พยับหมอกปลายฝน

พยับหมอกปลายฝน

serenay

5.0
ความคิดเห็น
99.8K
ชม
58
บท

เขาฝากรอยมลทินไว้บนเรือนร่างของหล่อนด้วยความแค้น หล่อนยอมชดใช้ความผิดนั้นด้วยหัวใจแตกสลาย หล่อนคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ทว่าโชคชะตากลับกลั่นแกล้ง เมื่อหล่อนตั้งใจจะหลบไปอยู่เงียบๆ กับลูกน้อยเพียงสองคน ณ ที่แห่งหนึ่ง ณ ที่นั้นหล่อนได้พบกับเขา คนที่หล่อนทั้งรักและชิงชัง อะไรก็ไม่แย่เท่า เด็กน้อยที่เกาะกุมมือหล่อนอยู่ เป็นลูกของเขา! คนที่ชิงชังหล่อนหมดหัวใจ!

บทที่ 1 บทนำ

สายฝนซัดสาดกระเซ็นกระทบกระจกหน้าต่างเม็ดแล้วเม็ดเล่าอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด บรรยากาศเบื้องนอกถูกคลี่คลุมด้วยราตรีกาล หากยังคงสว่างไสวด้วยแสงไฟระยิบระยับ...แสงสีแห่งเมืองหลวงที่ไม่เคยหลับใหลไปตามกาลเวลา

บนชั้นสูงสุดของคอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของห้องนั่งพิงประตูกระจกบานเลื่อนข้างเตียงขนาดคิงไซส์­ บนกระจกมีหยดน้ำฝนเกาะพราวและมีละไอฝ้าจนแทบมองไม่เห็นเบื้องนอก ใบหน้าของหล่อนแนบอยู่กับกระจกเย็นเฉียบ

กายของหล่อนเปลือยเปล่า มีผ้าห่มสีขาวห่มคลุมตั้งแต่ส่วนไหล่ลงไป ลำคอที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมานั้นมีรอยแดงเป็นจ้ำๆ และพอจะเดาได้ว่าผิวเนื้อต่ำลงไปนั้นคงมีลักษณะไม่ต่างกัน

าลดัดเป็นลอน เคยสยายเต็มแผ่นหลังและมักจะพลิ้วไหวตามแรงลมอย่างดงาม บัดนี้กลับพันกันยุ่งเหยิงราวกับไม่ได้หวีมาหลายวัน

แก้มของหล่อนขาวซีด หากริมฝีปากกลับบวมแดงช้ำเสมือนถูกใครบางคนบดเบียดเคล้าคลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไร้ปรานี ไหล่ที่เคยตั้งตรง บัดนี้กลับห่อเข้าหากัน...เป็นสภาพที่ใครๆ ต่างไม่คุ้นชิน แม้แต่ตัวหล่อนเอง

สายฝน นาฏยรัตน์ในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากนกปีกหัก หล่อนนั่งเหม่อลอย ทอดสายตามองออกไปภายนอกอย่างไร้จุดหมาย

แม้มองเห็นเพียงละไอฝ้าสีขาวที่เกาะบนกระจก หล่อนกลับไม่คิดขยับตัว

ดวงตาของหล่อนแดงก่ำ น้ำตาคงเหือดแห้งไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงความหม่นโศกและแห้งแล้งในดวงตาที่เคยชุ่มฉ่ำวับหวานเชื้อเชิญ

ดวงตาอันทรงเสน่ห์ เหลือเพียง...ความเจ็บปวดรวดร้าว

ความสง่างามและเซ็กซี่ที่ใครๆ ต่างชื่นชม เหลือไว้เพียง ‘ซาก’ ที่ถูกฉีกทึ้งจนย่อยยับ

นานเท่านาน จวบจนรุ่งสาง หล่อนจึงขยับกาย

สายฝนหยัดกายยืน ขาสั่น กายสะท้าน ความเจ็บปวดตรง ใจกลางเรือนร่างทำให้หล่อนต้องเปล่งเสียงครางอย่างทรมาน

เมื่อหยัดยืนเต็มสองเท้า แทนที่จะเดินออกไปจากตรงนั้น...จากห้องที่หลงเหลือกลิ่นของใครคนนั้น และจากเตียงที่ยังคงมี ‘หลักฐาน’ ระหว่างเขาและหล่อน สายฝนยังคงปักหลักยืนอยู่เบื้องหน้าประตูกระจกเลื่อน มองดวงตะวันที่ค่อยๆ ทอแสงขับไล่ความมืดมิดของราตรีกาลทีละน้อยๆ

ตะวันทอแสงมากเท่าไร ใจของหล่อนกลับยิ่งมืดดับมากเท่านั้น

หญิงสาวปิดเปลือกตา กล้ำกลืนน้ำตาให้รินไหลอยู่ในอก

รอยมลทินที่ใครบางคนฝากฝังไว้บนตัวหล่อนไม่มีทางลบเลือน

หากรอยรักที่สลักลึกในหัวใจหล่อนมากกว่าสิบปีก็ไม่มีทีท่าว่าจะจางหายเช่นเดียวกัน!

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ serenay

ข้อมูลเพิ่มเติม
พรหมลิขิตสีดำ

พรหมลิขิตสีดำ

โรแมนติก

5.0

เขาคือตรีทศ ปัจจภาคย์...บุรุษผู้เกลียดชังเธอสุดขั้วหัวใจ แม้เมื่อยามต้องร่วมทางเดินเดียวกันในระยะเวลาหนึ่งปี เขาก็ไม่เคย ‘ใจดี’ กับเธอเลยสักครั้ง เขาก้าวเท้าพรวดเดียวมายืนตรงหน้า ใกล้มากพอที่ลมหายใจร้อนผ่าวจะรินรดบนหน้าผากเกลี้ยงเกลา สายตาของเข้าจับจ้องเธอแน่วนิ่ง ก่อนกวาดมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าราวกับต้องการสำรวจว่าเธอแต่งกายเหมาะสมคู่ควรกับการเป็นภรรยาของเขาหรือไม่ แต่ใครจะรู้...เจ้าสาวที่ใครๆ อิจฉา ยามนี้ต้องกล้ำกลืนฝืนทน และเก็บกดรอยน้ำตาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจอย่างสุดความสามารถเพียงใด! พรนภัสแตะปลายนิ้วบนแหวนที่สวมอยู่บนนิ้วนางข้างซ้าย แหวนที่ไม่มีความสำคัญอันใด นอกเสียจากเป็นหลักประกันว่าเขาจะได้มรดกทั้งหมดจากผู้เป็นบิดา!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ผลิกา(เลอบัว)
5.0

เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ

ทางใหม่ เริ่มใหม่

ทางใหม่ เริ่มใหม่

Beckett Grey
4.5

ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

Crimson Syntax
5.0

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

Coupling Shim
5.0

ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