Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
3.9K
ชม
468
บท

เมื่อสามปีก่อน ครอบครัวมัวร์ได้คัดค้านการแต่งงานของชาร์ลสกับไรลีย์ผู้หญิงที่เขารัก และบังคับเขาให้แต่งงานกับสการ์เล็ตต์ แต่ชาร์ลสไม่ได้รักสการ์เล็ตต์ อันที่จริงเขาไม่ชอบหน้าเธอด้วยซ้ำไป ไม่นานหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน สการ์เล็ตต์ก็ได้รับจดหมายตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยที่เธอใฝฝัน ซึ่งทำให้เธอปลื้มปิติเป็นอย่างมาก สามปีต่อมาไรลีย์ป่วยหนัก ชาร์ลส์ตัดสินใจเรียกสการ์เล็ตต์ให้กลับมา และขอหย่ากับเธอเพื่อทำตามความปรารถนาสุดท้ายของไรลีย์ การตัดสินใจอย่างกะทันหันของชาร์ลส์ทำให้สการ์เล็ตต์ปวดใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็เลือกที่จะเซ็นใบหย่า และปล่อยเขาไป ทว่าชาร์ลส์กลับชะลอการหย่า ทำให้สการ์เล็ตต์รู้สึกสับสน และไม่พอใจ ขณะนี้ความลังเลของชาร์ลส์ ทำให้สการ์เล็ตต์ยังไม่ได้รับอิสระ เธอจะหลุดพ้นจากเขาได้หรือไม่? แล้วสุดท้ายชาร์ลส์จะรู้ตัว และสามารถเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองได้หรือไม่?

บทที่ 1 กลับมาเพื่อหย่า

มุมมองสการ์เล็ตต์:

ฉันดูเวลาอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมา นี่ก็ผ่านมาตั้งชั่วโมงครึ่งแล้ว ตั้งแต่ที่ลงจากเครื่องมา จนจำไม่ได้ว่าตัวเองก้มมองดูนาฬิกาไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ก็ไม่เห็น ชาร์ลส์ มัวร์ สามีของฉันเลยแม้แต่เงา เขาไม่ได้มารับฉัน เขาคงจะกำลังอยู่กับแฟนของเขาสินะ ฉันส่ายหัวและลอบยิ้มเศร้า ๆ ให้กับความคิดนั้น ก่อนจะยืนขึ้นแล้วลากทั้งตัวเองและกระเป๋าเดินทางออกมาจากสนามบิน

ฉันแต่งงานกับชาร์ลสเมื่อสามปีก่อน ทว่าหลังจากพวกเราแต่งงานกันไม่นาน ฉันก็ได้รับข่าวดีจากทางมหาวิทยาลัยที่ฉันใฝ่ฝัน ให้ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ หลังจากที่ได้รับการตอบรับ ฉันก็ตอบตกลงที่จะไปเรียนต่อที่นั้นทันที ตลอดสามปีมานี้ ฉันไม่เคยได้เจอหน้าชาร์ลสเลยแม้แต่ครั้งเดียว ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ เขาคงทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับหญิงสาวที่เขารัก คงไม่อยากให้ฉันมาเป็นก้างขวางคอ

ตอนนี้ฉันเรียนจบแล้ว เลยกลับมาบ้าน เพื่อยุติการแต่งงานแต่เพียงในนามของเรา ฉันตัดสินใจแล้วว่า ถึงเวลาที่ตัวเองจะต้องเลิกหวังลม ๆ แล้ง ๆ กับเรื่องที่ไม่มีวันเป็นจริงสักที

ระหว่างที่ฉันอยู่บนรถแท็กซี่ขณะเดินทางกลับบ้าน ฉันก็ได้ส่งข้อความหาชาร์ลส “เรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน”

