เขาคืออดีตมนุษย์เดินดินกินข้าวแกงแสนแพงใน กทม. และวันนี้เขากลับมายังประเทศไทยในฐานะ... ยมทูต!! เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับการก่อตัวขึ้นของระเบิดเพลิงลูกมโหฬารตระการตา แบบที่ดาวเหนือไม่มีโอกาสจะได้พบเห็นง่ายๆ ในชีวิตการเป็นมนุษย์ ทำเอาหนุ่มน้อยถึงกับวิ่งสี่คูณร้อยหนีตายเอาชีวิตรอด ราวกับหลงลืมว่าตัวเองเป็นยมทูต และตายไปนานแล้ว "กลับมานี่เด็กใหม่ เอาเหยื่อนั่นไปส่งสูทแดงซะ!"
บทนำ
เอี๊ยดดดดด... ด!!
โครมมมมม!!
ภาพทุกอย่างตรงหน้าหนุ่มน้อยวัยเฉียดๆ 20 ดับวูบลง โดยที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า นั่นจะเป็นการมีชีวิตครั้งสุดท้ายในฐานะมนุษย์เดินดินกินข้าวแกงจานละ 60 บาท ในกทม.
"โทษที่เจ้าได้รับ รวมทั้งสิ้น..."
หลังจากนั้น เขาก็ถูกยมทูตสูทดำพาตัวลงมาพิจารณาโทษในนรก ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่ายมทูตสมัยนี้จะเลิกสวมโจงกระเบนแดงกันแล้ว เขาล่ะอยากให้ไอ้ตู่กับไอ้วิตร เพื่อนสนิทของเขาลงมาเห็นจริงๆ ให้ตายเถอะ!
ชีวิตในนรกของเขา วนเวียนอยู่กับการใช้กรรม ผ่านวันเดือนปี ปีหนึ่งผ่านไป ปีสอง ปีสามค่อยๆ ผ่านไป และในที่สุด... วันแห่งอิสรภาพก็มาถึง
"ข้ามีเส้นทางให้เจ้าเลือกสองทาง นั่นคือการขึ้นไปเสวยสุขบนสวรรค์ 1 วัน กับการกลับไปเกิดใหม่บนโลกมนุษย์อีกครั้ง ในฐานะประชาชนคนไทย"
สิ่งที่ได้ยินทำเอาหนุ่มน้อยถึงกับนิ่วหน้า นี่มันใช่วันแห่งอิสรภาพแน่หรือ!?
"เอ่อ... ผมขอไปเกิดที่เมกา ญี่ปุ่น อังกฤษ สวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย หรือไม่ก็... ภูฏานไม่ได้เหรอครับ?" เขาเอ่ยถามเสียงเบาเหมือนกลัวอีกฝ่ายได้ยิน แต่ถ้าฝ่ายนั้นดันหูดีได้ยิน เขาก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
"ไม่ได้... เจ้ามีกรรมที่ยังต้องชดใช้ในประเทศนี้"
คำตอบนั้นทำเอาเขาย่นหน้า
"ที่ผ่านมาตูยังชดใช้กรรมไม่พออีกเหรอฟะ" เขาพึมพำ แต่อีกฝ่ายก็ดันหูดีครึ่งๆ กลางๆ ขึ้นมาอีก
"เจ้าว่าอะไรนะ?"
