Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ซีรีย์ รักต่างวัย  เสน่หาหญ้าอ่อน,เสน่หาโคแก่

ซีรีย์ รักต่างวัย เสน่หาหญ้าอ่อน,เสน่หาโคแก่

พันตะวัน/พฤศตะวัน

5.0
ความคิดเห็น
2.1K
ชม
37
บท

ซีรีย์รักต่างวัย เรื่องของความรักที่ไม่อาจหักห้าม แม้วัยต่างกันแต่หัวใจเร่าร้อนอยู่ด้วยกัน เสน่หาหญ้าอ่อน: มีนา หรือมีน สาวน้อยวัย 19 ต้องเข้าไปพัวพันธุรกิจของเหมืองนิลดีที่มี อรรคพล หนุ่มใหญ่ใจดีเป็นเจ้าของ เมื่อญาติของเธอทุจริต เธอจึงถูกใช้เป็นเครื่องมือ แต่จะเป็นไรไปล่ะ เมื่อเธอก็ยินยอมพร้อมใจอยู่แล้ว เสน่หาโคแก่: พฆัคฆ์หรือเสือ นักธุรกิจพันล้าน หนีรักเข้าป่า จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ถ้าไม่ได้ชาวบ้านและเด็กสาวที่ชื่อ แป้งร่ำช่วยเอาไว้ และนั่นเป็นที่มาของโคแก่ที่เล็งหญ้าอ่อนไว้

บทที่ 1 ep1

เสน่หาหญ้าอ่อน : พันตะวัน

รถโดยสารคันยาวจอดพรืดที่ทางเข้าหน้าเหมืองแห่งหนึ่ง เด็กสาวคนหนึ่งถือกระเป๋าเป้ใบโตกระโดดลงมา ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะเคลื่อนออกไปโดยทิ้งฝุ่นควันคละคลุ้งไปหมด เธอโบกมือปัดควันท่อไอเสียท่อรถยนต์และฝุ่นแดงๆ ที่กระจายฟุ้งออกให้พ้นใบหน้าที่เลอะมอมไปด้วยเหงื่อไคล สายตาเหลือบเหลียวมองหาคนที่รู้จักที่ว่าจะมารับ แต่ไร้วี่แวว

“จะหลอกกันอีกหรือไงนะ”

เธอชะเง้อไปตามทางเล็กๆ ดินลูกรังแห้งกรังที่ไม่มีรถผ่าน หน้าทางเข้าเขียนชัดเจนว่า “ทางเข้าเหมืองนิลดี” หญิงสาวยกนาฬิการาคาถูกที่ผูกกับข้อมือลำเรียวขึ้นดู อีก 5 นาทีบ่ายโมงเธอมาสายไป 55 นาที มิน่าเล่าเขาถึงไม่รอ

หญิงสาวมองไปรอบตัวอย่างหวาดๆ รอบข้างเป็นไร่มันสำปะหลังที่แทบจะมองไม่เห็นบ้านเรือน หลังไร่มันสำปะหลังออกไปอีกไกลตามเส้นทางลูกรัง มองเห็นเนินเขาอยู่ลิบๆ ถ้าเธอเดาไม่ผิด นั่นคงจะเป็นที่ตั้งของเหมืองนิลดี แน่นอนว่าหญิงสาวจะไม่เดินเข้าไปแน่ๆ เพราะท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดอย่างเมืองไทย

เธอคงเดินเข้าไปไม่ถึงกิโลเมตรก็คงเป็นลมสลบอยู่ข้างทางเป็นแน่ คิดๆ ไปก็โมโหรถโดยสารประจำทาง ที่โอ้เอ้อืดอาด แถมยังวิ่งช้ายังกับเต่าคลานจนทำให้เธอมาไม่ตรงกับเวลานัด คิดไปคิดว่าหญิงสาวก็พาลไปถึงคนนัดว่ารู้ทั้งรู้ว่าหลานสาวจะมาหา เหตุใดจึงไม่รอ รู้ทั้งรู้ว่าเธอ ไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว

ในขณะที่เธอหันรีหันขวางว่าจะตัดสินใจทำยังไงดีกับชีวิต รถจิ๊บคนเก่าที่มีชายหนุ่มผิวคร้ามเข้มสวมหมวกคาวบอยปีกกว้างขับเข้ามาจอดใกล้ๆ ฝุ่นกระจายอยู่รอบตัวเธออีกครั้ง หญิงสาวรีบยกมือปาดเหงื่อที่เลอะไปด้วยฝุ่นออก ทำให้ใบหน้าขะมุกขะมอมไปกันใหญ่

“จะไปไหนเหรอ?”

