Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ป่วนรักข้ามเวลา

ป่วนรักข้ามเวลา

Zuily

5.0
ความคิดเห็น
2.7K
ชม
23
บท

หลังจากเสร็จพิธีศพปู่ทวดของเธอ เธอได้รับมรดกเป็นสร้อยคอเส้นหนึ่งจากปู่ทวด ทำให้เธอเริ่มมองเห็นสิ่งผิดปกติรอบตัว หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนจะวิ่งฝ่าสายฝนไป เสียงหนักทุ้มของชายคนหนึ่งตะโกนไล่หลังหญิงสาว ใบหน้าหล่อเหลาภายใต้หมวกที่ปิดบังใบหน้าไว้ เสื้อผ้าเปียกลู่แนบไปกับรูปร่างทำให้ชายหนุ่มโดดเด่นท่ามกลางผู้คน ชายหนุ่มขยับหมวกให้เข้าที่ พร้อมหยิบภาพที่หญิงสาวที่ทำหล่นไว้ขึ้นมา โชคชะตาได้หมุนเวียนให้เขาและเธอกลับมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง… ความวุ่นวายกำลังจะเกิดขึ้นกับเขาเธอ เรื่องราวจะเป็นเช่นไรโปรดติดตามใน ป่วนรักข้ามเวลา 

บทที่ 1 การสูญเสียคนที่รัก

ครื้นนนน ครื้นนนนนนน

เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือดังเข้ามาไม่ขาดสาย

“ นี่คุณธัญนิศญาน์ คุณออกไปรับสายก่อนดีไหม ! ” เสียงตวาดเข้มดังมาจากหัวโต๊ะประชุม ทุกคนในห้องหันมองหญิงสาวร่างเล็กเป็นตาเดียว

“ ค่ะหัวหน้า ขออนุญาตรับโทรศัพท์สักครู่นะคะ ”

ธนิรีบหยิบโทรศัพท์ปรี่ออกจากห้องด้วยความเร็วสูงสุดในชีวิตพร้อมความรู้สึกร้อนวูบจากสายตาของหัวหน้าเเละรุ่นพี่ที่มองตามหลังมา

“ ฮัลโหลม๊า หนูประชุมอยู่มีเรื่องด่วนไหมม๊า ?! ถ้าไม่ด่วนวันนี้หนูจะไม่ซื้อขนมที่ม๊าวานให้หนูไปซื้อให้นะ ” ธนิรับสายด้วยความหงุดหงิดเเกมบ่นให้กับปลายสาย

“ วันนี้รีบกลับนะลูก เหล่ากงเสียแล้ว..ม๊าจะรอที่บ้านนะ ”

สิ้นเสียงจากปลายสาย หญิงสาวเงียบ ไม่มีคำพูดใด ๆ ความรู้สึกจุกในอกจนน้ำตาพาลจะไหลเสียให้ได้ กระทั่งอีกฝ่ายวางสายไป หลังจากรู้ข่าวท่ามกลางความรู้สึกหนักอึ้งหญิงสาวเดินกลับเข้าไปนั่งในห้องประชุมเช่นเดิม

การประชุมสำคัญ แม้กระทั่งข่าวการตายของเหล่ากง ยังไม่สำคัญเท่าก็ธนิเป็นลูกน้องเขานี่

หลังประชุมเสร็จ

ก๊อก ก๊อก ..

“ ขออนุญาตค่ะหัวหน้า วันนี้ขอเลิกงานเร็วนะคะ ญาติที่บ้านเสียค่ะ ขอยื่นใบลางาน 7 วันกลับไปทำพิธีที่ต่างจังหวัดค่ะ ”

สิ้นเสียงสั่นเครือของหญิงสาว ชายหนุ่มวัยกลางคนรูปร่างหน้าตาภูมิฐานในชุดสูทสีกรมเงยหน้ามองหญิงสาวตากลมโต ผมตรงยาวดำขลับ ปากที่สั่นเครือทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอยากเข้าไปปลอบใจหญิงสาวตรงหน้าแต่เหมือนมีเส้นบางๆกั้นไว้ แววตาที่เด็ดเดี่ยวสวนทางกับเสียงสั่นเครือของเธอ เธอกำลังรู้สึกยังไงกันแน่ ชายหนุ่มคิดในใจ