"เอ่อ... เปล่าครับ คือ... จะให้ไปเกิดก็ยังไม่อยาก แต่จะให้ไปเสวยสุขบนสวรรค์ตั้งวันนึง มันก็ดูน่าสมเพชไปอ่าครับ" หนุ่มน้อยหน้ามนตอบสิ่งที่อยู่ในใจ พร้อมกับถอนหายใจยาวๆ คล้ายหนักใจที่จะต้องเลือก
"ถ้าอย่างนั้น... ข้ามีทางที่สามจะให้เจ้าเลือกเดิน"
คำตอบนั้นทำเอาเขาชะงักไป
ตอนที่ 1
ปี 2565 ณ ดินแดนที่ถูกเรียกขานว่า... ประเทศไทย
โอ้เมื่อมีไฟ ไฟ ไฟ ลุกขึ้นแจ่มจ้ารอบตัวตลอดเวลา 24 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าเจ้าอาจกำลังย่างกรายเข้ามาในเขต... ยมโลก
"อีก 1 เดือนข้างหน้า ชายผู้นี้จะถึงฆาต ยมทูตดาวเหนือ... เจ้าจงไปนำดวงวิญญาณของเขามารับโทษทัณฑ์ นี่คืองานแรกของเจ้า"
เสียงของท่านยมบาล ผู้อยู่ในชุดแจ็คเก็ตหนังสีดำซึ่งไม่ได้รูปซิป เผยให้เห็นกล้ามอกเป็นมัดๆ ดังกังวานอยู่เบื้องหน้ายมทูตฝึกหัดนาม 'ดาวเหนือ' หนุ่มน้อยร่างเล็กในชุดเชิ้ตดำ สูทดำปานนักธุรกิจ อายุอานามสักยี่สิบ เจ้าของดวงตาเรียวยาวภายใต้แว่นดำ และคิ้วหนาปานกลาง ที่ดูจะไม่เข้ากับปากนิดจมูกหน่อยสักเท่าไหร่ มิหนำซ้ำผิวของเขายังขาวซีดราวกับมีชีวิตอยู่แถบขั้วโลกเหนือ ไม่ใช่ยมโลกอันร้อนระอุแห่งนี้
"ขอรับ... ท่านยม" ยมทูตฝึกหัดดาวเหนือรับคำหนักแน่น ถึงอย่างนั้นดวงหน้าของเขาก็ยังดูอ่อนโยน นี่ถ้าไม่บอกว่าเขาเป็นยมทูตล่ะก็ เหล่าผู้รับโทษทัณฑ์ในนรกคงพากันเข้าใจว่า เขาเป็นไอดอลเกาหลีที่ถูกพาตัวมาตัดสินโทษ ข้อหาทำให้สาวๆ อกหักแหงๆ
"นับเงิน... เจ้าจงพาดาวเหนือไปฝึกงานกับเจ้า จงสอนทุกสิ่งที่รู้ และจงเรียนรู้แม้ในสิ่งที่ไม่อาจสอน ถึงจะเป็นการทำหน้าที่ยมทูตครั้งแรก ก็อย่าให้มีความผิดพลาดเด็ดขาด"
นั่นคือคำสั่งสุดท้ายของท่านยม ก่อนที่หัวหน้ายมทูตสาวสุดอึ๋มในชุดเชิ้ตดำสูทดำรัดรูปจะพายมทูตหนุ่มร่างเล็กออกมาจากหน้าบัลลังก์พิพากษา
"ได้ยินแล้วใช่มะดาวเหนือ เราต้องไปโลกมนุษย์กับพี่ แล้วก็อย่าดื้ออย่าซนล่ะ" นับเงินพูดพลางเชิดอกตู้มๆ เด้งๆ ใส่ยมทูตรุ่นน้อง แล้วดึงมือเขาให้เดินตามเธอมา หญิงสาวรับหน้าที่ยมทูตมานานเกือบพันปี จนได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้ายมทูต ซึ่งต้องคอยฝึกฝนและดูแลเหล่ายมทูตฝึกหัดรุ่นใหม่อย่างดาวเหนือ ให้สามารถรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้แบบมืออาชีพ ไม่นำส่งดวงวิญญาณผิดฝาผิดตัว
"รุ่นพี่อย่าทำแบบนี้เลยครับ ผมเคยบอกไปแล้วว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิง" ดาวเหนือเอี้ยวตัวหนียอดอกที่พุ่งเข้ามาชี้อยู่ตรงหน้าเขา พลางปั้นหน้านิ่งเก็บความเซ็งเอาไว้ในใจ
"ย่ะๆ พ่อคนยึดมั่นในอุดมการณ์ เสียของหมด!" นับเงินสะบัดหน้าพรืดไปทางอื่น จนเส้นผมสลวยสวยเก๋ความยาวถึงก้นของเธอ ฟาดเข้าที่ใบหน้าของดาวเหนือ แม้จะไม่รู้สึกเจ็บ แต่หนุ่มน้อยก็อดสงสัยไม่ได้ว่า รุ่นพี่สาวเลี้ยงผมยาวๆ ไว้ใช้ลากคอดวงวิญญาณมนุษย์มายังยมโลกแห่งนี้รึเปล่า
...แต่อีกไม่นานเขาก็คงได้รู้ความจริงแล้วล่ะ!
