โสเภณีที่ไม่อยากเป็น

โสเภณีที่ไม่อยากเป็น

หลงเวลา

5.0
ความคิดเห็น
11.8K
ชม
50
บท

อย่าตัดสินเธอเพียงเพราะงานที่เธอทำ หญิงสาวที่สละความสุขเพื่อครอบครัว

บทที่ 1 ก้าวแรกของการทำงานเป็นผู้หญิงกลางคืน

แพรวา สาวน้อยวัยยี่สิบปีเก็บกระเป๋าจากบ้านเกิดเมืองนอนในภาคเหนือเข้าสู่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีตามคำชวนของรุ่นพี่ในหมู่บ้าน แพรวาเรียนจบเพียงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ครอบครัวของเธอยากจนและมีหนี้สินมากมายจากการลงทุนทำนาของบิดามารดา บ้านที่เคยมีกินมีใช้ต้องกลายเป็นไม่มีอันจะกิน ถึงแม้จะทำงานห้างสรรพสินค้าหรืองานรับจ้างทั่วไปภายในจังหวัดที่เธออาศัยอยู่ก็ไม่อาจเพียงพอกับรายจ่ายที่เธอต้องเป็นฝ่ายหา เพราะตั้งแต่ที่บิดามารดาสูญเสียที่นาซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ทำมาหากิน พวกท่านก็ไม่มีงานทำรวมไปถึงมารดาของเธอก็ป่วยกระเสาะกระแสะตั้งแต่ที่เธอเกิด ภาระทุกอย่างจึงตกอยู่ที่เธอ

“แพรวาใช่ไหมลูก” มาม่าซังเอ่ยถามเด็กสาวผิวขาวหน้าตาสะสวยตรงหน้าที่ยืนสะพายกระเป๋าเพียงหนึ่งใบไว้ข้างหลัง เด็กสาวหันหน้ามามองก่อนยกมือไหว้

“สวัสดีค่ะ...ใช่แม่จินใช่ไหมคะ หนูแพรวาค่ะ” ความนอบน้อมและรอยยิ้มหวานของสาวน้อยตรงหน้าทำให้มาม่าซังวัยห้าสิบปียิ้มออกมาอย่างเอ็นดู

“ใช่จ้ะ...เดินทางมาไกล เหนื่อยไหมลูก” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ก็เหนื่อยอยู่ค่ะ ว่าแต่หนูเริ่มงานได้วันไหนคะ พอดีหนูต้องรีบหาเงินส่งให้ทางบ้าน” เธอตอบก่อนที่จะเอ่ยถามถึงเรื่องงานทันที มาม่าซังมองเด็กสาวด้วยความเห็นใจ

“ถ้าหนูไม่เหนื่อยจะเริ่มวันนี้เลยก็ได้จ้ะ ร้านเปิดสองทุ่ม แต่พวกเราต้องเข้างานก่อนสองทุ่มนะ” จินตนาบอกเด็กสาวผู้มาใหม่

“แล้วงานที่หนูจะทำ มันต้องทำยังไงบ้างคะ” เด็กสาวเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ เธอพอจะได้ยินมาบ้างเกี่ยวกับงานของผู้หญิงที่อยู่พัทยา

“ก็ไม่มีอะไรมาก หนูแค่จะมาเต้นใช่ไหม จะรับออฟหรือเปล่า” มาม่าซังเอ่ยถามลูกน้องคนใหม่

“ค่ะ...แล้วรับออฟคืออะไรคะ” หญิงสาวไม่เคยรู้คำศัพท์เกี่ยวกับวงการนี้จึงเอ่ยถามออกมาด้วยความอยากรู้ มาม่าซังยิ้มออกมาก่อนที่จะกระซิบบอกเธอด้วยเสียงไม่ดังนัก

“รับออฟ..ก็หมายความว่าเวลามีลูกค้าอยากให้เราออกไปนอนด้วยแล้วจ่ายเงินให้กับทางคลับและจ่ายเงินให้กับเรา เราจะไปไหมยังไงล่ะจ๊ะ”

คำตอบของมาม่าซังทำเอาเด็กสาวหน้าแดง ถึงเธอจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แต่เธอก็เคยมีอะไรกับแฟนที่คบกันมาช่วงทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแค่คนเดียว

