เพลิงรักกลางตะวัน

เพลิงรักกลางตะวัน

โยธกา

5.0
ความคิดเห็น
40.3K
ชม
104
บท

ชายหนุ่มที่ผิดหวังในความรักเข้าขั้นสาหัส จนอาการหนักแอนตีผู้หญิงไปแล้วทั้งโลกอย่างเพลิง มีอันต้องป่วนหัวใจ เมื่อเธอก้าวเข้ามาวุ่นวายในสวนส้มตะวันฉาย ผู้หญิงอะไรน่ารักน่าหยิก แถมมาด้วยเป้าหมายไม่ธรรมดา อย่างนี้ต้องแกล้ง...เสียให้เข็ด เมื่อถูกยื่นข้อเสนอให้ไปเป็นสปายสายลับจับเกย์ ในสวนส้มตะวันฉาย ตวงรักจึงตะครุบงานนี้ไว้อย่างรวดเร็ว แต่ทว่าตั๋วเครื่องบินไปสวิส พร้อมกับพอกเก็ตมันนี่ มันจะคุ้มไหมนะ ถ้าเจอกับคนเจ้าเล่ห์แสนเนียนอย่างอีตาเพลิง! “ไม่มีครายเข้าใจผมเลยสักคน รู้ไหม คุณตวงรัก” น้ำเสียงยานคาน แฝงแววน้อยอกน้อยใจนั่น ทำเอาตวงรักหยุดดิ้นรนได้ชั่วครู่ เมื่อสัมผัสได้ว่า คนตัวโตที่กำลังกอดเธอไว้ กำลังทำเหมือนคนขาดความอบอุ่น จึงไขว่คว้าหามันจากเธอ ตวงรักเงยหน้ามองเขา แล้วสบกับสายตาคมกริบที่กำลังฉายแววตัดพ้อ ตวงรักมองเขานิ่ง หยุดดิ้นไปแล้ว มือนิ่มโอบตอบร่างหนา แถมลูบหลังให้เขาเบาๆ อีกต่างหากเหมือนจะปลอบโยน อาการของเธอทำให้เพลิงเกือบจะหลุดยิ้มออกมาเสียแล้ว ชายหนุ่มแกล้งทำเสียงเศร้าและนัยน์ตาโศกมากกว่าเดิม “ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้กันนะ” “คุณเพลิงเป็นอะไรไปเหรอคะ บอกตวงก็ได้นะ” เธอกล่าวอย่างปลอบประโลม ใจอ่อนยวบไปเสียแล้ว กับคนที่เธอกำลังลูบหลังไหล่ให้อยู่นี่ เขาเป็นอะไรไปกันนะ ทำไมถึงต้องเมามามากขนาดนี้ แล้วก็ทำท่าเหมือนกำลังเศร้าโศกอย่างหนักด้วย “ผมบอกใครไม่ได้” เพลิงส่ายหน้าเบาๆ ถือโอกาสโอบร่างเพรียวเข้าหาตัว และซบหน้าลงกับกลุ่มผมหอมกรุ่น แอบสูดกลิ่นหอมน่าชื่นใจนั่นเข้าปอด ตวงรักถึงกับครวญออกมาอย่างสงสารคนตัวโต ที่วันนี้ทำท่าท้อแท้ หมดแรงต่อสู้อย่างน่าประหลาด “โธ่...บอกตวงได้นะคะ ถึงเราจะรู้จักกันได้ไม่นานนัก แต่คุณเพลิงก็ไว้ใจตวงได้นะ เล่าให้ตวงฟังได้ทุกอย่างเลยค่ะ ตวงยินดี” “มันเป็นเรื่องน่าอายมากเลยครับ” ชายหนุ่มทำเสียงเศร้า แล้วแอบยิ้มกับกลุ่มผมของเธอ “อย่าเก็บไว้เลยนะคะ ตวงไม่เคยเห็นคุณเพลิงเป็นแบบนี้สักที มีอะไรอัดอั้นตันใจ ก็เล่าให้ตวงฟังได้เลยค่ะ” ยิ่งฟังน้ำเสียงของเขา ตวงรักก็ยิ่งสงสารเขา มือเรียวยังคงลูบหลังให้อย่างปลอบใจ เธอลืมไปสนิทว่า เธอกำลังกอดกับเขาอยู่ อย่างแนบชิดเสียด้วย เพราะมัวแต่จะปลอบโยนเขาให้คลายเศร้า “คือว่า ฟังแล้วคุณตวงอย่ารังเกียจผมนะครับ” เพลิงผละออกจากร่างนุ่มอย่างเสียดาย นัยน์ตาคมกริบที่สบกับตวงรัก มีประกายประหลาด ขณะที่เขาสารภาพเสียงอ่อน “ผมกำลังคิดว่า ผมคงจะเป็นเกย์ ผมชอบผู้ชาย จะทำยังไงดีครับ คุณตวงรัก” “หา!”