"เรากำลังจะไปโลกมนุษย์กันแล้ว จับแขนพี่ไว้ ถ้าคลาดกันล่ะก็งานเข้าแน่" นับเงินบอกดาวเหนือ และไม่รอช้าที่จะเป็นฝ่ายควงแขนเขา ก่อนที่เขาจะทันได้เอื้อมมือมาสัมผัสโดนแขนเสื้อของเธอเสียอีก
"กระฉับกระเฉงหน่อยยมทูตฝึกหัดดาวเหนือ ถ้าเวลาส่งดวงวิญญาณคลาดเคลื่อน ความผิดพลาดแค่ 0.01 เปอร์เซ็นต์ อาจจะกลายเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ก็ได้ จำไว้ให้ดีๆ" นับเงินอบรมยมทูตรุ่นน้องมือใหม่
"ครับ..." ดาวเหนือรับคำสั้นๆ แม้จะอยากอธิบายว่า ความเฉื่อยของเขาเกิดจากการต้องแตะตัวผู้หญิง ไม่ได้เกิดจากการหน่ายหน้าที่ แต่ดูเหมือนเงียบไว้จะดีกว่า
"แล้วก็... วันนี้พี่มีงานส่งดวงวิญญาณทั้งหมด 25 เคส ตามให้ทันล่ะ" นับเงินยิ้มหวานให้ดาวเหนือ ทว่านัยน์ตาเป็นประกายราวกับเริงร่าที่จะได้ล่า 'เหยื่อ' ทั้ง 25 คนที่กำลังจะหมดอายุขัยลงในวันนี้
"ครับ..." ดาวเหนือรับคำ ระหว่างที่วาร์ปจากยมโลกขึ้นมายังโลกมนุษย์ไปพร้อมๆ กับนับเงิน แน่นอนว่าตราบใดที่เธอยังควงแขนเขาเหนียวแน่นซะยิ่งกว่าติดกาวที่ผลิตจากปลิงขนาดนี้ ก็ไม่มีทางหรอกที่เขาจะตามเธอไม่ทัน
สองยมทูตปรากฏตัวอีกครั้งบนฟุตบาทพังๆ สภาพต่ำกว่ามาตรฐานในย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพมหานคร ท่ามกลางผู้คนพลุกพล่านที่เดินผ่านไปมา ไม่มีใครสนใจใคร ยกเว้นขอทานไร้ขาเสื้อผ้าสีซีดและขาดวิ่นริมฟุตบาท ที่เบนสายตาซึ่งสอดส่ายมองหาผู้มีจิตเมตตา มาหยุดอยู่ที่สองหนุ่มสาวยมทูตในชุดสูทดำ
"ทำบุญทำทานกับคนพิการ ได้บุญเยอะนะครับ... คุณผู้หญิง คุณผู้ชาย" ชายไร้ขาวัย 40 ปี พูดกับทั้งคู่ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"เขามองเห็นเราด้วยเหรอครับรุ่นพี่" ดาวเหนือกระซิบถามนับเงิน ดวงตาภายใต้กรอบแว่นสีดำชำเลืองมองชายพิการคนนั้นด้วยความเห็นใจ
"เขาคือเหยื่อของวันนี้..."
คำตอบของหัวหน้ายมทูตสาวทำเอาดาวเหนือถึงกับชะงัก แต่นั่นก็ยังไม่เท่ากับอาการชะงักในความเฉยเมยและเย็นชาของเธอ
"จะเกิดอะไรกั...บ..." ดาวเหนือตั้งท่าจะถามต่อไปอีก ถ้านับเงินไม่ใช้ยื่นนิ้วชี้ของเธอมาแตะริมฝีปากของเขาเสียก่อน
"อย่าพึ่งกวน พี่กำลังใช้สมาธิ" เธอยิ้มหวานปิดท้าย แล้วเบนสายตากลับไปยังถนนเบื้องหน้า ที่ซึ่งรถยนต์มากมายกำลังคืบคลานเรียงรายต่อแถวกันข้ามผ่านสี่แยกไฟแดง 3 นาที ไฟเขียว 3 วิ ขณะที่ดาวเหนือรีบเช็ดริมฝีปาก ตรงที่นิ้วชี้เรียวยาวสัมผัสเมื่อครู่ ราวกับว่าการกระทำนั้นจะทำให้เขา... ผื่นขึ้น
วาบ!
