Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
200.3K
ชม
124
บท

ความผิดที่เธอไม่ได้ก่อกลับต้องมาชดใช้ให้อสูรหนุ่มใจร้ายเช่นเขา ท่ามกลางความร้ายกาจบทรักอันเร่าร้อนที่เขามอบให้กลายเป็นกรงขังเหนี่ยวรั้งหัวใจเธอไว้กับเขาตลอดกาล “เธอคิดว่าความสาวของเธอมันมีค่ากับฉันงั้นเหรอปรางอินท์” ปรางอินท์ผงะห่างโดยอัตโนมัติ คำพูดเหยียดหยามและการดูแคลนในสายตาคมเหมือนกับมีดที่กรีดลึกลงในหัวใจจนย่อยยับ เหลือทิ้งไว้เพียงแผลที่กำลังอักเสบ “จะบอกอะไรให้เอาบุญนะคนสวย ฉันแทบไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ ทุกอย่างมันคือเกมและการแก้แค้นที่หอมหวานว่ามั้ย อย่างน้อยเธอมันก็ยังดีกว่าผู้หญิงขายบริการอยู่หน่อยๆ หึหึ แม่สาวเวอจิ้นเธอคิดว่าจะเอาสิ่งนี้มาทดแทนสิ่งที่พี่เธอทำกับชีวิตพี่ชายของฉันได้รึยังไง” ประโยคท้ายๆ เสียงของชายหนุ่มดังลั่นขึ้นจนกลายเป็นตะคอกเสียงก้องห้อง ตาคมลุกโรจน์ราวกับไฟ “คนสารเลว ไอ้คนชั่วช้าสามานย์” หญิงสาวตะโกนสวนกลับเช่นเดียวกัน เธอกำลังนึกเสียใจทำไมคนดีๆ อย่างภาคิไนยจะต้องมาเจ็บตัว น่าจะเป็นผู้ชายตรงหน้านี่ต่างหากที่น่าจะตายๆ ไปซะ ภาคินเลิกคิ้วสูง เรียวปากเข้มหยักยิ้ม ยิ้มที่คนมองถึงกับเสียงสันหลังวาบด้วยความกลัวจนเผลอถอยหลังออกห่างใบหน้าที่โน้มอยู่ห่างไม่ถึงหนึ่งศอก “อย่าปากเก่งให้มากนัก รู้มั้ยว่าฉันมีวิธีจัดการกับคนปากเก่งยังไงบ้าง รึว่าอยากจะลอง ปรางอินท์ฉันบอกให้ทำอะไรเธอก็ต้องทำ เพราะเธอคือเหยื่อที่ฉันตะครุบมาได้แทนพี่สาวของเธอ” “ไม่ ฉันไม่ทำอะไรทั้งนั้น คอยดูนะมีโอกาสเมื่อไหร่ฉันจะหนีไปจากที่นี่” “ฮ่าๆๆ เอาเลยคนสวย แต่ขอเตือนนิดนะ ที่นี่กว้างเป็นพันไร่ ถ้าคิดว่าจะพ้นสายตาคนงานของฉันไปได้ก็เอา แล้วหนุ่มๆ ที่นี่ล้วนแล้วแต่กลัดมันกันทั้งนั้น มันออกจะห่างไกลความเจริญไปสักหน่อยน่ะนะ นานๆ พวกมันจึงจะได้เข้าเมืองไปหาสาวๆ มากอดแก้หนาวระบายอารมณ์ดิบสักที อ้อ...ที่สำคัญ เมื่อไหร่ที่เธอก้าวพ้นไปจากที่นี่ วันนั้นพี่สาวของเธอจะต้องมาอยู่ที่นี่แทน ไปสิไปเล้ย”

บทที่ 1 Chapter 1

“ศาลขอพิพากษาตัดสินโทษจำเลยโดยให้จำคุกตลอดชีวิตในความผิดฐานฉ้อโกงและเป็นผู้บงการสังหารพยานที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้”

“พ่อ...พ่อขา...พ่อ!!”

