีรษะที่มีเลือดไหลออกมา

“หัวแตกนี่หว่า เป็นทางยาวเลยเว้ย ต้องเย็บหลายเข็มเลยนะ มึงรีบไปเตรียมน้ำร้อนมา”

"อืม กูให้เด็กเตรียมน้ำร้อนให้แล้ว”

“คงโดนมาหนักทีเดียว อาจจะโดนตีหัวมาหรืออาจจะกระแทกอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็ถูกรถชน”

“อืม” อาทิตย์ไม่แน่ใจว่าสมองของอีกฝ่ายจะถูกกระทบกระเทือนหรือเปล่า ชายหนุ่มได้แต่ยืนมองด้วยแววตายากจะคาดเดาได้

“แล้วนี่มึงดูบัตรประชาชนหรือยังว่าเป็นใคร”

“ไม่มีเอกสารอะไรติดตัวมาเลยสักอย่าง”

“อ้าว!! จะไม่ซวยเหรอวะไอ้หมอ” หมอวินหน้าตาตื่นหันกลับมามองเพื่อนหนุ่มด้วยความกังวล

“เออน่า ค่อยว่ากันอีกทีตอนนี้ช่วยชีวิตไปก่อนละกัน” อาทิตย์จับชีพจรอีกฝ่าย

"ชีพจรเต้นอ่อนจังวะ มึงมัวแต่พูด รีบช่วยเร็วเข้า” อาทิตย์ดุเพื่อนสนิทที่มัวโอ้เอ้ถามนั่นนี่ไม่หยุด ก่อนจะก้มลงเก็บเสื้อผ้าที่กองไว้บนพื้น ยืนจ้องหน้าคนเจ็บด้วยใบหน้าเรียบนิ่งก่อนจะเดินออกจากห้องไปทันที ปล่อยให้อีกคนรักษาคนเจ็บตามลำพัง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ sunflower

ข้อมูลเพิ่มเติม
เจ้าคุณ (Series of my bad boy)

เจ้าคุณ (Series of my bad boy)

โรแมนติก

5.0

"หนาว" ฉันเริ่มหนาวไปทั้งตัว แต่ข้างในก็ยังคงร้อนรุ่มจนอยากที่จะปลดปล่อยออกมา "อดทนไว้ ให้มันลดความร้อนรุ่มในกาย" เจ้าคุณเอ่ยบอกเสียงต่ำ คงเห็นว่าฉันสั่นสะท้านจนเขาเองแอบสงสาร “ไอ้เชี้ยชาร์ค” ฉันคำรามออกมา นึกโกรธตัวเองทีเสียทีหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวคนนั้น แต่ยังดีที่ไม่ได้เสียความสาวให้กับมัน “มันเป็นใคร” เจ้าคุณมองฉันอย่างคาดคั้น แต่ฉันไม่บอกหรอกยังมีหลายอย่างที่ฉันยังปิดบังเขา ฉันยังคงประท้วงให้เขาปล่อยโดยการเตะ ถีบ ต่อย เพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการของคนตัวโต ยิ่งดิ้นแรงผ้าขนหนูที่พันอกไว้ก็ยิ่งหมิ่นแหม่ พอขยับเคลื่อนไหวแรงๆและถูกน้ำจากฝักบัวยิ่งพาลจะหลุดกองลงพื้น "ไม่ตอบใช่ไหม” เจ้าคุณเริ่มหงุดหงิดเมื่อฉันไม่ยอมตอบ แต่พอผ้าขนหนูหลุดไปกองลงพื้นการสนทนาของเราทั้งคู่ก็ตัดบทจบทันที (⊙_⊙;) "มึงอย่าท้ากูนะ..ลูกศร" ยิ่งเธอท้าทาย ยิ่งทำให้ผมอยากลอง!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