“ หัวหน้าคะ หัวหน้า ”

หญิงสาวเรียกชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง หลังจากที่ชายหนุ่มที่เธอเรียกว่าหัวหน้าเอาเเต่จ้องมองเธอไม่เซ็นเอกสารให้เธอสักที

ชนแดน รัตนสกุล ซีอีโอหนุ่มบริษัทเครื่องดื่มหน้าใหม่ไฟแรงผู้เป็นที่หมายปองของสาว ๆ ผลประกอบการที่ทำกำไรแบบก้าวกระโดดทำให้เป็นที่จับตามองในเเวดวงธุรกิจ นักธุรกิจหลายคนต้องการได้มาเป็นคู่หมั้นให้กับลูกสาวของตนเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเรียกว่าเป็นหนุ่มหล่อวัยสามสิบปลาย ๆ ที่ฮอตในที่สุดในเวลานี้ เเต่ด้วยนิสัยแปลก ๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของเขาทำให้ธนิรู้สึกไม่ชอบหน้าสักเท่าไหร่ แต่จะทำอย่างไรได้เล่าก็ต้องทำงานกับเขาพบหน้าเขาทุกวัน

“ ผมเซ็นให้เรียบร้อย คุณจะหยุดมากกว่านั้นก็ได้เเค่โทรมาขออนุญาตผมก่อนก็พอ ส่วนงานผมจะเก็บไว้ให้เท่าที่คุณขอลาจะได้ไม่เอาเปรียบคนอื่นที่เขามาทำงานเเล้วกันแต่หาก กลับมาอย่าบ่นว่างานหนักนะ”

ชายหนุ่มพูดพร้อมหยอกเย้าหวังให้หญิงสาวตรงหน้าคลายกังวลไปบ้าง

“ ขอบคุณค่ะหัวหน้า ! ”

ธนิกลับคิดเป็นจริงเป็นจัง ด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อ ทำให้หญิงสาวรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของชายหนุ่มเล็กน้อย

“ วันหยุดที่ไม่ได้หยุดสินะ อย่างที่เขาพูดกันว่าบริษัทไม่รักเราเหมือนครอบครัวคงจะจริง ”

ธนิบ่นอุบในใจพร้อมกับเดินจากห้องไป ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ จากท่าทางของหญิงสาว โดยไม่รู้เลยว่าเธอรู้สึกอย่างไรบ้าง

หลังเสร็จพิธีศพ

หลังความวุ่นวายกับการรับแขกที่มาอำลาปู่ทวด(เหล่ากง) หญิงสาวได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้าย ธนิไม่เคยร้องไห้ออกมาให้ใครได้เห็นน้ำตาของเธอเลยตลอดช่วงเวลาทำพิธีแม้เเต่คนที่เธอเรียกว่าเเม่ เธอยิ้มรับเเขกผู้ใหญ่กล่าวต้อนรับทั้งภาษาไทยภาษาจีนอย่างคล่องแคล่ว เเขกหลายคนเอ่ยปากชมว่าเธอเป็นเด็กที่พูดภาษาจีนได้เก่งสมกับที่เหล่ากงหอบเสื่อผืนหมอนใบมาจากเมืองจีนเลี้ยงเธอมาจริงเชียว

แหงล่ะ เหล่ากงไม่เคยพูดภาษาไทยกับเรานี่น่า หญิงสาวคิดในใจ เธอนั่งกอดรูปถ่ายของปู่ทวดที่เลี้ยงดูเธอมา ภาพความทรงจำเก่า ๆ วนเวียนอยู่ในหัวของเธอ เสียงคุยกันระหว่างเธอกับเหล่ากงไม่ว่าจะเป็นวันที่เธอร้องไห้หรือหัวเราะดีใจ คนที่คอยเป็นกำลังใจ คอยนำทางคือเหล่ากงที่ธนิรักและเคารพที่สุด คอยปลอบใจเเละคอยเป็นที่ปรึกษาในวันที่เธอไม่เข้าใจโลกนี้ไม่มีอีกเเล้ว

เสียงร้องสะอึกสะอื้นจากหญิงสาวที่ก้มหน้าก้มตากอดรูปถ่าย เล็ดลอดผ่านประตูห้องนอนถึงแม้จะพยายามสะกดกลั้นความรู้สึกเศร้าโศกเท่าไหร่ เธอกลับรู้สึกราวกับว่าเธอถูกทอดทิ้งไว้ท่ามกลางความวุ่นวายของโลกที่เธอเกลียดเพียงคนเดียว นับจากนี้เป็นต้นไปและคงจะตลอดไป…

