เมียบังหน้า

เมียบังหน้า

1037

5.0
ความคิดเห็น
9K
ชม
40
บท

คนหนึ่งรัก…..คนหนึ่งเลิกรัก คนหนึ่งเสียใจ……คนหนึ่งพอใจ คนหนึ่งคิดถึง……คนหนึ่งทิ้งให้คิดถึง

บทที่ 1 จุดเริ่มต้น

"น่ารำคาญ" ผมพูดขึ้นอยู่เบาะหลังรถหรูที่นั่งมาหลังจากที่สายตาปะทะเข้ากับฝูงนักข่าวจำนวนมากที่รอต้อนรับ ไม่ต่างอะไรจากแร้งรุมศากศพ แค่คิดก็ทำเอาหงุดหงิด

"คิดเห็นอย่างไรกับข่าวที่เกิดขึ้นในเครือของ ACTOR ตอนนี้บ้างครับ/คะ?" ไม่ทันที่เป้าหมายอย่างผมจะลงจากรถ ก็พบกับคำถามไม่เข้าหู

ขายาวก้าวลงจากรถที่นั่งมาหวังฝ่าฝูงนักข่าวจำนวนมากเข้าไปด้านในพร้อมกับบอดี้การ์ดที่คอยคุ้มกันแต่เหมือนจะไม่เป็นผลเพราะจำนวนนักข่าวที่มากจนยากเกินไปที่จะเปิดทาง

"ช่วยตอบคำถามหน่อยได้ไหมครับว่ามันเป็นความจริงหรือเปล่าหรือว่าที่ไม่ตอบเพราะว่ามันคือเรื่องจริงตามที่เป็นข่าว" คำถามที่ไม่รู้ว่าถูกกรองมากจากส่วนไหนในสมองทำให้ผมเลือกที่จะหยุดเดินและหันมองหน้าเจ้าของเสียงนั้นชัดๆ

"การที่ผมไม่ผูกสัมพันธ์กับคนจำนวนมากไม่ใช่ว่าผมไม่ต้องการนะครับ แต่ผมแค่ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของผมจนเกินเหตุหรือถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากที่จะยุ่งกับใครเลยด้วยซ้ำถ้าเรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับงาน ผมว่าคุณน่าจะลองทำเหมือนผมบ้าง"

เหมือนคำพูดของผมจะเป็นผลทำเอาเจ้าตัวถึงกับหน้าซีดเล็กน้อย แต่ก็เอาเถอะผมไม่มีเวลามากพอที่จะต่อปากต่อคำกับใคร

และไม่นานมากจากความวุ่นวายผมก็ฝ่าฝูงนักข่าวมาได้แม้จะแลกมาด้วยความยากลำบากก็เถอะ

"ดูสิ่งที่แกทำ! มันเสียหายมากขนาดไหนแกเห็นหรือยัง!?" ผมชินแล้วล่ะ กับคำกรนด่าของผู้เป็นพ่อหรือจะเรียกว่าท่านประธานดี?

"หุ้นตกไปกี่ร้อยล้านล่ะครับครั้งนี้"

เพี๊ยะ!

ไม่ทันสิ้นเสียงดีฝ่ามือหนาของคนเป็นพ่อก็ตบลงมาที่หน้าผมอย่างจัง ผมนิ่งไปอย่างคิดไตร่ตรองกันสิ่งที่เกิดผม ถ้าให้ไล่มาตั้งแต่จำความได้นี่คงเป็นครั้งแรกที่พ่อตบหน้าผม

"นอกจากจะไม่สำนึกยังมาทำท่าทีแบบนี้ใส่ฉันอีกนะแก!" ท่าทางของพ่อโกรธจัดในระยะที่ผมเองก็เคยเจอมาก่อนเหมือนกัน

"แล้วแกจะทำยังไงต่อ ดูผู้หญิงที่แกควงสิ ไม่เคยจะซ้ำหน้ากันเลยสักข่าว งามไส้ดีไหมล่ะ” ใช่ครับเพราะข่าวที่ผมควงสาวแบบว่าเข้าโรงแรมไม่ซ้ำหน้าทำให้หุ้นบริษัทตกพรวดวันละหลาย ๆ สิบล้าน พ่อถึงได้เดือดขนาดนี้

เครือกรุ๊ป ACTOR เป็นธุรกิจส่งออกรายใหญ่ระดับโลกถ้ามีเรื่องนิดหน่อยมากระทบก็ทำหุ้นตกได้ง่าย ๆ เหมือนกัน

