Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
39.1K
ชม
81
บท

เพราะเป็นลูกอนุที่ไร้ค่า บิดาบังเกิดเกล้าจึงยกเขาให้เป็นชายบำเรอของมหาอำมาตย์ แต่มหาอำมาตย์เกิดหัวใจวายตายในคืนเข้าหอ ทำให้เขาถูกตราหน้าว่าร่านราคะ และจะจับเขาฝังทั้งเป็น!

บทที่ 1 เด็กหนุ่มวัยละอ่อน

บทที่ 1

หลี่ชิง เด็กหนุ่มน้อยวัยสิบสี่ หน้าตาสะสวยราวกับเทพเซียน รูปร่างบอบบาง เพราะเพิ่งย่างเข้าสู่วัยแรกรุ่นดรุณ ผมดำขลับยาวสลวยปล่อยปรกหลังไหล่ สวมชุดไว้ทุกข์สีขาวผ้าเนื้อหยาบ แต่เขาไม่ได้เต็มใจจะไว้ทุกข์เลย…เขานั่งอยู่บนเตียงนอนเล็กๆ ในห้องแคบๆ ที่มีเพียงแสงริบหรี่จากเทียนไขเล่มเล็กเพียงเล่มเดียวเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อน ประตูหน้าต่างของห้องล้วนถูกล่ามโซ่คล้องกุญแจจากภายนอก

มีเพียงประตูห้องเท่านั้นที่เขาเป็นคนลงกลอนข้างในซ้ำเพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกเปิดพรวดพราดเข้ามาได้ตามอำเภอใจ

เสียงกุกกักดังมาจากนอกประตู…ทำให้เด็กหนุ่มเงยหน้ามอง

มีคนกำลังไขกุญแจด้านนอก…จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงขลุกขลักๆ เบาๆ ของความพยายามที่จะเปิดประตูเข้ามา แต่พยายามอยู่สักพักเมื่อไม่เป็นผล ก็เปลี่ยนมาเป็นเคาะประตูเบาๆ เรียกเสียงค่อยๆ ว่า

“เสี่ยวชิง เปิดประตูให้ข้าหน่อย”

“ใคร?” หลี่ชิงแกล้งถาม ทั้งๆ ที่จำเสียงของอีกฝ่ายได้

“ข้างเอง…เฉาฉุน” คนข้างนอกประตูจำใจต้องประกาศตัวด้วยเสียงดังกว่ากระซิบแค่นิดเดียว

“ดึกดื่นป่านนี้แล้ว คุณชายใหญ่มาที่นี่ทำไม?” เด็กหนุ่มกล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เสี่ยวชิง…พรุ่งนี้แล้ว เจ้าจะต้องถูกฝังทั้งเป็น เจ้าไม่กลัวหรือ?”

“กลัวหรือไม่ ก็ไม่ใช่เรื่องของท่าน?”

“ย่อมเป็นเรื่องของข้า” เสียงแหบทุ้มของเฉาฉุนเอ่ยอย่างร้อนรน “ข้าชอบเจ้า ข้าชอบเจ้ามากเสี่ยวชิง ขอเพียงเจ้ายอมข้า ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”

“ปกป้องข้าหรือ? ท่านจะใช้ฐานะอะไรมาปกป้องข้า” หนุ่มน้อยส่งเสียงเฮอะเบาๆ ก่อนจะกล่าวต่อ “ที่ข้าตกที่นั่งลำบากครั้งนี้ล้วนเป็นเพราะท่าน หากท่านมิมาวุ่นวายกับข้า จนบิดาของท่านไปดูตัวข้าแล้วเกิดความพึงพอใจ ออกปากกับ…” หลี่ชิงนั้นกล้ำกลืนคำว่า…บิดาของข้า…เอาไว้ไม่ยอมกล่าวออกมา “ออกปากกับอำมาตย์หลี่ อำมาตย์หลี่ก็คงไม่คิดจะเอาข้าเป็นบันไดใฝ่หาอำนาจด้วยการยกข้าให้เป็นชายบำเรอของมหาอำมาตย์เฉาฮั่วบิดาของท่าน…แล้วผู้ใดจะคาดคิดว่าเขาอยู่ๆ จะหัวใจวายตายโดยไร้สาเหตุ จนข้าถูกประนามว่าเป็นคนร่านราคะ ต้องถูกจับฝังทั้งเป็นไปพร้อมกับศพของเขา”