“คือ...หนูขอลองเต้นธรรมดาก่อนได้ไหมคะ” ด้วยความสามารถในการเต้นที่พอจะมีบ้างเธอเลยอยากจะลองเพียงแค่เต้นและหาดื่มดูก่อนจนกว่าเธอจะไม่มีทางเลือกจริงๆ เธอถึงจะทำ

“อืม....ได้สิ ช่วงแรกๆ ก็เต้นไปก่อน แต่ถ้าเดือดร้อนเรื่องเงินเมื่อไหร่ การรับออฟมันก็ไม่ใช่ทางออกที่แย่หรอกนะหนูแพรวา แม่จะบอกอะไรให้ พวกรุ่นพี่บางคนแขกรับไปดูแลก็เพราะติดใจเราเวลาที่เขาออฟเราออกไปนอนด้วยนี่แหละ” จินตนาไม่บังคับเด็กสาวที่เพิ่งจะมาถึงพัทยาเป็นครั้งแรก แต่เธอจะให้เด็กสาวได้เรียนรู้ด้วยตัวของตัวเอง

แพรวาถูกเพื่อนๆ เรียกชื่อใหม่เป็นแพทตี้เพราะง่ายสำหรับการเรียกขานชื่อของฝรั่ง ต่างชาติ หญิงสาวยินดีกับชื่อใหม่ที่เพื่อนๆ และพี่ๆ เรียกขานเพราะอย่างน้อยชื่อนี้ก็ใช้ในวงการนี้และช่วยปกปิดชื่อจริงของเธอเอาไว้ได้ คืนแรกที่หญิงสาวเริ่มงานมีหนุ่มๆ หลากหลายเชื้อชาติมาสนใจเธอมากมาย ด้วยเพราะหญิงสาวเป็นคนหน้าตาดีและมีรอยยิ้มที่สวยพิมพ์ใจ แต่นักเที่ยวก็ต้องผิดหวังที่หญิงสาวดาวดวงใหม่ยังไม่รับออฟพวกเขาจึงทำได้เพียงเลี้ยงดื่มให้เธอเพียงเท่านั้น

แพทตี้กลายเป็นดาวเด่นของอะโกโก้แห่งนี้ในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน เพื่อนๆ บางคนถึงกับอิจฉาในความสวยของเธอที่เรียกแขกให้เข้าร้านได้มากมาย หญิงสาวรู้สึกสนุกกับการทำงานแบบใหม่ในสังคมใหม่ๆ ความตื่นเต้นในสัปดาห์แรกหายไปและเธอเริ่มกล้าที่จะโชว์และอวดสกิลภาษาอังกฤษของเธอมากขึ้น แขกประจำก็มีมามากมาย บางคนถึงขั้นมาเฝ้าเธอเพื่อรอให้เธอใจอ่อนยอมให้พวกเขาออฟเธอออกไปเพื่อนอนกับเธอเพียงสักครั้ง

อยู่มาวันหนึ่งในเดือนที่สองของการทำงาน มารดาโทรมาบอกว่าทางบ้านต้องใช้เงินเกือบห้าหมื่นในการใช้หนี้กองทุนหมู่บ้านที่กู้ยืมมาสมัยทำไร่ ทำให้แพทตี้ตัดสินใจเข้าวงการโสเภณีแบบเต็มตัว ลูกค้าคนแรกของเธอเป็นฝรั่งวัยเกือบสี่สิบปี และเขาก็เป็นฝรั่งที่มาพักผ่อนที่เมืองไทย หาใช่เป็นฝรั่งที่ชอบมาเฝ้าเธอเพราะคนนั้นบินกลับประเทศของเขาไปแล้ว

“แพทตี้ หนูตัดสินใจแน่แล้วใช่ไหม เขาจะพาหนูไปอยู่ด้วยสัปดาห์หนึ่งนะ แต่เขาจะให้หนูหนึ่งแสน”

มาม่าซังเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจของหญิงสาวที่เพิ่งตัดสินใจรับงานออฟครั้งแรกหลังจากทำงานมาจะเข้าสองเดือน ก่อนหน้านี้เธอพยายามจะโน้มน้าวให้แพรวาหรือแพตตี้รับออฟแต่หญิงสาวก็ปฏิเสธ ครั้งนี้หญิงสาวคงจะจำเป็นและถึงที่สุดแล้วจริงๆ