ไม่นานนัก ฉันก็พาตัวเองมายืนเคว้งอยู่ในเรือนหอที่ว่างเปล่า ก่อนจะนำกระเป๋าวางไว้ที่มุมหนึ่งของบ้าน แล้วเดินตรงเข้าไปยังห้องนั่งเล่น และนั่งรอบนโซฟา กลิ่นอายของบ้านหลังนี้ ราวกับว่าไม่มีใครอาศัยอยู่มาเป็นปีแล้ว ภาพแต่งงานของเรายังคงแขวนค้างอยู่บนผนัง มันทำให้ฉันรู้สึกแย่ และเสียใจในเวลาเดียวกัน

ฉันก้มลงมองไปที่มือถือ ยังไม่มีข้อความใด ๆ ตอบกลับ ฉันเดาว่าบางทีคืนนี้เขาคงจะไม่กลับมา

ฉันได้แต่นั่งรออยู่อย่างนั้น แล้วคิดเรื่องราวต่าง ๆ วนเวียนอยู่ในหัว หลังจากนั้นฉันก็ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาในบ้าน ฉันรีบลุกขึ้นยืนทันที และรู้สึกว่าหัวใจของฉันกำลังเต้นรัวราวกับจะหลุดออกจากอก นี่ฉันยังคิดอะไรกับเขาอยู่อีกเหรอ? ไม่! เลิกคิดอะไรโง่ ๆ แบบนี้ได้แล้ว! ทว่าตอนนี้ฉันได้แต่พยายามที่จะเก็บความรู้สึกนั้นเอาไว้ ฉันกัดฟันแน่น และกุมมือที่กำลังสั่นเทาไว้ และพยายามเตือนตัวเองอีกครั้ง ‘นี่เธอกลับมาเพื่อหย่ากับเขานะคะ’

ลูกบิดหมุนก่อนประตูจะถูกเปิดออก ชาร์ลสเอื้อมมือไปเปิดไฟ เงาที่สูงโปร่งของเขาทอดยาวไปบนทางเดิน เขากำลังเดินย่างเข้ามา เขาอยู่ในชุดสูทสีดำสนิท กับเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดด้านใน สีหน้าของเขาดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับไม่สามารถปกปิดใบหน้าคมเข้มกับโหนกแก้มที่เด่นชัดของเขาได้ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เขายังคงความเย็นชาไม่ต่างจากเดิม ซึ่งฉันสัมผัสได้ แม้จะอยู่ห่างกันหลายเมตร

ยิ่งเขาเดินเข้ามาใกล้ หัวใจของฉันก็ยิ่งเต้นเร็วขึ้น ลมหายของฉันเริ่มสั้นระรัว ฉันไม่เคยลืมความหล่อของเขาได้เลย เขาหล่อขั้นเทพ เสน่ห์ของเขาไม่ว่าใครก็ไม่อาจต้านทานได้

เวลาที่ผ่านไปทำให้เขาดูสุขุมขึ้น ฉันเบือนหน้าหนี เมื่อรู้สึกว่าแก้มของฉันกำลังร้อนผ่าว

เขาเดินตรงมาที่โซฟาก่อนจะนั่งลง ตรงข้ามฉัน

สายตาที่เฉียบคมแต่แฝงไปด้วยความเย็นชาของเขากำลังจ้องมองมาที่ฉัน ฉันพยายามที่จะเชิดหน้ามองเขา ทั้ง ๆ ที่ใจจริงแล้ว ฉันอยากจะหลบสายตาของเขาซะเหลือเกิน ฉันเห็นภาพสะท้อนของฉันในดวงตาสีเข้มของเขา

“กลับมาแล้วเหรอ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ซึ่งนี่คือตัวต้นของเขา ถ้าฉันไม่รู้จักเขามาก่อนฉันคงจะรู้สึกกลัวเป็นแน่