เสียงร้องตะโกนด้วยความตกใจ ปลุกให้ นางสาวปรางอินท์ กรกรัณฑ์รัตน์ สะดุ้งตื่น เมื่อเห็นบุคคลที่นอนใกล้ๆ กำลังดิ้นทุรนทุราย หญิงสาวจึงเอื้อมมือไปเขย่า เพื่อปลุกให้ผู้เป็นพี่สาวตื่นจากฝันร้าย

“พี่...พี่ดาว พี่ดาว”

นางสาวดาราวดี กรกรัณฑ์รัตน์ ทะลึ่งตัวจากที่นอนในสภาพที่เหงื่อโทรมกาย เธอยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ผุดพลายบนใบหน้า ก่อนจะซุกหน้ากับสองฝ่ามือ เธอมักจะฝันแบบนี้มาตลอด ตั้งแต่อายุสิบห้า ความฝันและความจริงอันเลวร้ายตามหลอกหลอนเธอไม่จบไม่สิ้นนับแต่วันนั้น วันที่เธอต้องสูญเสียบิดาผู้ให้กำเนิด สังคมกล่าวหาและตัดสินโทษของท่าน ทั้งที่ในความจริงแล้ว นายอาทิตย์ รุ่งรัตน์เกรียงไกร ไม่ได้ทำความผิดอันใดเลยแม้แต่น้อย แต่เนื่องด้วยพยานหลักฐานไม่เพียงพอทำให้พ่อของเธอแพ้คดีและถูกตัดสินโทษ

ดวงตาคู่สวยของหญิงสาววาวโรจน์ขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ พ่อไม่ได้เพียงแพ้คดีแต่ท่านยังถูกฆ่าตายในคุก แล้วปีต่อมาแม่ของพวกเธอ นางดาริกา รุ่งรัตน์เกรียงไกร ก็ตรอมใจตายตามไปอีกคน ดาราวดียังจำได้ดีถึงสีหน้าและแววตาของคนพวกนั้น คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนรักของพ่อ ความเจ็บแค้นอย่างหาที่สุดมิได้ได้ฝังลงในจิตใจของหญิงสาวตั้งแต่วันนั้น คนพวกนั้นจะต้องชดใช้...

“พี่ดาวฝันร้ายอีกแล้ว”

ปรางอินท์พูดเสียงแผ่ว ใบหน้างดงามหากแต่อ่อนวัยกว่าหม่นหมองเลย เธอรู้ดีว่าอะไรที่ทำให้พี่สาวที่น่ารักของเธอต้องเป็นแบบนี้ เหตุการณ์ร้ายๆ เมื่อสิบกว่าปีก่อน

“ยายปราง”

ดาราวดีสวมกอดน้องสาวเพียงคนเดียวที่นั่งข้างๆ บนเตียงนอนด้วยความรักพลางส่งยิ้มเนือยๆ ให้ เสียงทอดถอนหายใจอันหนักหน่วงตามมาด้วยมืออบอุ่นที่ลูบผมสลวยด้วยความรักและห่วงใย

“ปรางอยากให้พี่ดาวลืมเรื่องพวกนี้ไปเสียนะคะ ยังไงซะเรื่องมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว” น้องสาววัยยี่สิบห้าบอกเสียงแผ่ว

“ไม่...ยายปราง คนพวกนั้นมันจะต้องชดใช้ที่ทำกับครอบครัวเราแบบนี้” เสียงหวานแข็งขึ้น เมื่อดวงหน้าคมสวยเงยขึ้นมองสบตากับน้องสาว

“พี่จะไม่ยอมให้คนพวกนั้นมีความสุข ตราบใดที่พวกเขากำลังเหยียบย่ำอยู่บนความทุกข์ของเรา เธอลืมไปแล้วรึไง เราสองคนต้องกลายเป็นเด็กบ้านแตกสาแหรกขาด ขาดพ่อขาดแม่ ไร้ญาติขาดมิตร”

“ปรางไม่เคยลืมค่ะ แต่ความแค้นมันกำลังทำให้พี่ดาวเป็นทุกข์ ปรางสงสารพี่” ปรางอินท์บอกเสียงแผ่ว

“พี่รู้ ปรางไม่ต้องห่วง พี่จะจบเรื่องนี้ในเร็ววันนี่แหละ”

“พี่ดาว...อย่าบอกนะคะว่าพี่ได้ทำมันลงไปแล้ว” ผู้เป็นน้องครางทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ

“ใช่” ดาราวดีตอบเสียงเด็ดเดี่ยว ดวงตาคู่สวยวาวโรจน์ พรุ่งนี้ ภาคิไนย อัศวเรืองยศ จะต้องพังพินาศ ตระกูลอัศวเรืองยศถึงเวลาที่ต้องพบกับการสูญเสียบ้างแล้ว

“พี่ดาว...แล้วพี่ไนยล่ะคะ พี่สองคนรักกันไม่ใช่เหรอ”

“ไม่ ทุกอย่างมันคือการแก้แค้นเท่านั้นปราง ทุกสิ่งที่พี่ทำเพื่อต้องการทำลายพวกมันเท่านั้น” ดาราวดีย้ำชัดเจนหนักแน่น ทว่าภายในใจกำลังแกว่งไกวอย่างรุนแรงเช่นกัน

