2. เมียหย่ารัก
5. รสรักเสน่หา
6. เขยไม่เอาถ่านกับตำนานลูกเศรษฐี
8. หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี
ผู้เขียน: ซีไซต์
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 บทนำ
เสียงประกาศราชโองการดังลั่นไปทั่วห้องโถง ทุกคนในห้องต่างคุกเข่านั่งเงียบไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยปากแม้แต่เพียงครึ่งคำ คล้ายกับว่าที่นี่คือป่าช้าอันเงียบสงบ
“บุรุษที่อายุเกินกว่าสิบห้าปีประหารชีวิต หากต่ำกว่าสิบห้าปีเนรเทศไปชายแดน สตรีที่อายุเกินกว่าสิบห้าปีให้ปลิดชีพตนเองด้วยการผูกคอ สตรีที่ต่ำกว่าสิบห้าปีให้ลดฐานะและส่งขายในตลาดทาส”
ซูลี่จูไม่มีโอกาสแม้จะพูดคุยต่อหน้าบิดามารดาหลังจากที่ประกาศราชโองการสิ้นสุดลง ด้วยถูกทหารแยกตัวพวกเขาออกจากกันไปโดยพลัน
ซูลี่จูคุกเข่าอ้อนวอน
“ขอโอกาสข้าได้พูดคุยกับบิดามารดาและน้องชายน้องสาวของข้าสักคำเถิดเจ้าค่ะ”
แม้นางจะอ้อนวอนเช่นนั้นทว่าทหารกลับไม่สนใจคำของนางแม้แต่ประโยคเดียว
“หุบปาก ใครก็ได้หาผ้ามาปิดปากนางที”
ซูลี่จูถูกปิดปากสนิท ไม่อาจเอ่ยคำใดได้อีก นางได้ยินเสียงร้องไห้ของน้องทั้งสองคน พวกเขายังเด็กอยู่แท้ ๆ อายุเพียงแปดและสิบขวบเท่านั้นจะทนถูกเนรเทศได้อย่างไร
ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของนางเอง
“ลากตัวนางไปแขวนคอ”
ซูลี่จูนึกถึงความสุขสบายในอดีตที่เป็นเฉกเช่นความฝัน นางเป็นคุณหนูใหญ่สกุลซูที่บิดารักใคร่ที่สุด ไม่ว่าสิ่งใดที่นางต้องการเพียงแค่เอ่ยปากก็ล้วนถูกวางไว้ตรงหน้า นับตั้งแต่ลืมตามีบ่าวไพร่รายล้อมรอบกาย กระทั่งถอดรองเท้านางยังทำไม่เป็นด้วยซ้ำ
ผู้เขียน: Gabie Parpia
เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา “คุณเป็นใคร?” “ฉันเป็นภรรยาของคุณ...” เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง “ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า” ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน“เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!” เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน “ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!”
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 แก้แค้น
ณ ห้องจัดเตรียมงานแต่งงานของโรงแรม
เย่ชิงซีในชุดแต่งงานสีขาว แต่งหน้าอย่างงดงาม กำลังนั่งอ่านเอกสารยินยอมการทำกิ๊ฟท์ และสัญการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ ซึ่งการทำกิ๊ฟจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้
และเจ้าของเชื้ออสุจิก็คือลูกชายคนโตของตระกูลเสิ่น เสิ่นเซียวเหยา ซึ่งเป็นเจ้าบ่าวในงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษนี้
แต่น่าเสียดายที่เจ้าบ่าวประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน และกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เลยไม่สามารถมาร่วมงานแต่งได้
“คุณเย่ ถ้าอ่านเสร็จแล้วกรุณาลงชื่อเร็ว ๆ ด้วยครับ นายท่านกำลังรออยู่” ทนายจางจ้องมองเย่ชิงซีด้วยสีหน้าจริงจัง และนำเสียงก็แฝงไปด้วยการเร่งเร้า
ผู้คนพากันลือว่า เสิ่นเซียวเหยาเป็นเหมือนตะเกียงที่ใกล้จะหมดน้ำมัน จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
ตระกูลเสิ่นเป็นตระกูลมหาเศรษฐีเก่าแก่ ให้ความสำคัญกับทายาทที่จะมาสืบทอดทรัพย์สมบัติของตระกูลเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเสิ่นชางป๋อถึงต้องรีบร้อนไปขอเจ้าสาวให้กับลูกชาย เพื่อจะได้นำเชื้ออสุจิที่เก็บไว้เมื่อนานมาแล้ว มาทำทายาทให้กับเสิ่นเซียวเหยาก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
สีหน้าของเย่ชิงซีดเผือก ใบหน้าเล็ก ๆ ดูตึงเครียด มีความตื่นตระหนกแฝงอยู่ในดวงตามใส ๆ ที่ยากจะสังเกต
“ขอโทษค่ะ ฉันต้องอ่านเอกสารยินยอมนี้อย่างละเอียดก่อนค่ะ คุณออกไปก่อนได้ไหมคะ”
ทนายจางนิ่งเงียบไปหลายวินาที จากนั้นก็พยักหน้า และออกไปจากห้องจัดเตรียมการแต่งงาน
ผู้เขียน: Marijn Mannes
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 สิ่งที่แหกกฎที่สุด
ซงยุ่นยุ่นแต่งงานแล้ว เจ้าบ่าวกลับไม่ได้ปรากฏตัวเลย
ชุดเครื่องนอนสีแดง ตัวอักษรอวยพรที่อยู่บนฝาผนัง สีที่โดดเด่นสะดุดตาเหมือนกับกำลังตบหน้าของเธอทีละฉาด
ความอัปยศอดสู! ไม่พอใจ!
