เป็นพ่อม่ายเรือแฝดพ่วงเมียตายมาได้ตั้งหลายปี 'หัสดิน' ก็หมายมั่นปั้นมือด้วยความมั่นใจหลายเบอร์ว่าเขาจะไม่แต่งงานใหม่อีกแล้ว มีปัญญาเลี้ยงลูกแฝดอย่าง 'แก้วตา' กับ 'หวานใจ' ด้วยตัวเองคนเดียวได้ แต่ความงานก็ต้องทำ ลูกก็ต้องเลี้ยง ทำให้เขาหัวหมุนจนจัดสรรชีวิตตัวเองและลูกๆ ไม่ได้ และเพราะชีวิตเริ่มเป๋ ก่อนจะม่องเท่งก่อนวัยอันควร แม่บังเกิดเกล้าของเขาจึงต้องหาพี่เลี้ยงมาช่วยเป็นลูกมือดูแลพวกตัวแสบอีกแรง 'ปั้นหยา' โผล่มาพร้อมเคลมตัวเองว่าเป็นพี่เลี้ยงเด็กมือฉมัง แต่หัสดินกลับไม่ถูกชะตาเธอเอาเสียเลยตั้งแต่แรกพบ 'เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้เด็กๆ' คำนี้ผุดพรายขึ้นในหัวตลอดเวลา เพียงแต่ปฏิเสธความหวังดีของคุณแม่จอมเผด็จการไม่ได้ ทั้งสองแสบยังจะติดพี่เลี้ยงคนนี้งอมแงมอีก! ไม่ได้การละ ปฏิบัติการแงะตัวอย่างไม่ดีอย่างปั้นหยาออกจากลูกลิงของเขาต้องเริ่มขึ้นแล้วล่ะ!
เคยได้ยินใครต่อใครพูดบ่อยๆ ตั้งแต่เด็กยันโตว่าการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้โตขึ้นมาเป็นคนที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย หัสดินรู้เรื่องนี้ดีและไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งนั้น เขาตระหนักรู้ดีตั้งแต่ที่แม่คอยบ่นคอยจ้ำจี้จ้ำไชเขาให้โตขึ้นมาได้ดิบได้ดีอย่างทุกวันนี้ตั้งแต่ที่พ่อเสียชีวิตไปตอนเขาเพิ่งขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งแล้ว ยิ่งมามีลูกแฝดหญิงสองคนอย่างแก้วตากับยาใจ เขายิ่งรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทั้งยังตระหนักรู้ซึ้งกว่าเดิมเป็นเท่าตัวเมื่อภรรยาได้จากเขาไปจากการคลอดลูกแฝดเมื่อห้าปีก่อน ทำให้ชายหนุ่มต้องตรากตรำทำงานเพื่อที่จะเลี้ยงลูกให้เติบโตขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
เรื่องหาเงินน่ะไม่เท่าไรหรอก สถาปนิกหนุ่มไฟแรงอย่างเขา ทำงานหามรุ่งหามค่ำได้สบาย แต่เพราะจะทั้งทำงานชนิดยอดมนุษย์ไปด้วย แล้วจะเลี้ยงลูกทั้งสองคนด้วยตัวเองด้วย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย จากที่ไม่ค่อยได้นอนอยู่แล้ว กลายเป็นไม่ได้นอนเข้าไปใหญ่ หัสดินนึกไม่ออกเลยว่าครั้งสุดท้ายที่เขาได้นอนเต็มอิ่มนั้นมันเมื่อไร รู้แต่ว่ามีลูกคนเดียวก็เลี้ยงโคตรเหนื่อยแล้ว พอมีถึงสอง ความเหนื่อยยิ่งทวีคูณกว่าเดิมเป็นเท่าตัว บางวันเขาเบลอไปหมด ไม่รู้ว่าจะทำอะไรลำดับก่อนหลังดี บ้างก็หลงๆ ลืมๆ ลืมไปรับลูกบ้าง ลืมพาลูกไปส่งโรงเรียนบ้าง เป็นอย่างนี้ประจำจนมารดาชักทนไม่ไหว ยื่นคำขาดมาให้เขา
‘ลูกช้าง! แกต้องหาพี่เลี้ยงเด็กมาช่วยแล้วนะ เป็นอย่างนี้จะตายก่อนวัยอันควรนะโว้ย!’