เช้าวันต่อมา.. พิธีเปิดอ่านพินัยกรรม

ทนาย : พินัยกรรมฉบับนี้ทำโดย นาย

@##$%%^!!!!$%^#&!!#%%*&*(!!@#$#% ขอมอบเงินในบัญชีจำนวน 500,000 บาทเเละสร้อยประจำตระกูลให้นางสาวธัญนิศญาน์ ตั้งศิริเจริญชัย เก็บรักษาไว้โดยมิอนุญาตให้ผู้อื่นผู้ใดครอบครองหรือเข้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับสร้อยเส้นนี้ ยกเว้นการส่งต่อให้บุตรของนางสาวธนิศญาน์เท่านั้น ……

จบคำอ่านพินัยกรรม หลังอ่านพินัยกรรมจบลงทนายได้นำกล่องเครื่องประดับจีนโบราณขึ้นมามอบให้หญิงสาว

“ คุณธนิอย่าพึ่งเปิดกล่องนะครับ คุณปู่ทวดท่านสั่งว่าให้คุณใส่ไว้ตลอดเเละสร้อยเส้นนี้เป็นของคุณมาตั้งเเต่แรก ”

หลังพูดจบทนายได้เดินเเยกไป การจัดการมรดกเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว แม่ของเธอค่อนข้างไม่พอใจที่เหล่ากงไม่มีสมบัติให้แม้แต่ชิ้นเดียว แต่กลับมอบสมบัติให้กับธนิเพียงคนเดียว

หลังทุกอย่างเสร็จสิ้น ในห้องนอนที่มืดสลัว บรรยากาศเศร้าสร้อยยังไม่หายไป

ธนิเปิดกล่องเครื่องประดับโบราณที่เหล่ากงมอบให้เธอออกมา เธอจ้องมองสร้อยคอทองห้อยจี้หยกสีแดงประหลาดตาต่างจากจากหยกที่เคยเห็นมา

“สวยมาก” น้ำตาของธนิปริ่มขอบตา

" คิดถึงจัง" หญิงสาวเอ่ยเบา ๆ ความรู้สึกคิดถึงสุดหัวใจเกิดขึ้นภายในใจของธนิราวว่าได้พบบางสิ่งที่ขาดหายไปนานแสนนาน

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ห้ามหย่า

ห้ามหย่า

Bronson Heiss
5.0

ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
4.9

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ป่วนรักข้ามเวลา
1

บทที่ 1 การสูญเสียคนที่รัก

23/04/2022

2

บทที่ 2 ความฝัน

23/04/2022

3

บทที่ 3 ด้ายแดงแห่งโชคชะตา

23/04/2022

4

บทที่ 4 ฮูหยินคนใหม่

23/04/2022

5

บทที่ 5 สายตาจับจ้อง

23/04/2022

6

บทที่ 6 ชาดอกโบตั๋น

23/04/2022

7

บทที่ 7 องค์หญิงเก้า

23/04/2022

8

บทที่ 8 ความลับเปิดเผย

23/04/2022

9

บทที่ 9 หึงหวง

23/04/2022

10

บทที่ 10 ฮ่องเต้

23/04/2022

11

บทที่ 11 ประกาศจับกุม

23/04/2022

12

บทที่ 12 ตั้งใจแน่วแน่

23/04/2022

13

บทที่ 13 คำตัดสิน

23/04/2022

14

บทที่ 14 ภพข้า

23/04/2022

15

บทที่ 15 พบกันอีกครา

23/04/2022

16

บทที่ 16 ภพเรา

23/04/2022

17

บทที่ 17 จดหมายแด่เจ้าผู้เป็นที่รัก

23/04/2022

18

บทที่ 18 ความในใจ

23/04/2022

19

บทที่ 19 ความสัมพันธ์

23/04/2022

20

บทที่ 20 จบเพื่อเริ่มใหม่

23/04/2022

21

บทที่ 21 สืบหาความจริง

23/04/2022

22

บทที่ 22 สายฝนพรำ

23/04/2022

23

บทที่ 23 คำอำลา

23/04/2022