แต่แล้วจะทำยังไงได้
ตั้งแต่เกิดมาชีวิตของเธอก็ล้วนแต่อยู่ในกำมือของคนอื่นมาโดยตลอด รวมถึงการแต่งงานนี้ด้วย
ที่เธอแต่งงานเข้ามาในตระกูลเจียง ก็เป็นเพราะความโลภของพ่อ
ปู่ของเธอเคยเป็นคนขับรถของเฒ่าแก่เจียง จากอุบัติเหตุเหตุการณ์หนึ่ง ทำให้คุณปู่เสียงชีวิตเนื่องจากช่วยชีวิตเฒ่าแก่เจียงไว้
บริษัทเล็ก ๆ ที่ดำเนินการกันเองในครอบครัว ได้แบกหนี้สินก้อนโต้ ใกล้จะล้มละลาย พ่อผู้เฉลียวฉลาดรู้ว่าถ้าเกิดไปขอเงินจากตระกูลเจียง บุญคุณที่ติดค้างไว้ก็จะชดใช้หมด ดังนั้นเขาจึงคิดหาวิธีกอบโกยผลประโยชน์จากคนอื่นขึ้นมา โดยเสนอให้เจียงเย่าจิ่ง หลานชายของเฒ่าแก่เจียงแต่งงานกับเธอ
จากความมั่งคั่งของตระกูลเจียง จะต้องมอบสินสอดก้อนใหญ่ให้อย่างแน่นอน
แล้วก็สามารถได้เป็นทองแผ่นเดียวกันกับตระกูลเจียงด้วย
ตระกูลเจียงเนื่องด้วยรักในศักดิ์ศรีของตัวเอง ก็เลยไม่อาจที่จะปฏิเสธได้
การแต่งงานในครั้งนี้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาก็เลยไม่มาปรากฏตัวในงานเลี้ยงแต่งงานที่จัดขึ้นระหว่างสองตระกูลเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเสนอเงื่อนไขออกมาว่า ห้ามไม่ให้เธอแสดงตัวว่าเป็นภรรยาของเขาในที่สาธารณะอีกด้วย
เรื่องทั้งหมดนี้ ไม่มีใครถามเธอเลยว่าเธอเต็มใจหรือไม่
ผู้เขียน: ซีไซต์
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 วางยา
กลางดึกยามจื่อคืนนี้ครึกครื้นนัก ภายในจวนใหญ่ของอ๋องเจ็ดเต๋อลู่หานผู้ที่กำลังเกิดความต้องการอันบ้าคลั่ง สองมือปลดเปลื้องชุดแต่งงานของสตรีที่ชื่อว่าเป็นพระชายาของตนเองออกโดยแรง กระทั่งชุดแต่งงานขาดออกเป็นชิ้น ๆ กระจายอยู่เต็มพื้น
สตรีนางหนึ่งกลับนอนแน่นิ่ง ปล่อยให้เต๋อลู่หานย่ำยีร่างกายตนเองตามที่เขาปรารถนาโดยไร้อาการต่อต้านอย่างสิ้นเชิง
เมิ่งลี่เฟยมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังจับร่างของตนด้วยอาการหยาบโลนด้วยสายตาอันว่างเปล่าไร้ความรู้สึก
นางได้แต่คิดถึงงานมงคลของตนเองที่เพิ่งจะผ่านพ้น
ช่างเป็นวันมงคลที่น่าอดสูสิ้นดี
สามีเกลียดชัง ไร้การคล้องแขนดื่มสุราอวยพร ไร้ซึ่งการเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวอย่างที่ควรจะเป็น
เสียงของผู้คนภายนอกยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอากาศด้านนอกนั้นจะหนาวจัด แต่ผู้คนยังปักหลักอยู่ในจวน ร่ำสุราฟังเสียงหวานของนักดนตรีผู้งดงามขับกล่อมด้วยความสนุกสนาน
ผ้าสีแดงถูกประดับเต็มอาณาเขต ภายนอกเรือนหอผู้คนเริงสำราญ ทว่าบรรยากาศภายในเรือนนั้นกำลังเดือดพล่านด้วยความร้อนแรงของเต๋ออ๋องที่คล้ายจะคลุ้มคลั่งด้วยความหื่นกระหายจนไม่อาจควบคุม
อ๋องเจ็ดเต๋อลู่หานปลดผ้าคาดเอวของตนเองออกแล้วโยนทิ้งลงข้างเตียงอย่างไม่แยแส มือของเขาสั่นเทา รู้สึกปวดร้าวไปทั่วกายราวกับว่าหากเขามิได้ปลดปล่อยความใคร่ออกไปในยามนี้ เขาคงต้องตายเป็นแน่แท้