“น่ะ...น่ะ...หนึ่งแสนเลยหรือคะ”

แพรวาหรือแพทตี้เอ่ยถามออกมาด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าการที่เธอไปนอนกับเขาหนึ่งสัปดาห์จะได้เงินก้อนมาใช้หนี้ให้กับบิดามารดา

“ใช่จ้ะ เขาให้เราแสนนึง ตกลงเรารับออฟใช่ไหม แดนเนียลเขารอฟังคำตอบอยู่ คนนี้ดี พี่ๆ ที่เขาเคยไปกับแดนเนียลบ่นเสียดายทุกคนที่มาวันนี้เขาเลือกหนู” มาม่าซังพยายามโน้มน้าวให้หญิงสาวตัดสินใจ แพรวาหรือแพทตี้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจตกลง

“แต่หนูขอเขาก่อนห้าหมื่นได้ไหมคะ พอดีที่บ้านต้องใช้เงิน” เธอเอ่ยถามมาม่าซัง

“ได้สิ เดี๋ยวแม่คุยกับเขาให้” จินตนายิ้มออกมาด้วยความดีใจก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้ถึงอีกเรื่องที่เธอต้องกำชับหญิงสาว

“หนูรู้กฏของคนที่ทำงานแบบเราใช่ไหมแพทตี้” มาม่าซังเอ่ยถามเพื่อให้หญิงสาวเตรียมตัวและเตรียมใจให้ดี

“อย่าหลงรักลูกค้า อย่ามีความรู้สึกให้คู่นอนที่ใช้เงินมาซื้อเรา”

แพทตี้ท่องกฎของผู้หญิงกลางคืนให้มาม่าซังฟัง จินตนาฉีกยิ้มออกมาก่อนที่จะพาเธอไปหาแดนเนียลซึ่งเขาก็รอฟังคำตอบจากเธออยู่ด้วยความตื่นเต้น

“เธอตกลงค่ะ แต่เธอขอมัดจำก่อนห้าหมื่น ถ้าคุณจ่ายเธอก็พร้อมจะไปวันนี้เลย” มาม่าซังพูดคุยกับลูกค้าเป็นภาษาอังกฤษ

“อืม... โอเคร ว่าแต่เธอเพิ่งจะเคยออกไปกับผมเป็นคนแรกใช่ไหม”

แดนเนียลเอ่ยถามออกมาเพื่อความแน่ใจก่อนที่จะมองสำรวจร่างงามที่เวลาเต้นอยู่บนฟลอนั้นดูเย้ายวนยิ่งนัก แต่พอมองใกล้ๆ ก็ทำให้เขาแทบจะลืมหายใจ

“ใช่ค่ะ ฉันเพิ่งจะรับงานนี้เป็นครั้งแรก”

แพรวา หรือแพทตี้ ดาวอะโกโก้คนสวยเป็นฝ่ายตอบออกมาเป็นภาษาอังกฤษ และนี่คือสิ่งที่แดนเนียลชอบ เขาคุยกับเธอเข้าใจเพราะเธอสามารถฟังและพูดภาษาอังกฤษได้ จึงไม่เป็นปัญหาหากเขาจะอยู่กับเธอหนึ่งสัปดาห์ เขาไม่อยากเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยๆ ระหว่างที่อยู่ที่นี่

“โอเครแพทตี้ ขอบคุณที่ตกลงไปกับผม ผมดีใจจัง” แดนเนียลยิ้มก่อนที่จะเอ่ยออกมา

“ขอบคุณ คุณเหมือนกันที่กล้าจ่ายเงินให้กับฉัน” แพทตี้เอ่ยขึ้นบ้าง

“สำหรับคุณ ผมไม่เสียดายเงินที่จะเสียไปเลย” เขาบอกพร้อมทั้งใช้สายตาหื่นกระหายมองร่างงามของเธอ

หลังจากที่ตกลงกันได้แดนเนียลก็ไปกดเงินสดมาให้กับอะโกโก้และให้กับหญิงสาวตามจำนวนที่ตกลงกันเอาไว้ แพทตี้ออกจากอะโกโก้เป็นครั้งแรก และแน่นอนว่าหนุ่มที่เคยเจอเธอในสถานที่ที่เธอเคยทำงานต่างมองตามหญิงสาวอย่างเสียดายด้วยไม่คิดว่าหญิงสาวจะตัดสินใจออกไปกับแขก

