icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
4.8
ความคิดเห็น
68.6K
ชม
53
บท

"นอนกับพ่อก็นอนมาแล้วแค่นอนกับลูกอีกคนมันจะเป็นไรไป!ว่ามั้ย?" ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากอย่าเย้ยหยัน มองสำรวจเรือนร่างเปลือยเปล่าของคนใต้ร่างที่นอนตัวสั่นน้ำตาไหลอาบสองแก้ม สไนเปอร์ ปรมะ โชติฐิติเมธานนท์ เจ้าของใบหน้าหล่อสังหาร ผู้จัด/ผู้กำกับ ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เขาเด็ดขาดไม่กลัวใครเวลางานคืองาน ใครที่ได้ร่วมงานด้วยต้องตั้งใจและจะประสบความสำเร็จทุกราย ถือว่าเป็นมาเฟียในวงการ เย็นชา เคร่งขรึมกับทุกคนยกเว้นคนในครอบครัว นับดาว หฤทย์ณิศา เอกอนันต์ เด็กสาวเจ้าของรอยยิ้มโลกละลาย ถึงฐานะทางบ้านจะไม่สู้ดี แต่รอยยิ้มของเธอทำให้พ่อและคนรอบข้างมีความสุข เธอสดใส อัธยาศัยดี ขี้เล่น ความฝันคือการได้โปรดิวเซอร์มือหนึ่ง แต่ด้วยเหตุไม่คาดคิดเธอตั้งรับไม่ทัน ด้วยความ ลำบากการแบ่งแยก การเอาเปรียบ เธอเป็นได้แค่เพียง เด็กกอง ที่ต้องทำงานหนักตื่นเช้าเข้างานก่อนทุกคนแต่ต้องกลับดึกทุกวัน แต่คนเราเลือกเกิดไม่ได้เธอได้แต่ก้มหน้ารับกรรม!แต่เพราะพลังบวกและคนที่รออยู่ข้างหลังทำให้เธอยิ้มรับ "ขอบคุณนะคะที่เมตตาดาว" "ที่ดาวมีกินมีใช้ทุกวันนี้ก็เพราะคุณ" สองร่างเปลือยเปล่านอนกอดคลอเคลียกันอยู่บนเตียง "เพราะหนูเอาใจเก่งแบบนี้ไงฉันถึงได้หลงจนโงหัวไม่ขึ้น" ชายวัยห้าสิบปลายๆ พูดเสียงอ่อนเสียงหวานมือสากลูบไล้คลอเคลียเนินอกอิ่มด้วยความเสน่หา "ดาวจะทำให้คุณมีความสุขทุกวันเลยค่ะ ขอแค่คุณเมตตาเด็กน้อยตาดำๆ คนนี้" มือเรียวไม่อยู่นิ่งลูบไล้แผงอกเลื่อนต่ำ ลงไปที่หน้าท้องล้วงลงไปใต้ผ้าห่ม กอบกุมความแข็งแกร่งชักรูดขึ้นลงอย่างชำนาญมือ "อ่าส์~~ ฉะ....ฉันจะไปไหนได้ในเมื่อหนูเด็ดขนาดนี้!" ชายวัยห้าสิบ ยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเด็กสาวรุ่นลูกใช้ปากปรนเปรอความใคร่มอบความสุขที่เขาปรารถนามาตลอด หลายปีที่ภรรยาคู่ใจไม่สามารถมอบความสุขกับเรื่องบนเตียงให้ตนได้ตั้งแต่เธอแท้งลูกและป่วยออด ๆ แอดๆ และไม่สามารถร่วมรักกับสามี ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ผู้เป็นสามีมีบ้านเล็กบ้านน้อยแต่เธอก็ไม่ได้ต่อว่าเพราะเธอรู้ตัวว่าให้ในสิ่งที่สามีต้องการไม่ได้ แต่ผู้ชายมันกลับไม่เคยพอเมื่อสามีพาเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันกับลูกชายเข้าบ้าน ทำเรื่องน่าอายโดยไม่สนใจว่าคนเป็นเมียจะรู้สึกยังไง