"กลับมาเป็นคนเดิมได้เเล้ว หนูพิมเธอตายไปนานแล้ว" ผมขมวดคิ้วขึ้นกับประโยคที่พ่อพูดบอก ผมไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะพูดเรื่องนี้มาทำเพื่ออะไร

"ผมขอตัว" ไม่รอให้คู่สนทนาได้ตอบกลับอะไรไปมากกว่านี้ก็เดินออกมาพร้อมกับคำกรนด่ามากมายตามหลัง นี่มันวันอะไรของผม วันโดนพ่อด่าแห่งชาติงั้นเหรอ

พิมคือภรรยาที่ผมรักมาก แม้ชีวิตถ้าผมแลกเธอกลับมาจากอุบัติเหตุเมื่อ 5 ปีที่แล้วได้ ผมก็จะทำ

"นายน้อยอย่าไปใส่ใจเลยนะครับ คุณท่านแค่โมโห" เอ็มมือขวาคนสนิทของผมพูดขึ้นหลังจากที่เราทั้งคู่เดินเข้ามาที่ห้องทำงานของผมแล้ว

"เงียบ" มันก้มลงมาพื้นพร้อมกับมือที่ประสานกันอยู่ด้านหน้า

อีกด้าน

ผมถูกเรียกตัวกลับมาประเทศไทยด่วนเพราะคุณพ่อ ความจริงแล้วผมเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีที่ฝรั่งเศสและมีแพลนจะทำงานที่นั่นสักระยะเพื่อหาประสบการณ์แล้วกลับมาช่วยบริษัทของคุณพ่อทีหลัง

"แล้วสรุปคุณพ่อเรียกดีนกลับมาด่วนเพราะอะไรครับลุงเอก" นั่งนึกหาเหตุผลมาตลอดที่ขึ้นเครื่องมาก็ไม่อาจจะรู้ความคิดของท่านเองเลยเพราะปกติแล้วถ้ามีเหตุให้ต้องกลับไทยคุณพ่อก็ต้องบอกล่วงหน้าสิแต่ครั้งนี้ไม่ใช่

"ไม่มีใครรู้ความคิดของนายท่านได้หรอกครับคุณหนู" ก็จริงอย่างลุงแกว่านะ

ตอนนี้ลุงเอกมารับผมที่สนามบินและเราก็กำลังเดินทางกลับบ้านพร้อมกับรถคุ้มกันจำนวนมาก ก็นะคุณพ่อกับธุรกิจมากมายทั้งผิดและถูกกฎหมายลูกกลับมาทั้งทีคงไม่ดีถ้าคู่แข่งทางการค้าจะลอบฆ่าผม เอาเถอะความสบายใจของท่านหนิ

เพียงระยะเวลาสั้น ๆ ก็ถึงที่หมาย ประตูรั้วขาวขนาดใหญ่เปิดออกเมื่อรถคันแรกเข้าจอดจ่อประตูหวังเข้าด้านในคฤหาสน์กว้าง

"ผมไม่กลับมาแค่ปีเดียวบ้านเราเปลี่ยนไปมากขนาดนี้เลยเหรอครับ" ไม่คิดว่าผมจะกลายเป็นเด็กคิดถึงบ้านไปได้

"นายท่ายสั่งปรับปรุงบริเวณบ้านเมื่อสามวันที่แล้วก่อนคุณหนูกลับมาเองครับ"

ลุงเอกเป็นลูกน้องคนสนิทของคุณพ่อเขาแหละ การที่ได้มารับผมก็เพราะความไว้ใจล้วนๆ เพราะท่านรู้ว่าลุงเอกสามารถปกป้องผมได้แน่นอนยามเกิดเหตุฉุกเฉิน

ผมพยักหน้าให้กับคำตอบของลุงเอกก่อนจะหันมาสนใจกระเป๋าที่ตัวเองสะพายมาเพื่อเตรียมพร้อมจะลงจากรถแต่รู้สึกว่าจะมีคนยืนต้อนรับผมอยู่ก่อนแล้วด้วย

"คุณพ่อสวัสดีครับ คิดถึงจังเลย" ผมเดินไปสวมกอดคุณพ่อที่มารอรับทันทีที่ลงจากรถ เราทั้งคู่สนิทกันมากถึงมาก แต่ก็ไม่ได้ตามใจผมให้เสียนิสัยอะไรขนาดนั้นหรอก ตามใจตามที่เห็นสมควร