“แพทตี้ คุณกำลังจะไปไหนหรอ” หนุ่มฝรั่งที่เมื่อวานไปเลี้ยงดื่มให้กับเธอถึงกับหยุดถามขณะที่กำลังจะเดินสวนทางกัน

“ฉันกำลังจะไปกับเขาน่ะ วันนี้ฉันออกจากร้านเป็นครั้งแรก ขอตัวก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่”

ภาษาอังกฤษที่ฉะฉานและสำเนียงที่แทบจะคล้ายกับฝรั่งดังออกมาจากหญิงสาวใบหน้าสวยรูปร่างดี แดนเนียลรู้สึกไม่พอใจนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหากว่าเธอต้องการจะหยุดทักทายกับคนอื่น เพราะคนอื่นก็ได้เพียงแค่คุย แต่เขากำลังจะได้เชยชมดอกไม้ดอกนี้

หลังจากทักทายเสร็จแดนเนียลก็เดินเข้ามากุมมือเธอแล้วพากันเดินไปร้านอาหารเพื่อหาอะไรทาน เขาพาเธอนั่งทานอาหารราคาแพงที่เธอไม่เคยทานมาก่อน เขาคอยดูแลและเอาอกเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี หญิงสาวจึงเอ่ยคำขอบคุณ ระหว่างทางกลับโรงแรมที่เขาเข้าพักหัวใจของสาวน้อยที่ผ่านผู้ชายมาเพียงคนเดียวกลับสั่นไหว เธอเคยได้ยินมาว่าพวกฝรั่งมีอวัยวะเพศไซส์ใหญ่กว่าชายไทย และการมีเซ็กส์ครั้งแรกของเธอกับแฟนหนุ่มก็ไม่ได้น่าประทับใจนัก หญิงสาวจึงกังวล

พอถึงห้องแดนเนียลจึงให้สาวสวยเข้าไปอาบน้ำก่อนเพราะเขารู้ว่าผู้หญิงเวลาอาบน้ำนั้นใช้เวลานาน และเขาก็อยากจะเห็นใบหน้าสวยภายใต้เครื่องสำอางว่าแท้จริงแล้ว สวยจริงหรือไม่ แพทตี้ใช้เวลาอาบน้ำเกือบชั่วโมง อันที่จริงเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่พิถีพิถันขนาดที่ว่าต้องขัดนั่นขัดนี่ หรือบำรุงผิวนั่นนี่ แต่เป็นเพราะเธอกำลังตื่นเต้นและกังวลใจกับการที่จะต้องมีอะไรกับฝรั่งครั้งแรกมากกว่า

ร่างบางเดินออกจากห้องน้ำมาในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวของโรงแรม ใบหน้าสวยเปิดเปลือยไร้เครื่องสำอางจนแดนเนียลต้องตะลึงในใบหน้าสวยจิ้มลิ้มนี้ เขาเดินเข้ามาใกล้ก่อนที่จะโน้มใบหน้าเข้าไปจูบปากอิ่มของเธอ

“รอผมก่อนนะแพทตี้ ผมอาบน้ำสักครู่ แล้วผมจะมาทำให้คุณมีความสุขไปกับผม”

เสียงทุ้มของฝรั่งที่มีใบหน้าค่อนข้างหล่อเหลาแม้วัยจะล่วงเลยไปใกล้เลขสี่บอกเธอหลังจากที่ถอนริมฝีปากออกจากปากอิ่ม เขาเพียงแค่จูบยังไม่ได้รุกล้ำภายในให้อารมณ์ใคร่มันปะทุ เพราะเขาก็ต้องการอาบน้ำก่อนเช่นกัน ร่างสูงล่ำของแดนเนียลเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับเสียงถอนลมหายใจของแพทตี้ที่ดังออกมา

“สู้ๆ นะแพรวา เพื่อครอบครัว เพื่อหนี้สิน เราทำได้ ทีนอนกับแฟนไม่ได้เงินสักบาทเรายังทำได้เลย สู้ๆ” หญิงสาวปลอบใจตนเองก่อนที่จะเดินไปนั่งรอแขกคนแรกของเธอที่บนเตียงนุ่มที่เธอไม่เคยได้นอนมาก่อนในชีวิต ไหนจะโรงแรมสุดหรูที่ดูแล้วน่าจะราคาต่อคืนแพงอยู่ไม่น้อย ถึงว่าเขาถึงกล้าจ่ายเงินให้เธอถึงหนึ่งแสน ไหนจะค่าบาร์ฟายอีก