รถหรูคันหนึ่งแล่นเข้ามาเทียบข้างฟุตบาท เป็นเวลาเดียวกับที่แสงเล็กๆ สะท้อนเปลวแดดส่องประกายชั่ววินาทีหนึ่งจากหน้าต่างบานหนึ่งของตึกร้างใกล้ๆ แม้เหล่ามนุษย์ที่ต่างกำลังดำเนินชีวิตประจำวันของตนจะไม่ทันสังเกตเห็น แต่มันไม่อาจเล็ดรอดสายตาของสองยมทูตไปได้
"มาแล้วสินะ... เหยื่อของฉัน" นับเงินยิ้มมุมปาก นัยน์ตาที่เคยส่องประกายแวววาว เวลานี้สุกสกาวยิ่งกว่าหลอดไฟแอลอีดียี่ห้อไหนๆ ทันทีที่เธอเห็นชายผิวขาวร่างท้วม หน้าเหลี่ยม ตาหยี จมูกชมพู่ กับหูแหลมรีคล้ายค้างคาว ในชุดสูทลงจากรถหรู ท่ามกลางบอดี้การ์ดสูทดำที่เตรียมตั้งขบวนรายล้อมรักษาความปลอดภัย ทว่า...
ปัง!
กระสุนลูกเล็กจากระยะไกลพุ่งเข้าทะลุทะลวงสูทตัวหนาที่เจ้าของร่างท้วมสวมใส่ ก่อนที่เขาคนนั้นจะล้มลง เลือดสีแดงสดค่อยๆ ซึมออกมาย้อมเชิ้ตขาวภายในสูทดำ
"นายอนุยุทธ เชี่ยวชาญกัญชง ถูกยิงตัดขั้วหัวใจเสียชีวิต... คอนเฟิร์มเคส" นับเงินรายงานกับเครื่องบันทึกภาพรูปลูกตาในมือ ส่วนมืออีกข้างก็ตะปบคอเสื้อสูทของดาวเหนือพาวาร์ปเข้าไปที่จุดเกิดเหตุ และแม้จะไม่ทันได้ตั้งตัว แต่หนุ่มน้อยยมทูตฝึกหัดก็ตื่นเต้นสุดๆ ที่กำลังจะได้เห็นวิธีการนำส่งดวงวิญญาณลงนรกของหัวหน้าสาว
เธอ... จะใช้ผมยาวๆ รัดคอวิญญาณที่กำลังหลุดออกมาจากร่างนั่น แล้วลากลงไปเข้าเฝ้าท่านยมใช่ไหม!?
"พะ... พะ... พวกเธอเป็นใคร!?" ดวงวิญญาณหน้าตาซีดเซียวอมเขียวของนายอนุยุทธ หันขวับมาหานับเงินและดาวเหนือด้วยอากานตกใจสุดขีด
"นายอนุยุทธ เชี่ยวชาญกัญชง" นับเงินจ้องหน้าเหยื่อของเธอ ทำเอาอีกฝ่ายเลิกลั่ก หันรีหันขวางเรียกหาบอดี้การ์ดเสียงลั่น
"เฮ้ย! พวกแกมัวทำอะไรอยู่ ทำไมปล่อยให้พวกนี้มันมาถึงตัวฉันได้"
เสียงนั้นดังพอจะเรียกคนทั้งถนนให้หันมามอง หากว่านั่นไม่ได้เป็นเพียงแค่เสียงของคนตายล่ะก็นะ
"เสียใจด้วยนะ พวกเขาไม่ได้ยินคุณหรอก เอาล่ะ... ไปกันได้แล้ว ฉันยังต้องขึ้นมารับวิญญาณอื่นอีก" นับเงินเปลี่ยนสรรพนามบุรุษที่ 3 เล็กน้อย ระหว่างที่เธอดึงแส้สีดำสนิทออกมาจากแขนเสื้อสูท ยิ่งทำให้ดาวเหนือตื่นเต้นสุดๆ เขาเดาว่าเธอคงจะใช้แส้นั่นฟาดนายอนุยุทธให้ยอมศิโรราบตามลงไปในนรกแต่โดยดีแน่ๆ