สายตาของเต๋อลู่หานเต็มไปด้วยไฟราคะกวาดมองร่างงดงามจนทั่ว พระชายาของเขาผู้นี้มีผิวพรรณขาวผ่องรูปร่างเย้ายวล ใบหน้างดงามประดุจเทพเซียนที่ลงมาจุติจากสวรรค์ ในยามที่เขามองนางด้วยสายตาหื่นกระหายนั้นเมิ่งลี่เฟยกลับไม่ร้อนรนเลยแม้แต่น้อย
ผู้เขียน: อัญญาณี
“ตูม” ร่างของอักษราที่ยังไม่ได้สติ แล้วยังจะถูกมัดมือมัดเท้าและปิดปาก ถูกโยนลงมาจากเรือด้วยมือของเจ้าของเกาะ ลูกน้องทั้งสามมองตากันไปมา อยากจะไปช่วยสาวน้อยผู้น่าสงสารใจจะขาด แต่ถ้าช่วยมีหวังพวกเขาต้องโดนบาทาของเจ้านายแน่นอน อักษรารู้สึกตัวเมื่อร่างกายกระแทกกับผืนน้ำ น้ำเค็มๆ ซึมผ่านเนื้อผ้าเข้ามาในปากและจมูกจนเธอเกิดอาการสำลัก เปลือกตาสาวเปิดขึ้นในเวลาต่อมาแต่ก็ต้องหลับลงอีกครั้ง เพราะน้ำทะเลเข้าไปในดวงตาของเธอจนเกิดความแสบ อักษรารีบทะลึ่งตัวขึ้นเหนือน้ำ โดยไม่รู้ว่าเวลานี้ตนเองตกอยู่ในสภาพอย่างไร “อื้อๆ อื้อๆ” ทันทีที่ขาทั้งสองข้างยืนอยู่บนทรายใต้น้ำ และรู้ว่าตัวเองถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือกทั้งข้อมือและเท้า ปากก็เช่นกันหาได้มีอิสระถูกปิดทับด้วยผ้าผืนใหญ่ “อ๊าย!” ความที่ข้อเท้าเล็กถูกมัดด้วยเชือก ส่งผลให้เธอยืนได้ไม่ถนัดนัก เสียการทรงตัวจนร่างคะมำลงไปในผืนน้ำ แต่เธอก็พยายามยืนขึ้นอีกแต่สุดท้ายก็เป็นเหมือนเดิม อักษราจึงเลือกที่จะนั่งลงบนผืนทรายใต้น้ำที่มีความลึกประมาณครึ่งเมตร อักษรานั่งมองร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำน่าเกรงขาม ใบหน้าของเขามีหนวดเคราขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมกริบมองมายังเธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เขากระโดดลงมาจากเรือเร็วก่อนจะเดินลุยน้ำทะเลมาหาเธอ “ไง ตื่นแล้วเหรอ นึกว่าจะตายเพราะยาสลบซะแล้ว” เสียงห้าวใหญ่พูดขึ้น ในขณะที่มาหยุดยืนเท้าเอวตรงหน้าเธอ อักษราเงยหน้ามองชายหน้าตาน่ากลัวที่จ้องหน้าเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออย่างหวาดกลัว ไม่เข้าใจว่าเขาทำเช่นนี้กับเธอทำไม จะถามก็ไม่ได้เพราะปากถูกปิดด้วยผ้าผืนใหญ่
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 1
1
“ฮือ…ฮือ” เสียงร้องไห้ที่ดังมาทางสายโทรศัพท์เรียกความตกใจให้กับคนที่อยู่ปลายสายเป็นอย่างมาก หัวใจของคนเป็นพี่เหมือนมีใครเอามีดมากรีดเลยก็ว่าได้
“แต้วเป็นอะไร ใครทำแต้วบอกพี่มา พี่จะไปจัดการมัน?” เสียงเหี้ยมเกรียมของนายหัวปุณณ์เอ่ยถาม ใบหน้าคมคร้ามแข็งกระด้างน่ากลัว
“พี่ปุณณ์ มัน มัน…ฮือ”
ปนัดดาพูดได้เพียงเท่านี้ก็ปล่อยโฮยกใหญ่ ส่งผลให้คนที่รอคำตอบถึงกับนั่งไม่ติดพื้น การที่น้องสาวสุดที่รักร้องห่มร้องไห้หนักขนาดนี้ ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ ใจของคนเป็นพี่ยิ่งเจ็บจี๊ดขึ้นหลายเท่า