คุณแม่เสียไปตั้งแต่ผมยังเด็กๆ เลยมีแค่คุณพ่อเท่านั้นที่ทำหน้าที่ดูแลผมทุกอย่าง ถามว่าคุณแม่เป็นอะไรถึงเสีย ผมให้คำตอบไม่ได้หรอกครับเพราะผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

"ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะลูก" ฝ่ามือหนาลูบลงบนผมนุ่มของผู้เป็นลูกอย่างอ่อนโยนผิดฐานะเจ้านายจนลูกน้องหลายๆ คนต่างส่งยิ้มให้กับภาพที่เห็นแต่ก็ต้องชะงักเสียก่อนเมื่อปะทะสายตากับผู้เป็นนาย

"เข้าบ้านกันเถอะ ลูกกลับมาเหนื่อยๆ ขึ้นไปอาบน้ำ พักผ่อนเเล้วเดี๋ยวเย็นนี้พ่อจะให้คนขึ้นไปตามสำหรับดินเนอร์"

"ดีเหมือนกันครับ เจ๊ทแล็กจนได้" ไม่แปลกที่จะแจ๊ทแล็กเลยครับก็ดูทามโซนของไทยกับฝรั่งเศสสิ มากี่ครั้งๆ ก็ไม่เคยชินเลย

กระเป๋าสัมภาระของผมถูกเคลื่อนย้ายขึ้นไปบนห้องจนหมดในระยะเวลาไม่นานด้วยฝีมือแม่บ้านก่อนจะขอตัวละจากคุณพ่อขึ้นไปอาบน้ำแล้วงีบพอให้หายแจ๊ทแล็กสักหน่อยก็ยังดี

"กลับมาแล้วนะครับคุณแม่" ก่อนเข้าห้องไม่ลืมที่ผมจะแวะไหว้คุณแม่ในห้องของท่าน แต่ดูจากธูปหนึ่งดอกที่ถูกจุดไว้จนเหลือครึ่งก็น่าจะเป็นของคุณพ่อ

"คุณพ่อคงบอกแล้วใช่ไหมครับ คิดถึงจังเลยนะ" มือเล็กเอื้อมเข้าไปลูบวนกับรูปในกรอบบริเวณแก้มสวยของผู้เป็นแม่ก่อนจะหลุดออกจากห้วงความคิดเมื่อเสียงหนึ่งเข้าแทรก

"คุณหนูคะ ป้าจัดของเข้าที่ให้หมดแล้วนะคะ" ผมหันไปพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินออกจากห้องไปและไม่ลืมที่จะปิดประตูให้เข้าที่เหมือนเดิม

ร่างบางของผมยืนเปลือยอยู่หน้ากระจกที่สะท้อนภาพเงาของตัวเองออกมาให้เห็นถึงส่วนโค้งส่วนเว้าในร่างกายที่ผมคุ้นชิน

ทำไมตนถึงไม่เกิดมารูปร่างเหมือนผู้ชายที่เขาตัวสูงๆ โตๆ นะ แอบสงสัยอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เคยที่จะได้คำตอบเพราะมันเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของผมไปเสียแล้วน่ะสิ

"คุณหนูคะ คุณท่านให้ขึ้นมาถามว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าคะ?" เสียงป้าจิ๋ว หัวหน้าแม่บ้านประจำเอ่ยถามขึ้นจากด้านนอกห้องน้ำ

"ไม่ครับป้า" ผมตะโกนรับจากด้านในก่อนจะรีบแต่งตัวใส่เสื้อคุมเดินออกจากห้องน้ำ

"งั้นเดี๋ยวป้าจะขึ้นมาตามอีกทีตอนทานมื้อเย็นนะคะ"

"ครับป้า ฝากล็อคห้องให้ดีนหน่อยนะครับ" ว่าบอกและเดินไปปรับอุณหภูมิแอร์ให้เย็นลงหลังจากป้าเดินออกไปก่อนจะทิ้งตัวนอนลงทั้งเสื้อคุมผืนเดียว เพลียมากขอนอนหน่อยแล้วกัน

18:30 น.