“ยามนี้ข้าได้สืบทอดตำแหน่งมหาอำมาตย์ต่อจากท่านพ่อผู้วายชนม์แล้ว ขอเพียงเจ้ายอมข้า ข้าจะกันเจ้าเอาไว้ ไม่ให้พวกเขาจับเจ้าฝังไปกับท่านพ่อ”

“หึ…ท่านทำได้หรือ?” น้ำเสียงของหลี่ชิงเยาะหยัน

“ข้าทำได้” เฉาฉุนกล่าวยืนยันหนักแน่น

แต่หลี่ชิงไม่เชื่อ เพราะอีกฝ่ายมากเล่ห์แสนกล เด็กหนุ่มคาดเดาในใจว่า...เฉาฉุนคงไม่ยอมเอาอนาคตของตนเองมาแลกกับชีวิตลูกอนุไร้ค่าอย่างเขาเป็นแน่ ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เพียงเพื่อหว่านล้อมให้เขายินยอมสมสู่ด้วยเท่านั้น หลังจากนั้นเขาจะถูกฝังทั้งเป็นหรืออย่างไร เฉาฉุนก็คงแค่เอามือไพล่หลังยืนมองเท่านั้น!

“เช่นนั้น…ท่านก็ช่วยให้ข้ารอดชีวิตจากการถูกฝังทั้งเป็นในวันพรุ่งนี้เสียก่อน เรื่องอื่นค่อยมาว่ากล่าวกันทีหลัง” หลี่ชิงกล่าวเสียงเรียบ

นอกประตูเงียบเสียงไปอึดใจหนึ่ง แล้วเสียงกุกกักของการคล้องโซ่ใส่กุญแจก็ดังขึ้น ต่อด้วยเสียงฝีเท้าก้าวห่างจากไป

เด็กหนุ่มถอนหายใจ…ชีวิตของเขาคงหนีไปพ้นวันพรุ่งนี้เป็นแน่แท้!

แต่ถึงต้องตาย…เขาก็ขอสาปแช่งให้จวนมหาอำมาตย์เฉาฮั่วกับจวนอำมาตย์หลี่ไฉพบกับความย่อยยับพินาศหมดสิ้นทั้งสองตระกูล!!!

หลี่ชิงนั่งอยู่ในความเงียบอีกพักใหญ่ ก็มีคนมาไขกุญแจปลดโซ่ประตู แต่พอเปิดประตูไม่ได้ ก็ทุบประตูโครมๆ ตะโกนว่า

“หลี่ชิงเปิดประตูเดี๋ยวนี้”

น่าจะเป็นเสียงคนรับใช้ชาย

หลี่ชิงจึงลุกจากเตียงที่นั่งอยู่ไปเปิดประตู พอประตูเปิดออกก็เห็นคนรับใช้ชายสองคนที่มีหน้าตาบูดบึ้งยืนอยู่

“ตามข้ามา” คนรับใช้คนหนึ่งเอ่ยเสียงห้วน แล้วคนรับใช้ชายทั้งสองก็จับต้นแขนของหลี่ชิงคนละข้างเอาไว้แน่น พาตัวไป

เด็กหนุ่มได้แต่คิด…พวกสารเลวนี่คงจะจับเขาไปใส่โลงตอกปิดฝาเตรียมไว้ฝังพรุ่งนี้เป็นแน่

แต่ผิดคาด…

คนรับใช้ทั้งสองลากตัวหลี่ชิงมาที่ห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลเฉา

ที่นั่น…มีคนผู้หนึ่งที่หลี่ชิงไม่รู้จักนั่งที่เก้าอี้ในตำแหน่งประธาน เป็นบุรุษหนุ่มวัยยี่สิบห้า หน้าตาหล่อเหลาคมคายอย่างยิ่ง ดวงตาคมกริบติดจะดุดัน รับกับมีสีหน้าเย็นชากระด้าง รูปร่างกำยำสูงใหญ่ แต่งกายหรูหราประณีต อย่างผู้สูงศักดิ์

ส่วนเฉาฉุนที่มีตำแหน่งเป็นมหาอำมาตย์และเจ้าบ้านในเวลานี้ กลับยืนอยู่ข้างๆ อย่างสงบเสงี่ยม

พอหลี่ชิงถูกนำตัวมา ก็ถูกบังคับให้คุกเข่าลงที่กลางห้องโถงตรงหน้าชายสูงศักดิ์คนนั้น

“เสี่ยวชิง…เอ้อ…หลี่ชิง” เฉาฉุนเอ่ยอย่างไม่ทันระวังก่อนจะรีบเปลี่ยนคำเรียกหาเพราะอยู่ต่อหน้าบุคคลอื่น “รีบโขกศีรษะคารวะไท่ชินอ๋อง” (ชินอ๋อง=ตำแหน่งสูงสุดของอ๋อง มีคำว่า “ไท่” ที่แปลว่ายิ่งใหญ่นำหน้า จึงเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้นไปอีก ใช้เฉพาะในเรื่องนี้เท่านั้น)

บุรุษตรงหน้านี้คือไท่ชินอ๋องหรือ?