“ค่ะ” ฉันตอบกลับขณะพยายามทำน้ำเสียงให้ราบเรียบเช่นเดียวกัน

“ทนายของผมส่งอีเมลไปให้คุณแล้วเมื่อครู่นี้” ขณะที่ชาร์ลสพูด เขาก็คลายเนกไทของตัวเองออก เผยให้เห็นกล้ามอกของเขาที่เล็ดลอดออกมาจากเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวนั้น

“ค่ะ เดี่ยวฉันเปิดดู” ฉันพยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด

แล้วหยิบมือถือขึ้นมา เปิดไปที่กล่องข้อความในอีเมล ทันใดนั้นก็มีอีเมลเด้งขึ้น โดยหัวข้ออีเมลระบุไว้ว่า ข้อตกลงการหย่า แม้ว่าจะคาดไว้ก่อนอยู่แล้ว ฉันก็ยังรู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดลงมาที่กลางอก ความเจ็บปวดแล่นแปลบเข้ามาในใจ ทว่าฉันกลับรู้สึกขอบคุณ เพราะมันทำให้ฉันตื่นจากเสน่ห์ที่ยัวยวนของชาร์ลส ถึงแม้จะเป็นแค่ระยะสั้น ๆ ก็ตาม

“ได้ เดี๋ยวฉันจะเซ็นให้” ฉันวางมือถือลงก่อนจะหันไปมองว่าที่อดีตสามีของฉัน อีกไม่นาน เขาก็จะไม่ใช่ผู้ชายของฉันอีกต่อไป แท้ที่จริงแล้ว เขาไม่เคยเป็นผู้ชายของฉันเลย ฉันเป็นแค่ภรรยาในนามของเขา และตอนนี้ บทบาทคุณนายมัวร์ที่จอมปลอมกำลังจะจบลง ส่วนชาร์ลส มัวร์ ก็จะออกไปจากชีวิตของฉัน

“คุณไม่อ่านสัญญาดูก่อนเหรอ?”

“ไม่จำเป็นหรอก ฉันเชื่อว่า คุณจะไม่ใจร้ายกับอดีตภรรยาอย่างฉัน” ฉันฝืนยิ้มออกมา “อดีตภรรยา” ฉันจะเป็นอดีตภรรยาของเขาในไม่ช้า แต่ฉันไม่มั่นใจเลยว่า ฉันทำใจกับคำพูดของฉันได้แล้วหรือยัง

“คุณจะได้บ้านที่ถนนการ์ดเนอร์ และอพาร์ตเมนต์ใจกลางเมือง...”

“เมื่อไร?” ฉันแทรกขึ้นในขณะที่ชาร์ลส์ยังไม่ทันจะกล่าวจบ

“อะไร?” เขาขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะจ้องมาที่ฉันด้วยดวามสงสัย

“เราจะเซ็นใบหย่ากันเมื่อไหร่?” ฉันถามออกมาเบา ๆ

“เดี๋ยวผมนัดทนาย” ชาร์ลสตอบโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองฉัน

“ค่ะ แล้วฉันจะรอ”

หลังจากนิ่งเงียบไปชั่วครู่ เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองฉัน

“ริต้าเขาอาการไม่ดีเท่าไหร่ ผมอยากให้ความปรารถนาสุดท้ายของเธอสมหวัง” เขาอธิบายต่อ

ฉันกำหมัดแน่นขณะกลืนน้ำลายลงคอ ‘ทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของเธอสมหวังงั้นเหรอ? ช่างเป็นผู้ชายที่ดีเสียจริง ในขณะที่ฉันต้องเป็นฝ่ายที่เสียสละ คงจะคิดว่าฉันจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสินะ เพราะยังไงฉันมันก็แค่ คุณนายมัวร์ จอมปลอม เป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น’

“ฉันเข้าใจ” ฉันได้แต่พยักหน้า แม้จะไม่เต็มใจมากแค่ไหนก็ตาม

“ถ้าคุณต้องการอะไรอีก ผมจะบอกให้ทนายของผมใส่ลงไปในสัญญา”