“มีอะไรแต้ว บอกพี่มา บอกพี่มา?” เขาถามซ้ำๆ หลายรอบ
“พี่ปุณณ์ น้ำหอมมันแย่งแฟนแต้ว ฮือ…มันจะแย่งพี่พีไปจากแต้ว”
น้ำหอม ใครคือน้ำหอม แล้วน้ำหอมคนนี้มาแย่งคนรักของปนัดดาน้องสาวเขาได้อย่างไร ในเมื่อทั้งคู่จะแต่งงานกันในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
“เดี๋ยวก่อนนะแต้ว พี่งงไปหมดแล้ว ใจเย็นๆ แล้วเล่าให้พี่ฟังตั้งแต่ต้นสิว่าคนที่ชื่อน้ำหอมมาแย่งพีไปจากแต้วได้ยังไง”
เสียงพี่ชายถามมาตามสาย ปนัดดาหยุดร้องไห้ หยุดสะอื้น เปิดปากเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ปุณณ์ฟัง
สีหน้าของคนที่ฟังอยู่เข้มขึ้นทีละนิด มือใหญ่กำโทรศัพท์ไร้สายแน่น กรามทั้งสองข้างขบและเสียดสีกันจนเป็นสันนูน ที่แท้คนที่ชื่อน้ำหอมคือผู้หญิงไม่มียางอาย ใช้มารยายั่วยวนว่าที่น้องเขยของเขา จนทำให้พีรวัฒน์ทะเลาะกับปนัดดาบ่อยครั้ง แล้วเป็นที่มาของความเสียใจของน้องสาว
“พี่ปุณณ์ต้องจัดการให้แต้วนะคะ ไม่อย่างนั้นพี่พีต้องทิ้งแต้วไปอยู่กับมันแน่ๆ ค่ะ ฮือ” ปนัดดาเอ่ยบอกพี่ชายหลังจากเล่าทุกอย่างให้อีกฝ่ายฟัง
“พี่จัดการให้แต้วแน่ๆ พี่ไม่ยอมให้ผู้หญิงที่ชื่อน้ำหอมมาแย่งพีไปจากแต้วเด็ดขาด” คนที่รักน้องยิ่งชีพกล่าวเสียงเข้ม ปนัดดายิ้มแก้มแทบฉีก
“จริงๆ นะคะพี่ปุณณ์ พี่ปุณณ์อย่าโกหกแต้วนะคะ”
“พี่เคยโกหกแต้วเหรอ พี่พูดจริงทำจริงแต้วก็รู้”
ใช่ เธอรู้ดีว่าพี่ชายสุดที่รักของตนนั้นพูดจริงทำจริงและเป็นคนจริงมากแค่ไหน ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถปกครองลูกน้องได้เด็ดขาดชนิดที่ไม่เคยมีปัญหาตามมาแม้ว่าลูกน้องส่วนมากจะเป็นพวกที่ผ่านคุกผ่านตะรางมาแล้วหลากหลายโทษทัณฑ์
ผู้เขียน: Sydney Chaplin
ฉันเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเจียงมาสามปี ตลอดระยะเวลาสามปีมานี้ ฉันถูกคนในตระกูลเจียงนี้เรียกใช้อย่างกับขี้ข้า และแสงสว่างเดียวในชีวิตของฉันก็คือเธอ เจียงเชียนหนิง ภรรยาที่รักของฉัน แต่พระเจ้าก็เล่นตลกกับฉันเสียจริงเลย ภรรยาของฉันนอกใจฉัน! เพื่อแก้แค้นที่เธอนอกใจ ฉันจึงตัดสินใจเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของฉันออกมา ฉันคือหลินเทียน ผู้ซึ่งเป็นทายาทของตระกูลที่มีทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์! ในขณะที่ตัวตนของฉันถูกเปิดเผย คนในตระกูลเจียงก็ตกตะลึงกันไปทุกคน! ยิ่งไปกว่านั้น ภรรยาของฉันคุกเข่าขอโทษฉันเพื่อขอให้ฉันให้อภัยเธอ
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ภรรยานอกใจ
ณ แผนกต้อนรับของบริษัท อีสท์เดย์ เดคคอร์เรชั่น เมืองจิ่วเจียง ประเทศอเมริกา
“นี่คือกาแฟที่คุณฟางจืออางสั่งไว้ค่ะ จะให้ไปส่งไว้ที่ไหนดีครับ?”