ไท่ชินอ๋องผู้มีอำนาจสูงสุดในแผ่นดินหนานหยางนี้หรือ!

ผู้มีอำนาจเหนือกว่าฮ่องเต้เสียอีก!!!

หลี่ชิงคิดจะเสี่ยงดวงดู…หากได้ผลก็รอด หากไม่ได้ผลก็แค่ตาย…จะอย่างไรเขาก็ต้องตายอยู่แล้วนี่นา

เด็กหนุ่มนิ่งเฉย ไม่ยอมโขกศีรษะ

เฉาฉุนร้อนใจ ลอบโบกมือให้คนรับใช้ชายทั้งสองที่นำตัวหลี่ชิงมา และยืนสงบเสงี่ยมอยู่ด้านข้าง

ทั้งสองสมกับเป็นคนรับใช้มานานปี พอเห็นสัญญาณก็ตรงเข้ามาจะจับหลี่ชิงโขกศีรษะ

“ไม่ต้อง” ไท่ชินอ๋องส่งเสียงห้าม…คนมีอำนาจ แม้แต่เสียงก็ยังทรงอำนาจ

คนรับใช้ทั้งสองรีบคำนับแล้วกลับไปยืนอยู่ด้านข้างตามเดิม

“ทำไมเจ้าไม่ยอมคารวะข้า?” ไท่ชินอ๋องถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่แสดงอารมณ์ใดใด พลางยกน้ำชาขึ้นจิบ

“คารวะท่านแล้วมีประโยชน์อันใด?” หลี่ชิงใช้น้ำเสียงเดียวกันถาม…แต่เพราะยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยละอ่อนอยู่ เสียงที่ใช้จึงมิได้เข้มแข็งมีอำนาจมากเท่า

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ รวิวร

ข้อมูลเพิ่มเติม
อาเฟย

อาเฟย

นิยายวาย

5.0

อาเฟย เป็นเด็กกำพร้าที่ไม่รู้ว่า พ่อแม่เป็นใคร เขาถูกทิ้งไว้ในพงหญ้าข้างทางตั้งแต่แรกเกิด และถูกชาวบ้านเก็บได้ ก่อนที่จะกลายเป็นเหยื่อของสัตว์ใหญ่น้อย ทว่าชาวบ้านที่เก็บเขาได้ก็ไม่มีปัญญาจะเลี้ยงดูเขา จึงนำเด็กน้อยไปขายให้แก่จวนชินอ๋อง ด้วยราคา 20 ตำลึงเงิน นับแต่นั้น...อาเฟยก็เติบโตขึ้นมาพร้อมกับปณิธานว่า จะเก็บเงินไถ่ตัวของตนเอง และสร้างเนื้อสร้างตัว เป็นอิสระและแข็งแกร่ง!!! แต่อนิจจา...ปณิธานของอาเฟยถูกอ๋องสี่ ผู้มีร่างสูงใหญ่แข็งแรง กล้ามเนื้อทรงพลัง คอยบั่นทอน ด้วยการจับอาเฟยหนีบรักแร้!!! อาเฟย เป็นนิยายเน้นฮา ไม่เน้นสาระ รี้ดทุกท่านถ้าพร้อมแล้ว เชิญอ่านกันเลยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

พระชายาสารพัดพิษ

พระชายาสารพัดพิษ

โรแมนติก

5.0

"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"