แม่วะๆ โว้ยๆ อย่างนี้เสมอให้เขาได้เอ็ดว่าอย่ามาพูดต่อหน้าลูกๆ ให้เป็นตัวอย่างไม่ดี แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับการถูกมารดาถลึงตาใส่แล้วชี้หน้าบ่น
‘ถ้าแกอยากมีชีวิตอยู่ดูแลยัยแก้วตาหวานใจไปนานๆ แกต้องรู้จักบริหารเวลาให้ดี สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือต้องพักผ่อนให้เพียงพอ สุขภาพไม่ดี ตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ แบบนี้จะเอาเวลาไหนไปเลี้ยงลูกให้ดีได้วะ เด็กๆ เหลือแกคนเดียว อย่ารีบตายก่อนวัยอันควร!’
บ่นวนไปวนมาเรื่องนี้ไม่ยอมหยุด ซึ่งที่มารดาพูดนั้นก็ถูก หัสดินไม่เถียงสักคำ แต่เขาดื้อเงียบ ยืนกรานว่าจะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ไม่รู้ว่าเอาพี่เลี้ยงมาแล้ว จะดูแลลูกได้ดีเท่าเขาหรือเปล่า แล้วไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ส่วนปัญหาการหลงๆ ลืมๆ ของเขานั้น เขาแก้ปัญหาด้วยการจ้างรถนักเรียนไปรับ - ไปส่งเรียบร้อย ทว่าปัญหาที่แก้ไม่ตกก็คือ...สองแฝดสาวนั้นนอกจากจะแสบแล้ว ยังไม่ค่อยชื่นชอบพ่ออย่างเขาสักเท่าไรนี่สิ หัสดินปวดกบาลมาก
ไม่ค่อยชื่นชอบอย่างไร หัสดินอธิบายไม่ถูก อาจด้วยเพราะเขาเป็นผู้ชาย การเข้าหาลูกๆ นั้นออกแนวแข็งๆ สักหน่อย ต่อให้พูดจาหวานหูคะขาตลอด ก็ใช่ว่าเด็กๆ จะชอบอยู่ใกล้เขา อ้อ นึกออกแล้ว แม่ของเขาบอกว่าเขาชอบทำหน้าบึ้ง เด็กๆ เลยกลัว รู้สึกถึงความไม่เป็นมิตร แต่เขาอยากเถียงขาดใจเลยว่าก็หน้าตาเหมือนแม่นั่นละ ถึงได้ดูไม่เป็นมิตร แต่...พอแม่เขาปรากฎตัวในยามที่เขาเอาแก้วตาหวานใจไม่อยู่ทีไร เด็กๆ ยอมศิโรราบลดความดื้อด้านลงทุกที
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เขาหน้าตาเหมือนแม่แล้วดูไม่เป็นมิตรอะไรแล้วล่ะ ปัญหาอยู่ที่ตัวเขาเองที่เข้ากับลูกๆ ไม่ได้มากกว่า
คิดครุ่นไม่ตกเลยทีเดียวว่าจะทำอย่างไรให้ลูกๆ อุ่นใจเวลาอยู่กับพ่ออย่างเขาได้ ทั้งเอาใจ ทั้งประคบประหงม ทั้งให้เวลามากขึ้น ทำทุกวิถีทางแล้ว ทว่ายังไม่อาจทำให้เด็กๆ ยอมเชื่อฟังเขาเหมือนที่เชื่อฟังแม่เขาไม่ได้
ปวดหัวปวดกบาล จะทำอย่างไรดีนะ!?
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาต้องรับศึกหนัก ไม่รู้ว่าเกิดอาเพศอะไรขึ้น รู้แต่ว่าทันทีที่แก้วตาหวานใจกลับมาจากโรงเรียน ทั้งคู่ก็พากันร้องไห้กระจองอแงกันยกใหญ่ ด้วยสัญชาตญาณความเป็นพ่อ หัสดินเดาว่าคงจะถูกเพื่อนที่โรงเรียนแกล้ง เลยโทรไปสอบถามครูประจำชั้นอย่างละเอียด ก่อนพบว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งนั้น มาสำรวจเนื้อตัวลูกๆ ก็ไม่มีร่องรอยอะไรใดๆ ที่ทำให้ระแวงสงสัยได้เลยว่าถูกใครที่โรงเรียนรังแกมา ถามแล้วว่าอยากไปโรงเรียนไหมเพื่อทดสอบดูความรู้สึกนึกคิดของเด็ก ด้วยเขาคิดอยู่ตลอดว่าเด็กๆ จะไม่โกหก ก็...ไม่มีอะไรน่ากังวลใจ ยกเว้น...