"ป้ากำลังไปตามคุณหนูพอดีเลยค่ะ" ป้าจิ๋วพูดขึ้นเมื่อมาเจอผมที่บันไดเชื่อมชั้นพอดี

"พอดีว่ากับข้าวมันหอมไปถึงห้องเลยครับ ดีนคิดถึงฝีมือป้าจิ๋วจะแย่เลยรีบลงมา" อันนี้ผมไม่ได้โกหกนะกลิ่นกับข้าวที่คุ้นเคยมันหอมแบบสุดๆ ไปเลย

"งั้นไปกันเถอะค่ะ นายท่านรอคุณหนูอยู่" ผมพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินนำอีกคนไปที่ห้องอาหาร

"ลงมาแล้วเหรอลูก"

"ครับคุณพ่อ พอดีว่ากลิ่นอาหารห๊อมหอม ขึ้นไปตามถึงบนห้องเลย" ผมเดินไปเข้าที่ประจำของตัวเองพลางตอบกลับผู้ที่รออยู่ก่อนแล้ว เสียนิสัยจริง ๆ เลยให้คุณพ่อรอทานข้าวได้ไงเนี่ย

เราสองพ่อลูกเริ่มทานข้าวทันทีที่เด็กในบ้านตักข้าวให้ นานๆ ทีจะได้ทานข้าวด้วยกันมันก็จะอร่อยหน่อย ๆ บวกกับฝีมือการทำกับข้าวของป้าจิ๋วอีก สุดยอดไปเลย

"ว่าแต่คุณพ่อจะบอกได้ยังครับว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเรียกดีนกลับไทยด่วนขนาดนี้ล่ะ" ผมถามขึ้นพลางตักข้าวในช้อนเตรียมจะใส่ปาก

ก็ตั้งแต่กลับมาพ่อยังไม่พูดอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องที่ให้ผมกลับไทย ผมเลยต้องชิงถามก่อนเพราะความอยากรู้และข้องใจ

"ดีนจำเพื่อนพ่อที่ชื่อลุงเจตน์ได้ไหม?" คุณพ่อชำเลืองมองมาทางผมกลายๆ ก่อนจะพูดขึ้นถาม

"ลุงเจตน์ที่เมื่อก่อนชอบมาบ้านเราบ่อยๆ น่ะเหรอครับ ว่าแต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้เห็นเลยนะครับ" พูดตอบบทสนทนาหลังจากรู้สึกอิ่มข้าวพอดีก่อนจะวางช้อนส้อมในมือลงอย่างเบาแรง จับผ้าขึ้นเช็ดริมฝีปากบางของตัวเองก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มตาม

"นั่นแหละ พอดีว่าลุงเจตน์อยากให้ดีนกับลูกเขาแต่งงานกัน"

"แค่ก ๆ....คุณพ่อว่าอะไรนะครับ" สำลักน้ำสิงานนี้ ผมไม่ได้ยินอะไรผิดไปใช่ไหม?

"ใจเย็นๆ ค่อยๆ ดื่มสิลูก ก็ลุงเจตน์มาปรึกษาพ่อเรื่องลูก ว่าอยากจะให้แต่งงานกับลูกเขา พ่อก็คิดเหมือนกันนะว่าลูกพ่อจะได้มีคนดูแล พ่อจะได้หมดห่วง" คุณพ่อพูดต่อหลังจากที่ผมมีท่าทีหายจากอาการสำลักน้ำแล้ว

สายตาที่ส่งมาตอนนี้ของคุณพ่อเหมือนกับตอนทำงานเลย มันยิ่งทำให้ผมรู้ว่าครั้งนี้คุณพ่อจริงจังกับมันมากแค่ไหน แล้วแบบนี้ผมจะหาข้ออะไรมากังขาท่านได้

"แต่ลูกลุงเจตน์เป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอครับหรือว่ามีผู้หญิงอีกที่ดีนไม่รู้" คิ้วคู่สวยเริ่มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยอย่างรอคำตอบ

ตั้งแต่เด็กจนโตมาก็รู้แค่ว่าลุงเจตน์มีลูกผู้ชายอายุก็มากกว่าผมราว ๆ 4-5 ปีได้ แต่ทำไมถึงมาคุยเรื่องแต่งงานกับผมที่ตัวก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน

"ไม่มีหรอก ลุงเจตน์มีลูกแค่คนเดียว" ผมไม่ได้จำผิดแต่ทำไมล่ะ?