*มาม่าซัง คือ คนที่คอยจัดหาสาวๆมาทำงานในคลับ บาร์ หรืออะโกโก้และคอยดูแลสาวๆภายในคลับ บาร์หรืออะโกโก้

*บาร์ฟาย คือ ค่าใช้จ่ายที่ลูกค้าต้องจ่ายให้กับทางคลับ บาร์หรืออะโกโก้ถ้าหากเขาต้องการพาผู้หญิงออกไปจากร้าน มีทั้งShort time คือระยะสั้นหนึ่งชั่วโมง ผู้หญิงต้องกลับเข้าร้านทันทีหลังจากหนึ่งชั่วโมง และ Long timeคือออกไปหนึ่งคืน ไม่ต้องกลับเข้าร้านอีก

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หลงเวลา

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คลื่นรักอสูร

คลื่นรักอสูร

มาชาวีร์
4.8

(คลื่นรักอสูร) ...เพราะเธอขึ้นเรือผิดลำ คลื่นร้ายจึงซัดแทบกระเจิง... “เธอมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว จะมาทำเล่นตัวเรื่องมากไม่ได้รู้ไหม ต่อให้เป็นสินค้าด้อยคุณภาพยังไงก็เถอะ ก็ต้องหัดรู้จักตามใจแขกบ้าง แต่นี่อะไรหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ คนสอนไม่บอกหรือยังไงว่าไอ้ละครเล่นตัวนี่มันน่ารำคาญไม่ได้ดึงดูดลูกค้าเลย” บารเมษฐ์ต่อว่าพร้อมกวาดสายตามองเหยียดหยามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนคลายมือออกจากปลายคางอย่างช้า ๆ “ฉันไม่ได้มาขายตัวสักหน่อย” คนได้รับอิสรภาพรีบบอกเขา “หืม” เขาทำหน้าไม่เชื่อ “ฉันแค่ขึ้นเรือผิดลำ ฉันไม่ได้มาขายตัวจริง ๆ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะคุณบารเมษฐ์” วินาทีนี้เธอกลัวเขามากกว่าใครบนเรือลำนี้เสียอีก เลยเลือกที่จะบอกความจริงกับเขาไป “ขึ้นเรือผิดลำ?” คนพูดหรี่ตาลงอย่างสงสัย “ใช่ค่ะ ฉันขึ้นเรือผิดลำจริง ๆ” “แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะสองคนในห้องเครื่องนั่นถึงได้ลุกลี้ลุกลนนัก” บารเมษฐ์นึกไปถึงท่าทางของอนุชิตกับธาวิน ซึ่งดูเหมือนมีเรื่องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา “คุณรู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยฉันไปเถอะคุณบารเมษฐ์ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” นีนนาราขอความเห็นใจจากเขา แต่สายตาที่เขามองกลับมานั้นมันว่างเปล่าชอบกล “รู้อะไรไหมนีนเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย เธอเป็นคนอยู่ผิดที่ผิดทางเอง เพราะงั้นเธอก็ต้องรับสภาพที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เองเหมือนกัน” “ห้ะ คุณ นี่คุณ คุณทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้” หญิงสาวต่อว่าเขา ก่อนจะหน้าซีดหน้าเซียวลง เพราะเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอของเขาบ่งชัดว่าคืนนี้เธอไม่รอดแน่ “ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” นีนนาราดิ้นหนีเขาก็จับกดลงที่เดิม “งานก็คืองานนะคนสวย มาขายตัวก็คือมาขายตัว อย่าทำเสียเรื่องสินีน” บารเมษฐ์ย่อมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่แล้ว เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนอีกแน่ “ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงล่ะ ว้าย!”