“ไม่เป็นไร เอาตามนั้นแหละ” อีกครั้งที่ฉันฝืนยิ้มขึ้นมา

“พรุ่งนี้ไปพบริต้าสักหน่อยนะ” ชาร์ลสลุกขึ้นยืน แล้วเดินตรงมาที่ฉัน

เขาเน้นเสียงหนัก เขาไม่ได้กำลังขอร้องฉัน แต่เขากำลังสั่งฉันอยู่ เขาเห็นฉันเป็นอะไร? ทำไมต้องให้ฉันไปหาผู้หญิงคนนั้นด้วย? หรือเขาแค่ต้องการที่จะตอกย้ำความเจ็บของฉันแค่นั้นเหรอ?

“ทำไมฉันจะต้องไปด้วย?” ฉันเอ่ยถามเขาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

“ผมไม่อยากให้เธอรู้สึกผิด เรื่องที่เราหย่ากัน คุณไปบอกเธอไปว่าคุณมีคนที่คุณรักแล้ว ทำให้เธอมั่นใจว่าการหย่าของเรา ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอเลย” เขาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ก่อนจะจ้องมองมาที่นัยน์ตาของฉัน

“ได้”

ฉันอยากจะปฏิเสธ ทว่าฉันไม่รู้จะปฏิเสธเขายังไง ทุกครั้งที่เขาต้องการอะไร เขาแค่มองตาฉันแล้วพูดกับฉัน ฉันก็ตอบตกลงอย่างขัดไม่ได้ทุกที

“ขอบคุณนะ พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ส่งที่อยู่ให้ฉันก็พอ เดี๋ยวฉันไปเอง”

ชาร์ลสเหลือบมองอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป

เหลือเพียงฉันที่ได้แต่มองเขาค่อย ๆ เดินลับหายไป แล้วจู่ ๆ น้ำตาของฉันก็ไหลออกมา เราปกปิดเรื่องการแต่งงานมาตลอดระยะเวลาสามปี ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ยกเว้นก็แต่ครอบครัว และเพื่อนสนิทเท่านั้น เมื่อไม่กี่เดือนก่อน สื่อได้ลงข่าวเกี่ยวกับการหมั้นหมายของชาร์ลสและริต้า รูปถ่ายของริต้าที่กำลังลองชุดแต่งงานก็ถูกตีพิมพ์และเผยแพร่ไปทั่วอินเทอร์เน็ต ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันเหลือเกิน!

ครั้งหนึ่ง ชาร์ลสเคยมีความสำคัญกับฉันมาก ไม่ว่าเขาจะทำอะไรที่ไหน เขาก็จะอยู่ในสายตาของฉันเสมอ ถึงฉันจะรักเขาข้างเดียว แต่ฉันก็ไม่อยากยอมแพ้ ฉันเชื่อว่าตราบใดที่ฉันยังคงแต่งงานกับเขาอยู่ ก็มีโอกาสที่เขาจะตกหลุมรักฉันได้ และความสัมพันธ์ของเราก็จะกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา ขอให้ฉันได้รักเขา แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

กระทั่งเวลาต่อมาฉันถึงได้รู้ใจตัวเอง ฉันเองก็ต้องการได้รับความรักจากเขาด้วยเช่นกัน ฉันอยากให้เขารักฉันเท่ากับที่ฉันรักเขา

ฉันรอคอยเขามาตลอดสามปีเต็ม แม้ว่าเราจะอยู่ห่างกัน ฉันก็พยายามที่จะแสดงความรักความห่วงใยถึงเขาอยู่เสมอ แต่ฉันกลับไม่เคยได้รับสิ่งใดจากเขากลับเลย จนฉันเริ่มจะยอมรับความจริง ที่แสนจะเจ็บปวดนี้ได้ในที่สุด