เสียงห้ามทรงอำนาจตะโกนถามมาอย่างใจดี

“จะเข้าไปในเหมืองนิลดีค่ะ มีนขอไปด้วยได้ไหมคะลุง”

“ขึ้นมาสิ”

คำตอบง่ายๆ นั้นทำให้หญิงสาวยิ้มกว้างแล้วกระโดดขึ้นรถทันที

“มีนชื่อมีน หรือมีนาค่ะ พ่อบอกว่าเกิดเดือนมีนาเลยตั้งชื่อนี้ ลุงทำงานที่เหมืองหรือคะ แล้วลุงชื่ออะไร?”

พอขึ้นรถได้ หญิงสาวก็ชวนคุยทันทีตามประสาเด็กร่าเริงและอยู่ตัวคนเดียวจนต้องอาศัยการเข้าหาผู้ใหญ่ให้ได้รับความเมตตาเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง

“ฉันชื่ออาร์ม”

เขาตอบสั้นๆ ยิ้มมุมปากนิดๆ ทำให้ใบหน้าที่โผล่พ้นหมวกมาครึ่งๆ นั้นดูดีจนน่าสนใจ

“จะเข้าไปในเหมืองทำไมหรือ?”

ชายหนุ่มถามอย่างใจดี

“ไปขออาศัยน้าชบาอยู่ค่ะ”

มีนาอ้อมแอ้มตอบไปอย่างไม่เต็มปากเต็มคำ ไม่รู้ว่าจะบอกความจริงชายหนุ่มอย่างไรดี เพราะการมาอยู่กับน้าชบา มันมีเงื่อนไขที่ดูพิลึกพิลั่น เกินกว่าเด็กสาวคนหนึ่งจะเดินทางมา

“แล้วนี่เดินทางมาจากไหน”

“มีนอยู่กรุงเทพฯค่ะ พอพ่อตาย แม่มีสามีใหม่ มีนอยู่กับย่า นี่ย่าก็เพิ่งตายไป พอไปอยู่แม่ พ่อเลี้ยงก็ทำท่าจะเข้าหา น้าชบารู้เข้าเลยให้หนูมาอยู่ด้วย”

หญิงสาวเล่ายาว เหมือนระบายความในใจ อีกอย่างชายหนุ่มที่ขับรถอยู่นี้ก็ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดีรับฟังเธออย่างไม่รำคาญ

“จบอะไรมาล่ะ”

เสียงนั้นเจือไปด้วยความเวทนา

“มีนจบบัญชีมาค่ะ อยากเรียนต่อ แต่ไม่มีใครส่งแล้ว จะออกมาอยู่เอง ส่งตัวเองเรียน ไปสมัครงานเสิร์ฟ ก็ฟาดขี้เมาที่มันจับก้นจนหัวแตก เจ้าของร้านก็เลยไล่ออก”

“อ้อ..”

น้ำเสียงนั้นเจือด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ

“แล้วนี่นัดชบาไว้กี่โมงล่ะ เขาไม่ได้บอกหรือว่าทางเข้าเหมืองมันไกล”

“บอกค่ะ น้าบอกว่าจะขี่มอเตอร์ไซค์มารับ แต่ว่านัดไว้ตอนเที่ยง ไอ้รถโดยสารนั่นแหละ มันช้าจนเลยเวลา น้าชบาเลยไม่ได้อยู่รอ”

ด้วยความซื่อ ตรงไปตรงมาของเด็กสาวที่อยู่ข้างๆ ถามอะไรตอบหมด ตอบเกินกว่าที่อยากรู้ ทำให้เขารู้สึกเอ็นดูขึ้นมา ลักษณะท่าทางก็ปราดเปรียวคล่องแคล่ว นี่คงยังไม่รู้ว่าใบหน้าเขลอะเลอะไปด้วยฝุ่นเป็นคราบๆ ยิ่งมานั่งโกรกลมบนรถจิ๊ป คราบไคลค่อยๆ แห้งลง เหลือเป็นร่องรอยชัดเจน