บทที่ 1 1

“ขอบคุณมากนะครับ สำหรับทุกอย่างที่เตรียมไว้ ได้ดั่งใจมากเลย”

ชายหนุ่มร่างสูง ไหล่กว้างที่อยู่ในชุดสูทสีขาว มีกุหลาบสีแดงปักอยู่ที่อกเสื้อสีตัดกับฉับกับชุดที่สวม เอ่ยกับบริกรหนุ่มเสียงห้าวทุ้มและขยิบตาให้เล็กน้อย บริกรหนุ่มนายนั้นยิ้มตอบ ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องครัว ทันทีที่เขาเดินเข้าไป เพื่อนบริกรพากันเดินก้าวยาวๆ เข้ามาหาเขาและแอบชะเง้อมองลูกค้าเพียงคนเดียวของร้าน ที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะริมระเบียง ตอนนี้มีเพลงรักหวานไพเราะเปิดคลออยู่

“เรียบร้อยดีไหมวะ ไอ้เป้ แขกพิเศษของเรา”

“อืม....เรียบร้อยดีว่ะ รอแต่แขกอีกคนเท่านั้นเอง”

เป้ยิ้มก่อนจะชะเง้อมอง ‘แขก’ พิเศษของทางร้านบ้าง เขามองไล่ไปตามใบหน้าคมสัน ที่ราวกับจิตรกรบรรจงปั้นมา อย่างเหมาะเจาะบรรจง คิ้วเข้มเรียงได้รูปยาวจรดหางตา นัยน์ตาคมกริบดูมีเสน่ห์ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากได้รูป ใบหน้าเรียว มีลักยิ้มกดลึกข้างเดียวที่แก้มด้านซ้าย ยิ่งเสริมเสน่ห์ให้ชวนมองยิ่งขึ้น ถ้าไปเป็นดาราสาวๆ คงกรี๊ดกันสลบเลยทีเดียว แถมเป็นคนโรแมนติคมากเสียด้วย เพราะถึงกับลงทุนเหมาร้านอาหารทั้งร้านแบบนี้ ราคาก็ไม่ใช่หลักหมื่น แต่เป็นหลักแสนเลยในการเหมาร้านอาหารอิตาเลี่ยนหรูระดับนี้ ให้เปิดบริการสำหรับแขกเพียงแค่สองคนเท่านั้น

ชายหนุ่มแขกเพียงคนเดียวของร้าน ก้มมองนาฬิกาแล้วใช้มืออีกข้างกดหัวใจที่เริ่มเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย เมื่อใกล้ได้เวลาสำคัญ เขาล้วงเอากล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มออกมา และเปิดออก แหวนมรกตสีเขียวน้ำงามล้อมรอบด้วยเพชร ส่งประกายระยับ พราวแสงจับตา เขาปิดมันลงพร้อมกับยิ้ม ญาตาวีชอบมรกต มากกว่าเพชร เธอเคยบอกไว้ เพราะมันเป็นอัญมณีประจำวันเกิดของเธอ

‘เพชรมันขาวใส ไร้อารมณ์ เหมือนเกล็ดน้ำแข็งสำหรับเวียร์ เวียร์ชอบมรกตค่ะเพลิง ถ้าจะเป็นแหวนหมั้น หรือแหวนแต่งงาน เวียร์ไม่รับเพชรนะคะ’

“แต่วันนี้คุณคงจะรับแหวนของผมนะครับที่รัก”