แล้วฉันก็ได้เข้าใจ สการ์เล็ตต์ผู้ที่โง่เขลาได้ตายจากไปแล้ว ตอนนี้มีเพียงสการ์เล็ตต์คนใหม่ที่สวมชุดเกราะแน่นหนา จะไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องเสียใจเพราะเขาอีกต่อไป

ฉันเดินขึ้นไปบนห้องพร้อมกระเป๋าเดินทางของตัวเองแล้วจัดเรียงเสื้อผ้า จากนั้นจึงเข้าไปอาบน้ำก่อนจะเปลี่ยนมาสวมชุดนอน ห้องนี้ดูเหมือนไม่มีใครย่างกายเข้ามาเลยนับตั้งแต่ฉันจากไป ไม่มีของยิบย่อยหรือแม้กระทั่งรอยยับบนที่นอน เห็นชัดว่าชาร์ลสไม่เคยใช้มันเลยในช่วงสามปีที่ผ่านมา คงเพราะเขาไปอยู่ที่ไหนสักแห่งกับริต้า

เมื่อคิดเรื่องนี้ขึ้นมา ฉันก็รู้สึกอึกอัดใจ ฉันเดินไปที่ระเบียงเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ แต่กลับต้องแปลกใจ เมื่อเห็นรถของชาร์ลสยังจอดอยู่บนถนน ทำไมเขายังอยู่ที่นี่อีกล่ะ? เขาควรจะรีบไปหาริต้าสุดที่รักของเขาไม่ใช่เหรอ?

ขณะที่ฉันกำลังมองไปที่รถของเขา ทันใดนั้นโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น เป็นสายจากเพื่อนรักของฉัน เทียน่าเอง ฉันกดรับสายในทันที

“ว่าไง เทียน่า!”

“ยัยตัวแสบ! ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ!”

“ขอบใจจ้ะ”

“ฉันยังดูงานอยู่ที่ต่างประเทศอยู่เลย ขอโทษจริง ๆ นะ ที่ไม่ได้ไปรับเธอที่สนามบินวันนี้”

“ไม่เป็นไรหรอก งานต้องมาก่อนสิ”

“เธอกลับมาอยู่ถาวรเลยไหม หรือว่าเธอจะกลับไปอีกรอบ?”

“ฉันคิดว่าฉันจะกลับมาเลยนะ”

“ดีเลย! มาทำงานที่สถานีโทรทัศน์ของเราสิ ฉันว่าเธอเหมาะกับงานนี้มากเลยนะ เธอจบทางด้านสื่อมาด้วย เสียงเธอก็น่าฟังมาก เธอเลิศขนาดนี้ ผู้ชมต้องชอบเธอแน่ ๆ มันเหมาะกับเธอมาก เธอว่าไง?”

“ได้สิ”

“แล้วได้คุยกับชาร์ลสหรือยัง?” เสียงของเทียน่าต่ำลง ราวกับกำลังจะยังเชิง

“อื้ม” ฉันมองไปยังรถของชาร์ลสบนถนนอีกครั้ง

“เขาคุยเรื่องแฟนสาวของเขากับเธอแล้วใช่ไหม?”

“ใช่”

“หน้าด้าน! เขายังกล้าเอามาพูดกับเธออีกนะ?”

“ไม่เป็นไรหรอก เทียน่า เขาขอให้ฉันไปเจอริต้าพรุ่งนี้ แล้วฉันก็ตอบตกลงไป”

“อะไรนะ? เธอตกลงไปเจอคนที่จ้องจะแย่งสามีตัวเองนี่นะ? นี่เธอเสียสติไปแล้วหรือไง สการ์เล็ตต์? ผู้หญิงคนนั้นยั่วชาร์ลส และยุแยงให้เขาหย่ากับเธอ ฉันไม่เข้าใจเธอเลยจริง ๆ ว่าเธอจะไปทำไม ครอบครัวมัวร์ไม่ยอมรับยัยนั้นเมื่อสามปีก่อน อะไรที่ทำให้เธอคิดว่าครอบครัวเขาจะยอมเปลี่ยนใจในตอนนี้?” เทียน่าแทบจะตะโกนออกมาจากปลายสาย