และวันนี้สาวเจ้าก็ออดอ้อนเอาใจผัวแก่ให้พาเข้าบ้าน และยังยุยงส่งเสริมให้เขาหย่าขาดจากภรรยาเพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นคุณผู้หญิงและมีชีวิตสุขสบายอย่างที่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ๆ "อ๊ะ อ๊ะ อ๊างง ดาวเสียวจังค่ะ" "ของคุณมันใหญ่ทำเอาดาวทั้งจุกทั้งเสียว~~" ร่างบางนั่งควบม้าขย่มอยู่บนตัวชายรุ่นพ่ออย่างเมามัน สองมือบีบขย้ำสองเต้าอวบอิ่ม กัดปากยั่วยวนอารมณ์ของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี ปัง!! "ป๊า!!!" "ออกมาเรามีเรื่องต้องคุยกัน!!" แต่ระหว่างสองร่างเปลือยเปล่ากำลังสนุกกับรสสวาทอันเร่าร้อน เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมเสียงเข้มดุดันตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด "มีอะไร!ไว้คุยกันฉันไม่ว่าง!" แต่ผู้เป็นพ่อกลับไม่สนใจสองมือยังคงบีบจับอยู่กับเต้าอวบอิ่ม "ถ้าไม่ออกมาผมจะพังเข้าไป!" ชายหนุ่มพูดอย่างข่มอารมณ์ สองมือกำหมัดแน่นด้วยตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาที่กำลังสอบคัดเลือกการประกวดภาพยนตร์สั้นรอบชิงชนะเลิศต้องทิ้งทุกอย่างเมื่อได้รับข้อความจากแฟนสาวว่าแม่พยายามกินยาฆ่าตัวตาย แต่ตัวต้นเหตุกลับไม่สนใจ กลับพาเมียน้อยเข้าบ้าน ปัง!! "อร้าย!!!" หญิงสาวร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดโดยที่เธอยังนั่งแก้ผ้าล่อนจ้อน นั่งทับอยู่บนตัวของอีกฝ่าย "จะมากเกินไปแล้วนะสไนเปอร์!!" ผู้เป็นพ่อสถบลูกชายอย่างหัวเสีย "....." แต่หญิงสาวกลับไม่สนใจมองหน้าชายหนุ่มด้วยความเสน่หา เพราะรูปร่างหน้าตาเขามันชั่งถูกใจหล่อนเสียจริง "หึ...ไม่ต้องมาอ่อยกู!ผู้หญิงแรดๆ ร่านๆ แบบมึง!ให้พรีกูก็ไม่เอา!" "จะออกไปจากบ้านกูดี ๆหรือให้กูเอาคนมาลากมึงออกไป!!" แต่ทว่าชายหนุ่มกลับด่าเธออย่างไม่สนใจผู้เป็นพ่อที่จ้องหน้าลูกชายอย่างโมโห เพียะ!! "มันจะมากเกินไปแล้วนะ!" "ยังไงหนูนับดาว เขาก็มีศักดิ์เป็นเมียกู!" ผู้เป็นพ่อลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูพันช่วงล่าง เดินเข้าไปตบลูกชายด้วยความโมโห "หึ...เมีย?" สายตาแข็งกร้าวเกรี้ยวกราดมองไปที่หญิงไร้ยางอายที่ตอนนี้เธอก็ยังคงเปลือยกายเพื่อยั่วยวนเขา "อีตัวสิไม่ว่า!" "ป๊ารู้มั้ย ม๊าเกือบตายก็เพราะมัน!!!" เขาตะโกนใส่หน้าพ่อเสียงแข็งและขี้หน้าหญิงไร้ยางอายที่ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น!