หลินเทียนถือถุงกระดาษในมืออย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าจะทำกาแฟหกอยู่ด้านใน
ผู้ช่วยหญิงที่แผนกต้อนรับมองพิจารณาหลินเทียนตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็พูดด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยามว่า “ตามฉันมา”
หลินเทียนเดิมเป็นคนขับอูเบอร์ แต่วันนี้เขาได้รับคำสั่งซื้อเดลิเวอรี่โดยไม่คาดคิดพร้อมเงินพิเศษ แล้วก็ยังได้ค่าส่งแบบเร่งด่วนเพิ่มมาอีกสองร้อยดอลลาร์ เขาถึงได้มาที่นี่
หลังจากนั้นไม่นาน หลินเทียนก็เดินตามผู้ช่วยหญิงคนนั้นไปที่ประตูสำนักงาน
ตอนที่หลินเทียนเพิ่งจะวางมือลงบนลูกบิดประตูสำนักงาน เสียงอ่อนเสียงหวานที่ชวนปลุกอารมณ์ของผู้หญิงก็ดังมาจากข้างใน
เสียงนี้ หลินเทียนคุ้นเคยเป็นอย่างมาก มันเหมือนกับเสียงของเจียงเชียนหนิงที่เป็นภรรยาของตัวเองเลย
ไม่หรอก เขาต้องฟังผิดแน่ ๆ
แต่หลินเทียนก็ยังทนไม่ไหวจึงต้องขยับเข้าไปฟังใกล้ ๆ
“อ่าส์...คุณฟาง อย่าทำแบบนี้สิคะ...”
“ให้ผมจูบหน่อยเถอะนะ สามีที่ไม่เอาไหนคนนั้นของคุณคงไม่เคยจูบคุณมาก่อนสิท่า”
เมื่อหลินเทียนได้ยินบทสนทนานี้ เขาก็ตัวแข็งอยู่กับที่ ราวกับถูกฟ้าผ่าลงมาอย่างจัง
ผู้เขียน: Abelard Evans
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 เสียงครางจากในห้อง
ที่สนามกีฬาของมหาวิทยาลัย
มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดกีฬาสีฟ้า ยืนอยู่หน้าประตูสนามกีฬา
มือข้างนึงถือกระสอบ มืออีกข้างสวมถุงมือ กำลังก้มลงหยิบขวดเปล่า โยนลงในกระสอบ
‘ถ้ามีการแข่งบาสทุกวันก็คงจะดี หลังจากจบการแข่งขัน ฉันจะได้เอาขวดพวกนี้ไปขายได้ อย่างน้อย ๆ ก็สองสามร้อย สิ้นเดือนฉันจะได้มีเงินไปซื้อไอโฟนสิบเอ็ดให้หยิงหยิงเป็นของขวัญวันเกิด”
เฉินฝานดูตื่นเต้นมาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบ ๆ เพื่อหาขวดพลาสติก
ขณะเดียวกัน มีนักศึกษาชายตัวสูงกลุ่มนึงเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ละคนถือถังใบเล็ก ๆ ที่มีชุดกีฬาและถุงเท้าเหม็น ๆ เดินเข้ามาหาเฉินฝาน
“เฉินฝาน ชุดของทีมบาสทั้งหมด ถังละห้าสิบ นายเอาไปซักให้ทีสิ”
นักศึกษาชายคนหนึ่งย้อมผมสีแดงในปากคาบบุหรี่ โยนถังลงข้าง ๆ เฉินฝาน
“ทุกคนต่างก็เป็นเด็กใหม่ของทีม อย่าหาว่าฉันกัวเถาไม่ดูแลนายเลยนะ รับไปสิ”
พูดจบ ผู้ชายผมแดงก็โบกมือเพื่อเป็นสัญญาณ คนอื่น ๆ ก็โยนเสื้อผ้า รองเท้า และถุงเท้าที่มีกลิ่นเหม็น ๆ เต็มไปด้วยเหงื่อลงบนพื้น
“นี่เสื้อผ้าและถุงเท้าเหม็น ๆ ที่ฉันให้ลูกทีมเก็บไว้อาทิตย์นึง เพื่อให้นายมีรายได้เลยนะ ลองดมดูสิหอมไหม?”