“มันผ่านไปแล้ว ฉันอยากลืมมันไป” ฉันยิ้มอ่อนให้กับตัวเอง

“ผ่านมาแล้วงั้นเหรอ? สการ์เล็ตต์ เธอยังรักเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

ฉันไม่ได้ตอบอะไร ใช่ ฉันยังรักเขาอยู่ และไม่เคยหยุดรักเขาเลย

“สการ์เล็ตต์!” เสียงตะโกนของเทียน่าฉุดฉันให้กลับมาสู่ความเป็นจริง

“ฉันเหนื่อยแล้ว เทียน่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ ฉันโทรหานะ โอเคไหม? ไว้เจอกัน”

ฉันวางสายก่อนที่เทียน่าจะแย้งขึ้น แล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ ชาร์ลสยังจอดรถอยู่ที่เดิม ราวกับว่าเขาจะยังไม่ไปไหนตอนนี้ แล้วฉันจะไปสนใจเขาทำไม?

ทันใดนั้น ฉันก็รู้สึกเหนื่อล้าเหลือเกิน จึงเดินกลับเข้าไปในห้องแล้วคลานขึ้นเตียง ก่อนจะพลิกตัวแหงนมองเพดานรอให้ตัวเองหลับไป ผ่านไปสักพัก ฉันก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น

ฉันขยี้ตาปลุกตัวเองจากความง่วง แล้วเดินลงจากเตียงไปเปิดประตู ก่อนจะพบชาร์ลสยืนอยู่ข้างนอกห้อง

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คลั่งไคล้ใคร่รัก

คลั่งไคล้ใคร่รัก

Xmaniac
4.9

สังคมภายนอกต่างรับรู้กันว่า ดุจตะวันหรือหมอซันเป็นนายแพทย์ เป็นเจ้าของโรงพยาบาล เป็นหนุ่มหล่อ ผู้ดิบผู้ดี ท่าทีสุขุมนุ่มลึก แต่แท้จริงแล้วเขามีด้านมืดซุกซ่อนอยู่ในภายใน เขามี ‘ ห้องขาว ’ อยู่ติดห้องนอน ใช่ เขาชอบสีขาว ชอบทุกอย่างที่ขาวสะอาดรวมไปถึงผู้หญิงด้วย... บ่อยครั้งที่เขาจะซื้อผู้หญิงบริสุทธิ์สะอาดมาไว้รองรับความใคร่ของตัวเองด้วยราคาแพงลิบลิ่ว แน่นอนว่าพวกเธอต้องยินยอมพร้อมใจ ไม่ได้เกิดจากการบังคับแต่อย่างใด การมอบพรหมจรรย์ให้กับผู้ชายที่ทั้งหล่อและหุ่นดีสูสีดารานายแบบ แลกกับเงินทองและความสะดวกสบายนั้น มันช่วยให้ทำใจได้ง่ายขึ้นเยอะ แค่ต้องเป็นนางบำเรอให้จนกว่าเขาจะเบื่อ สิ่งเดียวที่ต้องบังคับตัวเองให้ไม่ทำนอกเหนือไปจากหน้าที่ คืออย่าเผลอไปตกหลุมรักเขาเด็ดขาด เพราะคนอย่างดุจตะวันไม่มีหัวใจ... ตัวอย่างความคลั่งไคล้ของคูมหมอ : “ ดีไหม ” จู่ ๆ เขาก็ถามขึ้นเล่นเอาเธอตกใจ “ อะไรคะ ” “ เอากับฉัน ดีไหม ” ใบหน้าของเธอร้อนวูบ พวงแก้มซับสีเลือดแดงระเรื่อ เธอกัดริมฝีปากอย่างเขิน ๆ แต่กิริยานั้นทำให้เขาเกิดอารมณ์ ริมฝีปากจิ้มลิ้มน้อย ๆ นั่นน่าแทงของใหญ่เข้าไปชะมัด ! *** “ เจ็บมากหรือเปล่า ” ห่วงหนูด้วยเหรอคะ ตอนขอให้เบาไม่เคยเบา ! เด็กสาวแอบคิดในใจ แต่ก็ตอบออกไปสั้น ๆ อย่างสุภาพ “ ค่ะ ” “ ขย่มฉัน ” เธอเงยหน้ามองเขาอย่างตกใจ ถามอย่างไม่เชื่อหู “ อะไรนะคะ ” “ ฉันอยากให้เธอขย่มฉันในน้ำ ” แล้วจะถามทำไมว่าเจ็บหรือเปล่า ?!