บทที่ 1 :1 นับดาว

กาญจนบุรี

"พี่ดาว!!"

"อยู่ไหนพ่อให้มาตามครับ"

"พี่ดาว!พี่นับดาว!"

"อยู่ไหน! "

"คิก..คิก.."

ร่างบางที่แอบอยู่หลังต้นไม้ ถึงกับต้องกลั้นขำ หัวเราะคิกคัก

เมื่อเด็กชายตะวัน น้องชายวัย 6 ขวบ วิ่งหอบจากบ้านเข้าสวนที่อยู่ไกลพอสมควร เพื่อมาตามพี่สาวคนสวย

เด็กชายชะเง้อคอมองซ้ายทีขวาที แล้วทำหน้ามุ่ยเมื่อหาคนพี่ไม่เจอ

"พี่นับดาว!!!!!!!"

เด็กชายตะวันตะโกนสุดเสียง

"......." แต่เธอกลับเงียบค่อยๆ เดินย่องไปยืนอยู่หลังน้อง

"ตะวัน!!!!" และตะโกนใส่หูน้องชายสุดเสียง

"......"

แต่ทว่าเด็กชายตะวันกลับหันมาจ้องหน้าพี่สาวตาเขม็ง

ถ้าเป็นคนอื่นปกติทั่วไปด้วยระดับเสียงดังขนาดนี้หูคงแตกไปแล้ว แต่เพราะเด็กชายพิการทางหู มาตั้งแต่เด็ก ให้ตะโกนจนคอแตกก็แทบจะไม่ได้ยิน

พ่อเคยพาลูกชายไปรักษาตัวในกรุงเทพฯ หลายต่อหลายครั้ง แต่เพราะครอบครัวฐานะค่อนข้างลำบาก เลยช่วยลูกชายได้แต่ซื้อเครื่องช่วยฟังราคาถูก พอให้ลูกนั้นได้ยินเสียงอะไรบ้าง

"ไว้พี่เรียนจบ พี่จะหาเงินผ่าตัดให้ตะวันนะ" พี่สาวย่อตัวลงลูบหัวน้องอย่างเอ็นดู ดวงตากลมโตเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น

เธอกับน้องห่างกัน 15 ปี ถึงจะเป็นลูกที่เกินมาจากมารดาคนละคน แต่สายใยรักสายสัมพันธ์ ความรักที่มีให้กันมันก็มาล้นเอ่อ

ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมหญิงสาวเลยกลับมาช่วยพ่อทำงานที่สวนเล็กๆ พ่อเธอเป็นชาวสวนปลูกผักปลูกผลไม้ขายตามตลาด

ด้วยที่พ่อเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ตั้งแต่เธออายุเท่าๆ กับน้องชาย

พ่อแม่แยกทางกันแต่เธอเลือกที่จะอยู่กับพ่อเพราะไม่อยากไปจากบ้านที่มีความทรงจำมากมายนี้ไปไหน

หลังจากที่เลิกกับแม่ พ่อก็ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินส่งเสียลูกสาวเรียน จนได้เจอกับแม่ของตะวันแต่โชคร้ายคุณน้าสาวคลองลูกชายได้เพียงไม่กี่วันก็ด่วนจากโลกไปก่อน

ทำให้พ่อเสียใจมาก แต่พ่อไม่เคยทำตัวไม่ดียิ่งขยันทำมาหากินขยันเป็นเท่าตัวเพื่อหาเลี้ยงลูกทั้งสอง

แต่โชคดีหน่อยที่ลูกสาวเป็นคนรักดีได้ทุนเรียนฟรี จนจบมหาวิทยาลัยและได้เข้าไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ

หลังเลิกเรียนหญิงสาวก็ไปทำงานประจำเป็นพนักงานงานขายที่ร้าน 7 ถึงเงินเดือนจะไม่มากแต่ก็ทำให้เธอไม่ต้องรบกวนพ่อ

และมีเงินเก็บส่งให้พ่อกับน้องทุกเดือน แต่เธอก็ไม่ได้ทำแต่งานประจำ

ยังรับตัดต่อทำคลิปตามสายงานที่เล่าเรียนมาถึงจะไม่เก่งอะไรมากมายแต่ก็พอเอาตัวรอดได้

เธอมีความฝันมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่ชอบเสียงเพลง ชอบร้อง ชอบการตัดต่อ ชอบดูหนังละครซีรีส์ มันเลยเป็นแรงบันดาลใจให้อย่างเรียนด้านนี้

ถึงฐานะทางบ้านจะไม่อำนวยเหมือนคนอื่นเขาแต่เธอก็เลือกใช้ความสามารถให้เกิดประโยชน์ เธอตัดสินใจทำคลิปวิดีโอเรื่องสั้นส่งเข้าประกวด

และเป็นที่น่าภูมิใจเธอได้รับรางวัลชนะเลิศ เลยได้มีโอกาสสานฝันเรียนมาถึงทุกวันนี้

เธอเลือกเรียนด้านภาพยนตร์ คณะดิจิตอลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ เรียนฟิล์มโดยเฉพาะ มีสามสาขาให้เลือก คือ โปรดักชัน เรียนเกี่ยวกับ กำกับ ตัดต่อ อาร์ตฯ

ต่อมาคือแอดมิน เรียนเกี่ยวกับการบริหารงาน หรือโปรดิวเซอร์

สุดท้ายคือ ศึกษาหนัง เรียนเกี่ยวกับโครงสร้างหนัง วิจารณ์หนัง

ที่เธอเลือกเรียนด้านนี้เพราะชอบร้องเพลง ชอบดูซีรีส์ ชอบการตัดต่อ

ระหว่างที่เรียนก็ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองว่าง รับทำนี้นั้นหารายได้เสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ตลอด

วันไหนอารมณ์ดีหน่อยก็จะมีไลฟ์สดร้องเพลงให้แฟนคลับทางแอปพลิเคชัน TikTok ฟัง ถ้ามีคนถูกใจชอบเพลงที่ร้องก็พอได้ค่าขนมอาหารแต่ละอาทิตย์

แต่...เธอกลับไม่เคยเปิดเผยตัวตนกับใคร ไม่มีใครรู้จักเพราะค่อนข้างเป็นคนขี้อาย

แต่เวลาเรียนเธอกลับเต็มที่ไปกับมัน ตัดความเขินอายทิ้งไป แต่พออยู่นอกตำรา เฮ้อ!กลับเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจเอาซะเลย

เพราะชีวิตครอบครัวที่เราลำบาก ต้นทุนชีวิตที่ต่ำ เป็นที่ดูถูกดูแคลนแต่นั่นมันกลับทำให้เธออยู่เหนือคนอื่น

คือการที่ต้องดิ้นรนด้วยตัวเองมันทำให้เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเข้มแข็งและสามารถยืนหยัดสู้ เพื่อตัวเอง ครอบครัววิ่งตามความฝัน

เธอไม่เคยอายที่มีพ่อเป็นคนจน เป็นแต่ชาวไร่ชาวแต่หญิงสาวกลับพูดอย่างภาคภูมิเพราะเธอมีพ่อที่เป็นตัวอย่างที่ดี ขยันอดออม ไม่เคยคดโกงใคร มันเป็นความภาคภูมิใจที่เธอรักและศรัทธาในตัวพ่อมาตั้งแต่เด็ก

ถึงจะอดมื้อกินมื้อแต่ก็ไม่เคยงอมืองอเท้าขอใคร พ่อจะสอนลูกเสมอ "เกิดเป็นคนแค่ขยันก็ไม่อดตาย ไม่เลือกงานไม่ดูถูกเงินบาท" เพราะคำสอนเหล่านี้ถูกปลูกฝังตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ จนถึงทุกวัน

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ไม่อดตายขอแค่ขยับและซื่อสัตย์แค่นั้นพอ

"พ่อบอกแล้วใช่มั้ยไม่ต้องไปทำงานช่วยพ่อ มีหน้าที่เรียนก็เรียนเรื่องทำงานเป็นหน้าที่ของพ่อ "

ทันทีที่ลูกสาวมาถึงบ้านคนเป็นพ่อก็จัดแจงตั้งโต๊ะตักข้าวเสิร์ฟอาหารที่ลงมือทำเองจาก พืชผักปลอดสารพิษที่ปลูกเองในสวน ให้ลูกสาวสุดที่รัก

"ได้ไงคะ หนูเป็นลูกก็ต้องช่วยงานพ่อสิ จะปล่อยให้พ่อลำบากคนเดียวได้ไง!"