ไม่เล่นแล้ว ฉันคือคุณนาย

ไม่เล่นแล้ว ฉันคือคุณนาย

โรแมนติก

5.0

ในช่วงสามปีที่หลูเฉียนหนิงอยู่ข้างๆ เขา โจวเป่ยจิ้งคิดอยู่เสมอว่าเธอเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษ เธอต้องการเงินเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่ และจะไม่มีวันจากตนเองไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เงินแลกกับความต้องการอย่างชัดเจน ในที่สุด เมื่อเขาเกือบจะหลงใหลนั้น หลูเฉียนหนิงก็ไม่อดทนอีกต่อไป "มีคนรักในใจแล้ว ยังนอนกับฉันทุกวัน คุณชั่วชัดๆ" เมื่อข้อตกลงการหย่าถูกโยนต่อหน้าต่อตา โจวเป่ยจิ้งก็ตระหนักว่าภรรยาลึกลับที่เขาแต่งงานเมื่อหกปีที่แล้วกลับคือเธอ? จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ขึ้นชื่อเป็นชายเจ้าชู้อละตามจีบภรรยาทั้งยังเอาเปรียบเธอ! เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยทัศนคติที่เผด็จการและเอาใจเธออย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนรังเกียจที่เธอมีภูมิหลังที่ต่ำต้อย เขาก็มอบทรัพย์สินและหุ้นของตระกูลทั้งหมดอย่างตรงๆ และเข้าไปอยู่บ้านของตระกูลหลู จู่ๆ เธอก็กลายเป็นประธานหลู ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินนับไม่ถ้วน และทุกคนอิจฉา แต่โจวเป่ยจิ้งกลับตกลงไปในวังวนที่ใหญ่กว่านั้น...

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ลูกอนุ (Boy Love)
1

บทที่ 1 เด็กหนุ่มวัยละอ่อน

06/04/2022

2

บทที่ 2 ชายบำเรอของตาเฒ่าตัณหา

06/04/2022

3

บทที่ 3 จวนอำมาตย์หลี่

06/04/2022

4

บทที่ 4 ปรนนิบัติ

06/04/2022

5

บทที่ 5 เกิดอารมณ์

06/04/2022

6

บทที่ 6 ถูกกัด

06/04/2022

7

บทที่ 7 ไท่ชินอ๋อง

06/04/2022

8

บทที่ 8 พระชายาผู้สูงศักดิ์งดงาม

06/04/2022

9

บทที่ 9 ถูกสามีตบหน้า

06/04/2022

10

บทที่ 10 สมุดบัญชี

06/04/2022

11

บทที่ 11 สามีนวดให้

06/04/2022

12

บทที่ 12 ไม่เคยให้ความรัก

06/04/2022

13

บทที่ 13 หลงใหลความสวยงาม

06/04/2022

14

บทที่ 14 ทวงความยุติธรรม

06/04/2022

15

บทที่ 15 ทวงความยุติธรรม 2

06/04/2022

16

บทที่ 16 รายชื่อผู้สนับสนุน

06/04/2022

17

บทที่ 17 พระชายารอง

06/04/2022

18

บทที่ 18 อธิบายให้ฟัง

06/04/2022

19

บทที่ 19 บ่าวพันตำลึง

06/04/2022

20

บทที่ 20 กุ้ยหวางเฟย

06/04/2022

21

บทที่ 21 เกิดอะไรขึ้น

06/04/2022

22

บทที่ 22 กลิ่นเพชฌฆาต…

06/04/2022

23

บทที่ 23 เจ้ากรมพิธีการ

06/04/2022

24

บทที่ 24 ยังไม่อยากตาย

06/04/2022

25

บทที่ 25 ตัวหายนะที่น่ารังเกียจ

06/04/2022

26

บทที่ 26 กุ้ยหวางเฟยของข้ากลายเป็นแมว

06/04/2022

27

บทที่ 27 เคราะห์ร้าย

06/04/2022

28

บทที่ 28 กิตติศัพท์

06/04/2022

29

บทที่ 29 เรื่องน่ากลัว

06/04/2022

30

บทที่ 30 การปฏิญาณ!

06/04/2022

31

บทที่ 31 ซองจดหมายสามซอง

06/04/2022

32

บทที่ 32 ลาออกจากตำแหน่ง

06/04/2022

33

บทที่ 33 ปรึกษาหารือ

06/04/2022

34

บทที่ 34 เตรียมบ้านหลังใหญ่

06/04/2022

35

บทที่ 35 หาเรื่องเดือดร้อน

06/04/2022

36

บทที่ 36 ท่าเจ้าสาว

06/04/2022

37

บทที่ 37 บำรุงความงาม

06/04/2022

38

บทที่ 38 วิ่งหนีสุดฝีเท้า...

06/04/2022

39

บทที่ 39 หมดทางสู้

06/04/2022

40

บทที่ 40 กระซิบข้างหู

06/04/2022