“ลุงยังไม่ได้บอกมีนเลยว่า ลุงทำงานอะไรที่เหมืองนี้หรือคะ ลุงฝากงานให้มีนได้ไหม? มีนไม่ทำอะไรอย่างที่น้าชบาบอกเลยค่ะ”

น้ำเสียงเธออ้อนเต็มที่ ครั้งนี้เล่นเอาชายหนุ่มยิ้มกว้างขึ้นมาทันที

“ฉันก็ทำหลายอย่างนะ เยอะแยะมากมาย เพราะงานมันมีให้ทำอยู่ตลอดเวลา”

“เจ้าของเหมืองใช้งานลุงหนักขนาดนั้นเหลือหรือคะ?”

หญิงสาวนึกสยองในใจ

“จะว่าหนักก็หนัก เพราะเวลาคนอื่นพัก ฉันก็แทบจะไม่ได้พัก”

“โอ๊ย ตายแล้ว เจ้านายลุงนี่ใจร้ายจัง ลุงแก่ขนาดนี้ยังใช้งานแทบไม่ได้พักเลยเหรอ?”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ พันตะวัน/พฤศตะวัน

ข้อมูลเพิ่มเติม
ซีรี่ย์พ่อเลี้ยง  จำเลยพ่อเลี้ยง/พ่อเลี้ยงบำเรอรัก

ซีรี่ย์พ่อเลี้ยง จำเลยพ่อเลี้ยง/พ่อเลี้ยงบำเรอรัก

โรแมนติก

5.0

ซีรีย์พ่อเลี้ยง สองเรื่องราว สองคู่ ระหว่างพ่อเลี้ยงที่แตกต่างความคิดกันอย่างสิ้นเชิง แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาเหมือนกันคือความรักให้คนที่ชื่อว่าเป็นลูกเลี้ยง จำเลยพ่อเลี้ยง /พฤศตะวัน - เมื่อหญิงสาวต้องกลายเป็นเครื่องมือการติดตามแม่ของเธอ จากชายหนุ่มที่เคยรักแม่ แต่...เสน่ห์ของจำเลยอย่างเธอ พ่อเลี้ยงหรือจะอดใจไหว พ่อเลี้ยงบำเรอรัก/ พฤศตะวัน - วิชนี เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อทวงมรดกของแม่คืนจากพ่อเลี้ยง ทว่า พ่อเลี้ยงที่เธอนึกเกลียดเขามาตลอดนั้นว่าแย่งแม่ของเธอไปจากพ่อ กลับกลายเป็นแค่ตัวหลอก และเป็นผู้ปกป้องเธอมาตลอด

ซีรี่ย์ดอกไม้สวาท  เกสรดอกชู้/ผกากลีบทอง

ซีรี่ย์ดอกไม้สวาท เกสรดอกชู้/ผกากลีบทอง

โรแมนติก

5.0

ซีรีย์ดอกไม้สวาท ความแตกต่างคือความงาม ดอกไม้ 2 ชนิดที่ใช้ชีวิตแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เกสรดอกชู้ /พันตะวัน - ธีธัช หนุ่มหล่อผู้มีความสามารถกลับมาเมืองไทยกะทันหัน หลังจากแม่เสียชีวิต ต้นเหตุมาจากแม่ลูกคู่หนึ่ง ซึ่งเขาจะต้องเอาคืนให้ได้ และอันดาคือเหยื่อในความแค้นครั้งนี้ ผกากลีบทอง /พันตะวัน - บุหงาและอาทิตย์ ต้องแต่งงานตามความต้องการของผู้ใหญ่ แต่เส้นทางความรักของคนทั้งคู่ ต่างมีสิ่งที่ต้องปกปิดกันและกัน บุหงาสาวสวยเสนห์แรงจึงต้องเผชิญเรื่องรักในทิศทางที่เธอไม่อาจควบคุม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

ซีไซต์
5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