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
4.9

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

แฟนเก่าอย่าหวง(ก้าง)18+

แฟนเก่าอย่าหวง(ก้าง)18+

ซีไซต์
5.0

ก็เลิกกันไปแล้ว ไม่รักกันแล้ว ไม่มีสิทธิ์ทำตัวเป็นหมาหวงก้าง ขุนพลแฟนเก่าของนาเดียพยายามเข้าใกล้เธอเหมือนมีเจตนาแอบแฝง นาเดียไม่ไว้ใจเขาทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้พบหน้า เธอพยายามถอยห่าง เขาพยายามรุกคืบ และการกระทำนั้นทำให้เธอเริ่มสั่นคลอนลงทุกวัน เขายังทำตัวเป็นหมาหวงก้าง และระรานคนไปทั่ว ผู้ชายเฮ็งซวยที่เลิกกันไปหลายปีแล้วกำลังทำให้เธอเจอกับเรื่องยุ่งเหยิงที่ยิ่งแก้ก็เหมือนยิ่งพันตัวเธอจนติดหนึบกับเขา คำแนะนำ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นนะคะ หากชื่นชอบรบกวนผู้อ่านทุกท่านกดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ และซื่อในเว็บหรือแอนดรอยจะราคาถูกกว่า แอปเปิ้ลนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
โสเภณีที่ไม่อยากเป็น
1

บทที่ 1 ก้าวแรกของการทำงานเป็นผู้หญิงกลางคืน

10/09/2022

2

บทที่ 2 เรื่องบนเตียงครั้งแรกกับลูกค้าคนแรก

10/09/2022

3

บทที่ 3 ภาระทางบ้าน

10/09/2022

4

บทที่ 4 กว่าจะได้เงิน

10/09/2022

5

บทที่ 5 ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป

10/09/2022

6

บทที่ 6 หนุ่มเมืองเบียร์

10/09/2022

7

บทที่ 7 นอนกับผมได้ไหม

10/09/2022

8

บทที่ 8 ค่ำคืนที่เร่าร้อน

10/09/2022

9

บทที่ 9 เธอกำลังทำผิดกฎ

10/09/2022

10

บทที่ 10 คาดหวัง

10/09/2022

11

บทที่ 11 วันนี้เขาก็ไม่มา

13/09/2022

12

บทที่ 12 สิบวันที่เหลืออยู่มาอยู่กับผมได้ไหม

13/09/2022

13

บทที่ 13 ค่ำคืนที่สุขสม

13/09/2022

14

บทที่ 14 ช่วงเวลาเรียนรู้

13/09/2022

15

บทที่ 15 ความรู้สึกที่ยังคงสับสน

13/09/2022

16

บทที่ 16 สองวันก่อนจากลา

13/09/2022

17

บทที่ 17 มีพบก็ต้องมีพราก

13/09/2022

18

บทที่ 18 กลับไปสู่วงจรชีวิตแบบเดิม

13/09/2022

19

บทที่ 19 เรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

13/09/2022

20

บทที่ 20 การมาที่คาดไม่ถึง

13/09/2022

21

บทที่ 21 มาหาเพราะหัวใจเรียกร้อง

13/09/2022

22

บทที่ 22 ความสัมพันธ์เปลี่ยน...อนาคตเปลี่ยน

13/09/2022

23

บทที่ 23 พาแฟนฝรั่งกลับบ้านครั้งแรก

13/09/2022

24

บทที่ 24 ในฐานะของคนรัก

13/09/2022

25

บทที่ 25 สังคมคนบ้านนอก

13/09/2022

26

บทที่ 26 รักทางไกล...หัวใจต้องมั่นคง

13/09/2022

27

บทที่ 27 ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ใจ

13/09/2022

28

บทที่ 28 แฟนหนุ่มสายเปย์

13/09/2022

29

บทที่ 29 ความบังเอิญ

13/09/2022

30

บทที่ 30 วันที่รอคอย

13/09/2022

31

บทที่ 31 แค่ได้ใช้เวลาร่วมกันก็มีความสุข

13/09/2022

32

บทที่ 32 ความโชคดีที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน

13/09/2022

33

บทที่ 33 พยาบาลจำเป็น

13/09/2022

34

บทที่ 34 ก็แค่คนในอดีต

13/09/2022

35

บทที่ 35 ความสุขที่กำลังจะผ่านไป

13/09/2022

36

บทที่ 36 สร้างความทรงจำดีๆก่อนกลับ

13/09/2022

37

บทที่ 37 จากกันอีกครั้ง

13/09/2022

38

บทที่ 38 คิดเองเออเอง

13/09/2022

39

บทที่ 39 เหตุผลที่เขาหายไป

13/09/2022

40

บทที่ 40 ฟ้าหลังฝน

13/09/2022