กัวเถาหยิบถุงเท้าที่มีกลิ่นเหม็นขึ้นมา และโยนใส่เฉินฝาน
เฉินฝานหลบไม่ทัน ทำให้ถุงเท้าตกลงมาบนหน้าของเขา เขาได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวจนแสบจมูก
“ฉัน…”
ขณะที่เฉินฝานกำลังจะโต้กลับ เขาได้แต่กัดฟัน และกลืนคำพวกนั้นลงไป เขาโกรธจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด
ผู้เขียน: Lewie Parenti
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด “ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้” ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 หยุดพล่าม หย่ากันเถอะ
กลางดึก
เซิ่งเกอนอนอย่างกระสับกระส่าย
เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกคนทับอยู่บนตัว จนเธอแทบจะหายใจไม่ออก
ข้างหูยังมีเสียงลมหายใจหนักหอบ
แล้วเธอก็รู้สึกเจ็บแสบที่ด้านล่าง
หลังจากได้สติ เซิ่งเกอก็ลืมตาขึ้นอย่างตกใจ แลเห็นเงาลาง ๆ ของผู้ชายที่อยู่บนตัวเธอ
“หยุนเหนียน ใช่..... คุณไหม?”
ชายคนนั้นส่งเสียง “อื้ม” ขึ้นมาเบา ๆ ในลำคอ บนตัวคละเคลาไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ หลังจากที่เขาจู่โจมรอบแล้วรอบเล่า ก็ไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ อีก
เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เซิ่งเกอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หลังจากนั้นเธอก็ค่อย ๆ ปล่อยตัวไปตามการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย แล้วก็ส่งเสียงครวญครางในลำคอออกมาโดยไม่รู้ตัว
การจู่โจมรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เธอกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด ตัวเธอเหมือนกับจมดิ่งลงไปภายใต้บรรยากาศชวนรักชวนฝัน ราวกับว่าเธอกำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ
หลังจากแต่งงานมาได้สามปี ในที่สุดเฟิงหยุนเหนียนก็ยอมแตะเนื้อต้องตัวเธอสักที!
เนื่องจากเธอเป็นภรรยาที่คุณท่านยัดเยียดให้เขา หลายปีที่ผ่านมานี้เฟิงหยุนเหนียนจึงไม่เคยมองเธอเต็ม ๆ ตาเลย
ครั้งนี้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ที่ทำให้เขาเข้ามาในห้องเธอ
นั้นก็ทำให้เธอก็มีความสุขมาก!
สองชั่วโมงต่อมา เฟิงหยุนเหนียนก็นอนลงบนตัวเธออย่างอ่อนล้าพร้อมกับเสียงครวญคราง แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างเผยให้เห็นรูปร่างที่เพอร์เฟคของเขา
ผู้เขียน: ณัฏฐินี แก้วมณีงาม
“ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ” “โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ” ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร “คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ” ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า “ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?” นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 หนังสือข้อตกลงการหย่า
“ลุงโจว๋คะ นี่ค่ะ หนังสือข้อตกลงการหย่า ฉันเซ็นชื่อเรียบร้อยแล้วค่ะ รบกวนลุงโจว๋ เอาให้โฮว่หลิงเฉินด้วยนะคะ”
เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยที่เหนียนหย่าเสวียน จะตัดสินใจเซ็นชื่อลงในหนังสือข้อตกลงการหย่า ก่อนจะนำมาให้อี้จูน พ่อบ้านประจำตระกูล
อี้จูนอ่านเอกสารดูคร่าว ๆ แต่อ่านได้เพียงแค่สองสามคำก็ถึงกับถอนหายใจออกมา “เฮ้อ หย่าเสวียน! ทำไมคุณถึงได้ซื่อขนาดนี้นะ? ผมเข้าใจ ถ้าคุณต้องการหย่ากับคุณชาย เพราะตลอดระยะเวลาสามปีมานี้คุณก็ไม่เคยเจอคุณชายเลยสักครั้ง แต่ทำไมคุณถึงเลือกที่จะไปตัวเปล่า ไม่เรียกร้องอะไรเลยล่ะ?”