“แก้วตาไม่อยากอยู่กับคุณพ่อค่ะ ฮึก...”
“หวานใจก็...ก็ไม่อยาก ฮือ...”
...เรื่องนี้ล่ะที่ทำให้หัสดินกุมกบาล
“ไม่อยากอยู่กับคุณพ่อ แล้วหนูๆ อยากจะไปอยู่ไหนล่ะคะ”
“อยากอยู่กับคุณย่า”
“ไม่เอาคุณพ่อแล้ว อยากไปหาคุณย่า”
จากนั้นสองสาวพลันผนึกกำลังแหกปากลั่นบ้านหลายเดซิเบล หัสดินไม่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้ลูกๆ ถึงไม่อยากอยู่กับเขา ก่อนหน้าที่จะขึ้นอนุบาลสามกัน ความสัมพันธ์ของเขากับลูกๆ ก็ดีนี่นา มีอะไรกันแน่นะ?
ถึงจะยังคิดอะไรไม่ออก แต่ปัญหาในตอนนี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขก่อน หัสดินกุมหัวแล้ว กุมหัวอีก กว่าจะทำให้สาวๆ สยบลงได้ เล่นเอาเสียค่ำมืด มันจบท้ายด้วยการเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนนั่นละ และ...ใช่...เด็กๆ ไม่ได้นอนหลับเพราะเขาเล่านิทานให้ฟัง ไอ้เรื่องเล่านิทานเนี่ยนะ บอกได้เลยว่าสงครามมาก เล่าเรื่องนั้นก็ไม่ชอบ เล่าเรื่องนี้ก็ไม่ดี ที่พากันหลับปุ๋ยไปนั้นเป็นเพราะร้องไห้กันจนเหนื่อยแล้วหลับไปเองน่ะ
บทที่ 1 เลี้ยงลูกไม่ง่ายเลย 1
17/04/2022
บทที่ 2 เลี้ยงลูกไม่ง่ายเลย 2
17/04/2022
บทที่ 3 พี่เลี้ยงคนใหม่ 1
17/04/2022
บทที่ 4 พี่เลี้ยงคนใหม่ 2
17/04/2022
บทที่ 5 พี่เลี้ยงคนใหม่ 3
17/04/2022
บทที่ 6 เรื่องอาหารการกิน
17/04/2022
บทที่ 7 ไม่ถูกชะตากับพี่เลี้ยง
17/04/2022
บทที่ 8 หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่
17/04/2022
บทที่ 9 ตัวอย่างที่ดีของลูกๆ
17/04/2022
บทที่ 10 เครื่องบินกระดาษ
17/04/2022
บทที่ 11 แก้วตากับหวานใจ
17/04/2022
บทที่ 12 ไอเดียของปั้นหยา
17/04/2022
บทที่ 13 ความสัมพันธ์เชิงชู้สาว
17/04/2022
บทที่ 14 รูปของความรัก
17/04/2022
บทที่ 15 ลุ้นระทึก
17/04/2022
บทที่ 16 เรื่องผีพิลึก
17/04/2022
บทที่ 17 นิยายโป๊
17/04/2022
บทที่ 18 ขยำหน้าอกหน้าใจ
17/04/2022
บทที่ 19 ลูกช้าง
17/04/2022
บทที่ 20 บางทีอาจจะ...รัก
17/04/2022
บทที่ 21 ความลับของคุณพี่เลี้ยง 1
17/04/2022
บทที่ 22 ความลับของคุณพี่เลี้ยง 2
17/04/2022
บทที่ 23 ความลับของคุณพี่เลี้ยง 3
17/04/2022
บทที่ 24 ความลับของคุณพี่เลี้ยง 4
17/04/2022
บทที่ 25 หันหลังให้กัน
17/04/2022
บทที่ 26 แผนการ
17/04/2022
บทที่ 27 คิดถึง
17/04/2022
บทที่ 28 ตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า
17/04/2022
บทที่ 29 บทส่งท้าย (จบ)
17/04/2022
หนังสืออื่นๆ ของ หนูแดง หนูแดงตัวน้อย
ข้อมูลเพิ่มเติม