"นั่งเลย หนูทำเอง" ร่างบางลุกขึ้นแย่งชามข้าวจากมือพ่อ ตักข้าวใส่จากให้น้องและพ่อด้วยรอยยิ้ม

"ขอบคุณครับ!" เด็กชายยกมือไหว้พี่สาวแบบนี้ทุกครั้งเพราะมีครูดีอยากพ่อคอยสอนให้รู้จักมีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่

"น้องชายพี่น่ารักที่สุดเลยไว้พรุ่งนี้พี่จะพาไปซื้อของ" ใบหน้าหวานเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ไม่มีอะไรสุขใจเท่าได้อยู่กับคนที่รัก

ชีวิตในเมืองกรุงชั่งเปล่าเปลี่ยว เด็กผู้หญิงตัวคนเดียวต้องใกล้บ้านวิ่งตามความฝัน ดิ้นรนทุกอย่างด้วยตัวเอง เพื่อความอยู่รอด

สังคมที่วุ่นวายเต็มไปด้วยความแก่งแย่งชิงดี ไม่มีญาติสนิทหรือมิตรสหายที่จริงใจ ทำให้เธอกลายเป็นคนพูดน้อยและไม่ค่อยมีเพื่อนเพราะไม่มีใครอยากผูกมิตรกับคนจนอย่างเธอ

แต่ทุกครั้งที่ได้กลับบ้านเธอเหมือนเป็นคนละคน เธอสดใสยิ้มเก่งเป็นที่รักของเด็กๆ และผู้ใหญ่แถวนั้น

"มีเงินก็เก็บไว้ ซื้อข้าวของให้ตัวเองไม่ใช่ซื้อให้แต่พ่อกับน้อง" เพราะเห็นลูกเป็นคนประหยัด แต่พอกลับบ้านมาที กลับสิ้นเปลืองเงินให้กับพ่อและน้องเลยทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกไม่ค่อยดี

ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นพ่อกลับต้องอาศัยลูกทุกอย่าง

"ดาวไม่อยากได้อะไรคะ แต่มีคนอยากได้ของเล่นใช่มั้ย"

นับดาวหันไปยิ้มให้น้องชายที่อ้อน อยากได้ของเล่น หุ่นยนต์บังคับวิทยุกับพ่อมานานแต่ก็ไม่ได้สักทีเธอเห็นแล้วอดที่จะสงสารน้องไม่ได้

เลยควักเงินในกระเป๋าที่เก็บไว้เพื่อจะซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้น้องล่วงหน้า

"พ่ออ๊ะ ชอบคิดมาก ดาวเป็นพี่คนโตเป็นลูกสาวพ่อดาวก็ต้องหาเงินเลี้ยงพ่อกับน้องสิคะ!" หญิงสาวทำหน้าอ้อนเอียงหน้าถูแขนพ่อไม่ต่างอะไรกับลูกแมวตัวน้อย ๆ

"เราก็แบบนี้ตลอด ตามใจแต่อยากใช่สุรุ่ยสุร่ายก็พอเผื่อเวลาเดือดร้อนจะได้ไม่ลำบาก"

คนเป็นพ่อได้แต่ยิ้มอย่างปลื้มปีติที่ลูกสาวที่เขาเลี้ยงมากับมือเป็นเด็กกตัญญูรู้คุณ แบบนี้เวลาเขาจากไปเขาก็เชื่อได้ว่าพี่น้องจะไม่ทอดทิ้งกัน!

สายตาคนเป็นพ่อได้แต่มองลูกสองคนแล้วแอบถอนหายใจ เพราะไม่รู้จะได้อยู่เห็นความสำเร็จของลูกถึงวันไหน...

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ สิบสี่กุมภาฯ

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