เพลิงกดริมฝีปากกับกล่องกำมะหยี่ พลางเก็บมันไว้ที่เดิม มือของเขาบีบเข้าหากันอย่างตื่นเต้น มือเขาเริ่มชื้นเหงื่อไปหมดแล้วตอนนี้

“ขอโทษนะคะเพลิง เวียร์มาช้าไปนิดหน่อย พอดีคุณแม่เรียกให้ไปทำธุระด้วยน่ะค่ะ ว้าว...วันนี้คุณหล่อจังเลยที่รัก”

เสียงหวานใส พร้อมกับร่างหอมกรุ่นและมือเรียวที่โอบรอบคอเขา ทำให้เพลิงเงยหน้าขึ้นมอง แล้วเขาก็พบเข้ากับใบหน้าเรียวรูปไข่ นัยน์ตาสวยคมหวานระยับ คิ้วโก่งเรียว จมูกได้รูปสวย ริมฝีปากหวานฉ่ำนั้นกดจูบที่แก้มสากของเขาเบาๆ และไล้นิ้วเรียวเช็ดลิปสติกที่ติดที่แก้มเขาเล็กน้อยให้

เธอย่นจมูกเหมือนจะล้อเลียน ก่อนจะก้าวมานั่งฝั่งตรงกันข้าม บริกรเลื่อนเก้าอี้ไว้รออยู่แล้ว ร่างอวบอิ่มเซ็กซี่ค่อยเยื้องกรายไปนั่ง เธอสวมชุดเดรสสีแดง ขับผิวนวลอมชมพูให้ยิ่งงดงาม ผมยาวปล่อยถึงสะโพกเป็นมันดำขลับ ตัวกระโปรงยาวกรอมเท้า หากแต่ผ่าสูงเกือบถึงขาอ่อน เขามองแล้วแทบจะดึงร่างอิ่มนั้นมากอดไว้อย่างคิดถึง

“ใครว่าลิปติกรุ่นนี้ของชาแนลสีติดทนนานกันนะ เวียร์แค่จุ๊บแก้มเพลิงนิดเดียว สีก็เลอะไปนิดหนึ่งแล้ว แย่จังเลย ถ้าทำยิ่งกว่านี้ จะเป็นยังไงหนอ...”

น้ำเสียงเซ็กซี่เร้าใจของเธอ พร้อมกับนัยน์ตาหวานฉ่ำที่ส่งมา ทำให้หัวใจเขาเต้นระทึกได้เสมอ เพลิงยิ้มตอบเธอ แล้วเอื้อมมือใหญ่ไปบีบมือเรียวนิ่มพลางบีบ เขาหัวเราะเบาๆ

“ลองดูไหมครับที่รัก วันนี้เวียร์บอกว่าว่างใช่ไหม คุณจะค้างกับผมที่คอนโดหรือเปล่า?”

“อืม...”

ญาตาวีทำหน้าเจ้าเล่ห์ เมื่อมองใบหน้าคมสันของชายหนุ่มซึ่งเธอคบหามาสามปีเต็ม เพลิงเป็นผู้ชายน่ารัก และอารมณ์ ‘ร้อน’ แบบที่เธอชอบ แม้ว่าเธอจะเป็นสาวเจ้าเสน่ห์ มักจะมีผู้ชายมาให้ความสนใจอยู่เนืองๆ แต่ตอนนี้เธอเลือกจะคบอยู่กับเขาเพียงคนเดียว เพลิงเป็นคนที่เข้าใจเธอ และสามารถให้คำปรึกษากับเธอได้ในหลายๆ เรื่อง เขาไม่ใช่เพียงแต่เป็นคู่นอนที่ดีเพียงอย่างเดียว เพลิงยังเป็นทั้งเพื่อน และคนรักควบคู่กันไปด้วย และเธอคิดว่าเธอคงจะเลือกเขาไว้ในสถานะนี้ไปอีกนานเลยทีเดียว แม้ว่า...