"บะ... บะ... บ้าน่า!! ฉันยังไม่ตายสักหน่อย ฉันจะตายได้ยังไง โกหก!! เธอโกหกฉั...น..." วิญญาณชายร่างท้วมตั้งท่าจะโวยวาย แต่กลับต้องชะงักไปกับสายตาที่จ้องมองมาของหัวหน้ายมทูตสาว ดวงตาของเธอในเวลานี้ ดูราวกับกำลังจะฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆ หากว่าเขา... ยังไม่ยอมปิดปากกว้างๆ นั่นให้สนิท
"ฉันไม่ได้ว่างหรอกนะ ถ้าไม่อยากตายรอบสองก็หุบปาก แล้วตามฉันมา!" นับเงินตวัดแส้ในมือที่กลับกลายเป็นงูสีดำสนิทตัวเท่าแขน ตรงเข้าพันข้อมือของนายอนุยุทธ ทำเอาอีกฝ่ายร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว
"ฉะ... ฉะ... ช่วยด้วย!! ฉันไม่ไป ฉันยังไม่อยากตาย งูนี่มันจะกัดฉัน เอามันออกไป เอามันออกปายยยย ม่ายยยยย... ฮือออออ!!" ชายร่างท้วมร้องลั่นและร้องไห้ เมื่องูเจ้ากรรมดันแกล้งยื่นหัวของมันเข้ามาใกล้หน้าเหลี่ยมๆ ของเขา มิหนำซ้ำมันยังแลบลิ้นมาแตะจมูกชมพู่ของเขาด้วย
"เจ้านิล! ปิดปากมัน เอาให้สนิท อย่าให้มีเสียงลอดนะ" นับเงินออกคำสั่ง หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เสียงร้องโวยวายเมื่อครู่ก็เงียบลง โดยปราศจากแม้เสียงอู้อี้ของชายผู้ถูกงูยมทูตรัดรอบใบหน้าและลำคอ
"น่าขนลุกชะมัด" ดาวเหนือพึมพำ ทุกอย่างผิดจากที่คาดคิดไปมาก แต่ก็ใช่ว่าเขาจะอยากหนีไปจากหน้าที่นี้หรอกนะ แค่นึกสงสัยนิดหน่อยเท่านั้น
"แล้ว... ผมจะจับวิญญาณลงนรกยังไงล่ะครับ ผมไม่ได้มีแส้งูเหมือนหัวหน้าสักหน่อย" เขาถามขึ้น ระหว่างที่ทั้งคู่พาวิญญาณของนายอนุยุทธลงไปพิจารณาโทษในนรก
"ก่อนเริ่มงานวันแรก เธอจะต้องไปสุ่มกาชาปองงูที่แดนอสรพิษ เจ้านั่นจะเป็นคู่หูเธอไปตลอดอายุขัยของการเป็นยมทูต" นับเงินตอบคำถามยิ้มๆ ไม่มีวี่แววอารมณ์เสียๆ ที่ตกค้างจากการรับมือดวงวิญญาณขี้โวยวายให้เห็น
"กาชาปองงู?" ยมทูตดาวเหนือนิ่วหน้าทวนคำ พร้อมกับพยายามนึกภาพตาม ถึงยังไงเขาก็คิดว่ามันคงไม่ใช่ตู้กาชาปองหยอดเหรียญสุ่มงูแน่ๆ
"ฝากด้วยนะ ยังเหลืออีก 24 เคส ดาวเหนือ... ไปกันได้แล้ว!"