ปรางอินท์มองแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจด้วยความสงสาร ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกนึกแค้นเคืองคนพวกนั้น แต่ปรางอินท์ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น หญิงสาวปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปกฎแห่งเวรกรรม เพราะเธอได้เห็นแล้วว่าคนที่จมอยู่กับความเจ้าคิดเจ้าแค้น ไฟแค้นนั้นมันก่อให้เกิดความทุกข์และความทรมานแก่ดาราวดีมากมายเพียงไหน

ดาราวดีเมินหน้าไปทางอื่นเพื่อปิดบังดวงตาที่หม่นวูบลงของตนเอง เธอควรที่จะดีอกดีใจ จะต้องไปรู้สึกเสียใจให้คนพวกนั้นทำไม สำหรับภาคิไนยนั้น เธอไม่เถียงไม่แย้งว่าเขาไม่ใช่คนดี เขาดีเยี่ยม ชายหนุ่มคอยดูแลเธอเป็นอย่างดีมาโดยตลอดนับแต่ที่ดาราวดีได้ก้าวเท้าเข้าสู่บริษัทของเขาในฐานะเลขาส่วนตัวของผู้บริหารระดับสูง บริษัทที่ผลิตเพื่อจำหน่ายและส่งออกสินค้าเพื่อสุขภาพ บริษัท พี.เค.เอ็น เนเจอรัล กรุ๊ป จำกัด กำลังเติบโตอย่างเต็มที่ เพราะสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามล้วนได้รับความสนใจจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ นอกเหนือจากนี้พวกเขายังได้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายเครื่องออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอีกด้วย

เรื่องราวมากมายผุดขึ้นมาในความทรงจำ ราวกับหนังเล่นซ้ำ ดาราวดีและปรางอินท์ได้เปลี่ยนนามสกุลหลังจากสิ้นพ่อและแม่ สิ่งเหล่านั้นเพื่อความปลอดภัยของเธอกับน้องสาวนั่นเอง นายภาวิชพ่อของภาคิไนยไม่ยอมรามือง่ายๆ ตลอดเวลาหนึ่งปี พวกเธอกับแม่อยู่กันด้วยความหวาดผวา เพราะนายภาวิชส่งพวกมือปืนมาคอยข่มขู่ตลอด ดาราวดีจึงตัดสินใจพาน้องสาวย้ายไปอยู่ที่อื่นหลังจากมารดาเสียไป จากเงินที่เหลือเก็บเพียงน้อยนิด เธอทั้งสองต้องอดทนเรียนและทำงานไปด้วย กระนั้นปรางอินท์ก็ไม่เคยปริปากบ่นถึงความลำบากนี้ หากเธอยังโชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากนภาผู้เป็นป้า นภานั้นเป็นพี่สาวของบิดา ด้วยที่ว่าคุณป้าของเธอได้จดทะเบียนสมรสกับสามี และเธอเป็นลูกคนละแม่กับบิดาของพวกเธอ จึงไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก เพราะป้านภาใช้นามสกุลแม่ของเธอเอง เมื่อเกิดเรื่องป้านภา และ นาวาผู้เป็นลูกชายจึงแนะนำว่าทั้งสองสาวควรจะเปลี่ยนนามสกุลเสีย ปกปิดว่าตนเองเป็นใครและย้ายไปอยู่ที่ที่คนพวกนี้จะหาไม่เจอ ทั้งเธอและน้องจึงได้เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้

“พี่จองตั๋วเครื่องบินไปนิวซีแลนด์สองใบสำหรับเรา เย็นวันนี้เราจะออกเดินทาง”

“ทำไมคะ” ปรางอินท์อุทานอย่างไม่เข้าใจ มองหน้าพี่สาวอย่างฉงน

ดาราวดียิ้มมุมปาก ร่างงดงามด้วยวัยสาวสะพรั่ง สิบสามปีแห่งการรอคอย วันนี้ดาราวดีในวัยยี่สิบแปด เธอทนและเฝ้ารอ เมื่อทุกอย่างสำเร็จลุล่วงก็ไม่มีความจำเป็นอะไรให้เธอต้องอยู่ที่นี่อีก บวกกับจำนวนเงินที่ถูกโอนเข้าสู่บัญชีของเธอวันก่อนนั้นเป็นจำนวนที่มากเอาการ ขนาดที่ว่าเธอสองคนสามารถไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศได้สบายๆ

“ไม่มีความจำเป็นที่เราต้องอยู่ที่นี่แล้วน่ะสิปราง นอกจากพี่จะทำลายพวกมันได้ พี่ยังได้เงินจากงานคราวนี้อีกมากพอที่จะทำให้เราสองคนสบายไปทั้งชาติ”

“พี่ดาว...แต่ปราง”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ Dakanda

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