“อืม...มันหมายความว่ายังไงครับ คุณไปฝรั่งเศสตั้งสามอาทิตย์นะที่รัก ผมคิดถึงคุณมากเลย คุณยังไม่ยอมปลอบขวัญผมสักนิด”

ชายหนุ่มกล่าวเหมือนจะอ้อนเธอ ทำเอาหญิงสาวหัวเราะกิ๊ก แล้วบีบมือเขาตอบ นิ้วเรียวไล้หลังมือเขาเบาๆ และนัยน์ตาดำคมหวานที่มองมา มีประกายบางอย่างทำเอาเพลิงแทบอยากจะพาเธอไปที่อื่น นอกจากร้านอาหาร และเกือบจะลืมสิ่งที่ตั้งใจจะทำ ญาตาวีเร้าอารมณ์เขาได้ดีเสมอ แม้เธอจะอยู่นิ่งๆ เพียงแค่ปรายตามองเขาก็ตามที เธอเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่มาก

“งั้นคืนนี้ เวียร์จะชดเชยให้นะคะ”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ โยธกา

ข้อมูลเพิ่มเติม
ไฟร้อยรัก

ไฟร้อยรัก

โรแมนติก

5.0

ไฟร้ายอย่างเขา ไม่เคยเชื่อมั่นในความรัก ความสุขจากเซ็กส์แลกได้จากร่างกายอันแข็งแกร่ง และเงินตรา ผู้หญิงหน้าไหนก็อยากได้เขาเพราะสองสิ่งนี้ จนมาเจอกับเธอ หญิงสาวคนแรกที่กล้าสะบัดหน้าหนีเขา ฉีกเงินของเขาทิ้ง แล้วบอกให้ว่าเขาช่างไร้เสน่ห์สิ้นดี! กล้าดีแบบนี้ เกมล่าใจจึงเริ่มต้นขึ้น “ไม่ได้นะคะ เราไม่ควรทำแบบนี้ คุณอาร์ตมีคู่หมั้นแล้วนะคะ ปล่อยปลาไปนะ ถ้าไม่อย่างนั้นปลาจะไปฟ้องคู่หมั้นคุณ” เห็นว่าไม้นวมไม่ได้ผล ปราณปรียาก็ชักไม้แข็งขึ้นมาขู่ เธอหวังว่าเขาจะยอมปล่อยเธอไปแต่โดยดี โดยไม่รู้เสียเลยว่าคำพูดคำนั้น มันยิ่งจุดเพลิงให้ไฟที่กำลังจะสงบ กลับลุกโพลงขึ้นมาอีก “คู่หมั้น เหอะ ! ใครจะหมั้นกับใครกัน” เขาจับต้นแขนเธอแล้วดันเธอให้ผละออกจากอกกว้างเพื่อจะมองเผชิญหน้ากัน ปราณปรียาถึงกับอ้าปากค้าง เขาเปลี่ยนไวจริงๆ วันนี้ อารมณ์เดี๋ยวร้ายเดี๋ยวดี แล้วเธอจะทำอย่างไรดีนะ กับไฟร้อนที่กำลังคลุ้มคลั่งตรงหน้า สมองน้อยๆ เริ่มคิดถึงทางรอดอย่างว่องไว แต่ก็คิดไม่ออกเพราะความกลัวเขา “ผมไม่มีพันธะ ผมไม่ยอมให้ใครมาจับผมทั้งนั้น จำไว้นะปลา ผมจะไม่มีวันแต่งงาน” “ตะ แต่ว่า” หญิงสาวเอ่ยตะกุกตะกัก เนื้อตัวเริ่มสั่นเพราะความกลัว แต่อัคคีห้ามตัวเองไม่ได้เสียแล้ว เขากำลังร้อน กำลังพาลไปเสียทุกอย่าง เขามองจ้องหน้าเธอด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว ยิ้มเหี้ยม เมื่อเอ่ยเสียงเย็น “ผู้หญิง...หึๆ ชอบเล่นเกมใช่ไหมปลา เหมือนที่ปลากำลังเล่นเกมกับผม เกมใจแลกใจอะไรนั่น ผมไม่เล่นด้วยแล้ว ผมจะทำตามใจตัวเอง แล้วอย่าหวังว่าจะจับผมไปแต่งงานมีพันธะได้นะ ไม่มีทาง!”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