เสียงของนับเงินปลุกดาวเหนือให้ตื่นจากภวังค์ความคิด เขาเหลือบมองงูเจ้านิลของรุ่นพี่สาวซึ่งกำลังคลายร่างที่รัดหน้าและคอของนายอนุยุทธออก ก่อนจะเลื้อยกลับเข้าไปในแขนเสื้อสูทของนับเงิน แล้วหนุ่มน้อยก็อดทำท่าขนพองสยองเกล้าไม่ได้
"เดี๋ยวก็ชิน แรกๆ ฉันก็เป็นแบบนายนั่นแหละ" ผู้คุมสูทแดงหน้าหล่อ ผิวเข้มเยี่ยงชายไทยแท้ไร้เลือดผสม ยักคิ้ว ยิ้มมุมปากให้ดาวเหนือ ก่อนจะดึงปากกาด้ามแดงจากกระเป๋าเสื้อ ควงปากกาหนึ่งครั้งให้มันเปลี่ยนเป็นกระบอง ฟาดใส่วิญญาณของนายอนุยุทธที่ดิ้นพราดๆ อยู่บนพื้นดินสีดำปนแดงอันร้อนระอุ แล้วลากเหยื่อคนล่าสุดของตัวเองออกไป โดยไม่รอให้ดาวเหนือตอบประโยคบอกเล่านั้น
"เอ้าๆ มัวโอ้เอ้ เดี๋ยวก็ทิ้งไว้นี่หรอก" นับเงินคว้าคอเสื้อดาวเหนือ ทำเอาเขาเซถลา กว่าจะรู้ตัวอีกที ทั้งคู่ก็กลับมาปรากฏกายบนโลกมนุษย์แล้ว ทว่าคราวนี้ไม่ใช่ย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร
"อ้าว... แล้วขอทานคนนั้นล่ะครับ?" ดาวเหนือถามขึ้น ด้วยจดจำได้ว่าคนคนนั้นมองเห็นพวกเขาก็เพราะกำลังจะถึงฆาตในวันนี้
"ยังไม่ถึงคิว" นับเงินตอบสั้นๆ แล้วพาดาวเหนือวาร์ปต่อมายืนตรงรถเข็นขายลูกชิ้นริมฟุตบาทเอียงๆ มีน้ำขัง ทำเอาเขางุนงงหนักขึ้น
"รุ่นพี่หิวเหรอครับ?" ดาวเหนือชำเลืองมองลูกชิ้นปลาในหม้อทอด แต่แล้ว... เพียงเสี้ยววินาที
บทที่ 1 ตอนที่ 1 การกลับมายัง... ประเทศไทย (100%)
14/06/2022
บทที่ 2 ตอนที่ 2 เหยื่อ... (100%)
14/06/2022
บทที่ 3 ตอนที่ 3 การพบกันของเขากับเขา (100%)
14/06/2022
บทที่ 4 ตอนที่ 4 การปรากฏตัวของ 'มาร' (100%)
14/06/2022
บทที่ 5 ตอนที่ 5 ยมทูต VS มาร (100%)
14/06/2022
บทที่ 6 ตอนที่ 6 เขาและเขาอีกคน (100%)
14/06/2022
บทที่ 7 ตอนที่ 7 เรื่องราวของ 'เขา' (100%)
14/06/2022
บทที่ 8 ตอนที่ 8 สายสัมพันธ์ของคำว่า 'เพื่อน' (100%)
14/06/2022
บทที่ 9 ตอนที่ 9 เรื่องราวในห้องพักฟื้น (100%)
14/06/2022
บทที่ 10 ตอนที่ 10 อดีตของดาวเหนือ (100%)
14/06/2022
บทที่ 11 ตอนที่ 11 ภารกิจของนับเงิน (100%)
16/06/2022
บทที่ 12 ตอนที่ 12 ความเจ็บปวดและความทรงจำ (100%)
16/06/2022
บทที่ 13 ตอนที่ 13 คนชุดขาวในร่างดำ (100%)
16/06/2022
บทที่ 14 ตอนที่ 14 หนึ่งบวกหนึ่งลบหนึ่ง (100%)
16/06/2022
บทที่ 15 ตอนที่ 15 อดีตของไมเคิล (100%)
16/06/2022
บทที่ 16 ตอนที่ 16 ความรู้สึกสีเทา (100%)
16/06/2022
บทที่ 17 ตอนที่ 17 งานรวมตัวของเหล่ามาร (100%)
16/06/2022
บทที่ 18 ตอนที่ 18 ศึกชิงดวงวิญญาณ (100%)
16/06/2022
บทที่ 19 ตอนที่ 19 ความคิดถึงที่ส่งไม่ถึง (100%)
16/06/2022
บทที่ 20 ตอนที่ 20 ภารกิจฉายเดี่ยวของดาวเหนือ (100%)
16/06/2022
บทที่ 21 ตอนที่ 21 ก้อนดินกับก้อนหิน (100%)
16/06/2022
บทที่ 22 ตอนที่ 22 ไมเคิล VS ก้อนหิน (100%)
16/06/2022
บทที่ 23 ตอนที่ 23 บททดสอบของไมเคิล (100%)
16/06/2022
บทที่ 24 ตอนที่ 24 ยมทูต VS แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (100%)
16/06/2022
บทที่ 25 ตอนที่ 25 การพบกันครั้งสุดท้าย (100%)
16/06/2022
บทที่ 26 บทส่งท้าย
16/06/2022
หนังสืออื่นๆ ของ พลอยนิล (Ameyuki)
ข้อมูลเพิ่มเติม