หย่าเสวียนเป็นเพียงนักศึกษามหาวิทยาลัยเท่านั้น พ่อของเธอเสียชีวิตในขณะที่เธอไม่รู้ว่าแม่ของเธอเป็นใคร อี้จูนคิดว่า การที่เธอตัดสินใจหย่า เป็นการตัดสินใจที่ผิด แล้วนี้เธอยังเลือกที่จะไม่เรียกร้องอะไรเลย
หย่าเสวียนเกาหัวอย่างเขิน ๆ อี้จูนดูแลเธอเหมือนเป็นลูกสาวแท้ ๆ ดังนั้นเธอจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องปิดบังอะไรเขา “ฉัน... ฉันอยากลาออกจากมหาวิทยาลัยค่ะ” เธอพูดตะกุกตะกัก
“อะไรนะ? หย่าเสวียน ทำไมจู่ ๆ ถึงอยากลาออกล่ะ? มีอะไรรึป่าว? หรือว่ามีอะไรที่ทำให้เธอลำบากใจ ?” อี้จูนเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ! ลุงโจว๋คิดมากไปได้ ลุงก็รู้อยู่แล้วว่า ฉัน...ไม่ชอบเรียนหนังสือ ฉันแค่ไม่อยากเสียเวลาก็เท่านั้น” เธออธิบาย
แท้ที่จริงแล้ว การลาออกจากมหาวิทยาลัยนั้นเป็นแค่ข้ออ้างที่เธอกุขึ้นมาเท่านั้น เหตุผลที่แท้จริง มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ความคิดหลายอย่างแล่นเข้ามาในหัวของเธอ พรุ่งนี้เป็นวันเกิดอายุยี่สิบเอ็ดปีของเธอ และยังเป็นวันครบรอบวันแต่งงานปีที่สามของเธออีกด้วย
เธออายุเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดปี ถือว่ายังเด็ก เธอไม่อยากเสียเวลา ไปกับการแต่งงานเพียงแค่ในนามอีกต่อไป
เธอไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าสามีของเธอ เพราะงั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกอาลัยอาวรณ์อะไร ตอนแรกที่เธอตัดสินใจแต่งงาน เป็นเพราะความประสงค์ของพ่อเท่านั้น
ผู้เขียน: ซีไซต์
คำโปรย หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ หลัวเซียงเซียง ถูกดูดเข้ามาอยู่ในนิยายจีนโบราณที่ตัวเองกำลังอ่าน ชีวิตในนิยายไม่ได้ง่ายเลยเมื่อต้องมาอยู่ในร่างของนางร้ายที่ใคร ๆ ก็ขนานนามว่าเป็นอสรพิษและสุดท้ายต้องสังเวยชีวิตเพราะความชั่วร้ายของตัวเอง วิธีการเดียวที่จะออกไปจากนิยายเรื่องนี้ได้ก็คือต้องเอาตัวรอดจนกระทั่งบทสุดท้ายในนิยายเรื่องนี้ หลัวเซียงเซียงจึงพยายามแสดงความร้ายกาจออกมาให้เป็นที่รังเกียจที่สุด ทำให้ชื่อเสียงมัวหมอง เพื่อไม่ให้ฝ่าบาทมอบสมรสพระราชทาน ถูกจับเข้าตำหนักฉินอ๋องหลงเฟยเยี่ยเพื่อเอาชีวิตรอดและออกไปจากนิยายน้ำเน่าเรื่องนี้เสียที 'เชิญรักกันตามสบาย นางร้ายอย่างฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด' ชินอ๋องหลงเฟยเยี่ย มีสตรีที่อยู่ในใจ ทว่าฝ่าบาทกลับบังคับฝืนใจให้เขาแต่งกับคุณหนูรองจากจวนแม่ทัพหลัวเพื่อผูกใจของคนผู้นั้นเอาไว้ นิสัยของคุณหนูรองผู้นี้เขาย่อมรู้ดี ต่อหน้าทำเป็นแสนดีลับหลังกลับร้ายกาจ หลอกลวงฝ่าบาทจนพระองค์คิดว่านางคือคนดี จึงทำให้เขาไม่คิดย่างกรายเข้าไปเหยียบตำหนักหวางเฟยของนางโดยเด็ดขาด ทว่าเกิดเรื่องไม่คาดฝันทำให้จำใจต้องใกล้ชิด ทำให้เขาได้รู้ว่าทุกสิ่งที่เขาได้ยินมานั้นและรู้มานั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผิดแผกจากที่เคยรู้ ทำให้หลงเฟยเยี่ยบังเกิดความประหลาดใจ 'แท้จริงแล้วสตรีผู้นี้เป็นคนเช่นไรกันแน่' มู่ลี่เอ๋อร์ ผู้เป็นที่รักของหลงเฟยเยี่ย ในเนื้อหานิยายเรื่องนี้ เดิมนางผู้นี้จะถูกหลัวเซียงเซียงแอบลอบสังหารเพราะเป็นหนามตำใจ ทว่าเรื่องกลับไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว เมื่อหลัวเซียนเซียนผู้เคยร้ายกาจกลับคิดญาติดีกับนาง 'ทำให้มู่ลี่เอ๋อร์งวยงงยิ่งนัก'