คลื่นรักอสูร

คลื่นรักอสูร

มาชาวีร์
4.8

(คลื่นรักอสูร) ...เพราะเธอขึ้นเรือผิดลำ คลื่นร้ายจึงซัดแทบกระเจิง... “เธอมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว จะมาทำเล่นตัวเรื่องมากไม่ได้รู้ไหม ต่อให้เป็นสินค้าด้อยคุณภาพยังไงก็เถอะ ก็ต้องหัดรู้จักตามใจแขกบ้าง แต่นี่อะไรหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ คนสอนไม่บอกหรือยังไงว่าไอ้ละครเล่นตัวนี่มันน่ารำคาญไม่ได้ดึงดูดลูกค้าเลย” บารเมษฐ์ต่อว่าพร้อมกวาดสายตามองเหยียดหยามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนคลายมือออกจากปลายคางอย่างช้า ๆ “ฉันไม่ได้มาขายตัวสักหน่อย” คนได้รับอิสรภาพรีบบอกเขา “หืม” เขาทำหน้าไม่เชื่อ “ฉันแค่ขึ้นเรือผิดลำ ฉันไม่ได้มาขายตัวจริง ๆ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะคุณบารเมษฐ์” วินาทีนี้เธอกลัวเขามากกว่าใครบนเรือลำนี้เสียอีก เลยเลือกที่จะบอกความจริงกับเขาไป “ขึ้นเรือผิดลำ?” คนพูดหรี่ตาลงอย่างสงสัย “ใช่ค่ะ ฉันขึ้นเรือผิดลำจริง ๆ” “แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะสองคนในห้องเครื่องนั่นถึงได้ลุกลี้ลุกลนนัก” บารเมษฐ์นึกไปถึงท่าทางของอนุชิตกับธาวิน ซึ่งดูเหมือนมีเรื่องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา “คุณรู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยฉันไปเถอะคุณบารเมษฐ์ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” นีนนาราขอความเห็นใจจากเขา แต่สายตาที่เขามองกลับมานั้นมันว่างเปล่าชอบกล “รู้อะไรไหมนีนเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย เธอเป็นคนอยู่ผิดที่ผิดทางเอง เพราะงั้นเธอก็ต้องรับสภาพที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เองเหมือนกัน” “ห้ะ คุณ นี่คุณ คุณทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้” หญิงสาวต่อว่าเขา ก่อนจะหน้าซีดหน้าเซียวลง เพราะเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอของเขาบ่งชัดว่าคืนนี้เธอไม่รอดแน่ “ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” นีนนาราดิ้นหนีเขาก็จับกดลงที่เดิม “งานก็คืองานนะคนสวย มาขายตัวก็คือมาขายตัว อย่าทำเสียเรื่องสินีน” บารเมษฐ์ย่อมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่แล้ว เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนอีกแน่ “ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงล่ะ ว้าย!”

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

ข้าโหด ทว่าข้าคือสุดที่รักของท่านอ๋อง

ข้าโหด ทว่าข้าคือสุดที่รักของท่านอ๋อง

Samuel Wren
5.0

เสิ่นสุยยินถูกบังคับให้ดำรงชีวิตในสถานะที่ด้อยกว่าตั้งแต่เด็ก การถูกกดขี่มาอย่างยาวนานไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองแม้แต่น้อย การตกต่ำของตระกูลเสิ่นในสายตาของคนภายนอกดูเหมือนจะเป็นความเสื่อมของตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นโอกาสเดียวของเสิ่นสุยยินที่จะกลับคืนสู่ชีวิตใหม่ นางต่อสู้กับคนอื่นเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่ทว่ากลับไม่รู้ว่าทุกแผนการของนาง เขากำลังจ้องตามองอยู่ ลู่จินหวยให้นางหลอกใช้ตนเองเป็นประโยชน์ได้ตามอำเภอใจของนาง แต่ไม่เคยให้นางต้องเปื้อนเลือดแม้แต่นิด สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงตัวนางเท่านั้น “เสิ่นสุยยิน ทางที่ดีเจ้าจะแกล้งทำไปตลอดชีวิต”

หงส์คืนฟ้า ชะตารัก

หงส์คืนฟ้า ชะตารัก

ซีไซต์
5.0

"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