รอยรักรอยร้าว

รอยรักรอยร้าว

Del Goodman
5.0

เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
โชคชะตานำพารัก
1

บทที่ 1 กลับมาเพื่อหย่า

28/09/2022

2

บทที่ 2 คืนนี้ผมจะนอนที่นี่

28/09/2022

3

บทที่ 3 ผู้มาเยี่ยมที่ไม่คาดฝัน

28/09/2022

4

บทที่ 4 คนโลภ

28/09/2022

5

บทที่ 5 ดาวเด่นของงาน

28/09/2022

6

บทที่ 6 เสือไร้เขี้ยว

28/09/2022

7

บทที่ 7 ฉันต้องการที่จะย้ายออก

28/09/2022

8

บทที่ 8 สิทธิ์ของสามี

28/09/2022

9

บทที่ 9 รักโดยไม่รู้ตัว

28/09/2022

10

บทที่ 10 ทานมื้อเย็นด้วยกัน

28/09/2022

11

บทที่ 11 ค่าเลี้ยงดู

28/09/2022

12

บทที่ 12 นอนเตียงเดียวกัน

28/09/2022

13

บทที่ 13 ไปเอาทะเบียนสมรส

28/09/2022

14

บทที่ 14 คืนที่นอนไม่หลับ

28/09/2022

15

บทที่ 15 จูบ

28/09/2022

16

บทที่ 16 ปล่อยให้รอ

28/09/2022

17

บทที่ 17 บีบให้ยอมตาม

28/09/2022

18

บทที่ 18 ไข้ขึ้น

28/09/2022

19

บทที่ 19 เรื่องอื้อฉาว

28/09/2022

20

บทที่ 20 การดื่ม

28/09/2022

21

บทที่ 21 หมดสติ

28/09/2022

22

บทที่ 22 แกล้งทำเป็นคบกัน

28/09/2022

23

บทที่ 23 จิตใจระส่ำระส่าย

28/09/2022

24

บทที่ 24 ค้างคืนอีกครั้ง

28/09/2022

25

บทที่ 25 ฉันไม่ได้รักเขา

28/09/2022

26

บทที่ 26 ชุดแต่งงาน

28/09/2022

27

บทที่ 27 อวยพร

28/09/2022

28

บทที่ 28 มึนเมา

28/09/2022

29

บทที่ 29 เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้

28/09/2022

30

บทที่ 30 ราคาค่างวดของฉัน

28/09/2022

31

บทที่ 31 นายมันมีค่ามาก

28/09/2022

32

บทที่ 32 หญิงปากร้าย

28/09/2022

33

บทที่ 33 มันคือนาย

28/09/2022

34

บทที่ 34 ทายา

28/09/2022

35

บทที่ 35 อาการป่วยขั้นวิกฤต

28/09/2022

36

บทที่ 36 คริสตินเป็นลม

28/09/2022

37

บทที่ 37 ผมไม่เซ็น

28/09/2022

38

บทที่ 38 ซื้อดอกไม้

28/09/2022

39

บทที่ 39 ฉันไม่ได้เกลียดเธอ

28/09/2022

40

บทที่ 40 สาดกระเซ็นด้วยสี

28/09/2022