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 บทนำ
หลัวเซียงเซียงเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา นอกจากอาการมึนงงสับสนและปวดศีรษะอย่างแรงแล้วเธอยังถูกความจริงตรงหน้าทำให้ตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าตัวเองได้เข้ามาอยู่ในนิยายออนไลน์ที่กำลังอ่านค้างอยู่ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงจนร่างกายถูกทับด้วยแผ่นปูนขนาดใหญ่ที่ถล่มลงมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
ตอนนั้นหลัวเซียงเซียงกำลังนั่งกินบะหมี่รสหมาล่าของโปรดในหอพักนักศึกษาปีสี่ที่มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของปักกิ่ง พร้อมกับนั่งอ่านนิยายอย่างเอาเป็นเอาตาย ยังก่นด่าตัวร้ายที่โง่เง่าวัน ๆ เอาแต่ตามพระเอกจนน่ารำคาญไม่ทันขาดคำตัวเองก็ถูกของแข็งหล่นลงมาทับร่างกายส่วนล่างหลังจากนั้นไม่กี่นาทีที่หลัวเซียงเซียงตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้นเธอก็สติดับวูบไปเสียแล้ว
ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ในที่สุดหลัวเซียงเซียงก็ตื่นขึ้นมา เธอไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดและตอนนี้ยังอยู่ในความมืดมิดกระทั่งหลังมือของตัวเองยังมองไม่เห็น หลัวเซียงเซียงคิดว่าตัวเองอาจจะตายไปแล้ว จนกระทั่งได้ยินเสียงหนึ่งในหัวดังขึ้นมา
'หลัวเซียงเซียงยังอยู่หรือไม่'
ในความมืดมิดนั้นเธอไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงของใครกันแน่ ชีวิตนี้ถึงบุญกุศลไม่ค่อยได้สร้าง แต่ก็ไม่เคยทำร้ายใครนอกจากนินทาดาราไปวัน ๆ ด้วยเรื่องชั่วช้าเล็ก ๆ นี้คงไม่ถึงขนาดให้เธอตกนรกกระมัง
'ฉันอยู่นี่ คุณเป็นใครเหรอ ฉันตายแล้วใช่หรือเปล่า'
ในที่สุดเธอก็ตอบกลับออกไปด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว
'ยัง ยังไม่ถึงเวลาตาย นายท่านต้องการให้เธอเล่นเกมสักเกมก่อน เธอโชคดีมากที่ต่อไปจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง'
'เกมอะไร นายท่านคือใคร แล้วคุณคือใคร ทำไมฉันต้องเล่นเกมด้วย'
เจ้าของน้ำเสียงประหลาดกระแอมเล็กน้อยก่อนจะบอกเธอว่า
'ฉันคือระบบระหว่างจักรวาล มาเป็นไกด์นำทางของเธอ ช่วงนี้นายท่านรู้สึกเบื่อเธอเลยเป็นผู้โชคดีที่ถูกเลือกมาทำให้นายท่านสนุกเสียหน่อย หลัวเซียงเซียงหากเธอสามารถเอาชนะเกมนี้ได้เธอจะมีชีวิตรอดกลับไปเป็นหลัวเซียงเซียงคนเดิม เธอจะได้กลับไปหาเพื่อน กลับไปหาครอบครัวของเธอ แต่หากเธอไม่สามารถพลิกชะตาได้แน่นอนว่าความตายกำลังรอเธออยู่'
2024-03-12
2024-03-12
2024-03-12
2024-03-12
2024-03-12
708
554
96
60
59