"คุณพ่อหมายความว่าจะให้ดีนแต่งงานกับผู้ชายเหรอครับ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับพ่อ?" ไม่โอเค ผมไม่โอเคและไม่เข้าใจว่าผู้เป็นพ่อกำลังคิดอะไรอยู่

"ใจเย็น ๆ ก่อน พ่อเห็นว่าพี่เขาก็เป็นคนดีปกป้องดีนได้ พ่อไม่สามารถอยู่กับดีนได้ตลอดนะ เข้าใจพ่อหน่อย" คุณพ่อพูดบอกด้วยน้ำเสียงที่ซอร์ฟลงจากประโยคก่อนหน้าพลางวางช้อนส้อมในมือลงและมองมาที่ผมอย่างตั้งใจนัยน์ตาคู่นั้นแสดงให้เห็นชัดเจนถึงความเป็นห่วง ถึงจะแบบนั้นก็เถอะผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

"แล้วทำไมคุณพ่อไม่ถามดีนสักคำล่ะครับ ทำไมไม่เข้าใจดีนบ้าง"

"ดีนอิ่มแล้ว ดีนจะขึ้นห้อง" น้อยใจครับมีแค่คำเดียวเลยที่อธิบายความรู้สึกในตอนนี้ของผมได้

"หยุดนะดีน พ่อไม่ชอบคนไม่เปิดรับฟังอะไร กลับมานั่งที่เดิม”

"........" ผมที่กำลังจะลุกออกจากเก้าอี้ก็ต้องนั่งลงเหมือนเดิมเพราะรู้แจ้งถึงนิสัยส่วนตัวของผู้เป็นพ่อ

"พรุ่งนี้เย็นลุงเจตน์และครอบครัวจะมาทานข้าวเย็นที่นี่ หวังว่าลูกจะทำตัวดีๆ" คุณพ่อที่เหมือนจะไม่อยากให้เรื่องมันยืดเยื้อก็สรุปทุกอย่างรวบมัดเหมือนมัดมือชกผมเป็นกลาย

"ดีนปฏิเสธอะไรได้บ้างล่ะครับ" นั่นแหละครับผมปฎิเสธอะไรได้ด้วยเหรอ เพราะคำตัดสินของพ่อเป็นที่สิ้นสุดไง

ผมที่ตอนนี้อารมณ์แย่มาเต็มที่ก็ลุกขึ้นเดินไปชั้นสองทันทีก่อนที่เสียงเรียกของป้าจิ๋วจะตามมาติดๆ รอดีนอารมณ์โอเคกว่านี้แล้วกันนะครับป้า

"คุณหนูคะ คุณหนู" ป้าจิ๋วเรียกตามคุณหนูของเธออย่างเป็นห่วงพลางเดินตามไปดูอาการแต่กลับหยุดนิ่งเสียก่อนกับเสียงที่ดังขึ้นแทรก

"ปล่อยเขาไป" นายใหญ่ของบ้านพูดบอกเสียงเรียบก่อนจะถอนหายใจออกมากเฮือกใหญ่อย่างรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่าลูกตนต้องไม่พอใจกับสิ่งนี้เป็นแน่

แต่จะให้ทำยังไงได้เพราะสิ่งที่ตนมอบให้ก็เพื่อตัวลูกเองทั้งนั้น เอาเถอะข่มโคขืนให้กลืนหญ้ากันหน่อยจะเป็นอะไรไป

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ 1037

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

มาเฟียคลั่งรัก.

มาเฟียคลั่งรัก.

จินต์พิชา
5.0

“คุณรักฉันยอมรับมาเถอะ” “เปล่าเลย มิรันดา ผมไม่เคยรักคุณเลยสักนิด ที่ผ่านมามันก็แค่เรื่องเซ็กซ์ ให้ยืนยันอีกกี่ครั้งผมก็พูดเหมือนเดิม ผมไม่ได้รักคุณผมรักแค่เซ็กซ์ของคุณ” ************************* เพราะเสียคนรักจากการลอบทำร้ายของคู่อริเมื่อห้าปีก่อน มาร์คัสจึงไม่คิดจะรักใครอีก แต่เหมือนฟ้าจะกลั่นแกล้งเมื่อมาเจอกับมิรันดาสาวน้อยที่เขาใช้เงินซื้อมาเพื่อให้เธอเลิกยุ่งกับน้องเขยของตนเอง ชายหนุ่มทั้งทั้งหลง แต่ก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบเดิมเกิดขึ้นอีก เขาจึงคิดจะวางมือและถอนตัวจากธุรกิจสีเทา แต่การจะลงจากหลังเสือนั้นมันยากกว่าที่คิดไว้ ในเมื่อมีคนที่จ้องจะกำจัดเขาให้สิ้นซาก