ประกาศหาแฟน

ประกาศหาแฟน

Mathe Hackett
5.0

คู่หมั้นของเธอนอกใจแม่เลี้ยงของเธอ และทั้งสองก็ร่วมมือกันวางแผนหลอกลวงทรัพย์สินของครอบครัวเธอ และวางกับดักให้เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เพื่อที่จะแก้แค้น เหวินหญ่าจึงตัดสินใจหาผู้ชายคนหนึ่งมาก่อเรื่องที่ที่งานหมั้นและฉีกหน้าพวกเขาทั้งคู่ โดยไม่คาดคิดหลังจาก "ประกาศหาแฟนโดยจ่ายค่าตอบแทนสูง"แล้ว เธอก็ได้หนุ่มสุดหล่อมาจริงๆ! เหวินหญ่าคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กยากจนที่เพื่อเงินเท่านั้น แต่หลังจากอยู่กับเขา โชคของเธอก็ดีขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก เดินนเล่นในห้างสรรพสินค้าใดก็ได้รับคูปองสำหรับแบรนด์หรูที่ซื้อฟรีและได้ชุดมูลค่านับแสนฟรี! ในงานหมั้น เขาออกงานอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกคนนั้นตกตะลึงและประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอคือผู้หญิงของเขา! เดิมทีคิดว่าพวกเขาจะแยกทางกันหลังจากเรื่องนี้จบลง แต่เขากลับติดตัวเธอไม่ยอมไปไหนอีก "เราเพิ่งหมั้นกัน ตอนนี้ผมเป็นคู่หมั้นของคุณแล้ว" เหวินหญ่าหัวเราะเบา ๆ "คุณหมิ่น คุณคงไม่ใช่คิดว่าฉันรวยก็เลยไม่ยอมปล่อยฉันมั้ง?" หมิ่นซือหางยิ้ม เขาเป็นหลานชายของตระกูลใหญ่ ตระกูลหมิ่น เป็นซีอีโอของฮั้วเชง กรุ๊ป และเป็นถึงเจ้านายเบื้องหลังที่ควบคุมเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจของเมืองไฮทั้งหมด เขาต้องมาสนใจเงินเล็กน้อยของเธอเหรอ? ต่อมาเหวินหญ่ารู้ว่าเขาคือคนที่เอาครั้งแรกของเธอไปในคืนนั้น!

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เจ้านาย (Series of my bad boy)
1

บทที่ 1 เจ้านายสายละมุน1

02/03/2022

2

บทที่ 2 เจ้านายสายละมุน2

02/03/2022

3

บทที่ 3 เจ้านายสายละมุน3

02/03/2022

4

บทที่ 4 เจ้านายสายละมุน4 NC18+

03/03/2022

5

บทที่ 5 เจ้านายสายละมุน5

03/03/2022

6

บทที่ 6 เจ้านายสายละมุน6

03/03/2022

7

บทที่ 7 เจ้านายสายละมุน7

03/03/2022

8

บทที่ 8 เจ้านายสายละมุน8

08/05/2022

9

บทที่ 9 เจ้านายสายละมุน9

08/05/2022

10

บทที่ 10 เจ้านายสายละมุน10

08/05/2022

11

บทที่ 11 เจ้านายสายละมุน11

08/05/2022

12

บทที่ 12 เจ้านายสายละมุน12

15/05/2022

13

บทที่ 13 เจ้านายสายละมุน13

15/05/2022

14

บทที่ 14 เจ้านายสายละมุน14

15/05/2022

15

บทที่ 15 เจ้านายสายละมุน15

15/01/2024

16

บทที่ 16 เจ้านายสายละมุน16

16/01/2024

17

บทที่ 17 เจ้านายสายละมุน17

28/01/2024

18

บทที่ 18 เจ้านายสายละมุน18

28/01/2024

19

บทที่ 19 เจ้านายสายละมุน19

28/01/2024

20

บทที่ 20 เจ้านายสายละมุน20

28/01/2024

21

บทที่ 21 เจ้านายสายละมุน21

28/01/2024