หัวใจร่วงโรย

หัวใจร่วงโรย

Evelyn Hart
5.0

ลู่หลีเคยได้รับการช่วยชีวิตจากสามีของเธอ แต่หลังจากเขาสูญเสียความทรงจำ เขากลับลืมเธอเสียสนิท สามปีหลังจากแต่งงาน เพ่ยซือหานถึงกับนอกใจต่อหน้าผู้คน ทำให้เธอรู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก ลู่หลีรู้สึกผิดหวังมาก จากนั้นก็เซ็นเอกสารหย่าทันที ตั้งแต่นั้นมา เธอได้กลับมาเป็นหญิงสาวที่มีอำนาจอีกครั้ง หมอผีที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือเธอ ตำนานนักแข่งรถคือเธอ แฮกเกอร์ระดับโลกคือเธอ และนักออกแบบอัจฉริยะก็เป็นเธอเช่นกัน ต่อมา เพ่ยซือหานไม่เพียงแต่เสียใจจนสุดขีด แต่ยังฟื้นความทรงจำได้อีกด้วย เขาถึงกับบุกเข้าไปในงานแต่งงาน “เสี่ยวหลี ขอร้องเถอะ ให้โอกาสผมอีกครั้ง!” แต่เอวของลู่หลีถูกโอบกอดไว้โดยใครอีกคนหนึ่งที่มีอำนาจ เขาหัวเราะในลำคอว่า “ที่รัก มีคนที่กำลังเล่นกับไฟ”

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เมียบังหน้า
1

บทที่ 1 จุดเริ่มต้น

17/03/2022

2

บทที่ 2 พบเจอ

17/03/2022

3

บทที่ 3 สถานะที่กำลังเปลี่ยนไป

17/03/2022

4

บทที่ 4 มิชชั่น

17/03/2022

5

บทที่ 5 เปิดตัว

17/03/2022

6

บทที่ 6 สายตาที่มองมา

17/03/2022

7

บทที่ 7 กลโกง

17/03/2022

8

บทที่ 8 เกินคำบรรยาย

17/03/2022

9

บทที่ 9 ห้องน้ำ

17/03/2022

10

บทที่ 10 คุยกับเพื่อน

17/03/2022

11

บทที่ 11 เปลี่ยนไป

17/03/2022

12

บทที่ 12 แบ่งกิน

17/03/2022

13

บทที่ 13 กอด

17/03/2022

14

บทที่ 14 สัมผัส

17/03/2022

15

บทที่ 15 งานใหญ่

17/03/2022

16

บทที่ 16 ฉลองเข้าหอ

17/03/2022

17

บทที่ 17 ของขวัญชิ้นแรก

17/03/2022

18

บทที่ 18 ร่วมแสดงความยินดี

17/03/2022

19

บทที่ 19 ปากร้าย

17/03/2022

20

บทที่ 20 รังแก

17/03/2022

21

บทที่ 21 อีกรอบ

17/03/2022

22

บทที่ 22 คุณแม่สามี

17/03/2022

23

บทที่ 23 คนใจร้าย

17/03/2022

24

บทที่ 24 บุคคลที่ 3

17/03/2022

25

บทที่ 25 พบแพทย์

17/03/2022

26

บทที่ 26 ความพิเศษ

17/03/2022

27

บทที่ 27 ลดลง

17/03/2022

28

บทที่ 28 หนี

17/03/2022

29

บทที่ 29 มั่ว

17/03/2022

30

บทที่ 30 ไม่อยากเจอหน้า

17/03/2022

31

บทที่ 31 พ่อคน

17/03/2022

32

บทที่ 32 เอาใจ

17/03/2022

33

บทที่ 33 ไม่คาดคิด

17/03/2022

34

บทที่ 34 เฝ้ารอ

17/03/2022

35

บทที่ 35 การกลับมาอีกรอบ

17/03/2022

36

บทที่ 36 ดูแล

17/03/2022

37

บทที่ 37 การมาของเธอ

17/03/2022

38

บทที่ 38 ครบรอบ

17/03/2022

39

บทที่ 39 สัมผัสที่คิดถึง

17/03/2022

40

บทที่ 40 ครอบครัวของเรา (END)

17/03/2022